รถมือสอง, เงินดาวน์, ดาวน์รถ

ใครที่กำลังอยากได้รถยนต์มือสอง คงรู้เรื่องการดาวน์รถมาก่อนบ้างอยู่แล้วแน่ๆ แต่อาจจะยังไม่ได้เข้าใจเรื่องหลักการวางเงินดาวน์ รวมถึงการผ่อนชำระเงินส่วนที่เหลือให้กับไฟแนนซ์อย่างลึกซึ้ง

วันนี้ CARRO จะมาเคลียร์ทุกข้อข้องใจ! เงินดาวน์ต้องเตรียมไว้เท่าไหร่? ดาวน์ต่ำจะออกรถได้ไหม? ฟรีดาวน์มีจริงหรือไม่? อ่านแล้วเคลียร์ทุกปัญหาแน่นอน!

 

Q1: เงินดาวน์คืออะไร? ทำไมต้องดาวน์?

A: เงินดาวน์ ก็คือ เงินสด ส่วนที่คุณต้องชำระเมื่อทำสัญญากู้ยืม โดยมีการตกลงกับไฟแนนซ์ไว้ว่า คุณจะทำการผ่อนชำระส่วนที่เหลือเป็นงวดๆ ตามจำนวนงวดที่ตกลงกับไฟแนนซ์ไว้ เงินดาวน์จะถูกกำหนดไว้เป็นเปอร์เซ็นต์จากราคารถ เช่น 10% 15% หรือ 20% จากราคารถ เป็นต้น

 

Q2: สนใจรถมือสองราคา XXX,XXX ต้องมีเงินดาวน์เท่าไหร่?

A: ปกติแล้ว เงินดาวน์รถทั่วไป (รถตลาด) จะอยู่ที่ประมาณ 10% จากราคารถ แต่จำนวนมาก – น้อยของเงินดาวน์ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงจากมุมมองของไฟแนนซ์ด้วย

รถมือสองประเภทที่ไฟแนนซ์มองว่ามีความเสี่ยงสูงก็ได้แก่ รถที่มีอายุการใช้งานเกิน 7  ปีขึ้นไป รถยุโรปแพงๆ ที่นำเข้ามา รถที่คนเล่นน้อย รถติดแก๊ส ฯลฯ เป็นต้น

ซึ่งพอไฟแนนซ์มองว่ามีความเสี่ยงสูงปุ๊บ สิ่งที่บริษัทหรือสถาบันการเงินที่รับจัดไฟแนนซ์จะทำได้ก็มีอยู่ 2 ทาง คือ 1. ไม่อนุมัติสินเชื่อ หรือ 2. ให้วางเงินดาวน์สูงๆ และกำหนดจำนวนงวดในการผ่อนชำระไว้น้อยๆ (เพื่อจะได้มียอดจัดน้อยๆ และให้ลูกค้าผ่อนให้จบไปไวๆ เพื่อลดความเสี่ยงของไฟแนนซ์นั้นเอง)

เงินดาวน์

Q3: ฟรีดาวน์คืออะไร?

A: หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “ฟรีดาวน์” จากเต้นท์ หรือจากบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์บางแห่งมาก่อน คำว่า “ฟรีดาวน์” ในที่นี้ อธิบายง่ายๆ ก็คือ คุณไม่ต้องวางเงินดาวน์ให้ไฟแนนซ์ เพราะไฟแนนซ์ให้คุณกู้ได้เต็มวงเงิน

นั้นแปลว่า คุณไม่ต้องหาเงินสดไว้ให้ไฟแนนซ์ แต่คุณก็จะมีจำนวนงวด/ยอดผ่อนต่องวดสูงกว่าปกติ และเสียดอกเบี้ยให้ไฟแนนซ์มากกว่า (เงินต้นสูงกว่า/ผ่อนชำระนานกว่า ดอกเบี้ยก็ย่อมแพงกว่า)

ฟรีดาวน์ ถือว่าเป็นโปรโมชั่นที่ดีทีเดียวสำหรับคนที่ไม่พร้อมจ่ายเงินก้อน เพราะในบางกรณี คนซื้อสามารถไปตัวเปล่าแล้วขับรถกลับบ้านได้เลยด้วยซ้ำ แต่ถามว่าทุกกรณีหรือไม่ที่ไฟแนนซ์จะให้กู้เต็มวงเงิน? คำตอบคือ “ไม่” คนที่จะได้ฟรีดาวน์จริงๆ ก็คือคนที่มีประวัติทางการเงินดี และรถคันที่ซื้อก็ต้องไม่ใช่รถที่ไฟแนนซ์มองว่ามีความเสี่ยงสูงดังที่อธิบายไว้ข้างต้นด้วย

Q4: มีเงินดาวน์น้อย / มีเงินเดือนน้อย จะจัดไฟแนนซ์ผ่านไหม?

A: ปกติแล้ว ไฟแนนซ์แต่ละแห่งก็จะมีเรทการวางเงินดาวน์ที่ตั้งไว้เป็นมาตรฐาน แต่ก็จะมีบางกรณีที่ไฟแนนซ์จะยอมอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ที่มีเงินดาวน์ไม่มาก และมีเงินเดือนน้อย เช่น

– ผู้ขอสินเชื่อมีเงินเดือนเป็น 2 เท่าของค่างวด เช่น ค่างวดเดือนละ 10,000 บาท ผู้ขอสินเชื่อมีเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป เป็นต้น
แต่ หากผู้ขอสินเชื่อมีหนี้สินอื่นๆ เช่น ต้องผ่อนบ้านเดือนละ 8,000 ไฟแนนซ์จะเอาภาระการเงินส่วนนี้ไปหักลบเงินเดือนของผู้ขอสินเชื่อด้วย เช่น นาย A เงินเดือน 20,000 ต้องผ่อนบ้านเดือนละ 8,000 เงินเดือนที่แท้จริงของนาย A ก็คือ 12,000 บาท ซึ่งน้อยเกินไปมากๆ สำหรับการจ่ายค่างวดรถมือสองต่อเดือน

– กู้ร่วม การกู้ร่วมเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่มีรายรับต่อเดือนไม่มาก และไม่มีเงินก้อนใหญ่ไปวางดาวน์เยอะๆ
ตัวอย่าง นาย B เงินเดือน 15,000 บาท หากไปขอสินเชื่อรถมือสอง อาจขอได้ยากเพราะไฟแนนซ์มองว่าอาจรับภาระทางการเงินไม่ไหว แต่หากนาย B ยื่นกู้ร่วมกับ นาง D ผู้เป็นภรรยา ซึ่งมีเงินเดือน 20,000 บาท และมีประวัติทางการเงินดี โอกาสที่ไฟแนนซ์จะอนุมัติก็จะสูงขึ้นมาก

เงินดาวน์

Q5: มีรายได้ xx,xxx ต่อเดือนจะผ่อนรถราคา xxx,xxx ได้หรือ

ไม่?

A: นี่คือคำถามคลาสสิกของการจัดไฟแนนซ์เลยทีเดียว การผ่อนได้หรือไม่ได้ (อีกนัยหนึ่งคือไหวหรือไม่ไหว) นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการจัดไฟแนนซ์ผ่าน หรือมีเงินพอสำหรับการวางดาวน์เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณในการรับภาระในการจ่ายค่างวดแต่ละเดือนด้วย เล่าให้ฟังเฉยๆ อาจไม่เห็นภาพ TC จึงขอยกตัวอย่างดังนี้

ตัวอย่าง
นาย A เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง มีรายรับต่อเดือน 20,000 บาท นาย A สนใจอยากซื้อรถ Honda Civic มือสองซึ่งประกาศขายในราคา 500,000 บาท นาย A จึงวางเงินดาวน์ขั้นต่ำคือ 10% และตกลงจัดไฟแนนซ์ในส่วนที่เหลือ (450,000 บาท) เป็นจำนวน 60 งวด (5 ปี) ซึ่งในการขอสินเชื่อจัดไฟแนนซ์ของนาย A ทางบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์คิดดอกเบี้ย 5% ต่อปี

Q6: จะซื้อรถมือสอง ต้องวางดาวน์เท่าไหร่จึงจะดีที่สุด?

A: การวางดาวน์ที่ดีที่สุดก็คือ วางดาวน์ด้วยเงินจำนวนสูงสุดที่จ่ายออกไปแล้วคุณไม่เดือดร้อน

ข้อดีของการวางดาวน์สูงที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ คุณจะขอจัดไฟแนนซ์ได้ง่ายกว่ามาก เพราะคุณจะกลายเป็นลูกค้าที่เครดิตดีในสายตาไฟแนนซ์ และข้อต่อมาที่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างยิ่งก็คือ ยิ่งวางดาวน์มากก็จะยิ่งผ่อนน้อย ยิ่งผ่อนน้อยและผ่อนระยะสั้น ก็จะเสียดอกเบี้ยและ VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) น้อย ดังที่จะเห็นจากการคำนวณค่างวดต่อเดือนข้างต้นไปแล้วว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถมือสองถูกหรือแพงก็คือ ระยะเวลาที่ผ่อน และจำนวนเงินต้นที่ขอกู้ หากสามารถทำให้ 2 ปัจจัยนี้ลดน้อยลงได้ การซื้อรถของคุณก็จะยิ่งคุ้มค่า

จบไปแล้วสำหรับความรู้เรื่องการดาวน์รถมือสอง หากอ่านแล้วมีข้อสงสัย หรืออยากทราบข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เพจ FB: carrothailand หรือที่ Line: carrothailand เลย!

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน