New-Car-In-Motorshow-2019

Motor Show 2019 หรือ The 40th Bangkok International Motor Show 2019 ภายใต้แนวคิด “สุนทรีย์ภาพทางอารมณ์” หรือ “Enjoyment of Automobiles” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้และปีที่ผ่านมา รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงต้อนรับต้นปียิ่งใหญ่เช่นเคย โดยงานมอเตอร์โชว์ 2019 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Show 2019 โดยในเดือนมีนาคมนี้ บริษัทรถยนต์หลายค่าย เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างคับคั่ง CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

Honda Accord

Honda-Accord-2019

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) เจเนอเรชั่นที่ 10 มาพร้อมรูปทรงที่ฉีกแนวจากของเดิมทั้งหมด คู่กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC Turbo ใหม่ ที่ทรงพลังเหนือกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ในรุ่นเดิม ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่

ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเหนือระดับ และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) เตรียมพบกับการเปิดตัวได้ในวันที่ 19 มีนาคม นี้ ก่อนเริ่มวางจำหน่ายพร้อมราคาอย่างเป็นทางการ ในเดือนพฤษภาคม 2562

Nissan X-Trail

Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์-เทรล) เป็นรถอเนกประสงค์ SUV ที่ได้ชื่อว่าขายดีที่สุดในโลก เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกันทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 171 แรงม้า และแบบ Hybrid 2.0 ลิตร 144 แรงม้า รายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี ให้ความสะดวกทุกการเดินทาง เวลาต้องขนของเข้า-ออก ท้ายรถ

นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงรุ่นใหม่แบบ A-IVI รวมถึงระบบความปลอดภัยจากเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น 2.5S 2WD, 2.5V 2WD, 2.5VL 4WD, 2.0V 4WD Hybrid และ 2.0VL 4WD Hybrid ในราคา 1,350,000 – 1,617,000 บาท

Isuzu MU-X The Onyx

suzu-MU-X-The-Onyx-2019

Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิคซ์) จุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ … New Sensation Ignited ด้วยรุ่นพิเศษ กับชุดแต่งแบบฉบับ Onyx Design Edition อาทิ ชุดกันชนหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตดีไซน์พิเศษ กระจังหน้าแบบ Sport 3D คิ้วโป่งล้อสีดำด้าน ไฟท้ายรมดำแบบ LED ล้ออัลลอยด์ใหม่! Flash Black Design ขนาด 18 นิ้ว และ Roof Rail สไตล์สปอร์ต เป็นต้น

ห้องโดยสารโอ่โถงโทนเข้ม แต่งแต้มด้วย Ambient Light ช่วยเพิ่มบรรยากาศ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำแบบ Sport Cut พร้อมความสะดวกสบายเต็มพิกัด มีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เท่านั้น ในราคา 1,364,000 – 1,421,000 บาท

Suzuki Jimny

Suzuki-Jimny-Sierra-2019

Suzuki Jimny (ซูซูกิ จิมนี่) สุดยอดรถ Off-Road ขนาดเล็กในตำนานอีกหนึ่งรุ่น โดยในไทยจะนำเข้า Jimny Sierra เวอร์ชั่นญี่ปุ่นเข้ามาขาย เป็นรุ่นฐานล้อยาวและมีเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า Jimny รุ่นธรรมดาที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 660 ซีซี โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัสเดียวกับ Ertiga ใหม่ รหัส K15B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 102 แรงม้า

พบกันได้ในงาน Motor Show 2019 กับ ราคาหลักล้านกลางๆ! เพราะรถนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน เสียภาษีนำเข้า 80% บวกกับภาษีอื่นๆ และต้องรอรถอย่างน้อยๆ 6 เดือน เพราะที่ญี่ปุ่นก็ขายดีมาก จนผลิตไม่ทันทีเดียว ขณะนี้ Suzuki ประเทศไทย เปิดให้จองแล้ว

Suzuki Ertiga

Suzuki-Ertiga-2019

Suzuki Swift (ซูซูกิ เออร์ติก้า) ใหม่ ชูจุดเด่นการเป็นรถยนต์ MPV 7 ที่นั่ง ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและความปลอดภัย พร้อมที่จะนำคุณ Unlock Your Life ปลดล็อกอีกด้านของชีวิต มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT โดดเด่นด้วยเส้นสายดีไซน์โฉบเฉี่ยวโดดเด่นด้านข้างตัวรถ ภายในออกแบบให้ดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง เหนือกว่าด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง

ทรงพลังด้วยสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ K15B 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ในราคา 655,000 – 695,000 บาท

Toyota Hilux Revo Z Edition

Toyota-Hilux-Revo-Z-Edition

Toyota Hilux Revo Z Edition (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ แซดอิดิชั่น) แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ปรับปรุงใหม่ปี 2562 ในรุ่น Smart Cab (สมาร์ทแค็บ) และ Double Cab (ดับเบิ้ลแค็บ) ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ กับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

สำหรับ Z Edition (แซดอิดิชั่น) โดย “Z” มีที่มาจากแนวทางในการแต่งรถ ซึ่งเป็นที่นิยมเรียกกันว่า แต่งแซ้ป (Zaap) หรือแต่งซิ่ง (Zing) โดยพัฒนาให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโดดเด่น เร้าใจ ด้วยกันชนและกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มีไฟตัดหมอกหน้า และพรีเซนเตอร์คนใหม่ของไฮลักซ์ รีโว่ Z Edition “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” ในราคา 599,000 – 784,000 บาท

Lexus UX

Lexus-UX250h

The All-New Lexus UX (เลกซัส ยูเอ็กซ์) ยนตรกรรมหรู Compact Crossover รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบมาเพื่อคนเมืองจากสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) พร้อมด้วยการเชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์ และการใช้อลูมินัมเข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ มีการทรงตัวดีเยี่ยม ควบคุมรถได้ดั่งใจ และระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 รุ่นล่าสุด

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 146 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 109 แรงม้า รวมแรงม้าทั้งระบบ 184 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ให้อัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 8.5 วินาที มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ UX 250h Luxury, UX 250h Grand Luxury และ UX 250h F SPORT AWD ในราคา 2,490,000 – 3,620,000 บาท

Maserati Quattroporte

Maserati-Quattroporte-2019

Maserati Quattroporte (มาเซราติ ควอโตรปอร์เต้) เจเนอเรชั่นที่ 6 เป็นหนึ่งในรถซีดานหรูที่มีสมรรถนะดีสุดในโลก เปิดตัวครั้งแรกช่วงปี 1963 เด่นด้วยการใช้เครื่องยนต์จากรถแข่ง ผสานดีไซน์เฉียบคมสไตล์อิตาเลียน ที่แม้กระทั่งประธานาธิบดีของอิตาลี ยังใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง

อีกทั้งยังเป็น 1 ในซีดานหรูที่เร็วสุดในโลก กับ Top Speed 310 กม./ชม. มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง Diesel Turbo และเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo โดยเครื่องยนต์เบนซินทั้ง V6 สูบ Twin Turbo และ V8 สูบ Twin Turbo ประกอบที่โรงงานในเมือง มาราเนลโล เช่นเดียวกับ Ferrari ในราคา 10,490,000 – 18,890,000 บาท

Rolls-Royce Cullinan Supreme Liberty

Rolls-Royce-Cullinan-Supreme-Liberty-2019

Rolls-Royce Cullinan Supreme Liberty (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซูพรีม ลิเบอร์ตี้) มาพร้อมสีพิเศษ พร้อมความอลังการยิ่งขึ้น Ultra Luxury SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce สง่างามกับสีพิเศษ “Infinity-Black Metallic” ตัดด้วยโค้ชไลน์สี Mandarin เป็นเส้นสีส้มบางๆ คาดข้างตัวถังยาวจรดด้านหลัง เป็นเสมือนงานศิลป์จากปลายพู่กันของ Mr.Mark Court ผู้ที่ทำหน้าที่สุดพิเศษนี้เพียงคนเดียวในโลก

ห้องโดยสารของ Cullinan ใช้โทนสี Scivaro Gray (ซิวาโร่ เกรย์) ตัดกับสีดำ และเย็บตะเข็บเดินด้ายสี Mandarin ติดตั้งลายไม้ Blackwood Matted และเป็นคันแรกในไทยที่มาพร้อมออปชั่น “Immersive Seating with Centre Console” เป็นเบาะหลัง 2 ที่นั่งแบบแยกส่วน พร้อมคอนโซลคั่นกลาง ภายในเป็นตู้แช่ และชุดเครื่องดื่ม ติดตั้งแผงกั้นระหว่างห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระ เพื่อลดเสียงรบกวนให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด

รวมทั้งมีอีก 2 ความพิเศษ ได้แก่ Commission Collection B-Spoke Umbrellas ร่มที่เดินด้ายบริเวณขอบเป็นสี Mandarin และ Signature Key กุญแจรถหุ้มหนังแท้สีเดียวกัน ในราคาประมาณ 30 กว่าล้านบาท

Aston Martin DBS Superleggera

Aston-Martin-DBS-Superleggera-2019

Aston Martin DBS Superleggera (แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจร่า) ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Aston Martin ซึ่งคำว่า “Superleggera” หมายถึง “Super Light” ในภาษาอังกฤษ ด้วยตัวถังที่มีน้ำหนักเบา โครงสร้างอะลูมิเนียมผสานการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ กระจังหน้า 6 เหลี่ยม ฝากระโปรงหน้าโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ใช้ขุมพลังเบนซิน V12 Twin Turbo 715 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 340 กม./ชม.

ภายในโดดเด่นด้วยเบาะหนังแท้เกรดดีที่สุด พวงมาลัยหุ้มหนัง Alcantara พร้อม Paddle Shifts เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมเครื่องเสียง Premium Audio กับระบบอินโฟเทนเมนท์ ควบคู่กับระบบ Navigator แสดงข้อมูลผ่านจอ TFT ขนาด 8 นิ้ว สั่งการผ่าน Touchpad ด้วยเสียง หรือการเคลื่อนไหว ในราคา 28.9 ล้านบาท มีเพียง 4 คัน เท่านั้น!

BMW Series-3

BMW-Series-3-2019

BMW Series-3 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3) กลับมาอีกครั้งในเจเนอเรชั่นที่ 7 กับการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการขับขี่ มาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับยิ่งขึ้น อันเป็นหัวใจสำคัญของ BMW เตรียมโชว์ตัวในงาน Motor Show 2019 ด้วยรุ่น BMW 320d Sport และ BMW 330i M Sport

BMW ซีรี่ส์ 3 ใหม่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เทคโนโลยีขับเคลื่อนล่าสุด มอบพละกำลัง 190 แรงม้า จากเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ของ BMW 320d Sport ส่วน BMW 330i M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 258 แรงม้า โดยทั้ง 2 รุ่น รองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด Comfort, Sport และ Eco Pro ในราคา 2,959,000 – 3,359,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW Z4

BMW-Z4-2019

BMW Z4 (บีเอ็มดับเบิลยู แซด4) รถสปอร์ตโรดสเตอร์สุดคลาสสิก … พร้อมแล้วที่จะกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในโฉมใหม่ มีให้เลือกเป็นเจ้าของในสองรุ่น ได้แก่ BMW Z4 sDrive30i M Sport ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า

ส่วน BMW Z4 M40i เสริมความแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบที่ส่งพลังถึง 340 แรงม้าลงสู่ล้อหลัง ขณะที่ระบบ Driving Experience Control ในทั้งสองรุ่น สามารถปรับแต่งลักษณะการขับขี่ให้ตรงกับทุกความต้องการ ตั้งแต่ในโหมด Comfort ไปจนถึงความแม่นยำและเฉียบคมสไตล์สปอร์ตในโหมด Sport และ Sport+ ในราคา 3,999,000 – 4,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW X7

BMW-X7

BMW X7 M50d (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์7) รถ SUV Full-Size จากค่ายใบพัดสีฟ้า นำเสนออีกก้าวแห่งความพึงพอใจจากการขับขี่ ด้วยนวัตกรรมความหรูหราและความกล้าที่จะแตกต่าง สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 3,000 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม. ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SportSteptronic 8 สปีด

รวมทั้งระบบช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับอัตโนมัติ คล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive … โดย BMW X7 M50d ใหม่ จะเริ่มเปิดรับจองในงาน Motor Show 2019 ในราคา 8,999,000 บาท

Mercedes-Benz E 53 4MATIC+ Coupé

Mercedes-AMG-E-53-4MATIC+-Coupe-2019

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupe (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อี 53 4แมติก+ คูเป้) รุ่นนำเข้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EQ Boost เพื่อเพิ่มพลังให้กับรถยนต์มากขึ้นกว่าเดิม คือรถยนต์คูเป้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ตกแต่งทั้งคันในสไตล์ AMG โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบ 435 แรงม้า ส่งกำกลังผ่านเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G Transmission ขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension ในราคา 6,990,000 บาท

Mini Cooper S Hatch 60 Years Edition

Mini-Cooper-S-Hatch-60-Years-Edition-2019

Mini Cooper S Hatch 60 Years Edition (มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี) ปี 2562 นี้ นับเป็นปีที่ 60 แห่งประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของมินิ รถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ครองใจแฟนๆ ทั่วโลก มินิได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 60 ปี ในดีไซน์สุดคลาสสิก ตามสไตล์มินิแบบ Retro ที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร

มาในสี British Racing Green สะดุดตา ตัดขอบสีดำ Piano Black พร้อมด้วยหลังคาและที่ครอบกระจกสีดำ รอบคันโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ 60 ปี ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วในลาย 60 ปี 2 สีสุดพิเศษ และไฟท้าย LED ลายธงยูเนียนแจ็ค อันเฉพาะตัวของมินิ และภายในห้องโดยสาร ยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ออกแบบขึ้นเฉพาะ

มาพร้อมด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ให้พละกำลังสูงสุด 192 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัทช์คู่ 7 สปีด ส่วนราคาจำหน่าย ติดตามได้ในงาน Motor Show 2019

Chevrolet Captiva

Chevrolet-Captiva-2019

Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สไตล์โฉบเฉี่ยว และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Show 2019 และพร้อมจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2562

Chevrolet Captiva รุ่นใหม่ล่าสุดได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมด มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สะท้อนแนวการออกแบบล่าสุดของ Chevrolet

MG V80

MG-V80

MG V80 (เอ็มจี วี80) รถตู้รุ่นใหม่ล่าสุด ขนาด 11 ที่นั่ง แบบเดียวกับ Maxus V80 Lativa เตรียมติดแบรนด์ MG เปิดตัวในงาน Motor Show 2019 ตัวรถแบบหลังคาเตี้ย มาพร้อมประตูเลื่อนแบบสไลด์ทั้ง 2 ด้าน พร้อมบันไดข้างแบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกในการขึ้นลง โดยตัวรถมีความสูง 2.13 เมตร กว้าง 1.99 เมตร ประตูท้ายเปิดได้แบบตู้กับข้าว อ้าได้กว้างสุด 180 องศา

สำหรับขุมพลัง คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร คอมมอนเรล มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ และราคายังไม่เปิดเผยในตอนนี้

จะมีรุ่นไหนถูกตาถูกใจคุณผู้ชมบ้าง ก็ลองไปเดินดูตัวจริงที่งานได้ แต่ถ้าอยากขายรถคันเดิมของคุณ ก็มาใช้บริการที่ CARRO นะครับ

SUV-And-Crossover-In-Motorshow-2019

ในยุคปัจจุบัน รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV หรือ Crossover นั้น เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี (ดูได้จากยอดขายรถประเภทนี้ ย้อนหลังไป 6-7 ปีที่ผ่านมาสิครับ) เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม

แม้แต่แบรนด์ใหญ่ๆ ที่ไม่เคยทำรถแนวนี้ ก็ต้องต้องผลิตออกมาขายหลากหลายรุ่น …

งาน Bangkok International Motor Show 2019 (มอเตอร์โชว์ 2019) ครั้งนี้ MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกัน ว่าในงานจะมีรถยนต์ SUV และรถ Crossover รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ พร้อมรายละเอียดพอสังเขป มาเสนอครับ …

Toyota C-HR

Toyota-C-HR-2019

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เฮชอาร์) โฉมปี 2019 รถ Crossover อเนกประสงค์ ที่ทาง Toyota นำมาโชว์ ยังคงได้รับความสนใจอย่างเช่นเคย โดยรุ่นปี 2019 มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตรอบคัน เสริมด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนดีไซน์ใหม่ มีทั้งรุ่นเบนซิน และรุ่นไฮบริด ให้เลือกกันถึง 4 รุ่นย่อย

Toyota C-HR ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า ที่ยกชุดมาจากในตัว Prius รุ่นล่าสุด ชูจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และมีระบบ Toyota T-Connect Telematics เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้สะดวกและง่ายดาย

ราคาของ Toyota C-HR ใหม่

– รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
– รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท
– รุ่น Hybrid Mid ราคา 1,069,000 บาท
– รุ่น Hybrid Hi ราคา 1,159,000 บาท

Toyota Fortuner

Toyota-Fortuner-2019

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) แม้ว่าจะเป็นรถที่ออกมานานหลายปีแล้ว แต่ Fotuner ก็ยังเป็นที่นิยมในท้องตลาด ทั้งแบบมือหนึ่ง และมือสอง ภายนอกโฉบเฉี่ยว ยิ่งขึ้น บันไดข้าง กระจกไฟเลี้ยว และไฟเบรค ได้รับการออกแบบใหม่อย่างมีสไตล์ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยดิสก์เบรค 4 ล้อ ภายในหรูหรา ด้วยเบาะหนังภายในสีน้ำตาลเข้ม ห้องโดยสารกว้างสบาย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และเครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด 166 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Sequential Shift พร้อม Paddle Shift

ชูจุดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์ เลือกโหมดการขับขี่ได้ดั่งใจ ด้วยโหมด H2 H4 L4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC

ราคาของ Toyota Fortuner

– รุ่น 2.4G 2WD MT ราคา 1,239,000 บาท
– รุ่น 2.4V 2WD AT ราคา 1,419,000 บาท
– รุ่น 2.7V 2WD AT ราคา 1,569,000 บาท
– รุ่น 2.8V 2WD AT ราคา 1,593,000 บาท
– รุ่น 2.4V 4WD AT ราคา 1,499,000 บาท
– รุ่น 2.8V 4WD AT ราคา 1,663,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD AT ราคา 1,699,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD Black Top AT ราคา 1,719,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD AT ราคา 1,769,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD Black Top AT ราคา 1,789,000 บาท

Nissan X-Trail

Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์-เทรล) เปิดตัวพร้อมกันทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และแบบ Hybrid รายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี ให้ความสะดวกทุกการเดินทาง ทั้งการบรรทุกของ หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ แม้กระทั่งการท่องเที่ยว ที่ต้องพกอุปกรณ์ และกระเป๋าเดินทางหลายๆ ชิ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงที่ให้ความบันเทิงรุ่นใหม่แบบ A-IVI เพิ่มความหรูหราและตอบสนองกับสไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร

ราคาของ Nissan X-Trail ใหม่

แบบเบนซิน
– รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท
– รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท
– รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท
แบบ Hybrid
– รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท
– รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

Nissan Terra

Nissan-Terra-2019

Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) ใหม่ จัดเป็นรถในแบบ PPV อีกรุ่น ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอในงาน Motor Show 2019 มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ที่รับกับกระจังหน้าแบบ V-Motion ส่วนชุดประตูหน้านั้นเหมือน Navara และด้านท้ายถูกออกแบบใหม่หมด ไฟท้ายเป็นแบบ LED มาพร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/60 R18

ห้องโดยสารภายในยกชุดมาจาก Navara แต่ตกแต่งให้หรูหราขึ้น ด้วยโทนสีดำตัดด้วยสีเงิน แบบ Gliding Wing 7 ที่นั่ง กว้างขวาง และเงียบ มีเครื่องเสียงระบบหน้าจอสัมผัส, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังดีเซลใหม่ล่าสุด ขนาด 2.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อม Manual Mode

ราคาของ Nissan Terra

รุ่นเริ่มต้น – 2.3V 2WD AT ราคา 1,316,000 บาท
รุ่นรอง Top – 2.3 VL 2WD AT ราคา 1,349,000 บาท
รุ่น Top สุด – 2.3 VL 4WD AT ราคา 1,457,000 บาท

Honda HR-V

Honda-HR-V-2019

Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2561 ที่ผ่านมา พร้อมแนะนำรุ่น RS ใหม่ และสีใหม่ สีแดงแพสชั่น (มุก) มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่เพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น และเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่อันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) และระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System) เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า พร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้อัตราการประหยัดน้ำมันและตอบสนองทุกการขับขี่อย่างดีเยี่ยม และรองรับแก๊สโซฮอล์ E85 อีกด้วย

ราคาของ Honda HR-V

– รุ่น E ราคา 949,000 บาท
– รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท
– รุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท

Honda CR-V

Honda-CR-V-2019

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี) จัดเป็นรถ SUV ที่ยอดนิยมสุดๆ ของ Honda อีกรุ่นหนึ่ง นอกจากจะเป็นรถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่่นั่งแล้ว ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา Honda ก็ได้ออกรุ่น 5 ที่นั่ง มาเป็นทางเลือกให้ได้เลือกซื้อกันเพิ่มเติม มีพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง พร้อมเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบครันในทุกรุ่น อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) และระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เป็นต้น

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.6 ลิตร i-DTEC Diesel Turbo ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire) และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC พร้อมเกียร์อัตโนมัติ แบบ CVT

ราคาของ Honda CR-V

– รุ่น 2.4 S (5 ที่นั่ง) ราคา 1,359,000 บาท
– รุ่น 2.4 ES (5 ที่นั่ง) ราคา 1,499,000 บาท
– รุ่น 2.4 E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,409,000 บาท
– รุ่น 2.4 EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,549,000 บาท
– รุ่น DT-E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,559,000 บาท
– รุ่น DT-EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,699,000 บาท

Mazda CX-3

Mazda-CX-3-2019

Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ที่มาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Drive Your Attitude” ภายใต้แนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุด และเทคโนโลยี SkyActiv ที่กำลังสร้างชื่อในตลาดทั่วโลกรวมทั้งในตลาดในไทย มาโชว์ในงาน Motor Show 2019 นี้ด้วย ด้วยดีไซน์สปอร์ตหรู กับสีพรีเมี่ยมใหม่ Machine Gray กับ Soul Red Crystal พร้อมนวัตกรรมล่าสุดที่ให้คุณควบคุมได้ทุกเส้นทาง Skyactiv-Vehicle Dnamics และเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activesense

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Manual Mode Activematic

ราคาของ Mazda CX-3

– รุ่น 2.0 E ราคา 879,000 บาท
– รุ่น 2.0 C ราคา 955,000 บาท
– รุ่น 2.0 S ราคา 1,029,000 บาท
– รุ่น 2.0 SP ราคา 1,083,000 บาท
– รุ่น 1.5 XDL ราคา 1,189,000 บาท

Mazda CX-5

Mazda-CX-5-2019

Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ๋-5) Crossover SUV ที่มาพร้อมรูปทรงการออกแบบอันสง่างามทั้งภายนอกและภายใน ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์ของงานศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตามแนวทางการออกแบบ “Less is more” ภายนอกดูเรียบง่าย แต่สุขุม และยังคงให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวในแบบฉบับใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด

Mazda CX-5 มาพร้อมเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้า 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 13.9 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร ให้แรงม้า 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ประหยัดสูงสุด 17.5 กม./ลิตร

ราคา Mazda CX-5 

– รุ่น 2.0 C ราคา 1,290,000 บาท
– รุ่น 2.0 S ราคา 1,400,000 บาท
– รุ่น 2.0 SP ราคา 1,530,000 บาท
– รุ่น 2.2 XD ราคา 1,560,000 บาท
– รุ่น 2.2 XDL ราคา 1,770,000 บาท

Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi-Pajero-Sport-2019

Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) ใหม่ เพียบพร้อมด้วยความเหนือระดับ ทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เทคโนโลยี ความปลอดภัยและสมรรถนะ พร้อมแพ็คเกจอุปกรณ์ตกแต่งใหม่ล่าสุดที่ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มความหรูหราของรถอเนกประสงค์ยอดนิยมรุ่นนี้

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล MIVEC VG Turbo ที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบอลูมินัม อัลลอย ความจุ 2.4 ลิตร ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ให้พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดถึง 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

ราคาของ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่

– รุ่น GT 2WD ราคา 1,301,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 2WD ราคา 1,404,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 4WD ราคา 1,544,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 2WD Elite Edition 1,459,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 4WD Elite Edition 1,574,000 บาท

Subaru XV

Subaru-XV-2019

Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี) รถ Crossover ที่เคยสร้างกระแสความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และสร้างยอดขายให้กับ Motorimage ผู้นำเข้ารถยนต์ซูบารุในบ้านเราได้มากพอสมควร ถึงเวลาเปลี่ยนโฉมใหม่ตามญี่ปุ่น พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มล่าสุด “Subaru Global Platform” ร่วมกันกับ Impreza ใหม่ คาดว่ามาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT แบบ 7 สปีด เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2017 นี้

Subaru XV ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส FB20 แบบ Boxer 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พัฒนาขึ้นใหม่กว่า 80% เพิ่มกำลังอัดเป็น 12.5:1 (จากเดิม 10.5:1) ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD และระบบ X-Mode สำหรับส่งถ่ายกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อ

ราคาของ Subaru XV

– รุ่น 2.0i ราคา 1,159,000 บาท
– รุ่น 2.0i-P ราคา 1,259,000 บาท

Subaru Forester

Subaru-Forester-2019

Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) โฉมใหม่แห่งนี้ประกอบจากโรงงาน Subaru แห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มาพร้อมเส้นสายตัวถังใหม่ ดูโ)บเฉี่ยวเร้าใจมากขึ้น ตัวรถกว้างและยาวขึ้นเล็กน้อย ใช้แพลตฟอร์มของใหม่ที่เรียกว่า Subaru Global Platform ชูจุดเด่นอย่างเทคโนโลยีความปลอดภัย EyeSight ในรุ่น Top สุด

ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ Boxer 4 สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ Lineartronic CVT 7 สปีด พ่วงด้วย Manual Mode และ Paddle Shift พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตร กับฟังก์ชัน X-MODE

ราคาของ Subaru Forester ใหม่

– รุ่น 2.0 i-L ราคา 1,330,000 บาท
– รุ่น 2.0 i-S ราคา 1,380,000 บาท
– รุ่น 2.0 i-S EyeSight ราคา 1,450,000 บาท

Isuzu MU-X

Isuzu-MU-X-The-Onyx-2019

Isuzu MU-X The Onyx (อีซูซุมิว-เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ! ดิ ออนิคซ์) …จุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ… New Sensation Ignited รถอเนกประสงค์สุดหรูที่จะจุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ ด้วยความคม…เข้ม เร้าอารมณ์ แฝงความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง Onyx Design Edition

ห้องโดยสารโทนเข้มที่แต่งด้วย Ambient Light ช่วยเพิ่มมิติในบรรยากาศ ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้สมรรถนะสูง แรงแต่ประหยัดน้ำมัน เอกสิทธิ์แห่งเทคโนโลยีดีเซลจากอีซูซุ

ราคาของ Isuzu MU-X

– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 CD A/T ราคา 1,099,000 บาท
– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 DVD M/T 1,214,000 บาท
– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 DVD AT 1,264,000 บาท
– รุ่น1.9 Ddi 4×2 DVD Navi DA AT 1,329,000 บาท
– รุ่น 3.0 Ddi 4×2 DVD NAVI AT 1,374,000 บาท
– รุ่น 3.0 Ddi 4×4 DVD NAVI AT 1,474,000 บาท
– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 AT The Onyx ราคา 1,364,000 บาท
– รุ่น 3.0 Ddi 4×2 AT The Onyx ราคา 1,409,000 บาท

MG ZS

MG-ZS-2019

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

ราคาของ MG ZS

– รุ่น C ราคา 679,000 บาท
– รุ่น D ราคา 729,000 บาท
– รุ่น X ราคา 789,000 บาท

BMW X3

BMW-X3-2019

BMW X3 (บีเอ็มดับบลิว เอ็กซ์3) รุ่นล่าสุด แบบประกอบในประเทศ จากสายการผลิตของโรงงาน BMW ที่ จ.ระยอง ในราคาที่ลดลงถึง 340,000 บาท สำหรับรุ่น xLine และ 140,000 บาท สำหรับรุ่น M Sport แต่ยังคงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่งบนท้องถนนและลุคสปอร์ตปราดเปรียวไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Steptronic และเสริมด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยในรุ่น M Sport ทั้งสองรุ่นให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่วน BMW X3 xDrive20d M Sport เสริมสมรรถนะแบบสปอร์ตด้วยช่วงล่าง M Sport

ราคาของ BMW X3

– รุ่น xDrive20d xLine ราคา 3,359,000 บาท
– รุ่น xDrive20d M Sport ราคา 3,659,000 บาท

Mercedes-Benz GLC-Class

Mercedes-Benz-GLC-Class-2019

Mercedes-Benz GLC-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี-คลาส) ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมโดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่กว้างขวางด้วยความจุ 500-1,400 ลิตร

GLC 250 d มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 2.1 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ 4MATIC Permanent All-Wheel Drive กำลังแรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600-1,800 รอบ/นาที  อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม.

GLC 250 4MATIC Coupé AMG Plus มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง ให้แรงม้าสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200 – 4,000 รอบ/นาที มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-Tronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 222 กม./ชม.

ราคาของ Mercedes-Benz GLC-Class

– รุ่น GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD ราคา 3,290,000 บาท
– รุ่น GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ราคา 3,690,000 บาท
– รุ่น GLC 250 4MATIC Coupé AMG Plus ราคา 4,090,000 บาท

All-New-Toyota-Commuter-2019

Toyota เปิดตัว Toyota Hiace และ Commuter (โตโยต้า ไฮเอช – คอมมิวเตอร์) ใหม่! เจเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวอน่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย ถือเป็นโฉมใหม่ที่ปฏิวัติการออกแบบใหม่หมด (ที่ไม่ใช่รถตู้หน้าตัดแบบเดิมๆ อีกต่อไป) ครั้งแรกในรอบ 15 ปี

ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร พร้อมทั้งตอบสนองนโยบายภาครัฐ ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนน ภายใต้แนวคิด “Hiace Pride” ที่จะมอบ “ความภูมิใจ” (Pride) “ความอุ่นใจ” (Peace of mind) และ “ความพึงพอใจ” (Satisfaction) ให้กับผู้เป็นเจ้าของ

All-New-Toyota-Commuter-2019

Toyota Hiace เป็นรถตู้อนุกรมแรกของ Toyota ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1967 และขายเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มียอดขายสะสมมากถึง 6.3 ล้านคัน ใน 150 ประเทศทั่วโลก โดยโฉมก่อนหน้านี้ Toyota ได้แบ่ง Hiace ออกเป็น 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ เวอร์ชั่นตลาดโลก และ เวอร์ชั่นยุโรป (ที่หน้าตาแบบเดียวกับ Toyota Grandvia รุ่นเก่า)

All-New-Toyota-Commuter-2019

สำหรับ All-new Toyota Hiace ใหม่ Takuo Ishikawa หัวหน้าวิศวกรของ Hiace ใหม่ ได้พัฒนารถขึ้นบนแนวคิด “Hiace Pride” และนำแนวคิดของ TNGA (Toyota New Global Architecture) มาใช้ในการออกแบบตัวรถ (แต่รุ่นนี้ ไม่ได้ใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA ที่ใช้ในรถ Toyota หลายๆ รุ่น)

สำหรับ Commuter โฉมนี้ผลิตในประเทศไทย ที่ TAW (Thai Auto Works) ส่วนรุ่น Hiace ผลิตจากในประเทศญี่ปุ่น

All-New-Toyota-Commuter-2019

มิติตัวรถ Hiace ช่วงสั้น / หลังคาเตี้ย Commuter ช่วงยาว / หลังคาสูง
ยาว 5,265 มม. [+570 มม.] 5,915 มม. [+535 มม.]
กว้าง 1,950 มม. [+255 มม.] 1,950 มม. [+70 มม.]
สูง 1,990 มม. [+10 มม.] 2,280 มม. [-5 มม.]
ระยะฐานล้อ 3,210 มม. [+640 มม.] 3,860 มม. [+750 มม.]

ตัวรถความยาวเพิ่มขึ้น 570 มม. (ย้ายเครื่องยนต์จากที่อยู่บริเวณเบาะด้านล่าง มาเป็นด้านหน้าของตัวรถ เพื่อความปลอดภัย) ส่วนความกว้างเพิ่มขึ้น 255 มม. และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 640 มม. (ในรุ่นมาตรฐาน หรือช่วงสั้น)

All-New-Toyota-Commuter-2019

สำหรับ 5 จุดเด่นสำคัญ ของ Hiace และ Commuter ใหม่ มีดังนี้

1. คอมมิวเตอร์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาทางด้าน “คุณภาพ” (Quality) “ความทนทาน” (Durability) “ความน่าเชื่อถือ” (Reliability) เพื่อสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

2. ความนุ่มนวลและความคล่องตัวที่ดียิ่งกว่า- ดีไซน์ใหม่แบบ Semi-Bonnet (เซมิ-บอนเน็ต) และการวางอุปกรณ์ซับเสียงที่พิถีพิถัน ทำให้ความเงียบภายในห้องโดยสารดีขึ้น- โครงสร้างแบบวงแหวน (Ring frame) ที่มีความแข็งแรง ลดการสั่นสะเทือนและทำให้ขับขี่สบายยิ่งขึ้น- ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท (Macpherson Strut) และด้านหลังแบบแหนบใหม่ มอบความสบายที่เหนือระดับให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร บนทุกสภาพถนน – องศาล้อที่หันได้มากยิ่งขึ้น ทำให้การขับขี่มีความคล่องตัว ไม่ว่าในขณะกลับรถ หรือการถอยจอด

3. สมรรถนะด้านความปลอดภัยล่าสุด – เครื่องยนต์วางหน้า พร้อมคานเหล็กที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม – ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้า ที่พร้อมปกป้องผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า – ระบบมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน มั่นใจตลอดการเดินทาง ได้แก่ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC

4. สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งกำลังสูงสุดและแรงบิดสูงสุด แต่ยังคงประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด และระบบส่งกำลังแบบธรรมดา 6 สปีด เพื่อความมั่นใจในการขับขี่สูงสุด และสามารถรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20 ได้

5. อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่มอบอรรถประโยชน์ด้านการใช้งานอย่างแท้จริง

ยังคงมีให้เลือกทั้งในรุ่นช่วงสั้น หลังคาเตี้ย (Hiace) รุ่นช่วงยาว หลังคาสูง (Commuter) ที่มาพร้อม 12 ที่นั่ง หรือ 17 ที่นั่ง ฐานล้อยาวพิเศษ หรือจะเป็นตู้ทึบขนของ (ECO) ที่เพิ่มความนุ่มนวล การทรงตัว และการเก็บเสียงภายในที่ดียิ่งขึ้น

All-New-Toyota-Commuter-2019

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,200 รอบ/นาที ส่วนในรุ่น Hiace แรงม้าขึ้นมาเป็น 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 2,600 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift แบบเดียวกับใน Hilux Revo

All-New-Toyota-Commuter-2019

ระบบความปลอดภัย…เต็มรูปแบบ ให้คุณมั่นใจยิ่งกว่าที่เคย

  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย 3 ตำแหน่ง  ด้วยถุงลมด้านคนขับ 2 ตำแหน่ง และผู้โดยสารด้านหน้า 1 ตำแหน่ง
  • Annular Frame Structure โครงสร้างห้องโดยสารที่ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยป้องกันการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • ไฟกระพริบเมื่อเบรกกระทันหัน (Emergency Stop Signal)
  • ระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobilizer Alarm)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ป้องกันรถไหลในขณะออกตัวบนทางลาดชัน
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) ช่วยป้องกันล้อล็อก และลื่นไถลเมื่อรถเบรกกระทันหัน
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ช่วยควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคง ขณะเข้าโค้งบนถนนที่เปียกลื่น
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ช่วยควบคุมและป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรี ซึ่งเป็นสาเหตุให้รถเสียการทรงตัว

All-New-Toyota-Commuter-2019

All-New-Toyota-Commuter-2019

ราคาของ Toyota Hiace และ Commuter ใหม่ ที่ขายในไทย / Toyota Hiace and Commuter Price. Shown in Thai Baht.

– รุ่น ECO ตู้ทึบ ราคา 999,000 บาท (มีเฉพาะสีขาว)
– รุ่น GL หลังคาเตี้ย ราคา 1,079,000 บาท
– รุ่น Commuter 6M/T ราคา 1,269,000 บาท
– รุ่น Commuter 6A/T  ราคา 1,299,000 บาท

All-New-Toyota-Hiace-2019

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษ โดยร่วมกับ Toyota Leasing (Thailand) สนับสนุนแพคเกจการขาย เริ่มดาวน์แค่เพียง 10% หรือผ่อนนาน 84 เดือน เพื่อช่วยให้ลูกค้าลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนต่อเดือนมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน

Carro-All-New-Suzuki-Ertiga

Suzuki Ertiga ใหม่ Unlock Your Life! ในราคา 655,000 – 695,000 บาท

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างปรากฏการณ์ Way of Life! ครั้งใหม่ เปิดตัว All New Suzuki Ertiga อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชูจุดเด่นการเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและความปลอดภัย พร้อมที่จะนำคุณ Unlock Your Life ปลดล็อกอีกด้านของชีวิต คาดสิ้นปี มียอดขายทะลุ 2,500 คัน

Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า) เจเนอเรชั่นแรก เปิดตัวเมื่อปี 2555 คืออีกหนึ่งความสำเร็จ สามารถสร้างยอดขายสะสมจนถึงปัจจุบันได้กว่า 732,000 คันทั่วโลก  และ Suzuki Ertiga เจนเนอเรชั่นที่ 2 ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับ Ertiga ให้ก้าวล้ำไปกว่าเดิม

Suzuki ได้ Repositioning ควบคู่ไปกับการดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาดตามแผนปี 2562  เพื่อให้รถยนต์รุ่นใหม่เป็นที่ยอมรับ และดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่กำลังสร้างอนาคตของตัวเองร่วมกับคนใกล้ตัว

จุดเด่นๆ ของ Suzuki Ertiga ใหม่

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

สำหรับรูปโฉมภายนอก All New Suzuki Ertiga พัฒนาให้เป็นรถ 7 ที่นั่ง ตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม สะดุดตาด้วยไฟท้าย LED และล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

มีมิติตัวรถยาว 4,395 มม. กว้าง 1,735 มม. สูง 1,690 มม. ระยะฐานล้อ 2,740 มม. ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 180 มม. มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น GL และ GX (รุ่น Top)

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

ห้องโดยสารภายในดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง พื้นที่ภายในขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง กว้างขวาง โปร่งสบาย สามารถปรับเปลี่ยนได้ พวงมาลัย D-shape ออกแบบมาเป็นพิเศษเพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ และคอนโซลลายไม้แบบเล่นระดับ

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย อาทิ ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start มีแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง พร้อมช่องวางเครื่องดื่มที่สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นของเครื่องดื่มได้นานยิ่งขึ้น

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

ใช้เครื่องยนต์ใหม่ K15B 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุดถึง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทนทานด้วยโครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ ระบบ NVH ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

มั่นใจในความปลอดภัยด้วยระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล ระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็กอีกด้วย

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

All New Suzuki Ertiga มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Radian Red, Magma Grey, Pearl White Snow (*สีขาวเพิ่ม 5,000 บาท) และ Prime Cool Black

ราคาของ Suzuki Ertiga ใหม่

– รุ่น GL AT ราคา 655,000 บาท
– รุ่น GX AT ราคา 695,000 บาท

ราคาพิเศษถึงวันที่ 30 เมษายน 2562

ตารางเงินผ่อน / เงินดาวน์ Suzuki Ertiga ใหม่ (ดอกเบี้ย -%)

Coming Soon

New-Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail โฉมใหม่ ออพชั่นจัดเต็ม! ในราคา 1,350,000 – 1,617,000 บาท

นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล) ใหม่ รถยนต์ SUV ที่ขายดีที่สุดในโลก*

เอ็กซ์เทรล ใหม่ เปิดตัวพร้อมกันทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และแบบไฮบริดรายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี ให้ความสะดวกทุกการเดินทาง ทั้งการบรรทุกของ หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ แม้กระทั่งการท่องเที่ยว ที่ต้องพกอุปกรณ์ และกระเป๋าเดินทางหลายๆ ชิ้น

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงที่ให้ความบันเทิงรุ่นใหม่แบบ A-IVI เพิ่มความหรูหราและตอบสนองกับสไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

New-Nissan-X-Trail-2019

สำหรับรูปโฉมภายนอก มีการเพิ่มสีตัวถังใหม่ สปอยเลอร์หลัง รางหลังคา และพานอรามิกซันรูฟอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็กซ์เทรล ที่ให้ผู้โดยสารมีความเพลิดเพลินจากบรรยากาศภายนอกได้มากกว่าผ่านกระจกขนาดใหญ่

New-Nissan-X-Trail-2019

มีมิติตัวรถยาว 4,690 มม. กว้าง 1,820 มม. สูง 1,740 มม. ระยะฐานล้อ 2,705 มม. ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 210 มม. มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น 2.5S 2WD, 2.5V 2WD, 2.5VL 4WD, 2.0V 4WD Hybrid และ 2.0VL 4WD Hybrid

จุดเด่นๆ ของ Nissan X-Trail ใหม่

New-Nissan-X-Trail-2019

ด้านหน้า กระจังหน้ารูปตัววี หรือ “V-motion” พร้อมไฟตัดหมอก และไฟ LED Daytime Running Light ปรับกันชนหน้า-หลัง ใหม่ บานจับประตูด้านข้างแบบโครเมียม เปลี่ยนล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ในรุ่น 2.5VL 4WD ติดตั้งราวหลังคา และพาโนรามิกซันรูฟ ใช้กระจกกว้างขึ้น

New-Nissan-X-Trail-2019

ห้องโดยสารภายใน มีทั้งแบบ 5+2 ที่นั่ง (ในรุ่น 2.5 ลิตร) และ 5 ที่นั่ง (ในรุ่น Hybrid 2.0 ลิตร) มีระบบเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบแฮนด์ฟรี พวงมาลัยแบบใหม่ D-Shaped ทรงสปอร์ต ติดตั้งระบบความบันเทิงรูปแบบใหม่ A-IVI

New-Nissan-X-Trail-2019ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร

New-Nissan-X-Trail-2019

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมโรเตอร์สวิตช์ (4x4i with Roter Switch) ช่วยการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด สามารถเลือกโหมดการขับเคลื่อนได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ 2WD, 4WD Auto และ 4WD Full-Time

พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย ภายใต้เทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility ประกอบด้วย

  • เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
  • เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
  • เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Forward Collision Warning (FCW)
  • เทคโนโลยีเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking (FEB)
  • เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
  • เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning (LDW)
  • เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) ซึ่งให้มุมมองรอบตัว 360 องศา จากกล้อง 4 ตัว ที่ติดตั้งอยู่รอบตัวรถ

Nissan X-Trail ใหม่ มาพร้อมสีภายนอก 6 สีให้เลือก ได้แก่ สีแดง เรเดี้ยนเรด, สีดำ แบล็คสตาร์, สีขาว สตอร์มไวท์, สีเงิน บริลเลี่ยนซิลเวอร์, สีเทา ดีพไอริสเกรย์ และสีใหม่ ส้ม โมนาร์ช (Monarch Orange) เป็นสีโปรโมท

New-Nissan-X-Trail-2019

ราคาของ Nissan X-Trail ใหม่

แบบเบนซิน – รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท
– รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท
– รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท
แบบ Hybrid
– รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท
– รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

ระยะเวลาแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 4 – 28 กุมภาพันธ์ 2562

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • อัตราดอกเบี้ย 0.99% (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระ 24-60 เดือน)*
  • ฟรี แพ็คเกจเช็คระยะเซฟเซฟ (SAVE SAFE) 5 ปี หรือ 100,000 กม.

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

New-Nissan-X-Trail-2019

ตารางเงินผ่อน / เงินดาวน์ Nissan X-Trail ใหม่ (ดอกเบี้ย 0.99%)

รุ่น/ราคา
เงินดาวน์
ยอดจัด
ราคาผ่อน-ดาวน์
48 เดือน 60 เดือน 72 เดือน 84 เดือน
2.5S / 1,350,000 บาท
15% 202,500 1,147,500 26,536 22,042 19,189
20% 270,000 1,080,000 24,705 20,295 17,520
25% 337,500 1,012,500 23,077 18,942 16,298
2.5V / 1,460,000 บาท
15% 219,000 1,241,000 28,698 23,838 20,752
20% 292,000 1,168,000 26,718 21,949 18,948
25% 365,000 1,095,000 24,957 20,486 17,626
2.5VL 4WD/ 1,660,000 บาท
15% 249,000 1,411,000 32,629 27,103 23,595
20% 332,000 1,328,000 30,378 24,955 21,543
25% 415,000 1,245,000 28,376 23,292 20,041
2.0V Hybrid 4WD / 1,537,000 บาท
15% 230,550 1,306,450 30,212 25,095 21,847
20% 307,400 1,229,600 28,127 23,106 19,947
25% 284,250 1,152,750 26,273 21,566 18,556
2.0VL Hybrid 4WD/ 1,617,000 บาท
15% 242,550 1,374,150 31,784 26,401 22,984
20% 323,400 1,293,600 29,591 24,309 20,985
25% 404,250 1,212,750 27,641 22,689 19,522

*จากการสำรวจยอดขายรถยนต์ของจาโต ไดนามิกส์ (JATO Dynamics) บริษัทจัดทำข้อมูลยานยนต์ระดับโลกระบุว่า Nissan X-Trail เป็นรถ SUV ที่มียอดขายสูงสุดในโลกประจำปี 2560 มียอดขายกว่า 810,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 6.25% จากปีก่อนหน้า และยังเป็นรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก อันดับที่ 4 ในปีเดียวกันอีกด้วย

All-New-Honda-Accord-2019

Honda เผยขุมพลังขับเคลื่อนใหม่ ใน “Honda Accord ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10”

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10” มาพร้อมครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ใหม่ 190 แรงม้า ที่ทรงพลังเหนือกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ในรุ่นเดิม ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่

นับเป็นยนตรกรรมพรีเมียมซีดาน ที่มีดีไซน์ภายนอกและภายในหรูหราสง่างามกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเหนือระดับ และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING)

All-new-Honda-Accord-2019

ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชั่นที่ 10 เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก เมื่อปี 2560 และสามารถคว้ารางวัลเกียรติยศจากสถาบันชั้นนำด้านยานยนต์ในตลาดสำคัญทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ ภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียม ความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของพรีเมี่ยมซีดานรุ่นนี้ รวมทั้งตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าและการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในวงการรถยนต์ที่มีต่อฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชั่นที่ 10 ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ ภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมและความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี

All-new-Honda-Accord-2019

แนวคิดการออกแบบ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10

ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชั่นที่ 10 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดหลัก “Absolute Confidence” เพื่อสร้างมาตรฐานยนตรกรรมพรีเมียมซีดานให้เหนือระดับไปอีกขั้น โดยมีหลัก 3 ประการในการพัฒนา ได้แก่

  • Dynamics – ความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว ทั้งในด้านดีไซน์ และสมรรถนะการขับขี่
  • Captivating – ความมีเสน่ห์และน่าดึงดูดของรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
  • Upscale – ยกระดับคุณภาพการพัฒนายนตรกรรม ให้สง่างาม และเหนือระดับเกินคลาส

All-new-Honda-Accord-2019

การออกแบบภายนอก

รูปลักษณ์ของฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10 นับเป็นการปฏิวัติดีไซน์จากทุกรุ่นที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ด้วยการผสานความหรูหราสง่างามกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ประณีตในทุกรายละเอียด เส้นสายที่ปราดเปรียวและเฉียบคม สะท้อนความหรูหราและสปอร์ตมากกว่าที่เคยมีมา และเป็นครั้งแรกกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ที่เรียกว่า Laser Blaze ในการออกแบบตัวถัง เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคารถและตัวถัง สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียมของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียม ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้า พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายดีไซน์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ แบบ LED พร้อมด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นเทอร์โบ และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นไฮบริด

All-New Honda Accord มีมิติตัวรถยาว 4,894 มม. กว้าง 1,862 มม. สูง 1,450 มม. ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 131.3 มม. และน้ำหนักตัวรถ 1,464 – 1,568 กิโลกรัม

All-new-Honda-Accord-2019

การออกแบบภายใน

ห้องโดยสารของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10 ได้รับการออกแบบให้กว้างขวาง สะดวกสบาย มากยิ่งขึ้น ผสมผสานความความสปอร์ตพรีเมียมได้อย่างลงตัว ผ่านการใช้โครงสร้างเส้นสายในแนวนอน เพื่อทำให้บริเวณคอนโซลกลางโปร่งโล่ง และส่งผลให้มีพื้นที่ช่วงขามากขึ้น อีกทั้งมอบทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่

All-new-Honda-Accord-2019

สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) เป็นต้น

All-new-Honda-Accord-2019

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนที่สปอร์ตเร้าใจ 2 รุ่น ได้แก่

All-new-Honda-Accord-2019

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิด 243
นิวตัน-เมตร จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbocharger) ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้สมรรถนะการขับขี่มากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กม/ลิตร ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรในรุ่นเดิม โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย

All-new-Honda-Accord-2019

ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ ได้แก่

  • โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
  • โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และ
  • โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

และยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่สนุกสนานเร้าใจ โดยระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กม./ลิตร
อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร

All-new-Honda-Accord-2019

มาตรฐานด้านความปลอดภัย

เหนือระดับด้วยอีกขั้นของ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ รวมถึงเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนในทุกการเดินทาง ได้แก่

  • ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมียม ที่จะติดตั้งในรุ่นที่จะขายในไทย อาทิ

  • ระบบกล้องส่องภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System)
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System)
  • ระบบเตือนเมื่อรถยนต์เคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor)

All-new-Honda-Accord-2019

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวแพลทินัม (มุก), สีดำคริสตัล (มุก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีไอวอรี่เบจ, สีดำ และ
สีน้ำตาล (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) ซึ่งขึ้นอยู่กับสีตัวรถภายนอก โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่

  • รุ่น TURBO EL             ราคา 1,475,000 บาท
  • รุ่น HYBRID                 ราคา 1,639,000 บาท
  • รุ่น HYBRID TECH    ราคา  1,799,000 บาท

ทั้งนี้ สามารถเลือก ชุดอุปกรณ์ตกแต่งระดับพรีเมียมโมดูโล (Modulo) รอบคัน ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ได้แก่

  • Modulo Aero Supreme Package ราคา 43,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น สปอยเลอร์หลัง แบบดักเทล กระจังหน้าแบบสปอร์ต และคิ้วกันชนหลังโครเมียม
  • Modulo Aero Sport Package ราคา 30,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และสปอยเลอร์หลัง แบบดักเทล
  • Modulo Aero Smart Package ราคา 22,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น

รายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จาก https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-accord/

Honda-Accord-Promotion-5-8-2019

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เมื่อจอง ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ รุ่น TURBO EL ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 – 31 พฤษภาคม 2562 และรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 – 31 กรกฏาคม 2562 หรือเมื่อจองฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ รุ่น HYBRID หรือ HYBRID TECH ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 – 30 มิถุนายน 2562 และรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 – 31 สิงหาคม 2562 รับนาฬิกา Garmin ( Garmin Smartwatch) Limited Edition รุ่น Forerunner 645 Music สี Slate มูลค่า 16,990 บาท

  • บริษัทฯ จะจัดส่ง Garmin Smartwatch ผ่านทางผู้จำหน่ายที่ลูกค้ารับรถยนต์ ภายใน 30 วันหลังเดือนที่รับรถยนต์
  • สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน / คืน / ทอน เป็นเงินสด และไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้อื่นได้
  • สงวนสิทธิ์ในการรับสิทธิพิเศษ 1 คันต่อ 1 สิทธิ์ตลอดรายการส่งเสริมการขาย
  • ไม่ครอบคลุมลูกค้าที่ซื้อในลักษณะเชิงพาณิชย์ เช่น ขายกลุ่ม (Fleet) หรือเช่า (Leasing) หรือรถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรณีมีข้อพิพาท คำตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด

สัมผัสและทดลองขับ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ รุ่นเทอร์โบได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป
ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive และพบกับรุ่นไฮบริด พร้อมทดลองขับได้ในเดือนกรกฎาคม 2562 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/accord

หมายเหตุ:

– อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

– สีภายในแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีภายนอก

– สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท

Carro-The-10-Best-In-Motor-Expo-2018

10 “ที่สุด” ในงาน Motor Expo ที่คุณยังไม่รู้ หรืออาจจะรู้ไม่หมด!

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” หรือ “Motor Expo 2018” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบนั้น …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย Carro ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2018” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ถูกที่สุด

TATA-Super-Ace-Mint

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ยังคงเป็น “TATA Super Ace Mint” (ทาทา ซูเปอร์ เอช มินท์) รถกระบะขนาดเล็กของแดนภารตะ ที่มาในราคาเพียง 365,000 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร แบบ 4 สูบ คอมมอนเรล Di Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

แพงที่สุด

Rolls-Royce-Phantom

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2018 นั่นก็คือ “Rolls-Royce Phantom” (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) รถยนต์นั่งสุดหรูจากโรลส์-รอยซ์ ในราคา 53,500,000 บาท! มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร แบบ V12 Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 910 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 รอบ/นาที ประดุจดั่งนั่งพรมวิเศษเลยทีเดียว

เร็วที่สุด

Mercedes-AMG-GT-R

เร็วที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ต้องยกให้ “Mercedes-AMG GT R” (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที อาร์) จัดเป็นอสูรกายแห่ง Green Hell พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของ AMG ในการพัฒนารถยนต์จากรถแข่งสู่สุดยอดรถสปอร์ต ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ระบบไดเรคอินเจคชั่น 585 แรงม้า และระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด ทำให้ Mercedes-AMG GT R น่าตื่นตาตื่นใจด้วยความเร็วสูงสุด 318 กม./ชม. และการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.6 วินาที

รถ EV (รถยนต์ไฟฟ้า) ถูกที่สุด

Fomm-One

รถ EV ที่ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ครั้งนี้ ต้องยกให้กับรถไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง “FOMM One” (ฟอมม์ วัน) เป็นรถไฟฟ้า 4 ที่นั่ง ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองมาก จดทะเบียนได้ ชาร์จไฟเพียงครั้งละ 6 ชม. สามารถวิ่งได้ระยะทางมากถึง 160 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม. เลยทีเดียว สนนราคาเริ่มอยู่ที่ 599,000 บาท

เก่าที่สุด

Lancia-Aprillia

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Lancia Aprillia” (แลนเซีย อาพริเลีย) ซึ่งผลิตระหว่างปี 1937-1939 จำนวนผลิตรวม 14,704 คัน เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ Vincenzo Lancia ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ใช้เครื่องยนต์ V4 ขนาด 1,352 ซีซี 46 แรงม้า ถือเป็นรถที่เก่าที่สุดในงานครับ

ใหญ่ที่สุด

Thairung-Traveller

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Expo 2018 ครั้งนี้ ต้องยกให้ “Thairung TRaveller” (ไทยรุ่ง ทราเวลเลอร์) หรือ “ไทยรุ่ง มินิบัส” ยาว 7 เมตร มี 20 + 1 ที่นั่ง ผลิตโดยไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการออกแบบ ดัดแปลงรถยนต์ มากว่า 50 ปี ด้วยเครื่องยนต์คุณภาพจาก Isuzu และตัวรถแบบเดียวกับ Toyota Coaster รุ่นเก่า ในราคา 2,150,000 บาท

รถ SUV เร็วที่สุด

Lamborghini-Urus

รถ SUV ที่เร็วที่สุดในงาน Motor Expo 2018 นั่นคือ Lamborghini Urus (ลัมโบร์กินี อูรูส) ในราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 23,420,000 บาท กับ Super SUV คันแรกของโลก ที่ถ่ายทอด DNA ของลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ผสมผสานกับความเอนกประสงค์ของรถ SUV ที่มาพร้อมคำนิยามว่า “Since We Made It Possible” ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo ให้พละกำลัง 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดกว่า 300 กม./ ชม. 

รถ SUV แพงที่สุด

Rolls-Royce-Cullinan

รถ SUV แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ต้องยกให้ “Rolls-Royce Cullinan” (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) โดยรถรุ่นนี้ตั้งชื่อตามเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่เคยถูกค้นพบ จัดเป็น SUV รุ่นแรกจากค่าย โรลส์-รอยซ์ จับกลุ่มลูกค้าชาวไทยอายุน้อย ที่มีรายได้สูง มาพร้อมเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ V12 Twin-Turbo ขนาด 6.75 ลิตร ที่ปรับปรุงใหม่ (แรงบิด 850 นิวตันเมตรที่ 1,600 รอบ/นาที) และเกียร์ 8 สปีดที่นุ่มนวลที่สุดในโลก สำหรับการขับขี่ออฟโรด ในราคาสูงสุดที่ 32,900,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

Harley-Davidson-CVO-Limited-2019

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2018 ต้องยกให้ “Harley-Davidson CVO Limited” (ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ซีวีโอ ลิมิเต็ด) เช่นเคย ในราคา 3,124,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุด

Lifan-Vintage-LF110

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2018 นั่นคือ “Lifan Vintage LF110” (ลี่ฟาน วินเทจ แอลเอฟ110) ในราคา 28,000 บาท

Motor-Expo-2018-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2018 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ เม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 5.6 หมื่นล้าน รถหรู รถเก๋ง รถ SUV Crossover ขายดี เกือบ 45,000 คัน สวนกระแสเศรษฐกิจ!!!

สำหรับยอดขายรถยนต์จาก 36 ผู้ผลิต มีจำนวนทั้งสิ้น 44,189 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.9% โดย 5 อันดับสูงสุดได้แก่ อันดับ 1 Honda 6,842 คัน อันดับ 2 Mazda 6,509 คัน อันดับ 3 Toyota 5,907 คัน อันดับ 4 Isuzu 4,437 คัน และอันดับ 5 Mitsubishi 3,619 คัน

รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 38.9% ใกล้เคียงปีก่อน (38.7%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 25.4% และแฮทช์แบค 13.5% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda Civic, Honda City, Mazda2, Honda Jazz และ MG3

Motor-Expo-2018-View

ขณะที่รถ SUV มีสัดส่วน 34.3% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย (33.9%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Mitsubishi Pajero Sport, MG ZS, Honda CR-V, Honda HR-V และ Ford Everest

รถกระบะมีสัดส่วน 17.2% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (17.9%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Ford Ranger, Isuzu D-Max, Mitsubishi Triton, Toyota Hilux Revo และ Nissan Navara

ส่วนรถหรู มียอดขายรวม 4,213 คัน โดย 5 แบรนด์ ที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ Mercedes-Benz, BMW, Volvo, Audi และ Porsche

รถจักรยานยนต์จาก 23 ผู้ผลิต ยอดขายรวม 9,169 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ อันดับ 1 ได้แก่ Honda 1,531 คัน อันดับ 2 Yamaha 1,111 คัน อันดับ 3 Lambretta 1,012 คัน อันดับ 4 Kawasaki 775 คัน และ อันดับ 5 Vespa 605 คัน

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,286,898 บาท (ปีก่อน 1,271,837 บาท) เงินหมุนเวียนภายในงานราว 56,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,534,961 คน เพิ่มขึ้น 12.8%

สรุป

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 44,189 คัน (หากรวมยอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย เป็น 53,358 คัน)

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2018 วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 (CARRO Update ล่าสุดทุกวัน)

1. Honda 6,842 คัน

Honda-CR-V-5-Seats

2. Mazda 6,509 คัน

Mazda-CX-3

3. Toyota 5,907 คัน

Toyota-Camry-TRD-Sportivo

4. Isuzu 4,437 คัน

Isuzu-D-Max-Stealth

5. Mitsubishi 3,619 คัน

Mitsubishi-Triton-Minorchange

6. MG 2,369 คัน

MG3-Limited-Edition

7. Mercedes-Benz 2,294 คัน

Mercedes-AMG-CLS53

8. Nissan 2,212 คัน

Nissan-Teana-Minorchange

9. Ford 1,914 คัน

Ford-Ranger-Raptor-Motor-Expo

10. Suzuki 1,805 คัน

Suzuki-Swift-2018

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ได้ที่นี่ >> http://th.carro.co/blog/motor-expo-2017-booking/

สำหรับผู้ที่ซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2018 ไปแล้ว แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ขายรถง่ายๆ ได้ราคาดี กับ CARRO Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

New-Car-In-Motor-Expo-2018

รถใหม่หลายรุ่น เปิดตัวก่อนงานและในงาน Motor Expo 2018

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” หรือ The 35th Thailand International Motor Expo 2018 ภายใต้แนวคิด “ขับสนุก ! ก่อนยุคไร้คนขับ” หรือ “Enjoy Driving! Before Driverless Era” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี พร้อมนำรถรุ่นใหม่ๆ ทั้งที่เปิดตัวก่อนงานเริ่ม และภายในงานของปีนี้ มีมาให้ชมกันมากมายหลายรุ่น

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2018 กันตั้งแต่กลางเดือนกันยายน มาจนถึงในเดือนพฤศจิกายน บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ไปแล้วหลายค่าย CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

Toyota Camry

All-New-Toyota-Camry-2018

Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี) รุ่นใหม่ล่าสุด มาโชว์ในงาน Motor Expo 2018 ด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถิพิถัน พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือใคร จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่ช่วยผสานยนตรกรรมกับผู้ขับขี่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 167 แรงม้า, 2.5 ลิตร 209 แรงม้า และแบบ Hybrid 2.5 ลิตร Dynamic Force 178 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ในราคา 1,445,000 – 1,799,000 บาท

Toyota Fortuner TRD Sportivo

Toyota-Fortuner-TRD-Sportivo-2018

Toyota Fortuner TRD Sportivo (ฟอร์จูนเนอร์ ทีอาร์ดี สปอร์ตติโว่) ใหม่ รุ่น 2.8 ขับเคลื่อนสี่ล้อ และรุ่น 2.8 ขับเคลื่อนสองล้อ เป็นการกลับมาโดยยกระดับความสปอร์ต และทันสมัยมากขึ้น ทั้งภายนอกภายใน คู่กับสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ขนาด 2.8 ลิตร 177 แรงม้า และชุดแต่งช่วงล่างเฉพาะรุ่น TRD Sportivo

ครั้งนี้มาพร้อมกับตัวรถ 2 สี ได้แก่ สีขาวมุก White Pearl Crystal พร้อมหลังคาแบบสปอร์ตสีดำ Black Top และสีดำ Attitude Black Mica ในราคา …

สีขาวมุก White Pearl Crystal / Black Top

  • รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD 1,719,000 บาท*
  • รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD 1,789,000 บาท*

สีดำ Attitude Black Mica

  • รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD 1,699,000 บาท*
  • รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD 1,769,000 บาท*

***ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

Honda Accord

Honda-Accord-2018

เป็นไปตามคาด สำหรับ Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) ใหม่ล่าสุด เตรียมโชวช์ตัวก่อนในงาน Motor Expo 2018 เพื่อดับรัศมีของรถค่ายคู่แข่ง ก่อนเปอิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในต้นปี 2562 นี้ …

เสริมด้วย 2 ขุมพลัง ทั้งเครื่องยนต์ Turbo รุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ใหม่ ซึ่งเป็นระบบ Full Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 3 มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม และเหนือระดับด้วยอีกขั้นของ เทคโนโลยีความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING)

Nissan Teana

Nissan-Teana-2018

Nissan (นิสสัน) เผยโฉม Nissan Teana (นิสสัน เทียน่า) ใหม่ ภายใต้แนวคิด “Energetic Flow” หรือ ดีไซน์ที่ทรงพลัง สง่างาม ปราดเปรียว พร้อมลายเส้นที่พลิ้วไหวจากภายนอกสู่ภายในที่กว้างขวางสไตล์สปอร์ต พร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในเรื่องความปลอดภัยจากเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 136 แรงม้า และขนาด 2.5 ลิตร 173 แรงม้า ในราคา 1,339,000 – 1,674,000 บาท

MG3 Limited Edition

MG3-Limited-Edition-2018

MG (เอ็มจี) ประเทศไทย เปิดตัว MG3 ลิมิเต็ด เอดิชั่น (เอ็มจี3 ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ความสนุกไม่ได้จำกัดที่สีสัน อัพเกรดความสมาร์ทด้วยการนำ รุ่น X มาทำสีขาวหลังคาดำ เพิ่มสปอยเลอร์หลัง และสเกิร์ตข้าง ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น

ให้ความสนุกในการขับขี่จากครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 112 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติใหม่แบบ Torque Converter พร้อมระบบความปลอดภัยแบบครบครัน

Subaru Forester

Subaru-Forester-2018

Subaru (ซูบารุ) เตรียมเปิดตัว Forester (ฟอเรสเตอร์) ใหม่ อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เปิดตัวรุ่น Outback (เอาท์แบ็ค) ใหม่ ไปเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา นำเสนอประสบการณ์การตอบสนองในการขับขี่อันดีเยี่ยม ด้วยระบบ STABLEX-Ride เพื่อการขับขี่ที่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น และระบบ X-Mode ช่วยให้ควบคุมเครื่องยนต์ได้มีประสิทธิภาพ พ่วงด้วยระบบ Symmetrical All-Wheel Drive (S-AWD) ตลอดจนความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจมากยิ่งขึ้น

คาดว่ามาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์สูบนอน ขนาด 2.5 ลิตร 184 แรงม้า ที่พัฒนาดีขึ้น ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีน้ำหนักเบาลง ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ CVT (ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบ e-Boxer คงต้องรอดูว่ามีมาขายหรือไม่)

Mitsubishi Triton

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เผยโฉม “Mitsubishi Triton” (มิตซูบิชิ ไทรทัน) หรือ “L200” โฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกของโลกในไทย ภายใต้แนวคิด “Engineered Beyond Tough” ที่งาน Motor Expo 2018 โดดเด่นด้วยหน้าตาภายนอกใช้ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น และกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield

ในรุ่น Single Cab 4WD, Mega Cab Plus, Double Cab Plus และ Double Cab 4WD ใช้ขุมพลังแบบดีเซลขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด แบบใหม่พร้อม Sport Mode ในราคา 524,000 – 1,099,000 บาท

Isuzu D-Max Hi-Lander Stealth

Isuzu-D-Max-Hi-Lander-Stealth-2018

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัวรุ่นพิเศษเหมือนเช่นทุกปี กับ Isuzu D-Max Hi-Lander Stealth (อีซูซุ ดีแม็คซ์ ไฮ-แลนเดอร์ สเทลธ์) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ Stealth ที่มีภาพลักษณ์ความแข็งแกร่ง ดุดัน มาพร้อมชุดกระจังหน้าทรงพลัง ชุดแต่งสเกิร์ตหน้า โดดเด่นด้วยเส้น Stealth Line และสเกิร์ตหน้า กรอบไฟตัดหมอกสีดำ ล้ออัลลอยทูโทน ขนาด 18 นิ้ว และกันชนท้ายดีไซน์ใหม่

ภายในห้องโดยสารสีทูโทน เท่ ล้ำสมัย สไตล์สปอร์ต เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ พร้อมสัญลักษณ์ Stealth ที่แผงข้างประตู ในราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 887,000 บาท

Mercedes-Benz

Mercedes-Benz-C43-4Matic-Coupe-2018

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ต้องถือว่ามีรถเปิดตัวหลากหลายจริงๆ ครับ ในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัว C-Class ใหม่ไปแล้ว 3 รุ่น ได้แก่ The C 220 d Avantgarde ราคา 2,349,000 บาท The C 220 d Exclusive ราคา 2,690,000 บาท และ The C 220 d AMG Dynamic ราคา 2,890,000 บาท

แต่ก็ยังมีรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจเตรียมมาโชว์ในงาน Motor Expo 2018 เช่นเคย ได้แก่ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ และ Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ เป็นต้น

สำหรับราคาของ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé อยู่ที่ 4,220,000 บาท, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ ราคา 12,790,000 บาท และ Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic ราคา 3,450,000 บาท

BMW

BMW-8-Series-Coupe

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เตรียมนำ BMW 8 Series Coupé (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 8) มาโชว์ในงาน Motor Expo 2018 เป็นการกลับมาใหม่อีกครั้งของ “ซีรี่ส์ 8” สร้างความหรูหราและความสปอร์ตแบบสุดขั้ว ห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยวัสดุหรูหรา พร้อมงานเดินตะเข็บอย่างมีสไตล์เข้ากับชุดตกแต่งเกรดพรีเมียมเพิ่มความสปอร์ตเข้ากับลุคสุดหรู

อีกทั้งยังมี The All-New BMW X5 (บีเอ็มดับบลิว เอ็กซ์5) ใหม่ มาโชว์ในงานด้วยครับ

Porsche

Porsche-Cayenne-E-Hybrid-

Porsche (ปอร์เช่) เปิดตัว The new Porsche Cayenne E-Hybrid (ปอร์เช่น คาเยนน์ อี-ไฮบริด) หลังจากที่เปิดตัวไปก่อนหน้านั้นแล้ว สุดแห่งยนตรกรรมพรีเมียม SUV แห่งยุคที่ติดตั้งขุมพลัง E-performance พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุด ผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต ให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด

มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร อัตราการบริโภคน้ำมัน เชื้อเพลิงเฉลี่ย 29.4 – 31.2 กม./ลิตร ในราคา 7,500,000 บาท

Volvo XC40

Volvo-XC40-2018

Volvo (วอลโว่) เปิดตัว The New Volvo XC40 (วอลโว่ เอ็กซ์ซี40) สุดยอด Compact SUV รุ่นแรก พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Designed to Break the Norms” บนแพลตฟอร์มพื้นฐานอย่าง CMA หรือ Compact Modular Architecture ทั้งสปอร์ตและหรูหรา โดดเด่นด้วยไฟหน้า ที่มีรูปทรงจำลองมาจากค้อนเทพเจ้าธอร์

นำเสนอทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ T4 เบนซิน 190 แรงม้า และ T5 AWD 252 แรงม้า ในราคา 2,090,000 – 2,390,000 บาท

Range Rover Sport Plug-in Hybrid

Range-Rover-Sport-Plug-in-Hybrid-2018

Range Rover (เรนจ์ โรเวอร์) เตรียมเปิดตัว Range Rover Sport Plug-in Hybrid (เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด) ที่งาน Motor Expo 2018 แน่นอน ในราคาเริ่มต้น 6,300,000 บาท จากเดิมที่ประกาศราคาเริ่มต้นไว้ที่ 7,399,000 บาท

Lamborghini Urus

Lamborghini-Urus-2018

Lamborghini (ลัมโบร์กินี) ภายใต้การนำของ Renazzo Motor เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) เตรียมเปิดตัว Lamborghini Urus (ลัมโบร์กินี อูรุส) “ซูเปอร์สปอร์ตเอสยูวี” คันแรกของโลก อย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2018 ในราคาประมาณ 20 ล้าน+

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร ให้แรงม้ามากถึง 650 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 305 กม./ชม.

Rolls-Royce Cullinan

Rolls-Royce-Cullinan-2018

Rolls-Royce (โรลส์-รอยซ์) เตรียมเปิดตัว Rolls-Royce Cullinan (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) กับ SUV หรูหราที่สุดของโลกคันแรกของผู้ผลิตรถยนต์สุดหรู ที่เปิดตัวภายใต้สโลแกน “Effortless Everywhere” ใช้เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ 6.75 ลิตร 12 สูบ Twin Turbo 563 แรงม้า มาในงาน Motor Expo 2018 ครั้งนี้แน่นอน

Ford Mustang

Ford-Mustang-2018

Ford (ฟอร์ด) ตัดสินใจนำเข้า Ford Mustang (ฟอร์ด มัสแตง) อย่างเป็นทางการ หวังมัดใจคนชอบรถสปอร์ตดิบๆ สไตล์อเมริกิน มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ประกอบไปด้วย 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack และ 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack พ่วงด้วยออพชั่นมากมาย

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost ความจุ 2.3 ลิตร Turbo 310 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 5.0 ลิตร 460 แรงม้า แรงสะใจ … ในราคา 3,599,000 – 4,799,000 บาท

Aston Martin Vantage

Aston-Martin-Vantage-2018

Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) เปิดตัว Aston Martin Vantage (แอสตัน มาร์ติน แวนทาจ) มาพร้อมรูปลักษณ์น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยเส้นสายบึกบึน ผสานแนวทางการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ดุดันแบบนักล่า สะท้อนคาแรคเตอร์ของสัตว์ป่า ที่ไม่ธรรมดา

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 503 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8จังหวะของ ZF อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.6 วินาที ท็อปสปีด 314 กม./ชม. ในราคา 16,900,000 บาท

Toyota-Camry-Thailand-2018

Camry โฉมใหม่สดทั้งคัน! ในราคา 1,445,000 – 1,799,000 บาท

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว “Toyota Camry 2019” (โตโยต้า คัมรี) รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถิพิถัน พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือใคร จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่ช่วยผสานยนตรกรรมกับผู้ขับขี่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

All-New-Toyota-Camry-2018

Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี) ถือได้ว่าเป็นรถยนต์ขนาดกลางรุ่นหลักของโตโยต้า ที่ขายดิบขายดีออกสู่ตลาดนับตั้งแต่ต้นกำเนิดของ คัมรี ได้รับการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นในปี 2523 ในฐานะรถสปอร์ตซีดานระดับตำนาน อย่าง Celica โดยใช้ชื่อว่า Celica-Camry ปัจจุบันถือว่าออกมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 8 แล้ว ในรหัส XV70 พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม TNGA (Toyota New Global Architecture) เช่นเดียวกับ Toyota C-HR, Prius และ Lexus ES นั่นเอง

โดยปัจจุบันมีจำนวนยอดจำหน่ายสะสมของรถคัมรี ทั่วโลกก้าวเข้าสู่ 20 ล้านคัน (ข้อมูลยอดขายสะสมรวมทั่วโลกตั้งแต่ปี 2525 ถึงกันยายน 2561) สำหรับในประเทศไทยนั้น คัมรี เปิดตัวครั้งแรกในปี 2536 ซึ่งนำเข้าจากออสเตรเลีย และด้วยกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ คัมรี เจนเนอเรชั่นที่ 4 ถูกนำมาประกอบในประเทศไทย เมื่อปี 2542

All-New-Toyota-Camry-2018

ยิ่งไปกว่านั้น Camry เปิดตัวรุ่นไฮบริดครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2552 และ Camry ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายสะสมรวมกว่า 200,000 คัน** (*ข้อมูลยอดขายสะสมของคัมรีรวมถึงเดือนกันยายนปี 2561)

All-New-Toyota-Camry-2018

รูปโฉมภายนอก ดีไซน์ไปทางสปอร์ตซีดานแบบพรีเมี่ยม ที่ผู้บริหารก็สามารถขับได้! ชุดไฟหน้า พร้อมไฟ Daytime Running Light ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED, หลังคามูนรูฟ เปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า กระจกป้องกันเสียงรบกวนและแสงแดด และล้อแม็ก 17 นิ้ว เป็นต้น

All-New-Toyota-Camry-2018

Camry ใหม่ พัฒนาภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change” ปรากฎการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดยได้นำสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ของโตโยต้า TNGA ที่ถือเป็นหลักในการปฏิรูปโครงสร้างและเครื่องยนต์ มาปรับใช้กับคัมรีใหม่นี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายใต้แนวคิดการท้าทายในการผลิตยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่าของโตโยต้า (Ever-Better Cars)

มิติตัวถังยาว 4,885 มม. (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 15 มม.), กว้าง 1,840 มม. (เพิ่มขึ้น 15 มม.), สูง 1,445 มม. (เตี้ยลง 30 มม.) ระยะฐานล้อ 2,825 มม. (เพิ่มขึ้น 50 มม.)

มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น 2,0G, 2.5G, 2.5HV และ 2.5HV Premuim

All-New-Toyota-Camry-2018

ห้องโดยสารภายใน ฉีกแนวการออกแบบเดิมๆ ทิ้งไป เล่นเส้นสายรูปตัว “Y” พร้อมลาย Hybrid Onyx บริเวณแผงคอนโซลกลาง ดุจสายน้ำไหล แต่ยังคงหรูหราเหมือนเดิม มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ มีเครื่องเล่น DVD แบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง

All-New-Toyota-Camry-2018

ระบบหน่วงแรงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายแบบ Qi เป็นต้น

All-New-Toyota-Camry-2018

เบาะนั่งคู่หน้า Seat Ventilator พร้อมกับเบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับเอนได้ (Rear Reclining Seat) และ T-Connect Telematics ระบบที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว ช่วยให้คุณอัพเดตสถานะรถได้ตลอดเวลา

Toyota Camry มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ …

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส 6AE-FBS แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iW ให้แรงม้าสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รองรับแก๊สโซฮอล์ E85

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FKB แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iE ให้แรงม้าสูงสุด 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รองรับแก๊สโซฮอล์ E85

All-New-Toyota-Camry-2018

และแบบ Hybrid เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ใหม่ รหัส A25A-FXS แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iE ให้แรงม้าสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT รองรับแก๊สโซฮอล์ E20

ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Lithium-ion ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้า และแรงบิด 202 นิวตันเมตร โดยทั้งสองระบบ ให้แรงม้าสูงสุด 211 แรงม้า

All-New-Toyota-Camry-2018

จากเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ที่ถูกนำมาใช้กับเหล็กกล้าคุณภาพเยี่ยม ทำให้โครงสร้างตัวถังรถมีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงบิด นอกจากนั้นตัวรถยังได้รับการออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ทรงตัวดีเยี่ย พร้อมด้วยระบบช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) ทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ที่สำคัญยังคงไว้ซึ่งความนุ่มสบายและความเงียบตลอดการเดินทาง

Toyota-Camry-JDM-2018

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาระบบส่งกำลังใหม่ คือ เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร Dynamic Force และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกับความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถังรถได้สูงสุด ส่งผลให้มีอัตราการเร่งแบบสปอร์ตและการขับขี่ที่เร้าใจ สำหรับรุ่นไฮบริด ที่มาพร้อมกับไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอัตราการเร่งที่ดีขึ้น และสามารถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น

Toyota-Camry-JDM-2018

ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้ง Toyota Safety Sense อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collission System) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) พร้อมด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 9 ลูก ซึ่งถือได้ว่ามากที่สุดในรถระดับเดียวกัน

Toyota-Camry-TRD-Sportivo

อีกทั้งยังมีชุดแต่งรอบคัน Camry TRD Sportivo ให้เลือกติดตั้งเพิ่ม ซึ่งได้รับการออกแบบโดย Toyota Racing Development Japan (TRD Japan) ภายใต้แนวความคิด Graceful Carriage

อุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน Camry TRD Sportivo ที่สามารถติดตั้งได้กับรถคัมรีใหม่ทุกรุ่น ประกอบไปด้วย

– คิ้วตกแต่งกันชนหน้าของ TRD มีให้เลือก 2 สี คือ สีเงิน (Silver Metallic) หรือ สีดำ (Attitude Black)
– สเกิร์ตรอบคันของ TRD เพิ่มจุดยึดพิเศษให้แนบสนิทกับตัวรถ มีให้เลือก 3 สี คือ สีเงิน (Silver Metallic) สีดำ (Attitude Black) และไม่ทำสี (Primer)

และ … ล้ออัลลอย 18″ …ลายสปอร์ตสีเงินสลับดำ หรูหรา สวยงาม

 

ราคาของ Toyota Camry ใหม่

  • รุ่นเริ่มต้น – 2.0 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,445,000 บาท***
  • รุ่น 2.5 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,589,000 บาท***
  • รุ่น 2.5 HV เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,639,000 บาท***
  • รุ่น Top สุด – 2.5 HV Premium เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,799,000 บาท***

(สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท)

***ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า The All-New CAMRY ผ่อนเริ่มต้นเพียง 17,000 บาท ต่อ เดือน หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% นาน 48 เดือน

ตารางเงินผ่อน / เงินดาวน์ Toyota Camry ใหม่ (ดอกเบี้ย 3%)

รุ่น/ราคา
เงินดาวน์
ยอดจัด
ราคาผ่อน-ดาวน์
48 เดือน 60 เดือน 72 เดือน 84 เดือน
2.0G / 1,445,000 บาท
15% 216,750 1,228,250 28,660 23,542 20,130
20% 289,000 1,156,000 26,974 22,157 18,946
25% 361,250 1,083,750 25,288 20,772 17,762
2.5G / 1,589,000 บาท
15% 238,350 1,350,650 31,516 28,888 22,136
20% 317,800 1,271,000 29,662 24,365 20,834
25% 397,250 1,191,750 27,808 22,842 19,532
2.5HV / 1,639,000 บาท
15% 245,850 1,393,150 32,507 26,703 22,833
20% 327,800 1,311,200 30,595 25,132 21,490
25% 409,750 1,229,250 28,683 23,561 20,177
2.5HV Premium / 1,799,000 บาท
15% 269,850 1,529,150 35,681 29,309 25,062
20% 359,800 1,439,200 33,582 27,585 23,587
25% 449,750 1,349,250 31,483 25,861 22,113

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai