รถยอดนิยม รุ่นไหนแพงขึ้น ถูกลง จากภาษี 59 ไปดูกัน | Carro

ปี 2559 ทางรัฐบาลจะทำการ ปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ทั้งระบบ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี  2555

โดยเกณฑ์การจัดเก็บภาษีรถยนต์แบบใหม่ จะพิจารณาจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คือถ้าพูดแบบง่ายๆ ก็คือเครื่องยนต์ยิ่งเล็ก มลพิษยิ่งน้อยยิ่งเก็บภาษีน้อย ขึ้น พอใกล้จะถึงเวลานำมาใช้จริงๆ ในปี 2559 ที่กำลังจะถึงนี้ จึงเป็นที่สนใจของคนที่กำลังมองหาซื้อรถยนต์ใหม่ ป้ายแดง  รถประเภทไหน ที่ราคาคาดว่าจะแพงขึ้น รถรุ่นไหน ควรรอซื้อในปีหน้า เรามาดูกัน ลองไปดูกัน

“ลังเลอยู่ให้ซื้อเลย ไม่แน่ใจรอก่อนได้ ก็รอ”

ถ้าท่านกำลังสนใจรถ ประเภท B-Segment เช่น Toyota ViosHonda CityFord Fiesta รถประเภทนี้หลังจากเริ่มต้นปีหน้าจะเสียภาษี
เพิ่มขึ้นจาก 25% ไปเป็น 30%  แต่มีบางรุ่นรองรับน้ำมัน E85 รัฐบาลจะเก็บภาษีเท่าเดิมที่ 25% อย่างเช่น Honda Jazz เป็นต้น

** ถ้าไม่รีบมากนัก รถระดับนี้อาจขยับประเภทตัวเองไปเป็น  Eco Car หลายๆ รุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างภาษี อาจรอให้รุ่นใหม่ออกมาน่าสนใจกว่า

“Sedan ยอดนิยมน่าจะแพงขึ้น รวมไปถึงตลาด Crossover SUV ที่ร้อนแรง”
ถ้ากำลังมองรถขนาด C-Segment รถประเภทนี้ค่าการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะสูงกว่ากลุ่ม B-Segment
แต่ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 3000 cc. ขนาดเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า บวกขนาดรถตัวถังรถ ทำให้การเผาไหม้มากกว่า ปล่อยก๊าซเสียออกมากกว่า
รถที่รองรับ E85 อยู่ในเกณฑ์ เครื่องยนต์ตั้งแต่ 1780-2000 cc  ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร  จะเสียภาษีจากเดิม 22% เพิ่มเป็น 25%
ถ้าเป็นการปล่อยก๊าซอยู่ในระดับ 151-200  จะเสียเพิ่มที่ 30% แต่ถ้ารถที่ไม่รองรับ E85 การเสียภาษีจะเพิ่มมาเป็น 30% และ 35% ขึ้นอยู่กับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา
รุ่นที่นิยมได้แก่ Toyota AltisHonda CivicMazda3, Nissan Sylphy, Ford Focus
Crossover SUV ที่ตอนนี้ตลาดกำลังร้อนแรง เช่น CX-3,  HR-V ก็อยู่ในกลุ่มที่จะมีราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

** รุ่นที่เป็นกระแส รีบทยอย มาออกปีนี้กันเพื่อให้ผู้สนใจรีบซื้อก่อนราคาอาจจะขึ้น กว่านี้ งั้นรีบซื้อปีนี้เลยจะดีกว่า

”รุ่นใหญ่ก็อาจจะแพงขึ้น”
รุ่นยอดนิยมระดับ D-Segment เครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นขนาดตั้งแต่ 2000 cc เป็นต้นไปอย่าง Honda AccordToyota CamryNissan Teana รวมไปถึง SUV อย่าง CR-V,
CX-5  การปล่อยก๊าซจะเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร
ถ้าเป็นรถที่รองรับ E85 จะเสียภาษีที่ 35% แต่ถ้ารุ่นที่ไม่รองรับต้องเสียภาษีสูงถึง 40%

** ปีหน้าอาจจะราคาแพงขึ้น พอสมควรด้วยขนาดเครื่องยนต์ก็ใหญ่อยู่แล้ว ซื้อปีนี้เลยดีกว่า

“ชอบ Eco Car รอหน่อยปี  59 น่าจะถูกลง”

ต่อไปนี้ใครจะมาบอกว่าขับ eco car เป็นรถราคาถูกๆ ไม่ได้แล้ว เพราะโครงสร้างภาษีใหม่นี้
Eco Car จะแบ่งออกเป็น 2 เฟสโดยเฟสแรก นั้นคือ Eco Car กลุ่มเดิมที่มีวิ่งอยู่ในปัจจุบัน มีเงื่อนไขว่าต้องเครื่องยนต์เบนซินไม่เกิน 1300 cc, ดีเซลไม่เกิน 1400 cc มาตฐาน Euro4 ปล่อยก๊าซ CO2 ไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร รุ่นรถยอดนิยม ในกลุ่มนี้คือ Nissan MarchHonda Brio, Nissan Almera,  Mitsubishi Mirage, Suzuki Swift, Honda Brio Amaze, Mitsubishi Attrage, Toyota Yaris  เป็นต้น โดยรุ่นดังกล่าวนี้ เดิมเสียภาษีที่ 17% แต่ภาษีใหม่นี้จะแบ่งเป็น
– ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 14%
– ปล่อยก๊าซเกิน 100-120 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 17%

แต่เฟสใหม่หรือเรียกว่า เฟส 2 ที่มีข้อกำหนดมาใหม่นี้จะมีมาตฐานสูงขึ้นมาอีกระดับได้แก่  เครื่องยนต์เบนซินไม่เกิน 1300 cc, ดีเซลไม่เกิน 1500 cc มาตฐาน Euro5 ปล่อยก๊าซ CO2 ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร
** ต้องมีมาตฐานความปลอดภัยที่ต้องมีในทุกรุ่นย่อยคือ
– ความปลอดภัยเบคร ABS
– ระบบช่วยการทรงตัว (ESC/ESP/VSC)

ในปัจจุบันรุ่นที่เข้าข่าย Eco Car เฟส 2 ยังมีไม่มาก มีเพียง Mazda2  รุ่นเดียวแต่ยังไม่รองรับ E85
เพราะภาษีใหม่นี้ที่ ต้องเป็นรุ่นที่ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และต้องรองรับน้ำมัน E85 ได้ ถึงจะเสียภาษีเหลือเพียง 12%
แต่ในอนาคต ไม่แน่เราอาจเห็น Yaris หรือ Jazz เครื่อง 1200 cc หรือเครื่อง 1000 cc เติม E85 เพื่อให้รองรับกับโครงสร้างภาษี
และราคาอาจจะถูกลง และมลพิษน้อยลงตามไปด้วย

** ใจเย็นๆ อดใจรอออกปีหน้า ราคารถน่าจะถูกลง และมีตัวเลือกที่มากขึ้น

“รถไฮบริด ถ้ารักโลกจริง ราคารถอาจจะเท่าเดิม”
รถ Hybrid ที่กำลังได้รับนิยม และเริ่มมีรุ่นให้เลือกมากขึ้น และครอบคลุมรถหลายๆ ประเภททั้ง Sedan และ SUV
โดยอัตตราภาษีเดิมอยู่ที่ 10% แต่อัตราภาษีใหม่นี้ จะปรับขึ้นตามค่ามลพิษที่ปล่อยออกมาเป็นขั้นบันไดเลย สูงสุดอยู่ที่ 30%
สำหรับรถไฮบริดที่เครื่องขนาดต่ำกว่า 3000 cc เช่น Camry Hybrid, Accord Hybrid, Civic Hybrid,
Nissan X-trail เป็นต้น แต่ถ้ามากกว่า 3000 cc พวกรถยุโรปที่เครื่งยนต์ใหญ่ คิดอัตราเดียวคือ 50% ถือว่าสูงมาก

** ถ้ากำลังสนรถไฮบริด ซื้อเลยปีนี้ ก่อนปีหน้าราคาจะขึ้นมากพอสมควรแต่ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ ของรถที่ท่านกำลังสนใจด้วย

“รถปิคอัพ ภาษีขึ้นเล็กน้อย ผู้ผลิตเล็งผลิตเครื่องยนต์เล็กลง”
รถปิดอัพโครงสร้างภาษีใหม่ก็ขึ้นเช่นเดียวกัน สำหรับรุ่นที่ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตรทั้งแบบ ไม่มีแค๊ป หรือ กระบะ 4 ประตู
มีเพียงรถปิคอัพแบบมีแค๊บเท่านั้น ที่ภาษีเพิ่มขึ้นมาทั้งประเภทน้อยกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตรและมากกว่า
แต่ว่าภาษีขึ้นมาเพียง 3-5% โดยเฉลี่ย เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรถในประเภทอื่นๆ ทั้ง Toyota Revo, Isuzu D-Max, Mitsubishi TritonFord RangerNissan Np300 เป็นต้น

จากที่โครงสร้างภาษีเปลี่ยนนี้ ตลาดรถปิคอัพอาจเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อน แข่งกันทำรถเครื่องขนาดใหญ่ ปริมาณ cc มากๆ แรงม้าเยอะๆ
แรงบิดมหาศาล แต่ตอนนี้ต้องมาแข่งกันพัฒนาเทคโนโลยี ที่รถเครื่องไม่ต้องใหญ่ แต่ให้แรงม้าที่เพียงพอต่อการใช้งาน และค่ามลพิษ
ต้องอยู่ในมาตฐานเพื่อดึงราคาภาษี อาจส่งผลให้รถราคาถูกลง ผู้ใช้ได้รถเทคโนโลยีสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากที่ล่าสุด Isuzu ค่ายรถปิคอัพยักใหญ่ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ D-Max Ddi Bluepower ที่ใช้เครื่องยนต์เพียง 1900 cc นั่นเอง

** ถ้าลังเล ไม่มั่นใจว่าจะซื้อปิคอัพของยี่ห้อไหนดี รอก่อนก็ได้ เพราะราคาปีหน้าน่าจะขึ้นไม่มาก

“รถเอนกประสงค์ PPV ตลาดร้อนแรง ราคารถก็เช่นกัน”
ตลาดรถเอนกประสงค์ PPV ที่ปีนี้ออกมาแข่งกันหลายเจ้าทั้ง Toyota FortunerMitsubishi Pajero หรือ Ford Everest โดยปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ในรอบหลายปี  ราคาภาษีที่เดิมเก็บ 20% แต่ภาษีใหม่ จะเก็บเป็น 25% ถ้าปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตรและ 30% สำหรับรถที่ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร แต่จากข้อมูลโดยรถ PPV ในตลาดใช้เครื่องยนต์
ที่มีขนาดใหญ่มีผลให้ก๊าซที่ปล่อยออกมาจะเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร หมายความว่ารถ PPV ส่วนใหญ่ในตลาดอาจต้อง
เสียภาษีใหม่นี้ที่ 30% อยู่ดี
** 10% ของราคารถที่จะเพิ่มขึ้นในปีหน้าไม่ใช่น้อยๆ ถ้าสนใจรถประเภทนี้อยู่ ซื้อเลย!! (ในปีนี้นะ)

จากการที่โครงสร้างภาษีนี้เปลี่ยน ในปี 2559 ที่จะถึงนี้ แน่นอน ผู้สนใจรถในหลายๆ รุ่นที่กำลังจะตัดสินใจซื้อยิ่งต้องรีบตัดสินใจมากขึ้น เพื่อไม่ให้ต้องซื้อรถแพงขึ้น

ถ้าไปซื้อในปีหน้า ยิ่งการที่ค่ายผู้ผลิตมีการอัดแคมเปญโปรโมชั่น ลดราคา แถมอุปกรณ์ต่างๆ ของรถมากยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นการกระตุ้น ยั่วใจให้ผู้ซื้อรีบตัดสินใจ