รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก-2017

สุดยอดรถยนต์หรู จากค่ายชื่อดังระดับโลก

ความก้าวล้ำทางนวัตกรรมยานยนต์ในยุคปัจจุบันไปไกลกว่าที่เราจะคาดคิดได้ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะเครื่องยนต์ทรงพลัง รูปลักษณ์ที่โดดเด่นโฉบเฉี่ยว เทคโนโลยีที่ทันสมัย บวกกับความหรูหราของวัสดุประกอบ รวมทั้งความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทำให้ค่ายรถยนต์ชื่อดังระดับโลกต่างก็ต้องคิดค้น และผลิตรถยนต์ที่ดีที่สุด ออกมาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า วันนี้ Carro จึงจะพาคุณไปพบกับรถยนต์สุดหรูที่แรงและเร็วสมเป็น 9 อันดับรถยนต์ที่มีราคาที่แพงที่สุดในโลก

 

ferrari-pininfarina-sergio

อันดับ 9 Ferrari Pininfarina Sergio

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,000,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 105 ล้านบาท

Pininfarina Sergio จากประเทศอิตาลี เป็นรถรุ่นพิเศษที่ทางเฟอรร์รารี่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ เซอร์จิโอ พินินฟาริน่า (นักออกแบบของเฟอรร์รารี่ผู้ล่วงลับไปแล้ว) โดยรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,500 ซีซี. ให้พละกำลัง 605 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที เป็นแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง เน้นดีไซต์แนวสปอร์ต โฉบเฉี่ยว และที่สำคัญ รุ่นนี้ผลิตมาแค่ 6 คันเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดได้ถูกจองและจำหน่ายหมดตั้งแต่วันเปิดตัวอีกด้วย

 

bugatti-veyron-by-mansory-vivere

อันดับ 8 Bugatti Veyron by Mansory Vivere

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,400,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 119 ล้านบาท

รถยนต์รุ่นนี้จากประเทศฝรั่งเศษ ตัวรถมีความพิเศษคือ ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานกว่าเหล็กถึง 5 เท่า และมีน้ำหนักเบากว่ามาก มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 16 สูบ 8,000 ซีซี. และมีพละกำลังถึง 1,200 แรงม้า ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 434 กม./ชม. แต่เพื่อความปลอดภัยจึงถูกจำกัดไว้ที่ 415 กม./ชม.

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

 

lykan-hypersport

อันดับ 7 Lykan HyperSport

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,400,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 119 ล้านบาท

ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท W Motor ประเทศเลบานอน ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกและรุ่นเดียวในบริษัท ที่มีการผลิตเพียงแค่ 7 คันเท่านั้น ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังโดดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์ ทวินเทอร์โบ 6 สูบ ขนาด 3.7 ลิตร สามารถให้กำลังอยู่ที่ 522 กิโลวัตต์ และทำความเร็วสูงสุดที่ 385 กม./ชม. นอกจากนี้เจ้ารถคันนี้ยังเคยอยู่ในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Fast and Furious 7 ในฉากที่รถพุ่งข้ามตึก และอยู่บนสมาร์โฟนในรูปแบบของเกมส์ เช่น Asphalt 8: Airborne , GT Racing 2 อีกด้วย

 

mclaren-p1-lm

อันดับ 6 McLaren P1 LM

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,700,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 130 ล้านบาท   

McLaren P1 LM รถยนต์จากค่าย McLaren Automotive สัญชาติอังกฤษ ได้นำรถรุ่น McLaren P1 GTR มาปรับแต่งใหม่ โดยได้เจ้าแห่งการโมดิฟายรถแข่งชื่อดังอย่าง Lanzante มาดีไซน์ให้พิเศษกว่าเดิม โดยเปลี่ยนหลังคาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์, ท่อไอเสียเป็นไทเทเนียมทั้งเส้น, อัพเกรดแอโรพาร์ท เพื่อสร้างแรงกดเพิ่มเติม ทำให้ P1 LM มีแรงกดมากกว่าเดิมถึง 40% นอกจากนี้ยังใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์ดบ 3.8 ลิตร V8+McLaren electric ECU moto ปลั๊กอินไฮบริคสมรรถนะสูง เครื่องยนตร์กลางลำท้าย ขับเครื่อง 2 ล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียงแค่ 2.8 วินาที

 

ferrari-laferrari-aperta

อันดับ 5 Ferrari Laferrari Aperta

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,800,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 133 ล้านบาท

ซุปเปอร์คาร์ไฮบริคที่แรงที่สุดในโลก และเปิดประทุนได้คันแรกของโลกจากค่าย Ferrari ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบบไฮบริค ขุมพละ V12 พละกำลัง 800 แรงม้า ซึ่งทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 163 แรงม้า ทำให้มีพลังกำลังรวมถึง 963 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 900 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 349 กม./ชม. และในปี 2017 ได้ผลิตรุ่นนี้ 150 คันทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดได้ถูกจองหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

aston-martin-am-rb-001

อันดับ 4 Aston Martin AM-RM 001

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,900,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 137 ล้านบาท

ไฮเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษ ที่เป็นการร่วมมือระหว่าง Aston Martin และทีมแข่ง F1 ของ Red Bull เพื่อสร้างรถที่โดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักเบา และมีประสิทธิภาพสูงทั้งบนถนนและสนามแข่ง ซึ่งข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้นระบุว่า ใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบ V12 สูบ 7.0 ลิตร 820 แรงม้า ปราศจากระบบอีดอากาศวางกลางลำ โดยจะมีพละกำลังเท่ากับน้ำหนักตัวรถเพื่อให้ได้อัตราส่วน แรงม้า/น้ำหนัก เท่า 1:1 และทางผู้ผลิตมีแผนวางจำหน่ายในรุ่นมาตราฐาน 99-150 คัน ส่วนในรุ่นพิเศษนั้นจะผลิตเพียง 25 คันเท่านั้น

 

lamborghini-veneno-roadster

อันดับ 3 Lamborghini Veneno Rosdster

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,500,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 160 ล้านบาท

รถยนต์คันนี้มาจากประเทศอิตาลี ซึ่งความโดดเด่นอยู่ที่ Veneno Rosdster ที่แตกต่างกว่าจากคันอื่น โดยมีห้องคนขับเสมือนห้องนักบินที่เปิดโล่ง ให้ความรู้สึกสนุกและเร้าใจในการขับ อีกทั้งโครงสร้างของรถได้ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความแข็งแรง ออกแบบตามหลักแอร์โรไดนิก เพื่อให้เกิดการต้านลมน้อยที่สุด ซึ่งภายในใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร 750 แรงม้า ระบบเกียร์แบบ ISR gearbox 7 สปีด ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 355 กม./ชม. เลยที่เดียว

 

koenigsegg-ccxr-trevita

อันดับ 2 Koenigsegg CCXR Trevita

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,800,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 170 ล้านบาท

“Trevita” ภาษาสเปนแปลว่า “Three whites” ซึ่งหมายถึงจำนวนที่ผลิต คือ 3 คันเท่านั้น โดยได้ใช้เครื่องยนต์ 4.8 ลิตร Twin supercharged DOHCV8 ซึ่งมีพละกำลังที่ 1,018 แรงม้า อีกทั้งเป็นซุปเปอร์คาร์ที่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สามารถเติมเชื้อเพลิง E85 และ E100 ได้ สำหรับความเร็วสูงสุดที่ทำได้มากกว่า 400 กม./ชม. อัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และ 1ใน3คันได้ครอบครองด้วยนักชกคนดังอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์

 

mercedes-benz-maybach-exelero

อันดับ 1 Mercedes-Benz Maybach Exelero

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 8,000,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 280 ล้านบาท

รถยนต์แบรนด์หรูที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Mercedes-Benz ประเทศเยอรมัน ได้มีโครงการพัฒนาที่ค่ายเอ็มเอ็ม โดยร่วมมือกับ Fulda Reifenwerke เพื่อแสดงถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ที่มาพร้อมกัยเรื่องยนต์ตัวแรงอย่าง V12 มีความจุกระบอกสูบ 5,908 ซีซี และขับเคลื่อนด้วยเทอร์โบคู่ ทำให้มีพละกำลังถึง 700 แรงม้า และจากการทดสอบเอ็กเซอเลโรแล้ว สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 351.45 กม./ชม. แต่ยังไม่มีโครงการจะจำหน่ายในเร็วๆนี้ ที่ผลิตออกมาเพื่อจัดแสดงโชว์สินค้าให้กับฟัลดา ที่เทโปโดรม เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอร์มัน เท่านั้น

 

เครดิต : carvariety.com