New-Car-In-Motorshow-2019

Motor Show 2019 หรือ The 40th Bangkok International Motor Show 2019 ภายใต้แนวคิด “สุนทรีย์ภาพทางอารมณ์” หรือ “Enjoyment of Automobiles” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้และปีที่ผ่านมา รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงต้อนรับต้นปียิ่งใหญ่เช่นเคย โดยงานมอเตอร์โชว์ 2019 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Show 2019 โดยในเดือนมีนาคมนี้ บริษัทรถยนต์หลายค่าย เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างคับคั่ง CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

Honda Accord

Honda-Accord-2019

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) เจเนอเรชั่นที่ 10 มาพร้อมรูปทรงที่ฉีกแนวจากของเดิมทั้งหมด คู่กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC Turbo ใหม่ ที่ทรงพลังเหนือกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ในรุ่นเดิม ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่

ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเหนือระดับ และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) เตรียมพบกับการเปิดตัวได้ในวันที่ 19 มีนาคม นี้ ก่อนเริ่มวางจำหน่ายพร้อมราคาอย่างเป็นทางการ ในเดือนพฤษภาคม 2562

Nissan X-Trail

Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์-เทรล) เป็นรถอเนกประสงค์ SUV ที่ได้ชื่อว่าขายดีที่สุดในโลก เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกันทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 171 แรงม้า และแบบ Hybrid 2.0 ลิตร 144 แรงม้า รายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี ให้ความสะดวกทุกการเดินทาง เวลาต้องขนของเข้า-ออก ท้ายรถ

นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงรุ่นใหม่แบบ A-IVI รวมถึงระบบความปลอดภัยจากเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น 2.5S 2WD, 2.5V 2WD, 2.5VL 4WD, 2.0V 4WD Hybrid และ 2.0VL 4WD Hybrid ในราคา 1,350,000 – 1,617,000 บาท

Isuzu MU-X The Onyx

suzu-MU-X-The-Onyx-2019

Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิคซ์) จุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ … New Sensation Ignited ด้วยรุ่นพิเศษ กับชุดแต่งแบบฉบับ Onyx Design Edition อาทิ ชุดกันชนหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตดีไซน์พิเศษ กระจังหน้าแบบ Sport 3D คิ้วโป่งล้อสีดำด้าน ไฟท้ายรมดำแบบ LED ล้ออัลลอยด์ใหม่! Flash Black Design ขนาด 18 นิ้ว และ Roof Rail สไตล์สปอร์ต เป็นต้น

ห้องโดยสารโอ่โถงโทนเข้ม แต่งแต้มด้วย Ambient Light ช่วยเพิ่มบรรยากาศ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำแบบ Sport Cut พร้อมความสะดวกสบายเต็มพิกัด มีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เท่านั้น ในราคา 1,364,000 – 1,421,000 บาท

Suzuki Jimny

Suzuki-Jimny-Sierra-2019

Suzuki Jimny (ซูซูกิ จิมนี่) สุดยอดรถ Off-Road ขนาดเล็กในตำนานอีกหนึ่งรุ่น โดยในไทยจะนำเข้า Jimny Sierra เวอร์ชั่นญี่ปุ่นเข้ามาขาย เป็นรุ่นฐานล้อยาวและมีเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า Jimny รุ่นธรรมดาที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 660 ซีซี โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัสเดียวกับ Ertiga ใหม่ รหัส K15B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 102 แรงม้า

พบกันได้ในงาน Motor Show 2019 กับ ราคาหลักล้านกลางๆ! เพราะรถนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน เสียภาษีนำเข้า 80% บวกกับภาษีอื่นๆ และต้องรอรถอย่างน้อยๆ 6 เดือน เพราะที่ญี่ปุ่นก็ขายดีมาก จนผลิตไม่ทันทีเดียว ขณะนี้ Suzuki ประเทศไทย เปิดให้จองแล้ว

Suzuki Ertiga

Suzuki-Ertiga-2019

Suzuki Swift (ซูซูกิ เออร์ติก้า) ใหม่ ชูจุดเด่นการเป็นรถยนต์ MPV 7 ที่นั่ง ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและความปลอดภัย พร้อมที่จะนำคุณ Unlock Your Life ปลดล็อกอีกด้านของชีวิต มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT โดดเด่นด้วยเส้นสายดีไซน์โฉบเฉี่ยวโดดเด่นด้านข้างตัวรถ ภายในออกแบบให้ดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง เหนือกว่าด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง

ทรงพลังด้วยสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ K15B 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ในราคา 655,000 – 695,000 บาท

Toyota Hilux Revo Z Edition

Toyota-Hilux-Revo-Z-Edition

Toyota Hilux Revo Z Edition (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ แซดอิดิชั่น) แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ปรับปรุงใหม่ปี 2562 ในรุ่น Smart Cab (สมาร์ทแค็บ) และ Double Cab (ดับเบิ้ลแค็บ) ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ กับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

สำหรับ Z Edition (แซดอิดิชั่น) โดย “Z” มีที่มาจากแนวทางในการแต่งรถ ซึ่งเป็นที่นิยมเรียกกันว่า แต่งแซ้ป (Zaap) หรือแต่งซิ่ง (Zing) โดยพัฒนาให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโดดเด่น เร้าใจ ด้วยกันชนและกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มีไฟตัดหมอกหน้า และพรีเซนเตอร์คนใหม่ของไฮลักซ์ รีโว่ Z Edition “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” ในราคา 599,000 – 784,000 บาท

Lexus UX

Lexus-UX250h

The All-New Lexus UX (เลกซัส ยูเอ็กซ์) ยนตรกรรมหรู Compact Crossover รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบมาเพื่อคนเมืองจากสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) พร้อมด้วยการเชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์ และการใช้อลูมินัมเข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ มีการทรงตัวดีเยี่ยม ควบคุมรถได้ดั่งใจ และระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 รุ่นล่าสุด

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 146 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 109 แรงม้า รวมแรงม้าทั้งระบบ 184 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ให้อัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 8.5 วินาที มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ UX 250h Luxury, UX 250h Grand Luxury และ UX 250h F SPORT AWD ในราคา 2,490,000 – 3,620,000 บาท

Maserati Quattroporte

Maserati-Quattroporte-2019

Maserati Quattroporte (มาเซราติ ควอโตรปอร์เต้) เจเนอเรชั่นที่ 6 เป็นหนึ่งในรถซีดานหรูที่มีสมรรถนะดีสุดในโลก เปิดตัวครั้งแรกช่วงปี 1963 เด่นด้วยการใช้เครื่องยนต์จากรถแข่ง ผสานดีไซน์เฉียบคมสไตล์อิตาเลียน ที่แม้กระทั่งประธานาธิบดีของอิตาลี ยังใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง

อีกทั้งยังเป็น 1 ในซีดานหรูที่เร็วสุดในโลก กับ Top Speed 310 กม./ชม. มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง Diesel Turbo และเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo โดยเครื่องยนต์เบนซินทั้ง V6 สูบ Twin Turbo และ V8 สูบ Twin Turbo ประกอบที่โรงงานในเมือง มาราเนลโล เช่นเดียวกับ Ferrari ในราคา 10,490,000 – 18,890,000 บาท

Rolls-Royce Cullinan Supreme Liberty

Rolls-Royce-Cullinan-Supreme-Liberty-2019

Rolls-Royce Cullinan Supreme Liberty (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซูพรีม ลิเบอร์ตี้) มาพร้อมสีพิเศษ พร้อมความอลังการยิ่งขึ้น Ultra Luxury SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce สง่างามกับสีพิเศษ “Infinity-Black Metallic” ตัดด้วยโค้ชไลน์สี Mandarin เป็นเส้นสีส้มบางๆ คาดข้างตัวถังยาวจรดด้านหลัง เป็นเสมือนงานศิลป์จากปลายพู่กันของ Mr.Mark Court ผู้ที่ทำหน้าที่สุดพิเศษนี้เพียงคนเดียวในโลก

ห้องโดยสารของ Cullinan ใช้โทนสี Scivaro Gray (ซิวาโร่ เกรย์) ตัดกับสีดำ และเย็บตะเข็บเดินด้ายสี Mandarin ติดตั้งลายไม้ Blackwood Matted และเป็นคันแรกในไทยที่มาพร้อมออปชั่น “Immersive Seating with Centre Console” เป็นเบาะหลัง 2 ที่นั่งแบบแยกส่วน พร้อมคอนโซลคั่นกลาง ภายในเป็นตู้แช่ และชุดเครื่องดื่ม ติดตั้งแผงกั้นระหว่างห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระ เพื่อลดเสียงรบกวนให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด

รวมทั้งมีอีก 2 ความพิเศษ ได้แก่ Commission Collection B-Spoke Umbrellas ร่มที่เดินด้ายบริเวณขอบเป็นสี Mandarin และ Signature Key กุญแจรถหุ้มหนังแท้สีเดียวกัน ในราคาประมาณ 30 กว่าล้านบาท

Aston Martin DBS Superleggera

Aston-Martin-DBS-Superleggera-2019

Aston Martin DBS Superleggera (แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจร่า) ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Aston Martin ซึ่งคำว่า “Superleggera” หมายถึง “Super Light” ในภาษาอังกฤษ ด้วยตัวถังที่มีน้ำหนักเบา โครงสร้างอะลูมิเนียมผสานการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ กระจังหน้า 6 เหลี่ยม ฝากระโปรงหน้าโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ใช้ขุมพลังเบนซิน V12 Twin Turbo 715 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 340 กม./ชม.

ภายในโดดเด่นด้วยเบาะหนังแท้เกรดดีที่สุด พวงมาลัยหุ้มหนัง Alcantara พร้อม Paddle Shifts เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมเครื่องเสียง Premium Audio กับระบบอินโฟเทนเมนท์ ควบคู่กับระบบ Navigator แสดงข้อมูลผ่านจอ TFT ขนาด 8 นิ้ว สั่งการผ่าน Touchpad ด้วยเสียง หรือการเคลื่อนไหว ในราคา 28.9 ล้านบาท มีเพียง 4 คัน เท่านั้น!

BMW Series-3

BMW-Series-3-2019

BMW Series-3 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3) กลับมาอีกครั้งในเจเนอเรชั่นที่ 7 กับการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการขับขี่ มาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับยิ่งขึ้น อันเป็นหัวใจสำคัญของ BMW เตรียมโชว์ตัวในงาน Motor Show 2019 ด้วยรุ่น BMW 320d Sport และ BMW 330i M Sport

BMW ซีรี่ส์ 3 ใหม่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เทคโนโลยีขับเคลื่อนล่าสุด มอบพละกำลัง 190 แรงม้า จากเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ของ BMW 320d Sport ส่วน BMW 330i M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 258 แรงม้า โดยทั้ง 2 รุ่น รองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด Comfort, Sport และ Eco Pro ในราคา 2,959,000 – 3,359,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW Z4

BMW-Z4-2019

BMW Z4 (บีเอ็มดับเบิลยู แซด4) รถสปอร์ตโรดสเตอร์สุดคลาสสิก … พร้อมแล้วที่จะกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในโฉมใหม่ มีให้เลือกเป็นเจ้าของในสองรุ่น ได้แก่ BMW Z4 sDrive30i M Sport ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า

ส่วน BMW Z4 M40i เสริมความแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบที่ส่งพลังถึง 340 แรงม้าลงสู่ล้อหลัง ขณะที่ระบบ Driving Experience Control ในทั้งสองรุ่น สามารถปรับแต่งลักษณะการขับขี่ให้ตรงกับทุกความต้องการ ตั้งแต่ในโหมด Comfort ไปจนถึงความแม่นยำและเฉียบคมสไตล์สปอร์ตในโหมด Sport และ Sport+ ในราคา 3,999,000 – 4,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW X7

BMW-X7

BMW X7 M50d (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์7) รถ SUV Full-Size จากค่ายใบพัดสีฟ้า นำเสนออีกก้าวแห่งความพึงพอใจจากการขับขี่ ด้วยนวัตกรรมความหรูหราและความกล้าที่จะแตกต่าง สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 3,000 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม. ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SportSteptronic 8 สปีด

รวมทั้งระบบช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับอัตโนมัติ คล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive … โดย BMW X7 M50d ใหม่ จะเริ่มเปิดรับจองในงาน Motor Show 2019 ในราคา 8,999,000 บาท

Mercedes-Benz E 53 4MATIC+ Coupé

Mercedes-AMG-E-53-4MATIC+-Coupe-2019

Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupe (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อี 53 4แมติก+ คูเป้) รุ่นนำเข้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EQ Boost เพื่อเพิ่มพลังให้กับรถยนต์มากขึ้นกว่าเดิม คือรถยนต์คูเป้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ตกแต่งทั้งคันในสไตล์ AMG โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบ 435 แรงม้า ส่งกำกลังผ่านเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G Transmission ขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension ในราคา 6,990,000 บาท

Mini Cooper S Hatch 60 Years Edition

Mini-Cooper-S-Hatch-60-Years-Edition-2019

Mini Cooper S Hatch 60 Years Edition (มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี) ปี 2562 นี้ นับเป็นปีที่ 60 แห่งประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของมินิ รถยนต์สัญชาติอังกฤษที่ครองใจแฟนๆ ทั่วโลก มินิได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 60 ปี ในดีไซน์สุดคลาสสิก ตามสไตล์มินิแบบ Retro ที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร

มาในสี British Racing Green สะดุดตา ตัดขอบสีดำ Piano Black พร้อมด้วยหลังคาและที่ครอบกระจกสีดำ รอบคันโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ 60 ปี ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วในลาย 60 ปี 2 สีสุดพิเศษ และไฟท้าย LED ลายธงยูเนียนแจ็ค อันเฉพาะตัวของมินิ และภายในห้องโดยสาร ยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ออกแบบขึ้นเฉพาะ

มาพร้อมด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ให้พละกำลังสูงสุด 192 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัทช์คู่ 7 สปีด ส่วนราคาจำหน่าย ติดตามได้ในงาน Motor Show 2019

Chevrolet Captiva

Chevrolet-Captiva-2019

Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สไตล์โฉบเฉี่ยว และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Show 2019 และพร้อมจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2562

Chevrolet Captiva รุ่นใหม่ล่าสุดได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมด มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สะท้อนแนวการออกแบบล่าสุดของ Chevrolet

MG V80

MG-V80

MG V80 (เอ็มจี วี80) รถตู้รุ่นใหม่ล่าสุด ขนาด 11 ที่นั่ง แบบเดียวกับ Maxus V80 Lativa เตรียมติดแบรนด์ MG เปิดตัวในงาน Motor Show 2019 ตัวรถแบบหลังคาเตี้ย มาพร้อมประตูเลื่อนแบบสไลด์ทั้ง 2 ด้าน พร้อมบันไดข้างแบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกในการขึ้นลง โดยตัวรถมีความสูง 2.13 เมตร กว้าง 1.99 เมตร ประตูท้ายเปิดได้แบบตู้กับข้าว อ้าได้กว้างสุด 180 องศา

สำหรับขุมพลัง คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร คอมมอนเรล มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ และราคายังไม่เปิดเผยในตอนนี้

จะมีรุ่นไหนถูกตาถูกใจคุณผู้ชมบ้าง ก็ลองไปเดินดูตัวจริงที่งานได้ แต่ถ้าอยากขายรถคันเดิมของคุณ ก็มาใช้บริการที่ CARRO นะครับ

SUV-And-Crossover-In-Motorshow-2019

ในยุคปัจจุบัน รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV หรือ Crossover นั้น เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี (ดูได้จากยอดขายรถประเภทนี้ ย้อนหลังไป 6-7 ปีที่ผ่านมาสิครับ) เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม

แม้แต่แบรนด์ใหญ่ๆ ที่ไม่เคยทำรถแนวนี้ ก็ต้องต้องผลิตออกมาขายหลากหลายรุ่น …

งาน Bangkok International Motor Show 2019 (มอเตอร์โชว์ 2019) ครั้งนี้ MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกัน ว่าในงานจะมีรถยนต์ SUV และรถ Crossover รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ พร้อมรายละเอียดพอสังเขป มาเสนอครับ …

Toyota C-HR

Toyota-C-HR-2019

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เฮชอาร์) โฉมปี 2019 รถ Crossover อเนกประสงค์ ที่ทาง Toyota นำมาโชว์ ยังคงได้รับความสนใจอย่างเช่นเคย โดยรุ่นปี 2019 มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตรอบคัน เสริมด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนดีไซน์ใหม่ มีทั้งรุ่นเบนซิน และรุ่นไฮบริด ให้เลือกกันถึง 4 รุ่นย่อย

Toyota C-HR ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า ที่ยกชุดมาจากในตัว Prius รุ่นล่าสุด ชูจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense และมีระบบ Toyota T-Connect Telematics เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้สะดวกและง่ายดาย

ราคาของ Toyota C-HR ใหม่

– รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
– รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท
– รุ่น Hybrid Mid ราคา 1,069,000 บาท
– รุ่น Hybrid Hi ราคา 1,159,000 บาท

Toyota Fortuner

Toyota-Fortuner-2019

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) แม้ว่าจะเป็นรถที่ออกมานานหลายปีแล้ว แต่ Fotuner ก็ยังเป็นที่นิยมในท้องตลาด ทั้งแบบมือหนึ่ง และมือสอง ภายนอกโฉบเฉี่ยว ยิ่งขึ้น บันไดข้าง กระจกไฟเลี้ยว และไฟเบรค ได้รับการออกแบบใหม่อย่างมีสไตล์ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยดิสก์เบรค 4 ล้อ ภายในหรูหรา ด้วยเบาะหนังภายในสีน้ำตาลเข้ม ห้องโดยสารกว้างสบาย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และเครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด 166 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Sequential Shift พร้อม Paddle Shift

ชูจุดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์ เลือกโหมดการขับขี่ได้ดั่งใจ ด้วยโหมด H2 H4 L4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC

ราคาของ Toyota Fortuner

– รุ่น 2.4G 2WD MT ราคา 1,239,000 บาท
– รุ่น 2.4V 2WD AT ราคา 1,419,000 บาท
– รุ่น 2.7V 2WD AT ราคา 1,569,000 บาท
– รุ่น 2.8V 2WD AT ราคา 1,593,000 บาท
– รุ่น 2.4V 4WD AT ราคา 1,499,000 บาท
– รุ่น 2.8V 4WD AT ราคา 1,663,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD AT ราคา 1,699,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 2WD Black Top AT ราคา 1,719,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD AT ราคา 1,769,000 บาท
– รุ่น 2.8 TRD Sportivo 4WD Black Top AT ราคา 1,789,000 บาท

Nissan X-Trail

Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์-เทรล) เปิดตัวพร้อมกันทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และแบบ Hybrid รายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี ให้ความสะดวกทุกการเดินทาง ทั้งการบรรทุกของ หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ แม้กระทั่งการท่องเที่ยว ที่ต้องพกอุปกรณ์ และกระเป๋าเดินทางหลายๆ ชิ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงที่ให้ความบันเทิงรุ่นใหม่แบบ A-IVI เพิ่มความหรูหราและตอบสนองกับสไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร

ราคาของ Nissan X-Trail ใหม่

แบบเบนซิน
– รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท
– รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท
– รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท
แบบ Hybrid
– รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท
– รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

Nissan Terra

Nissan-Terra-2019

Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) ใหม่ จัดเป็นรถในแบบ PPV อีกรุ่น ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอในงาน Motor Show 2019 มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ที่รับกับกระจังหน้าแบบ V-Motion ส่วนชุดประตูหน้านั้นเหมือน Navara และด้านท้ายถูกออกแบบใหม่หมด ไฟท้ายเป็นแบบ LED มาพร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/60 R18

ห้องโดยสารภายในยกชุดมาจาก Navara แต่ตกแต่งให้หรูหราขึ้น ด้วยโทนสีดำตัดด้วยสีเงิน แบบ Gliding Wing 7 ที่นั่ง กว้างขวาง และเงียบ มีเครื่องเสียงระบบหน้าจอสัมผัส, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังดีเซลใหม่ล่าสุด ขนาด 2.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อม Manual Mode

ราคาของ Nissan Terra

รุ่นเริ่มต้น – 2.3V 2WD AT ราคา 1,316,000 บาท
รุ่นรอง Top – 2.3 VL 2WD AT ราคา 1,349,000 บาท
รุ่น Top สุด – 2.3 VL 4WD AT ราคา 1,457,000 บาท

Honda HR-V

Honda-HR-V-2019

Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2561 ที่ผ่านมา พร้อมแนะนำรุ่น RS ใหม่ และสีใหม่ สีแดงแพสชั่น (มุก) มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่เพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น และเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่อันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) และระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System) เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า พร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้อัตราการประหยัดน้ำมันและตอบสนองทุกการขับขี่อย่างดีเยี่ยม และรองรับแก๊สโซฮอล์ E85 อีกด้วย

ราคาของ Honda HR-V

– รุ่น E ราคา 949,000 บาท
– รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท
– รุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท

Honda CR-V

Honda-CR-V-2019

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี) จัดเป็นรถ SUV ที่ยอดนิยมสุดๆ ของ Honda อีกรุ่นหนึ่ง นอกจากจะเป็นรถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่่นั่งแล้ว ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา Honda ก็ได้ออกรุ่น 5 ที่นั่ง มาเป็นทางเลือกให้ได้เลือกซื้อกันเพิ่มเติม มีพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง พร้อมเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบครันในทุกรุ่น อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) และระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เป็นต้น

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.6 ลิตร i-DTEC Diesel Turbo ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire) และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC พร้อมเกียร์อัตโนมัติ แบบ CVT

ราคาของ Honda CR-V

– รุ่น 2.4 S (5 ที่นั่ง) ราคา 1,359,000 บาท
– รุ่น 2.4 ES (5 ที่นั่ง) ราคา 1,499,000 บาท
– รุ่น 2.4 E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,409,000 บาท
– รุ่น 2.4 EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,549,000 บาท
– รุ่น DT-E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,559,000 บาท
– รุ่น DT-EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,699,000 บาท

Mazda CX-3

Mazda-CX-3-2019

Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ที่มาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Drive Your Attitude” ภายใต้แนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุด และเทคโนโลยี SkyActiv ที่กำลังสร้างชื่อในตลาดทั่วโลกรวมทั้งในตลาดในไทย มาโชว์ในงาน Motor Show 2019 นี้ด้วย ด้วยดีไซน์สปอร์ตหรู กับสีพรีเมี่ยมใหม่ Machine Gray กับ Soul Red Crystal พร้อมนวัตกรรมล่าสุดที่ให้คุณควบคุมได้ทุกเส้นทาง Skyactiv-Vehicle Dnamics และเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activesense

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Manual Mode Activematic

ราคาของ Mazda CX-3

– รุ่น 2.0 E ราคา 879,000 บาท
– รุ่น 2.0 C ราคา 955,000 บาท
– รุ่น 2.0 S ราคา 1,029,000 บาท
– รุ่น 2.0 SP ราคา 1,083,000 บาท
– รุ่น 1.5 XDL ราคา 1,189,000 บาท

Mazda CX-5

Mazda-CX-5-2019

Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ๋-5) Crossover SUV ที่มาพร้อมรูปทรงการออกแบบอันสง่างามทั้งภายนอกและภายใน ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์ของงานศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตามแนวทางการออกแบบ “Less is more” ภายนอกดูเรียบง่าย แต่สุขุม และยังคงให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวในแบบฉบับใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด

Mazda CX-5 มาพร้อมเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้า 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 13.9 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร ให้แรงม้า 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ประหยัดสูงสุด 17.5 กม./ลิตร

ราคา Mazda CX-5 

– รุ่น 2.0 C ราคา 1,290,000 บาท
– รุ่น 2.0 S ราคา 1,400,000 บาท
– รุ่น 2.0 SP ราคา 1,530,000 บาท
– รุ่น 2.2 XD ราคา 1,560,000 บาท
– รุ่น 2.2 XDL ราคา 1,770,000 บาท

Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi-Pajero-Sport-2019

Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) ใหม่ เพียบพร้อมด้วยความเหนือระดับ ทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เทคโนโลยี ความปลอดภัยและสมรรถนะ พร้อมแพ็คเกจอุปกรณ์ตกแต่งใหม่ล่าสุดที่ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มความหรูหราของรถอเนกประสงค์ยอดนิยมรุ่นนี้

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล MIVEC VG Turbo ที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบอลูมินัม อัลลอย ความจุ 2.4 ลิตร ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ให้พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดถึง 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

ราคาของ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่

– รุ่น GT 2WD ราคา 1,301,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 2WD ราคา 1,404,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 4WD ราคา 1,544,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 2WD Elite Edition 1,459,000 บาท
– รุ่น GT-Premium 4WD Elite Edition 1,574,000 บาท

Subaru XV

Subaru-XV-2019

Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี) รถ Crossover ที่เคยสร้างกระแสความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และสร้างยอดขายให้กับ Motorimage ผู้นำเข้ารถยนต์ซูบารุในบ้านเราได้มากพอสมควร ถึงเวลาเปลี่ยนโฉมใหม่ตามญี่ปุ่น พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มล่าสุด “Subaru Global Platform” ร่วมกันกับ Impreza ใหม่ คาดว่ามาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT แบบ 7 สปีด เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2017 นี้

Subaru XV ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส FB20 แบบ Boxer 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พัฒนาขึ้นใหม่กว่า 80% เพิ่มกำลังอัดเป็น 12.5:1 (จากเดิม 10.5:1) ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD และระบบ X-Mode สำหรับส่งถ่ายกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อ

ราคาของ Subaru XV

– รุ่น 2.0i ราคา 1,159,000 บาท
– รุ่น 2.0i-P ราคา 1,259,000 บาท

Subaru Forester

Subaru-Forester-2019

Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) โฉมใหม่แห่งนี้ประกอบจากโรงงาน Subaru แห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มาพร้อมเส้นสายตัวถังใหม่ ดูโ)บเฉี่ยวเร้าใจมากขึ้น ตัวรถกว้างและยาวขึ้นเล็กน้อย ใช้แพลตฟอร์มของใหม่ที่เรียกว่า Subaru Global Platform ชูจุดเด่นอย่างเทคโนโลยีความปลอดภัย EyeSight ในรุ่น Top สุด

ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ Boxer 4 สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ Lineartronic CVT 7 สปีด พ่วงด้วย Manual Mode และ Paddle Shift พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตร กับฟังก์ชัน X-MODE

ราคาของ Subaru Forester ใหม่

– รุ่น 2.0 i-L ราคา 1,330,000 บาท
– รุ่น 2.0 i-S ราคา 1,380,000 บาท
– รุ่น 2.0 i-S EyeSight ราคา 1,450,000 บาท

Isuzu MU-X

Isuzu-MU-X-The-Onyx-2019

Isuzu MU-X The Onyx (อีซูซุมิว-เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ! ดิ ออนิคซ์) …จุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ… New Sensation Ignited รถอเนกประสงค์สุดหรูที่จะจุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ ด้วยความคม…เข้ม เร้าอารมณ์ แฝงความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง Onyx Design Edition

ห้องโดยสารโทนเข้มที่แต่งด้วย Ambient Light ช่วยเพิ่มมิติในบรรยากาศ ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้สมรรถนะสูง แรงแต่ประหยัดน้ำมัน เอกสิทธิ์แห่งเทคโนโลยีดีเซลจากอีซูซุ

ราคาของ Isuzu MU-X

– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 CD A/T ราคา 1,099,000 บาท
– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 DVD M/T 1,214,000 บาท
– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 DVD AT 1,264,000 บาท
– รุ่น1.9 Ddi 4×2 DVD Navi DA AT 1,329,000 บาท
– รุ่น 3.0 Ddi 4×2 DVD NAVI AT 1,374,000 บาท
– รุ่น 3.0 Ddi 4×4 DVD NAVI AT 1,474,000 บาท
– รุ่น 1.9 Ddi 4×2 AT The Onyx ราคา 1,364,000 บาท
– รุ่น 3.0 Ddi 4×2 AT The Onyx ราคา 1,409,000 บาท

MG ZS

MG-ZS-2019

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

ราคาของ MG ZS

– รุ่น C ราคา 679,000 บาท
– รุ่น D ราคา 729,000 บาท
– รุ่น X ราคา 789,000 บาท

BMW X3

BMW-X3-2019

BMW X3 (บีเอ็มดับบลิว เอ็กซ์3) รุ่นล่าสุด แบบประกอบในประเทศ จากสายการผลิตของโรงงาน BMW ที่ จ.ระยอง ในราคาที่ลดลงถึง 340,000 บาท สำหรับรุ่น xLine และ 140,000 บาท สำหรับรุ่น M Sport แต่ยังคงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่งบนท้องถนนและลุคสปอร์ตปราดเปรียวไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Steptronic และเสริมด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยในรุ่น M Sport ทั้งสองรุ่นให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่วน BMW X3 xDrive20d M Sport เสริมสมรรถนะแบบสปอร์ตด้วยช่วงล่าง M Sport

ราคาของ BMW X3

– รุ่น xDrive20d xLine ราคา 3,359,000 บาท
– รุ่น xDrive20d M Sport ราคา 3,659,000 บาท

Mercedes-Benz GLC-Class

Mercedes-Benz-GLC-Class-2019

Mercedes-Benz GLC-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี-คลาส) ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมโดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่กว้างขวางด้วยความจุ 500-1,400 ลิตร

GLC 250 d มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 2.1 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ 4MATIC Permanent All-Wheel Drive กำลังแรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600-1,800 รอบ/นาที  อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม.

GLC 250 4MATIC Coupé AMG Plus มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง ให้แรงม้าสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200 – 4,000 รอบ/นาที มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-Tronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 222 กม./ชม.

ราคาของ Mercedes-Benz GLC-Class

– รุ่น GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD ราคา 3,290,000 บาท
– รุ่น GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ราคา 3,690,000 บาท
– รุ่น GLC 250 4MATIC Coupé AMG Plus ราคา 4,090,000 บาท

ขับรถเที่ยวไทยแก้ปีชง ต้องที่ไหน

ขับรถเที่ยวไทยแก้ปีชง ต้องที่ไหน ?

ด้วยความที่ปีนี้ตรงกับปีกุน (ปีหมู) ตามความเชื่อของชาวจีนจะถือในเรื่องของปีชง คนที่เกิดในช่วงปีชงจะต้องทำบุญเสริมดวงชะตาให้เป็นสิริมงคล และหากใครกำลังมองหาสถานที่แก้ปีชงกับ 5 สถานที่แก้ปีชงในไทย อยากพาครอบครัวออกเที่ยว อ่านตามนี้เลย

1. วัดมังกรกมลาวาส กรุงเทพ

วัดจีนย่านเยาวราช สถานที่แก้ชงยอดฮิตอันดับหนึ่งในกรุงเทพ เป็นวัดจีนแต้จิ๋วที่มีศิลปะสวยงาม ภายในวัดจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าที่สำคัญของชาวจีน เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย, เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ, เทพเจ้าเฮ่งเจีย และพระเมตไตรยโพธิสัตว์ หรือแม่กวนอิมผู่สัก

วิธีการบูชาบริเวณด้านหน้าวัดจะมีที่สำหรับจุดธูป เทียน ถวายดอกไม้ และอื่น ๆ ไว้ให้แล้ว แต่ถ้าอยากจะเตรียมของไหว้เพิ่มเติมก็สามารถนำมาถวายได้นะ เช่น ส้มมงคล  ขนมจันอับ ขนมเปี๊ยะ ขนมถ้วยฟู หรือน้ำมันตะเกียง เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.

2. วัดมังกรบุปผาราม จันทบุรี

ขับรถเที่ยวไทยแก้ปีชงแนะนำอีกที่ คือ วัดมังกรบุปผาราม จังหวัดจันทบุรี จะอยู่ตรงบริเวณ อ.แหลมสิงห์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของคนไทยเชื้อสายจีนมายาวนาน แวะสักการะวิหารท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่  มีซุ้มประตูทางเข้าตามศิลปะแบบจีน และวงเวียนน้ำพุอันสวยงาม และวิหารกวนซีอิมผ่อสัก วิหารตี่จั่งอ้วงผ่อสัก พระกวนอิมปางพันมือพันตา และพระโพธิสัตว์ต่างๆ คนปีชงร่วมสามารถมาทำบุญ เพื่อเสริมโชคชะตาให้กับชีวิตได้

ส่วนวิธีการไหว้จะเรียงลำดับทั้งหมด 17 จุด ซึ่งทางวัดได้เรียงลำดับตัวเลขไว้ตามจุดต่าง ๆ ให้แล้ว เชื่อว่าถ้าไหว้ครบทุกจุดจะได้รับพลังบุญยิ่งใหญ่ ช่วยแก้เคล็ด เสริมบารมี จึงเหมาะมากกับคนที่เกิดปีขาลที่ชงเรื่องของเคราะห์กรรม จะช่วยเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี

ทั้งนี้ทางวัดยังมีพิธีทำบุญถือศีลอีกด้วยนะ ใครที่อยากจะมานั่งสมาธิ หรือกำลังอยู่ในช่วงถือศีล ก็หาเวลาไปไหว้กันได้

3. วัดวิหารจีนห้วยบง เชียงใหม่

สำหรับคนที่กำลังจะขับรถออกเที่ยวเหนือ เที่ยวแก้ปีชงวัดห้วยบง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ได้เช่นกัน ทั้งวัดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีน อยู่บนทำเลไหล่เขา หากมองลงไปจะเห็นวิวธรรมชาติสวยงาม

ส่วนตรงบริเวณบันไดทางขึ้นจะมีรูปปั้นสิงโต 2 ตัวขนาดใหญ่คอยคุ้มครอง ด้านภายในจะประดิษฐานองค์ปุงเถ่ากง-ม่า เจ้าแม่กวนอิม ไฉ่ซิงเอี้ย ฮั่วท้อเซียนซือ เฮี้ยงเทียนเซียงตี่ และเทพเจ้าต่างๆ

รวมถึงพระพุทธรูปที่วางเรียงกันยาวอีกหลายองค์  จึงเป็นวัดที่มองแล้วสวยสะดุดตามาก บริเวณรอบนอกวิหารจะค่อนข้างกว้าง สะอาด และเงียบสงบ เหมาะมากกับผู้ที่ต้องการมานั่งสมาธิ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.

4. ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า ขอนแก่น

พาเที่ยวอีสานบ้างกับขับรถไหว้แก้ชง ณ ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการค้าขาย ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง หยิบจับอะไรก็ไม่ติดขัด แนะนำให้ลองมากราบไหว้กันสักครั้ง

สามารถนำมาถวายเป็นพวก หมู เป็ด ไก่ ไข่ต้ม ขนม ผลไม้ กระดาษเงิน กระดาษทอง และน้ำชา เพื่อให้มีอยู่ มีกิน ค้าขายเจริญรุ่งเรือง ติดต่อเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น หรือจะเติมน้ำมันพืชในตะเกียงของศาลเจ้า ช่วยให้ชีวิตรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

5. ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย ภูเก็ต

นอกจากขับรถลงทางใต้สัมผัสกับทะเลชายหาดสวย อย่าลืมแวะไหว้ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย หรือจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ในอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นิยมนำสิ่งของ เครื่องใช้ ข้าวสาร น้ำมันมะพร้าว ขนมลูกเต๋า ขนมเปี๊ยะ ดอกไม้ ธูปเทียน มาถวายในศาล พร้อมกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิม และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ สามารถขอพรด้านสุขภาพเป็นหลัก และที่วัดแห่งนี้ยังขึ้นชื่อของยาจีนรักษาโรค จะมีรายละเอียดบอกสรรพคุณของยาจีนสามารถนำกลับต้มที่บ้านได้ด้วย

และทั้งหมดก็เป็น 5 สถานที่น่าขับรถเที่ยวแก้ปีชงทั่วไทย หากกำลังวางแพลนเที่ยวหยุดยาว หรือมีโอกาสขับรถเที่ยวแต่ไม่รู้จะไปไหน ก็สามารถเดินทางตามรอยพิกัดที่เล่ามานี้ได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูล Frank.co.th

rabbit finance x Carro | เผย 4 เทคนิค วิธีเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้รถมือสอง

รถมือสองควรซื้อประกันรถยนต์ประเภทไหนดี ?

เศรษฐกิจไม่ดี ที่บ้านมีฐานะพอมีพอกิน อยากมีรถสักคัน จะไปถอยรถใหม่ป้ายแดงเลยคงจะไม่ไหว งานนี้คงต้องไปซื้อรถมือสองแทนซะและ ว่าแต่ซื้อรถมือสองอย่างนี้ควรซื้อประกันรถยนต์หรือไม่ ? แล้วประกันรถยนต์ก็มีหลายแบบ หลายประเภท รถมือสองแบบนี้ควรซื้อประกันรถอันไหนดี?

ใครที่มีคำถามในส่วนนี้อยู่ละก็ วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับการเลือกประกันรถยนต์สำหรับรถมือสองมาฝาก จะต้องซื้อประกันตัวไหน ตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

ตั้งงบสำหรับซื้อประกันรถยนต์

จะทำประกันรถยนต์ต้องดูเรื่องงบของเราเป็นหลัก

อย่างแรกเรามาคุยกันก่อนค่ะ ว่าหลักๆ แล้วเราต้องดูอะไรในการตัดสินใจเลือกทำประกันรถยนต์ให้กับรถมือสองกันบ้าง ซึ่งเราสามารถเเบ่งเป็น 4 ข้อหลักๆ ดังนี้ค่ะ

1. เรื่องงบสำหรับประกันรถยนต์

อย่างแรกเลยที่เราต้องดูก็คือ เรื่องงบในส่วนของประกันรถยนต์ ในเมื่อเราซื้อรถยนต์มือสอง งบของเราก็คงไม่สูงมากใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นเรื่องงบสำหรับการซื้อประกันรถเราก็ต้องมาคิดให้ถี่ถ้วน

ทั้งเรื่องความคุ้มครอง ควรเลือกความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันรถยนต์อันไหนถึงจะเหมาะกับรถยนต์ของเรา และสไตล์การขับรถของเรา เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด

และอีกสิ่งที่ห้ามลืมเลยก็คือ เรื่องเบี้ยประกันที่เราต้องเสีย เพราะคุณต้องจ่ายเบี้ยประกันไปอีกหลายปีนะคะ

ซื้อประกันรถยนต์ ช่วยดูแลคุ้มครองเรา

พรบ. ประกันภาคบังคับ ความคุ้มครองไม่ครอบคลุมเท่าประกันรถยนต์

2. อย่าลืม พรบ.

ปกติแล้วรถยนต์ทุกคันจะต้องมี “ประกันภัยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ” หรือที่เราคุ้นชื่อกันคือ “พรบ.” ซึ่ง พรบ. นี้ ก็คือเป็นประกันภัยภาคบังคับ ที่ผู้มีรถทุกคนจะต้องทำ หากไม่ทำหรือไม่มีการต่ออายุ จะมีโทษทางกฎหมาย อาจได้รับโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท

ซึ่ง พรบ. นี้จะให้การชดใช้เงินจำนวนหนึ่งกับบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายที่เกิดกับชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก อันเนื่องจากการกระทำของผู้เอาประกันภัย

ในเมื่อเรามี พรบ. ประกันภัยภาคบังคับแล้วที่พอจะคุ้มครองได้บ้างส่วนหนึ่ง ดังนั้นความคุ้มครองส่วนที่เหลือที่คุณคิดว่า พรบ. ไม่ครอบคลุมก็ค่อยทำประกันรถยนต์มาช่วยคุ้มครอง

สภาพรถช่วยเราตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ได้

สภาพรถของเราเหมาะกับประกันรถยนต์ประเภทไหน

3. รถมีสภาพอย่างไร

มาถึงขั้นตอนที่เราต้องประเมินแล้วค่ะว่ารถยนต์มือสองของเรา เหมาะกับประกันรถยนต์ชั้นไหน โดยปกติแล้วประกันรถยนต์มีด้วยกัน 5 แบบ ได้แก่ ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 2, ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3

ซึ่งประกันรถยนต์แต่ละประเภทก็มีความคุ้มครอง และเบี้ยประกันรถยนต์ที่ต่างออกไป โดยประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด และเบี้ยประกันที่แพงที่สุด ก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 รองลงมาก็เป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ และไล่ลงมาตามลำดับ

เมื่อเราพอจะทราบรายละเอียดความคุ้มครองและเบี้ยประกันแบบคร่าวๆ แล้ว ทีนี้เรามาดูสภาพรถยนต์ของเรากันดีกว่า

  • รถมือสองสภาพนางฟ้า

ถ้ารถมือสองของคุณยังมีสภาพนางฟ้า ผ่านการใช้งานเพียงไม่เท่าไหร่ เครื่องยนต์ยังพร้อมใช้งาน ดูแล้วไม่น่ามีปัญหา บอกเลยงานนี้ต้องจัดประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะความคุ้มครองประกันนี้มีความเหมาะสม เปรียบเทียบประกันดีๆ รับรองได้ประกันรถชั้น 1 ในราคาเบี้ยที่คุ้มค่าค่ะ

  • รถมือสองไม่ใหม่มาก แถมมีงบน้อย

หากรถของคุณมีสภาพที่ไม่ใหม่มาก แต่ก็ไม่เก่าเกินไป สภาพรถผ่านการใช้งานมาพอสมควร ถ้ารถของคุณมีสภาพเช่นนี้ แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 2, ประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ ก็ย่อมได้

ฝีมือการขับรถช่วยเราตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ได้

ทักษะการขับรถก็เป็นตัวตัดสินให้เราเลือกประกันรถยนต์ได้

4. ฝีมือการขับรถ

อย่างถัดไปที่ต้องดูก็คือ ฝีมือการขับรถของเรา หากคุณมีความเชี่ยวชาญในการขับรถมาก เรียกว่าน้อยครั้งมากที่จะเกิดอุบัติเหตุ แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองไม่สูงมาก เบี้ยประกันไม่สูงมาก เป็นการประหยัดเงินไปได้ส่วนหนึ่งเลยค่ะ

แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจในฝีมือการขับรถ มักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ถ้าอย่างงี้ต้องจัดประกันที่ให้ความคุ้มครองสูง ซึ่งความคุ้มครองสูงขนาดนี้เบี้ยประกันก็สูงตามไปด้วย เพื่อตอบโจทย์การขับขี่ของคุณนั่นเอง

ทั้ง 4 ปัจจัยที่กล่าวไปล้วนเป็นเหตุผลที่ช่วยให้คุณตัดสินใจทำประกันรถสำหรับรถมือสองโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าคุณยังตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์สำหรับรถมือสองไม่ได้ละก็ ทางเราแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม แถมเบี้ยประกันก็เอื้อมถึง รับรองประกันชั้นนี้ตอบโจทย์รถมือสองแน่นอนค่ะ

All-New-Toyota-Commuter-2019

Toyota เปิดตัว Toyota Hiace และ Commuter (โตโยต้า ไฮเอช – คอมมิวเตอร์) ใหม่! เจเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวอน่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย ถือเป็นโฉมใหม่ที่ปฏิวัติการออกแบบใหม่หมด (ที่ไม่ใช่รถตู้หน้าตัดแบบเดิมๆ อีกต่อไป) ครั้งแรกในรอบ 15 ปี

ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร พร้อมทั้งตอบสนองนโยบายภาครัฐ ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนน ภายใต้แนวคิด “Hiace Pride” ที่จะมอบ “ความภูมิใจ” (Pride) “ความอุ่นใจ” (Peace of mind) และ “ความพึงพอใจ” (Satisfaction) ให้กับผู้เป็นเจ้าของ

All-New-Toyota-Commuter-2019

Toyota Hiace เป็นรถตู้อนุกรมแรกของ Toyota ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1967 และขายเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มียอดขายสะสมมากถึง 6.3 ล้านคัน ใน 150 ประเทศทั่วโลก โดยโฉมก่อนหน้านี้ Toyota ได้แบ่ง Hiace ออกเป็น 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ เวอร์ชั่นตลาดโลก และ เวอร์ชั่นยุโรป (ที่หน้าตาแบบเดียวกับ Toyota Grandvia รุ่นเก่า)

All-New-Toyota-Commuter-2019

สำหรับ All-new Toyota Hiace ใหม่ Takuo Ishikawa หัวหน้าวิศวกรของ Hiace ใหม่ ได้พัฒนารถขึ้นบนแนวคิด “Hiace Pride” และนำแนวคิดของ TNGA (Toyota New Global Architecture) มาใช้ในการออกแบบตัวรถ (แต่รุ่นนี้ ไม่ได้ใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA ที่ใช้ในรถ Toyota หลายๆ รุ่น)

สำหรับ Commuter โฉมนี้ผลิตในประเทศไทย ที่ TAW (Thai Auto Works) ส่วนรุ่น Hiace ผลิตจากในประเทศญี่ปุ่น

All-New-Toyota-Commuter-2019

มิติตัวรถ Hiace ช่วงสั้น / หลังคาเตี้ย Commuter ช่วงยาว / หลังคาสูง
ยาว 5,265 มม. [+570 มม.] 5,915 มม. [+535 มม.]
กว้าง 1,950 มม. [+255 มม.] 1,950 มม. [+70 มม.]
สูง 1,990 มม. [+10 มม.] 2,280 มม. [-5 มม.]
ระยะฐานล้อ 3,210 มม. [+640 มม.] 3,860 มม. [+750 มม.]

ตัวรถความยาวเพิ่มขึ้น 570 มม. (ย้ายเครื่องยนต์จากที่อยู่บริเวณเบาะด้านล่าง มาเป็นด้านหน้าของตัวรถ เพื่อความปลอดภัย) ส่วนความกว้างเพิ่มขึ้น 255 มม. และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 640 มม. (ในรุ่นมาตรฐาน หรือช่วงสั้น)

All-New-Toyota-Commuter-2019

สำหรับ 5 จุดเด่นสำคัญ ของ Hiace และ Commuter ใหม่ มีดังนี้

1. คอมมิวเตอร์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาทางด้าน “คุณภาพ” (Quality) “ความทนทาน” (Durability) “ความน่าเชื่อถือ” (Reliability) เพื่อสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

2. ความนุ่มนวลและความคล่องตัวที่ดียิ่งกว่า- ดีไซน์ใหม่แบบ Semi-Bonnet (เซมิ-บอนเน็ต) และการวางอุปกรณ์ซับเสียงที่พิถีพิถัน ทำให้ความเงียบภายในห้องโดยสารดีขึ้น- โครงสร้างแบบวงแหวน (Ring frame) ที่มีความแข็งแรง ลดการสั่นสะเทือนและทำให้ขับขี่สบายยิ่งขึ้น- ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท (Macpherson Strut) และด้านหลังแบบแหนบใหม่ มอบความสบายที่เหนือระดับให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร บนทุกสภาพถนน – องศาล้อที่หันได้มากยิ่งขึ้น ทำให้การขับขี่มีความคล่องตัว ไม่ว่าในขณะกลับรถ หรือการถอยจอด

3. สมรรถนะด้านความปลอดภัยล่าสุด – เครื่องยนต์วางหน้า พร้อมคานเหล็กที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม – ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้า ที่พร้อมปกป้องผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า – ระบบมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน มั่นใจตลอดการเดินทาง ได้แก่ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC

4. สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งกำลังสูงสุดและแรงบิดสูงสุด แต่ยังคงประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด และระบบส่งกำลังแบบธรรมดา 6 สปีด เพื่อความมั่นใจในการขับขี่สูงสุด และสามารถรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20 ได้

5. อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่มอบอรรถประโยชน์ด้านการใช้งานอย่างแท้จริง

ยังคงมีให้เลือกทั้งในรุ่นช่วงสั้น หลังคาเตี้ย (Hiace) รุ่นช่วงยาว หลังคาสูง (Commuter) ที่มาพร้อม 12 ที่นั่ง หรือ 17 ที่นั่ง ฐานล้อยาวพิเศษ หรือจะเป็นตู้ทึบขนของ (ECO) ที่เพิ่มความนุ่มนวล การทรงตัว และการเก็บเสียงภายในที่ดียิ่งขึ้น

All-New-Toyota-Commuter-2019

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,200 รอบ/นาที ส่วนในรุ่น Hiace แรงม้าขึ้นมาเป็น 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 2,600 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift แบบเดียวกับใน Hilux Revo

All-New-Toyota-Commuter-2019

ระบบความปลอดภัย…เต็มรูปแบบ ให้คุณมั่นใจยิ่งกว่าที่เคย

  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย 3 ตำแหน่ง  ด้วยถุงลมด้านคนขับ 2 ตำแหน่ง และผู้โดยสารด้านหน้า 1 ตำแหน่ง
  • Annular Frame Structure โครงสร้างห้องโดยสารที่ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยป้องกันการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • ไฟกระพริบเมื่อเบรกกระทันหัน (Emergency Stop Signal)
  • ระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobilizer Alarm)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ป้องกันรถไหลในขณะออกตัวบนทางลาดชัน
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) ช่วยป้องกันล้อล็อก และลื่นไถลเมื่อรถเบรกกระทันหัน
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ช่วยควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคง ขณะเข้าโค้งบนถนนที่เปียกลื่น
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ช่วยควบคุมและป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรี ซึ่งเป็นสาเหตุให้รถเสียการทรงตัว

All-New-Toyota-Commuter-2019

All-New-Toyota-Commuter-2019

ราคาของ Toyota Hiace และ Commuter ใหม่ ที่ขายในไทย / Toyota Hiace and Commuter Price. Shown in Thai Baht.

– รุ่น ECO ตู้ทึบ ราคา 999,000 บาท (มีเฉพาะสีขาว)
– รุ่น GL หลังคาเตี้ย ราคา 1,079,000 บาท
– รุ่น Commuter 6M/T ราคา 1,269,000 บาท
– รุ่น Commuter 6A/T  ราคา 1,299,000 บาท

All-New-Toyota-Hiace-2019

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอทางการเงินสุดพิเศษ โดยร่วมกับ Toyota Leasing (Thailand) สนับสนุนแพคเกจการขาย เริ่มดาวน์แค่เพียง 10% หรือผ่อนนาน 84 เดือน เพื่อช่วยให้ลูกค้าลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนต่อเดือนมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน

5-Thick-To-Surprise-Fan-In-Valentines-Day

เข้าสู่วันวาเลนไทน์แล้ว ถ้าคุณๆ ยังนึกไม่ออกยังว่าจะทำอะไรเซอร์ไพรส์แฟนดี สำหรับคนรักรถทั้งหลาย บางทีก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ว่าจะทำอะไร ให้เราและเขาต่างประทับใจซึ่งกันและกัน และต้องใช้งานได้ด้วยก็ดี โดยอาจจะมีรถยนต์เป็นสื่อกลาง …

สำหรับประวัติของวันวาเลนไทน์ ที่ใครต่อใครมักนิยามให้เป็นวันแห่งความรัก มีต้นกำเนิดมาจากนักบุญคนหนึ่งในศาสนาคริสต์ ชื่อ นักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine) ในสมัยจักรวรรดิโรมัน ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักที่ต่อเพื่อนมนุษย์ โดยทุกๆ วัน เขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็น ไปวางไว้ที่ประตูบ้านของคนยากจน นั่นทำให้เขาต้องถูกจับและทรมาน ก่อนถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เนื่องจากในสมัยนั้นห้ามนับถือศาสนาคริสต์

และตอนที่นักบุญวาเลนไทน์อยู่ในคุก เขาได้พบรักกับหญิงสาวตาบอดที่เป็นลูกสาวของผู้คุมขังในนั้น ด้วยความรักและคำอธิษฐาน พระเจ้าจึงทรงโปรดให้ตาของคนรักของเขาได้เห็นเป็นปกติ จากความอัศจรรย์นี้ ทำให้ผู้คุมขังและคนในครอบครัว จึงเชื่อในพระเจ้าทุกคน

เมื่อจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 (Claudius II) ของโรมทรงทราบ พระองค์ทรงกริ้วมาก จึงมีรับสั่งให้ประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะ แต่ในคืนก่อนหน้าประหารชีวิต เขาได้เขียนจดหมายถึงคนรักของเขาว่า From Your Valentine (จากวาเลนไทน์ของเธอ) ต่อมาจึงกลายเป็นตำนานแห่งความรัก ที่เล่าสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

เล่ามาซะยาว MR.CARRO ขอนำเสนอ 5 วิธีเซอร์ไพรส์แฟนกับรถคู่ใจ เผื่อคุณจะลองนำไปใช้ดูครับ …

Surprise-Fan-In-Valentines-Day

1. ซื้อของขวัญไว้ท้ายรถ

บางที คุณอาจจะลองสืบๆ ดู ว่าเธอชอบอะไรบ้าง หรือถ้าเกิดนึกอะไรไม่ออก ก็อาจจะลองให้ของที่เป็นพื้นฐานทั่วไปก็ได้ เช่น ดอกไม้ ตุ๊กตา เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวพรรณ ลิปสติก หรือของประดับตกแต่ง พร้อมแนบกระดาษโน้ตข้อความหวานๆ สักประโยคสั้นๆ เอาไว้ให้อ่านแล้วตะลึงกันไปเลย

Surprise-Fan-In-Valentines-Day

2. เปิดเพลงรัก

เพลงรักเพลงไหนบ้างที่เธอชอบฟัง ลองสืบเสาะดู (อีกแล้ว) แล้วค่อยเปิดให้เธอฟังในรถ แต่ถ้าคุณมั่นใจในเสียงของตัวเอง ก็ลองร้องเพลงส่งเป็นคลิปให้เธอดู หรือร้องสดๆ เลยก็ได้ ถ้าเธอชอบเสียงคุณนะ

Surprise-Fan-In-Valentines-Day

3. ลูกโป่งท้ายรถ

บางคน อาจจะเลือกวิธีการเซอร์ไพร์สแฟน ด้วยการนำลูกโป่งไว้เต็มท้ายรถ อาจจะมีเพิ่มลูกโป่งฟอยล์เป็นคำบอกรักแฟนก็ได้ ก็น่าจะสร้างความประทับใจได้ดีทีเดียว แต่ถ้าแฟนที่ไม่ชอบลูกโป่ง ก็อาจจะไม่ทำให้เธอตื่นเต้นนะ แต่ก็ต้องลองดู

Surprise-Fan-In-Valentines-Day

4. ขับรถไปรับหลังเลิกงาน

อันนี้ไม่จำเป็นต้องทำเฉพาะช่วงวันวาเลนไทน์ แต่ทำได้ทุกครั้งถ้ามีโอกาส แสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอของเรา ยิ่งถ้าเป็นในวันฝนตก หรือวันที่เลิกงานดึกๆ คุณก็สวมบทพระเอกขี่ม้าขาว ขับรถไปรอที่ออฟฟิศเธอล่วงหน้าเลย

ยิ่งในช่วงโควิด-19 มาระลอกใหม่ด้วย จากปกติทุกปีอาจพาไปทานอาหารเย็นก่อนกลับบ้าน ก็เปลี่ยนเป็นแวะไปซื้ออาหารมาทานด้วยกันที่บ้าน ก็ถือเป็นวันที่ยอดเยี่ยมอีกวันแล้ว

Surprise-Fan-In-Valentines-Day

5. นั่งดูรูปเก่าๆ ด้วยกัน

การขับรถพาแฟนไปชมวิวตามสถานที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ แม้ว่าช่วงนี้อาจไม่เหมาะนัก เพราะโควิด-19 ยังไม่สร้างซา ก็อาจจะหากิจกรรมที่เข้ากับยุค New Normal ที่ช่วยสร้างความโรแมนติกให้กับคุณทั้งคู่ เช่น การนั่งดูรูปคู่เก่าๆ ที่เคยถ่ายไว้ ก็ดีเหมือนกันนะ ได้รำลึกถึงความหลังไปในตัว

สำหรับคู่รักที่คบหาดูใจกันมานาน หรือพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่แล้ว วาเลนไทน์ 2021 นี้ คือโอกาสที่ดีที่คุณจะขอเธอแต่งงาน เอาเป็นว่าถ้าองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่คุณคิดว่าพร้อม ก็เตรียมแหวน กับคุกเข่าขอเธอมาเป็นภรรยาได้เลย

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

กรมขนส่ง-ห้ามคนเป็นโรคลมชัก-ขอใบขับขี่

กรมการขนส่งทางบก เข้ม ตามมติคณะกรรมการแพทยสภา ที่เพิ่มคนเป็นโรคลมชัก ห้ามขับรถ ยกเว้นแพทย์รับรอง

Driving-License

วันที่ 11 ก.พ. 2562 นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้การขอรับใบอนุญาตขับรถ ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ แสดงว่าไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถเป็นหลักฐานประกอบ คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ให้โรคลมชัก ในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ เว้นแต่แพทย์ผู้ให้การรักษารับรองว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี

Driving-License

กรมการขนส่งทางบก ได้แจ้งแก่นายทะเบียนทั่วประเทศ โดยให้ตรวจสอบหลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบคำขอ โดยต้องเป็นใบรับรองแพทย์ตามแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง โดยส่วนที่ 1 ลงลายมือชื่อรับรองตนเอง ประวัติโรคประจำตัว ประวัติอุบัติเหตุและการเข้ารับการผ่าตัดที่สำคัญ และส่วนที่ 2 แพทย์ผู้ตรวจร่างกายรับรอง

Driving-License

นอกจากโรคชมชัก ยังต้องมีการรับรองในกรณีอื่น เช่น ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพ จนไม่สามารถขับรถได้ ไม่ปรากฏอาการของโรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน หรือปัญญาอ่อน ไม่ปรากฏอาการของการติดยาเสพติดให้โทษ ไม่ปรากฏอาการของโรคพิษสุราเรื้อรัง และไม่ปรากฏอาการและอาการแสดงของโรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะปรากฏอาการ วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการ สำหรับใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรอง สถานพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ หรือใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ แจ้งวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เพื่อให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ถูกต้องตรงกับการนำไปใช้

Driving-License

สำหรับโรคประจำตัวบางกลุ่มอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ ยังอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาที่อาจกำหนดเพิ่มเติมในอนาคต เช่น โรคเบาหวานระยะที่ต้องฉีดอินซูลิน โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางสมอง ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ผ่านการผ่าตัดหัวใจ หรือขยายเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ

ขอขอบคุณข่าวจาก Workpoint News

7-Things-Surprise-Your-Boy-In-Valentines-Day

ในช่วงวัน “วาเลนไทน์” ที่กำลังมาถึงนี้ หนุ่มๆ มักจะมอบของขวัญเซอร์ไพรส์ให้กับสาวๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ ตุ๊กตา ช็อกโกแลต หรือของประดับเกี่ยวกับผู้หญิงแล้ว บางที คุณผู้หญิงก็อาจจะอยากนึกซื้อของขวัญ มอบตอบแทนให้ผู้ชายกลับบ้างเหมือนกัน

เพราะในวันวาเลนไทน์ คนที่มอบของให้ส่วนใหญ่ มักจะเป็นฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิง แต่ในบทความนี้ เราขอนำเสนอตรงกันข้ามดูบ้าง โดยเปลี่ยนเป็นผู้หญิงมอบให้กับผู้ชาย ที่มีรถยนต์ใช้กันอยู่ในตอนนี้

MR.CARRO ขอแนะนำสิ่งของ 7 ของติดรถที่สาวๆ ควรซื้อให้หนุ่มๆ ในวันวาเลนไทน์ 2021 ครับ.

Sunglasses

1. แว่นกันแดด

แว่นกันแดด ถือเป็นของที่คู่ใจคุณผู้ชายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม หรือแม้แต่เวลาขับรถ ก็มักจะมีแว่นกันแดดติดรถเสมอ ดังนั้น คุณควรจะสืบเสาะดูว่า เขาใส่แว่นขนาดของแว่นอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วลองมอบแว่นกันแดดให้เป็นของที่ระลึก ก็น่าจะสร้างประทับใจได้ไม่น้อย

Car-Perfume

2. น้ำหอมติดรถ

เพราะผู้ชายบางคน ก็ใส่ใจเรื่องน้ำหอมไม่แพ้ผู้หญิงเหมือนกัน ลองดูว่าในรถที่เขาใช้ นิยมหรือชอบใช้น้ำหอมติดรถยี่ห้ออะไรที่เขามักจะวางหรือติดในไว้รถประจำ การซื้อน้ำหอมให้ ก็น่าจะสร้างประทับใจได้ไม่น้อย

Tools-Kit

3. ชุดเครื่องมือช่าง

ชุดเครื่องมือช่าง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและควรมีติดรถเอาไว้ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟฉาย สายพ่วงแบตเตอรี่ เกจ์วัดลมยาง ป้ายสามเปลี่ยมสะท้อนแสง เป็นต้น รับรองว่าต้องประทับใจคุณผู้ชาย ที่ใส่ใจในการดูแลรักษารถแน่นอน

Key-Chain

4. พวงกุญแจ

พวงกุญแจ ก็จัดว่าเป็นของที่ต้องมีติดไว้กับพวงกุญแจอยู่เสมอ หนุ่มๆ หลายคน อาจจะชอบพวงกุญแจที่มีสัญลักษณ์เป็นตราของยี่ห้อรถ หรือรูกรถยนต์รุ่นที่เขาใช้อยู่ ลองหาพวงกุญแจมามอบให้เป็นของขวัญ ก็ดีเช่นกัน

Lamborghini-Pen

5. ปากกา

ปากกา ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญอันหนึ่ง นอกจากจะไว้ในรถ สำหรับตรวจเช็คเอกสารต่างๆ ตอนอยู่ในรถแล้ว ก็ยังพกติดตัวไปได้ด้วย ซึ่งปากกาที่บริษัทรถต่างๆ มีทำออกมาเป็น Official Product ก็มีหลากหลาย ลองหาปากกาสักด้าม ไว้ติดรถให้หนุ่มๆ ดูสิ

Tomica

6. โมเดลรถ

หนุ่มๆ หลายคน อาจจะชื่นชอบในการสะสมโมเดลรถเป็นชีวิตจิตใจ ลองหาโมเดลรถเล็กๆ อย่างเช่นของ Hot Wheels, Tomica หรือจะเป็นแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นรถรุ่นเดียวกับของเขาขับรถ ไว้ติดรถที่เขาใช้สักคัน ก็น่าจะเป็นที่ประทับใจแน่นอน

DIY-Set

7. ของ DIY ทำเองเลย

ถ้าของขวัญที่เสนอมายังไม่โดนใจคุณ แนะนำว่าสาวๆ ลองลงมือประดิษฐ์ของแฮนด์เมดแบบเก๋ ๆ ชิ้นเดียวในโลกขึ้นมาเลยค จะเป็นผ้าพันคอ ตุ๊กตาแต่งรถตัวเล็กๆ ไว้ในรถก็ได้ ทุกอย่างล้วนแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของคุณทั้งสิ้นครับ

สำหรับของติดรถ 7 สิ่ง ที่ทาง CARRO แนะนำในครั้งนี้ เชื่อได้ว่า น่าสนใจและมีประโยชน์ในการใช้งาน คุ้มค่าทั้งผู้ให้ สุขใจทั้งผู้รับ ในวันวาเลนไทน์นะครับ

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-All-New-Suzuki-Ertiga

Suzuki Ertiga ใหม่ Unlock Your Life! ในราคา 655,000 – 695,000 บาท

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างปรากฏการณ์ Way of Life! ครั้งใหม่ เปิดตัว All New Suzuki Ertiga อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชูจุดเด่นการเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและความปลอดภัย พร้อมที่จะนำคุณ Unlock Your Life ปลดล็อกอีกด้านของชีวิต คาดสิ้นปี มียอดขายทะลุ 2,500 คัน

Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า) เจเนอเรชั่นแรก เปิดตัวเมื่อปี 2555 คืออีกหนึ่งความสำเร็จ สามารถสร้างยอดขายสะสมจนถึงปัจจุบันได้กว่า 732,000 คันทั่วโลก  และ Suzuki Ertiga เจนเนอเรชั่นที่ 2 ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับ Ertiga ให้ก้าวล้ำไปกว่าเดิม

Suzuki ได้ Repositioning ควบคู่ไปกับการดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาดตามแผนปี 2562  เพื่อให้รถยนต์รุ่นใหม่เป็นที่ยอมรับ และดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่กำลังสร้างอนาคตของตัวเองร่วมกับคนใกล้ตัว

จุดเด่นๆ ของ Suzuki Ertiga ใหม่

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

สำหรับรูปโฉมภายนอก All New Suzuki Ertiga พัฒนาให้เป็นรถ 7 ที่นั่ง ตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม สะดุดตาด้วยไฟท้าย LED และล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

มีมิติตัวรถยาว 4,395 มม. กว้าง 1,735 มม. สูง 1,690 มม. ระยะฐานล้อ 2,740 มม. ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 180 มม. มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น GL และ GX (รุ่น Top)

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

ห้องโดยสารภายในดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง พื้นที่ภายในขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง กว้างขวาง โปร่งสบาย สามารถปรับเปลี่ยนได้ พวงมาลัย D-shape ออกแบบมาเป็นพิเศษเพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ และคอนโซลลายไม้แบบเล่นระดับ

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย อาทิ ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start มีแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง พร้อมช่องวางเครื่องดื่มที่สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นของเครื่องดื่มได้นานยิ่งขึ้น

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

ใช้เครื่องยนต์ใหม่ K15B 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุดถึง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทนทานด้วยโครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ ระบบ NVH ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

มั่นใจในความปลอดภัยด้วยระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล ระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็กอีกด้วย

All-New-Suzuki-Ertiga-2019

All New Suzuki Ertiga มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Radian Red, Magma Grey, Pearl White Snow (*สีขาวเพิ่ม 5,000 บาท) และ Prime Cool Black

ราคาของ Suzuki Ertiga ใหม่

– รุ่น GL AT ราคา 655,000 บาท
– รุ่น GX AT ราคา 695,000 บาท

ราคาพิเศษถึงวันที่ 30 เมษายน 2562

ตารางเงินผ่อน / เงินดาวน์ Suzuki Ertiga ใหม่ (ดอกเบี้ย -%)

Coming Soon

New-Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail โฉมใหม่ ออพชั่นจัดเต็ม! ในราคา 1,350,000 – 1,617,000 บาท

นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล) ใหม่ รถยนต์ SUV ที่ขายดีที่สุดในโลก*

เอ็กซ์เทรล ใหม่ เปิดตัวพร้อมกันทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และแบบไฮบริดรายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี ให้ความสะดวกทุกการเดินทาง ทั้งการบรรทุกของ หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ แม้กระทั่งการท่องเที่ยว ที่ต้องพกอุปกรณ์ และกระเป๋าเดินทางหลายๆ ชิ้น

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงที่ให้ความบันเทิงรุ่นใหม่แบบ A-IVI เพิ่มความหรูหราและตอบสนองกับสไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

New-Nissan-X-Trail-2019

สำหรับรูปโฉมภายนอก มีการเพิ่มสีตัวถังใหม่ สปอยเลอร์หลัง รางหลังคา และพานอรามิกซันรูฟอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็กซ์เทรล ที่ให้ผู้โดยสารมีความเพลิดเพลินจากบรรยากาศภายนอกได้มากกว่าผ่านกระจกขนาดใหญ่

New-Nissan-X-Trail-2019

มีมิติตัวรถยาว 4,690 มม. กว้าง 1,820 มม. สูง 1,740 มม. ระยะฐานล้อ 2,705 มม. ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 210 มม. มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น 2.5S 2WD, 2.5V 2WD, 2.5VL 4WD, 2.0V 4WD Hybrid และ 2.0VL 4WD Hybrid

จุดเด่นๆ ของ Nissan X-Trail ใหม่

New-Nissan-X-Trail-2019

ด้านหน้า กระจังหน้ารูปตัววี หรือ “V-motion” พร้อมไฟตัดหมอก และไฟ LED Daytime Running Light ปรับกันชนหน้า-หลัง ใหม่ บานจับประตูด้านข้างแบบโครเมียม เปลี่ยนล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ในรุ่น 2.5VL 4WD ติดตั้งราวหลังคา และพาโนรามิกซันรูฟ ใช้กระจกกว้างขึ้น

New-Nissan-X-Trail-2019

ห้องโดยสารภายใน มีทั้งแบบ 5+2 ที่นั่ง (ในรุ่น 2.5 ลิตร) และ 5 ที่นั่ง (ในรุ่น Hybrid 2.0 ลิตร) มีระบบเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบแฮนด์ฟรี พวงมาลัยแบบใหม่ D-Shaped ทรงสปอร์ต ติดตั้งระบบความบันเทิงรูปแบบใหม่ A-IVI

New-Nissan-X-Trail-2019ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร

New-Nissan-X-Trail-2019

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมโรเตอร์สวิตช์ (4x4i with Roter Switch) ช่วยการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด สามารถเลือกโหมดการขับเคลื่อนได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ 2WD, 4WD Auto และ 4WD Full-Time

พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย ภายใต้เทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility ประกอบด้วย

  • เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
  • เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
  • เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Forward Collision Warning (FCW)
  • เทคโนโลยีเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking (FEB)
  • เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
  • เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning (LDW)
  • เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) ซึ่งให้มุมมองรอบตัว 360 องศา จากกล้อง 4 ตัว ที่ติดตั้งอยู่รอบตัวรถ

Nissan X-Trail ใหม่ มาพร้อมสีภายนอก 6 สีให้เลือก ได้แก่ สีแดง เรเดี้ยนเรด, สีดำ แบล็คสตาร์, สีขาว สตอร์มไวท์, สีเงิน บริลเลี่ยนซิลเวอร์, สีเทา ดีพไอริสเกรย์ และสีใหม่ ส้ม โมนาร์ช (Monarch Orange) เป็นสีโปรโมท

New-Nissan-X-Trail-2019

ราคาของ Nissan X-Trail ใหม่

แบบเบนซิน – รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท
– รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท
– รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท
แบบ Hybrid
– รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท
– รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

ระยะเวลาแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 4 – 28 กุมภาพันธ์ 2562

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • อัตราดอกเบี้ย 0.99% (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระ 24-60 เดือน)*
  • ฟรี แพ็คเกจเช็คระยะเซฟเซฟ (SAVE SAFE) 5 ปี หรือ 100,000 กม.

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

New-Nissan-X-Trail-2019

ตารางเงินผ่อน / เงินดาวน์ Nissan X-Trail ใหม่ (ดอกเบี้ย 0.99%)

รุ่น/ราคา
เงินดาวน์
ยอดจัด
ราคาผ่อน-ดาวน์
48 เดือน 60 เดือน 72 เดือน 84 เดือน
2.5S / 1,350,000 บาท
15% 202,500 1,147,500 26,536 22,042 19,189
20% 270,000 1,080,000 24,705 20,295 17,520
25% 337,500 1,012,500 23,077 18,942 16,298
2.5V / 1,460,000 บาท
15% 219,000 1,241,000 28,698 23,838 20,752
20% 292,000 1,168,000 26,718 21,949 18,948
25% 365,000 1,095,000 24,957 20,486 17,626
2.5VL 4WD/ 1,660,000 บาท
15% 249,000 1,411,000 32,629 27,103 23,595
20% 332,000 1,328,000 30,378 24,955 21,543
25% 415,000 1,245,000 28,376 23,292 20,041
2.0V Hybrid 4WD / 1,537,000 บาท
15% 230,550 1,306,450 30,212 25,095 21,847
20% 307,400 1,229,600 28,127 23,106 19,947
25% 284,250 1,152,750 26,273 21,566 18,556
2.0VL Hybrid 4WD/ 1,617,000 บาท
15% 242,550 1,374,150 31,784 26,401 22,984
20% 323,400 1,293,600 29,591 24,309 20,985
25% 404,250 1,212,750 27,641 22,689 19,522

*จากการสำรวจยอดขายรถยนต์ของจาโต ไดนามิกส์ (JATO Dynamics) บริษัทจัดทำข้อมูลยานยนต์ระดับโลกระบุว่า Nissan X-Trail เป็นรถ SUV ที่มียอดขายสูงสุดในโลกประจำปี 2560 มียอดขายกว่า 810,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 6.25% จากปีก่อนหน้า และยังเป็นรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก อันดับที่ 4 ในปีเดียวกันอีกด้วย