Bad-Result-For-Drive-Through-Water

พอเข้าสู่ช่วงเดือนหน้าฝนทีไร ก็คงหนีไม่พ้นกับปัญหา “ฝนตก รถติด” นอกจากจะสร้างความรำคาญใจและอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนแล้ว ยังเกิดผลเสียต่อรถของเราอีกด้วย โดยเฉพาะสถานการณ์จำเป็นที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วมขัง หากคุณขับรถลุยน้ำไปนานๆ อาจจะทำให้รถพังเร็วกว่าที่คิดได้ แล้วปัญหานี้จะส่งผลเสียต่อรถของเรายังไงบ้าง มาอ่านกันเลยครับ

1. สภาพเครื่องยนต์ทำงานหนัก

แน่นอนเวลาขับรถลุยน้ำ พลังของมวลน้ำจะมาปะทะที่ตัวรถเรา จึงทำให้รถหนักและเคลื่อนตัวได้ช้าลง ยิ่งถ้าคุณเหยียบคันเร่งเพื่อที่จะเร่งเครื่อง ก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักหรือร้อนมากขึ้น ดังนั้น หากคุณขับรถลุยฝนไม่ถูกวิธี ท้ายที่สุดจะทำให้เครื่องยนต์ดูดน้ำเข้าไปในห้องเครื่อง และทำให้เครื่องยนต์พังนั่นเอง

Bad-Result-For-Drive-Through-Water

2. ผ้าเบรกเสื่อมสภาพไว

สำหรับระบบ “เบรก” ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญมากๆ เมื่อเกิดน้ำท่วมอาจจะทำให้น้ำเข้าสู่การทำงานของเบรค แล้วทำให้เบรคเกิดอาการขัดข้องได้ง่าย ไม่เพียงเท่านั้นความชื้นของเบรคยังส่งผลให้เบรคมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เช่น เบรคเป็นสนิม เบรคแล้วไม่อยู่ เบรคแล้วลื่น เป็นต้น ทางที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด หลังจากขับรถลุยน้ำแล้วอย่าลืมไล่ความชื่นด้วยการเหยียบเบรคเบาๆ มันก็จะช่วยให้ผ้าเบรคแห้ง และกลับมาเป็นปกติได้

3. ระบบไฟฟ้าในรถเสียหาย

เพราะน้ำกับไฟเป็นสิ่งไม่คู่กันอยู่แล้ว หากเราไม่ดูแลรถหลังจากขับรถลุยน้ำท่วม ก็อาจจะทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดภายในเครื่องเสียหายตามมาได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นกล่องควบคุมไฟฟ้าภายในเครื่องยนต์ ระบบแอร์ เเบตเตอรี่รถยนต์ รวมถึงระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ ก็จะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือรถสตาร์ทไม่ติดอีกด้วย

Bad-Result-For-Drive-Through-Water

4. รถพัง รถเป็นสนิม

นอกจากปัญหาฝนตกรถติด น้ำท่วมจะทำให้ระบบภายในเครื่องยนต์เสียหายแล้ว หากคุณไม่ล้างรถและเช็ดรถให้แห้งหลังจากขับรถลุยฝน ยังส่งผลให้รถภายนอกของคุณเป็นสนิม เสื่อมโทรมเร็วกว่าที่คิดด้วย เพราะคราบน้ำฝนจะกลายเป็นคราบฝังแน่น และทำลายสีรถได้ รวมถึงเศษฝุ่น เศษดิน เศษใบไม้ใบกิ่งไม้ ทั้งหมดนี้ก็จะทำให้รถของคุณดูเก่าเร็ว เกิดคราบสนิมเกาะบนผิวรถอีกด้วย

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

ดังนั้น หากเราไม่รู้จักดูแลรถหลังจากขับรถลุยฝน ก็จะยิ่งทำให้รถของคุณพัง และเสื่อมสภาพตามมาครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าภายใน ระบบเบรค ระบบแอร์ ระบบท่อไอดี และสีของรถ ทางที่ดีเราควรหมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์ เพื่อให้รถสุดที่รักอยู่กับเราไปนานๆ

แล้วที่สำคัญเราอย่าลืมต่อประกันรถยนต์ให้ช่วยคุ้มครองรถจากอุบัติเหตุไม่คาดฝันด้วยนะ อย่างน้อยประกันรถยนต์จะช่วยดูแลเราในทุกการขับขี่มากขึ้น สบายใจได้เปราะหนึ่งเลยครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : frank.co.th ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ