Roojai.com x CARRO | อ่านก่อนเดินทาง! เทคนิค “ขับรถหน้าฝน” อย่างปลอดภัย
เรื่องถนนลื่นคือความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ หากต้อง “ขับรถหน้าฝน” ความปลอดภัยบนท้องถนน จึงกลายเป็นสิ่งที่คุณต้องพึงนึกถึงไว้เสมอตอนที่อยู่หลังพวงมาลัยและมีสายฝนตกบนหน้ากระจกรถคุณ หากผู้ขับขี่มีเทคนิคในการขับขี่ที่ดี เส้นทางฝนตกที่ต้องเผชิญก็ไม่ใช่ปัญหา และสามารถขับไปถึงจุดหมายปลายทางได้โดยสวัสดิภาพ
Roojai.com จะพาคุณไปดูเทคนิค “ขับรถหน้าฝน” อย่างปลอดภัย เราจะแนะนำว่าอะไรบ้างที่ต้องทำ อะไรบ้างที่ต้องเตรียม และ ข้อควรระวัง ขณะขับรถหน้าฝน
“ขับรถหน้าฝน” ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพและปลอดภัยมากกว่าเดิม
อย่าเล่นโทรศัพท์มือถือ
สมาธิคือสิ่งสำคัญในการขับขี่ ด้วยสถานการณ์ที่ฝนตกหนัก ทรรศนะวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน สิ่งรบกวนมีรอบตัวขณะขับขี่ การโฟกัสแต่สิ่งที่อยู่บนถนนข้างหน้าย่อมสำคัญกว่าหน้า Feed บน Facebook ดังนั้น “อย่าหยิบมือถือ” ให้วางมือถือไว้ไม่ต้องเล่น หากต้องขับรถขณะที่ฝนตก เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนในทุกเส้นทางของคุณ
สภาพยางรถยนต์ไม่ไหว ต้องเปลี่ยน
ถ้ายางรถยนต์เสื่อมสภาพแล้วก็จะทำให้ความสามารถในการเกาะถนนลดน้อยลง ยิ่งขับรถหน้าฝน ถนนลื่นยิ่งน่ากลัว ทางที่ดีควรตรวจสอบสภาพยางของรถคุณว่าเก่าไปหรือเปล่า ยังพอใช้งานได้หรือไม่ หรือว่าเนื้อยางไม่ไหวแล้วที่จะเกาะถนนก็ควรเปลี่ยนใหม่ แล้วคุณจะมั่นใจในจังหวะเลี้ยว จังหวะเบรก และทุกจังหวะของการขับขี่ได้มากกว่าเดิม ไม่เฉพาะแต่ตอนถนนเปียกเท่านั้น ตอนถนนแห้งรถก็ขับขี่ได้ดีกว่าเดิมกับยางใหม่
เตรียมยางปัดน้ำฝนให้พร้อม
หงุดหงิดมั้ย? เวลาที่ปัดกระจกหน้ารถแล้วไม่สะอาด ช่วงหน้าฝนยิ่งควรเตรียมใบปัดน้ำฝนให้พร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานที่เต็มร้อย ปัดแล้วสะอาดทันที ไม่ใช่เสื่อมสภาพ ยิ่งปัดยิ่งสกปรกมองไม่เห็น เตรียมพร้อมไว้ถ้าถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน ไม่ใช่จะใช้งานทีก็นึกขึ้นได้ที แบบนี้มีแต่เสี่ยงกับเสี่ยง
ถ้าไม่ไหว ให้จอดข้างทาง
ฝนตกหนัก ๆ บางทีข้างหน้าก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว วางใจไม่ได้ก็หาที่จอดข้างทางดีกว่า ถ้าคุณประเมินแล้วขับต่อไปยิ่งเสี่ยง ข้างหน้ามองไม่เห็น ข้างหลังก็มองยาก ให้หาที่จอดรถข้างทางที่เป็นที่สำหรับจอดปลอดภัยมากที่สุด ที่สำคัญอย่าจอดสุ่มสี่สุ่มห้าหรือจะจอดตรงไหนก็จอด เพราะอาจจะยิ่งอันตรายมากกว่าเดิม คนอื่นมองไม่เห็นแล้วขับมาชนเอาได้
ให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าเดิม
ฝนตกหนักๆ ไม่ควรใช้ความเร็วสูงนั้นถูกต้องแล้ว แต่ที่สำคัญอีกข้อก็คือ ควรเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากกว่าเดิม เผื่อจังหวะไม่คาดฝัน เหยียบเบรกกระทันหัน จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ ห่างสัก 12-15 เมตรได้ยิ่งดี ถ้าอยู่ในเส้นทางที่รถโล่ง เผื่อระยะเบรกไว้สักหน่อย ยังไงก็ปลอดภัยกว่า
ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
“ฝนตกถนนลื่น” คำนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยิน และเมื่อขับรถเร็ว ๆ ต้องเบรกกระทันหันในบางสถานการณ์ สมรรถนะรถจะดีแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ถ้าถนนลื่น ถ้าไม่อยากเสี่ยง อย่าขับรถเร็วเมื่อฝนตก แม้ฝนจะหยุดแล้วแต่ถนนยังลื่นอยู่ก็ไม่ควรขับเร็วมากเกินไป ขับรถหน้าฝน ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. น่าจะปลอดภัยที่สุด
เปิดไฟรถทั้งหน้าและหลัง
เปิดไฟหน้าก็เพื่อให้ทัศนวิสัยในการมองเส้นทางของคุณทำได้ง่ายขึ้น ส่วนไฟท้ายก็เพื่อให้รถคันหลังเห็นรถของคุณได้ง่ายขึ้นเช่นกัน หลายคนถ้าเคยเจอเส้นทางที่ฝนตกหนักจริง ๆ จะรู้ดีว่ามันยากแค่ไหนที่จะมองเห็นรถคันข้างหน้า เพราะฉะนั้นการเปิดไฟรถทั้งหน้าและหลัง ก็จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นและเพิ่มความปลอดภัยบนถนนได้เป็นอย่างดี
เพียงเท่านี้ การขับรถหน้าฝน ก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เตรียมรถให้พร้อม ถ้าคนขับรู้เทคนิคการใช้รถด้วย ยังไงก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ แต่ถึงอย่างไรรถทุกคันควรมีประกันรถยนต์ติดไว้ “ชัวร์” ขึ้นอีกขั้นว่าหากเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ต้องกังวล และที่ Roojai.com ประกันรถออนไลน์ เราก็มีแผนประกันให้คุณเลือกและปรับเปลี่ยนได้เองตามต้องการ ซื้อง่าย ไม่ซับซ้อน ราคาดี และเชื่อใจได้ ต้อง Roojai.com รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า แถมผ่อนเบี้ยสบายกระเป๋านานถึง 10 งวด ไม่ง้อบัตรเครดิต ใช้บัตรเดบิตผ่อนได้อีกด้วย