รถยนต์ไฟฟ้า ประหยัดสุดๆ

นับตั้งแต่ในบ้านเรา ได้รับกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังฮิตมากจากทั่วโลก ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ไม่ปล่อยมลพิษ การดูแลรักษาที่ง่ายขึ้น ประหยัด ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องทนฟังเสียงเครื่องยนต์ หรือเสียงท่อไอเสียดังๆ ฯลฯ และตอบโจทย์ด้วยระยะทางต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ที่มากกว่าในอดีตมาก ทำให้หลายคนเริ่มตัดสินใจเลิกทิ้งรถน้ำมัน และหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากัน

EV-Car-Super-Save-Electricity-Costs

เมื่อไม่กี่วันก่อน ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Sorawit Prathanthip เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า MG EP (เอ็มจี อีพี) ได้โชว์ใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้าเดือนล่าสุดที่ใช้สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบุข้อความว่า

“ไปจ่ายมาแล้วสำหรับค่าไฟชาร์จรถ EP เดือนเมษายน โดยเดือนนี้เดินทางไป 3,200 km มีค่าใช้จ่ายเพียง 831 บาท เฉลี่ยเป็น 0.26 บาท/กม. โดยใช้มิเตอร์ TOU และบังคับ (โดยอุปกรณ์ตั้งเวลาชาร์จ) เป็น Off Peak 100% และใช้สถานีชาร์จฟรีไปราวๆ 4-5 ครั้ง

ถ้าเป็น Vios น้ำมันต้องมีค่าใช้จ่าย Km ละ 2 บาท หรือเสียไป 6,400 บาทในเดือนนี้ เท่ากับเดือนนี้ประหยัดไป 5,569 บาทคุ้มค่าจริงๆ เอาส่วนต่างพาลูกเมียไปเที่ยวสบายๆ”

นั่นแสดงให้เห็นว่า รถยนต์ไฟฟ้าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 5 พันบาท/เดือน ทีเดียว!

EV-Car-Super-Save-Electricity-Costs

แต่ทางเจ้าของโพสต์ ได้ระบุว่า ตั้งเวลาชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าในช่วง Off-Peak รวมถึงยังนำรถไปชาร์จไฟฟรี ที่สถานีบริการชาร์จอีกหลายครั้งด้วย ซึ่งช่วยให้เชฟค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม >> รวมจุดชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า ในกรุงเทพฯ และทั่วไทย มีจุดไหนใกล้คุณ ประจำปี 2564

คนใช้รถน้ำมันหลายคนเห็นแบบนี้แล้ว อย่าได้แต่เปรยว่าเติมน้ำมันวิ่งระยะทางเท่ากัน แพงกว่าค่าไฟของรถยนต์ไฟฟ้า อยากลองเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันแล้วหรือยัง?

สำหรับใครที่อยากขายรถ เพราะอยากเปลี่ยนรถใหม่เป็นรถไฟฟ้า มาขายรถกับ CARRO Express สิ! ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

แหล่งที่มาจาก

ย้ายประเทศ ซื้อรถในอเมริกา USA

ช่วงนี้กระแส “ย้ายประเทศ” กำลังมาแรงมากเลยทีเดียว นับตั้งแต่กลุ่มเฟซบุ๊ก “ย้ายประเทศกันเถอะ” (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย”) ที่ตอนนี้มีสมาชิกกว่า 1 ล้านคนแล้ว ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ในไทยนั้นตื่นตัวกันอย่างมากถึงการออกไปทำงานในประเทศอื่นๆ ของโลกใบนี้

สำหรับ “สหรัฐอเมริกา” ก็นับได้ว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของคนไทยที่อยากย้ายประเทศไปทำมาหากินที่นั่น ซึ่งในปัจจุบันเองก็มีคนไทยที่อพยพไปเรียนหนังสือ แต่งงาน ทำธุรกิจ หรือมีลูกหลานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนประมาณราวๆ 3 แสนคน

เมื่อหลายคนเริ่มลงหลักปักฐาน ทำมาหากิน ก่อนอื่นก็ต้องซื้อรถก่อนเลย เพราะถ้าหากคุณไปอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ถ้าไม่มีรถก็เหมือนไม่มีขาเดิน สำหรับประเทศที่มีเนื้อที่ใหญ่ระดับทวีป อีกทั้งระบบขนส่งสาธารณะนั้น มีเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น

ที่สำคัญ อัตราการเป็นเจ้าของรถยนต์ในสหรัฐฯ ที่มีถึงร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด คุณก็คิดดูเอาละกันว่าปริมาณคนใช้รถยนต์ใน USA มันมากแค่ไหน แค่จำนวนประชากรที่มีใบขับขี่ ก็ปาเข้าไป 227 ล้านคนแล้ว

เอาล่ะ ไปเรียนรู้กับสิ่งที่คุณต้องรู้กันเลยดีกว่า เมื่อจะซื้อรถในอเมริกาครับ

Howto-Purchase-Car-In-USA

1. ใบขับขี่

เมื่อไปอยู่อเมริกา จะซื้อรถ ก็ต้องมีใบขับขี่ก่อน …

กรณีที่คุณต้องการใช้ใบขับขี่ที่มีจากไทยไป (กรณีที่คิดว่าไปอยู่ ไปเรียนต่อ หรือไปทำงานไม่นาน) ก็ให้ทำใบขับขี่สากลเตรียมตัวไปก่อน

ซึ่งกรมการขนส่งทางบก สามารถดำเนินการออกใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาเวียนนา 1968 เพิ่มเติมจากใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาเจนีวา 1949 เดิมที่มีผลบังคับใช้อยู่แล้ว ซึ่งมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศตามอนุสัญญาเจนีวา 1949 มีอายุ 1 ปี นำไปใช้ได้ใน 101 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ เป็นต้น
  • ส่วนใบขับขี่สากลแบบใหม่ของกรมการขนส่งทางบก (เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2564) เป็นไปตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 นำไปใช้ได้ใน 84 ประเทศทั่วโลก

และสำหรับประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาทั้งสองฉบับ เช่น สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน รวมถึงประเทศไทย สามารถใช้ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้

สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่สากล สามารถแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบอนุญาตขับรถไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา และออกใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศให้ได้อย่างถูกต้องตามแบบที่กำหนด

โดยใบขับขี่สากล มีอายุ 3 ปี นับแต่วันออกใบอนุญาต หรือไม่เกินกว่าอายุของใบอนุญาตขับรถภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่ โดยมีหลักฐานประกอบคำขอ ดังนี้

1. สำเนาหนังสือเดินทาง เล่มที่ใช้ในการเดินทาง ประวัติหน้าที่แก้ไข (พร้อมฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
2. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
3. ใบขับขี่ประเภทต่างๆ แล้วแต่กรณี (ต้องไม่ใช่ชนิดชั่วคราว)
4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) ถ่ายรูปหน้าตรง ไม่สวมหมวกหรือสวมแว่นตาสีเข้ม, ไม่มีภาพวิวหลังรูป
5. สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ- สกุล, ทะเบียนสมรส หรือใบหย่า
6. ค่าธรรมเนียม 505 บาท

กรณีมอบอำนาจ เตรียมหลักฐานเพิ่มดังนี้

1. หนังมือสองอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท
2. สำเนาหลักฐานผู้มอบอำนาจพร้อมเซ็นชื่อรับรองสำเนา
3. บัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ (กรณีต่างชาติต้องแนบตัวจริงพร้อมสำเนา)

สามารถติดต่อทำได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5

หรือจะให้ทางสถานทูตไทยในสหรัฐฯ ที่ฝ่ายกงสุล งานนิติกรณ์ แปลและรับรองคำแปลให้ กรณีที่ไม่ได้ทำใบขับขี่สากลมาจากประเทศไทย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://thaiembdc.org/th/translation/ (การรับรองคำแปลสำหรับเอกสารราชการไทย)

โดยในการรับรองคำแปล คุณต้องจัดทำคำแปลภาษาอังกฤษมา หรือจะให้ใครแปลมาให้ก็ได้ โดยต้องพิมพ์มาให้เรียบร้อย และผู้แปลต้องลงชื่อรับรองคำแปลถูกต้อง และจะต้องเป็นเอกสารต้นฉบับเท่านั้น

สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประทับตรา “Seen at the Royal Thai Embassy” ในการรับรองคำแปล โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่รับรองข้อความใดๆ ที่ปรากฎในเอกสาร

Howto-Purchase-Car-In-USA

แต่ในส่วนของใครที่ต้องการทำใบขับขี่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากใบขับขี่เดิมหมดอายุแล้ว หรือต้องการอยู่นานกว่านั้น อันนี้รายละเอียดจัดว่าค่อนข้างเยอะ ผู้เขียนขอรวบรวม Link ที่คนไทยในอเมริกามาแนะนำการทำใบขับขี่ในหลายๆ รัฐของสหรัฐอเมริกา สามารถกดดูได้ในด้านล่างครับ (รัฐที่คนไทยอยู่เยอะๆ การสอบใบขับขี่ มีข้อสอบภาษาไทยให้เลือกด้วยครับ)

Howto-Purchase-Car-In-USA

2. เริ่มซื้อรถ

ซื้อรถที่อเมริกา ต้องเช็คราคา และประวัติของรถก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่ง หรือรถมือสอง ก่อนจะซื้อ ก็ลองเข้าไปดูตามกลุ่ม Facebook ของรถรุ่นนั้นๆ ดูก่อน อ่าน User Voice ดู Consumer Report ดูก่อน ดูว่ารถรุ่นนี้มี Recall มั้ย หรือมีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อที่ซื้อมาแล้ว จะได้เตรียมตัวซ่อมหรือเปลี่ยนได้

Howto-Purchase-Car-In-USA

ที่อเมริกานั้น รถญี่ปุ่น จะได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากคุณภาพทนทาน ไม่จุกจิก (หลายคนอาจไม่ทราบว่า ค่าซ่อมรถในอเมริกานี่แพงแค่ไหน บางเคสค่าซ่อมแพงกว่าราคารถมือสองถูกๆ เสียอีก) ซึ่งรถญี่ปุ่นมือสอง ซื้อง่าย ขายคล่อง ราคาดีกว่า รถเกาหลี รถยุโรป และรถอเมริกัน โดยส่วนมากจะใช้งานกันไม่กี่ปีก็ขายแล้ว

ราคาขายรถมือสอง ก็มีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยเหรียญ (ส่วนใหญ่นะ สภาพรถจะปีเก่าๆ หรือสภาพแย่ๆ หน่อย) แต่ถ้าสภาพรถดีๆ ก็จะมีราคาพันเหรียญขึ้นไป จนถึงหลักหมื่นเหรียญต้นๆ กรณีรถปีไม่เก่ามากนัก ทั้งนี้ราคาก็ขึ้นอยู่กับประเภทรถ ปีรถ สภาพรถ และยี่ห้อรถด้วย

Howto-Purchase-Car-In-USA

แต่ถ้าไม่มั่นใจ ที่อเมริกาก็มีบรรดา Pre-Purchase Car Inspections รับดูรถให้คุณด้วย ซึ่งก็คล้ายๆ กับที่มีในไทย เสียค่าบริการนะครับ! (ไม่ฟรี) เริ่มต้นค่าใช้จ่ายก็ประมาณ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ เป็นต้น (*แต่อย่าลืมว่า Dealer ส่วนใหญ่ เขาอนุญาตให้ Inspection ไปดูรถได้เฉพาะที่ศูนย์ของเขานะครับ ไม่ให้เรานำรถออกไป Inspection นอกสถานที่ได้ ยกเว้นว่าคุณจะจ้างไปดูรถบ้านที่เจ้าของขายเอง)

แนะนำว่าถ้า Dealer ที่เราจะซื้อรถมีหน้าเว็บ ให้เช็คราคาจากหน้าเว็บไซต์ก่อน (หรือเช็คราคากลางรถยนต์ได้ที่ KBB (Kelly Blue Book) – https://www.kbb.com/) ลองเช็คราคารถจากหลายๆ โชว์รูมก่อน แล้วค่อยไปดูรถตัวจริง แนะนำให้ต่อราคาให้ได้ Invoice Price เลย เพราะเขาบวกราคาตัวรถไปค่อนข้างเยอะ

กรณีซื้อรถใหม่ ถ้าหากคุณเข้าไปดูรถแบบ Walk-In เข้าไปในโชว์รูมเลย เซลล์ขายรถก็จะให้ราคาแบบ Walk-In ซึ่งอาจจะแพงกว่าราคาที่เราเข้าไปดูหน้าเว็บไซต์ แล้วดูพวกของที่ใส่เข้ามาในรายการรถ ที่บางทีเราอาจมีในสิ่งที่เราไม่ต้องการ ทำให้ราคาสูงตัวรถขึ้นไปอีก

กรณีที่ซื้อรถมือสองที่ศูนย์ขายรถ หรือรถบ้านเจ้าของขายเอง ก็ต้องเช็ครายละเอียดของรถดูก่อนว่า เป๊ะ! ทุกอย่างหรือไม่ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ใช้ดูรถได้ทั่วโลก การดูรถก็ไม่ต่างกัน ดูตัวถัง การทำงานเครื่องยนต์ ของเกียร์ องค์ประกอบภายในรถ ทดลองขับ ฯลฯ อันนี้เป็น Basic เหมือนๆ กัน

Howto-Purchase-Car-In-USA

ยิ่งบางคัน เป็นรถ Rebuilt Title หรือ Salvage Title มา อันนี้ไม่น่าเล่นเท่าไหร่ แม้ว่าราคาตัวรถจะถูกมาก แต่เวลาคุณจะเอาไปขายต่อ ขายยาก ถ้าบ้านเราก็อาจจะเป็น รถย้อมแมวววววว …

รถ Rebuilt Title หรือ Salvage Title อาจจะเคยเป็นรถเคยโดนชนมา จะน้อยจะมาก หรือรถที่บริษัทประกันภัยตีเป็น Total Loss จ่ายเงินสดเป็นมูลค่าของตัวรถ หรือค่าซ่อมแพงกว่าราคาตัวรถ เลยขายทอดตลาดออกมา แล้วอู่ซ่อมรถเอามาซ่อมขาย หรือขายตามสภาพนั่นเอง รถประเภทนี้เบี้ยประกันภัยตัวรถจะแพงเป็นพิเศษ

ซึ่งรถประเภทนี้เมื่อซ่อมมาแล้ว เจ้าของรถต้องส่งเรื่องให้ DMV (กฎระเบียบตามรัฐนั้นๆ) กรณีจะใช้รถคันนี้ต่อ จากนั้น DMV จะส่ง Inspector มาเช็คสภาพรถ ถ้ารถผ่าน Inspection จะได้สถานะเป็น Rebuilt Title นั่นเอง

Howto-Purchase-Car-In-USA

ซึ่งคุณอาจจะเช็คใน Carfax ดูว่าข้อมูลรถของคุณจากเจ้าของเก่า รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ไมล์แท้ๆ เลยหรือไม่ เพราะคนอเมริกัน มักใช้รถกันแบบสมบุกสมบัน ไม่ค่อยดูแลรักษารถกันเท่าไหร่ อีกทั้งใช้รถกันเลขไมล์ค่อนข้างเยอะ

วิธีเช็คก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่กรอกรหัสตัวถังรถ (VIN = Vehicle Identification Number) ที่คุณจะซื้อเข้าไป แค่นี้ก็มีข้อมูลขึ้นมาแล้ว

เมื่อคุณตกลงปลงใจเลือกรถได้เรียบร้อย ก็เตรียมบัตรเครดิต หรือ Cashier Check ไปจ่ายเงินกับทางศูนย์ หรือถ้าคุณซื้อรถบ้าน ก็อาจจะจ่ายเงินสดก็ได้ พร้อมจ่าย Sales Tax ไปด้วย

Howto-Purchase-Car-In-USA

3. ประกันภัย

คุณรู้หรือไม่ว่าที่อเมริกา รถยนต์ทุกคัน จะต้องทำประกันภัยทุกคัน มิฉะนั้นจะนำออกมาวิ่งบนถนนไม่ได้เลย เพราะถ้าหากถูกตำรวจตรวจเจอ อาจติดคุกและโดนปรับหนักได้ หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา อาจต้องจ่ายกันจนหมดตัวได้

ซึ่งไม่ว่าคุณจะซื้อรถมือหนึ่ง หรือรถมือสอง ทางศูนย์ หรือบริษัทไฟแนนซ์ ก่อนจ่ายเงินซื้อ เขาจะบังคับให้คุณซื้อประกันภัยรถ (ที่ทางศูนย์มีดีลไว้อยู่แล้ว) ก่อนเลย หรือเราจะซื้อประกันรถออนไลน์ไปเองก็ได้

สำหรับประกันภัยรถยอดฮิตในอเมริกา หลักๆ ก็จะมีอยู่สองอย่าง คือ Full-Coverage และ Liability …

1. Full-Coverage เปรียบเหมือนประกันภัยชั้นหนึ่งในไทย ไม่ว่าเราจะผิด หรือ ถูก ประกันก็จ่ายให้หมด เรียกได้ว่า คุ้มครองทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แต่ว่าค่าเบี้ยประกันภัยก็แพงด้วยเช่นกัน

2. Liability เปรียบเหมือนกับประกันภัยชั้นสาม ที่คุ้มครองเฉพาะบุคคลอื่นเท่านั้น คือถ้าเราเป็นฝ่ายผิด คุณต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณีเอง แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกชน คู่กรณีของคุณเป็นคนรับผิดชอบ

ทั้งนี้ เบี้ยประกันก็มีราคาแตกต่างกันไป ตั้งแต่ เพศ, อายุของผู้ถือใบขับขี่, ประเภทใบขับขี่ (ถ้าหากคุณใช้ใบขับขี่สากลที่มาจากไทย ค่าเบี้ยประกันก็จะแพงกว่าใบขับขี่ใน USA มาก) ยี่ห้อรถยนต์, อายุของรถยนต์, ปีที่ซื้อรถ, เลขไมล์, ประวัติการขับรถ หรือสถานที่เก็บรถ

ซึ่งถ้าหากคุณมีประวัติชนบ่อย หรือเป็นรถที่มีราคาแพง, รถรุ่นยอดฮิตของขโมย หรืออายุผู้ขับขี่ที่ต่ำกว่า 25 ปี มือใหม่หัดขับ ค่าเบี้ยประกันก็จะแพงขึ้น ทางที่ดีไม่อยากจ่ายแพง ให้ทำใบขับขี่ของอเมริกาครับ

แต่ถ้าหากคุณขับรถดี ใช้รถยี่ห้อตลาดทั่วไป ขับรถไม่เคยโดนใบสั่ง ไม่เคยไปชนอะไร มีอายุมากกว่า 25 ปี และมีประสบการณ์ขับรถมาก หรือรถเลขไมล์ใช้งานไม่เยอะ อันนี้ก็จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยถูกกว่า

ในเรื่องเพศสภาพ เพศหญิง จ่ายเบี้ยประกันภัยถูกกว่าเพศชาย เพราะบริษัทประกันศึกษามาแล้วว่า ผู้ชายขับรถอันตรายและมีอุบัติเหตุบ่อยกว่าผู้หญิง

และการย้ายบริษัทประกันภัยไปทำเจ้าใหม่ ก็ไม่ได้หมายความว่าฐานข้อมูลจะเริ่มต้นใหม่แบบไทยๆ นะครับ เพราะที่ USA มีหน่วยงานกลางเพื่อเก็บข้อมูลประกันภัยไว้เลย!

Howto-Purchase-Car-In-USA

4. จดทะเบียนรถ

กรณีที่คุณซื้อรถป้ายแดงจากศูนย์ อันนี้ง่ายหน่อย เพราะทางศูนย์เขาจะจัดการเดินเรื่องทำทะเบียนรถให้เสร็จสรรพ แต่ต้องจ่าย Dealer Fee เพิ่มต่างหาก

แต่ถ้าหากคุณซื้อรถมือสองจากรถบ้านมา (ซึ่งเจ้าของรถเดิมเขาจะเก็บทะเบียนรถเอาไว้) คุณต้องไปจดทะเบียนรถใหม่เอง โดยนำ Certificate of Title (ประมาณเล่มทะเบียนในบ้านเรา) ที่เจ้าของรถคนเดิมต้องเซ็นโอนรถมาให้ด้านหลัง พร้อม Bill of Sale (ใบซื้อขาย) หรือ Pink Slip (ใบรับรองการเป็นเจ้าของรถ)

แล้วคุณก็มีหน้าที่ไปจัดแจงโอนรถที่ Department of Motor Vehicles (DMV) ทันที! เพราะขับแบบไม่มีป้ายทะเบียน มิสิทธิ์โดนตำรวจเรียกทุกวัน แม้ว่ากฎหมายให้เวลาในการโอนรถ 30 วัน ก็ตาม (ถ้าโอนรถหลังจากนั้น โดนปรับนะครับ) เว้นเสียแต่ว่าคุณซื้อรถจาก Dealer จะมีป้ายของศูนย์มาให้ ตำรวจไม่จับ ขับได้ 30 วันก่อนได้ป้ายจริง ซึ่งคุณต้องเตรียม Title รถไว้ + ประกันภัย เตรียมให้ตำรวจดูได้เลย

ทางที่ดี กรณีซื้อรถบ้านเสร็จ นัดเจ้าของไปโอนรถที่ Tag Office เลย จะได้ขอทะเบียนใหม่ทีเดียว พร้อมใช้งาน

สำหรับการโอนรถ ในบางรัฐ หรือการโอนรถต่างรัฐ (คล้ายๆกับในไทย รถ กทม. โอนไปต่างจังหวัด) ก็อาจจะต้องตรวจสภาพรถ Brake And Lamp Inspection / Smog Check ก่อนนะครับ ถึงจะจดทะเบียนใหม่ได้ ซึ่งก็มีอู่ทั่วไปรับ Adjusting ด้วย (คล้ายๆ กับตรวจ ตรอ. ในไทย) แต่บางรัฐก็ไม่ต้องตรวจสภาพ กรณีที่โอนรถในรัฐเดียวกัน

สำหรับหลักฐานในการโอนรถ แต่ละรัฐก็มีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน คร่าวๆ คือต้องใช้ …

  • Title
  • เอกสารยืนยันที่อยู่ 2 ฉบับ
  • ใบขับขี่
  • ประกันภัย
  • Emission Test / Smog Check ในบางรัฐ เช่น แคลิฟอร์เนีย … ตอนซื้อรถถามเจ้าของด้วยว่า รถตรวจสภาพไอเสีย (Emission Control) ผ่านหรือยัง ถ้ายังไม่ผ่าน โอนรถไม่ได้นะครับ ข้อมูลจะขึ้นในระบบออนไลน์ โดยใบ Smog สามารถใช้ได้ภายใน 90 วันจากวันที่ตรวจผ่าน (เหมือนการตรวจไอเสีย ของ ตรอ. ในไทย)

ซึ่งคนซื้อรถต้องแจ้ง DMV ภายใน 10 วัน จากวันที่มีการซื้อขาย ส่วนคนขายรถต้องแจ้ง DMV ภายใน 5 วัน หลังจากการขายรถให้กับเจ้าของใหม่ พร้อมกรอกแบบฟอร์ม Notice of Transfer and Release of Liability (NRL) ให้ DMV ทันที เพื่อที่คนขายไม่ต้องรับผิดชอบ ในกรณีเช่น ผู้ซื้อขับไปชนใคร หรือนำรถไปใช้ทำอะไรผิดกฎหมาย คนขายไม่ต้องรับผิดชอบหากมีการฟ้องร้องในภายหลัง

Howto-Purchase-Car-In-USA

ไปวันเดียวก็ได้ป้ายทะเบียนมาเลย พร้อมจ่ายค่าป้ายทะเบียน + ภาษี ถ้าอยากได้ป้ายทะเบียนเป็นตัวอักษรแจ๋วๆ ใส่เลขสวยๆ หน่อย แค่เพิ่มเงินก็ได้แล้ว

ในส่วนของภาษีรถยนต์ประจำของสหรัฐ ก็จัดเก็บในแต่ละปีไม่เหมือนกันอีก ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละรัฐ

ขอให้สนุกกับการไปเรียน ไปทำงาน หรือแต่งงานไปอยู่ประเทศใหม่ และการซื้อรถยนต์คันใหม่ ใน USA นะครับ!

สำหรับใครที่อยากขายรถก่อนย้ายประเทศ เอารถคันเดิมของคุณมาขายที่ CARRO สิ ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

แหล่งที่มาบางส่วนจาก

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

เดือน “ธันวาคม” นี้ ในเดือนที่มีวันหยุดเพียบ แม้ว่าอากาศจะหนาวบ้าง ร้อนบ้าง แต่ถ้าจะพูดถึงวันสุดสัปดาห์ของการทำงาน (เช่น วันศุกร์ หรือวันเสาร์) เหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ในวัยทำงาน มักนิยมหาแหล่งพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ

และยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แล้วล่ะก็ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงลานเบียร์ เพื่อนั่งดื่มเบียร์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศชิลล์ๆ แน่นอน บรรดาค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ จึงต้องจัดงานแบบดาวกระจายไปหลายๆ ที่ในกรุงเทพฯ

ทาง CARRO จึงรวมแหล่งลานเบียร์ ที่เหมาะสังสรรค์ยามราตรีในกรุงเทพฯ และลานเบียร์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ที่ให้เพื่อนๆ ไปพักผ่อนหลังเลิกงาน และได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่ แต่จะมีที่ไหนกันบ้าง ไปอ่านกันได้เลย

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

1. Parc Paragon @ Siam Paragon

ลาน Parc Paragon (พาร์ค พารากอน) อีกหนึ่งย่านใจกลางเมืองที่หลายคนชอบเดินช้อปปิ้ง มีลานเบียร์ที่เปิดให้บริการกันทุกปลายปี ซึ่งก็เป็นยี่ห้อของค่ายสีเขียว แต่ถ้าใครไม่ติดอะไร ก็ดื่มกันได้ และเป็นอีกย่านที่สะดวกทั้งการเดินทาง หรือไปเที่ยวที่อื่นต่อ

การเดินทาง : รถเมล์สาย 15, 16, 25, 40, 48, 54, 73, 73ก, 79, 204, 501, 508 / BTS สยาม  / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

2. Sathorn Square

เวลาเดินทางหรือแวะมาเยือนย่านสาทร หลายๆ คน คงนึกถึงตึก Sathorn Square (สาทรสแควร์) เป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นแหล่งที่รวมคนทำงานออฟฟิศที่เยอะสุดเลยก็ว่าได้ และใครที่เหนื่อยล้าจากงาน อยากจะสังสรรค์ผ่อนคลายก็มาได้ที่ลาน Sathorn Square ได้ทุกค่ำคืนเลยช่วงนี้

การเดินทาง : รถเมล์สาย 17, 77, 149 / BRT สาทร / BTS ช่องนนทรี / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

3. Asiatique The Riverfront

ใครที่อยากดื่มดั่มกับรรยากาศชิลล์ๆ แนะนำให้มาที่นี่เลย Asiatique The Riverfront (เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์) เพราะด้วยเป็นแลนด์มาร์คสุดอลังการ อีกทั้งมีบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก ไม่มีที่ไหนให้ได้แบบนี้อีกแล้ว

การเดินทาง : รถเมล์สาย 1, 15, 17, 75, 504, 547 / รถสองแถวสาย 1273 / BTS สะพานตากสิน และต่อด้วย Shuttle Boat / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

4. Mega Bangna

ใครที่อยู่แถวพัฒนาการ ศรีนครินทร์ บางนา ลาดกระบัง และสมุทรปราการ คงคุ้นเคยกับห้าง Mega Bangna (เมกาบางนา) กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นห้างที่รวมแหล่งสาธารณูปโภคทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งถ้าใครต้องการไปลานเบียร์นั่งชิลล์ๆ ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ สามารถมาที่นี่ได้เลย ลองแวะเวียนไปกันดูนะ

การเดินทาง : รถเมล์สาย 2, 23, 145, 180, 207 / BTS สถานีอุดมสุข แล้วต่อ Shuttle Bus ฟรี / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

5. The Street Ratchada

ห้างใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ย่านรัชดา อย่าง The Street Ratchada (เดอะสตรีท รัชดา) เป็นแหล่ง Hang Out สุดชิคที่สามารถกิน ดื่ม ช้อปได้ 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับวัยรุ่นและวัยทำงานที่ไม่ยึดติดกับเวลา ทำให้ที่นี้เป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด

การเดินทาง : รถเมล์สาย 36, 54, 73, 73ก, 136, 137, 179, 185, 206, 514, 517 / MRT  ศูนย์วัฒนธรรม  / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Groove-CentralWorld

6. Groove @ CentralWorld

แม้ว่าลานหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด ที่จะเคยเป็นลานเบียร์ในตำนานอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ถูกจัดแล้ว แต่ในอาณาบริเวณเดียวกันอย่าง Groove @ CentralWorld (กรูฟ @ เซ็นทรัลเวิลด์) ที่เป็น Lifestyle Dining & Gastro Bar นานาชาติ มีร้านอาหารแบรนด์ดังระดับโลกมารวมกัน ที่ภายนอกตกแต่งสไตล์ Futuristic แต่ข้างในตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่น ซึ่งมีหลายร้านให้คุณได้นั่งดื่มเบียร์ชิวๆ พร้อมอาหารคอกเทลสุดอร่อย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 15, 25, 40, 48, 54, 73, 73ก, 79, 204, 501, 508 / BTS สยาม – ชิดลม / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 10.00 น. – 00.00 น.

La-Villa-Aree

7. La Villa อารีย์

ในย่านตอนต้นของถนนพหลโยธิน แม้ว่าบางส่วนจะเป็นย่านธุรกิจ ที่พักอาศัย และเขตทหาร ที่นี่ยังมีแหล่งความบันเทิง หรือ Community Mall อีกด้วย ซึ่งในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ บริเวณด้านหน้าของ La Villa (ลาวิลล่า) ก็จะถูกเนรมิตพื้นที่เป็นลานเบียร์ ให้คนมานั่งดื่มหลังเลิกงาน กินเบียร์ชิวๆ ดูบอลกัน หรือจะไปนั่งต่อในร้านอาหาร หรือบาร์ในย่านนี้ต่อก็ได้

การเดินทาง : รถเมล์สาย 8, 26, 27, 28, 29, 34, 39, 59, 63, 74, 77, 97, 157, 204, 502, 503, 509, 510 / BTS อารีย์ / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Major-Cineplex-Ratchayothin

ภาพจาก Oversupar Whiteswan

8. Major Cineplex Ratchayothin (เมเจอร์รัชโยธิน)

Major Cineplex Ratchayothin (เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน) จุดนี้ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง ดูหนัง และเขตธุรกิจ ของคนที่อยู่ในละแวกย่านรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งในย่านนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารดังๆ รวมไปถึงร้านอาหารแบบกลางแจ้ง พร้อมกับลานเบียร์ทั้งบริเวณด้านหน้า และบนดาดฟ้าอีกด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 24, 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 126, 129, 178, 206, 502, 503, 524, 543 / BTS รัชโยธิน / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Crystal-Design-Center-CDC

ภาพจาก มิว รักเฟซบุ๊ก

9. Crystal Design Center (CDC)

บนเส้นถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถ้าคนไม่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะไปลำบากสักหน่อย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่บ้านอยู่ย่านนี้ หรือทำงานอยู่ย่านนี้ อยากจะหาที่นั่งดื่มเบียร์ชิวๆ ในหน้าหนาว ไม่อยากฝ่ารถติดเข้าไปในเมือง ก็มาชิวกันได้ที่ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) ได้ เพราะที่นี่มีลานเบียร์ของค่ายใหญ่มาเปิดกันอยู่ทุกปี อีกทั้งมีดนตรีสดด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 26 (เอกมัย) / รถสองแถวสาย 1526 / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

W-District-Phrakhanong

ภาพจาก OneStep4Ward

10. W District พระโขนง

สำหรับลานเบียร์ในย่านสุขุมวิท แม้ว่าจะมีอยู่ด้วยกันในหลายที่ แต่ที่ W District (ดับบลิว ดิสทริค) เหมาะสำหรับคนที่ชอบการดื่มเบียร์ ในบรรยากาศที่มีคนต่างชาติเยอะๆ ทั้งฝรั่ง แขก หรือญี่ปุ่น พร้อมกับทานอาหารชิวๆ ในช่วงอากาศเย็นๆ ซึ่งบางวันมีดนตรีสดให้ดูกันด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 2, 22, 23, 25, 38, 40, 48, 71, 98, 133, 501, 508, 511 / BTS พระโขนง / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

อย่างไรก็ตาม คาร์โร มีบางอย่างที่อยากจะฝากไว้นิดนึง คือ เมาแล้วไม่ขับนะคะ ถ้าคิดว่าไปแล้วตัวเองต้องดื่มแน่นอน อย่าได้นำรถของท่านไปเลยจะดีกว่า เดี๋ยวมันจะไม่คุ้มเสียเอาได้นะ …

ส่วนถ้าใครเบื่อละ อยากขายรถคันเดิม เพื่อไปดาวน์รถคันใหม่ ซื้อรถใหม่มาขับ ก็สามารถมาขายรถ หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ค่ะ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

History-Soi-Taweemit-Village-Flood

เวลาที่กรุงเทพฯ เกิดเหตุการณ์พายุฝนกระหน่ำทีไร ก็รู้ๆ อยู่ ว่าระบบการระบายน้ำของกรุงเทพฯ นั้นค่อนข้างแย่ บวกกับกรุงเทพฯ อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ เมื่อเกิดฝนตกหนักมากๆ ตามถนนตามซอย มักจะเกิดน้ำท่วมแบบนี้อยู่เสมอๆ บวกกับปัญหาคนทิ้งขยะมักง่าย จนเศษขยะไปอุดติดตามท่อระบายน้ำมากมาย และท่อระบายน้ำขนาดเล็ก รับมวลน้ำไม่ทัน ซึ่งใครมาเป็นผู้ว่าฯ ก็ไม่มีปัญญาแก้ไขอะไรได้

และอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของกรุงเทพฯ ที่ฝนตกหนักมากๆ ทีไร น้ำต้องท่วมสูงมากทุกที! คงต้องยกให้กับ “ซอยทวีมิตร”, “หมู่บ้านทวีมิตร”, “ซอยพระราม 9 แยก 7” หรือที่เรียกติดปากว่า ซอย อสมท. เป็นจุดที่น้ำท่วมหนักสุด ต่ำกว่าถนนพระราม 9 ถึง 90 เซนติเมตร ใครที่จอดรถ จอดมอเตอร์ไซค์ไว้ และย้ายหนีน้ำไม่ทัน เป็นน้ำท่วมรถทุกราย!

เพราะอะไร ทำไมซอยนี้ ถึงได้ลือชื่อว่าน้ำท่วมหนักตลอด และเป็นแบบนี้มานานไม่ได้รับการแก้ไข จนค่าด่ากันขรม วันนี้ MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง …

History-Soi-Taweemit-Village-Flood

ประวัติ ซอยทวีมิตร และ หมู่บ้านทวีมิตร …

เชื่อหรือไม่ครับว่า ซอยทวีมิตร และ หมู่บ้านทวีมิตร เกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีถนนพระราม 9 และถนนรัชดาภิเษก ซะอีก!

ย้อนกลับไปเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ถนนอโศก-ดินแดง เริ่มตัดสร้างขึ้นมาในยุค จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เดิมนั้นเป็นเพียงถนนที่เชื่อมกันระหว่างซอยอโศก (สุขุมวิท 21) และถนนดินแดงอย่างเดียว เป็นถนนราดยางแคบขนาด 2 เลน พูนดินสูงขึ้นมาจากระดับดินเดิมสักเมตรกว่าๆ มองไปทางห้วยขวางในปัจจุบัน มีสภาพเป็นท้องทุ่งนาจนสุดสายตาทั้งซ้ายและขวา

เล่ากันในสมัยนั้นว่า บรรดาท่านผู้เป็นใหญ่ในยุคนั้นได้ไปกว้านซื้อที่ดินย่านห้วยขวาง บางกะปิ กันมาก จนมีความคิดที่จะต้องตัดถนนเข้าไปในที่แปลงนั้น

โดยจุดที่เป็นสี่แยกพระราม 9 ในปัจจุบัน ในอดีตจงใจตัดถนนให้เป็นโค้งหักศอกแบบ 90 องศา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “โค้งทรราช” เนื่องจากแค่ตัดถนนเข้าไปหาที่ดินของกลุ่มผู้ครองอำนาจในยุคนั้น (จอมพลถนอม-ประภาส)

ต่อมาในปี 2522 พลเอกเกรียงศักด์ ชมะนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายกระทรวงในยุคนั้น ได้สั่งให้มีการตัดถนนเส้นใหม่จากถนนวิภาวดีรังสิต เลียบไปกับแนวโครงการทางรถไฟสายบางซื่อ – คลองตัน เดิม มาเชื่อมกับหัวโค้งดังกล่าว แล้วใช้ชื่อว่าถนนรัชดาภิเษก ในปัจจุบัน

หมู่บ้านทวีมิตรเองก็เช่นกัน ได้เริ่มสร้างขึ้นในช่วงร่วมสมัยเดียวกันนี้ …..

History-Soi-Taweemit-Village-Flood

อดีต Beverly Hills ของกรุงเทพฯ ที่ปัจจุบันโดนตึกสูงบังวิวหมด

ในปี 2518 นพ.บุญ วนาสิน (ปัจจุบัน คือ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของเครือโรงพยาบาลธนบุรี) ร่วมกับกลุ่มจางหมิงเทียน (Chang Ming Thien) นายทุนชาวจีนโพ้นทะเลจากมาเลเซีย-ฮ่องกง สร้างหมู่บ้านทวีมิตรขาย โดยต้องการให้เป็น “Beverly Hills” แห่งกรุงเทพฯ!

ซอยทวีมิตร จึงถือกำเนิดขึ้นกับพร้อมๆ หมู่บ้านทวีมิตรช่วงนี้นั่นเอง โดยแบ่งออกเป็นทั้งบ้านทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว รวมถึงอาคารพาณิชย์บริเวณซอยทวีมิตรหลัก

MCOT-Headquarter-In-The-Past

อสมท. เมื่อยุคทศวรรษที่ 20 (ภาพจาก อสมท.)

ต่อมา บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด หรือ ช่อง 4 บางขุนพรหม ได้ยุบเลิกกิจการ และจัดตั้งองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2520 ได้ย้ายมาก่อตั้งสำนักงานที่ท้ายซอยทวีมิตรแห่งนี้ ซึ่งสมัยนั้นนับได้ว่าอยู่ห่างไกลจากเมืองมาก

จากนั้นก็มีหน่วยงานอื่นย้ายตามเข้ามา อาทิ ทิพยประกันภัย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ รวมทั้งเป็นทางลัด ของผู้เดินทางไปถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 และการมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นหลายแห่ง ทำให้ซอยนี้เจริญขึ้นเป็นอย่างมาก

History-Soi-Taweemit-Village-Flood

ภาพจาก Backbone MCOT

แต่ปัญหาของที่นี่ คือ ถนนส่วนกลางที่สร้างมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ไม่ได้รับการแก้ไข (แต่ซอยแยกเข้าซอยหมู่บ้าน กลับยกพื้นสูงหมด) และเป็นถนนของเอกชน ของนิติบุคคลหมู่บ้านทวีมิตร ยังไม่ยกพื้นที่ให้ กทม. ที่หลายหน่วยงานที่มาตั้งอยู่ในท้ายซอยนี้ ต้องไปขอจดภาระจำยอม เพื่อให้รถเข้าออกหน่วยงานของตัวเอง

ซึ่งทางนิติบุคคล นอกจากเก็บค่าจอดรถแล้ว จะเก็บค่าผ่านทางเพิ่ม หรือ ไม่ยอมให้ผ่านทาง รับรองว่าสนุกแน่

History-Soi-Taweemit-Village-Flood

ภาพจาก ราชสีห์ จิตอาสา

แม้ว่า กทม. ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง บริเวณปากซอยทวีมิตร เพื่อดึงน้ำเข้าสถานีสูบน้ำฝั่งตรงข้ามเพื่อลงคลองสามเสน อีกทั้งเป็นระบบระบายน้ำเก่าที่ไม่ได้บำรุงรักษา และบางบ้านมีการสร้างทางขึ้นทางลาดเข้าบ้านทับทางระบายน้ำ ส่งผลให้น้ำที่ไหลจากจุดที่ต่ำที่สุด ไปสู่บ่อสูบน้ำได้ล่าช้า และเมื่อฝนตกหนักทีไร ก็ต้องเจอน้ำท่วมสูง จนมิดรถครึ่งคันซ้ำซากแบบนี้ตลอดไปล่ะครับ!

History-Soi-Taweemit-Village-Flood

ภาพจาก เกาะติดสถานการณ์และอุบัติเหตุ

ส่วนใครที่อยากขายรถที่ถูกน้ำท่วมมา ไม่ว่าจะเป็นรถบ้าน รถมือสอง ก็สามารถปรึกษากับทางเราดูก่อนได้ เพียงแค่คุณขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด ทำให้ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยจำเป็นต้อง “Lockdown” ปิดประเทศ ปิดสนามบิน มีการเคอร์ฟิวตั้งแต่ 4 ทุ่ม – ตี 4 และรณรงค์ให้คนไทยช่วยกัน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งหลายคนอาจทำงานที่บ้านมาแล้วเป็นเดือน (หรือไม่ได้ทำงานมาแล้วเป็นเดือนก็เยอะ) กับอยู่บ้านมาแล้วเป็นเดือน ย่อมมีความเบื่อหน่ายบ้างเป็นธรรมดา ยิ่งคนชอบเที่ยวยิ่งอึดอัด

ทาง CARRO เชื่อว่าหลังจากการหมด Lockdown ไปแล้ว ทั้งคนไทยและคนต่างชาติจะหันกลับมาท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศกันพอสมควรอย่างแน่นอน ใครที่รู้สึกอยู่บ้านไม่ติด ชีพจรลงเท้า อยากหาที่ One Day Trip กรุงเทพ หรือที่เที่ยวใกล้ กทม.

CARRO จึงรวบรวมที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ทั้ง 10 ทริป ในวันหยุด มาให้ทุกท่านได้ขับรถเที่ยว ได้ไปเที่ยวกันแล้วครับ.

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

1. One Day Trip กรุงเทพ

สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ก็สามารถเที่ยวในกรุงเทพ เมืองหลวงของไทยก็ได้ จะขับรถเที่ยว ขับรถเล่นกลางคืน ขับรถชมวิวกลางคืน ดูวิวก็ได้ สบายๆ เริ่มต้นจากเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีที่เที่ยวทั้งสถานที่ประวัติศาสตร์ เช่น พระบรมมหาราชวัง, ป้อมมหากาฬ, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, นิทรรศน์รัตนโกสินทร์, พิพิธบางลำพู, ท่ามหาราช, มิวเซียมสยาม, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร วัดกาลหว่าร์ หรือเยาวราช China Town เป็นต้น

วัดวาอาราม ไหว้พระก็ได้ เช่น วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร, วัดสามพระยาวรวิหาร, วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร, วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว),วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดราชนัดดารามวรวิหาร, วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) หรือ วัดอรุณราชวราราม เป็นต้น

แต่ถ้าอยากติดชีวิตชิคๆ ชิวๆ มาเดินแบบโลกสมัยใหม่ ก็ต้องมาเยือนห้างสรรพสินค้า หรือ Community Mall ต่างๆ หรือจะเดินตลาดแนว Vintage ก็ได้เลย อาทิ ไอคอนสยาม, มหานคร สกายวอล์ค, สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิล์ด, ล้ง 1919, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์, ตลาดนัดรถไฟ, ตลาดน้ำขวัญเรียม, ตลาดน้ำตลิ่งชัน, ตลาดพลู, ตลาดนัดจตุจักร, บ้านบางเขน หรือย่านเจริญกรุง บางรัก เป็นต้น

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

2. นนทบุรี

นับว่าเป็นที่เที่ยวใกล้ กทม. และเป็นจังหวัดที่แทบจะเป็นเนื้อเดียวกันแล้วอย่าง “นนทบุรี” ก็มีตำนานอันเก่าแก่และที่ท่องเที่ยว และที่นั่งทานอาหารย้อนยุคที่หลากหลาย และเดินทางมาง่าย ไม่ว่าจะรถส่วนตัว เรือโดยสาร หรือรถไฟฟ้า MRT เช่น เกาะเกร็ด, ท่าน้ำนนท์, ศาลากลางนนทบุรีหลังเก่า, ชมเฌย, บางกอกดอยคาเฟ่, PANA Cafe & Bistro, ตลาดน้ำบางคูลัด, อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก หรือสวนมาลัยบัววิคทอเรีย

หรือถ้าหากอยากจะเข้าวัดเข้าวา นนทบุรียังขึ้นชื่อเรื่องวัดวาอารามมากมาย ตัวอย่างเช่น วัดชมภูเวก, วัดกู้, วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2), วัดท่าอิฐ, วิดเชิงเลน, วัดสวนแก้ว, วัดกลางเกร็ด, วัดบางจาก, วัดเสาธงทอง, วัดไผ่ล้อม, วัดปรมัยิกาวาส, วัดใหญ่สว่างอารมณ์ หรือวัดเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

3. สมุทรปราการ

จังหวัดสมุทรปราการ หรือ “ปากน้ำ” เป็นเมืองหน้าด่านของประเทศไทย และยังเป็นย่านเศรษฐกิจ ย่านโรงงานอุตสาหกรรม แต่ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่มาไม่ลำบากเลย ห่างจากกรุงเทพฯ แค่ 29 กิโลเมตร มาได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว หรือรถไฟฟ้า BTS วันเดียวก็เที่ยวได้

สถานที่สุดฮิต ที่คนมักจะมาเที่ยวที่สมุทรปราการ อย่างเช่น บางกระเจ้า หรือ เกาะสีเขียว ที่เป็นปอดของกรุงเทพฯ มีพื้นที่มากถึง 11,000 ไร่, สถานตากอากาศบางปู, เมืองโบราณ สมุทรปราการ, พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ, บางกอก ทรี เฮ้าส์, ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ, พิพิธภัณฑ์ ปลากัดสยาม, คลองลัดโพธิ์, สะพานวงแหวนอุตสาหหรรม (สะพานภูมิพล), องค์พระสมุทรเจดีย์, ป้อมพระจุลจอมเกล้า, พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ตลาดบางน้ำผึ้ง หรือ สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็นต้น

สำหรับใครที่อยากเข้าวัดวา สมุทรปราการก็มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย รอให้ท่านไปสัมผัส เช่น วัดอโศการาม, วัดบางพลีใหญ่ใน, วัดบางพลีใหญ่กลาง, วัดสาขลา, วัดทรงธรรมวรวิหาร, วัดบางหัวเสือ, วัดมงคลโคธาวาส, วัดพระสมุทรเจดีย์, พระธุตังคเจดีย์, วัดกิ่งเเก้ว หรือวัดตำหรุ เป็นต้น

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

4. ชลบุรี

อีกจังหวัดที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ฝั่งตะวันออก ที่มีทะเลใกล้กรุงเทพ รอให้คุณพาเด็กๆ ไปเที่ยวขับรถเล่น หรือขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ ตามสถานที่ต่างๆ ได้ นับตั้งแต่เที่ยวทะเล เที่ยวภูเขา เที่ยวสถานบันเทิง เที่ยวกลางคืน อาทิเช่น เขาพระตำหนัก (เขาพระบาท), อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา, ตลาดหนองมน, ปราสาทสัจธรรม, เมืองจำลอง, พัทยา, ตลาดนาเกลือ, บางแสน หรือจะเที่ยวเกาะก็ได้อย่าง เกาะล้าน, เกาะครก, เกาะสาก, หมู่เกาะไผ่ และเกาะสีชัง

อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีสวนสัตว์ใกล้กรุงเทพ ให้คุณหนูๆ ไปเที่ยวอย่าง สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา, สวนเสือศรีราชา และสวนสัตว์เปิดเขาเขียว

สำหรับใครที่อยากเข้าวัดวา ชลบุรีก็มีวัดดังๆ วัดเด่นๆ รอให้ท่านไปสัมผัส เช่น วัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร, วัดใหญ่อินทาราม, วัดสัตหีบ, วัดป่าอัมพวัน, วัดพระใหญ่, วิหารเซียน, พระพุทธรูปเขาชีจรรย์, วัดบางพระวรวิหาร, วัดเขาบางทราย, วัดเครือวัลย์ เป็นต้น

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

5. พระนครศรีอยุธยา

อดีตเมืองหลวงของไทยอย่าง “กรุงศรีอยุธยา” ที่ถูกพูดถึงกันมาอย่างยาวนาน ในฐานะเป็นราชธานี (เมืองหลวง) ของอาณาจักรอยุธยา หรืออาณาจักรสยาม ตลอดระยะเวลา 417 ปี และยังเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ อันโด่งดังไปทั่วโลก เดินทางไปเที่ยวได้ไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์ รถไฟ หรือขับรถไปเองก็ตาม

ที่เที่ยวของอยุธยาก็ต้องเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจหลากหลาย อาทิ ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา, อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา, วัดพระศรีสรรเพชญ์, พระราชวังโบราณ อยุธยา, เพนียดคล้องช้าง, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม, เขื่อนพระรามหก, ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร, พระราชวังบางปะอิน, ตลาดน้ำอโยธยา และวิหารมงคลบพิตร เป็นต้น

ถ้าหากใครต้องการไหว้พระ เสริมสิริมงคล ที่พระนครศรีอยุธยาก็ถือเป็นแหล่งรวมวัดต่างๆ มากมายเลยทีเดียว อาทิ วัดไชยวัฒนาราม, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดสุวรรณดาราราม, วัดพนัญเชิง, วัดกลางคลองตะเคียน, วัดสำเภาล่ม, วัดท่าการ้อง, วัดตึก, วัดตูม, วัดแม่นางปลื้ม, วัดมหาธาตุ หรือวัดหน้าพระเมรุ เป็นต้น

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

6. กาญจนบุรี

จังหวัดกาญจนบุรี จัดเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดเชียงใหม่ และมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตก มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 19,473 ตร.กม. มีระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 129 กิโลเมตร สามารถขับรถเที่ยวไปได้สบาย หรือขับรถเที่ยวคนเดียวได้เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้ว หรือจะไปรถไฟ รฟท. ก็ได้เช่นกัน

เหตุการณ์ที่ทำให้กาญจนบุรีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นได้สร้างทางรถไฟยุทธศาสตร์ จากชุมทางหนองปลาดุกื ในประเทศไทยไปยังเมืองทันบูซายัตในพม่า โดยเกณฑ์เชลยศึกและแรงงานจำนวนมาก มาเร่งสร้างทางรถไฟจนทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งจากความเป็นอยู่ที่ยากแค้น และโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้า ซึ่งภาพและเรื่องราวความโหดร้ายของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังเป็นที่กล่าวขานถึง

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok-6

ที่เที่ยวที่เมืองกาญจน์ก็มีให้ค้นหากันมากมาย เริ่มต้นด้วยแหล่งประวัติศาสตร์อย่าง ด่านพระเจดีย์สามองค์, ปราสาทเมืองสิงห์, สะพานข้ามแม่น้ำแคว, เขื่อนศรีนครินทร์, สะพานมอญ, วัดใต้บาดาล สังขละบุรี เขาชนไก่ รวมถึงน้ำตกใกล้กรุงเทพ อย่าง น้ำตกไทรโยค และแม่น้ำแควใหญ่ (แม่น้ำศรีสวัสดิ์) กับแม่น้ำแควน้อย (แม่น้ำไทรโยค) อันโด่งดัง

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

7. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (สระบุรี, นครนายก, ปราจีนบุรี, นครราชสีมา)

สำหรับหลายคนอาจจะอยากสัมผัสธรรมชาติ อยากขับรถเที่ยวเขาใหญ่ ขับรถไปเขาใหญ่ ไปดูสัตว์ป่า ดูวิวทิวทัศน์ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะ “เขาใหญ่” เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 และได้รับสมญานามว่าเป็น “อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน”

เขาใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 11 อำเภอ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา, อ.นาดี อ.กบินทร์บุรี อ.ประจันตคาม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี, อ.ปากพลี อ.บ้านนา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก และ อ.แก่งคอย อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีเนื้อที่ปกคลุม 2,215.42 ตร.กม. ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้า และป่ารุ่นสอง ป่าดงดิบชื้น ลักษณะป่าชนิดนี้เป็นป่าที่อยู่ในระดับความสูง 400-1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง พืชพรรณมี 3,000 ชนิด, มีผีเสื้ออยู่กว่า 189 ชนิด, นกป่ามากมายกว่า 350 ชนิด และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 71 ชนิด ซึ่งได้แก่ ช้าง เสือ ชะนี กวาง และหมูป่า พบตามทุ่งหญ้ากว้างทั่วๆ ไป

ในสมัยก่อน การเดินทางติดต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสาน มีอุปสรรค คือต้องผ่านป่าดงดิบขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายมากมาย ทั้งสัตว์ร้ายและไข้ป่า ผู้คนที่เดินทางผ่านป่านี้ล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า ดงพญาไฟ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จผ่านในคราวเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพ-นครราชสีมาทรงเห็นว่าชื่อดงพญาไฟนี้ ฟังดูน่ากลัว จึงโปรดให้เปลี่ยนชื่อเป็นดงพญาเย็น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

7-Trips-Drive-Car-Travel-Around-Bangkok

ภาพจาก Wikipedia

เขาใหญ่ มีภูเขาที่สำคัญๆ หลายลูก ได้แก่ เขาร่ม, เขาแหลม, เขาเขียว, เขาสามยอด, เขาฟ้าผ่า, เขากำแพง, เขาสมอปูน และเขาแก้ว ส่วนน้ำตกก็มี น้ำตกเหวนรก, น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกเหวสุวัต เป็นต้น

ใครที่ขับรถมาเขาใหญ่ สามารถมาได้ทั้งทางขึ้นเขาฝั่งปากช่อง ซึ่งเป็นเส้นทางดั้งเดิม สร้างตั้งแต่ปี 2505 โดยเดินทางผ่านถนนมิตรภาพ และขึ้นเขาฝั่งปราจีนบุรี เป็นทางที่ตัดขึ้นใหม่ในปี 2525 ซึ่งหากเดินทางมาจากกรุงเทพฯ นับว่าสะดวก และใกล้กว่าทางฝั่งปากช่อง

เอาล่ะ ร่ายกันมาซะยืดยาว ใครที่อยากไปเที่ยวจังหวัดไหน ก็เตรียมตัวฟิตซ้อมร่างกายกันไว้ พอหมดช่วง Lockdown เมื่อไหร่ ก็พร้อมลุยกันได้เลย!

ส่วนใครที่อยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้ในช่วงโควิด-19 ระบาด หรือเตรียมรถคันใหม่ไว้เที่ยวหลังหมดโควิด-19 CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

Check-Ticket-Bus-Train-Airplane-COVID-19-Affectation

จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการยกเลิกวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์หลังมีคำสั่งให้เลื่อนวันหยุดสงกรานต์เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาด ณ ตอนนี้

วันนี้เรามาเช็กวิธีเลื่อนตั๋วรถไฟ , รถทัวร์ เครื่องบิน กันนะคะ

รถทัวร์

ทาง บขส. ได้ออกมาตรการพิเศษ ดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ โดยจะขยายระยะเวลาการให้เลื่อนตั๋วเดินทางเพิ่มเป็น 90 วัน จากปกติให้ 30 วัน

นอกจากนี้ยังเปิดให้ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางสามารถขอคืนตั๋วได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม จากปกติที่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 10% ของราคาตั๋ว

วิธีการเลื่อนต้องนำตั๋วหรือสลิปการชำระเงินมาขอเลื่อนต่อพนักงานขายตั๋วก่อนรถออกเป็นเวลา 1 วัน มิเช่นนั้นถือว่าสละสิทธิ์ และถ้าเลื่อนการเดินทางแล้ว ไม่สามารถคืนตั๋วได้

ส่วนกรณียกเลิกตั๋วนั้น ผู้โดยสารที่จองตั๋วระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2563 มีความประสงค์จะคืนค่าตั๋ว สามารถติดต่อได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋ว บขส.
ทั่วประเทศตั้งแต่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

รถไฟ

เบื้องต้นทาง รฟท. ได้จัดเตรียมอำนายความสะดวกเรื่องค่าธรรมเนียมการคืนตั๋วหรือเลื่อนตั๋วช่วงเทศกาลสงกรานต์ไว้แล้ว ซึ่งปัจจุบันตั๋วโดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ถูกจองเต็มหมดแล้ว

เครื่องบิน

ทางเฟซบุ๊ก Thai Airways ได้อำนวยความสะดวกโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงการเดินทางเส้นทางระหว่างประเทศ สำหรับบัตรโดยสารราคาปกติและราคาพิเศษที่ออกในประเทศไทย และเดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทย (TG) และเที่ยวบินร่วมกับสายการบินไทยสมายล์ (WE) โดยผู้โดยสาร สามารถติดต่อดำเนินการต่อไปนี้ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2563

การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน

  • สามารถเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินโดยไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับเส้นทางเดิมหรือรหัสชั้นโดยสาร (RBD) เดิม **ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนที่นั่งว่างแต่ละเที่ยวบินของวันที่จะเดินทาง
  • ในกรณีที่รหัสชั้นเดินทางที่ระบุบนบัตรโดยสารเดิมไม่มีที่ว่างในเที่ยวบินที่ต้องการเปลี่ยน ผู้โดยสารจะต้องชำระส่วนต่างราคาและภาษี (ถ้ามี)

การเปลี่ยนแปลงเส้นทางบิน

  • สามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทาง โดยชำระส่วนต่างราคาและภาษี (ถ้ามี) และยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงผู้เดินทาง
  • สำหรับบัตรโดยสารที่ยังไม่ได้ใช้เดินทาง สามารถเปลี่ยนชื่อผู้เดินทางได้ 1 ครั้ง มีค่าธรรมเนียม 3,000 บาท

การคืนบัตรโดยสาร

  • สามารถคืนบัตรโดยสารตามเงื่อนไขของบัตรโดยสาร

ช่วงนี้ต้องดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ หากคุณต้องการขายรถด่วนให้ CARRO ช่วยได้ขายให้ภายใน 24 ชั่วโมง และได้ราคาดี และหากต้องการรถยนต์ใหม่ ป้ายแดง โปรแรงๆ สามารถดูโปรโมชั่นได้ที่ https://www.siamcardeal.com/ หรือสามารถ Inbox สอบถามโปรโมชั่นรถใหม่และข่าวสารได้ที่ Facebook Siamcardeal

หรือ Add Line เพื่อรับโปรโมชั่นต่างๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม @siamcardeal
Inbox : http://m.me/siamcardeal
Line : https://line.me/R/ti/p/@siamcardeal

Chinese-New-Year

วันตรุษจีน 2564 นี้ อีกหนึ่งเทศกาลที่สำคัญ สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนในเมืองไทย หลายคนมีแพลนเตรียมตัวทำความสะอาดบ้านก่อนปีใหม่ ไปซื้อของไหว้เจ้า ทั้งปลา เป็ด ไก่ ผลไม้ เตรียมแจกแต๊ะเอีย แจกอั่งเปาให้เด็กๆ และคนรู้จัก พร้อมไหว้เจ้าขอให้สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง ทำมาค้าขายรุ่งเรือง เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดปี 2564

ซึ่งเทศกาลตรุษจีนในประเทศจีนนั้น มีการฉลองและหยุดกันอย่างยาวนานนับอาทิตย์เลยทีเดียว MR.CARRO ก็ขอให้ทุกท่านโชคดี สมปรารถนาตลอดปี 2564 นะครับ

Chinese-New-Year

ปกติแล้ว ในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะประกอบไปด้วย 3 วัน นั่นคือ

  • 10 กุมภาพันธ์ วันจ่าย
  • 11 กุมภาพันธ์ วันไหว้
  • 12 กุมภาพันธ์ วันเที่ยว (หรือวันขึ้นปีใหม่)

แต่วันที่คนชาวไทยเชื้อสายจีน และคนจีนทั่วโลก ให้ความสำคัญ นั่นคือ “วันไหว้” เพราะคนจีนส่วนใหญ่มักมีอาชีพค้าขายเป็นหลัก จึงมีความเชื่อเกี่ยวกับเทพและเรื่องโชคลาภ

โดยในวันตรุษจีนของแต่ละปี ชาวจีนก็จะนิยมตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิงเอี้ย) กันทุกปี ตามความเชื่อที่ว่าองค์เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะดลบันดาลให้ทำมาค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมา

สำหรับการไหว้ในช่วงวันไหว้นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ครั้งหลักๆ เตรียมตั้งโต๊ะไหว้เจ้ากันได้เลย …

Chinese-New-Year

1. ช่วงเช้ามืด ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ช่วงเช้ามืด เริ่มต้นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไป๊เล่าเอี๊ย) ประมาณ 6.00 – 7.00 น. เพื่อขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพเทวดาผู้คุ้มครองบ้านเรือน หลังจากไหว้เสร็จ ค่อยเผากระดาษเงินกระดาษทองตามประเพณี

แต่ช่วงนี้ ไม่เผากระดาษก็ได้ หรือเผากระดาษแค่เล็กน้อยก็พอ เพื่อป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 และอย่าลืมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปในตัว และเป็นผลดีต่อสุขภาพคุณ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ

ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก (ซาแซ) 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง (โหงวแซ) เช่น ไก่ เป็ด หมู ฯลฯ ต่อด้วยผลไม้มงคล 5-7 อย่าง เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 5 ดอก

Chinese-New-Year

2. ช่วงสาย ไหว้บรรพบุรุษ

ตอนสายๆ ไหว้บรรพบุรุษ (ไป๊เป้บ๊อ) ระลึกถึงญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามความเชื่อของชาวจีน ช่วงเวลาประมาณ 10.00 – 11.00 น. ไม่เกินเที่ยง จากนั้นทุกคนในครอบครัว ก็จะนำของไหว้มารับประทานร่วมกัน พร้อมแจกอั่งเปา แจกแต๊ะเอียไปด้วยเลยก็ได้ ซึ่งเงินที่ใส่ในซองอั่งเปานั้น มักจะมีจำนวนเป็นเลขนำโชคของจีน นั่นคือเลข 8

ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก 3-5 อย่าง (ซาแซ หรือ โหงวแซ) เหมือนการไหว้ช่วงเช้า แต่เพิ่มอาหารอื่นๆ ที่บรรพบุรุษชอบ หรืออาหารที่มีความหมายมงคล หรือขนมมงคล เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ซาลาเปา ฯลฯ พร้อมผลไม้มงคล เช่น ส้ม  และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 3 ดอก

ข้อควรระวัง : คนจีนไม่นำเต้าหู้ขาวมาไหว้วันตรุษจีน เนื่องจากสีขาวเป็นสีแห่งความโศกเศร้า และของไหว้ไม่ควรเป็นอาหารที่มีรสเผ็ด รสขม และผลไม้ที่มีหนาม เพราะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคขวากหนาม ไม่ราบรื่น

3. ช่วงบ่าย ไหว้สัมภเวสี

การไหว้ผีไม่มีญาติหรือสัมภเวสี (ไป๊ฮ้อเฮียตี๋) เพื่อทำบญทำทาน จะไหว้ช่วงประมาณ 14.00 – 16.00 น. พอไหว้เสร็จ ค่อยจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้าย และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับตรุษจีน

ของไหว้ : อาหารต่างๆ ที่เหลือจากการไหว้รอบเช้า และรอบสาย ข้าวสวย ขนมต่างๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปไหว้เพียง 1 ดอกเท่านั้น

Chinese-New-Year

4. ช่วงดึก ไหว้ “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพแห่งโชคลาภ

ตอนดึกคุณสามารถตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภได้ เพื่อความเป็นสิริมงคล มีฤกษ์ในการไหว้คือช่วงกลางดึกของคืนวันสิ้นปี ก่อนจะเข้าสู่วันตรุษจีน ระหว่างเวลา 03.00-04.59 น. ของเช้ามืดในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยตั้งโต๊ะไหว้หันหน้าไปทาง “ทิศตะวันออก” เพราะปีนี้เชื่อว่า เทพจะเสด็จมาในทิศตะวันออก

ของไหว้ : รูปภาพหรือรูปปั้นขององค์ไฉ่ซิงเอี้ย, แจกันดอกไม้สด 1 คู่, เทียนแดง 1 คู่, กระถางธูปและธูปสำหรับไหว้, น้ำชา 5 ถ้วย, ขนมอี้ (สาคูแดง) 5 ถ้วย หรือข้าวสวย 5 ถ้วย, ขนมจันอับ, น้ำชา 5 ถ้วยเล็ก, ผลไม้มงคล 5 อย่าง เช่น ส้ม แอปเปิ้ลแดง องุ่นแดง กล้วยหอมทอง สับปะรด ฯลฯ, เจไฉ่ 5 อย่าง เช่น ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้ วุ้นเส้น เห็ดหอม เห็ดหูหนู และกระดาษเงินกระดาษทอง (กิมหงิ่งเต้า)

วิธีการไหว้ : ให้ผู้ไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก จุดธูป 3 ดอก 5 ดอก 9 ดอก หรือ 12 ดอกก็ได้ แล้วกล่าวคำสวดมนต์ไหว้สักการะ ดังนี้ “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ” (3 จบ) จากนั้นสวดบทสักการะว่า “โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา” (สวด 3 จบ 5 จบ 9 จบ หรือ 12 จบก็ได้) จากนั้นกล่าวชื่อ-นามสกุล ของตัวเอง และเรื่องที่จะขอพร

จากนั้นนำกระดาษเงินกระดาษทองไปเผา แล้วให้ผู้ใหญ่ในบ้านถือรูปภาพหรือรูปปั้นไฉ่ซิงเอี้ยพร้อมกระถางธูปเข้าบ้าน เป็นการเชิญเทพเข้าบ้าน และของไหว้ก็ห้ามทิ้ง เพราะถือเป็นของมงคล ให้นำไปแบ่งกันรับประทาน

เพียงแค่ไหว้เจ้าตามนี้ คุณก็สุขกายสบายใจ พร้อมรับสิริมงคลไปตลอดทั้งปี 2564 แล้วครับ

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลแหล่งที่มาจาก:

10-Bridges-From-Surname-In-Thailand

คุณเคยสังเกตหรือไม่ว่า เวลาขับรถไปไหนมาไหน มักจะมีชื่อถนน ชื่อสะพาน ที่หลายคนอาจสงสัย ว่ามันมีที่มาอย่างไร?

นับตั้งแต่ในอดีตที่บ้านเราเริ่มจะสร้างถนน สร้างสะพานข้ามคลองต่างๆ กันอย่างจริงจังในรัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 5 มาจนถึงปัจจุบัน ก็จะมีการใช้พระนาม นาม หรือชื่อ-นามสกุล ของสามัญชน หรือบุคคลสำคัญ ที่อาจจะเป็นผู้บริจาคที่ดินอุทิศให้ หรือบริจาคเงินอุทิศให้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยทั่วไปในการสัญจร หรือดำรงอยู่ในตำแหน่งหน่วยงานที่รับผิดชอบในการสร้าง

หากใครที่อยากขายรถคันเดิม แบบได้เงินเร็วไว ไม่ต้องเสียเวลาประเมินราคาขายเอง หรือต้องรอจนกว่าจะมีคนมาซื้อรถได้ Carro ขอแนะนำ Carro Express เรารับซื้อรถทุกแบบ ได้ที่ Link นี้ครับ https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถอีกครั้ง สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

เวลาผ่านไปยาวนาน จนอาจทำให้คนลืมเลือนไปถึงที่มาที่ไปได้ Mr.Carro ขอนำความรู้ใหม่ๆ มาฝากกัน

สะพานเนาวจำเนียร

1. สะพานเนาวจำเนียร

สะพานเนาวจำเนียร เป็นสะพานข้ามคลองบางหลวงในทางหลวงแผ่นดินสายกรุงเทพฯ-นครปฐม (ปัจจุบัน คือ ช่วงถนนอินทรพิทักษ์ บรรจบกับถนนเพชรเกษม) ตั้งชื่อตามนามสกุลของนายมงคล เนาวจำเนียร ซึ่งเป็นผู้อำนวยการก่อสร้างสะพานนี้

นายมงคล เนาวจำเนียร (2447 – 2533) สำเร็จการศึกษาวิชาวิศวกรรมโยธาจากประเทศอังกฤษ เดิมนายมงคลรับราชการในกรมรถไฟ ต่อมาย้ายไปปฏิบัติราชการที่กรมทางหลวง และได้เป็นผู้อำนวยการก่อสร้างสะพานนี้

สะพานภาณุพันธุ์

2. สะพานภาณุพันธุ์

สะพานภาณุพันธุ์ เป็นสะพานที่อยู่ในย่าน Chinatown เป็นสะพานที่ข้ามคลองรอบกรุง ช่วงคลองโอ่งอ่างหรือคลองบางลำพู ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนเยาวราช ตัดกับถนนพีระพงษ์ ถนนจักรเพชร และถนนมหาไชย

สร้างขึ้นเมื่อปี 2442 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ว่า “สะพานภาณุพันธุ์” เพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช องค์ผู้ทรงเป็นสมเด็จพระอนุชา อันเนื่องจากพระองค์ทรงประทับอยู่ ณ วังบูรพาภิรมย์ ที่อยู่ใกล้เคียง และเป็นต้นราชสกุล “ภาณุพันธุ์”

โดยระยะแรกเป็นสะพานโครงเหล็กเช่นเดียวกับสะพานในยุคนั้น ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานขึ้นใหม่ โดยมีโครงสร้างของคอนกรีตเสริมเข้าไป แต่ยังคงชื่อเดิมไว้

ปัจจุบัน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานระดับชาติ โดยอยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2547

สะพานเดชาติวงศ์

3. สะพานเดชาติวงศ์

สะพานเดชาติวงศ์ เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมถนนพหลโยธิน ที่หลักกิโลเมตรที่ 340 ก่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองนครสวรรค์ ซึ่งกรมทางหลวงได้เริ่มก่อสร้างในปี 2485 และเปิดให้ใช้งานครั้งแรกในปี 2493

ซึ่งชื่อของสะพานนั้น มาจากนามสกุลของ พันตรี หม่อมหลวงกรี เดชาติวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวงในสมัยนั้น

ในปัจจุบัน สะพานเดชาติวงศ์จะเปิดใช้งานเพียง 2 สะพาน คือ สะพานเดชาติวงศ์ 2 และ 3 ส่วนสะพานเดชาติวงศ์ 1 ทางจังหวัดนครสวรรค์เปิดไว้เป็น สะพานประวัติศาสตร์ ใช้ในการจัดงานต่างๆ ของจังหวัด หรือเปิดให้ใช้งานได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

สะพานธนะรัชต์

4. สะพานธนะรัชต์

สำหรับสะพานธนรัชต์ มาจากนามสกุลของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างขึ้นเมื่อปี 2503 หลังจากเกิดไฟไหม้เมืองราชบุรี ซึ่งเคยเกิดเหตุไฟไหม้ใหญ่ด้วยกันถึง 2 ครั้ง ในปี 2499 และปี 2503

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จึงมีคำสั่งให้สร้างสะพานธนะรัชต์ขึ้น และเปิดใช้ในปี 2504 เนื่องจากตอนที่เกิดเหตุไฟไหม้ รถดับเพลิงเข้าไปยังพื้นที่ได้ลำบาก ไม่สามารถเข้าดับไฟได้ทันที รวมถึงเรือดับเพลิงซึ่งลอยลำเรืออยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ก็ไกลจากที่เกิดเหตุ

สะพานติณสูลานนท์

5. สะพานติณสูลานนท์

สะพานติณสูลานนท์ เป็นสะพานคอนกรีตที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวของสะพาน 2 ช่วงแรก 940 เมตร และ 1,700 เมตร ตามลำดับ รวมเป็น 2,640 เมตร ก่อสร้างขึ้นในสมัย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ในปี 2524 โดยรัฐบาลในยุคนั้น มีนโยบายพัฒนาจังหวัดสงขลา และ อำเภอหาดใหญ่ ให้เป็นเมืองหลัก โดยกรมทางหลวงเป็นเจ้าของโครงการ และบริษัทจากประเทศไต้หวัน เป็นผู้ก่อสร้าง เปิดใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2527

ตัวสะพานอยู่ใน อ.เมืองสงขลา และ อ.สิงหนคร โดยเชื่อมเกาะยอ 2 ด้าน ระหว่างฝั่งบ้านน้ำกระจาย อ.เมืองสงขลา และบ้านเขาเขียว อ.สิงหนคร ถือเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 408 ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 414 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 407 (สงขลา-หาดใหญ่) ชาวจังหวัดสงขลานิยมเรียกสะพานนี้ติดปากว่า “สะพานป๋าเปรม” “สะพานติณ” หรือ “สะพานเปรม” นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัด

สะพานสารสิน

6. สะพานสารสิน

สะพานสารสิน เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต ตั้งชื่อตามนามสกุลของ นายพจน์ สารสิน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ เริ่มสร้างครั้งแรกตั้งแต่ปี 2494 โดยให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างมาสร้าง แต่มีปัญหาจึงหยุดไป

ต่อมาในปี 2508 จึงได้เริ่มลงมือก่อสร้างอีกครั้งโดยบริษัท Christiani & Nielsen (Thailand) Ltd. มีความยาวทั้งหมด 660 เมตร เปิดใช้งานได้ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2510 ใช้งบประมาณทั้งหมด 28,770,000 บาท

สะพานวุฒิกุล

7. สะพานวุฒิกุล

สะพานวุฒิกุล เป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิง ที่ อ.วังเจ้า จังหวัดตาก ในเส้นทางหลวงหมายเลข 104 ต่อเชื่อมทางหลวงหมายเลข 1 ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ นายอุทัย วุฒิกุล อธิบดีกรมทางหลวงท่านที่ 10 เป็นนายช่างใหญ่ผู้ควบคุมงาน

ตัวสะพานได้รับการสร้างใหม่อีกครั้งในปี 2496 โดยใช้สะพานโค้งคอนกรีตเสริมเหล็กแบบเดิม ช่วงประมาณ 50 เมตรเช่นเดิม เป็นแต่ว่าตัวตอม่อได้รับการออกแบบใหม่ เป็นตอม่อวางอยู่บนกลุ่มเสาเข็มแทน

ส่วนการก่อสร้างสะพานโค้งช่วง 50 เมตร มีเทคนิคพิเศษโดยการอัดแรงดันที่ยอดโค้ง ซึ่งก็เป็นวิธีช่วยลดแรงถีบของโค้งและบิดตัวพื้นสะพานให้โก่งขึ้น ช่วยให้คานรับพื้นสะพานรับน้ำหนักน้อยลง

สะพานพิบูลสงคราม

8. สะพานพิบูลสงคราม

สะพานพิบูลสงคราม แน่นอนเลยว่ามาจาก จอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยแน่นอน เป็นสะพานข้ามคลองบางซื่อ บนถนนประชาราษฏร์สาย 1 ซึ่งคาดว่าถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับถนนสายนี้

สำหรับสะพานแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับอดีตที่ทำงานของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่เคยสังกัดอยู่ นั่นคือ กองพลทหารปีนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (หรือ กรม ปตอ.)

สะพานเปี่ยมพงศ์สานต์

9. สะพานเปี่ยมพงศ์สานต์

สะพานเปี่ยมพงษ์สานต์ เป็นสะพานคอนกรีต ที่สร้างข้ามแม่น้ำระยองใกล้ๆ กับสะพานไม้ รถยนต์สามารถแล่นไปมาได้ เริ่มสร้างประมาณปี 2495 – 2497

ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสะพานนี้ก็คือ นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดระยอง เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายเสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ จึงตั้งชื่อสะพานนี้ว่า “สะพานเปี่ยมพงศ์สานต์”

สะพานเกิ๊ทเช

10. สะพานเกิ๊ทเช (Gottsche)

หลายคนงงแน่ ทำไมในไทย ถึงมีชื่อสะพานแปลกๆ แบบนี้ด้วย?

สะพานเกิ๊ทเช อยู่บนถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ตรงแยกปากซอยถนนศิริราษฎร์ศรัทธา ซอย 1 ที่คอสะพานทั้งฝั่งซ้าย-ขวา จะมีแผ่นป้ายโลหะเล็กๆ (วงกลมในภาพ) ฝั่งซ้ายสลักอักษรไทยว่า ที.เอ. เกิ๊ทเช / 14-5-2425 / 1-1-2474 ส่วนที่ฝั่งขวา สลักเป็นอักษรอังกฤษว่า T.A. GOTTSCHE / 14-8-1882 / 1-4-1931

ย้อนไปเมื่อครั้งเริ่มมีการเดินรถไฟสายปากน้ำเมื่อ ร.ศ.112 หรือปี 2436 มีนายกลผู้ควบคุมรถไฟคนแรก เป็นชาวเดนมาร์ก ชื่อ T.A. Gottsche เป็นอดีตนายทหารคุมป้อมผีเสื้อสมุทร ได้เริ่มเข้าทำงานในบ้านเราเมื่อ 14-5-2425 และเกษียณอายุเมื่อ 1-1-2474 เป็นเวลาที่ทำงานในประเทศไทย 50 ปีเต็ม มีภรรยาเป็นคนไทยชาวปากน้ำ

ต่อมาได้รับพระราชทานชื่อและตำแหน่งเป็น ขุนบริพัตรโภคกิจ และได้รับนามสกุลพระราชทานเป็น คเชศะนันทน์ เนื่องจากคุณความดีที่ท่านทำไว้ให้ชาวปากน้ำ

เหล่าชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสะพานเล็กๆ บริเวณใกล้ๆ บ้านพักของท่าน แล้วเรียกสะพานนี้ว่า สะพานเกิ๊ทเช

บางคนเห็นเวลาบนแผ่นโลหะระหว่างเวลาไทย กับเวลาฝรั่ง มันไม่ตรงกัน คือ เวลาที่เริ่มเข้ามาทำงาน ของไทยสลักว่า 14-5-2425 แต่ของฝรั่งสลักว่า 14-8-1882

ส่วนเวลาที่เกษียณของไทยสลักว่า 1-1-2474 ส่วนของฝรั่งสลักว่า 1-4-1931 จะเห็นว่าตรงตัวเลขหลักกลางที่เป็นตำแหน่งของเดือนมันไม่ตรงกัน นั่นเป็นเพราะแต่ก่อนเรานับเอาเดือนเมษายน (เดือนที่ 4) เป็นเดือนแรกของปีไทย เดือนที่สลักของไทยกับของฝรั่งก็เลยเหลื่อมกันอยู่ จริงแล้วมันคือเดือนเดียวกั

อันนี้แถมให้ …

สะพานพรหมโยธี

11. สะพานพรหมโยธี

สะพานแห่งนี้หลายคนลืมเลือนกันไปหมดแล้ว สำหรับ “สะพานพรหมโยธี” เป็นสะพานข้ามคลองสามเสน อยู่ช่วงระหว่างถนนราชวิถี และถนนดินแดง เป็นสะพานที่คาดว่าน่าจะมีในช่วงที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม สร้างทางด้วยดินลูกรังจากปลายถนนราชวิถีตัดกับถนนราชปรารภ ไปตามถนนดินแดง และสร้างต่อไปจนถึงบริเวณโรงเรียนพร้อมพรรณในปัจจุบัน

มีที่มาจากนามสกุลของ หลวงพรหมโยธี หรือ มังกร พรหมโยธี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีตรัฐมนตรี

สะพานปรีดี-ธำรง

12. สะพานปรีดี-ธำรง

สะพานแห่งนี้ เป็นการนำชื่อ และ นามสกุล ของ 2 บุคคลมารวมกัน โดยเป็นสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำป่าสัก เข้าเกาะเมืองอยุธยา แห่งแรก สร้างขึ้นเมื่อปี 2483 สะพานยาว 168.60 เมตร สร้างเสร็จและเปิดใช้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2486 ซึ่งตรงกับวันเกิดของ จอมพล.ป พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

โดยมอบหมายให้นาวาเอก ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมมาเป็นประธานพิธีเปิดสะพาน นายกรัฐมนตรีให้ชื่อสะพานนี้ว่า “สะพานปรีดี-ธำรง” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชาวอยุธยา ที่ได้เป็นผู้บริหารประเทศทั้งสองคน คือ นายปรีดี พนมยงค์ และพลเรือตรี หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Childrens-Day-2020

หลังจากที่มีการจัดงานรื่นเริงในวันปีใหม่แล้ว ต้องต่อด้วยทุกวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมอย่าง “วันเด็ก” ซึ่งในวันเด็กทุกๆ ปีเป็นวันที่หลากหลายองค์กรได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นเพื่อสร้างความสุขให้กับเด็กๆ

ส่วนคำขวัญวันเด็กในี 2563 นี้ ได้แก่ … เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

ดังนั้น CARRO จึงรวบรวม 10 สถานที่ยอดฮิต ทั้งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กับกิจกรรมอันน่าสนุกและตื่นเต้น ของเหล่าคุณหนูๆ ในวันที่ 11 มกราคม 2563 นี้ มาให้คุณพ่อ คุณแม่ ได้เลือกพาลูกหลานไปเที่ยวกัน และสิ่งที่ต้องเจอ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาเด็กหายในระหว่างการเที่ยววันเด็กครับ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วันเด็ก 2563 Thai Wonder Land

1. ทำเนียบรัฐบาล

สถานที่ยอดฮิตตลอดกาลอีกแห่งหนึ่งของเด็กไทย ที่มีความไฝฝั่นอยากจะเป็นนักการเมือง อยากเป็นรัฐมนตรี และอยากเป็นนายกรัฐมนตรี!!! เตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “เด็กไทย มีวินัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ระหว่างเวลา 8.00 – 15.00 น. ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล

พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และตึกภักดีบดินทร์

และกิจกรรมสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ และการเล่นเกมส์ในกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมให้ความรู้เรื่องสัตว์ ไดโนเสาร์ การสร้างจิตสำนึกส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการนำขยะ ขวด กระป๋อง มาแลกสิ่งของ การระบายสีถุงผ้าลดโลกร้อน จัด “ห้องแล็บ” เพื่อให้เด็กได้ทำการทดลองและทดสอบด้านวิทยาศาสตร์ กิจกรรมส่งเสริมการออม การประกวดคัดลายมืออาลักษณ์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ การถ่ายภาพร่วมกับรถจักรยานยนต์นำขบวน การจัดแสดงรถโบราณของเจษฎาเทคนิคมิวเชียม

นอกจากนี้ ยังเปิดศูนย์ข่าวทำเนียบรัฐบาล ตึกนารีสโมสร จำลองเป็นสถานีโทรทัศน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกและทดลองอ่านข่าวอีกด้วย

 

2. กองบัญชาการกองทัพไทย

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดงานวันเด็กแห่งชาติ 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 14.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ซึ่งใช้แนวคิด Edutainment (ความรู้คู่บันเทิง) มุ่งเน้นความสําคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวความคิด “เด็กไทย…รักษ์โลก” (Kids Save to the world)

โดยมีรูปแบบการจัดพื้นที่การเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย

  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 1 “ศาสตร์แห่งองค์พระราชา”
  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 2 “การเรียนรู้สู่นวัตกรรม”
  • พื้นที่การเรียนรู้ที่ 3 “มหัศจรรย์พลังสามัคคี”
  • และพื้นที่การเรียนรู้ที่ 4 “หนูน้อยนักพัฒนา”

ภายในงาน มีการฝึกหัดขับรถจักรยานยนต์ที่ถูกต้องตามกฎระเบียบ การแสดงขบวนพาเหรด การแสดงท่าอาวุธประกอบดนตรีของนักเรียนเตรียมทหาร และการแสดงของเหล่าทัพ มีการจัดบริการสวนสนุกบ้านลม ม้าหมุน และรถไฟราง เป็นต้น

 

3. กองทัพบก

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center จัด “กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563” ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ถ.พหลโยธิน ในวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. 2563 ตั้งแต่ 8.00 – 16.00 น. ชมนิทรรศการโครงการจิตอาสาพระราชทาน และการแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหาร ได้แก่ อาวุธประจำกาย ปืนใหญ่ เรือพลังงานลม ยานยนต์ล้อสายพาน รถถัง และอากาศยาน

  • ร่วมเล่นเกมส์ เพื่อรับของรางวัล จากซุ้มบริษัทเอกชนต่างๆ มากมาย
  • รับอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ตลอดทั้งวัน
  • ชมการแสดงดนตรีของ รร.สารสาสน์วิเทศน์ฯ และวงชีส เบอร์เกอร์ ฮิลล์
  • มอบประกาศนียบัตร ให้กับผู้แทน รร.สารสาสน์วิเทศน์ฯ
  • มอบทุนการศึกษา จำนวน ๔ ทุน ให้กับเด็กและเยาวชน จาก จชต. ในโครงการ Million Gifts Million Smiles
  • จับรางวัลพิเศษ จำนวน ๓ รางวัล

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กองทัพอากาศ วันเด็ก 2563

4. กองทัพอากาศ

เวลามีงานวันเด็กแห่งชาติทีไร กองทัพอากาศ ก็ถือเป็นสถานที่ยอดฮิตตลอดกาลของ เด็กๆ (และผู้ใหญ่) ที่ชื่นชอบเครื่องบินรบเป็นขีวิตจิตใจ เพราะจะได้มาดูการแสดงโชว์ของเครื่องบินรบรุ่นต่างๆ และโชว์การบินต่อสู้ในอากาศ และการโจมตีทางอากาศ อันน่าตื่นเต้น!

กองทัพอากาศ ขอเชิญร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ กองทัพอากาศ ประจำปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.15 – 14.50 น. ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6, พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ สนามกีฬาสำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง, สนามบินเล็กกองทัพอากาศ ทุ่งสีกัน, โรงเรียนการบิน และกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศ

ชมการแสดงบนเวที ร่วมสนุกเกมชิงรางวัล การแสดงการบิน และตั้งแสดงอาวุธยุทโทปกรณ์ต่างๆ และการแสดงภาคอากาศของอากาศยานประเภทต่างๆ รวมทั้ง F-16 และ Gripen

 

5. ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ

ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา และศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร) จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “Smart Kids วิทย์วันเด็ก” โดยเน้นกิจกรรมสำหรับครอบครัว สร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่น เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ความรัก ความใส่ใจต่อกัน เน้นให้พ่อ แม่ ลูก ร่วมปฏิบัติกิจกรรมด้วยกัน และส่งเสริมการเรียนรู้บูรณาการวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขา

ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2562 เวลา 8.30 -16.30 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) และ ศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร)

 

6. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมทรัพยากรธรณี และศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด จัดกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กไทย ได้เรียนรู้และสัมผัสอย่างใกล้ชิด

ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในแขนงต่างๆ ในชื่องาน “ถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563”

วัน เวลา และสถานที่จัดงาน

บริเวณกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนโยธี ถนนพระรามที่หก พิพิธภัณฑ์แร่-หิน กรมทรัพยากรธรณี
วันที่ : 9-11 มกราคม 2563 เวลา 9.00 -17.00 น

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
วันที่ : 9 และ 11 มกราคม 2563 เวลา 9.00 -17.00 น.

อพวช. : คลองห้า ปทุมธานี
วันที่ : 11 มกราคม 2563

 

7. กระทรวงศึกษาธิการ

กระทรวงศึกษาธิการ จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ณ กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น. ภายใต้แนวคิด Wonderful Kids “สุดยอดเด็กไทย” โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 โซน คือ

  • โซนที่ 1: Citizen Kids: พลเมืองเด็ก (บริเวณสนามหญ้าและในกระทรวงศึกษาธิการ) ประกอบด้วย กิจกรรมเวทีกลาง, กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี, บูธเกมเด็กไทยรู้หน้าที่, สวนมหาสนุก และการแจกของรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ
  • โซนที่ 2: Digital Kids: เด็กยุคดิจิทัล (บริเวณถนนราชดำเนินนอก) เป็นกิจกรรมแสดงถึงความทันสมัย การรู้จักใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย กิจกรรมสนุกกับ MOE Coding, เพลิดเพลินในโลกดิจิทัล กับขบวนรถดูดาว กศน. เป็นต้น
  • และโซนที่ 3: Environmental Kids: เด็กรักษ์สิ่งแวดล้อม (บริเวณถนนลูกหลวง) เป็นกิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและโลกของเราให้น่าอยู่ ประกอบด้วย กิจกรรม “เก็บ แยก แลกยิ้ม”, ปณิธานเด็กไทยรักษ์โลก เป็นต้น

 

8. TK Park

TK Alive เนรมิตพื้นที่ให้เป็นดินแดนแห่งความสนุกสนานสำหรับทุกคนในครอบครัว เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2563 เข้าร่วมกิจกรรมฟรี วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 10.30 – 17.00 น. ณ TK Alive ชั้น 6 ด้านหน้าโซนจีเนียสแพลนเน็ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกับกิจกรรม “All About Games” ที่จัดหนักจัดเต็มยกทัพเกมสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้น้องๆ ได้สนุกสุดเหวี่ยงเต็มอิ่มตลอดทั้งวัน พร้อมรับของที่ระลึกสุดพิเศษมากมาย

  • Brain Game by TK Park แอปพลิเคชันใหม่จากสถาบันอุทยานการเรียนรู้ TK Park ที่จะทดสอบความจำ ฝึกคำนวณ การวิเคราะห์จำแนกแยกแยะ และเสริมสร้างจินตนาการ
  • TK Board Game Club พบกับบอร์ดเกมท้าทายความสามารถที่ยกขบวนมาร่วมสนุกตลอดวันจากค่าย Siam Board Games และ Monkole Toy Studio
  • การแข่งขันบอร์ดเกมชิงรางวัล รับสมัครอายุระหว่าง 8 – 15 ปี ร่วมแข่งขันกับบอร์ดเกมสุดมัน
  • ประเภทเดี่ยว เกม “Davinci Code”
  • ประเภททีม 2 คน เกม “เมืองในฝัน” จาก Siam Board Games

(รับสมัครจำนวนจำกัดในวันงานเท่านั้น)

 

9. อสมท.

“พัทโตะ – พัทธ์ ชนภัณฑารักษ์ และ เพียว-กิติพัฒน์ พิมพ์เกษมโสภณ” 2 พิธีกรสุดเฮฮาขวัญใจเด็กๆ จากรายการ “9 การ์ตูน” ทางช่อง 9MCOT HD ชวนน้องๆ หนูๆ เที่ยวงานวันเด็ก ปี 2563 “Wonder kids Thailand” โดย บมจ. อสมท. ร่วมกับแฟชั่น ไอส์แลนด์ มอบความสนุก 3 วันเต็ม 10 – 12 ม.ค. 63 เวลา 10.30 น. – 19.00 น. ณ ชั้น 3 ไอส์แลนด์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์

เตรียมกระทบไหล่ “น้องมิลค์” สาวน้อย ชาวไทยวัย 12 ป้องกันแชมป์โลกโดรนเรซซิ่ง รายการ “2019 FAI WORLD DRONE RACING CHAMPIONSHIP GRAND FINAL” คว้าแชมป์โลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน, โชว์เต้นฮิปฮอป สุดเจ๋งจากทีมออซัม จูเนียร์ (Awesome Junior) ดีกรีแชมป์ฮิปฮอประดับโลก 2 สมัยซ้อน (ปี 2018-2019)

ทดลองเป็นผู้ประกาศข่าว และเป็นดีเจตัวน้อย พร้อมใกล้ชิดเหล่าคาแร็คเตอร์การ์ตูนดังมากที่สุด ลุ้นรับของรางวัลฟรีตลอดงาน

 

10. สภากาชาดไทย กรุงเทพฯ

งานวันเด็กกับสภากาชาดไทย วันที่ 11 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 8.30 – 15.30 น. จัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย บริเวณสถานเสาวภา ปีนี้จัดขึ้นในธีม “Green Children’s Day” ลด ละ แยก ขยะ มาร่วมรักษ์โลก และร่วมเล่นเกมสนุก ๆ แลกของรางวัลเพียบ! แถมมีของรางวัลใหญ่บนเวทีอีกด้วย หรือหากเด็กน้อยนำภาชนะมาใส่น้ำ/ขนมเอง รับไปเลยของขวัญสุดพิเศษ

พร้อมทั้งชมสวนงู และการแสดงสาธิตการจับงู และดยมีกิจกรรมที่ให้ความรู้ สนุก ๆ รับของรางวัลเพียบ!!! ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่บนเวที จักรยาน ทุนการศึกษา ของเล่น ของขวัญ ฯลฯ

 

ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้สนับสนุนและร่วมฉลองวันเด็กแห่งชาติ 2563 โดยให้เด็กและเยาวชน ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้รับสิทธิยกเว้นค่าโดยสาร เมื่อใช้บริการรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศของ ขสมก. ในวันดังกล่าว

 

ด้านรถไฟฟ้า BTS, MRT และ ARL ยกขบวนให้บริการฟรี ในวันเด็กแห่งชาติ 2563

ทางรถไฟฟ้า BTS ให้เด็กๆ ที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรีตลอดทุกเส้นทาง ทั้งในส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และสายสีลม รวมถึงรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 24.00 น.

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะจัดกิจกรรมส่งความสุขให้กับเด็กๆ อาทิ ซุ้มเกมส์หรรษา ซุ้มเกมส์ตอบปัญหา พร้อมรับของรางวัล และของแจกมากมายเป็นที่ระลึก ณ บริเวณสถานีหมอชิต ในช่วงเวลา 7.30 น. – 10.30 น.

ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ใจดีส่งมอบความสุขวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ด้วยการโดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟรี ทั้ง 2 สาย สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงินและสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี และมีความสูงไม่เกิน 140 ซม.

เพียงแสดงตัวที่ห้องออกบัตรโดยสารเพื่อรับคูปองโดยสารรถไฟฟ้าฟรี ตลอดระยะเวลาการให้บริการ

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ให้เด็กความสูงไม่เกิน 140 ซม.ขึ้นฟรี พร้อมแจกไอศกรีม และของขวัญตลอดวันทุกสถานีเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2563 ตั้งแต่เวลา 05.30 น.– 24.00 น. พร้อมทั้งจัดกิจกรรมแจกไอศครีมให้แก่เด็กๆที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ทุกสถานี ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป รวมทั้งส่งคาราวานมาสคอตตัวการ์ตูนออกแจกขนม และของขวัญบนขบวนรถไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม ในวันเด็กนั้นมักมีเด็ก ๆ ที่ออกจากบ้านแบบพร้อมเพรียงกัน ทำให้อาจเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย ซึ่งตามสถานที่ต่างๆ อยากให้ผู้ปกครองควรระวังลูกหลานของท่านด้วย เพราะเด็กมักสนใจแต่สิ่งรอบตัวหรือสนุกสนานกับกิจกรรม จนลืมดูทางและอาจทำให้เกิดการหลงทางกันระหว่างผู้ปกครองกับตัวเด็ก จากจะเป็นวันที่ทำให้เด็กๆ มีความสุข อาจกลายเป็นวันที่เสียใจแทน

วิธีป้องกันและแก้ปัญหาเด็กหาย

  1. หาเชือกหรือสายอะไรก็ได้ ผูกข้อมือไว้ระหว่างผู้ปกครองกับตัวเด็ก
  2. เขียนเบอร์โทรติดต่อ รวมทั้งชื่อ-นามสกุล ใส่ป้ายบัตรให้เด็กนำไปคล้องคอ หรือนำใส่กระเป๋า
  3. พูกกำชับกับลูกหลานของท่านไว้ก่อนออกเดินทาง ว่าถ้าหลงทางกันและหากันไม่เจอให้ไปที่ไหน หรือบอกเบอร์ติดต่อกับผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ เช่น ตำรวจ ให้โทรหาเบอร์คุณพ่อหรือคุณแม่ที่ได้จดไว้
  4. แต่ถ้าไม่ได้จด หรือคิดว่าลูกหลานของท่านจำไม่ได้ ให้อยู่ที่เดิมที่หลงทางกัน และโทรแจ้งความ หรือโทร 1300 ศูนย์ประชาบดี หรือขอคำปรึกษาและแจ้งผ่าน ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โทร 02-9732236-7

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2563 หลายคนตอนนี้อาจวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวกันไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวในประเทศ หรือเที่ยวต่างประเทศ ทาง CARRO Thailand ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ

ส่วนใครที่อาจไม่ได้เดินทางกลับต่างจังหวัด หรือเป็นคนกรุงเทพฯ สายบุญ อยากเข้าวัดไหว้พระ ทำบุญ หรือจะสวดมนต์ข้ามปี ก็ได้เช่นกัน ตามวิถีชาวพุทธ

ทาง CARRO Thailand ได้รวบรวม 10 สถานที่จัดงานสวดมนต์ข้ามปี 2563 มาให้ทุกท่าน ได้เดินทางไปร่วมไหว้พระสวดมนต์กันได้ตามสะดวกแล้วครับ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

สวดมนต์ข้ามปี-2563-สนามหลวง

1. สวดมนต์ข้ามปี มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

กระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน กิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563

โดยในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพระบรมมหาราชวังไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนสักการะ

ส่วนวันที่ 31 ธ.ค. 2562 จะมีกิจกรรมแสดงธรรม สวดมนต์ พิธีถวายพระพรชัยมงคล และพอถึงช่วงเวลา 23.40 – 00.10 น. หรือช่วงข้ามศักราชใหม่ พระสงฆ์จะประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์และสวดบทชัยมงคลคาถา วัดทั่วประเทศลั่นฆ้องชัยจำนวน 9 ครั้ง และเช้า วันที่ 1 ม.ค. 2563 มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ณ ท้องสนามหลวง และวัดทั่วประเทศ

กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ณ มณฑลท้องสนามหลวง จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และ วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยมีกำหนดการต่างๆ ดังนี้

18.00-20.00 น. : วันที่ 31 ธ.ค. ชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมไทย

20.00-23.30 น. : สวดบทธัมมจักรกัปปวัตนสูตร

23.40 น. : พิธีถวายพระพรชัยมงคล

23.45-23.50 น. : สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า
– นะโม 3 จบ
– บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย (อิติปิ โส ภะคะวา)
– บทพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง)

24.00 น. : จุดไฟพระฤกษ์(ไฟประทานจากสมเด็จพระสังฆราช)
– ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง
– บทชัยมงคลคาถา (ชยันโต)

7.00 น. : วันที่ 1 ม.ค. ทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคล

สวดมนต์ข้ามปี-2563-พุทธมณฑล

2. สวดมนต์ข้ามปี ณ ลานพุทธมณฑล

“พุทธมณฑล” เป็นสถานที่ทางศาสนาอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ มาก และไปมาสะดวก ซึ่งทางพุทธมณฑลเอง ได้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ที่ลานรอบองค์พระประธานพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วยพระเถราจารย์ ร่วมในการสวดมนต์และแผ่เมตตาแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมพุทธวิถี เสริมบารมี

ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 เวลา 17.19 น. เป็นต้นไป และเมื่อเสร็จพิธี รับของมงคลที่ระลึก

สวดมนต์ข้ามปี-2563-เสาชิงช้า

3. สวดมนต์ข้ามปี ลานคนเมือง (เสาชิงช้า)

กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพื่อเริ่มต้นปีใหม่แบบวิถีไทยๆ พร้อมความเป็นสิริมงคลแก่พี่น้องประชาชน

เริ่มต้นในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 กรุงเทพมหานคร จะอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากหอพระภายในศาลาว่าการ กทม. ไปตามเส้นทางต่างๆ บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะอัญเชิญประดิษฐานบริเวณลานคนเมืองซึ่งเป็นจุดที่ใช้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” นอกจากนี้ภายในงานจะมีกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมสาธิตและการเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย

กำหนดการในงาน คือ ในช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 น. จะได้ชมการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ จากนั้นในช่วงดึกจะเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และต่อกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ยาวไปจนข้ามสู่ศักราชใหม่

โดย กทม. จะจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์สำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางมาในพิธีด้วย ส่วนในช่วงเช้าของวันที่ 1 ม.ค. 2563 เวลา 7.00 น. มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

4. สวดมนต์ข้ามปี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

ด้านวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ก็ได้มีการจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เช่นเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563 โดยมีกำหนดการดังต่อไปนี้ :

เวลา 19.00 น. ทำวัตรเย็นแปล ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร

เวลา 21.00 น. พิธีสืบชาตา เสริมชะตาราศี เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในศักราชใหม่
– ประธานจุดเทียนชัย
– ไหว้พระ/อาราธนาศีล/รับศีล/อาราธนาพระปริตร
– สะเดาะเคราะห์ เรียกขวัญ แบบล้านนา
– ผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่านนำด้ายสายสิญจน์ครอบศีรษะ
– พระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ สวดสืบชาตา ตามประเพณีโบราณ
– ถวายตุงมหาเศรษฐีรุ่งเรื่อง/ พระสงฆ์ทั้งนั้นอนุโมทนา

เวลา 23.00 น. อธิษฐานเปลี่ยนแปลงชีวิตต้อนรับศักราชใหม่ พิธีสวดมนต์ข้ามคืน
– ประธานจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย
– พระสงฆ์ ประชาชน ร่วมสวดมนต์

เวลา 0.01 ลั่นฆ้องชัย ต้อนรับศักราชใหม่
– พระสงฆ์สวดบท ชัยยมงคลกถา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดปทุมวนาราม

5. สวดมนต์ข้ามปี วัดปทุมวนาราม

สำหรับใครที่อยากฉลองปีใหม่แบบสนุกสุดเหวี่ยง ไปกับแสงสีและดนตรี แต่ก็อยากรู้สึกแว๊บๆ เข้ามาในโลกแห่งทางธรรมบ้าง ก็สามารถมาร่วมงาน “สวดมนต์ข้ามปี” กันได้ที่วัดปทุมวนาราม ใจกลางเมืองแห่งนี้ได้เลย

ร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความสวัสดิมงคล ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2562 – 2563 ได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดธาตุทอง

6. สวดมนต์ข้ามปี วัดธาตุทอง พระอารามหลวง

วัดธาตุทอง เป็นอีกวันหนึ่งที่อยู่ในย่านถนนสุขุมวิท ที่มีผู้คนมาทำุญไหว้พระกันอยู่เป็นประจำ ก็มีจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” ด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับในปีนี้ ทางวัดธาตุทอง ได้จัดงานสวดมนต์ข้ามปี สืบดวงชะตา เสริมบารมี กันในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป

สวดมนต์ข้ามปี-2563-สวนโมกข์กรุงเทพ

7. สวดมนต์ข้ามปี สวนโมกข์กรุงเทพฯ

สำหรับสวนโมกข์กรุงเทพฯ ก็มีการจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” กับงาน “เทศกาลเจริญสติ สวดมนต์ภาวนาข้ามปี พุทธศักราช 2563” ปีใหม่ชีวิตใหม่ ปีแห่งการเติมธรรมะลงในชีวิต ในระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563 ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 6 ช่วง ได้แก่

ช่วง 1 ยามเช้า : 31 ธ.ค. ตักบาตรสาธิต สมาทานศีล ฟังธรรม และสมาธิภาวนา ณ โถงกิจกรรม ชั้น 1

ช่วง 2 ยามบ่าย : สมาธิภาวนา และกิจกรรมต่างๆ

ช่วง 3 ยามเย็น : ทำวัตร ฟังธรรม เติมธรรมะลงในชีวิต ณ สวนพุทธธรรม ชั้น 1

ช่วงที่ 4 ยามข้ามปี : สวดมนต์ภาวนา รับศักราชใหม่

ช่วงที่ 5 ภาวนารับปีใหม่ : สวดมนต์ภาวนา

ช่วงที่ 6 ทำวัตรเช้า : 1 ม.ค. ทำบุญตักบาตรและรับพรปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี 2563

นอกจากนี้ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่มีอยู่ในข้างต้นแล้ว ทางกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้ร่วมกับ กทม. และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดกิจกรรมตามวัดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อีกจำนวนมากถึง 58 แห่ง ได้แก่

1. สมาคมส่งเสริมความดีสากล

2. วัดทุ่งลานนา เขตประเวศ กทม.

3. วัดยานนาวา เขตสาทร

4. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบฯ

5. วัดภาษี เขตวัฒนา กทม.

6. วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เขตบางขุนเทียน

7. วัดชัยพฤกษ์มาลา เขตตลิ่งชัน

8. วัดสุวรรณประสิทธิ์ เขตบึงกุ่ม

9. วัดพรหมวงศาราม เขตดินแดง

10. วัดเทพลีลา เขตบางกะปิ

11. วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน

12. วัดเจริญธรรมาราม เขตสายไหม

13. วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เขตดุสิต

14. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

15. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

16. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร

17. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์

18. วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์

19. วัดบางเตย เขตบึงกุ่ม

20. วัดชัยชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

21. วัดมหรรณพารามวรวิหาร เขตดุสิต

22. วัดพิชัยญาติการามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย

23. วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม

24. วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง

25. วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบฯ

26. วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน

27. วัดราชสิงขร บางคอแหลม

28. วัดดาวดึงษ์ เขตบางพลัด

29. วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เขตบางรัก

30. วัดธรรมมงคล เขตพระโขนง

31. วัดหัวลำโพง เขตบางรัก

32. วัดบางโพโอมาวาส เขตบางซื่อ

33. วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ

34. วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร

35. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร

36. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต

37. วัดสามพระยาวรวิหาร

38. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

39. วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย

40. วัดประยุรวงศาวาส เขตธนบุรี

41. วัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี

42. วัดราชคฤห์ เขตธนบุรี

43. วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตตลิ่งชัน

44. วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่

45. วัดนาคกลาง เขตบางกอกใหญ่

43. วัดใหม่พิเรนท์ เขตบางกอกใหญ่

46. วัดสุวรรณคีรี เขตบางกอกน้อย

47. วัดเทพนารี เขตบางพลัด

48. วัดดอนเมือง เขตดอนเมือง

49. วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง

50. วัดราชโอรสาราม เขตจอมทอง

51. วัดนางนอง เขตจอมทอง

52. วัดทองนพคุณ เขตคลองสาน

53. วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ

54. วัดบุณยประดิษฐ์ เขตบางแค

55. วัดหนองจอก เขตหนองจอก

56. วัดอัปสรสวรรค์ เขตภาษีเจริญ

57. วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม

58. วัดคู้บอน เขตคลองสามวา

ท่านใดสะดวกวัดไหน แถวไหน สามารถไปร่วมงานกันได้ตามสะดวก รับรอง อิ่มบุญ (ได้สวดมนต์ ไหว้พระ ตักบาตรตอนเช้า) อิ่มใจ (ได้นั่งสมาธิ ฟังพระอบรมเทศนา) และอิ่มท้อง (เพราะหลายๆ วัด มีข้าวปลาอาหาร ให้ทานกันได้ไม่อั้น) แน่นอน!

แหล่งที่มาบางส่วนจาก: