หลายๆ คน อาจมีความจำเป็นที่ต้องมีรถยนต์ไว้ใช้ส่วนตัว ด้วยความจำเป็นหลายๆ อย่าง เช่น ที่อยู่อาศัยไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน ต้องการรถไว้ทำธุรกิจส่วนตัววิ่งขายของ ฯลฯ ซึ่งถ้าต้องซื้อรถใหม่ป้ายแดงเลย อาจจะซื้อไม่ไหว ราคาสูง แต่รถมือสองจะเป็นทางเลือก ทำให้เราได้รถมาใช้ได้เร็วขึ้นในราคาที่เราสามารถซื้อได้
วันนี้จึงอยากจะมาเล่าถึงการซื้อรถมือสอง ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เราต้องรู้ก่อนจะซื้อ เมื่อตัดสินใจจะซื้อแล้วควรจะต้องรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง หากเราไม่ได้ซื้อเงินสด ต้องการกู้บริษัทไฟแนนซ์ต้องทำอย่างไรบ้าง มาลองศึกษารายละเอียดกันนะคะ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อรถมือสอง
- ต้องยอมรับให้ได้ว่า รถมือสองมีโอกาสที่เราจะต้องคอยซ่อมบำรุงบ่อยกว่า แต่หากเราซื้อกับผู้ขายที่น่าเชื่อถือ มีการตรวจสภาพรถจากผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจและสบายใจยิ่งขึ้นว่าข้อมูลประวัติของรถนั้นถูกต้อง
- ควรรู้ข้อมูลทั่วไปของรถที่จะซื้อ เช่น ยี่ห้อรุ่น ปีที่ผลิต ปีที่มีการซื้อขายครั้งแรก เป็นต้น เพื่อให้เราได้เราจะได้ประเมินราคาตลาดของรถที่จะซื้อได้
- ถ้าสามารถรู้ประวัติการใช้งานของรถที่จะซื้อได้ยิ่งดี เช่น วิ่งมาแล้วเป็นระยะทางเท่าไร ใช้บรรทุกของหนักบ่อยไหม เคยเฉี่ยวชนมาบ้างหรือไม่ รถคันนี้เคยทำประกันไหม เป็นต้น
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำสินเชื่อซื้อรถมือสอง
- ภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้น จะอยู่กับเราไปนาน อย่างน้อย 3 ถึง 5 ปี
- วงเงินสินเชื่อที่จะได้รับอนุมัติ อาจจะน้อยกว่าราคาที่เราจะซื้อ เพราะวงเงินสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับ อายุของรถว่าใช้งานมานานแล้วกี่ปี และสภาพรถว่าชำรุดทรุดโทรมแค่ไหน ซึ่งอาจดูได้จาก จำนวนระยะทางที่ใช้งาน สภาพตัวถังภายนอก สภาพตัวถังภายใน และอื่นๆ
- หากเป็นการซื้อจากเจ้าของรถที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องรู้ว่าเจ้าของเดิมยังผ่อนซื้อรถนั้นอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าซื้อจากบริษัทหรือเต็นท์ขายรถที่น่าเชื่อถือ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องนี้
- บริษัทการเงินที่ให้กู้เงินซื้อรถ (บริษัทไฟแนนซ์) นั้นมีมากมาย ควรหาข้อมูลของบริษัทเหล่านั้นให้ถี่ถ้วนชัดเจน เพื่อเราจะได้สามารถเลือกใช้บริษัทที่เราเชื่อมั่นและไว้ใจได้ หรือในระยะยาวจะทำให้เราเสียผลประโยชน์น้อยที่สุด ในกรณีที่เราซื้อรถมือสองจากบริษัทหรือเต็นรถที่ขายรถมือสอง ส่วนมากเขาจะมีรายชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ให้เราเลือกใช้อยู่แล้ว ซึ่งสะดวกดี ไม่ต้องเที่ยวหาข้อมูลและติดต่อขอกู้ด้วยตนเอง
ขั้นตอนการทำสินเชื่อซื้อรถ 2 ขั้นตอน ดังนี้
1.ขั้นเตรียมการ
- เตรียมเอกสาร กรณีที่ผู้ซื้อเป็นบุคคลหรือนิติบุคคล จัดเตรียมเอกสารดังนี้
บุคคลธรรมดา | นิติบุคคล |
บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา | บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนาของบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล |
ทะเบียนบ้านฉบับจริง พร้อมสำเนา | ทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนาของบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล |
สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (ย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน) | รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ของบริษัทย้อนหลัง 6 เดือน |
สำเนาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์, ประจำ, หรือกระแสรายวันย้อนหลัง 6 เดือน | สำเนาทะเบียนการค้า |
แผนที่ตั้งที่อยู่อาศัย | สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนของกระทรวงพาณิชย์ |
แผนที่ที่ทำงาน | หนังสือบริคณห์สนธิ |
- เตรียมเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ทางผู้ขายจะแจ้งให้ทราบว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ต้องเตรียมเพิ่มนอกเหนือจากวงเงินในการทำสินเชื่อ ดังนี้
- เงินค่าจองรถ หรือเงินมัดจำ (ถ้ามี) เพื่อเป็นการยืนยันกับผู้ขายว่าเราซื้อรถคันนี้แน่นอน และผู้ขายจะไม่ขายรถที่เราต้องการจะซื้อคันนี้ให้คนอื่น ในระห่างที่เรารอผลการตรวจสอบเครดิตการขอสินเชื่ออยู่ ซึ่งเงินจองอยู่ที่ประมาณ 5,000–10,000 บาท ขึ้นอยู่กับเต้นท์รถแต่ละที่
- เงินดาวน์รถ สำหรับการกู้ซื้อรถมือสอง ในส่วนของเงินดาวน์อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ซื้อสามารถกู้เงินมาซื้อรถไต้เต็มจำนวนเท่าราคาที่ตกลงซื้อขาย หรือว่ากู้ได้บางส่วน
- เงินค่าธรรมเนียมจัดไฟแนนซ์ เป็นค่าดำเนินการด้านเอกสารหรืออื่นๆ ที่ทางเต้นท์หรือผู้ขายช่วยดำเนินการให้เรา ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ต้องคุยรายละเอียดให้ชัดเจนว่ามีหรือไม่มีอย่างไร ถ้ามีแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้างให้ชัดเจนก่อนที่เราจะทำเรื่องขอกู้เงินซื้อรถ
- เงินค่าใช้จ่ายในการโอนรถ กรมขนส่งได้กำหนดอัตราค่าโอนหรือค่าอากรซื้อขายที่ร้อยละ 0.5 หรือแสนละ 500 บาท จากราคาประเมิน นอกจากนั้นก็จะมีค่าคำขอ 5 บาท ค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพรถยนต์ 50 บาท ในการโอนรถนี้จะเกิดขึ้นสองครั้ง โดยครั้งแรกจะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ขายไปยังบริษัทไฟแนนซ์ ส่วนการโอนครั้งหลังจะเป็นการโอนจากบริษัทไฟแนนซ์ไปยังผู้ซื้อ เมื่อผ่อนชำระเงินกู้ซื้อรถยนต์หมดแล้ว
- เงินค่าประกัน หรืออาจจะมีค่า พ.ร.บ. / ภาษีทะเบียนรถยนต์ ถ้าใกล้หมด ซึ่งโดยปกติไฟแนนซ์จะให้เราทำประกันไว้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เพราะหากไม่มีประกันแล้วเกิดมีอุบัติเหตุขึ้น เราจะต้องรับภาระหนัก เพราะเสียทั้งค่าซ่อมรถ ค่าผ่อนรถ ไหนจะค่าซ่อมรถของคู่กรณีอีก
สิทธิพิเศษ! สำหรับลูกค้า CARRO เบี้ยประกันภัยราคาพิเศษ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.proprakan.com/promotion-carro-car-insurance/
2.ขั้นดำเนินการ
- ยื่นเอกสารการขอสินเชื่อรถ เอกสารต่างๆ ที่เราได้จัดเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนแรกให้กับทางบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อพิจารณาเครดิตอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ประมาณ 1–3 วันทำการ
- เซ็นสัญญากู้เงิน จะทำในตอนยื่นเอกสารขอสินเชื่อรถเลยก็ได้ หรืออาจจะทำหลังจากผ่านการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแล้วก็ได้เช่นกัน
- รับโอนรถ บริษัทไฟแนนซ์จะโทรแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติให้กับผู้ขายทราบ เพื่อให้ผู้ขายโทรนัดให้เรามารับรถและรับเอกสารต่างๆ เช่น สำเนาทะเบียนรถ, เอกสารสัญญาต่างๆ, รายการที่จะต้องปฏิบัติหลังจากเป็นหนี้เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่ต้องทำหลังจากที่ทำสินเชื่อแล้ว
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการผ่อนชำระให้เข้าใจ จะได้ไม่เกิดปัญหาเรื่องการผิดสัญญาผ่อนชำระ
- ศึกษาวิธีการคิดค่าปรับหากมีการผ่อนชำระช้า หรือผิดสัญญาการผ่อนชำระ
- ศึกษาให้เข้าใจว่าเงื่อนไขที่บริษัทไฟแนนซ์สามารถนำมาใช้บังคับยึดรถ มีอะไรบ้าง
- หาเงินจ่ายค่างวดให้ตรงเวลา
ปัจจุบันรถมือสองกลับมาเป็นที่นิยมในหมู่คนใช้รถ เพราะหากเราเลือกรถดีๆ มีแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ คุณภาพรถดี การเลือกซื้อรถมือสองไปใช้งานก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากเซฟเงินไว้นะคะ