The-Excise-Department-Deny-Tax-Car-Reduce

จากผลกระทบของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเกิดความระส่ำระสายอย่างหนัก นับตั้งแต่การประกาศหยุดการผลิตรถยนต์หลายค่าย ยอดสั่งซื้อของซัพพลายเออร์ตก ไปจนถึงการเลิกจ้างขั่วคราว หรือการปิดกิจการ สร้างผลกระทบต่อคนไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์นับแสนคน

อีกทั้งยอดขายรถใหม่ที่ดิ่งเหว โดยยอดผลิตรถยนต์ในประเทศเดือนเมษายน 2563 มีจำนวน 24,711 คัน ลดลง 83.55 % เรียกว่าต่ำสุดในรอบ 30 ปี ส่วนยอดผลิตสะสมเดือนมกราคม – เมษายน 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 478,393 คัน ลดลง 32.78%

3-Way-To-Find-More-Money-For-Salesperson

โดยหลายฝ่ายทำใจแล้วว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในปี 2563 นี้ ไม่ถึง 1 ล้านคันอย่างแน่นอน และยังไม่รู้ด้วยว่า ในปี 2564 นี้ ตลาดรถยนต์ของใหม่โอกาสฟื้นตัวมีมากน้อยแค่ไหน

อ่านเพิ่มเติม : กรมสรรพสามิต “ดับฝัน” กลุ่มยานยนต์ เสนอรีดภาษีรถเก่า บีบให้คนซื้อรถใหม่ ทำไม่ได้!

อ่านเพิ่มเติม : สรรพสามิต คิดดูก่อน! ค่ายรถขอลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ 50% ผลจากโควิด-19

Covid-19-And-Secondhand-Cars-Dealer

เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกลุ่มทุนสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างเข้าหารือกับทางกรมสรรพสามิต เสนอลดภาษีรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ซึ่งล่าสุด ทางกรมสรรพสามิตเองก็ประกาศชัดแล้วว่า จะไม่มีการลดภาษีสรรพสามิตแต่อย่างใด งานนี้ งัดเหตุผลสู้กันแหลกแน่นอน!

ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว และตัวแทนภาคสถาบันการเงิน ลิสซิ่ง ว่า กรมสรรพสามิตยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ 50% ตามข้อเสนอ เนื่องจากอาจเกิดผลกระทบกับการขายรถใหม่ รถเก่า หยุดซื้อขาย ที่จะเซ็นสัญญาก่อนหน้า

“กรมสรรพสามิตไม่ลดภาษีรถยนต์ 50% ซึ่งความชัดเจนนี้จะทำให้การขายรถใหม่และมือสองเข้าสู่ภาวะปกติ การลดภาษีไม่มีประโยชน์” นายพชร กล่าว

Covid-19-And-Secondhand-Cars-Dealer

อีกทั้งการปรับลดภาษีสรรพสามิต ก็ช่วยให้คนซื้อรถในราคาถูกลงไม่มาก เช่น รถกระบะรุ่นมาตรฐาน ลดราคาลงไปแค่ 2,000 บาท หรือถ้าเป็นรถซิตี้ คาร์ ก็ช่วยลดภาษีไปได้แค่ 30,000 บาท/คัน สำหรับรถในท้องตลาดเท่านั้น แต่กลุ่มที่ได้ประโยชน์ จะเป็นรถยนต์ที่มีราคาสูง ซึ่งกรมสรรพสามิตเองไม่ต้องการลดภาษีให้

รวมไปถึงอาจเป็นการแทรกแซงกลไกตลาด กระทบต่อราคาซื้อ-ขาย รถมือสองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้านโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ แม้ว่าจะยังไม่ได้พิจารณาในเวลานี้ แต่ก็เป็นที่เห็นด้วยทั้งในกลุ่มผู้ผลิตรถใหม่ และผู้ขายรถมือสอง เนื่องจากเป็นการจัดการรถยนต์เก่าอย่างเป็นระบบ และช่วยลดมลพิษในอากาศได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งก็ต้องมาถกกันในวาระต่อไปว่า ในทางปฏิบัตินั้น จะกำหนดอายุรถ หรือเงื่อนไขต่างๆ อย่างไร

อ่านเพิ่มเติม : สรุป ข้อดี ข้อเสีย เก็บภาษีรถเก่าอายุเกิน 10 ปี เพื่อกระตุ้นยอดขายรถใหม่

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Car Manufacturers-Need-Help-Reduce-Excise-Tax

ตามที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ร้องขอให้รัฐบาลออกมาตรการเยียวยา หลังยอดขายร่วงหนัก กระทบโรงงานผลิต และซัพพลายเชนทั้งระบบ ซึ่งมีผลต่อการจ้างงาน ขณะที่ยอดผลิตรถ 4 เดือนแรกของปี (ม.ค.-เม.ย. 2563) ทำได้ 478,000 คัน ลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ดังนี้

1. ขอลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ 50% ช่วยให้รถยนต์ราคาถูกลง

2. เปิดโครงการ รถเก่าแลกคันใหม่ รัฐบาลสนับสนุน 1 แสนบาท

3. เลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานไอเสียยูโร 5 และ ยูโร 6 ออกไป ซึ่งเดิมจะเริ่มปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ

Purchase-Car-In-Motor-Show

ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมฯได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจาก สอท.เรียบร้อยแล้ว แต่ขอพิจารณาในรายละเอียดของข้อเสนอดังกล่าวก่อน ซึ่งตามหลักการแล้วกรมสรรพสามิตพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด- 19 ทุกราย จึงเร่งพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุด

MG-ZS-EV-2019

อย่างไรก็ตาม หากให้มองถึงเหตุผลของผู้ประกอบการรถยนต์ที่ระบุว่า ยอดขายในประเทศและการส่งออกรถยนต์ชะลอตัวลงมากนั้น การช่วยเหลือด้านการ “ลดภาษีรถยนต์” ไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสม เนื่องจากรถยนต์ที่ค้างสต๊อกอยู่นั้น ถูกเรียกเก็บภาษีแล้ว ดังนั้นคงต้องพิจารณาว่า หากจะต้องให้ความช่วยเหลือจะต้องเป็นในลักษณะใดถึงจะเหมาะสม

“กรมจัดเก็บภาษีตั้งแต่หน้าโรงงาน ตอนรถยนต์ผลิตออกมาขายที่โชว์รูมหรือเพื่อรอส่งออกแล้ว ดังนั้นไม่รู้ว่ายอดขายของรถยนต์กลุ่มนี้ลดลง กรมจะช่วยอะไรได้ ดังนั้นต้องไปดูก่อนว่าข้อเสนอของเขาคืออะไร และเราจะช่วยอะไรได้บ้าง ซึ่งตามหลักการแล้ว กรมอยากช่วยเต็มที่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเรื่องวิกฤต” นายพชร กล่าว

สรุป ถ้าหากกรมสรรพสามิต มีผลสรุปลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ 50% ตามข้อเสนอ ก็ต้องหารือเรื่องนี้กับ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และท้ายที่สุด ก็ต้องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในเรื่องนี้ด้วย

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข่าวจาก:

The-Excise-Department-Deny-Tax-Idea-In-Thailand

อันนี้น่าจะถือว่าเป็นข่าวดีต้อนรับปีใหม่ 2563 ปีแห่งความตื่นเต้นในสังคมไทยอีกปีในหลายๆ เรื่อง อีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่สร้างความน่าสนใจให้กับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย ไม่มีกำลังมากพอ ที่จะเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ป้ายแดงได้ทุกๆ 5-10 ปี

นั่นคือ “กรมสรรพสามิต” ดับฝันนายทุนค่ายรถยนต์ในไทยทั้งหลาย ที่ทางโฆษกกรมสรรพสามิตชี้แจงไปก่อนหน้าว่า กรมสรรพสามิต และรัฐบาลไม่เอาด้วย เพราะเสียงต่อต้านจากประชาชนมากแน่ๆ

The-Excise-Department-Deny-Tax-Idea-In-Thailand

ซึ่งนโยบายที่ทางกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นำเสนอความต้องการให้รัฐบาลตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี เก็บค่าธรรมเนียมซากรถเก่าที่ไม่ใช้งาน หรือมีมาตรการสนับสนุนให้ซื้อรถใหม่ในราคาพิเศษ โดยผู้ใช้รถยนต์สามารถนำซากรถเก่ามาแยกชิ้นส่วน

ถ้าเห็นข่าวแล้วรู้สึกว่า อยากขายรถเก่า เพื่อเปลี่ยนรถใหม่ หรือรถมือสองที่ปีใหม่ขึ้นมาหน่อย นำรถมาขายที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ดูข่าวเก่า >>> สรุป ข้อดี ข้อเสีย เก็บภาษีรถเก่าอายุเกิน 10 ปี เพื่อกระตุ้นยอดขายรถใหม่ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ครรชิต ไชยสุโพธิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้มีนัดหมายว่า จะนำเรื่องนี้เสนอไปยังกรมสรรพสามิต เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่มีเหตุขัดข้อง โดยทางโฆษกกรมสรรพสามิตชี้แจงว่า กรมสรรพสามิต และรัฐบาลไม่มีนโยบายสนับสนุน

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ในการประชุมกลุ่มอุตฯยานยนต์ ครั้งหน้า ทางกลุ่มจะหารือเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้คุยกันจนตกผลึกต้องการให้รัฐบาลช่วยสนับสนุน ให้มีการกำจัดรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้งาน หรือซากรถเก่าให้หมดไป รวมถึงรถเก่าเครื่องยนต์เก่ามากๆ ซึ่งปล่อยค่าไอเสียจำนวนมาก เพื่อช่วยลดมลพิษบนท้องถนน และที่สำคัญ หากเจ้าของรถเก่ามีแรงจูงใจทางด้านภาษี หรือสิทธิพิเศษกรณีต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ ก็จะช่วยให้ตลาดรถใหม่มียอดขายมากขึ้น

“เรื่องนี้ทำเองไม่ได้ รัฐบาลต้องให้ความร่วมมือและเข้ามาสนับสนุน เพราะเราวางแนวทางเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ขยับจาก กทม. ไปต่างจังหวัด รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ถ้ารัฐบาลเพิกเฉย ทุกอย่างก็จบ ไอเดียที่ระดมสมองกันมาก็คงต้องพับไป อย่าลืมว่าทุกวันนี้รถเก่ามีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน ข้อมูลจากกรมขนส่งฯระบุว่า ตั้งแต่ปี 2532 จนถึงสิ้นปี 2562 รถยนต์ในบ้านเรามียอดจดทะเบียนสะสมถึง 40 ล้านคันเข้าไปแล้ว ส่วนรถใหม่ปีหนึ่งๆ ขายเป็นล้านคัน ถ้าไม่มีแนวทางการจัดการที่ดี คงวุ่นวายแน่ๆ”

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวท้ายที่สุดแล้วคงจะต้องรอดูการประชุมกลุ่มในวาระต่อไป ว่าจะมีการนำมาหารือกันอีกรอบหรือไม่ หรือจะพับเก็บไปเลย

ส่วนยอดการผลิตรถยนต์ในปี 2562 ที่ผ่านมานั้น มียอดผลิตรวมราวๆ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตสำหรับตลาดในประเทศ 1 ล้านคัน และส่งออกอีก 1 ล้านคัน จากเดิมคาดว่าการผลิตเพื่อส่งออกจะอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน แต่จากสถานการณ์ภาวะสงครามการค้า ทำให้มียอดส่งออกลดลง 20%

ส่วนปี 2563 ประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูวันที่ 15 ม.ค. นี้ ที่อเมริกาและจีนจะมีการเซ็นสัญญายุติสงครามการค้าระหว่างกันว่า จะมีความชัดเจนมากน้อยเพียงใด ประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายรถต่างๆ โดยเฉพาะ Eco-Car (อีโคคาร์) และกระบะ ว่าจะมีผลขับเคลื่อนกับตลาดได้มากน้อยเพียงใด

The-Excise-Department-Deny-Tax-Idea-In-Thailand

“ปีที่แล้วหลายยี่ห้ออยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสินค้า ทำให้ยอดส่งออก Eco-Car และกระบะหดลง แต่ปีนี้ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น รวมทั้งในส่วนของรถจักรยานยนต์เองก็ยังคงได้อานิสงส์จากกลุ่มรถบิ๊กไบค์ ที่ช่วยทำให้มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังสูงอยู่ แม้ว่าจำนวนจะลดลง”

ขณะที่ตลาดในไทย ยังต้องดูสถานการณ์ภัยแล้งว่ารุ่นแรงแค่ไหน แต่เบื้องต้นกลุ่มประเมินว่า ยอดผลิตรถยนต์ของปี 2563 นั้น ใกล้เคียงปีที่แล้ว คือประมาณ 2 ล้านคัน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พชร อนันตศิลป์ excise.go.th

ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องกองทุนรถยนต์เก่า เป็นแนวคิดจากภาคเอกชนที่คิดขึ้นมา โดยมองว่าหากเอกชนต้องการทำ ก็ควรใช้หลักการตลาด ส่วนการจะให้แรงจูงใจด้านภาษีสรรพสามิตคงทำไม่ได้ เนื่องจากหลักการของภาษีสรรพสามิต จะจัดเก็บจากผู้ผลิต ณ โรงงานอุตสาหกรรม เพียงครั้งเดียว ไม่สามารถไปเก็บภาษีสรรพสามิตเป็นรายปีได้

“รถยนต์เก่าจะใช้กระบวนการต่อทะเบียนผ่านทางกรมการขนส่งทางบกอยู่แล้ว ซึ่งอัตราที่ขนส่งเก็บก็จะเพิ่มขึ้นทุกปี จนถึงอัตราสูงสุด หลังจากนั้นก็จะเป็นอัตราเดียวต่อไป ส่วนการจะใช้ภาษีสรรพสามิตไปสร้างแรงจูงใจคงทำไม่ได้ เพราะผิดหลักการ” นายพชรกล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก “ประชาชาติธุรกิจ”https://www.prachachat.net/finance/news-407669

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือด ถึงการที่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ตบเท้าหารือกรมสรรพสามิต 16 ธ.ค. นี้ เสนอตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี พร้อมให้สิทธิพิเศษผู้ใช้ซื้อรถใหม่ หวังกระตุ้นยอดขาย ลดมลพิษ …

แนวคิดนี้ เกิดขึ้นจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ ในช่วง 10 เดือน ที่ผ่านมา (ม.ค. -ต.ค.) ตัวเลขยอดขายตกลงมาก ทำได้เพียง 838,847 คัน ขยายตัว 0.6%

จนผู้คนออกมาโจมตี ทั้งฝ่ายเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี และภาพลักษณ์ของรัฐบาลตอนนี้ที่เป็นอย่างไร ทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ เลยกลายเป็นกระแสของคนเล่นรถเก่า รักรถเก่า รักรถมือสอง ออกมาด่ารัฐบาลกันเป็นชุด

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ถ้าคุณคิดอยากขายรถเก่ามาก ขยับมาซื้อรถใหม่ หรือรถมือสองที่ปีใหม่ขึ้นมาหน่อย เพราะไม่อยากรับภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมาในอนาคต ก็นำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี นั้น มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

การจัดเก็บภาษีรถยนต์ประจำปี ของ กรมการขนส่งทางบก

แนวคิดในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ตั้งแต่ในยุคของกองทะเบียน กรมตำรวจ มาจนถึงยุคกรมการขนส่งทางบก ในอดีตนั้น จัดเก็บภาษีตามน้ำหนักรถยนต์ (ทั้งรถเก๋ง, รถกระบะ และรถตู้) ต่อมา ช่วงประมาณปี 2525 กรมการขนส่งทางบก จึงปรับรูปแบบการจัดเก็บภาษีของรถยนต์นั่ง (เฉพาะรถเก๋ง) ใหม่ ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่เก็บตามความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์

ปัจจุบัน มีการจัดเก็บภาษี 4 ประเภทด้วยกัน คือดังนี้

1) จัดเก็บตามกระบอกสูบ ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน

600 ซีซีแรก ซีซี ละ 0.50 บาท
601 – 1,800 ซีซีๆ ละ 1.50 บาท
เกิน 1,800 ซีซีๆ ละ 4.00 บาท

หากเป็นรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี ให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อๆ ไป ดังนี้

– ปีที่ 6 ร้อยละ 10
– ปีที่ 7 ร้อยละ 20
– ปีที่ 8 ร้อยละ 30
– ปีที่ 9 ร้อยละ 40
– ปีที่ 10 และปีต่อๆ ไป ร้อยละ 50

2) จัดเก็บเป็นรายคัน ได้แก่ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร

– รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท
– รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท
– รถพ่วงของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท
– รถพ่วงนอกจากข้อข้างต้น คันละ 100 บาท
– รถบดถนน คันละ 200 บาท
– รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร คันละ 50 บาท

3) จัดเก็บตามน้ำหนัก ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถยนต์รับจ้าง

น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดรถยนต์บริการ รถยนต์รับจ้าง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลรถลากจูงรถแทรกเตอร์ที่มิได้ใช้ในการเกษตร
ไม่เกิน 500 150 450 185 300
501 – 750 300 750 310 450
751 – 1,000 450 1,050 450 600
1,001 – 1,250 800 1,350 560 750
1,251 – 1,500 1,000 1,650 685 900
1,501 – 1,750 1,300 2,100 875 1,050
1,751 – 2,000 1,600 2,550 1,060 1,350
2,001 – 2,500 1,900 3,000 1,250 1,650
2,501 – 3,000 2,200 3,450 1,435 1,950
3,001 – 3,500 2,400 3,900 1,625 2,250
3,501 – 4,000 2,600 4,350 1,810 2,550
4,001 – 4,500 2,800 4,800 2,000 2,850
4,501 – 5,000 3,000 5,250 2,185 3,150
5,001 – 6,000 3,200 5,700 2,375 3,450
6,001 – 7,000 3,400 6,150 2,560 3,750
7,001 ขึ้นไป 3,600 6,600 2,750 4,050

4) รถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า

– รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้เก็บภาษีตามน้ำหนักของรถในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน
– รถอื่นนอกจาก 4.1 ให้เก็บภาษีในอัตรากึ่งหนึ่งของรถตามข้อ 2 และ 3

รถใครภาษีขาดเกิน 3 ปี ดูวิธีการต่อภาษี พร้อมจดทะเบียนใหม่ ได้ใน Link นี้ – 3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการต่อทะเบียนรถ “ภาษีขาดเกิน 3 ปี”

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

แล้วภาษีสรรพสามิต ของรถยนต์ป้ายแดงที่ออกใหม่จากโรงงานล่ะ?

ปัจจุบัน กรมสรรพสามิต จัดเก็บภาษีเฉพาะรถยนต์ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจัดเก็บภาษีตามหลักสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดอัตราภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงาน และลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม จากการปล่อย CO2 อันเป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM 2.5

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อดี ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ปริมาณรถยนต์เก่าในบ้านเราลดลง เพราะผู้คนส่วนหนึ่ง ยอมขายรถเก่าทิ้ง เนื่องจากสู้กับภาษีที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว
  • ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์รถยนต์ น้อยลง
  • ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ มียอดขายรถยนต์ใหม่มากขึ้น กับบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น
  • ซากรถคันเก่า จะเข้าสู่กระบวนการกำจัดซากที่ได้มาตรฐาน แบบโรงงานรีไซเคิลรถยนต์ เช่นในประเทศจีน หรือ ญี่ปุ่น และได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนคืนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะเป็นการลดภาษีสรรพสามิตของรถใหม่ ที่จะซื้อออกไป

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อเสีย ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ผู้บริโภคต้องยอมซื้อรถยนต์ป้ายแดงคันใหม่ ในราคาจำหน่ายที่แพงกว่าหลายประเทศทั่วโลกพอสมควร ทั้งๆ ที่ ซื้อรถมือสองคุณภาพดี (แต่อายุมากหน่อย) ซึ่งคุ้มค่าเงินกว่า
  • ไม่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รายได้ของคนไทยส่วนใหญ่ มิได้มากพอที่จะสามารถเปลี่ยนรถยนต์ได้ทุกๆ 5-10 ปี เนื่องจากรถยนต์ใหม่ ก็มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
  • บางคนอาจใช้เวลาในการผ่อนรถยนต์ นานถึง 6-7 ปี พอผ่อนหมด ใช้งานได้อีก 3 ปี ก็ต้องเจอการปรับภาษีรถยนต์ที่สูงขึ้น ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
  • ในต่างประเทศ ที่เป็นทั้งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง สามารถทำราคาจำหน่ายรถยนต์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งต่างไปจากบ้านเรา
  • รถเก่าหลายคัน อายุมากแล้ว แต่ถ้าได้รับการดูแลรักษาที่ดี ก็ยังน่าใช้ไม่แพ้รถใหม่ๆ
  • คนที่มีรถยนต์มากกว่า 1 คัน และถ้าเป็นรถยนต์เก่า ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่อปีมากขึ้น
  • ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ ที่มีอายุมากถึง 20-40 ปี สภาพเก่าโทรม ควันดำ ยังวิ่งให้บริการผู้คนในเมืองใหญ่ ค่อนข้างย้อนแย้งกับข้อเสนอในการลดมลพิษ

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

สำหรับตัวเลขของ กรมการขนส่งทางบก พบว่า รถยนต์เก่าอายุเกิน 10 ปี ที่จดทะเบียนก่อนปี 2552 ในปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคัน จำนวนนี้ เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลประมาณ 9 ล้านคัน แยกออกได้เป็น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน 4.07 ล้านคัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน 3.8 แสนคัน และรถกระบะ 4.6 ล้านคัน

คือต้องบอกก่อนว่า แนวคิดนี้ “ดี” ในประเทศที่ “พัฒนาแล้ว” คุณภาพชีวิตประชาชนดี มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง มีค่าครองชีพสูง และมีระบบขนส่งมวลชนที่ได้คุณภาพ จนทำให้รู้สึกว่า ไม่มีรถยนต์ใช้งาน ชีวิตก็ไม่ลำบากในการเดินทาง

【短期連載】「ユーザー車検」必勝マニュアル『初心者は検査ラインでハザードを点灯』(その3)

การตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

เช่น ในประเทศญี่ปุ่น รถยนต์ใหม่มีราคาถูกกว่าในไทยมาก แต่เมื่อคุณใช้รถยนต์ไปจนถึงปีที่ 4 นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน คุณก็ต้องนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ (ของญี่ปุ่นเรียกว่า “車検” Shaken = ชาเกง) ซึ่งคล้ายกับ ตรอ. ในบ้านเรา เป็นการตรวจสภาพรถยนต์ทุกๆ 2 ปี แต่มีความละเอียดในการตรวจสอบรถยนต์มากกว่ามาก และค่าตรวจสภาพที่ค่อนข้างแพงมาก ครั้งนึงต้องจ่ายหลายหมื่นเยนเลยทีเดียว

ซึ่งถ้าตรวจสภาพรถไม่ผ่าน ก็ต้องกลับไปซ่อมแซมแก้ไข เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก (โดยการตรวจสภาพรถนี้ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ภาษีรถยนต์ ที่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของรถ, ประกันภัยรถยนต์ 24 เดือน, ภาษีค่าใช้ถนน และค่าอากร เป็นต้น)

https://img.bestcarweb.jp/wp-content/uploads/2019/11/29220240/40ac879c58a8b005491a1f3d4ed1ec38.jpg

อัตราค่าตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

และยิ่งรถเก่ามากเท่าไหร่ ค่าตรวจสภาพก็ยิ่งสูงมากขึ้น ทำให้คนญี่ปุ่นหลายคนรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ค่าซ่อมก็ไม่คุ้ม เพราะค่าซ่อมแพงกว่าซื้อรถใหม่ แถมตอนลากเอาไปทิ้ง ต้องเสียเงินค่ากำจัดขยะอีก

https://www.ft.com/__origami/service/image/v2/images/raw/https%3A%2F%2Fs3-ap-northeast-1.amazonaws.com%2Fpsh-ex-ftnikkei-3937bb4%2Fimages%2F3%2F7%2F5%2F9%2F8909573-1-eng-GB%2F20140609_Myanmar1.jpg?source=nar-cms

รถมือสองเก่าจากญี่ปุ่น ที่อยู่ในประเทศพม่า

ด้วยเหตุนี้ จึงมีพ่อค้ารถมือสอง ทำธุรกิจส่งรถยนต์เก่าจากญี่ปุ่น ไปขายที่ภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย พม่า หรือแถบโอเชียเนีย แถบแคริเบียน หรือประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวากันมากมาย จนบางทีก็ตัดขายเป็นอะไหล่ แบบเชียงกงในบ้านเรา หรือขับไปทิ้งเป็นซาก อยู่ตามป่าตามเขาในต่างจังหวัด ยังดีกว่า (คนญี่ปุ่นขี้เหนียวก็เยอะนะ! รู้ว่าค่าใช้จ่ายแพง ทิ้งแล้วซื้อใหม่คุ้มกว่า)

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จึงใช้รถยนต์เฉลี่ยประมาณ 5-7 ปี ก็เปลี่ยนคันใหม่แล้ว

แต่ถ้าในบ้านเรา หากมีการบังคับใช้จริงๆ แล้วล่ะก็ คนที่จะเดือดร้อนจำนวนมาก ก็คงหนีไม่พ้นคนไทยส่วนใหญ่ ที่ใช้รถเก่า และรถมือสอง นี่ล่ะครับ …

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

ยิ่งลักษณ์

โครงการ “รถคันแรก” ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
มีทั้งข้อดี และพิษร้ายเรื้อรัง

หลายวันก่อนได้มีข่าวออกมาว่า มีกลุ่มคนได้รับความเดือดร้อนจากโครงการในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่ผ่านมา เจ้าของรถหลายรายได้เดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอโอนรถให้กับบุคคลอื่น เนื่องจากครอบครองรถมาเกินระยะเวลา 5 ปี ตามหลักเกณฑ์ของโครงการแล้ว แต่กลับโอนไม่ได้!!

วันนี้ คาร์โร จึงจะมาสรุปเป็นข้อๆไปตามลำดับเหตุการณ์ พร้อมทั้งวิธีการดำเนินการการคืนเงินภาษี ดังนี้

1. ในปัจจุบันปรากฏว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่สามารถโอนรถให้กับบุคคลอื่นได้ แม้จะครอบครองรถมาเกินระยะเวลา 5 ปี ตามหลักเกณฑ์ของโครงการรถคันแรกแล้ว เพราะเป็นรถที่ได้รับแจ้งว่าอยู่ในข่ายถูกตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ว่าอาจทำผิดเงื่อนไขโครงการ เช่น มีการเปลี่ยนมือเจ้าของรถก่อน หรือมีการขายก่อน 5 ปี บางรายที่อยู่ในข่ายไม่ควรได้รับเงินคืนภาษีมาตั้งแต่ต้น

2. ล่าสุด ตามรายงานข่าวระบุว่า มีรถที่เข้าข่ายติดปัญหาการโอนอยู่ประมาณ 40,000 คัน

3. สาเหตุที่ติดปัญหาไม่สามารถโอนได้ เนื่องจากผู้ใช้สิทธิ์มีการยื่นเอกสารมาให้กรมล่าช้ากว่าที่ระเบียบกำหนดในสิ้น เดือน ธ.ค. 2555 จึงทำให้ สตง. ตั้งข้อสังเกตว่าการยื่นเอกสารมาล่าช้าอาจไม่ตรงกับหลักเกณฑ์การได้รับสิทธิ์รถคันแรกตามที่มีมติ ครม.หรือไม่ จึงให้มีการชะลอการโอนสิทธิ์ไว้ก่อน จนกว่าจะมีการพิจารณาตัดสินชัดเจน คาดว่าจะหาข้อยุติปัญหาได้ภายใน 2 สัปดาห์

4. โครงการรถคันแรกเป็นการให้สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ตามโครงการนี้ ด้วยการคืนภาษีสรรพสามิตให้ไม่เกินคันละ 1 แสนบาท

5. ตัวอย่างของการทำผิดเงื่อนไข และต้องคืนเงิน เนื่องจากได้มีการตรวจสอบจากสำนักงานสรรพสามิตในหลายพื้นที่ได้มีการแก้ไขปัญหาตามที่ สตง.รายงาน

ไม่ว่าจะเป็น กรณีเอกสารประกอบไม่ครบถ้วน รวมถึงการติดตามเรียกเงินคืนจากผู้ขอใช้สิทธิที่ทำผิดเงื่อนไข อาทิ ชื่อตามใบจองรถยนต์เป็นคนละชื่อกับชื่อผู้ขอใช้สิทธิ อายุผู้ขอใช้สิทธิ์ไม่ครบ 21 ปีบริบูรณ์ ในช่วงจองรถยนต์ เป็นต้น

ตัวอย่าง ในพื้นที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ราชบุรี กรณีนายกองใจ ขอใช้สิทธิคืนเงินรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน จำนวน 10,946 บาท ซึ่งกรมสรรพสามิต ทำการอนุมัติสิทธิคืนเงินให้ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบเอกสารภายหลัง พบว่า ชื่อในใบจองเป็นคนละชื่อกับผู้ใช้สิทธิ

สำนักงานสรรพสามิต พื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 กรณีนายชวนินทร์ อายุไม่ครบ 21 ปีบริบูรณ์ตอนจองรถยนต์ และรับรถยนต์ไม่ตรงรุ่น/หมายเลขเครื่องยนต์ และใบจองรถยนต์คนละชื่อกับชื่อผู้ขอใช้สิทธิ ซึ่งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กทม.4 ได้ดำเนินการติดตามเรียกเงินคืนจากนายชวนินทร์ แล้ว ฯลฯ

6. เงินที่ใช้ซื้อรถคันแรกไปแล้ว 1 ล้านคันในยุคนั้น นับเป็นการใช้ดีมานด์ล่วงหน้าไปหลายปี และถูกล็อกไว้ด้วยว่า 5 ปี ต้องถือครองรถ จะขายต่อไม่ได้หลังโครงการตลาดรถยนต์จึงซึมระยะยาว ทั้งรถใหม่ รถมือสอง

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เคยสรุปผลจากนโยบายรถคันแรกว่า โครงการรถคันแรก มีผลดีตรงที่ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดการผลิตปี 2556 ขยับขึ้นเป็นปีละกว่า 2 ล้านคัน

แต่ผลเสียก่อให้เกิดหนี้ครอบครัว จากการเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคหดตัวลงทุกประเภทสินค้า (หลังมีโครงการรถคันแรก)

นอกจากนี้ในรายงานการตรวจสอบของ สตง. ได้ระบุถึงผลกระทบของโครงการที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องไว้ด้วย ระบุว่า “การดำเนินโครงการฯ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งโดยตรงและโดยอ้อม

ผลกระทบโดยตรง

โครงการรถคันแรกสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา รัฐยังสามารถเก็บภาษีต่อเนื่องได้เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องมีการเติบโตได้ระยะหนึ่ง แต่ขาดความยั่งยืน โดยเป็นการดึงอุปสงค์ (Demand) ในอนาคต คือ ความต้องการซื้อล่วงหน้ามาใช้ จึงส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการผลิตรถยนต์

ผลกระทบโดยอ้อม

จากการที่ยอดการผลิตรถยนต์ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเลิกจ้างแรงงานบางส่วน มีการยึดรถขายทอดตลาดจำนวนมาก และยังส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มือสอง ซึ่งมีรถยนต์มือสองค้างในสต๊อกจำนวนมาก โดยมีเต็นท์รถยนต์มือสองหลายแห่งต้องปิดกิจการ

นอกจากนี้ ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ก่อให้เกิดผลกระทบต่อปัญหาการจราจรและปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากผู้ซื้อรถยนต์คันแรกยังขาดความรู้ความชำนาญในการขับรถยนต์เพียงพอ

วิธีดำเนินการการคืนเงินภาษี

1. ผู้ซื้อรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย

-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี

-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ

-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

2. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ

3. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

4. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

5. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อเมื่อครอบครองครบ 1 ปี โดยจ่ายเป็นเช็คให้ในครั้งเดียว

 

กรณีรถถูกยึดเนื่องจากไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้

ปลดล็อคเงื่อนไข ห้ามโอนภายใน 5 ปี กรณีผู้ซื้อรถ(ผ่อน)ผิดนัดไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ ไฟแนนซ์ก็สามารถยื่นเรื่องให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบ ว่าเป็นจริง เป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าผู้ซื้อรถผิดนัดไม่ผ่อนชำระต่อจริง ก็จะแก้เงื่อนไขกรณีห้ามโอนภายใน 5 ปี ให้สามารถนำรถไปขายทอดตลาดได้

และจะเรียกเงินภาษีจากผู้ที่ซื้อรถไปแล้วแต่ไม่สามารถผ่อนต่อได้ คืนกลับให้กรมสรรพสามิตเท่ากับจำนวนที่ได้รับไป (ผู้ซื้อรถไปแล้วแต่ไม่สามารถผ่อนต่อได้ จะต้องคืนเงินให้กรมสรรพสามิตเท่ากับจำนวนเงินที่ได้รับการคืนภาษีรถยนต์คันแรก)

สุดท้าย สะท้อนให้เห็นว่าโครงการดำเนินการไม่รัดกุม มุ่งเอาคะแนนนิยมเฉพาะหน้ามากกว่า จะทำเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ แต่ฝากปัญหาไว้กับระบบอุตสาหกรรมรถยนต์ และยังทิ้งภาระเป็นเสมือนพิษร้ายไว้กับผู้ร่วมโครงการอีกยาวนาน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : naewna.com