ป้ายแดง

เดือนมิถุนายนนี้ เลิกใช้ป้ายแดงอย่างถาวร

สำหรับใครที่คิดจะออกรถใหม่ในเวลาอันใกล้นี้ ควรรู้ไว้ว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ จะมีกฎหมายใหม่ให้ได้ออกมาใช้กัน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยออกมาบังคับห้ามใช้ป้ายแดงอีกต่อไป คาดว่าเสร็จสิ้นก่อนเดือนมิถุนายนนี้ จะกำหนดให้รถยนต์ใหม่ทุกคัน ต้องจดทะเบียนให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ออกมาใช้งานบนท้องถนน

ป้ายแดง

ส่วนในเรื่องของค่าปรับนั้น มีดังนี้

จะใช้มาตรการกวดขันป้ายแดงเข้มข้นขึ้น หากพบว่าใช้ป้ายแดงเกิน 30 วัน ถือว่าใช้รถที่ยังไม่จดทะเบียน ทำให้มีความผิด ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 6 ปรับไม่เกิน 10,000 บาท เนื่องจากป้ายแดงคือแผ่นป้ายที่ออกให้ทดแทนให้รถสามารถใช้งานบนถนนได้ชั่วคราวเท่านั้น !

อีกทั้งหากใช้ป้ายแดงปลอม จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายฐานใช้เอกสารราชการปลอมมีโทษจำคุก 6 เดือน – 5 ปี และปรับสูงสุด 10,000 บาท ซึ่งเริ่มกวดขันมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 60 โดยยืดเวลาจดทะเบียนป้ายแดงไม่เกิน 60 วัน ฝ่าฝืนปรับ10,000 บาท

ถ้าไม่อยากเสียค่าปรับ อย่าลืม !! จดทะเบียนให้เสร็จสิ้นก่อนจะเอามาขับขี่บนท้องถนน หรือถ้าจำเป็นจดวันเดือนปีไว้กันลืมว่าเราเริ่มใช้ป้ายแดงวันไหน จะได้ไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดค่ะ

Cover-New-Car-2018-In-Thailand

รถใหม่หลากหลายรุ่น ทยอยเปิดตัวกันในทุกเดือน ของปี 2561

สวัสดีปีใหม่ 2561 ปีจอ กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดตัวในปีนี้อย่างคับคั่ง เตรียมพร้อมให้ผู้บริโภค ผู้สนใจ ได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่ๆ กัน ส่วนรถคันเดิมของคุณ ที่ต้องการขายแล้ว แต่ไม่รู้จะขายได้ที่ไหน ก็ติดต่อมาที่ Carro Thailand ได้เลยครับ …

Carro คาดการณ์รถใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2561 จะมียี่ห้อใด รุ่นใดบ้าง ติดตามได้ที่นี่ครับ.

Toyota C-HR – มาแน่

Toyota-C-HR

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) นี่ถือว่ามาขายในบ้านเราอย่างแน่นอนแล้ว เพียงแต่ว่ารอเวลาในการเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2561 ครับ โดยมาพร้อมกับโครงสร้างแบบ TNGA (Toyota New Global Architecture) ออกแบบและพัฒนาเพื่อสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และสมบูรณ์แบบทุกการขับเคลื่อนในทุกสภาพถนน พร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ลิตร ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี

โดยในรุ่น 1.8 Entry ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนในรุ่น 1.8 MID และ Hybrid MID ราคา 1,050,000 บาท (+,- ไม่เกิน 20,000 บาท) และในรุ่น Hybrid Hi ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

Toyota Camry

Toyota-Camry

แม้ว่ารถยนต์ 4 ประตู ขนาดกลางในตลาดโลก กำลังเข้าสู่ขาลงด้วยยอดขายที่ร่วงลงไปมาก แต่ Toyota ก็คงเตรียมแผนการเปิดตัว Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) ในไทย ทั้งในรุ่นเครื่องยนนต์เบนซินธรรมดา และรุ่น Hybrid ช่วงประมาณกลางปี หรือปลายปี 2561 นี้ครับ

ส่วนเครื่องยนต์ คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว VVT-ie พ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

Nissan Terra

Nissan-Terra

Nissan เตรียมเปิดตัวรถ SUV 7 ที่นั่ง หลังจากที่มีภาพหลุดว่อนในเน็ตมานาน โดย Nissan Terra (นิสสัน เทอร่า) จะใช้พื้นฐานร่วมกับ Nissan Navara ซึ่งในจีนเตรียมเปิดตัวในกลางปีนี้ และในไทย ก็มีโอกาสได้ผลิตจำหน่ายในปีนี้ด้วย

ด้านขุมพลังนั้น ในเวอร์ชั่นจีนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส QR25 ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า (ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับใน Navara เวอร์ชั่นจีน) มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ส่วนในเวอร์ชั่นไทย คาดว่าเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับใน Navara ครับ

Suzuki Swift – มาแน่

Suzuki-Swift

Suzuki Swift ใหม่ แม้ว่าจะเปิดตัวในญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายปี 2559 แล้ว แต่ในปีนี้ ชาวไทยได้ซื้อหามาใช้แน่นอน เก็บเงินซื้อกันได้เลย (หลังจากที่เห็นรถ Spy-Shot รุ่นนี้ พรางตัวเก็บข้อมูลในไทยนานแล้ว) สำหรับ Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เจนเนอเรชั่นที่ 3 พัฒนาโครงสร้างตัวถังภายใต้ Platform “Heartect” น้ำหนักเบา โครงสร้างตัวถังแข็งแรงมากขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ Dualjet 91 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid และรุ่น Sport ในไทยไม่มาแน่นอนเหมือนเดิมครับ สุดท้ายก็ต้องรอดูกันว่า ซูซูกิ จะตัดสินใจเปิดตัว Swift รุ่นใหม่นี้ตอนไหน อาจจะเป็นช่วงต้นปีนี้ก็เป็นไปได้ครับ

Ford Ranger Raptor – มาแน่

Ford-Ranger-Raptor

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) เตรียมเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้

โดย Ford Ranger Raptor จะมาแทน Ranger Wildtrak ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ขุมพลังอาจเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร Ecoblue แบบ 4 สูบ VG Turbo หรืออาจใช้เครื่องดีเซลขนาด 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตร ที่อยู่ใน Ranger รุ่นปัจจุบัน

Mitsubishi Eclipse Cross

Mitsubishi-Eclipse-Cross

หลังจากที่ Mitsubishi ได้ถูกควบรวมกับ Nissan ก็ดูเหมือนสถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นมาก โดยเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในหลายประเทศ รวมถึงในไทย ซึ่งทาง Mitsubishi จะส่ง Mitsubishi Eclipse Cross (มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอส) รถ SUV Crossover รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เผยโฉมในงาน Geneva Motor Show เมื่อปีที่ผ่านมา เตรียมตัวเปิดตัวในไทยภายในปีนี้

Mitsubishi Xpander

Mitsubishi-Xpander

มิตซูบิชิ เปิดตัวยนตรกรรมชั้นนำระดับโลก Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รถ Crossover MPV ที่ อินโดนีเซีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่ GLX MT, GLS MT, Exceed MT, Exceed AT, Sport AT และ Ultimate AT ซึ่งคาดว่าในปีนี้ ได้พบกับตัวจริงที่ไทยอย่างแน่นอน อาจจะเป็นในช่วงต้นปี หรือกลางปีนี้

Mitsubishi Xpander ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มีให้เลือกเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น

Nissan Note e-Power

Nissan-Note-e-Power

Nissan Note e-Power (นิสสัน โน๊ต อี-เพาเวอร์) รถ Hatchback ขุมพลังไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3008-10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.9 กก.-ม. ที่ 0-3,008 รอบ/นาที คู่กับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งบริเวณใต้เบาะคู่หน้า ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด (ตามมาตรฐาน JC08) ที่ 34 กม./ลิตร

ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยอดเยี่ยม สมรรถนะโดยรวมดีกว่ารถเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาก ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในบ้านเรา ทางนิสสันเคยแจ้งว่า จะนำเข้ามาขายในปีนี้ หากทางภาครัฐอนุมัติแผนเพื่อรับอัตราภาษีใหม่ สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า EV / Hybrid

Nissan Leaf

Nissan-Leaf

“Nissan Leaf” (นิสสัน ลีฟ) รุ่นใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น เพิ่งเปิดตัวและนำมาโชว์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” มีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” พร้อมชูจุดเด่นอย่าง “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ แบบ EM57 ที่ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (PS) (110 กิโลวัตต์) (แรงม้าเพิ่มขึ้น 38% จากรุ่นแรก) ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 0-3,283 รอบ/นาที

เพียงชาร์จ 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ระยะทางมากถึง 400 กิโลเมตร! (ตามการทดสอบตามโหมด JC08 ของประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งทางนิสสันเคยแจ้งว่า จะนำเข้ามาขายในปีนี้ หากทางภาครัฐอนุมัติแผนเพื่อรับอัตราภาษีใหม่ สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า EV / Hybrid แต่ราคาคงอยู่ที่หลักล้านครับ

Honda Accord

Honda-Accord

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) เจนเนอเรชั่นที่ 10 มาพร้อมรูปร่างหน้าตา ที่ฉีกแนวจากเดิมหมด ดีกว่าเดิมทุกด้าน ทั้งระยะฐานล้อ 2,830 มม. (ยาวขึ้น 55 มม.) ความสูง 1,450 มม. (ลดลง 15 มม.) และความกว้างตัวรถ 1,860 มม. (กว้างกว่า 10 มม.) ไฟหน้าแบบ Full LED 9 ดวง ไฟตัดหมอกแบบ LED รวมไปถึงติดตั้งไฟท้าย LED รูปตัว C ภายในเน้นความหรูหรา แฝงอารมณ์สปอร์ต

คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร Turbo 192 แรงม้า หรือเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร Turbo 252 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด คาดว่าเปิดตัวในไทย ประมาณกลางปีนี้

10 รุ่น รถมือสองน่าใช้ โฉมเดียวกับงาน มอเตอร์โชว์ 2016 | Carro

จากที่ทาง CARRO เคยนำเสนอเรื่องรถโฉมเดียวกับงาน Motor Expo 2015 เป็นแนวทางในการช่วยให้ผู้ที่จะซื้อรถ ได้เห็นถึงราคารถมือสองที่ถูกกว่ารถป้ายแดงได้อย่างชัดเจน เป็นแสน!!

มาในตอนนี้กับงานแสดงรถยนต์สุดยิ่งใหญ่ประจำปีใน บางกอก มอเตอร์โชว์ 2016 และก็เหมือนเช่นเคยเราจะนำรถรุ่นที่น่าใช้และโฉมเดียวกับที่แสดงในมาให้ท่านเห็นว่าถ้า ซื้อรถมือสอง จะช่วยประหยัดเงินให้ท่านได้มากแค่ไหน (บางรุ่นต้องบอกว่า เป็นแสน!!)

1. Toyota Vios 

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 389,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 599,000 บาท
รถมือสองประหยัดกว่า 210,000 บาท โตโยต้า วีออส มือสอง

เปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ไปสดๆ ร้อนๆ กับเครื่องยนต์ที่รองรับ E85 ออฟชั่นช่วยในการขับขี่และความปลอดภัย แต่ภายนอกโดยรวมไม่มีได้มีอะไรที่ปลี่ยนแปลงมากนัก รุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยมสำหรับสาวกโตโยต้าเลยก็ว่าได้ รถมือสองในโฉมเดียวกันนี้ก็ใช่ว่าจะขี่เหล่ซะที่ไหน เพียงแต่เครื่องยนต์ ไม่ใหม่เท่า แต่อย่าลืมนะ ว่าเครื่องยนต์ของรุ่นก่อนหน้าทาง Toyota นำมาใช้นานหลายรุ่นแล้วทั้ง Vios และ Yaris รุ่นก่อนจะปรับเป็นเครื่อง 1.2L เพราะฉะนั้นรุ่น Vios มือสองที่เป็นเครื่องยนต์ก่อนรุ่นที่เปิดตัวใหม่นี้อะไหล่มือสองมีมากรองรับแน่นอน อีกทั้งเรื่องราคากับรถป้ายแดง เริ่มต้นที่ 599,000 บาทแต่ในเว็ป Trusteecar.com รถมือสอง Vios โฉมเดียวกันราคาเริ่มต้นเพียง 389,000 บาท

2. Honda City 

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 458,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 559,000 บาท

รถมือสองประหยัดกว่า 101,000 บาท ฮอนด้า ซีตี้มือสอง

City Car จาก Honda ที่คู่แข่งกับ Vios โดยตรงและแน่นอนรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่นิยมจากค่าย Honda อีกเช่นกัน แม้อาจจะไม่ดังเปี้ยงป้างเท่า Honda Jazz แต่ยอดขายไม่ได้เงียบนะจ้ะ กับเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Honda Jazz และโรงสร้างรถมีพื้นฐานเดียวกันแต่ Honda City ได้ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ชอบ City Car แต่อยากได้แบบ Sedan ซึ่งรุ่นนี้เพิ่งมีการ เปิดตัวไปไม่นาน และในงาน motorshow 2016 ปีนี้จึงไม่ได้มีการปรับปรุงเสริมแต่งอะไรกับ Honda City สำหรับคนที่กำลังสนใจรุ่นนี้ลองมองหาเป็น Honda City มือสอง จาก Carro โฉมเดียวกันกับที่แสดงในงาน Motorshow2016 ราคาเริ่มต้นจะถูกกว่า ป้ายแดงเป็นแสน ลองพิจารณาดูรถมือสอง ใช้งานแค่ปีเดียวแต่ประหยัดเงินเป็นแสน น่าสนใจมาก

3. Toyota Altis

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 639,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 769,000 บาท

รถมือสองประหยัดกว่า 130,000 บาท โตโยต้า อัลติส มือสอง

อัลติส เจ้าตลาดรถ Sedan ขนาดกลางเมืองไทย รวมไปถึง (Taxi) ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อไม่นาน ดีไซน์การออกแบบต้องยอมรับว่าสวยมากในอัลติสรุ่นนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าคู่แข่งอย่าง Honda Civic แต่อย่างใด ฟังก์ชั่นการทำงานที่อำนวยความสะดวกและมีความทันสมัยครบครัน รถ Toyota Altis มือสองในตลาดสำหรับโฉมปัจจุบันมีให้เลือกหลายคัน และราคาก็ถูกกว่ารถป้ายแดงมาก หลายแสนบาทเลย  ยิ่งเมื่อมีการเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ ทำให้รถมือสองราคายิ่งตกลงมา อีกทั้งส่งผลดีกับผู้ที่กำลังมองรหารถรุ่นที่ ที่รับรองว่า คุ้มค่าทั้งดีไซน์สวย อะไหล่หาง่าย (มาก) และราคาไม่แพง

4. Mazda 3

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 719,000บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 838,000 บาท
รถมือสองประหยัดกว่า 119,000 บาท มาสด้า 3 มือสอง

รถ ซีดาน ขนาด C-Segment ที่ยอดขายก็ไม่น้อยหน้าเจ้าตลาดอย่าง Toyota Altis และ Honda Civic ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยตามแบบฉบับ “kodo” concept ที่มาสด้าตั้งใจนำมาเป็นรูปแบบการออกแบบของรถในทุกรุ่นของมาสด้า ภายในการออกแบบและเทคโนโลยีที่ให้มากับรถต้องยอมรับเลยว่าไม่น้อยหน้ารถจากฝั่งยุโรปเจ้าอื่นๆ เลยนั่นคือเหตุผลว่าทำไมมาสด้า 3 จึงเป็นรถที่ขายดีในรถประเภทนี้ ถ้ามองในตลาดรถมือสอง ส่วนของรถมือสองของโฉมปัจจุบันที่มีจำหน่ายอยู่นี้ มีให้เลือกหลายราคาแต่สำคัญที่สุดคือราคานั้นจะถูกกว่า “หลักแสน” และสภาพรถค่อนข้างใหม่มากไม่ต่างกับรถป้ายแดงเลย เชื่อว่าการซื้อ Mazda 3 โฉมปัจจุบันมือสองจะเป็นทางเลือกที่ดีและคุ้มค่า

5. Toyota Camry

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 695,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 1,319,000 บาท

รถมือสองประหยัดกว่า ** 624,000 บาท  โตโยต้า คัมรี่ มือสอง

ประหยัดไปครึ่งล้านกับรถมือสอง Toyota Camry โฉมปัจจุบัน ทำไมจะไม่น่าเลือกซื้อกับรถขนาด D-Segment อันดับต้นๆ ของเมืองไทยจาก Toyota โดยรถที่เป็น Sedan ขนาดใหญ่ในตลาดรถเมืองไทยแค่ชื่อ Camry ก็ต้องรู้แล้วถึงเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ( เท่าที่โตโยต้ามีและให้ได้ ) จะนำมาใส่ในรถรุ่นนี้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์แบบ Hybrid เป็นทางเลือกอีก 1 ทางที่เริ่มจะเป็นที่ยอมรับแก่ผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ และถ้ามองหา Camry  แบบรถมือสองโฉมเดียวกับที่มีขายในงานมอเตอร์โชว์ มีให้เลือกมากทั้งในแบบเครื่องยนต์ปกติและ Hybrid ซึ่งราคาเริ่มต้นของมือสองต่างกับราคาเริ่มต้นป้ายแดงกว่า “ครึ่งล้าน” แล้วทำไม Toyota Camry มือสอง จะไม่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่สนใจในรถ Sedan ขนาดใหญ่นี้

6. Honda Accord 

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 890,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 1,385,000 บาท
รถมือสองประหยัดกว่า  ** 495,000 บาท  ฮอนด้า แอคคอร์ด มือสอง

ในงาน มอเตอร์โชว์ 2016 ที่จะถึงนี้ Honda Accord มีการนำตัวไมเนอร์เชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวมาจำหน่ายซึ่งมีเพียงออฟชั่นเสริมในด้านต่างๆ เท่านั้น กับไฟหน้าที่มี Daytime Running Light (ซึ่งรุ่นเก่าสามารถซื้อมาใส่เพิ่มได้) ในตลาดรถ Sedan ขนาด D-Segment Honda Accord ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Toyota Camry แต่ Accord จะมีจุดเด่นที่มีออฟชั่นการใช้งานต่างๆ ที่ให้มาแบบได้น้ำได้เนื้อกว่าคู่แข่งรถ Honda Accord มือสองโฉมเดียวกับมอเตอร์โชว 2016 นี้มีให้เลือกมากในตลาดรถมือสอง และราคาเริ่มต้นถูกกว่าป้ายแดงเกือบครึ่งล้าน Honda Accord มือสองจึงเป็นทางเลือกของรถซีดานที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง

. Isuzu D-Max

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 365,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 526,000 บาท
รถมือสองประหยัดกว่า ** 161,000 บาท อีซูซุ ดี-แม็คซ์ มือสอง

Isuzu D-Max โฉมปัจจุบันเปิดตัวมานานพอสมควรแต่ด้วยมีการปรับแต่ง ไมเนอร์เชนจ์หลายรอบทำให้ D-Max ยังดูไม่เก่าเลย และยิ่งล่าสุด Isuzu เปิดตัวเครื่องยนต์ 1.9L ขนาดเล็กมาใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่อาจจะยังไม่ถูกใจคนที่ชอบรถกระบะเครื่องใหญ่ๆ มากนัก แต่ Isuzu D-Max มือสองเครื่องยนต์ ขนาด 2.5L, 3.0L ยังมีให้เลือกในตลาดรถมือสอง ที่สำคัญเรื่องอะไหล่ ก็จะมีให้เลือกมากกว่ารุ่นเครื่องปัจจุบันแน่นอน

. Ford Ranger 

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 349,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น  529,000 บาท

รถมือสองประหยัดกว่า ** 180,000 บาท  ฟอร์ด เรนเจอร์ มือสอง

สร้างความฮือฮากับการออกแบบใหม่จาก model ก่อนหน้าแล้วเพิ่งมีการไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อสิ้นปีที่แล้ว กับกระบะสายพันธ์ุอเมริกันทำยอดขายได้ดี ติดอันดับ Top4 ของยอดขายกระบะในเมืองไทย ในส่วนของรถมือสอง Ford Ranger ในส่วนของตลาดรถมือสอง Ranger มีให้เลือกมากมาย อีกทั้งราคารถมือสองของรุ่นนี้และสภาพยังใหม่ ต่างกับป้ายแดงที่แสดงในงาน มอเตอร์โชว์หลายบาท การเลือกรถมือสองรุ่นนี้รับรองว่าคุ้มแน่นอน

9. Honda Cr-v

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 829,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 1,250,000 บาท

รถมือสองประหยัดกว่า  ** 421,000 บาท  ฮอนด้า ซีอาร์-วี มือสอง

รถ SUV แท้ๆ ยอดขายอันดับ 1 ของไทย Honda CR-V กับเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Honda Accord แต่ได้อารมณ์ ความเป็นรถ SUV พร้อมลุยทุกสภาพถนนแต่ถ้าอยากจะหรูหรา Honda CR-V ก็ไปได้ไม่อายใคร ในส่วนของ CR-V มือสองโฉมเดียวกับที่แสดงในงานมอเตอร์โชว์ 2016 ครั้งนี้ ราคาในตลาดรถมือสองถูกกว่าหลายแสน สำหรับคนที่มองหารถ SUV ที่สามารถใช้งานได้ในทุกโอกาส Honda CR-V มือสอง คือคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้

10. Chevrolet Captiva

ราคารถมือสอง เริ่มต้น 718,000 บาท
ราคารถป้ายแดง เริ่มต้น 998,000 บาท

รถมือสองประหยัดกว่า ** 280,000 บาท  เชฟโรเล็ต แคปติว่า มือสอง

นอกจาก Trailbrazer ของ Chevrolet ที่เป็น SUV แบบ PPV ที่มาจากกระบะดัดแปลง Chevrolet Colorado แต่สำหรับคนที่ชอบรถ SUV ในอารมณ์รถเก๋งแท้ๆ ก็ต้องเลือก Captiva จะดีที่สุด เพราะ Captiva โฉมปัจจุบันเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 2012 แต่ด้วยรูปทรงที่ดูหรูหราน่าใช้ ก็สามารถทำให้ขายได้มาตลอดและยังไม่ได้มีการเปลี่ยนโฉม รถ Chevrolet Captiva มือสองในตลาดรถมือสองปัจจุบันมีให้เลือกหลายมาก ด้วยความที่ผู้ซื้อออกใหม่ป้ายแดง ตั้งใจนำมาใช้ในเมืองเป็นหลักทำให้รถไม่ได้ถูกใช้งานเยอะ รถมือสองที่สภาพดีจึงมีให้เลือกมาก แต่ถ้าใครจะเลือก SUV สวยหรูและน่าใช้งานสักคัน Chevrolet Captiva เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ทั้งสิบรุ่นที่นำเสนอไปนี้ จะเห็นว่า แต่ละคันเมื่ออยู่ในงานยังสวย งดงามมากแค่ไหน ลองไปเดินเลือกดูในงาน มอเตอร์โชว์ 2016 ครั้งนี้ดู แล้วกลับมาหาเลือกซื้อรถมือสองคุณภาพดีๆ ใน CARRO ของเราจะที่มีรถให้เลือกมากมาย รวมถึงรถทั้งสิบรุ่นนี้ด้วย ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เป็นแสน!! อย่างแน่นอน

รถมือหนึ่ง-VS-รถมือสอง

รถมือสองซื้อไปก็ไม่คุ้ม … จริงหรือไม่?

นี่เป็นคำพูดในแง่ลบเกี่ยวกับรถมือสองที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินได้ฟังมาก่อน แต่ก่อนจะเชื่อคำพูดเหล่านี้ มาดูสิ่งที่ Carro กำลังจะเปรียบเทียบให้คุณเห็นก่อน แล้วลองคิดดูอีกทีว่าคำพูดเหล่านี้ถูกต้องแล้วหรือยัง!

ก่อนอื่น… ลองนึกภาพคุณมีเงินอยู่ในมือ 500,000 บาท เป็นเงินที่คุณกำลังจะนำไปซื้อรถยนต์สักคัน Carro จะแสดงให้คุณเห็นว่า ด้วยงบประมาณที่เท่ากัน การซื้อรถมือหนึ่งกับรถมือสอง แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน!

เงิน 500,000 ซื้อรถมือหนึ่ง คุณจะได้อะไร?

นี่คือตัวอย่างรถยนต์ป้ายแดงที่คุณจะสามารถถอยออกมาจากศูนย์ได้ทันทีด้วยเงิน 500,000 บาท

ซื้อรถมือหนึ่ง VS ซื้อรถมือสองข้อดี ของรถมือหนึ่งที่คุณหาได้ในงบประมาณไม่เกิน 500,000 บาท คือ

– มีความใหม่ ทันสมัย ในกรณีที่ซื้อรุ่นล่าสุดของโมเดลนั้นๆ

– ดูใหม่ สะอาด อุปกรณ์ทุกอย่างอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด เพราะรถยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน

 มีประกันศูนย์ 3 ปี และโปรโมชั่นต่างๆ ที่ทางผู้ผลิตรถมอบให้ (เช่น ฟรีประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี เป็นต้น)

ข้อด้อย ของรถมือหนึ่งที่คุณหาได้ในงบประมาณไม่เกิน 500,000 บาท คือ

– ส่วนใหญ่รถมือหนึ่งที่ราคาไม่เกิน 500,000 บาท ก็คือ รถ Eco Car ซึ่งเป็นรถที่ประหยัดก็จริง แต่ไม่ตอบโจทย์ในด้านการขับขี่ระยะไกล จุคนหรือสัมภาระจำนวนมากไม่ได้ ความเร็วความแรงจำกัดเพราะเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร

– ส่วนรถกระบะ ที่ราคาไม่เกิน 500,000 บาทก็จะเป็นรถรุ่นพื้นฐาน ซึ่งเป็นกระบะตอนเดียว 2 ประตู (2 ที่นั่ง ไม่มีแค็บ) เหมาะสำหรับใช้ในการบรรทุกขนส่ง การประกอบอาชีพ แต่ห้องโดยสารไม่สะดวกสบายนักจึงไม่เหมาะกับการใช้ขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน

– มูลค่าของรถตกลงรวดเร็วมาก คุณถอยออกมาจากศูนย์ปุ๊บ รถกลายเป็นรถมือสองแล้ว ใช้ไป 1 ปี ราคาอาจจะตกลง 30 – 50%

 

เงิน 500,000 ซื้อรถมือสอง คุณจะได้อะไร?

ซื้อรถมือหนึ่ง VS ซื้อรถมือสอง

นี่คือตัวอย่างรถยนต์มือสองที่คุณจะสามารถซื้อจากเว็บไซต์ทรัสตี้คาร์ได้ด้วยเงิน 500,000 บาท

รถหรู > ดูรถ BenzBMW

SUV หรือ กระบะดัดแปลง > ดูรถ SUV (มือสอง)

ปิคอัพ 4 ประตู > ดู รถกระบะทั้งหมด

ข้อดี ของรถมือสองที่คุณหาได้ในงบประมาณไม่เกิน 500,000 บาท คือ

– เมื่อเทียบกับรถโมเดลเดียวกันแล้วประหยัดกว่ามือหนึ่งมาก บางรุ่นประหยัดไปครึ่งต่อครึ่งหรือมากกว่า เมื่อประหยัดกว่า ภาระทางการเงินของผู้ซื้อก็ลดลง เซฟเงินไว้ไปทำอย่างอื่นได้อีกมาก

– ตอบโจทย์ชีวิตคุณได้ชัดเจนกว่า และให้ทางเลือกที่มากกว่า เพราะเงิน 500,000 ซื้อรถมือหนึ่งจะได้ Eco Car ซึ่งถ้าคุณกำลังมองหารถครอบครัวอยู่ Eco Car ไม่ตอบโจทย์แน่ๆ แต่พอมาซื้อรถมือสองด้วยงบประมาณเท่ากันปุ๊บ คุณจะซื้อ PPV (กระบะดัดแปลง) ก็ได้ หรือซื้อรถเก๋ง Segment ใหญ่ๆ ก็ได้

– มีโอกาสสัมผัสความหรูหราได้ในราคาที่คุณเอื้อมถึง! เพราะเงิน 500,000 บาทก็เพียงพอแล้วสำหรับการซื้อ Mercedes Benz หรือ BMW มือสองบางรุ่น

ข้อด้อย ของรถมือสองที่คุณหาได้ในงบประมาณไม่เกิน 500,000 บาท คือ

– รถไม่ได้ใหม่กิ๊ก ต่อให้เจ้าของเดิมดูแลดีขนาดไหน รถมือสองก็ไม่สมบูรณ์เท่ารถที่เพิ่งถอยออกมาจากศูนย์ คุณจะไม่ได้ฟีลลิ่งของการเป็นเจ้าของคนแรกที่ได้ถอดพลาสติกต่างๆ ออกเอง กลิ่นของความใหม่อาจจะไม่มีแล้วสำหรับคันที่อายุมากหน่อย

– มักไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดของโมเดลนั้นๆ เช่น ถ้ารถออกมาในปี 2011 คุณอาจจะได้ขับมือสองในปี 2015  ในขณะที่โฉมปัจจุบันของรถโมเดลดังกล่าวอาจเปลี่ยนไปแล้ว (แน่นอนว่ามีรถประเภทที่ถอยป้ายแดงในปี 2011 และนำมาขายมือสองในปี 2011 จริงๆ แต่ว่าราคาก็จะสูงขึ้นตามความใหม่และสภาพรถ)- ไม่มีประกันศูนย์ให้แบบรถมือหนึ่ง (ในที่นี้หมายถึง Warranty 3 ปีที่คนออกรถป้ายแดงจะได้) แต่อาจมีโปรโมชั่นบางอย่างที่ดีลเลอร์หรือผู้ขายรถมอบให้ เช่น ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง/สอง/สาม เป็นต้น

– อาจมีการซ่อมแซมตามมา เพราะอุปกรณ์บางชิ้นชำรุดไปตามกาลเวลา (กรณีที่รถเก่ามาก) แต่รถใหม่ที่ผ่านการตรวจสภาพแล้วมักไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ในส่วนของการซ่อมบำรุงทั่วไปนั้น ผู้ขับขี่ควรจะต้องเช็คตามระยะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง

ซื้อรถมือหนึ่ง VS ซื้อรถมือสอง

คงได้เห็นกันแล้วว่า ซื้อรถมือหนึ่งกับรถมือสองด้วยเงิน 500,000 บาท ผลลัพธ์ที่ได้ต่างกันขนาดไหน!

หากใครกังวลว่าซื้อรถมือสองแล้วจะมีค่าซ่อมตามมาไม่จบ Carro ขอแนะนำให้คุณตรวจสภาพรถก่อนซื้อ เพื่อที่จะได้รู้ว่าสภาพรถจริงๆ เป็นอย่างไร มีส่วนที่ต้องซ่อมแซมหรือไม่ และหากตัดสินใจซื้อแล้ว รถที่ได้มาจะยังคุ้มค่ากับเงินของคุณอยู่หรือเปล่า

ซึ่งในส่วนนี้ Carro ก็มีบริการตรวจสอบทั้งโครงสร้างรถ และสมรรถนะของรถยนต์มือสองให้กับลูกค้า โดยมีการใช้อุปกรณ์มาตรฐานสากล และช่างที่ชำนาญอย่างสูง สามารถรับรองความคุ้มค่าของรถมือสองให้คุณได้อย่างแน่นอน!

หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม หรือมีข้อสงสัยใดๆ เข้ามาถาม Carro ได้เลยที่ เพจ FB: carrothai หรือ Line: @carrothailand

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเข้ามากำกับดูแลรถป้ายแดง โดยจะดำเนินการตรวจจับปรับรถส่วนบุคคลที่ใช้ป้ายแดงในการขับขี่ ในส่วนของรถส่วนบุคคลที่ซื้อตั้งแต่ 1 ต.ค. 2560 – 31 ธ.ค. 2560 หากซื้อรถใหม่ป้ายแดงจะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกภายใน 60 วันนับแต่รับรถ และหากซื้อรถตั้งแต่ 1 ม.ค. 2561 เป็นต้นไป จะต้องจดทะเบียนกับ ขบ. ภายใน 30 วันนับแต่รับรถ

หากไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดในช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องถูกตำรวจตรวจจับและปรับทันที โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท ดังนั้นช่วงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึง 30 ก.ค. 2560 ขบ. จะเร่งประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้รับทราบข้อมูลดังกล่าว และเข้าใจกฎระเบียบ กฎหมาย ที่ขบ.จะประกาศออกไปเพื่อให้เข้าใจตรงกันและจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่ ขณะตรวจจับ

นายสนิทกล่าวอีกว่า การดำเนินการ ดังกล่าวขณะนี้ทาง ขบ. อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายรถป้ายแดง และขณะนี้ผ่าน ขั้นตอนของกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วรอเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ให้พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขบ. มั่นใจว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวนั้นเป็น การรักษาสิทธิของประชาชนที่เป็นเจ้าของ รถที่ซื้อรถใหม่จากศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถ มีการดำเนินการให้จดทะเบียนรถถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อให้ป้ายแดงที่ ขบ. ออกไปอย่างถูกกฎหมายกว่า 100,000 ป้ายทั่วประเทศ หมุนเวียนในระบบ รวมถึงป้องกันปราบปรามรถผิดกฎหมายที่วิ่งบนท้องถนนด้วย ประกอบกับการเข้ามาจดทะเบียนรถถูกต้องตามกำหนดเวลาก็จะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณภาพจาก jacky2008

ทางกรมการขนส่งทาทงบกระบุอีกว่า สำหรับการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถส่วนบุคคลจากป้ายแดง เป็นป้ายดำ หากเป็นขั้นตอนของ ขบ. ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็แล้วเสร็จ ที่ผ่านมามีรถป้ายแดงจำนวนมากที่ไม่เปลี่ยนป้าย หรือเปลี่ยนป้ายช้า ส่วนหนึ่งมาจากขั้นตอนเอกสารของบริษัทรถยนต์ และ ดีลเลอร์ขายรถ ซึ่งหากถึงกำหนดเวลาตามเงื่อนไข ทางดีลเลอร์ต้องเร่งเวลาเรื่องเอกสารให้ได้ตามกำหนดของ ขบ.

สำหรับรถยนต์ ป้ายแดงที่ซื้อในช่วงก่อนหน้านี้ หรือก่อนวันที่ 1 ต.ค. แล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียน หากถึงกำหนดวันที่ 1 ต.ค.ที่เริ่มกวดขัน เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจคู่มือรถแล้วพบว่ารับรถมาเกิน 2 เดือนแล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียนจะถูกจับปรับเช่นกัน โดยช่วงแรกจะเน้นการประชาสัมพันธ์ หรือปรับอัตราต่ำสุดคือ 1,000 บาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด