ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

สวัสดีครับไทร์บิดอยากมาอธิบายว่าทำไมยางรถยนต์ของเราถึงต้องมีลายดอกยางที่หลากหลายแบบเพราะฉะนั้นลายดอกยางก็ต้องมีคุณสมบัติต่างๆ มากมาย ดังนั้นไทร์บิดจึงอยากมาอธิบายอย่างละเอียดว่าแต่ละส่วนมีหน้าที่ยังไงบ้างครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

ข้อแรกเลยคุณสมบัติของลายดอกยางนั้นก็คือเรื่องของการป้องกันการเหินน้ำ ยางใช้งานปัจจุบันจะมีลายดอกยางทุกเส้นซึ่งลายดอกยางจะมีหน้าที่ทำให้น้ำสามารถไหลผ่านของหน้ายางออกได้ทำให้เพื่อนๆ เวลาขับผ่านแอ่งน้ำ หรือ ถนนเปียกก็จะป้องกันการเหินน้ำได้ เปรียบกับยางของรถแข่ง F1 ที่ไม่มีร่องดอกยางเลยแต่พอเวลามีฝนตกก็จะต้องเปลี่ยนยางชุดใหม่ที่มีลายดอกยางเพื่อลดอาการเหินน้ำครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติข้อที่สองก็คือเพื่อช่วยยึดเกาะถนนบนถนนเปียก ซึ่งหน้าที่นี้จะทำงานแตกต่างกับข้อแรกครับที่จะทำหน้าที่ระบายน้ำแต่ลายดอกยางยังช่วยทำหน้าที่ในการตัดน้ำเวลาหน้ายางกระทบกับน้ำ เวลาลายดอกยางกระทบกับพื้นน้ำจะทำหน้าที่ตัดฟิล์มน้ำออกซึ่งจะทำให้น้ำกระจายออกด้านข้างซึ่งจะส่งผลให้หน้ายางสามารถสัมผัสกับพื้นถนนได้ดีขึ้นจะทำให้ยางเกาะถนนแม้ว่าถนนนั้นเปียก

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติที่สามก็คือช่วยในเรื่องเสียงรบกวน เสียงนั้นปกติจะเกิดจากการที่ลมไหลผ่าน และ เสียงยางที่กระทบกับพื้นซึ่งทั้งสองพอประกอบกันจะทำให้เกิดเสียงดัง ดังนั้นผู้ผลิตยางจึงต้องออกแบบลายดอกยางเพื่อทำให้ลดเกิดเสียงต่างๆ ออกมาโดยการที่จะเกิดเสียงจะเกิดขึ้นโดยให้ลมผ่านลายดอกยาง ซึ่งเวลาออกแบบลายดอกยางจากเสียงเกิดขึ้นมากมายเสียงดัง เสียงเงียบแต่พอมาผสมผสานกันแล้วนะจะได้ค่าเสียงเดซิเบลที่ต่ำที่สุด ซึ่งเป็นขั้นตอนในการออกแบบของเสียง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทยางด้วยเพราะลายดอกยางสไตล์สปอร์ต ต้องการโฟกัสที่เรื่องการยึดเกาะถนนมากกว่าก็อาจจะทำให้เสียงที่ออกมาเสียงดังครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติที่สี่ก็เพื่อสามารถขับเคลื่อนและส่งผลในเรื่องของแรงตะกรุยที่ดีขึ้นโดยปกติ ถ้ายางเรียบๆจะไม่มีแรงที่จะสามารถตะกรุยได้ดีซึ่งจะทำให้ยางนั้นปั่นฟรีได้ง่ายๆ ทำให้ผู้ผลิตต้องออกแบบลายดอกยางออกมาเพื่อให้ยางเวลาขับเคลื่อนนั่นสามารถมีแรงตะกรุย และ ออกตัวได้ดีขึ้นโดยปกติการออกแบบลายดอกยางไม่ว่าจะเป็นทางเรียบ ทางหินลูกรังก็จะมีลักษณะลายดอกยางที่แตกต่างออกไปเพื่อให้รองรับกับประเภทการใช้งานได้ดีที่สุด ไม่งั้นถ้าอยู่ในทางหินทางดินพอลายดอกยางเป็นดอกเรียบๆ ก็ไม่สามารถตะกรุยออกตัวได้จึงต้องทำเป็นลายดอกก้อนๆ ใหญ่ๆ ครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติสุดท้ายก็คือ ทำให้หน้ายางสามารถตอบสนองการขับขี่ได้รวดเร็วขึ้น เวลาหน้ายางที่มีการขยับตัวถ้าไม่มีลายดอกยางที่ทำหน้าที่ยืดหดก็จะทำให้ยางไม่สามารถสัมผัสกับพื้นถนนได้เต็มประสิทธิภาพเพราะฉะนั้นการออกแบบลายดอกยางเพื่อให้หน้ายางมีการขยับตัวได้ดียิ่งขึ้นและทำให้สัมผัสกับพื้นถนนได้เต็มหน้าตลอดเวลาก็จะช่วยส่งผลทำให้ยางสามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างทันท่วงทีครับผม

แล้วลายดอกยางมีอยู่กี่ประเภท ?? ลายดอกยางมีอยู่ 3 ประเภทครับ ก็จะมีลายดอกยางแบบสมมาตร ลายดอกยางไม่สมมาตร ลายดอกยางทิศทางเดียว โดยแบ่งคุณสมบัติหลักๆต่างกันครับ

ลายดอกยางแบบสมมาตร ก็จะเป็นลายดอกยางที่ไม่ใช้สมรรณนะสูงซึ่งส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มระกระบะ รถ SUV ต่างๆ ครับ ลายดอกยางแบบนี้สามารถใส่สลับหน้ายางได้เลยไม่ว่าจะข้างในข้างนอกดอกยางไม่มีผลต่อการใช้งานครับ

ส่วนที่สองลายดอกยางไม่สมมาตร ลายดอกแบบนี้จะค่อนข้างอเนกประสงค์เพราะใช้ได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าทางตรงและทางคดเคี้ยวซึ่งปัจจุบัน ยางลายดอกแบบนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมมากในทุกๆยี่ห้อเพราะมีความอเนกประสงค์ในการใช้งานมากที่สุด ลายดอกยางลักษณะนี้จะเป็นลายดอกยางที่หน้ายางจากฝั่งซ้ายสุดไปขวาสุดจะไม่เหมือนกันครับ โดยจุดสังเกตุอีกจุดก็จะเป็นแก้มยางจะมีเขียนคำว่า Inside Outside ครับ คือ Outside ให้หันออกนอกตัวถังครับ

ลายดอกทิศทางเดียว เป็นลายดอกยางที่มีการรีดน้ำได้ดีและมีความสามารถในการออกตัวได้ดีและเน้นการใช้งานแบบวิ่งทางตรง ซึ่งลักษณดอกยางจะหันไปทางเดียวกันเสมอ จะมีจุดบอกที่แก้มยางคำว่า Rotation ครับโดยยางลักษณะนี้ถ้าใส่กลับด้านจะทำให้สมรรถนะ ยางลดลงไปประมาณ 20-30% ได้ครับ

ก็จะเป็นคุณสมบัติและลายดอกยางครับที่อธิบายไป แต่หากเพื่อนๆยังมีข้อสงสัยว่ายางไหนที่เหมาะกับเพื่อนๆ มีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com ได้ครับทางเรามีข้อมูลและอธิบายชัดเจนบนเว็บไซต์ของเราครับ และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ได้ครบถ้วน แถมไทร์บิดเรายังมีบริการให้เพื่อนๆต้องการสอบถามเรื่องยาง ล้อยาง โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ได้ผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) ทางทีมงานไทร์บิดยินดีให้คำปรึกษา Tire Specialist เรื่องยาง เรื่องง่าย กันอย่างเต็มที่ครับ นึกถึงยาง นึกถึงไทร์บิดออนไลน์ครับ ทักมาให้พวกเราได้เลยครับผม ขอบคุณมากครับ

Pros-And-Cons-About-New-Mag-Wheel

สิ่งหนึ่งที่นิยมทำกันเพื่อช่วยเพิ่มความสวยงามหรือเสริมความเท่ห์ให้กับรถคันเก่งของคุณก็คือ การเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ ซึ่งโดยทั่วไปจะนิยมเพิ่มขนาดความกว้างของล้อแม็กไปพร้อมๆ กับการใช้ชุดแต่งสเกิร์ต เพื่อทำให้รถดูโหลดเตี้ยลงอีกนิด ถือเป็นการปรับโฉมยอดนิยมที่ “เพิ่มความคูล” ให้กับรถของคุณได้แบบผิดหูผิดตา

แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ที่คุณอาจจะยังนึกไม่ถึง มีด้วยกันอยู่หลายข้อ ไม่นับรวมกับค่าใช้จ่ายหลักหมื่นที่เพิ่มขึ้นมาจากการซื้อแม็กทั้ง 4 ล้อ ยิ่งถ้าหากเลือกวัสดุทำสีพิเศษ แล้วเป็นอัลลอยน้ำหนักเบาด้วยแล้วล่ะก็ ต้นทุนค่าทำสวยครั้งนี้ก็หมดไปไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเปลี่ยนล้อแม็กนั้น เป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณาร่วมกับขนาดของล้อแม็กที่ต้องการจะเปลี่ยน เพราะว่าส่งผลกับความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณได้นั่นเอง

การขับขี่หลังจากเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์

ทั่วไปแล้วคนมักจะมีความเข้าใจว่า การเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งก็จะต้องใช้ยางรถยนต์ที่มีหน้ายางกว้างขึ้นกว่าเดิมด้วยนั้น จะช่วยให้รถของคุณเกาะถนนได้ดีขึ้นกว่าเดิม เรื่องนี้ก็มีความจริงอยู่ แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ในทุกกรณี เนื่องจากต้องพิจารณาในเรื่องของกำลังแรงม้า และขนาดของล้อแม็กที่คุณเลือกด้วย เพราะว่าถ้าผิวสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนนมีมาก อีกทั้งกำลังส่งหรือเครื่องยนต์ของรถคุณนั้นมีกำลังไม่มากพอ จะเกิดอาการ “พวงมาลัยรถหนัก”

อาการที่ว่านี้จะทำให้คุณขับขี่ไม่คล่องตัวเหมือนเดิม การบังคับพวงมาลัยรถเพื่อเลี้ยวจะทำได้ลำบากขึ้น เรียกง่ายๆ ว่า เกิดแรงต้านมากขึ้น เพราะล้อทั้ง 4 ล้อมีผิวสัมผัสกับถนนเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะทำให้คุณรู้สึกว่ารถเกาะถนนดีขึ้น แต่กลับไม่สามารถบังคับพวงมาลัยรถได้ง่ายเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้เมื่อมีการเปลี่ยนเลนในระยะกระชั้นชิด รวมไปทั้งการถอยรถเข้าจอดในซองก็จะค่อนข้างลำบาก

Pros-And-Cons-About-New-Mag-Wheel

ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ มีอะไรบ้าง? ไปดูกัน

นอกจากปัญหาเรื่องการบังคับรถยาก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่ได้แล้วนั้น ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ที่คุณควรรู้เอาไว้ก่อนตัดสินใจ ยังมีด้วยกันอีกหลายข้อ ดังนี้

  • ทำให้ช่วงล่างแข็งขึ้น

โดยทั่วไปเมื่อยางมีขนาดใหญ่ขึ้น แก้มยางก็จะเตี้ยลง ผลที่ตามมาก็คือ ช่วงล่างจะแข็งขึ้น ไม่นุ่มสบายเหมือนกับที่โรงงานตั้งค่ามาให้ตั้งแต่ต้น แก้มยางที่บางลงจะส่งผลโดยตรง กับการซับแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ถ้าหากโชคร้ายขับรถตกหลุมด้วยความเร็วสูงล่ะก็ โอกาสเสี่ยงที่ยางระเบิดจะมีสูงด้วยเช่นกัน ในกรณีที่เลวร้ายมาก ๆ อาจทำให้ “ล้อดุ้ง” เลยก็มี

  • ออกตัวอืดและมีอัตราเร่งแย่ลง

ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น จำเป็นต้องใช้แรงบิดจากเครื่องยนต์มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อไปกระทำต่อล้อและส่งกำลังให้ล้อหมุนไปข้างหน้าได้ จึงส่งผลให้รถออกตัวได้อืดกว่าเดิม รวมถึงในกรณีที่ต้องการเร่งแซง คุณจำเป็นที่จะต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น เพื่อเร่งให้รถวิ่งได้เร็วขึ้นตามที่ต้องการ เพราะพื้นผิวสัมผัสของยางรถยนต์ กับพื้นถนนมีมาก จึงเร่งเครื่องรถยนต์ ได้ไม่ดีเท่ากับล้อมาตรฐานที่มาจากโรงงาน

  • กินน้ำมันมากกว่าเดิม

ผลที่ตามมาจากการที่ต้องเร่งเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นเพื่อให้รถวิ่งได้ในความเร็วที่ต้องการ แน่นอนว่ารถจะกินน้ำมันมากขึ้น เพราะเกิดพื้นที่เสียดทานระหว่างหน้ายางและผิวถนน มากกว่าเดิม จึงต้องใช้กำลังเครื่องยนต์มากกว่าเดิมในการขับเคลื่อน โดยทั่วไปจะสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขับรถของแต่ละคนด้วย

  • ไมล์ความเร็วอ่านค่าผิดเพี้ยน

การตั้งค่าไมล์ความเร็วของวิศวกรจากโรงงาน จะตั้งค่าเรือนไมล์ให้มีความเร็วถูกต้องตรงตามขนาดล้อและยางของรถแต่ละรุ่น สเปคตามโรงงาน แต่ถ้าคุณนำรถไปเปลี่ยนแม็กและยางเอง จะทำให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า “ไมล์แข็งขึ้น” หรือความเร็วบนหน้าปัดที่แสดงนั้น น้อยกว่าความเร็วจริงที่คุณขับขี่อยู่ ซึ่งจะส่งผลให้คุณได้รับใบสั่งที่บอกว่า ขับด้วยความเร็วเกินกำหนดแบบไม่รู้ตัว

  • ค่าบำรุงรักษาแสนแพง

เมื่ออยากได้รถสวยก็ต้องทำใจ เรื่องนี้เป็นความจริงเกี่ยวกับยางรถยนต์ด้วย เพราะยางที่ใหญ่ขึ้น จะมีราคาสูงกว่ายางขนาดปกติพอสมควรเลย เมื่อถึงอายุการใช้งานที่จะต้องเปลี่ยนยางแต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นรออยู่แน่นอน และถ้าหากคุณไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ตัวเมือง ยางบางรุ่นก็จะกลายเป็นของหายากโดยปริยาย เพราะที่ร้านก็จะไม่ค่อยสต๊อกยางแต่งในลักษณะนี้เอาไว้เท่าไหร่

ถึงแม้ข้อเสียของการแต่งล้อแม็กรถยนต์นั้นจะมีด้วยกันอยู่หลายข้อ แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเสียทีเดียว เพราะการเลือกขนาดของล้อแม็กที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย จะช่วยให้รถของคุณมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้น

Pros-And-Cons-About-New-Mag-Wheel

แล้วข้อดีของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ล่ะ มีอะไรบ้าง?

ในวงการยานยนต์เริ่มมีการใช้ล้อขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากทางวิศวกรมีความต้องการที่จะเช็กรถให้มีความสามารถในการขับขี่มากขึ้น อีกทั้งต้องการเพิ่มความสวยงามโดดเด่นให้กับรถรุ่นใหม่ ๆ ให้มีความสะดุดตามากกว่า ดังนั้นจึงเป็นที่ยอมรับกันดีว่า การเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์นั้นมีข้อดีด้วยกันหลายอย่าง ดังนี้

  • เพิ่มความสวยงามสะดุดตา

การเปลี่ยนล้อแม็กให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะช่วยให้ล้อดูเต็มซุ้ม ไม่มีพื้นที่ช่องว่างระหว่างซุ้มล้อกับยาง ดูแล้วสวยงาม อีกทั้งยังสามารถบ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ของเจ้าของรถ หรือให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับรถคันนั้นได้อีกด้วย ไม่ต่างจากการทำสีรถเลย

  • เพิ่มการเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเมื่อแต่งล้อแม็กรถยนต์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ขนาดยางที่มีหน้าสัมผัสเพิ่มมากขึ้น จะทำให้รถสามารถเกาะถนนได้ดีขึ้นกว่าเดิม เข้าโค้งได้ดีกว่าเก่า เพราะพื้นสัมผัสที่เพิ่มขึ้นในทั้ง 4 ล้อ รวมไปถึงแก้มยางที่เตี้ยลง จะช่วยลดการโยนตัวในระหว่างที่เข้าโค้งด้วยความเร็วนั่นเอง

  • เบรกดีกว่าเดิม

คุณจะได้ประสิทธิภาพของระบบเบรกที่ดีขึ้นกว่าเดิมซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการใช้ยางที่มีหน้าสัมผัสใหญ่ขึ้น เมื่อคุณเหยียบเบรก จะสามารถสั่งห้ามล้อหรือลดความเร็วได้ดีกว่าเก่า ทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขับรถทางไกล ที่ใช้ความเร็วสูงสม่ำเสมอในการเดินทาง

เมื่อคุณรู้แล้วว่าข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์เป็นอย่างไร เมื่อต้องการเลือกที่จะเปลี่ยนล้อ ก็อย่าลืมคำนึงถึงขนาดของล้อแม็กที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยและได้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าการใช้ล้อและยางมาตรฐานที่มาจากโรงงาน โดยในส่วนของความสิ้นเปลืองอัตราการใช้น้ำมันที่มากขึ้นนั้น ก็จะเป็นรายจ่ายคงที่ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการบำรุงรักษาตามระยะทาง ก็จะโดนเป็นแบบครั้งคราวไป

และถ้าหากคุณอยากขับขี่และใช้รถใช้ถนนได้อย่างอุ่นใจ ก็อย่าลืมมองหาการคุ้มครองด้วยการซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ของคุณ ที่ Roojai.com เรามีประกันรถยนต์หลากหลายรูปแบบ รวมถึงประกันมอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์สำหรับชาวไบค์เกอร์อีกด้วย เพียงกรอกข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรถและผู้ขับขี่ สามารถเช็คเบี้ยประกันและความคุ้มครองของประกันแต่ละรูปแบบ พร้อมทั้งซื้อได้ภายใน 5 นาที พร้อมผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษากับคุณ เพื่อเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

และถ้าหากไม่อยากพลาดโปรโมชั่นใหม่ๆ และเรื่องราวดีๆ ก็สามารถ Add Official Line ของเราได้ที่ http://nav.cx/8tzQPw8