AMG-50th-Anniversary

เอเอ็มจี (AMG) ฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งความสำเร็จ ในปี 2017

Mercedes-AMG-GT-Roadster

ถ้าพูดถึงสำนักแต่ง และชุดแต่งที่คนใช้รถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รู้จักกันดีที่สุด คงต้องยกให้ “AMG” ที่ออกเสียงในภาษาเยอรมันว่า “อามาเก้” หรือในภาษาอังกฤษ “เอเอ็มจี”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Mercedes-AMG (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี) ได้สร้างและรักษาชื่อเสียงของการเป็นผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตและรถยนต์สมรรถนะสูง ที่สะท้อนจากความสำเร็จ ทั้งด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ตและด้านการพัฒนารถยนต์

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Affalterbach (อัฟฟาวเตอร์บาค) ประเทศเยอรมนี ถือเป็นบริษัทลูกของกลุ่ม Daimler AG (เดมเลอร์ เอจี) โดยพนักงานของบริษัทฯ ต่างยึดมั่นในหลักการเดียวกัน คือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ “ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance” ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์

https://www.youtube.com/watch?v=nJJWv7QVpDM

AMG ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Burgstall (เบิร์กชตาร์ล) โดยมร.ฮานส์ แวเนอร์ อาวฟเรชท์ (Hans-Werner Aufrecht) และ มร.แอร์ฮาร์ด เมลเชอร์ (Erhard Melcher) ในปี 1967 ด้วยการใช้โรงโม่แป้งเก่าๆ เป็นที่ตั้งของโรงปรับแต่งรถแห่งแรก พร้อมใช้ชื่อว่า “ศูนย์วิศวกรรม ออกแบบ และทดสอบเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการแข่งขัน – Engineering office and design and testing centre for the development of racing engines” โดยตัวอักษร AMG นั้นมาจากคำว่า “Aufrecht and Melcher, Großaspach” (อาวฟเรชท์ และเมลเชอร์ จากหมู่บ้านโกรซาชปาค) ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวนี้ เป็นสถานที่เกิดของ มร.อาวฟเรชท์

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

ในปี 1971 เอเอ็มจีมีชื่อเสียงในชั่วข้ามคืน หลังจากที่รถยนต์ AMG 300 SEL 6.8 สีแดง ชนะการแข่งขันกับรถยนต์กลุ่มเดียวกันอย่างขาดลอยในรายการรถแข่งประเภท 24 ชั่วโมง ที่สนามสปา-ฟรังโกชอมป์ อีกทั้งยังสามารถทำคะแนนรวมได้เป็นอันดับ 2 ด้วย

เอเอ็มจี พัฒนาจากผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตซาลูน และสปอร์ตคูเป้ หลังจากตั้งโรงงานที่เมืองอัฟฟาวเตอร์บาค ในปี 1976

AMG-500-SEC

มร.เมลเชอร์ พัฒนานวัตกรรมฝาครอบกระบอกสูบใหม่ ที่ทำงานสอดคล้องกับระบบวาล์วแบบ 4 วาล์ว/ลูกสูบ 1 ลูก (Four-Valve Technology) ด้วยตนเองในปี 1984 ซึ่ง AMG ประยุกต์ใช้นวัตกรรมนี้อย่างเป็นทางการครั้งแรกในเครื่องยนต์ V8 ความจุกระบอกสูบ 5 ลิตรของรถยนต์ Mercedes-Benz 500 SEC ความเก่งกาจของ มร.เมลเชอร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของปรัชญา “1 ช่างฝีมือต่อเครื่องยนต์ 1 เครื่อง – One Man, One Engine” ที่ Mercedes-AMG ยึดถือจนปัจจุบัน

Mercedes-AMG-W124

นวัตกรรมฝาครอบกระบอกสูบใหม่ที่ มร.เมลเชอร์ คิดค้นนั้น ใช้ในรถยนต์ Mercedes-Benz S-Class รุ่น AMG และรุ่นซาลูน ตั้งแต่ปี 1986 ก่อนจะเริ่มใช้กับ E-Class Coupé รหัสตัวถัง W124 ในปีต่อมา ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ มีกำลังถึง 360 แรงม้า จึงได้รับสมญาว่า “The Hammer” จากสื่อมวลชนด้านรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา

Mercedes-Benz-190-E-2.5-16-Evolution-II-DTM

ในปี 1988 AMG เป็นผู้ผลิตรถยนต์ Mercedes-Benz 190 E สำหรับการแข่งขัน และยังเป็นทีมงานผู้ดูแลทีมที่ใช้รถยนต์รุ่นดังกล่าวในการแข่งขันรายการเยอรมัน ทัวริ่ง คาร์ แชมเปียนชิฟ (DTM) ด้วย

Mitsubishi-Galant-AMG

Mitsubishi-Galant-AMG

Mitsubishi Galant AMG มาพร้อมชุดแต่ง และเครื่องยนต์ที่โมดิฟายโดย AMG

Mitsubishi-Debonair-AMG

Mitsubishi Debonair AMG รถธงจากค่าย Mitsubishi ที่โมดิฟายโดย AMG

นอกจากนั้น ทาง AMG (ก่อนที่จะเป็นบริษัท In-House ในเครือ Mercedes-Benz) ยังได้เคยโมดิฟายรถยนต์ให้กับทาง Mitsubishi ด้วย ดังที่ปรากฏใน Galant AMG และ Debonair AMG จัดเต็มทั้งเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน

AMG ตกลงร่วมมือกับ Mercedes-Benz ในปี 1990 โดย AMG เริ่มต้นเป็นผู้พัฒนาและผลิตรถแบบสปอร์ตของ Mercedes-Benz ตั้งแต่ปี 1991

Mercedes-C36-AMG

รถยนต์รุ่นแรกที่เอเอ็มจีผลิตร่วมกับกลุ่มบริษัทเดมเลอร์-เบนซ์ (ชื่อในขณะนั้น) คือรุ่น C 36 AMG ซึ่งวางจำหน่ายในปี 1993 ด้วยยอดขายสูงถึง 5,000 คันเมื่อนับถึงปี 1997 ถือเป็นรถยนต์ของ AMG ที่ขายดีที่สุดในขณะนั้น นอกจากนี้รถยนต์รุ่นนี้ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นรถ Safety Car อย่างเป็นทางการรุ่นแรกของการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน ในปี 1996 อีกด้วย

Mercedes-C32-AMG

รถยนต์รุ่น C 32 AMG ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2001 นั้นใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่พัฒนาขึ้นใหม่ร่วมกับเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร V6 พร้อม Super charger นอกจากนี้ยังมีระบบสัมผัสอันเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้ตามใจปรารถนา

Mercedes-Benz-SLS-AMG

รถสปอร์ต Mercedes-Benz SLS AMG ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2009 ถือเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกที่ Mercedes-AMG พัฒนาขึ้นโดยไม่อาศัยทีมงานภายนอกบริษัทเลย ซึ่งรถรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์พิเศษมากมาย ทั้งเสียงเครื่องยนต์อันโดดเด่น สมรรถนะที่เหนือใคร และประตูที่ทรงปีกนกนางนวล

Mercedes-Benz-SLS-AMG-GT3

ในปี 2011 เอเอ็มจีผลิตรถแข่งรุ่นแรกของบริษัทฯ คือรถยนต์รุ่น SLS AMG GT 3 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ตลาดรถสปอร์ตที่มีสมรรถนะสูงเทียบเท่ารถแข่งของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์

Mercedes-AMG-GT-S

ในปี 2014 Mercedes-AMG ยังตอกย้ำภาพความเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลก ด้วยการนำเสนอรถสปอร์ตระดับเรือธงตระกูล Mercedes-AMG GT ที่พัฒนามาจากรากฐานของรถสปอร์ตตระกูล SLS ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถสปอร์ตตระกูลที่ 2 ที่พัฒนาโดย Mercedes-AMG ทั้งหมด แนวคิดต่างๆ ทั้งการวางเครื่องยนต์ให้อยู่บริเวณตอนกลางของตัวรถ (Mid-Engine Concept) เพลาส่งกำลังแบบใหม่ รวมทั้งโครงสร้างตัวถังที่ใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุหลักนั้นเป็นผลจากความตั้งใจของทีมวิศวกรที่ต้องการขับ เน้นประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจที่สุด

Mercedes-AMG-A45

Mercedes-AMG จัดจำหน่ายรถยนต์ได้กว่า 70,000 คันในปี 2015 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ซึ่งตัวเลขนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ให้กว้างขึ้น ด้วยการนำเสนอ Compact สมรรถนะสูงตระกูล 43 รวมถึงรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น AMG ทั้งในตระกูล C-Class, SUV และ Compact

Mercedes-AMG ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ในปี 2017 ด้วยสถิติยอดขายเกือบ 100,000 คัน ในปีก่อนหน้า

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

ปัจจุบัน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2017 ลูกค้าของ Mercedes-AMG จะมีรุ่นรถยนต์ให้เลือกสรรสูงถึง 50 รุ่นที่ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์คอมแพค ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ที่ทรงพลังที่สุด รถสปอร์ตรุ่น S 65 ที่ใช้เครื่องยนต์ 12 สูบ รถซาลูนและรถเอสเตทที่ใช้เครื่องยนต์หลากหลายแบบ หรือแม้แต่รถ SUV รถยนต์สไตล์ Coupe รถเปิดประทุน Cabriolet และ Roadster

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

และ Mercedes-AMG ยังเป็นผู้พัฒนาเครื่องยนต์แบบ 8 สูบ ทั้งสำหรับรถยนต์ Mercedes-AMG และรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ V8 โดยรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกด้วย