10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

จากการจัดอันดับของ JADA สมาพันธ์ผู้ค้ารถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Automobile Dealers Association) “ญี่ปุ่น” ยังเป็นประเทศที่มียอดขายรถที่มากติดอันดับโลก (ในปี 2021 มียอดขาย และจดทะเบียนรถในประเทศมากถึง 4,448,340 คัน ซึ่งยอดขายตกลงมาจากปี 2020 ถึงหนึ่งแสนกว่าคัน จากผลกระทบของโควิด-19 รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจหดตัวไปทั่วโลก) แต่เนื่องจากรถเก่ามีค่าตรวจสภาพ ค่าซ่อม ภาษีรถยนต์ และค่าประกันภัยที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนนิยมใช้รถยนต์แค่ไม่กี่ปีก็ขายรถ แล้วซื้อคันใหม่

อ่านเพิ่มเติม >> 10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

สำหรับของรถ Kei Car (K-Car) นั้น หมายถึง Keijidōsha (軽自動車) หรือ รถขนาดเล็ก ซึ่งเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มียอดขายที่ถือว่าสูงมากๆ ต่อปี ด้วยอัตราภาษีที่ต่ำ หาที่จอดรถได้ง่าย รับกับถนนขนาดไม่ใหญ่นักของญี่ปุ่น (ซึ่งหากใครที่ซื้อรถยนต์ในญี่ปุ่น หากไม่มีที่จอด ซื้อไม่ได้นะจะบอกให้)

คุณสมบัติคร่าวๆ ของรถ K-Car หลักๆ ก็จะมีความยาวตัวรถที่ไม่เกิน 3.4 เมตร กว้างไม่เกิน 1.48 เมตร สูงไม่เกิน 2 เมตร มีเครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 660 ซีซี และแรงม้าไม่เกิน 64 แรงม้า และมีขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่บ้านเราก็นิยมเอาเข้ามามาก ในช่วงรถจดประกอบกำลังบูม

Mr.Carro ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถ K-Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2021 (ซึ่งรถทุกรุ่น ยังมีขายเป็นรถใหม่ 2022 ในญี่ปุ่นอยู่ด้วย) ไปอ่านกันได้เลย …

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

1. Honda N-Box จำนวน 189,940 คัน

Honda N-Box (ฮอนด้า เอ็นบ็อกซ์) ยังครองแชมป์รถ K-Car ที่ขายดีที่สุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5! นับตั้งแต่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2017 และปรับโฉมเล็กน้อยช่วงปลายเดือนธันวาคม 2020 โดยเป็นรถ Kei Car ที่คล้ายกับรถ MPV แบบประตูบานเลื่อนด้านข้าง นิยมกันสำหรับคนมีครอบครัว ไปจนถึงรุ่นใหญ่ อายุ 40-50 ปี ซึ่งมีให้เลือกทั้ง N-Box และ N-Box Custom เอาใจวัยรุ่น

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส S07B ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 58 แรงม้า ที่ 7,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 65 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตัน-เมตร ที่ 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

2. Suzuki Spacia จำนวน 128,881 คัน

Suzuki Spacia (ซูซูกิ สปาเซีย) เป็นรถ K-Car เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ขายดีเป็นอันดับ 2 ต่อเนื่องมาเป็นปีที่สอง ด้วยรูปทรงแนวยอดนิยม กับจุดเด่นอย่างประตูด้านหลังแบบบานเลื่อนไฟฟ้า จากค่าย Suzuki นับตั้งแต่โฉมไมเนอร์เชนจ์ออกมาในเดือนกันยายน 2017 ก่อนจะปรับปรุงโฉมใหม่ล่าสุดอีกครั้ง เมื่อเดือนธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา

เป็นรถที่เน้นกลุ่มคนมีครอบครัว แม่บ้าน ส่วนกลุ่มวัยรุ่น เด็กจบใหม่ หนุ่มวัยทำงาน ก็ต้องเล่นรุ่น Spacia Custom ที่จัดเต็มออฟชั่นหรูเทียบเท่า Alphard หรือ Spacia Gear ตกแต่งในสไตล์ SUV พร้อมลุยเต็มพิกัด!

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินพลัง Hybrid ขนาด 658 ซีซี รหัส R06A ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 52 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3.1 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้ถึง 22.2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน WLTC)

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 98 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3.1 แรงม้า อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

3. Daihatsu Tanto จำนวน 116,912 คัน

Daihatsu Tanto (ไดฮัทสุ แทนโต) นี่ก็ถือว่าเป็นรถ K-Car ที่ขายดีของ Daihatsu นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2003 จวบจนถึงปัจจุบันที่เป็นเจเนอเรชั่น 4 เปิดตัวไปในเดือนกรกฎาคม 2019 รุ่นนี้พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ DNGA หรือ Daihatsu New Global Architecture ที่นำแนวคิดมาจาก Toyota นั่นเอง มีจุดเด่นอย่างประตูด้านหลังเป็นแบบบานเลือนไฟฟ้า และออฟชั่นทุกสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการ

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 52 แรงม้า ที่ 6,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

4. Daihatsu Move จำนวน 95,840 คัน

Daihatsu Move (ไดฮัทสุ มูฟ) รถ K-Car รุ่นยอดนิยมของไดฮัทสุ นับตั้งแต่ออกมาในปี 1995 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ที่ออกมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014 และปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในเดือนสิงหาคม 2017 ก็ช่วยให้ยอดขายยังสามารถสู้กับรถ Kei Car รุ่นอื่นๆ ได้ในเวลานี้ ยังมีทั้งรุ่นเพื่อครอบครัวอย่าง Move และรุ่นเอาใจคนวัยทำงาน รักการแต่งรถ ชอบความสปอร์ตอย่าง Move Custom หรือรุ่นเอาใจสาวๆ อย่าง Move Canbus

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo สำหรับรุ่น Custom ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

5. Nissan Roox จำนวน 84,748 คัน

Nissan Roox (นิสสัน รู๊ค) รถทรงกล่องสุดน่ารัก แบบประตูบานเลื่อนด้านข้าง โฉมใหม่เจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2020 ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้สูงขึ้นถึง 16.4% ในปี 2021 สวนทางกับรถ K-Car หลายๆ รุ่น ที่ยอดขายตกลงไป

โดยรถรุ่นนี้พัฒนาร่วมกันระหว่าง Nissan กับ Mitsubishi eK Space และ eK X Space สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม NMKV มีให้เลือกถึง 2 แบบ ได้แก่ Roox และ Roox Highway Star

ห้องโดยสารภายในชูจุดเด่นด้วยความกว้าง สูง พื้นที่นั่งโดยสารด้านหลังให้ความกว้างถึง 770 มม. และความสูงภายในรถที่มากถึง 139 ซม. และพื้นที่เก็บสัมภาระตามจุดต่างๆ มากมาย สามารถเข้า-ออกง่าย ด้วยประตูบานข้างแบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เปิด-ปิดอัตโนมัติ ได้กว้างถึง 650 มม.

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 659 ซีซี รหัส BR06 ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนรุ่น S-Hybrid จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ เข้ามาด้วย

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

6. Suzuki Hustler จำนวน 82,486 คัน

Suzuki Hustler (ซูซูกิ ฮัตสเลอร์) เป็นรถแนว Crossover SUV แบบ K-Car ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแดนปลาดิบอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นนี้นับว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวในเดือนมกราคม 2020 มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ นั่นคือ Hustler และ Hustler J Style II ซึ่งยังแบ่งปันตัวรถให้กับทาง Mazda นำไปแปะขายในแบรนด์ตัวเองด้วยในชื่อ Flair Crossover เช่นเคย แถมในบ้านเรายังมีคนสั่งนำเข้ามา! ในราคาคันละล้านกว่าบาท …..

ห้องโดยสารภายในมี 4 ที่นั่ง ใช้เบาะนั่งคู่หน้าแบบสีทูโทน แปลกตาด้วยการแบ่งคอนโซลหน้าออกเป็น 3 ส่วน ด้วยวัสดุตกแต่ง พร้อมผังหน้าจอ Infotainment ขนาด 9 นิ้ว เอาไว้บริเวณกึ่งกลาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน พร้อมจอ MID ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ รวมถึงแอร์อัตโนมัติ เป็นต้น

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 3 สูบ ขนาด 657 ซีซี รหัส R06D ให้แรงม้าสูงสุด 49 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 58 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เพิ่มตัวฉีดน้ำมันเกียร์เป็น 2 ตัว พร้อมปรับปรุงชุดสายพาน และระบบ Cooled EGR กับระบบหัวฉีดคู่

และเครื่องยนต์ 3 สูบ Turbo Hybrid ขนาด 658 ซีซี รหัส R06A มอบแรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 98 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ขุมพลังทั้งสองทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid กับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator (ISG) ซึ่งเก็บพลังงานที่เหลือใช้จากการขับขี่ เช่น การเบรก มาปั่นเป็นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ใช้ในแบตเตอรี่ได้ รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย Suzuki Safety Support ที่มีคุณสมบัติอีกเพียบ

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

7. Suzuki Wagon R จำนวน 68,970 คัน

Suzuki Wagon R (ซูซูกิ แวกอนอาร์) นับเป็นรถเจเนอเรชั่นที่ 6 แล้วสำหรับรถแวกอน K-Car ทรงสูงของ Suzuki รุ่นนี้ที่ออกมาในปี 1993 โดยในโฉมนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 บนแพลทฟอร์มใหม่ล่าสุดอย่าง HEARTECT ที่น้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง ตอบสนองการขับขี่ที่ดีขึ้น

มีให้เลือก 3 แบบ นั่นคือ Wagon R เอาใจคุณผู้หญิง หรือคนที่มีครอบครัว และ Wagon R Stingray เอาใจวัยรุ่น เด็กจบใหม่ คนวัยทำงาน มาพร้อมการตกแต่งภายในที่ดูอบอุ่นในรุ่น Wagon R และดูเร้าใจ สปอร์ต สนุกสนาน ในรุ่น Wagon R Stingray

และรุ่นล่าสุดในตระกูล Wagon R ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อย่าง Wagon R Smile ที่มาพร้อมหน้าตาบ๊องแบ๊วสไตล์ Retro ประตูข้างแบบบานเลื่อนไฟฟ้า เอาใจสาวๆ ที่มีลูกเล็ก หรือคนมีครอบครัว กับผู้สูงอายุ

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 3 สูบ ขนาด 657 ซีซี รหัส R06D ให้แรงม้าสูงสุด 49 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 58 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เพิ่มตัวฉีดน้ำมันเกียร์เป็น 2 ตัว พร้อมปรับปรุงชุดสายพาน และระบบ Cooled EGR กับระบบฉีดหัวคู่

และเครื่องยนต์ 3 สูบ Turbo Hybrid ขนาด 658 ซีซี รหัส R06A มอบแรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 98 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ขุมพลังทั้งสองทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid กับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator (ISG) ซึ่งเก็บพลังงานที่เหลือใช้จากการขับขี่ เช่น การเบรก มาปั่นเป็นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ใช้ในแบตเตอรี่ได้ รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย Suzuki Safety Support ที่มีคุณสมบัติเหมือนในรุ่น Hutsler

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

8. Daihatsu Mira จำนวน 65,803 คัน

Daihatsu Mira e:S (ไดฮัทสุ มิร่า อีเอส) รถ Eco-Car แบบฉบับญี่ปุ่นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2017 ซึ่งยังคงขายได้เรื่อยๆ ในตลาดญี่ปุ่น แถมเป็นคู่แฝดกันกับ Toyota Pixis Epoch และ Subaru Pleo Plus รวมถึงยังเป็นรุ่นที่มาทดแทน Mira รุ่นดั้งเดิม นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 อีกด้วย

ความพิเศษของรถรุ่นนี้คือการแนะนำ “e:S technology” ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 32.2 – 35.2 กม./ลิตร (วัดตามมาตรฐานโหมด JC08) ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบาจากเทคโนโลยี D Monocoque และวัสดุเรซิ่นที่นำกลับมาใช้ใหม่ และติดตั้งระบบ Smart Assist III ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในการหลีกเลี่ยงการชน

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุด 49 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 57 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรุ่น 4WD ให้เลือก

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

9. Daihatsu Taft จำนวน 62,278 คัน

Daihatsu Taft (ไดฮัทสุ ทาฟท์) รถ K-Car ในสไตล์ SUV ที่ยอดฮิตมากในญี่ปุ่น กับยอดขายที่พุ่งขึ้นมาจากปี 2020 ถึง 45%! เพราะตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและวันพักผ่อน และยังมีสั่งนำเข้ามาขายในบ้านเราอีกด้วย (ในราคาคันละหนึ่งล้านกว่าบาท) เปิดตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Auto Salon 2020 ก่อนจำหน่ายจริงช่วงเดือนมิถุนายน 2020

เป็นรถทรงเหลี่ยมที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA (Daihatsu New Global Architecture) ในแนวคิด Tough & Almighty Fun Tool ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ ชุดไฟหน้าแบบ LED กันชนหน้า-หลัง แบบยกสูง พร้อมโป่งล้อสีดำสไตล์รถ SUV และภายในตกแต่งเน้นความเหลี่ยม กับใช้โลหะเป็นส่วนประกอบ พร้อมหลังคากระจกขนาดใหญ่ “Sky Feel Top” เป็นจุดเด่น

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้าที่ 6,900 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 60 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรุ่น 4WD ให้เลือก

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรุ่น 4WD ให้เลือกเช่นกัน

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

10. Suzuki Alto จำนวน 60,919 คัน

Suzuki Alto (ซูซูกิ อัลโต้) เป็นรถ K-Car รุ่นยอดฮิตตลอดกาลของ Suzuki ทั้งในญี่ปุ่นและในต่างประเทศตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1979 สร้างยอดขายรวมทุกรุ่นได้ 5 ล้านกว่าคัน โดยในโฉมนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 9 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2021 เพียงเดือนเดียวก็สามารถพายอดขายขึ้นมาติด 10 อันดับได้ ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน!

Suzuki Alto มาพร้อมตัวถังที่คงความย้อนยุคไว้ เช่นเดียวกับรุ่นแรกที่ออกมาในปี 1979 ทั้งความคล่องตัวในการขับขี่ ประหยัดน้ำมัน ตัวถังทรงกล่อง และการออกแบบภายในที่เรียบง่าย พร้อมระบบความปลอดภัย Suzuki Safety Support มาให้ทุกรุ่นย่อย

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 657 ซีซี รหัส R06A ให้แรงม้าสูงสุด 46 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 55 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรุ่น 4WD ให้เลือก

และเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 3 สูบ ขนาด 657 ซีซี รหัส R06D ให้แรงม้าสูงสุด 49 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 58 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรุ่น 4WD ให้เลือก

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : ข้อมูลรถ 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนพฤษภาคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

แหล่งที่มาจาก:

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

“ญี่ปุ่น” นับเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก แม้ว่าในช่วงหลังๆ อาจจะดูเงียบไปบ้าง (เนื่องจากเจอค่ายรถยนต์จากจีน พยายามแซงขึ้นมาแล้ว) แต่ก็ยังมีแบรนด์รถยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่หลายแบรนด์ อีกทั้งยอดขายภายในประเทศตัวเอง ก็ขายได้มากถึงหลายล้านคันต่อปี

นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา เจอโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก แถมด้วยสายพันธุ์ใหม่กระหน่ำซ้ำอีก บวกกับปัญหาจากวิกฤติ Semiconductor Chip Shortage หรือชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน ทำให้รถบางรุ่นต้องพักสายการผลิต เพราะไม่สามารถหาชิปมาผลิตรถได้

บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นก็ได้ผลกระทบต่อเนื่อง ในปี 2021 ที่ผ่านมา มียอดขาย และยอดจดทะเบียนรถในประเทศญี่ปุ่น ตกลงมาเหลือ 4,448,340 คัน ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับยอดขายรถในปี 2020 ที่ผ่านมาที่ทำได้มากถึง 4,598,615 คัน (ซึ่งก็เป็นยอดที่ลดลงมาแล้วก็ตาม)

ในรอบหนึ่งทศวรรษ นี่นับเป็นครั้งที่สาม ตั้งแต่ที่ในญี่ปุ่นเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ คลื่นสึนามิถล่มในเดือนมีนาคม 2011 และในปี 2016 ที่ส่งผลให้ยอดขายรถตกลงมาต่ำกว่า 5 ล้านคัน ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง แต่ในปี 2022 นี้ หลายฝ่ายต่างคาดว่ายอดขายจะดีขึ้น เพราะมียอดจองรถที่เข้ามามาก รวมไปถึงวิกฤตโควิด และสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะเริ่มแผ่วเบาลง

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

ตัวเลขยอดขาย แยกย่อยออกเป็นรถยนต์ทั่วไป 2,399,862 คัน (-3.2% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถ K-Car 1,275,836 คัน (-4.2% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถเชิงพาณิชย์ 389,076 คัน (-0.8% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถ K-Car เชิงพาณิชย์ 376,686 คัน (-2.6% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว) และรถบัส 6,880 คัน (-26.3% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว)

ซึ่งยอดขายรถบางส่วนนี้ รวมไปถึงรถยนต์ที่ผู้จำหน่ายอิสระซื้อ และสั่งเข้ามาขายในไทยด้วยนะครับ

สำหรับรถยนต์ในญี่ปุ่นนั้น มีอายุการใช้งานที่ไม่มากนัก เพียงไม่กี่ปี จากอัตราภาษีที่ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุรถและค่าซ่อมรถที่ค่อนข้างแพง จึงทำให้มีการกระตุ้นยอดขายรถใหม่ไปในตัวตลอด แล้วรถใหม่ก็มีราคาจำหน่ายที่ไม่แพงมาก ผนวกกับค่าครองชีพของคนญี่ปุ่น ที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อรถยนต์คันใหม่ได้ไม่ยาก ยอดขายรถจึงค่อนข้างสูงหลายแสนคันต่อเดือน

Mr.Carro ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น (ตามการจัดอันดับของสมาพันธ์ผู้ค้ารถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น JADA (Japan Automobile Dealers Association) ซึ่งรถยนต์แบบ K-Car จะถูกจับแยกออกไปต่างหาก) ประจำปี 2021 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

1. Toyota Yaris ยอดขาย 212,927 คัน

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) น้องเล็กของ Toyota ที่เป็น Yaris ในตลาดโลก (แต่ในบ้านเรา กลับได้ Yaris เวอร์ชั่นจีนมาแทน) เพิ่งปรับโฉมโมเดลเชนจ์ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา สามารถไต่ยอดขายได้เป็นไปอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง แสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นนิยมรถแนวนี้มากๆ

โดยโฉมนี้ใช้แพลตฟอร์มใหม่อย่าง TNGA-B มาในรูปแบบสปอร์ต ภายในขับขี่ง่าย ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่าย พร้อมระบบความปลอดภัยอย่าง Toyota Safety Sense ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที

แบบเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NR-FKE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่วนเครื่องยนต์รหัส 1NR-FE มี ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 119 นิวตัน-เมตร

ส่วนขุมพลัง Hybrid มีขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 169 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

อีกทั้งยังมีรุ่นพลังแรงให้เลือก (ที่มีขายในบ้านเราด้วย!) นั่นคือ Toyota GR Yaris ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS แบบแถวเรียง 3 สูบ เทอร์โบ DOHC 12 วาล์ว ขุมพลังใหม่ล่าสุด พละกำลังสูง ด้วยความแรงระดับ 261 แรงม้า  พร้อมแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) และรุ่น GRMN Yaris ที่ลดน้ำหนักตัวรถลงไปถึง 20 กิโลกรัม สำหรับนักขับแบบฮาร์ดคอร์ จำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น

สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 230 กม./ชม. โดยพละกำลังทั้งหมดจากเครื่องยนต์ จะถูกถ่ายทอดผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ล่าสุด ที่เรียกว่า “GR-FOUR”

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

2. Toyota Roomy ยอดขาย 134,801 คัน

Toyota Roomy (โตโยต้า รูมมี่) รถยอดนิยม รูปทรงแบบ Tall Boy ที่มาแทน Toyota bB (โตโยต้า บีบี) รุ่นก่อนหน้า ที่ยังมีคู่แฝด ในชื่อ Daihatsu Thor อีกด้วย รุ่นปัจจุบันเป็นโฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา เป็นรถที่นั่งได้ 5 ที่นั่ง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ซึ่งให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที

และในรุ่น Turbo Intercooler รหัส 1KR-VET ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรที่ไม่มี Turbo

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

3. Toyota Corolla ยอดขาย 110,865 คัน

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ต้องบอกได้ว่าลุคของ Corolla ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 12 นี้ ฉีกความอนุรักษ์นิยมเดิมๆ เรียบๆ เรื่อยๆ ของ Corolla Axio ทิ้งไปได้หมดจริงๆ สำหรับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่ดูเปรี้ยวสุดๆ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และยังมีรุ่น 5 ประตู Sport Hatchback กับรุ่นแวกอนอย่าง Touring ออกมาขายเช่นเคย

ขุมพลังของทั้งรุ่น Sedan, Sport และ Touring มีให้เลือก 2 รุ่นเครื่องยนต์ ตั้งแต่เบนซินขนาด 1.2 ลิตร Turbo รหัส 8AR-FTS ให้แรงม้าสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ iMT และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถล็อคอัตราทดได้ 10 สปีด

แบบเบนซินเพียวๆ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตร ที่ 3,900 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนขุมพลัง Hybrid ยกมาจาก Prius ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 72 แรงม้า ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบอยู่ที่ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา Toyota ได้ออกรุ่นพิเศษให้กับ Corolla 50 Million Edition ฉลองครบรอบการผลิตครบ 50 ล้านคัน ของโคโรลล่า Hybrid ทุกรุ่นย่อยอีกด้วย

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

4. Toyota Alphard ยอดขาย 95,049 คัน

Toyota Alphard (โตโยต้า อัลฟาร์ด) ยังคงเป็นรถแวนระดับหรู ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในญี่ปุ่นและในไทย แม้จะอยู่ในช่วงปลายอายุตลาดแล้ว แต่ในปี 2021 ยังมาพร้อมตัวเลขยอดขายที่สูงกว่าในปี 2020 ถึง 4.7% (ปี 2020 ยอดขาย 90,748 คัน)

มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายด้วยชุดเซ็นเซอร์เปิดฝาท้ายแบบ Kick activated เพิ่มสุนทรียภาพในทุกการเดินทางด้วยเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสด้านหน้าขนาด 10.5 นิ้ว และด้านหลังขนาด 13.3 นิ้ว ที่สามารถรองรับ Apple Carplay ตลอดจนลำโพง JBL 17 ตัว

นอกจากนี้ยังมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยกล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (Digital Video Recorder) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้ารุ่นล่าสุด อย่าง Toyota Safety Sense เจเนอเรชั่นที่ 2

ขุมพลังพื้นฐานมีเป็นแบบเบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที

ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า และตัวหลัง 68 แรงม้า โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

และขุมพลังเบนซินขนาด 3.5 ลิตร รหัส 3GR-FKS แบบ V6 DOHC Chain Drive VVT-iW และ D-4S ให้แรงม้าสูงสุด 296 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

5. Nissan Note ยอดขาย 90,177 คัน

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) รถ Sub-Compact โฉมใหม่ล่าสุดจาก Nissan ที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ในญี่ปุ่นจริงๆ สร้างยอดขายแบบพุ่งกระฉูดได้ตลอดปี 2021 ต่างจาก Nissan Note จำหน่ายในบ้านเราลิบลับ! แถมยังมี Nissan Note Aura (นิสสัน โน๊ต ออร่า) มาช่วยเสริมทัพด้วย

โดย Nissan Note โฉมล่าสุดนี้ถูกออกแบบใหม่หมด มาพร้อมความคล้าย Nissan Leaf หน่อยๆ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรง V-Motion ไฟหน้าแบบ LED แบบ 4 ดวงในแต่ละข้าง ส่วนไฟท้ายเป็นรูปทรงแนวนอน พร้อมล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว มีสีตัวถังให้เลือกเยอะถึง 13 สี และสามารถเลือกหลังคาแบบสีดำได้

ส่วนภายในห้องโดยสารหรูหราขึ้นมาก แผงคอนโซลแบบสองชั้น ส่วนคอนโซลกลางมาพร้อมคันเกียร์ไฟฟ้า ติดตั้งเบาะนั่ง Zero Gravity พร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่ เสริมด้วยจอ Infotainment ขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล ติดตั้งระบบ ProPILOT with Navi-link สามารถปรับความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็วได้อัตโนมัติ รวมถึงลดความเร็วก่อนเข้าโค้งได้

ขุมพลัง e-Power พัฒนาให้มีกำลังเพิ่มขึ้น 6% และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 10% เป็นแบบเบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 134 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร (รุ่น 4WD มีมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง ขนาด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร เพิ่มมาให้ด้วย) มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

ส่วน Nissan Note Aura (นิสสัน โน๊ต ออร่า) ที่ปรับแต่งให้สวยหรูยิ่งขึ้น และ Nissan Note Aura Nismo (นิสสัน โน๊ต ออร่า นิสโม่) ที่เปิดตัวไปในเดือนสิงหาคม 2021 ทาง Nissan ระบุว่า Note Aura เป็นรถรุ่นแรกของ Nissan ที่ตกแต่งในธีมการออกแบบใหม่ของ Nismo มาพร้อมชุดแต่งรอบคันที่ตกแต่งด้วยสีแดง มีไฟตัดหมอกหน้า-หลัง พร้อมเบาะนั่งแบบบักเก็ตซีทสไตล์รถแข่งจาก Recaro ตกแต่งด้วยวัสดุหนังกลับและหนังสังเคราะห์ ตกแต่งแผงคอนโซลลายคาร์บอนสีแดง ก็ช่วยให้ยอดขายกระฉูดกันไป

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

6. Toyota Raize ยอดขาย 81,880 คัน

Toyota Raize (โตโยต้า ไรซ์) รถ Crossover ขนาดเล็กยอดนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ที่มีคู่แฝดร่วมกันกับ Daihatsu Rocky (ไดฮัทสุ ร็อคกี้) ซึ่งมีการดีไซน์ที่คล้ายกับ Toyota RAV4 รุ่นใหม่อยู่ไม่น้อย ที่นอกจากจะขายดีในญี่ปุ่นแล้ว Toyota ยังนำไปเปิดตัวในหลายๆ ประเทศ และในอาเซียน ก็ขายดีไม่แพ้กัน

มาพร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตขนาดใหญ่ และไฟตัดหมอก กับไฟ Daytime Running Light ทรงแนวนอน พร้อมไฟท้ายแบบ LED กับห้องโดยสารภายใน ที่นั่งกันได้สบายๆ 5 คน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีมากถึง 369 ลิตร

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรหัส 1KR-VET แบบ 3 สูบ DOHC Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 140 นิวตันเมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Control 4WD ให้เลือก

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

7. Toyota Harrier ยอดขาย 74,575 คัน

Toyota Harrier (โตโยต้า แฮริเออร์) เจเนอเรชั่นที่ 4 แม้ว่าในบ้านเราอาจจะไม่ได้ฮิตเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ที่ญี่ปุ่นยังเป็นรถ SUV ที่ขายดีมาก สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA (GA-K) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แนวหลังคาลาดแบบรถคูเป้ ให้การขับขี่ที่สบายและสนุกมากกว่าเดิม และมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ

รูปลักษณ์ภายนอกของดีไซน์ดูแข็งแกร่ง โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED แบบเรียวบางพร้อมแถบโครเมี่ยม พร้อมชุดไฟท้าย LED แนวนอนคาดยาวเต็มความกว้างของบั้นท้าย ส่วนภายในห้องโดยสารใช้โทนสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไม้กฤษณา และตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์ พร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส M20A-FKS ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-CVT

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ให้แรงม้าสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 120 แรงม้า และด้านหลัง 54 แรงม้า รวมกำลังสงสุด 222 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

8. Toyota Aqua ยอดขาย 72,495 คัน

Toyota Aqua (โตโยต้า อควา) หรือ Prius C (พรีอุส ซี) ในตลาดต่างประเทศ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดโฉมเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในเมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา ด้วยรูปทรงที่น่ารัก ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA GA-B ขยายความยาวฐานล้อเพิ่มอีก 50 มม. โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ความน่ารักไว้คล้ายกับในโฉมที่แล้ว

แน่นอนว่ารุ่นนี้ต้องมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำๆ อยู่แล้ว อาทิ ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ในทุกรุ่นย่อย พร้อมระบบช่วยจอด Toyota Teammate Advanced Park ครั้งแรกในรถ Compact ของ Toyota ซึ่งตัวรถสามารถควบคุมการจอดรถเองได้หมด ทั้งเดินหน้า-ถอยหลัง หรือหมุนพวงมาลัยเอง

และยังเป็นรถที่สามารถใช้จ่ายไฟในกรณีฉุกเฉินยามเกิดภัยพิบัติได้ด้วย สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 1,500 วัตต์แบบกระแสสลับ ด้วยแรงดัน 100 โวลต์ ตามมาตรฐานครัวเรือนญี่ปุ่น พร้อมทั้งช่องจ่ายไฟแบบ USB สำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กด้วย

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตรแบบใหม่ รหัส M15A-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800-4,800 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร

มาพร้อมระบบ Pleasure Pedal เป็นครั้งแรก หากใช้โหมด Power+ สามารถใช้แป้นคันเร่งเพิ่มหรือชลอความเร็วเพียงแป้นเดียวได้ ช่วยให้ขับรถในเมืองได้สบายขึ้น ขณะที่โหมดอื่นๆ ประกอบด้วย Normal, Power และ Eco-Drive

มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ E-Four ที่จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มมาที่ด้านหลังอีก 1 ตัวด้วย ให้กำลัง 6.4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 5.3 นิวตัน-เมตร

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

9. Toyota Voxy ยอดขาย 70,085 คัน

Toyota Voxy (โตโยต้า วอกซี่) สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถ MPV ขายดีฝั่ง Toyota อย่าง Voxy นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2017 ก่อนจะปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2017 และยังมีคู่แฝดร่วมรุ่นอย่าง Noah และ Esquire ที่ในบ้านเราก็มีคนนำเข้ามาขายกันหลายคัน พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยล่าสุดอย่าง Toyota Safety Sense C

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 193 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิดสงสุด 207 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

10. Honda Freed ยอดขาย 69,577 คัน

Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) แม้ว่าจะเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ไปตั้งแต่ปี 2016 ที่ผ่านมา แต่กระแสตอบรับยังแรงต่อเนื่อง นับเป็นรถ Minivan MPV ขนาดเล็กที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ Honda Fit และ Grace (หรือ Honda Jazz กับ City ในไทย) มีจำหน่ายทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ซึ่งในปี 2021 ที่ผ่านมา Honda Freed ก็ฉลองยอดการผลิตไปถึง 1 ล้านคันเรียบร้อย

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซินและ Hybrid เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 153 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ทำงานคู่กันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC + ระบบ Hybrid แบบ Sport Hybrid i-DCD ให้แรงม้าสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 134 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 29.5 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถขายดีสุดในญี่ปุ่นที่นำมาเสนอนั้น น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนนะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : ข้อมูลรถ 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนเมษายน 2565 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

แหล่งที่มาจาก:

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

วันนี้ MR.CARRO มาเอาใจคุณสาวๆ และทาสแมว กับ Nissan Dayz (นิสสัน เดย์) รถทรงกล่องสุดน่ารักในรูปแบบของรถ K-Car จาก Nissan ที่เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้น่าประทับใจ จนติดอันดับรถยนต์ K-Car ที่ขายดีในญี่ปุ่นอีกด้วย

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

Nissan DayZ ยังเป็นคู่แฝดของ Mitsubishi eK อีกด้วย โดยรถรุ่นนี้ เน้นเจาะกลุ่มตลาดผู้หญิงช่วงอายุ 20 – 40 ปี มีให้เลือกถึง 3 แบบ นั่นคือ ได้แก่ Dayz, Dayz Highway Star และ Bolero

อ่านเพิ่มเติม >> 5 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2019

อ่านเพิ่มเติม >> 10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2020

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 659 ซีซี รหัส BR06 ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนรุ่น S-Hybrid จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ เข้ามาด้วย

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา แม้ว่าในประเทศญี่ปุ่นจะพบเจอกับปัญหาวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนลำบาก จิตใจหดหู่กันไปทั้งโลก เพื่อเป็นการสร้างความสนใจให้กับตัวรถ และเอาใจลูกค้าที่ชอบทานกาแฟ บวกกับชอบเล่นกับแมวไปในตัว จึงเป็นที่มาของการจับมือกับร้านคาเฟ่แมวชื่อดังในญี่ปุ่นอย่าง Mocha Cat Cafe นั่นเอง

ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีความสุขขึ้น เมื่อได้เห็นรถ Nissan Dayz ที่มาพร้อมกับแมวเหมียวเหล่านี้ ต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

ซึ่ง Mocha Cat Cafe เป็นคาเฟ่แมวที่เริ่มธุรกิจตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2015 โดยเปิดสาขาแรกที่ Ikebukuro จนถึงในปัจจุบันมีสาขามากกว่า 20 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น (ซึ่งแค่สาขาคาเฟ่แมวในโตเกียว ก็มีด้วยกันถึง 9 สาขาแล้ว!) ภายในร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งทั้งโซนอ่านหนังสือ ทำงาน หรือจะนั่งเล่นกับเจ้าเหมียวก็ได้

ซึ่งการนำ Nissan Dayz ไปให้แมวได้มุดเข้ามุดออกรถ ก็ถือว่าได้โปรโมทรถ ที่ถูกใจสาวๆ และคนชอบแมว นับว่าได้ผลเกินคาด!

และทาง Nissan เอง ยังได้ทำ Clip VDO แนะนำระบบใช้งานตัวรถคันนี้ขึ้นมาให้ทาสแมวได้ดูกันด้วย กับจุดเด่นของ “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” อาทิเช่น ระบบ ProPILOT ครั้งแรกของการแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่สามารถขับรถพาน้องแมว ไปไหนมาไหนได้ทุกมุมอย่างอิสระทีเดียว

กับความสามารถในการตรวจจับวัตถุต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวรถได้ดีขึ้น หรือรักษาระยะห่าง ด้วยระบบต่างๆ ที่ทำงานร่วมกัน กับมีปุ่มขอความช่วยเหลือ (SOS Call) บนรถอีกด้วย พร้อมกับเบื้องหลังอันถ่ายทำน่ารักๆ ครับ

เรียกได้ว่าน่าจะถูกใจทั้งคุณสาวๆ แล้วทาสแมวแล้วล่ะ ที่คงต้องหารถรุ่นนี้มาใช้กันแล้ว!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิมตอนนี้ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

สำหรับใครที่อยากซื้อรถ Nissan Dayz ใหม่ สามารถซื้อแบบป้ายแดงได้ในราคาคันละล้านกว่าบาท แต่ถ้างบไม่พอ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุดและยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

5 เหตุผล ที่ทำไมคนญี่ปุ่น ถึงนิยมเทคโนโลยี e-Power ของรถ Nissan

นับตั้งแต่ Nissan (นิสสัน) แนะนำเทคโนโลยี e-Power (นิสสัน อี-พาวเวอร์) ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น กับ Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) รถยนต์แบบ Compact เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 ตั้งแต่นั้นมา Nissan Note e-Power ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และยังได้รับรางวัลรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2018*

Nissan Note e-Power และ Nissan Serena e-Power

ต่อมา ในเดือนมีนาคม 2018 Nissan เปิดตัวรถมินิแวน Nissan Serena e-Power (นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์) ตามด้วย Nissan Kicks e-Power (นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์) ในเดือนมิถุนายน 2020 พร้อมๆ กับบางประเทศในทวีปเอเชีย และในไทย

ซึ่งทำให้เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ แพร่หลายมากยิ่งขึ้น และในเดือนธันวาคมปีเดียวกันก็ได้เปิดตัว นิสสัน โน๊ต ใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ 2

Nissan Note e-Power E12 Engine

เดือนมีนาคมปี 2021 Nissan เปิดตัว Nissan Qashqai e-Power (นิสสัน แคชไค อี-พาวเวอร์) ใหม่ ในตลาดยุโรปหลังจากมีการเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์แบบ Mild Hybrid ไปก่อนหน้านี้ นับเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ครั้งแรกในทวีปยุโรป และที่งาน Auto Shanghai 2021 ในประเทศจีน Nissan ก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยีนี้ด้วยเช่นกัน

Nissan Note e-Power E12 Engine

และในเดือนมีนาคมเดียวกันนี้ Nissan สามารถสร้างยอดขายรถยนต์ Nissan e-Power ได้ทะลุ 500,000 คัน! ซึ่งประเทศที่ครองยอดขายเป็นอันดับ 1 คือ ประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งในเดือนมิถุนายนนี้ Nissan ได้เสริมทัพด้วย Nissan Note Aura (นิสสัน โน๊ต ออร่า) ที่ใช้ e-Power ออกมาอีกรุ่น

MR.CARRO เลยชวนคุณมาดู 5 เหตุผล ว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงโคตรนิยมรถยนต์ e-Power ของ Nissan กันครับ …

Nissan Note e-Power E13 2021

1. มอเตอร์ไฟฟ้า 100%

e-Power ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% คือการใช้เครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูง ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งต่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าใช้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถ (ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก ว่า e-Power ทำงานอย่างไร? ขอให้นึกถึงรถไฟ แบบรถจักรดีเซลไฟฟ้า มีหลักการทำงานที่คล้ายกัน)

ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเงียบภายในห้องโดยสาร และได้ความสนุกในการขับขี่ ด้วยอัตราเร่งที่ทันใจแบบรถยนต์ไฟฟ้า แต่สะดวกกว่า ตรงที่เติมน้ำมันแทนการชาร์จไฟจากภายนอก

2. 5 รางวัลจากญี่ปุ่น

เทคโนโลยี e-Power ได้รับรางวัลระดับประเทศมาแล้ว 5 รางวัลในประเทศญี่ปุ่น เช่น รางวัลเทคโนโลยียอดเยี่ยมแห่งปีในประเทศญี่ปุ่น จาก สมาคมนักวิจัย และนักข่าวด้านยานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (Automotive Researchers’ and Journalists’ Conference of Japan) (RJC)

อีกทั้งจากการที่มีส่วนในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อี-พาวเวอร์ ยังได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมจากศูนย์อนุรักษ์พลังงานประเทศญี่ปุ่น (The Energy Conservation Center Japan) (ECCJ)

*ยอดขาย Note ประกอบด้วย Note รุ่นมาตรฐานและ Note e-Power โดยรุ่น อี-พาวเวอร์ คิดเป็นประมาณ 70% ของยอดขาย

Nissan Note e-Power E13 2021

3. ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก

หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ความเงียบ และอัตราเร่งที่ราบรื่นเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่สะดวกสบายเพราะไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอกหรือต้องคอยหาสถานีชาร์จ แน่นอนว่า e-Power มอบความพิเศษนี้ให้กับคุณได้

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยีถึงได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่สะดวกชาร์จที่บ้าน เช่น ผู้คนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์ในโตเกียว

4. ยอดขายรถยนต์ Nissan e-Power ในญี่ปุ่นทะลุ 500,000 คัน

หากคุณนำรถยนต์ e-Power ที่จำหน่ายไปแล้วกว่า 500,000 คันมาเรียงต่อกัน ก็จะได้ความยาวเท่ากับระยะทางจากโตเกียวถึงไทเป![1] หรือพอๆ กับหากคุณเดินเท้าจากกรุงเทพไปยังมะนิลา![2]

Nissan Note e-Power E13 2021

5. ลดการใช้แป้นเบรกลง 70% ด้วย One-Pedal

การได้ลดการใช้แป้นเบรกในระหว่างรถติดนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ขับขี่ชาวญี่ปุ่น เทคโนโลยี One-Pedal ในคิกส์ อี-พาวเวอร์ ช่วยให้คุณได้เร่งและชะลอความเร็วรถโดยใช้แป้นคันเร่งเพียงแป้นเดียว

นวัตกรรมนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยลดจำนวนการใช้แป้นเบรกได้ถึง 70% เมื่อรถมีการชะลอความเร็ว ระบบจะมีการฟื้นฟูพลังงานเพื่อชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2020

จากการจัดอันดับของ JADA สมาพันธ์ผู้ค้ารถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Automobile Dealers Association) “ญี่ปุ่น” ถือเป็นประเทศที่มียอดขายรถที่มากติดอันดับโลก (ในปี 2020 มียอดขาย และจดทะเบียนรถในประเทศมากถึง 4,598,615 คัน ซึ่งยอดขายตกลงมาจากปี 2019 หลายแสนคัน จากผลกระทบของโควิด-19) แต่เนื่องจากรถเก่ามีค่าตรวจสภาพ ค่าซ่อม ภาษีรถยนต์ และค่าประกันภัยที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนนิยมใช้รถยนต์แค่ไม่กี่ปีก็ขายรถ แล้วซื้อคันใหม่

อ่านเพิ่มเติม >> 10 อันดับ รถที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2020

สำหรับของรถ Kei Car (K-Car) นั้น หมายถึง Keijidōsha (軽自動車) หรือ รถขนาดเล็ก ซึ่งเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มียอดขายที่ถือว่าสูงมากๆ ต่อปี ด้วยอัตราภาษีที่ต่ำ หาที่จอดรถได้ง่าย รับกับถนนขนาดไม่ใหญ่นักของญี่ปุ่น (ซึ่งหากใครที่ซื้อรถยนต์ในญี่ปุ่น หากไม่มีที่จอด ซื้อไม่ได้นะจะบอกให้)

คุณสมบัติคร่าวๆ ของรถ K-Car หลักๆ ก็จะมีความยาวตัวรถที่ไม่เกิน 3.4 เมตร กว้างไม่เกิน 1.48 เมตร สูงไม่เกิน 2 เมตร มีเครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 660 ซีซี และแรงม้าไม่เกิน 64 แรงม้า และมีขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่บ้านเราก็นิยมเอาเข้ามามาก ในช่วงรถจดประกอบกำลังบูม

ส่วนถ้าใครกำลังอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาใช้ ลองมาขายกับ CARRO Express ดูสิ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถ K-Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2020 (ซึ่งรถทุกรุ่น ยังมีขายเป็นรถใหม่ 2021 ในญี่ปุ่นอยู่ด้วย) ไปอ่านกันได้เลย …

Honda N-Box 2021

1. Honda N-Box จำนวน 195,984 คัน

Honda N-Box (ฮอนด้า เอ็นบ็อกซ์) ถือเป็นรถ K-Car ที่ขายดีที่สุดในปี 2019 (253,500 คัน) และในปี 2020 อีกด้วย นับตั้งแต่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2017 และปรับโฉมเล็กน้อยช่วงปลายเดือนธันวาคม 2020 ด้วยการเสริมระบบ Honda Sensing เข้าไป พร้อมปรับชุดกระจังหน้าใหม่ และล้อแม็กลายใหม่ ก็ยังขายดีอย่างต่อเนื่อง 4 ปีติดต่อกัน!

โดยเป็นรถ Kei Car ที่คล้ายกับรถ MPV แบบประตูบานเลื่อนด้านข้าง นิยมกันสำหรับคนมีครอบครัว ไปจนถึงรุ่นใหญ่ อายุ 40-50 ปี ซึ่งมีให้เลือกทั้ง N-Box และ N-Box Custom เอาใจวัยรุ่น

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส S07B ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 58 แรงม้า ที่ 7,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 65 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตัน-เมตร ที่ 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Suzuki-Spacia-2020

2. Suzuki Spacia จำนวน 139,851 คัน

Suzuki Spacia (ซูซูกิ สปาเซีย) เป็นรถ K-Car เจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยรูปทรงแนวยอดนิยม ชูจุดเด่นอย่างประตูด้านหลังแบบบานเลื่อนไฟฟ้า จากค่าย Suzuki นี่ก็ติดอันดับต้นๆ ของเรื่องขายดี ที่ปี 2020 สามารถพาตัวเองขึ้นมาในอันดับที่ 2 ได้ ซึ่งนับตั้งแต่โฉมไมเนอร์เชนจ์ออกมาในเดือนกันยายน 2017 เน้นกลุ่มคนมีครอบครัว แม่บ้าน และวัยรุ่นขึ้นมาหน่อย หรือหนุ่มวัยเพิ่งทำงานก็ต้องเล่นรุ่น Spacia Custom

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินพลัง Hybrid ขนาด 658 ซีซี รหัส R06A ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 52 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 98 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3.1 แรงม้า อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Daihatsu Tanto 2021

3. Daihatsu Tanto จำนวน 129,680 คัน

Daihatsu Tanto (ไดฮัทสุ แทนโต) นี่ก็ถือว่าเป็นรถ K-Car ที่ขายดีของ Daihatsu นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2003 จวบจนถึงปัจจุบันที่เป็นเจเนอเรชั่น 4 แล้ว โดยเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ก็สามารถทำยอดขายขึ้นมายืนอันดับ 2 ได้แล้ว ซึ่งรุ่นนี้พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ DNGA หรือ Daihatsu New Global Architecture ที่นำแนวคิดมาจาก Toyota นั่นเอง มีจุดเด่นอย่างประตูด้านหลังเป็นแบบบานเลือนไฟฟ้า

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 52 แรงม้า ที่ 6,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Daihatsu-Move-2020

4. Daihatsu Move จำนวน 104,133 คัน

Daihatsu Move (ไดฮัทสุ มูฟ) รถ K-Car รุ่นยอดนิยมของไดฮัทสุ นับตั้งแต่ออกมาในปี 1995 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ที่ออกมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014 และปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในเดือนสิงหาคม 2017 ก็ช่วยให้ยอดขายยังสามารถสู้กับรถ Kei Car รุ่นอื่นๆ ได้ในเวลานี้ ยังมีทั้งรุ่นเพื่อครอบครัวอย่าง Move และรุ่นเอาใจคนวัยทำงาน รักการแต่งรถ ชอบความสปอร์ตอย่าง Move Custom

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo สำหรับรุ่น Custom ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Nissan Dayz 2021

5. Nissan Dayz จำนวน 87,029 คัน

Nissan Dayz (นิสสัน เดย์) รถทรงกล่องสุดน่ารัก ในรูปโฉมใหม่ล่าสุด เจเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2019 ที่ผ่านมา สรางยอดขายได้น่าประทับใจ และยังเป็นคู่แฝดของ Mitsubishi eK Wagon และ eK X อีกด้วย โดยรถรุ่นนี้ เน้นเจาะกลุ่มตลาดผู้หญิงมากกว่า มีให้เลือกถึง 3 แบบ นั่นคือ ได้แก่ Dayz, Dayz Highway Star และ Bolero

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 659 ซีซี รหัส BR06 ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนรุ่น S-Hybrid จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ เข้ามาด้วย

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Suzuki Hustler 2021

6. Suzuki Hustler จำนวน 80,114 คัน

Suzuki Hustler (ซูซูกิ ฮัตสเลอร์) เป็นรถแนว Crossover SUV แบบ K-Car ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแดนปลาดิบอีกหนึ่งรุ่น โดยรุ่นนี้นับว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ นั่นคือ Hustler และ Hustler Style เปิดตัวในวันที่ 20 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งยังแบ่งปันตัวรถให้กับทาง Mazda นำไปแปะขายในแบรนด์ตัวเองด้วยในชื่อ Flair Crossover เช่นเคย

ห้องโดยสารภายในมี 4 ที่นั่ง ใช้เบาะนั่งคู่หน้าแบบสีทูโทน แปลกตาด้วยการแบ่งคอนโซลหน้าออกเป็น 3 ส่วน ด้วยวัสดุตกแต่ง พร้อมผังหน้าจอ Infotainment ขนาด 9 นิ้ว เอาไว้บริเวณกึ่งกลาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน พร้อมจอ MID ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ รวมถึงแอร์อัตโนมัติ เป็นต้น

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 3 สูบ ขนาด 657 ซีซี รหัส R06D ให้แรงม้าสูงสุด 49 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 58 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เพิ่มตัวฉีดน้ำมันเกียร์เป็น 2 ตัว พร้อมปรับปรุงชุดสายพาน และระบบ Cooled EGR กับระบบฉีดหัวคู่

และเครื่องยนต์ 3 สูบ Turbo Hybrid ขนาด 658 ซีซี รหัส R06A มอบแรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 98 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ขุมพลังทั้งสองทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid กับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator (ISG) ซึ่งเก็บพลังงานที่เหลือใช้จากการขับขี่ เช่น การเบรก มาปั่นเป็นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ใช้ในแบตเตอรี่ได้ รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย Suzuki Safety Support ที่มีคุณสมบัติอีกเพียบ

Daihatsu Mira E:S 2021

7. Daihatsu Mira จำนวน 73,462 คัน

Daihatsu Mira e:S (ไดฮัทสุ มิร่า อีเอส) รถ Eco-Car แบบฉบับญี่ปุ่นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2017 ซึ่งยังคงขายได้เรื่อยๆ ในตลาดญี่ปุ่น แถมเป็นคู่แฝดกันกับ Toyota Pixis Epoch และ Subaru Pleo Plus รวมถึงยังเป็นรุ่นที่มาทดแทน Mira รุ่นดั้งเดิม นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 อีกด้วย

ความพิเศษของรถรุ่นนี้คือการแนะนำ “e:S technology” ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 32.2 – 35.2 กม./ลิตร (วัดตามมาตรฐานโหมด JC08) ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบาจากเทคโนโลยี D Monocoque และวัสดุเรซิ่นที่นำกลับมาใช้ใหม่ และติดตั้งระบบ Smart Assist III ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในการหลีกเลี่ยงการชน

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุด 49 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 57 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรุ่น 4WD ให้เลือก

Nissan Roox 2021

8. Nissan Roox จำนวน 72,820 คัน

Nissan Roox (นิสสัน รู๊ค) รถทรงกล่องสุดน่ารัก แบบประตูบานเลื่อนด้านข้าง โฉมใหม่เจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2020 ที่ผ่านมา โดยรถรุ่นนี้พัฒนาร่วมกันระหว่าง Nissan กับ Mitsubishi eK Space และ eK X Space สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม NMKV มีให้เลือกถึง 2 แบบ ได้แก่ Roox และ Roox Highway Star

ห้องโดยสารภายในชูจุดเด่นด้วยความกว้าง สูง พื้นที่นั่งโดยสารด้านหลังให้ความกว้างถึง 770 มม. และความสูงภายในรถที่มากถึง 139 ซม. และพื้นที่เก็บสัมภาระตามจุดต่างๆ มากมาย สามารถเข้า-ออกง่าย ด้วยประตูบานข้างแบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เปิด-ปิดอัตโนมัติ ได้กว้างถึง 650 มม.

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 659 ซีซี รหัส BR06 ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนรุ่น S-Hybrid จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ เข้ามาด้วย

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Honda N-WGN 2021

9. Honda N-WGN จำนวน 69,353 คัน

Honda N-WGN (ฮอนด้า เอ็น-แวกอน) ถือเป็นรถ K-Car แบบอเนกประสงค์เจเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวมาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2019 ด้วยรูปทรงสุดน่ารัก ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายสำหรับ 4 คน มีให้เลือกทั้งแบบ N-WGN และ N-WGN Custom พร้อมระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่ช่วยให้คุณขับรถได้อย่างมั่นใจ

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส S07B ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 58 แรงม้า ที่ 7,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 65 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตัน-เมตร ที่ 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Suzuki Wagon R 2021

10. Suzuki Wagon R จำนวน 66,061 คัน

Suzuki Wagon R (ซูซูกิ แวกอนอาร์) นับเป็นรถเจเนอเรชั่นที่ 6 แล้วสำหรับรถแวกอน K-Car ทรงสูงของ Suzuki รุ่นนี้ที่ออกมาในปี 1993 โดยในโฉมนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 บนแพลทฟอร์มใหม่ล่าสุดอย่าง HEARTECT ที่น้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง ตอบสนองการขับขี่ที่ดีขึ้น

มีให้เลือก 2 แบบ นั่นคือ Wagon R เอาใจคุณผู้หญิง หรือพ่อบ้านที่มีครอบครัวแล้ว และ Wagon R Stingray เน้นเอาใจวัยรุ่น หรือคนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน มาพร้อมการตกแต่งภายในที่ดูอบอุ่นในรุ่น Wagon R และดูเร้าใจ สปอร์ต สนุกสนาน ในรุ่น Wagon R Stingray

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 3 สูบ ขนาด 657 ซีซี รหัส R06D ให้แรงม้าสูงสุด 49 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 58 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เพิ่มตัวฉีดน้ำมันเกียร์เป็น 2 ตัว พร้อมปรับปรุงชุดสายพาน และระบบ Cooled EGR กับระบบฉีดหัวคู่

และเครื่องยนต์ 3 สูบ Turbo Hybrid ขนาด 658 ซีซี รหัส R06A มอบแรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 98 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ขุมพลังทั้งสองทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid กับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator (ISG) ซึ่งเก็บพลังงานที่เหลือใช้จากการขับขี่ เช่น การเบรก มาปั่นเป็นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ใช้ในแบตเตอรี่ได้ รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย Suzuki Safety Support ที่มีคุณสมบัติเหมือนในรุ่น Hutsler จ้า

Suzuki Wagon R Stingray 2021

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถ K-Car ขายดีสุดในญี่ปุ่นที่นำมาเสนอนั้น น่าจะกระตุ้นต่อมอยากได้กันน่าดูเลย แต่น่าเสียดาย ที่บ้านเราภาษีรถนำเข้ายังถือว่าสูง ปกติแล้วในญี่ปุ่น รถเหล่านี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านเยน แต่เมื่อมาถึงไทยแล้ว รวมภาษีต่างๆ ราคาอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ ก็ต้องฝันไปก่อนละกัน หรือจะไปเล่นรถ K-Car ที่เป็นรถจดประกอบเก่าจากญี่ปุ่นก็ได้

สำหรับใครที่อยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

หมายเหตุ : ข้อมูลรถ K-Car 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนพฤษภาคม 2564 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

แหล่งที่มาจาก :

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2020

“ญี่ปุ่น” นับเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และมีแบรนด์รถยนต์ที่ขายรถยนต์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งยอดขายภายในประเทศตัวเอง ก็ขายได้มากถึงหลายล้านคันต่อปี

แม้ว่าในปี 2020 เป็นต้นมา เจอโควิด-19 ที่ระบาดและส่งผลกระทบไปทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นก็ได้ผลกระทบไปอย่างมากเช่นกัน ในปี 2020 ที่ผ่านมา มียอดขาย และยอดจดทะเบียนรถในประเทศญี่ปุ่น ตกลงมาเหลือ 4,598,615 คัน ลดลง 11.5% เมื่อเทียบกับยอดขายรถในปี 2019 ที่ผ่านมาที่ทำได้มากถึง 5,234,166 คัน

ในรอบหนึ่งทศวรรษ นี่นับเป็นครั้งที่สาม ตั้งแต่ที่ในญี่ปุ่นเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ คลื่นสึนามิถล่มในเดือนมีนาคม 2011 และในปี 2016 ที่ส่งผลให้ยอดขายรถตกลงมาต่ำกว่า 5 ล้านคัน

โชว์รูมโตโยต้าในญี่ปุ่น

ตัวเลขยอดขาย แยกย่อยออกเป็นรถยนต์ทั่วไป 2,478,832 คัน (-12.2% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถ K-Car 1,331,149 คัน (-10% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถเชิงพาณิชย์ 392,361 คัน (-12.7% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถ K-Car เชิงพาณิชย์ 386,939 คัน (-10.3% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว) และรถบัส 9,334 คัน (-31.3% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว)

ซึ่งยอดขายรถบางส่วนนี้ รวมไปถึงรถยนต์ที่ผู้จำหน่ายอิสระซื้อ และสั่งเข้ามาขายในไทยด้วยนะครับ

สำหรับรถยนต์ในญี่ปุ่นนั้น มีอายุการใช้งานที่ไม่มากนัก เพียงไม่กี่ปี จากอัตราภาษีที่ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุรถและค่าซ่อมรถที่ค่อนข้างแพง จึงทำให้มีการกระตุ้นยอดขายรถใหม่ไปในตัวตลอด แล้วรถใหม่ก็มีราคาจำหน่ายที่ไม่แพงมาก ผนวกกับค่าครองชีพของคนญี่ปุ่น ที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อรถยนต์คันใหม่ได้ไม่ยาก ยอดขายรถจึงค่อนข้างสูงหลายแสนคันต่อเดือน

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น (ตามการจัดอันดับของสมาพันธ์ผู้ค้ารถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น JADA (Japan Automobile Dealers Association) ซึ่งรถยนต์แบบ K-Car จะถูกจับแยกออกไปต่างหาก) ประจำปี 2020 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

Toyota-Yaris-2020

1. Toyota Yaris ยอดขาย 151,766 คัน

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) น้องเล็กของ Toyota ที่เป็น Yaris ในตลาดโลก (แต่ในบ้านเรา กลับได้ Yaris เวอร์ชั่นจีนมาแทน) เพิ่งปรับโฉมโมเดลเชนจ์ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา สามารถไต่ยอดขายได้เป็นไปอันดับ 1 ได้ นับว่าไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด

โดยโฉมนี้ใช้แพลตฟอร์มใหม่อย่าง TNGA-B มาในรูปแบบสปอร์ต ภายในขับขี่ง่าย ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่าย พร้อมระบบความปลอดภัยอย่าง Toyota Safety Sense ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที

แบบเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NR-FKE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่วนเครื่องยนต์รหัส 1NR-FE มี ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 119 นิวตัน-เมตร

ส่วนขุมพลัง Hybrid มีขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 169 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

อีกทั้งยังมีรุ่นพลังแรงให้เลือก (ที่มีขายในบ้านเราด้วย!) นั่นคือ Toyota GR Yaris ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS แบบแถวเรียง 3 สูบ เทอร์โบ DOHC 12 วาล์ว ขุมพลังใหม่ล่าสุด พละกำลังสูง ด้วยความแรงระดับ 261 แรงม้า  พร้อมแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission)

สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 230 กม./ชม. โดยพละกำลังทั้งหมดจากเครื่องยนต์ จะถูกถ่ายทอดผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ล่าสุด ที่เรียกว่า “GR-FOUR”

Toyota Raize

2. Toyota Raize ยอดขาย 126,038 คัน

Toyota Raize (โตโยต้า ไรซ์) รถ Crossover ขนาดเล็กยอดนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ที่มีคู่แฝดร่วมกันกับ Daihatsu Rocky (ไดฮัทสุ ร็อคกี้) ซึ่งมีการดีไซน์ที่คล้ายกับ Toyota RAV4 รุ่นใหม่อยู่ไม่น้อย พร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตขนาดใหญ่ และไฟตัดหมอก กับไฟ Daytime Running Light ทรงแนวนอน พร้อมไฟท้ายแบบ LED กับห้องโดยสารภายใน ที่นั่งกันได้สบายๆ 5 คน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีมากถึง 369 ลิตร

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรหัส 1KR-VET แบบ 3 สูบ DOHC Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 140 นิวตันเมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Control 4WD ให้เลือก

Toyota Corolla 2020

3. Toyota Corolla ยอดขาย 118,276 คัน

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ต้องบอกได้ว่าลุคของ Corolla ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 12 นี้ ฉีกความอนุรักษ์นิยมเดิมๆ เรียบๆ เรื่อยๆ ของ Corolla Axio ทิ้งไปได้หมดจริงๆ สำหรับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่ดูเปรี้ยวสุดๆ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และยังมีรุ่น 5 ประตู Sport Hatchback กับรุ่นแวกอนอย่าง Touring ออกมาขายเช่นเคย

ขุมพลังของทั้งรุ่น Sedan, Sport และ Touring มีให้เลือก 2 รุ่นเครื่องยนต์ ตั้งแต่เบนซินขนาด 1.2 ลิตร Turbo รหัส 8AR-FTS ให้แรงม้าสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ iMT และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถล็อคอัตราทดได้ 10 สปีด

แบบเบนซินเพียวๆ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตร ที่ 3,900 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนขุมพลัง Hybrid ยกมาจาก Prius ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 72 แรงม้า ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบอยู่ที่ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

Honda Fit 2020

4. Honda Fit ยอดขาย 98,210 คัน

Honda Fit (ฮอนด้า ฟิต) รถ Sub-Compact ท้ายตัดยอดนิยมมากสุดของ Honda นับตั้งแต่เปิดตัวไปในปี 2001 จนเป็นที่รู้จักไปในทั่วในโลก ทั้งในชื่อ Honda Fit และ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) ซึ่งในญี่ปุ่นยังคงขายดี ที่แม้ว่าจะไม่ทำตลาดในไทยด้วยโฉมนี้แล้วก็ตาม

สำหรับ Honda Fit รหัส GR มาด้วยรูปโฉมภายนอกที่ดูน่ารักสะดุดตา มีให้เลือกด้วยกันหลายสไตล์ เช่น Basic, Home, Ness, Luxe แต่ก็เป็นครั้งแรกที่เริ่มเอาใจคนชอบรถสายสุยอย่าง Crosstar ร่วมกับรุ่นไฮบริดอย่าง Honda Fit e:HEV ให้เลือกเช่นเคย

โดยตัวรถยังคงติดตั้งถังน้ำมันบริเวณใต้เบาะคู่หน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถ Honda รุ่นนี้ไปแล้ว สำหรับห้องโดยสารภายใน ออกแบบให้แลดูเรียบง่ายขึ้น เน้นการใช้งานที่ง่ายขึ้น และติดตั้งระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT มาให้เป็นครั้งแรก

ขุมพลังรุ่นพื้นฐานมีขนาด 1.5 ลิตร รหัส L13B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที

ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร รหัส LEB ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

Toyota Alphard 2020

5. Toyota Alphard ยอดขาย 90,748 คัน

Toyota Alphard (โตโยต้า อัลฟาร์ด) ยังคงเป็นรถแวนขนาดหรู ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในญี่ปุ่นและในไทย แถมในปี 2020 ยังมาพร้อมตัวเลขยอดขายสูงที่สุดในรอบ 10 ปี!

มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายด้วยชุดเซ็นเซอร์เปิดฝาท้ายแบบ Kick activated เพิ่มสุนทรียภาพในทุกการเดินทางด้วยเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสด้านหน้าขนาด 10.5 นิ้ว และด้านหลังขนาด 13.3 นิ้ว ที่สามารถรองรับ Apple car play ตลอดจนลำโพง JBL 17 ตัว

นอกจากนี้ยังมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยกล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (Digital Video Recorder) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้ารุ่นล่าสุด อย่าง Toyota Safety Sense เจเนอเรชั่นที่ 2

ขุมพลังพื้นฐานมีเป็นแบบเบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที

ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า และตัวหลัง 68 แรงม้า โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

และขุมพลังเบนซินขนาด 3.5 ลิตร รหัส 3GR-FKS แบบ V6 DOHC Chain Drive VVT-iW และ D-4S ให้แรงม้าสูงสุด 296 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที

Toyota Roomy 2020-2021

6. Toyota Roomy ยอดขาย 87,242 คัน

Toyota Roomy (โตโยต้า รูมมี่) รถยอดนิยม รูปทรงแบบ Tall Boy ที่มาแทน Toyota bB (โตโยต้า บีบี) รุ่นก่อนหน้า ที่ยังมีคู่แฝด ในชื่อ Daihatsu Thor อีกด้วย เพิ่งปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา เป็นรถที่นั่งได้ 5 ที่นั่ง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ซึ่งให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที

และในรุ่น Turbo Intercooler รหัส 1KR-VET ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรที่ไม่มี Turbo

Honda Freed 2020

7. Honda Freed ยอดขาย 76,283 คัน

Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) แม้ว่าจะเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ไปตั้งแต่ปี 2016 ที่ผ่านมา แต่กระแสตอบรับยังแรงต่อเนื่อง หนึ่งเดียวของฮอนด้า ที่ติดโผขายดีเป็นอันดับ 9 ในปี 2019 ที่ผ่านมา นับเป็นรถ Minivan MPV ขนาดเล็กที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ Honda Fit และ Grace (หรือ Honda Jazz กับ City ในไทย) มีจำหน่ายทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซินและ Hybrid เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 153 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ทำงานคู่กันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC + ระบบ Hybrid แบบ Sport Hybrid i-DCD ให้แรงม้าสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 134 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 29.5 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด

Toyota Sienta 2020

8. Toyota Sienta ยอดขาย 72,689 คัน

Toyota Sienta (โตโยต้า เซียนต้า) เจนเนอเรชั่นที่ 2 รถยอดนิยมของคุณแม่บ้าน และคนเพิ่งมีครอบครัว สำหรับเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ญี่ปุ่นเปิดตัวไปในปี 2018 ปรับปรุงรูปโฉมใหม่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น และมีสีทูโทนให้เลือก พร้อมกับเพิ่มรุ่นเบาะนั่งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง จากเดิมที่มีเฉพาะรุ่น 3 แถว 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง กับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-FKE ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 61 แรงม้า แรงบิดสงสุด 169 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

Nissan Note 2020-2021

9. Nissan Note ยอดขาย 72,205 คัน

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) รถ Sub-Compact โฉมใหม่ล่าสุดจาก Nissan ถึงแม้ว่าจะเป็นการเปิดตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2020 ก็ตาม แต่ก็สามารถสร้างยอดขายแบบพุ่งกระฉูดได้แบบไม่ยาก

โดย Nissan Note โฉมล่าสุดนี้ถูกออกแบบใหม่หมด มาพร้อมความคล้าย Nissan Leaf หน่อยๆ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรง V-Motion ไฟหน้าแบบ LED แบบ 4 ดวงในแต่ละข้าง ส่วนไฟท้ายเป็นรูปทรงแนวนอน พร้อมล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว มีสีตัวถังให้เลือกเยอะถึง 13 สี และสามารถเลือกหลังคาแบบสีดำได้

ส่วนภายในห้องโดยสารหรูหราขึ้นมาก แผงคอนโซลแบบสองชั้น ส่วนคอนโซลกลางมาพร้อมคันเกียร์ไฟฟ้า ติดตั้งเบาะนั่ง Zero Gravity พร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่ เสริมด้วยจอ Infotainment ขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล ติดตั้งระบบ ProPILOT with Navi-link สามารถปรับความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็วได้อัตโนมัติ รวมถึงลดความเร็วก่อนเข้าโค้งได้

ขุมพลัง e-Power พัฒนาให้มีกำลังเพิ่มขึ้น 6% และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 10% เป็นแบบเบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 134 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร (รุ่น 4WD มีมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง ขนาด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร เพิ่มมาให้ด้วย) มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

Toyota Voxy 2020-2021

10. Toyota Voxy ยอดขาย 69,517 คัน

Toyota Voxy (โตโยต้า วอกซี่) สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถ MPV ขายดีฝั่ง Toyota อย่าง Voxy นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2017 ก่อนจะปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2017 และยังมีคู่แฝดร่วมรุ่นอย่าง Noah และ Esquire ที่ในบ้านเราก็มีคนนำเข้ามาขายกันหลายคัน พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยล่าสุดอย่าง Toyota Safety Sense C

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 193 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิดสงสุด 207 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถขายดีสุดในญี่ปุ่นที่นำมาเสนอนั้น น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนนะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง CARRO Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง CARRO Automall เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย CARRO Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ CARRO จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

หมายเหตุ : ข้อมูลรถ 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนพฤษภาคม 2564 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

แหล่งที่มาจาก :

10-Super-Strong-Cars-For-Prime-Minister-And-President

ในโลกผุๆ ของเราใบนี้ มีประเทศอยู่ด้วยกันมากเกือบถึงสองร้อยประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็มีลักษณะทางกายภาพ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ลักษณะประชากรที่แตกต่างกันไป บางประเทศ อาจเป็นเพียงแค่เกาะเล็กๆ แต่เป็นที่จับจ้องของคนทั่วโลก หรือบางประเทศ อาจไม่ใช่ประเทศที่พัฒนา แต่ผู้นำกลับมีความยิ่งใหญ่จนได้ใจคนทั้งโลก หรือจะเป็นจอมเผด็จการ ที่คนรังเกียจทั้งโลกก็มี

ด้วยความแตกต่างเหล่านี้ เมื่อผู้นำของประเทศนั้นๆ ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ หรือออกต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง อีกสิ่งหนึ่งที่ให้ความสะดวกสบาย และปกป้อง “ท่านผู้นำ” ให้พ้นภัยจากผู้ปองร้ายได้ตลอดเวลาการเดินทาง นั่นคือ “รถยนต์ประจำตำแหน่ง” นั่นเอง ซึ่งแต่ละประเทศ ต่างก็จัดหารถที่มีคุณสมบัติเป็น “ที่สุด” สำหรับคนสำคัญนี้

MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปดูกันว่า 10 รถประจำตำแหน่งสุดแกร่ง ที่ผู้นำทั่วโลกใช้งานกันนั้น จะมีรุ่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง …

Aung-San-Suu-Kyi-Myanmar-Cars

1. พม่า (หรือ เมียนมา)

สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นับเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 40 ของโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ใน ASEAN เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดเราที่สุด และมีพรมแดนเชื่อมต่อกันยาวที่สุด อีกทั้งยังมีอะไรหลายสิ่งที่คล้ายกันด้วย เช่น พิธีกรรมทางศาสนา ประเพณี ลัทธิความเชื่อต่างๆ และทหาร เป็นต้น

หากพูดถึงผู้นำพม่าแล้ว ชาวโลกก็ต้องนึกถึงหญิงแกร่งผู้นี้เป็นอันดับหนึ่ง นั่นคือ อองซานซูจี (Aung San Suu Kyi) ที่ปรึกษาแห่งรัฐ (ตำแหน่งเทียบเท่ากับประธานาธิบดี – State Counsellor) และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) แม้ว่าตอนนี้เธอจะถูก พล.อ. มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำกองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร และยึดอำนาจการปกครอง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ก็ตาม

แม้ว่ารถประจำตำแหน่งของหญิงเหล็กอย่าง อองซานซูจี จะไม่แน่ชัดว่าใช้รถคันใดเป็นรถประจำตำแหน่งหลักๆ แต่รถที่เธอมีโอกาสได้นั่ง มักจะเป็นรถยนต์มือสองจากประเทศญี่ปุ่น อย่าง Toyota Mark II, Mitsubishi Pajero หรือ Toyota Land Cruiser เป็นต้น

Cadillac-One-Presidential-State-Car-USA

2. สหรัฐอเมริกา

ประเทศที่มักยกตัวเองเป็นเจ้าโลก เป็นตำรวจโลก เป็นผู้นำโลก รวมไปถึงประเทศที่เป็นบ้านของผู้คนหลายวัฒนธรรม และความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ประเพณี จนถูกนิยามให้เป็น Melting Pot ที่ทุกคนนึกถึงอย่าง สหรัฐอเมริกา ที่มีเนื้อที่ประเทศใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

และเพิ่งได้ประธานาธิบดีคนใหม่ล่าสุดมาหมาดๆ นั่นคือ Joe Biden (โจ ไบเดน) ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ตัวแทนพรรคเดโมแครต

ส่วนรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดี (Presidential State Car) ของ USA แน่นอน ต้องเป็นรถยนต์ Cadillac One (คาดิแลค วัน) หรือ Limo One ที่ได้ฉายาอื่นๆ อีกว่า The Beast (อสูรร้าย), First Car และ Stagecoach

เผยโฉมเมื่อ 24 กันยายน 2018 และใช้งานตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดี Donald Trump (โดนัลด์ ทรัมป์) ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษ จนดูเหมือนรถถังขนาดย่อมๆ เพราะใช้พื้นฐานของรถบรรทุก GMC TopKick ในเครือ GM นั่นเอง สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือ 45 ล้านบาท)

ตัวรถมีน้ำหนักราวๆ 6.8 – 9.1 ตัน มาพร้อมกระจกกันกระสุนหนา 5 นิ้ว ภายในรถบรรจุอาวุธต่างๆ เช่น ปีนลูกซอง, แก๊สน้ำตา พร้อมถังออกซิเจน รวมถึงถุงเลือดที่มีกรุ๊ปเลือดตรงกับของประธานาธิบดี ยางรันแฟลต, ระบบปล่อยควันอำพราง, ระบบ Night Vision และถังน้ำมันหุ้มฉนวนกันระเบิดและไฟไหม้

ห้องโดยสารภายในบุวัสดุภายในหนาถึง 8 นิ้ว มีกระจกกั้นกลาง สามารถเปิด-ปิด ได้เฉพาะประธานาธิบดีเท่านั้น แบ่งส่วนแยกระหว่างคนนั่งด้านหลังและคนขับ ซึ่งคนที่จะขับรถคันนี้ ต้องเป็นสายลับฝึกฝนมาอย่างดีจากหน่วย CIA พร้อมระบบสื่อสารครบถ้วน ทั้งระบบ Navigator, โทรศัพท์ผ่านดาวเทียม สามารถเชื่อมต่อไปถึงรองประธานาธิบดี และเพนตากอน

Hongqi-L5-China

3. จีน

นี่ก็นับเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีพลเมืองเชื้อสายจีนกระจายไปอยู่ทั่วโลกอีก นั่นคือ จีน หรือ สาธารณรัฐประชาชนจีน นั่นเอง

ผู้นำสูงสุดของจีน นั่นคือ สีจิ้นผิง ที่ครองตำแหน่งทั้งประธานาธิบดี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ที่ก้าวขึ้นมาเทียบชั้นประธานเหมา เจ๋อตุง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทีเดียว

และรถของผู้นำระดับนี้ ก็ต้องสมศักดิ์ศรีพญามังกร ด้วย Hongqi L5 ซึ่งผลิตโดย FAW Group หรือ First Automobile Works ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของจีนซึ่งเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในจีน โดย หงฉี ในภาษาจีนกลางนั้นแปลว่า “ธงแดง” มีราคาสูงถึง 5 ล้านหยวน และยังคงความเป็นรถยนต์ที่ดีไซน์แบบย้อนยุคแบบรุ่นแรกที่ผลิตในปี 1958 ซึ่งได้แบบมาจากรถยนต์ของสหภาพโซเวียต และรถอเมริกันจากค่าย Chrysler (แบรนด์ Imperial)

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งขนาด 4.0 ลิตร แบบ V8 Twin Turbo 381 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และขนาด 6.0 ลิตร แบบ V12 ลิตร 408 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

Toyota-Century-Japan

ภาพจาก Ethical & LifeHack

4. ญี่ปุ่น

มาถึงประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ได้ชื่อว่าคนไทยชอบไปเที่ยวมากที่สุดอีกแห่งในโลกใบนี้ มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงเทคโนโลยีอันล้ำหน้า และแบรนด์ยี่ห้อรถดังๆ ทั้งหลาย ที่มีขายในบ้านเราไง

อีกทั้งยังมีนายกรัฐมนตรีมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก นับตั้งแต่ในยุคเมจิ มาจนถึงยุคเวะ มีมาแล้ว 62 คน ใน 96 คณะรัฐมนตรี ซึ่งคนปัจจุบันได้แก่ Yoshihide Suga (โยชิฮิเดะ ซูงะ) เป็นนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่คนแรกในยุคเรวะ

และรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แน่นอนว่าต้องเป็นรถญี่ปุ่น นั่นคือ Toyota Century (โตโยต้า เซ็นจูรี่) รุ่นล่าสุด แบบกันกระสุน และ Lexus LS600hL (เลกซัส แอลเอส) แบบกันกระสุน ซึ่ง Lexus ได้เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ในยุคที่ Shinzo Abe (ชินโซ อาเบะ) กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ในปี 2015 ที่ผ่านมา

Mercedes-Benz-S600-Pullman-Guard-North-Korea

5. เกาหลีเหนือ

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ประเทศที่ชาวโลกมักพูดถึง (ในทางที่ไม่ดี) อยู่เสมอ และยังคงเป็นประเทศที่มีระบอบคอมมิวนิสต์ ขับเคลื่อนประเทศโดยพรรคแรงงานแห่งเกาหลี บูชาลัทธิจูเช่ (Juche) เน้นเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตัวเอง แต่กลับมีการสถาปนาผู้นำประเทศแบบสืบทอดทางสายเลือด! (แปลกมั้ยล่ะ) ซึ่งคนปัจจุบัน คือ Kim Chong Un (คิมจองอึน) พร้อมกับลัทธิบูชาบุคคลตระกูลคิม และยังเป็นประเทศที่มีเสรีภาพของพลเมืองต่ำที่สุดในโลก

แม้ว่าเกาหลีเหนือจะยากจนอย่างแสนสาหัสเพียงใด บรรดาครอบครัวตระกูลคิมและผู้นำพรรคแรงงานแห่งเกาหลี ก็ต้องกินดีอยู่ดีไว้ก่อน ดูได้จากรสนิยมของท่านผู้นำเกาหลีเหนือ ตั้งแต่ประธานาธิบดี คิมอิลซุง ผู้เป็นปู่ของ คิมจองอึน ที่นิยมชมชอบรถเยอรมนีมาก

และรถประจำตำแหน่งของผู้นำสูงสุดคนปัจจุบัน ยังใช้ Mercedes-Benz S600 Pullman Guard (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-600 พูลแมน การ์ด) แบบกันกระสุนและกันระเบิด และ Maybach S62 (มายบัค เอส 62) ซึ่งบริษัท Daimler AG ผู้ผลิตรถ Mercedes-Benz ก็ยังงงเลยว่า ไม่ได้ทำธุรกิจใดๆ กับเกาหลีเหนือ แต่ซื้อมาใช้ได้อย่างไร!

Hyundai-Equus-Stretch-Edition-South-Korea

6. เกาหลีใต้

มาดูอีกหนึ่งฝั่งของเกาหลี ที่เป็นประชาธิปไตยจ๋าบ้าง อย่าง สาธารณรัฐเกาหลี หรือ เกาหลีใต้ ที่หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1948 คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยเส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือ (มักเรียกว่าเส้นขนาน 38) ได้สหรัฐอเมริกาเข้ามาดูแลเกาหลีใต้ พร้อมจัดการปกครองแบบประชาธิปไตย

ในส่วนของผู้นำประเทศ เกาหลีใต้นั้นมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีอยู่หลายครั้ง แต่ประธานาธิบดีหลายคน ก็มักจะติดคุกด้วยข้อหาคอรัปชั่นอยู่เสนอ ซึ่งก็น่าแปลกมาก สวนทางกับการพัฒนาประเทศที่ล้ำยุคไปไกลมากๆ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เทคโนโลยี รวมไปถึงในด้านภาพยนตร์ก็ตาม

สำหรับรถประจำจำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ตอนนี้ มีใช้อยู่ด้วยกันหลายคัน อาทิ Mercedes-Benz S600 Pullman Guard (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-600 พูลแมน การ์ด) แบบกันกระสุนและกันระเบิด, Hyundai Equus Stretch Edition (ฮุนได อีคุส สแทช เอดิชั่น) หรือ Genesis EQ900 (เจเนซิส อีคิว 900) และ Hyundai Nexo (ฮุนได เน็กซ์โซ) เป็นต้น

BMW-Series-7-Singapore

7. สิงคโปร์

ประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นเกาะเล็กๆ แต่กลับโดดเด่นที่สุดใน ASEAN ทั้งในความเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ที่ก้าวขึ้นมาเป็น Top 3 ด้านการเงินระดับโลกในเวลาเพียง 50 ปี ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การปกครอง และการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นแหล่งรวมบริษัทสตาร์ทอัพเอาไว้มากมาย ซึ่ง CARRO ก็เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่เกิดในประเทศนี้

แม้ว่าสิงคโปร์ จะมีตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม แต่อาจจะไม่ได้เด่นเท่านายกรัฐมาตรีของประเทศนี้ อย่าง Lee Hsien Loong (ลี เซียนลุง) ผู้เป็นลูกชายของผู้ก่องตั้งประเทศเล็กๆ แห่งนี้อย่าง Lee Kuan Yew (ลีกวนยู) ที่ใช้ความสามารถและความเด็ดขาด นำพาเกาะเล็กๆ ที่ไม่มีทรัพยากรอะไร เคยยากจนกว่าไทย น้ำกินก็ต้องซื้อจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าระดับโลกได้

รถประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ มีด้วยกันหลายคัน อาทิเช่น Lexus LS (เลกซัส แอลเอส) หรือ BMW Series-7 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7) รุ่น 750Li เป็นต้น

Jaguar-XJ-LWB-Sentinel-UK

8. อังกฤษ

ประเทศอังกฤษ หรือ สหราชอาณาจักร ในอดีตขึ้นชื่อว่าเป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าอาณานิคมที่ปกครองดินแดนในทวีปอเมริกาเหนือ แคริบเบียน แอฟริกา ออสเตรเลีย โอเชียเนีย และเอเชียหลากหลายพื้นที่ จนได้ชื่อว่าเป็นจักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ป็นผลให้มรดกทางการเมือง กฎหมาย ภาษา และวัฒนธรรมของอังกฤษ แผ่ขยายไปในทั่วโลกในเวลาต่อมา

ในปัจจุบัน อังกฤษ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2เป็นพระมหากษัตริย์ และมี Boris Johnson (บอริส จอห์นสัน) หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2019

รถประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในปัจจุบันใช้ Jaguar XJ LWB Sentinel (จากัวร์ เอ็กซ์เจ เซนติเนล) แบบกันกระสุนและกันระเบิด เป็นต้น

Audi-A8-L-Security-Germany

9. เยอรมนี

อีกหนึ่งประเทศผู้นำหลายๆ ด้านในยุโรป อย่าง สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในสหภาพยุโรป เป็นประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี หรือเศรษฐกิจ เป็นต้น และเป็นประเทศที่คนไทยพูดถึงกันอย่างมากอีกด้วย (อยากรู้ ไปหาข่าวอ่านกันเอาเอง)

นายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงเหล็กอีกคนหนึ่ง สำหรับ Angela Merkel (อังเกลา แมร์เคิล) ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีตั้งแต่ปี 2005 เป็นผู้นำของพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2018 เกิดในประเทศเยอรมนีตะวันตก แต่ไปโตในประเทศเยอรมนีตะวันออก จบปริญญาเอกปรัชญาสาขาควอนตัมเคมี และทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์จนถึงปี 1989 ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางการเมือง

ด้านชีวิตส่วนตัวของหญิงเหล็กผู้นี้ เธอเป็นคนติดดิน แม้แต่บ้านพักก็ยังอยู่ในอพาร์ทเมนท์ของสามี แทนที่จะพำนักในอาคารสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนรถประจำตำแหน่ง ในปัจจุบันใช้ Audi A8 L Security (ออดี้ เอ 8 แอล ซิเคียวริตี้) แบบกันกระสุนและกันระเบิดมือ บนน้ำหนักตัวรถเกือบ 4 ตัน

Aurus-Senat-Russia

10. รัสเซีย

Soviet Union (สหภาพโซเวียต) จากประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมี สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซีย เป็นสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุด มีประชากรมากที่สุด และมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจสูงสุดในอดีตสหภาพโซเวียต

ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ประเทศในเครือได้ประกาศเอกราช ยกเลิกระบอบคอมมิวนิสต์ แตกออกเป็นประเทศย่อยๆ มากถึง 15 ประเทศ ซึ่งรัสเซียก็เป็นหนึ่งในนั้น และเปลี่ยนชื่อเป็น สหพันธรัฐรัสเซีย จวบจนปัจจุบัน

ด้านประธานาธิบดี Vladimir Putin (วลาดิเมียร์ ปูติน) ผู้ที่เคยควบทั้งตำแหน่งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย นับตั้งแต่ปี 1999 ขยับไปเป็นประธานาธิบดี ปี 2000 – 2008 แล้วก็กลับไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ปี 2008 – 2012 ก่อนจะกลับไปเป็นประธานาธิบดีอีก ปี 2012 – ปัจจุบัน เปรียบเสมือน “พระเจ้าซาร์” ของรัสเซียสมัยใหม่ ซึ่งยืนอยู่เหนือการเมืองแบบพรรค

ด้านรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีรัสเซีย ในปัจจุบันใช้ Aurus Senat (ออรุส เซนัต) รถสุดหรูที่ผลิตในรัสเซีย นับเป็นการยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต ที่ผู้นำจะใช้รถที่ผลิตในประเทศในงานพิธีการต่างๆ ผลิตโดยสถาบันวิจัยของรัสเซียที่รู้จักกันในชื่อ NAMI และเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ Sollers ของรัสเซีย

ซึ่งเป็นรถกันกระสุนและกันระเบิด ใช้เครื่องยนต์แบบ Hybrid ขนาด 4.4 ลิตร แบบ V8 Twin Turbo จาก Porsche 568 แรงม้า และแบบ V12 ขนาด 6.6 ลิตร 848 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

5-best-selling-kei-car-in-japan

จากการจัดอันดับของ JADA สมาพันธ์ผู้ค้ารถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Automobile Dealers Association) “ญี่ปุ่น” ถือเป็นประเทศที่มียอดขายรถที่มากติดอันดับโลก (ในปี 2019 มียอดขาย และจดทะเบียนรถในประเทศมากถึง 5,234,166 คัน!) เนื่องจากรถเก่ามีค่าตรวจสภาพ ค่าซ่อม ภาษีรถยนต์ และค่าประกันภัยที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนนิยมใช้รถยนต์แค่ไม่กี่ปีก็ขายรถ แล้วซื้อคันใหม่

อ่านเพิ่มเติม >>> 10 อันดับ รถที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2019

แต่ในส่วนของรถ Kei Car (K-Car) นั้น หมายถึง Keijidōsha (軽自動車) หรือ รถขนาดเล็ก ซึ่งเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มียอดขายที่ถือว่าสูงมากๆ ต่อปี ด้วยอัตราภาษีที่ต่ำ หาที่จอดรถได้ง่าย รับกับถนนขนาดไม่ใหญ่นักของญี่ปุ่น (ซึ่งหากใครที่ซื้อรถยนต์ในญี่ปุ่น หากไม่มีที่จอด ซื้อไม่ได้นะจะบอกให้)

คุณสมบัติคร่าวๆ ของรถ K-Car หลักๆ ก็จะมีความยาวตัวรถที่ไม่เกิน 3.4 เมตร กว้างไม่เกิน 1.48 เมตร สูงไม่เกิน 2 เมตร มีเครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 660 ซีซี และแรงม้าไม่เกิน 64 แรงม้า และมีขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่บ้านเราก็นิยมเอาเข้ามามาก ในช่วงรถจดประกอบกำลังบูม

ส่วนถ้าใครกำลังอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาใช้ ลองมาขายกับ CARRO Express ดูสิ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 5 อันดับ รถ Kei Car (K-Car) ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2019 มาให้ทุกท่านได้อ่านกันต่อ..

Honda-N-Box-2020

1. Honda N-Box จำนวน 253,500 คัน

Honda N-Box (ฮอนด้า เอ็นบ็อกซ์) ถือเป็นรถ K-Car ที่ขายดีที่สุดในปี 2019 เลยก็ว่าได้ นับตั้งแต่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2017 และปรับโฉมเล็กน้อยในปี 2019 ก็ยังขายดีอย่างต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน! โดยเป็นรถ Kei Car ที่คล้ายกับรถ MPV นิยมกันสำหรับคนมีครอบครัว ไปจนถึงรุ่นใหญ่ อายุ 40-50 ปี ซึ่งมีให้เลือกทั้ง N-Box และ N-Box Custom เอาใจวัยรุ่น

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส S07B ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 58 แรงม้า ที่ 7,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 65 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตัน-เมตร ที่ 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Daihatsu-Tanto-2020

2. Daihatsu Tanto จำนวน 175,292 คัน

Daihatsu Tanto (ไดฮัทสุ แทนโต) นี่ก็ถือว่าเป็นรถ K-Car ที่ขายดีของ Daihatsu นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2003 จวบจนถึงปัจจุบันที่เป็นเจเนอเรชั่น 4 แล้ว โดยเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ก็สามารถทำยอดขายขึ้นมายืนอันดับ 2 ได้แล้ว ซึ่งรุ่นนี้พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ DNGA หรือ Daihatsu New Global Architecture ที่นำแนวคิดมาจาก Toyota นั่นเอง มีจุดเด่นอย่างประตูด้านหลังเป็นแบบบานเลือนไฟฟ้า

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 52 แรงม้า ที่ 6,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Suzuki-Spacia-2020

3. Suzuki Spacia จำนวน 166,389 คัน

Suzuki Spacia (ซูซูกิ สปาเซีย) เป็นรถ K-Car เจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยรูปทรงแนวยอดนิยม ชูจุดเด่นอย่างประตูด้านหลังแบบบานเลื่อนไฟฟ้า จากค่าย Suzuki นี่ก็ติดอันดับต้นๆ ของเรื่องขายดีมาโดยตลอด นับตั้งแต่โฉมไมเนอร์เชนจ์ออกมาในเดือนกันยายน 2017 เน้นกลุ่มคนมีครอบครัว แม่บ้าน และวัยรุ่นขึ้นมาหน่อย หรือหนุ่มวัยเพิ่งทำงานก็ต้องเล่นรุ่น Spacia Custom

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินพลัง Hybrid ขนาด 658 ซีซี รหัส R06A ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 52 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดเป็น 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 98 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3.1 แรงม้า อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Nissan-Dayz-2020

4. Nissan Dayz จำนวน 157,349 คัน

Nissan Dayz (นิสสัน เดย์) รถทรงกล่องสุดน่ารัก ในรูปโฉมใหม่ล่าสุด เจเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2019 ที่ผ่านมา สรางยอดขายได้น่าประทับใจ และยังเป็นคู่แฝดของ Mitsubishi eK อีกด้วย โดยรถรุ่นนี้ เน้นเจาะกลุ่มตลาดผู้หญิงมากกว่า มีให้เลือกถึง 3 แบบ นั่นคือ ได้แก่ Dayz, Dayz Highway Star และ Bolero

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 659 ซีซี รหัส BR06 ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนรุ่น S-Hybrid จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ เข้ามาด้วย

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Daihatsu-Move-2020

5. Daihatsu Move จำนวน 122,835 คัน

Daihatsu Move (ไดฮัทสุ มูฟ) รถ K-Car รุ่นยอดนิยมของไดฮัทสุ นับตั้งแต่ออกมาในปี 1995 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ที่ออกมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014 และปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในเดือนสิงหาคม 2017 ก็ช่วยให้ยอดขายยังสามารถสู้กับรถ Kei Car รุ่นอื่นๆ ได้ในเวลานี้ ยังมีทั้งรุ่นเพื่อครอบครัวอย่าง Move และรุ่นเอาใจคนวัยทำงาน รักการแต่งรถ ชอบความสปอร์ตอย่าง Move Custom

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 658 ซีซี รหัส KF ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo สำหรับรุ่น Custom ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

MR.CARRO หวังว่า 5 อันดับ รถ Kei Car (K-Car) ขายดีสุดในญี่ปุ่นที่นำมาเสนอนั้น น่าจะกระตุ้นต่อมอยากได้กันน่าดูเลย แต่น่าเสียดาย ที่บ้านเราภาษีรถนำเข้ายังถือว่าสูง ปกติแล้วในญี่ปุ่น รถเหล่านี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านเยน แต่เมื่อมาถึงไทยแล้ว รวมภาษีต่างๆ ราคาอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ ก็ต้องฝันไปก่อนละกัน หรือจะไปเล่นรถ K-Car ที่เป็นรถจดประกอบเก่าจากญี่ปุ่นก็ได้

ซึ่งถ้าใครอยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

หมายเหตุ : ข้อมูลรถ K-Car 5 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนมกราคม 2563 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

แหล่งที่มาจาก :

10-Best-Selling-Cars-In-Japan

เป็นที่ทราบกันดีว่า “ญี่ปุ่น” เป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และมีแบรนด์รถยนต์ที่ขายรถยนต์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วยเช่นกัน รวมถึงในประเทศตัวเอง ญี่ปุ่นก็ยังนับได้ว่ามียอดขายรถที่มากติดอันดับโลก (ในปี 2019 มียอดขาย และจดทะเบียนรถในประเทศมากถึง 5,234,166 คัน! ซึ่งถ้าจะนับแค่ Toyota เจ้าเดียว ก็ปาเข้าไป 1,547,173 คันแล้ว!)

เนื่องจากรถยนต์ในญี่ปุ่นนั้น มีอายุการใช้งานที่ไม่มากนัก เพียงไม่กี่ปี จากอัตราภาษีที่ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุรถและค่าซ่อมรถที่ค่อนข้างแพง จึงทำให้มีการกระตุ้นยอดขายรถใหม่ไปในตัวตลอด แล้วรถใหม่ก็มีราคาจำหน่ายที่ไม่แพงมาก ผนวกกับค่าครองชีพของคนญี่ปุ่น ที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อรถยนต์คันใหม่ได้ไม่ยาก ยอดขายรถจึงค่อนข้างสูงหลายแสนคันต่อเดือน

ส่วนถ้าใครกำลังอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปถอยรถใหม่ต้อนรับปี 2020 ลองมาขายกับ CARRO Express ดูสิ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น (ตามการจัดอันดับของสมาพันธ์ผู้ค้ารถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น JADA (Japan Automobile Dealers Association) ซึ่งรถยนต์แบบ K-Car จะถูกจับแยกออกไปต่างหาก) ประจำปี 2019 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

Toyota-Prius-2020

1. Toyota Prius จำนวน 125,587 คัน

Toyota Prius (โตโยต้า พรีอุส) พูดไปแล้วก็แทบไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ว่า Prius จะสามารถครองแชมป์รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่นประจำปี 2019 ได้ ซึ่งสวนทางกับยอดขายทั่วโลกที่ร่วงลง จน Toyota แทบจะคิดว่าเลิกผลิตไปเลยดีมั้ย? นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 1997 ด้วยรูปทรงที่สุดแหวกแนว มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ Hybrid AWD-i ขับสี่ล้อไฟฟ้า E-four ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่

ติดตั้งเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 162 นิวตัน-เมตร

Nissan-Note-2020

2. Nissan Note จำนวน 118,472 คัน

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในบ้านเรามากนัก แต่ในญี่ปุ่น รถรุ่นนี้ถือว่าขายดีมากเป็นอันดับต้นๆ ของทางนิสสันเลยทีเดียว สำหรับ Note รุ่นนี้ ยังมีตัวรุ่น e-Power พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้การชาร์จด้วยเครื่องยนต์ ที่ในบ้านเราก็จะมีโอกาสได้ใช้กันด้วย และยังมีตัวแต่งจัดเต็มอย่าง NISMO และ Autech ให้เลือกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE ให้แรงม้าสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตรที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนรุ่น NISMO (ที่ไม่ใช่ตัวขุมพลัง e-Power) ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส HR16DE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที โดยจะจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

และในรุ่น e-Power นั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE-EM57 ให้แรงม้าสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 254 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

Toyota-Sienta-2020

3. Toyota Sienta จำนวน 110,880 คัน

Toyota Sienta (โตโยต้า เซียนต้า) เจนเนอเรชั่นที่ 2

เจนเนอเรชั่นที่ 2 รถยอดนิยมของคุณแม่บ้าน และคนเพิ่งมีครอบครัว สำหรับเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ญี่ปุ่นเปิดตัวไปในปี 2018 ปรับปรุงรูปโฉมใหม่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น และมีสีทูโทนให้เลือก พร้อมกับเพิ่มรุ่นเบาะนั่งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง จากเดิมที่มีเฉพาะรุ่น 3 แถว 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง กับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-FKE ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 61 แรงม้า แรงบิดสงสุด 169 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

Toyota-Corolla-2020

4. Toyota Corolla จำนวน 104,406 คัน

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ต้องบอกได้ว่าลุคของ Corolla ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 12 นี้ ฉีกความอนุรักษ์นิยมเดิมๆ เรียบๆ เรื่อยๆ ของ Corolla Axio ทิ้งไปได้หมดจริงๆ สำหรับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่ดูเปรี้ยวสุดๆ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และยังมีรุ่น 5 ประตู Sport Hatchback ออกมาขายเช่นเคย

ขุมพลังของทั้งรุ่น Sedan และ Sport มีให้เลือก 2 รุ่นตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร Turbo รหัส 8AR-FTS ให้แรงม้าสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ iMT และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถล็อคอัตราทดได้ 10 สปีด

แบบเบนซินเพียวๆ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตร ที่ 3,900 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนขุมพลัง Hybrid ยกมาจาก Prius ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 72 แรงม้า ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบอยู่ที่ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

Toyota-Aqua-2020

5. Toyota Aqua จำนวน 103,803 คัน

Toyota Aqua (โตโยต้า อควา) เคยนำเข้ามาขายในไทยในชื่อ Prius C (พรีอุสซี) เมื่อปี 2555 แต่ด้วยราคาที่สูงลิบ (1.33 ล้านบาท) จึงขายแทบไม่ได้จนต้องเลิกขายไป แต่ Aqua เป็นรถที่เคยขายดีที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อปี 2014 แม้ว่าในปัจจุบันจะตกลงมาเป็นอันดับ 5 ก็ตาม โดยโฉมปัจจุบันเป็นตัวไมเนอร์เชนจ์ตั้งแต่ในปี 2017

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 169 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

Nissan-Serena-2020

6. Nissan Serena จำนวน 92,956 คัน

Nissan Serena (นิสสัน เซเรนา) รถ MPV ยอดนิยมสุดๆ ของคนญี่ปุ่นอีกหนึ่งรุ่น เพราะเคยติดอันดับรถขายดีที่สุดในญี่ปุ่นเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา กับการไมเนอร์เชนจ์ไปในช่วงปี 2019 มีให้เลือกทั้งแบบกึ่ง Hybrid และแบบ e-Power ที่นำเทคโนโลยีจาก Note มาใช้ และยังมีระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ (ProPilot) เป็นรุ่นแรกในญี่ปุ่น

เครื่องยนต์ยังคงเป็นแบบเบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส MR20DD ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้ารหัส SM24 ขนาด 2.6 แรงม้า ในแบบกึ่งไฮบริด เป็นระบบชดเชยกำลัง (Idling Stop) และชาร์จไฟกลับเมื่อยกคันเร่งออก รวมถึงช่วยเพิ่มแรงบิด ให้เครื่องยนต์ทำงานน้อยลงบางเวลา อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.2 กม./ลิตร

และในรุ่น e-Power นั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE-EM57 ให้แรงม้าสูงสุด 84 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200-5,200 รอบ/นาที พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 26.2 กม./ลิตร

Toyota-Roomy-2020

7. Toyota Roomy จำนวน 91,650 คัน

Toyota Roomy (โตโยต้า รูมมี่) รถยอดนิยม รูปทรงแบบ Tall Boy ที่มาแทน Toyota bB (โตโยต้า บีบี) รุ่นก่อนหน้า ที่ยังมีคู่แฝด ในชื่อ Toyota Tank อีกด้วย เปิดตัวในปี 2016 เป็นรถที่นั่งได้ 5 ที่นั่ง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ซึ่งให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
และในรุ่น Turbo Intercooler รหัส 1KR-VET ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรที่ไม่มี Turbo

Toyota-Voxy-2020

8. Toyota Voxy จำนวน 88,012 คัน

Toyota Voxy (โตโยต้า วอกซี่) สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถ MPV ขายดีฝั่ง Toyota อย่าง Voxy นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2017 ก่อนจะปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2017 และยังมีคู่แฝดร่วมรุ่นอย่าง Noah และ Esquire ที่ในบ้านเราก็มีคนนำเข้ามาขายกันหลายคัน พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยล่าสุดอย่าง Toyota Safety Sense C

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 193 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิดสงสุด 207 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

Honda-Freed-2020

9. Honda Freed จำนวน 85,596 คัน

Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) แม้ว่าจะเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ไปตั้งแต่ปี 2016 ที่ผ่านมา แต่กระแสตอบรับยังแรงต่อเนื่อง หนึ่งเดียวของฮอนด้า ที่ติดโผขายดีเป็นอันดับ 9 ในปี 2019 ที่ผ่านมา นับเป็นรถ Minivan MPV ขนาดเล็กที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ Honda Fit และ Grace (หรือ Honda Jazz กับ City ในไทย) มีจำหน่ายทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซินและ Hybrid เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 153 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ทำงานคู่กันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC + ระบบ Hybrid แบบ Sport Hybrid i-DCD ให้แรงม้าสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 134 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 29.5 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด

Toyota-Vitz-2020

10. Toyota Vitz จำนวน 81,554 คัน

Toyota Vitz (โตโยต้า วิซ) น้องเล็กของ Toyota ที่เป็น Yaris ในตลาดโลก (แต่ในบ้านเรา กลับได้ Yaris เวอร์ชั่นจีนมาแทน) เพิ่งปรับโฉมโมเดลเชนจ์ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา สามารถไต่ยอดขายได้เป็นไปอันดับ 10 ถือว่าน่าพอใจมากสำหรับรถเปิดตัวใหม่หมาดๆ เพราะในปี 2020 นี้ ยอดขายอันดับต้องพุ่งสูงขึ้นกว่านี้แน่นอน

โดยโฉมนี้ใช้แพลตฟอร์มใหม่อย่าง TNGA-B มาในรูปแบบสปอร์ต ภายในขับขี่ง่าย ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่าย พร้อมระบบความปลอดภัยอย่าง Toyota Safety Sense ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที

แบบเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NR-FKE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่วนเครื่องยนต์รหัส 1NR-FE มี ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 119 นิวตัน-เมตร

ส่วนขุมพลัง Hybrid มีขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 169 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถขายดีสุดในญี่ปุ่นที่นำมาเสนอนั้น น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนนะครับ ซึ่งถ้าใครอยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! ขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ ลงประกาศขายรถฟรี โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

หมายเหตุ : ข้อมูลรถ 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนมกราคม 2563 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

แหล่งที่มาจาก :

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือด ถึงการที่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ตบเท้าหารือกรมสรรพสามิต 16 ธ.ค. นี้ เสนอตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี พร้อมให้สิทธิพิเศษผู้ใช้ซื้อรถใหม่ หวังกระตุ้นยอดขาย ลดมลพิษ …

แนวคิดนี้ เกิดขึ้นจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ ในช่วง 10 เดือน ที่ผ่านมา (ม.ค. -ต.ค.) ตัวเลขยอดขายตกลงมาก ทำได้เพียง 838,847 คัน ขยายตัว 0.6%

จนผู้คนออกมาโจมตี ทั้งฝ่ายเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี และภาพลักษณ์ของรัฐบาลตอนนี้ที่เป็นอย่างไร ทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ เลยกลายเป็นกระแสของคนเล่นรถเก่า รักรถเก่า รักรถมือสอง ออกมาด่ารัฐบาลกันเป็นชุด

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ถ้าคุณคิดอยากขายรถเก่ามาก ขยับมาซื้อรถใหม่ หรือรถมือสองที่ปีใหม่ขึ้นมาหน่อย เพราะไม่อยากรับภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมาในอนาคต ก็นำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี นั้น มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

การจัดเก็บภาษีรถยนต์ประจำปี ของ กรมการขนส่งทางบก

แนวคิดในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ตั้งแต่ในยุคของกองทะเบียน กรมตำรวจ มาจนถึงยุคกรมการขนส่งทางบก ในอดีตนั้น จัดเก็บภาษีตามน้ำหนักรถยนต์ (ทั้งรถเก๋ง, รถกระบะ และรถตู้) ต่อมา ช่วงประมาณปี 2525 กรมการขนส่งทางบก จึงปรับรูปแบบการจัดเก็บภาษีของรถยนต์นั่ง (เฉพาะรถเก๋ง) ใหม่ ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่เก็บตามความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์

ปัจจุบัน มีการจัดเก็บภาษี 4 ประเภทด้วยกัน คือดังนี้

1) จัดเก็บตามกระบอกสูบ ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน

600 ซีซีแรก ซีซี ละ 0.50 บาท
601 – 1,800 ซีซีๆ ละ 1.50 บาท
เกิน 1,800 ซีซีๆ ละ 4.00 บาท

หากเป็นรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี ให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อๆ ไป ดังนี้

– ปีที่ 6 ร้อยละ 10
– ปีที่ 7 ร้อยละ 20
– ปีที่ 8 ร้อยละ 30
– ปีที่ 9 ร้อยละ 40
– ปีที่ 10 และปีต่อๆ ไป ร้อยละ 50

2) จัดเก็บเป็นรายคัน ได้แก่ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร

– รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท
– รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท
– รถพ่วงของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท
– รถพ่วงนอกจากข้อข้างต้น คันละ 100 บาท
– รถบดถนน คันละ 200 บาท
– รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร คันละ 50 บาท

3) จัดเก็บตามน้ำหนัก ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถยนต์รับจ้าง

น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดรถยนต์บริการ รถยนต์รับจ้าง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลรถลากจูงรถแทรกเตอร์ที่มิได้ใช้ในการเกษตร
ไม่เกิน 500 150 450 185 300
501 – 750 300 750 310 450
751 – 1,000 450 1,050 450 600
1,001 – 1,250 800 1,350 560 750
1,251 – 1,500 1,000 1,650 685 900
1,501 – 1,750 1,300 2,100 875 1,050
1,751 – 2,000 1,600 2,550 1,060 1,350
2,001 – 2,500 1,900 3,000 1,250 1,650
2,501 – 3,000 2,200 3,450 1,435 1,950
3,001 – 3,500 2,400 3,900 1,625 2,250
3,501 – 4,000 2,600 4,350 1,810 2,550
4,001 – 4,500 2,800 4,800 2,000 2,850
4,501 – 5,000 3,000 5,250 2,185 3,150
5,001 – 6,000 3,200 5,700 2,375 3,450
6,001 – 7,000 3,400 6,150 2,560 3,750
7,001 ขึ้นไป 3,600 6,600 2,750 4,050

4) รถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า

– รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้เก็บภาษีตามน้ำหนักของรถในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน
– รถอื่นนอกจาก 4.1 ให้เก็บภาษีในอัตรากึ่งหนึ่งของรถตามข้อ 2 และ 3

รถใครภาษีขาดเกิน 3 ปี ดูวิธีการต่อภาษี พร้อมจดทะเบียนใหม่ ได้ใน Link นี้ – 3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการต่อทะเบียนรถ “ภาษีขาดเกิน 3 ปี”

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

แล้วภาษีสรรพสามิต ของรถยนต์ป้ายแดงที่ออกใหม่จากโรงงานล่ะ?

ปัจจุบัน กรมสรรพสามิต จัดเก็บภาษีเฉพาะรถยนต์ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจัดเก็บภาษีตามหลักสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดอัตราภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงาน และลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม จากการปล่อย CO2 อันเป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM 2.5

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อดี ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ปริมาณรถยนต์เก่าในบ้านเราลดลง เพราะผู้คนส่วนหนึ่ง ยอมขายรถเก่าทิ้ง เนื่องจากสู้กับภาษีที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว
  • ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์รถยนต์ น้อยลง
  • ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ มียอดขายรถยนต์ใหม่มากขึ้น กับบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น
  • ซากรถคันเก่า จะเข้าสู่กระบวนการกำจัดซากที่ได้มาตรฐาน แบบโรงงานรีไซเคิลรถยนต์ เช่นในประเทศจีน หรือ ญี่ปุ่น และได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนคืนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะเป็นการลดภาษีสรรพสามิตของรถใหม่ ที่จะซื้อออกไป

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อเสีย ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ผู้บริโภคต้องยอมซื้อรถยนต์ป้ายแดงคันใหม่ ในราคาจำหน่ายที่แพงกว่าหลายประเทศทั่วโลกพอสมควร ทั้งๆ ที่ ซื้อรถมือสองคุณภาพดี (แต่อายุมากหน่อย) ซึ่งคุ้มค่าเงินกว่า
  • ไม่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รายได้ของคนไทยส่วนใหญ่ มิได้มากพอที่จะสามารถเปลี่ยนรถยนต์ได้ทุกๆ 5-10 ปี เนื่องจากรถยนต์ใหม่ ก็มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
  • บางคนอาจใช้เวลาในการผ่อนรถยนต์ นานถึง 6-7 ปี พอผ่อนหมด ใช้งานได้อีก 3 ปี ก็ต้องเจอการปรับภาษีรถยนต์ที่สูงขึ้น ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
  • ในต่างประเทศ ที่เป็นทั้งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง สามารถทำราคาจำหน่ายรถยนต์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งต่างไปจากบ้านเรา
  • รถเก่าหลายคัน อายุมากแล้ว แต่ถ้าได้รับการดูแลรักษาที่ดี ก็ยังน่าใช้ไม่แพ้รถใหม่ๆ
  • คนที่มีรถยนต์มากกว่า 1 คัน และถ้าเป็นรถยนต์เก่า ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่อปีมากขึ้น
  • ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ ที่มีอายุมากถึง 20-40 ปี สภาพเก่าโทรม ควันดำ ยังวิ่งให้บริการผู้คนในเมืองใหญ่ ค่อนข้างย้อนแย้งกับข้อเสนอในการลดมลพิษ

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

สำหรับตัวเลขของ กรมการขนส่งทางบก พบว่า รถยนต์เก่าอายุเกิน 10 ปี ที่จดทะเบียนก่อนปี 2552 ในปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคัน จำนวนนี้ เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลประมาณ 9 ล้านคัน แยกออกได้เป็น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน 4.07 ล้านคัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน 3.8 แสนคัน และรถกระบะ 4.6 ล้านคัน

คือต้องบอกก่อนว่า แนวคิดนี้ “ดี” ในประเทศที่ “พัฒนาแล้ว” คุณภาพชีวิตประชาชนดี มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง มีค่าครองชีพสูง และมีระบบขนส่งมวลชนที่ได้คุณภาพ จนทำให้รู้สึกว่า ไม่มีรถยนต์ใช้งาน ชีวิตก็ไม่ลำบากในการเดินทาง

【短期連載】「ユーザー車検」必勝マニュアル『初心者は検査ラインでハザードを点灯』(その3)

การตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

เช่น ในประเทศญี่ปุ่น รถยนต์ใหม่มีราคาถูกกว่าในไทยมาก แต่เมื่อคุณใช้รถยนต์ไปจนถึงปีที่ 4 นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน คุณก็ต้องนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ (ของญี่ปุ่นเรียกว่า “車検” Shaken = ชาเกง) ซึ่งคล้ายกับ ตรอ. ในบ้านเรา เป็นการตรวจสภาพรถยนต์ทุกๆ 2 ปี แต่มีความละเอียดในการตรวจสอบรถยนต์มากกว่ามาก และค่าตรวจสภาพที่ค่อนข้างแพงมาก ครั้งนึงต้องจ่ายหลายหมื่นเยนเลยทีเดียว

ซึ่งถ้าตรวจสภาพรถไม่ผ่าน ก็ต้องกลับไปซ่อมแซมแก้ไข เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก (โดยการตรวจสภาพรถนี้ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ภาษีรถยนต์ ที่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของรถ, ประกันภัยรถยนต์ 24 เดือน, ภาษีค่าใช้ถนน และค่าอากร เป็นต้น)

https://img.bestcarweb.jp/wp-content/uploads/2019/11/29220240/40ac879c58a8b005491a1f3d4ed1ec38.jpg

อัตราค่าตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

และยิ่งรถเก่ามากเท่าไหร่ ค่าตรวจสภาพก็ยิ่งสูงมากขึ้น ทำให้คนญี่ปุ่นหลายคนรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ค่าซ่อมก็ไม่คุ้ม เพราะค่าซ่อมแพงกว่าซื้อรถใหม่ แถมตอนลากเอาไปทิ้ง ต้องเสียเงินค่ากำจัดขยะอีก

https://www.ft.com/__origami/service/image/v2/images/raw/https%3A%2F%2Fs3-ap-northeast-1.amazonaws.com%2Fpsh-ex-ftnikkei-3937bb4%2Fimages%2F3%2F7%2F5%2F9%2F8909573-1-eng-GB%2F20140609_Myanmar1.jpg?source=nar-cms

รถมือสองเก่าจากญี่ปุ่น ที่อยู่ในประเทศพม่า

ด้วยเหตุนี้ จึงมีพ่อค้ารถมือสอง ทำธุรกิจส่งรถยนต์เก่าจากญี่ปุ่น ไปขายที่ภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย พม่า หรือแถบโอเชียเนีย แถบแคริเบียน หรือประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวากันมากมาย จนบางทีก็ตัดขายเป็นอะไหล่ แบบเชียงกงในบ้านเรา หรือขับไปทิ้งเป็นซาก อยู่ตามป่าตามเขาในต่างจังหวัด ยังดีกว่า (คนญี่ปุ่นขี้เหนียวก็เยอะนะ! รู้ว่าค่าใช้จ่ายแพง ทิ้งแล้วซื้อใหม่คุ้มกว่า)

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จึงใช้รถยนต์เฉลี่ยประมาณ 5-7 ปี ก็เปลี่ยนคันใหม่แล้ว

แต่ถ้าในบ้านเรา หากมีการบังคับใช้จริงๆ แล้วล่ะก็ คนที่จะเดือดร้อนจำนวนมาก ก็คงหนีไม่พ้นคนไทยส่วนใหญ่ ที่ใช้รถเก่า และรถมือสอง นี่ล่ะครับ …

แหล่งที่มาบางส่วนจาก: