6-สิ่งต้องมีในรถ-ที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น!

ของที่ต้องมีบนรถ ชีวิตจะดีขึ้น!

เพราะเวลาที่เราต้องใช้ไปบนท้องถนนในแต่ละวันนั้นกินเวลารวมกันแล้วก็หลายชั่วโมง ยิ่งถ้าคุณทำงานในเขตเมืองย่านธุรกิจ และมีบ้านอยู่ชานเมือง หรือเป็นอาชีพที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ เช่น เซลล์ หรือวิศวกรที่ขับไปดูไซต์งาน ระยะเวลาที่อยู่บนรถก็อาจจะนานกว่านั้นมาก จนรถอาจจะกลายเป็นหลังที่ 3 (รองจากที่พักอาศัยจริงๆ และที่ทำงาน) ไปซะแล้ว

ดังนั้น การเตรียมของที่จำเป็นให้พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตอยู่บนรถจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามไป วันนี้ Carro ได้พี่หมี GoBear จะมาบอกว่า “6 สิ่งต้องมีในรถ ที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น!” กันค่ะ

1. เอกสารสำคัญต่างๆ

เอกสารสำคัญบางอย่างก็ควรพกติดรถไว้เสมอนะคะ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เอกสารเหล่านี้จะเป็นสิ่งจำเป็นในการให้ข้อมูลต่อตำรวจ และบริษัทประกันค่ะ

1) เล่มทะเบียน ควรถ่ายเอกสารหน้าเจ้าของรถกับหน้าที่เราทำการต่อภาษีล่าสุดเก็บไว้ ไม่ควรเก็บตัวจริงไว้กับรถเนื่องจากหากรถหายหรือถูกขโมย เล่มทะเบียนก็จะหายไปด้วย หากมีเจ้าหน้าที่ขอดูแล้วเราไม่มีสำเนาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ อาจถูกยึดรถไว้ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ หรือต้องเสียค่าปรับตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 อีกด้วยค่ะ

2) กรมธรรม์ประกันภัย หรือสำเนาการประกันภัยรถยนต์ที่คุณซื้อไว้ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่ว่าเราจะขับไปชนหรือมีอีกฝ่ายมาชนเราก็ตาม นี่คือเอกสารจำเป็นที่ต้องใช้ค่ะ โดยควรเอาเก็บไว้ในที่ๆหาได้ง่ายจะได้หาเจอยามต้องใช้จริงค่ะ

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

3) ใบอนุญาตขับขี่ นี่ก็สำคัญสุดๆ ควรมีติดรถไว้เช่นกันค่ะ บางคนทำกระเป๋าสตางค์หาย หรือลืมพกไปด้วยบ่อยๆ ก็ใช้วิธีใส่ไว้ในรถนี่แหละ เพราะไม่รู็ว่าเราจะเจอด่านตรวจหรือโดนเรียกขอดูเมื่อไหร่ พกไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน

อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมขนส่งทางบก ได้แจ้งว่ากำลังทำแอปพลิเคชั่นใบขับขี่ดิจิตัลเพื่อให้ประชนชนสามารถโหลดมาใช้แทนใบขับขี่ได้ โดยจะผูกเข้ากับเบอร์โทรศัพท์ 1 ใบต่อ 1 เลขหมาย  เตรียมเริ่มใช้งานกลางเดือนมกราคม 2562 นี้ ก็ต้องคอยดูกันต่อไปค่ะ ว่าผลจะเป็นเช่นไร หากใช้งานจริงจะได้ผลดีหรือไม่

 

2. แบตเตอรีสำรองหรือ Power Bank

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถชาร์จมือถือได้จากที่จุดบุหรี่ในรถก็จริง แต่การชาร์จมือถือในรถนั้นก็มีข้อควรระวังอยู่ นั่นคือกระแสไฟที่จ่ายมาอาจไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควร ทำให้เกิดไฟกระชาก ส่งผลเสียทั้งกับแบตเตอรีรถยนต์

ซึ่งอาจทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรีสั้นลง รถสตาร์ทติดยาก และแบตโทรศัพท์มือถือของเราเองด้วย ส่วนช่องเสียบ USB นั้นแทบไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ เพราะกระแสไฟที่จ่ายผ่านทางนี้มีน้อยมาก ถ้าชาร์จโทรศัพท์เครื่องใหญ่หน่อยหรือแท็บเล็ตจะเห็นได้ว่าตัวเลขแบตแทบไม่กระดิกขึ้นมาเลย จึงเหมาะกับการเสียบ USB เพื่อฟังเพลงมากกว่าค่ะ

ดังนั้น การชาร์จจากพาวเวอร์แบงค์ จึงปลอดภัยกว่าแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรวางพาวเวอร์แบงค์ทิ้งไว้ในรถนานๆเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพื่อนๆต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน เพราะอาจเกิดการระเบิดได้ค่ะ

 

3. เงินเหรียญ

การมีเงินเหรียญติดรถไว้ช่วยให้คุณอุ่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ เพราะไม่ว่าจะขึ้นทางด่วน เติมลมยาง ให้ทิปเด็กพนักงานเฝ้าที่จอดรถ ซื้อพวงมาลัยหรือกล้วยแขกกลางสี่แยก หรือแม้กระทั่งล้างรถจากตู้แบบหยอดเหรียญก็ตาม นอกจากเศษเหรียญเหล่านี้แล้ว เพื่อนๆยังอาจพกแบงค์ย่อยๆ อย่างแบงค์ยี่สิบ หรือ ห้าสิบติดรถไว้บ้างก็ดีนะคะ แต่อย่าลืมเอาออกจากรถให้เรียบร้อยเวลาไปใช้บริการคาร์แคร์ล่ะ เดี๋ยวที่เก็บเอาไว้หายหมดจะหาว่าไม่เตือน

 

4. มินต์

ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก “มินต์” เนี่ยแหละ เพราะกลิ่นที่ดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในรถหรือกลิ่นปากก็ตาม คุณอาจพกลูกอมรสมินต์ปราศจากน้ำตาลไว้ในที่เก็บของหน้ารถหากกังวลเรื่องกลิ่นปาก ส่วนในรถที่เรามักจะเอาการบูรแขวนในรถนั้นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะการบูรมีสารที่มีคุณสมบัติในการดูดความชื้น เมื่อระเหิดจะไปเกาะตรงช่องของเครื่องปรับอากาศ พอสะสมมากๆมากเข้าจะทำให้ช่องตัน คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักมากขึ้น อาจถึงขั้นแอร์พังได้ค่ะ ถ้าหากคุณอยากให้อากาศในรถหอมสดชื่นแล้วล่ะก็อาจใช้เป็นน้ำหอมปรับอากาศรถยนต์กลิ่นมิ้นท์แทนได้ค่ะ

 

5. ชุดปฐมพยาบาล และอุปกรณ์ซ่อมรถ

เพราะเหตุฉุกเฉินไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นคุณควรจะมีชุดปฐมพยาบาลติดรถไว้เผื่อในกรณีที่ต้องห้ามเลือก ทำแผล ไปจนถึงชุดยาสามัญประจำบ้านที่สามารถพกไว้ได้ เช่น ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ปวด ยาลดไข้

อย่างไรก็ตามหากเป็นประเภทยาต้องสังเกตด้วยนะคะ ว่าสีและกลิ่นของยามีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ยาบางประเภทต้องเก็บอยู่ในขวดหรือซองสีชาเท่านั้น ไม่เหมาะกับการเก็บในที่ที่มีแดดจ้า โดยเฉพาะหากเราต้องจอดรถจากแดดเป็นกิจวัตร อาจทำให้ยาเสื่อมคุณภาพได้ ควรมีการเอามาตรวจเช็คอยู่เป็นประจำ

นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มของกินอื่นๆที่เราคิดว่าจำเป็น เช่น น้ำเปล่า อาหารแห้งอาหารเพิ่มพลังงาน  ของขบเคี้ยวต่างๆติดไว้ สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะด้วยก็ดีค่ะ

ในส่วนของอุปกรณ์ซ่อมรถนั้น สิ่งของที่จำเป็นต้องมีติดรถไว้ก็มีตั้งแต่ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ไฟฉาย ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง ชุดปั๊มลมและอุดยางรั่วฉุกเฉิน ยางอะไหล่ สลิงหรือเชือกสำหรับลากรถ เป็นต้น

 

6. เพลย์ลิสต์เพลงโปรดของคุณ

เชื่อไหมค่ะว่า เพลง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วนบรรเทาความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี และยังมีประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึงเมื่อฟังขณะขับรถได้อีกด้วย โดยมีงานวิจัยการฟังเพลงขณะขับรถจากมหาวิทยาลัย Groningen มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ระบุว่า อาสาสมัครอายุตั้งแต่ 19-25 ปีจำนวน 47 คน ได้รับคำสั่งให้เลือกเพลงที่จะนำมาฟังขณะขับรถด้วยตนเอง โดยทำการทดลองทั้งสิ้น 3 รอบ รอบแรกขับไปพร้อมกับเปิดเพลงเสียงดัง รอบที่สองเปิดเพลงเสียงดังปานกลาง และรอบสุดท้ายขับรถโดยไม่เปิดเพลงเลย

พบว่า  อาสาสมัครทุกคนเมื่อฟังเพลงขณะขับรถจากเพลย์ลิสต์ที่ตนเลือกเอง (ทั้งป๊อบ ร็อค แจ๊ส คลาสสิค ฯลฯ) จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสภาพถนนไม่ว่าจะขณะที่มีการจราจรคับคั่งในเขตเมืองหรือการขับรถทางไกลได้อย่างรวดเร็วมากกว่ารอบที่ขับรถโดยไม่เปิดเพลง โดยวัดจากอัตราการเต้นต่อหัวใจ ซึ่งเสียงเพลงที่เปิดไว้ขณะขับรถนั้นทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้สมองตื่นตัว ไม่รู้สึกเบื่อ และยังช่วยให้มีสมาธิในการขับรถได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับ 6 สิ่งที่ต้องมีในรถ ที่ทางพี่หมี GoBear แนะนำกันไป มีข้อไหนที่ตรงใจเพื่อนๆบ้างไหมค่ะ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องมีทุกครั้งขณะขับรถก็คือ “สติ” นั่นเอง อย่างไรก็ตาม การทำประกันรถยนต์ไว้ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยให้เราอุ่นใจได้เมื่ออุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก GoBear