Carro-Compare-Toyota-Corolla-Cross-And-Nissan-Kicks-2020

รถในระดับ B-SUV ป้ายแดงยอดนิยม ในราคาเริ่มต้นประมาณ 8 แสนบาทปลายๆ ไปจนถึง 1 ล้านต้นๆ ชั่วโมงนี้คงไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่า Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) และ Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) อีกแล้ว! เพราะเป็นรถที่เหมาะสำหรับคนมีครอบครัว หรือมีลูก 1-2 คน ไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน และไว้ใช้งานในวันหยุดได้

ซึ่งทั้งสองโมเดลนี้ ต่างก็เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของโลก คันหนึ่งใหม่หมดทั้งคัน อีกคันหนึ่งเป็นโฉมไมเนอร์เชนจ์ คันหนึ่งเป็นรถยนต์แบบ e-POWER ระบบ Hybrid ใช้น้ำมันให้เครื่องยนต์ไปปั่นมอเตอร์ไฟฟ้า ได้อารมณ์ขับรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนอีกคันหนึ่งยังเป็นแบบเบนซิน และระบบเบนซินแบบ Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า

ถ้าหากในปี 2020 นี้ ทั่วโลกไม่เจอเจ้าโควิด-19 ซะก่อน ตลาดรถในกลุ่ม B-SUV คงจะคึกคักมากกว่านี้แน่นอน เนื่องด้วยกำลังซื้อที่ขาดหายไปมาก และบรรดาไฟแนนซ์ สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้การแข่งขันเพื่อชิงยอดขายนั้น ดุเดือดเลยทีเดียว หากฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำแล้ว บอกได้เลยว่าลำบากแน่!

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ในช่วงโควิด-19 สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand หรือทาง Line @carrothai

มาดูกันว่า Toyota Corolla Cross 2020 และ Nissan Kicks 2020 มีจุดเด่น ข้อดี ข้อเสีย ตรงไหนกันบ้าง ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ และไปดูตัวจริงในงาน Motor Show 2020 …

All-New-Corolla-Cross-2020

Toyota Corolla Cross 2020

ข้อดี : เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด รุ่นที่พ่วงชื่อ Corolla มาด้วย โดยเป็นการนำ DNA ของรถยนต์โคโรลล่า มาพัฒนาให้เกิดเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ บนแพลทฟอร์มใหม่อย่าง TNGA โดยใช้แพลตฟอร์มของโคโรลล่า ซีดาน และยังคล้ายกับในรุ่น C-HR อีกด้วย แต่ C-HR เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่น ส่วน Corolla Cross จะเน้นกลุ่มคนวัยทำงานขึ้นมาหน่อย และมีครอบครัวแล้ว อีกทั้งยังมีรถโชว์พร้อมขาย พร้อมให้ทดลองขับ และระบบ Hybrid ที่ไว้ใจได้

ข้อด้อย : เรื่องหน้าตาความชอบนั้นเป็นรสนิยม หลายคนอาจบอกว่าหน้าตาดูดุไปหน่อย แต่บางคนดูแล้วก็บอกว่า OK  ตัวรอง Top ดูคุ้มค่าเงินที่สุดกว่าตัวรุ่น Top

รายละเอียดตัวรถ : ตัวรถถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue) มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

ใช้ช่วงล่างแบบคานแข็งที่ได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อปรับช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพการเกาะถนน ส่วนพื้นที่จุสัมภาระด้านท้ายรถ มีมากถึง 487 ลิตร นอกจากนี้ ในส่วนของห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยประตูด้านหลังขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบาย และยังมีการออกแบบที่ว่างเหนือศีรษะให้สูงพอดี มีความโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด

All-New-Corolla-Cross-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED แบบ Hybrid
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) LED แบบ Light Guiding
  • ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED
  • ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home
  • ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ พร้อมระบบ Reverse Link
  • ราวหลังคา
  • สีภายใน สีแดง Terra Rossa / สีดำ (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
  • จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth และ USB
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start)
  • ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา
  • ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย
  • ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display)
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic)
  • ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน (Drive Start Control)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist)
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
    รวมทั้ง …
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic View Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS 7 ตำแหน่ง (Air Bags)

เครื่องยนต์ : เป็นแบบเบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 150 กรัม/กม.

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 98 กรัม/กม.

มิติตัวรถ : ยาว 4,460 มม. กว้าง 1,825 มม. สูง 1,620 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนกรกฏาคม 2563)

  • รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท** (ราคาพิเศษ 959,000 บาท ณ วันเปิดตัว – 30 กันยายน 2563 มีจำนวนจำกัด)
  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

Nissan-Kicks-ePower-2020

Nissan Kicks e-Power 2020

ข้อดี : เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด ที่มาพร้อมจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ข้อด้อย : หลายคนอาจผิดหวังกับความประหยัด ว่าประหยัดได้เท่า Eco-Car และไม่มีระบบ Active Cooling ให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเมืองร้อน (มาก) อย่างบ้านเรา ควรจะเพิ่มระบบหล่อเย็นจุดนี้ แม้ว่าแบตเตอรี่จะถูกออกแบบมาให้ทนความร้อนได้สูงก็ตาม

อีกทั้งรถยังไม่มีให้ลูกค้าได้ทดสอบตามโชว์รูมต่างๆ และพร้อมส่งมอบ เนื่องจากผู้ผลิตชิ้นส่วนติดปัญหาโควิด-19 ทำให้การผลิตชิ้นส่วนชะงัก และต้องแก้ QC ในชิ้นงานที่มีปัญหา อีกทั้งยังต้องผลิตรถส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้มียอดจองเข้ามาหลายพันคัน ทำให้เกิดการล่าช้าในการผลิต หลายคนจึงเริ่มลงเลในการซื้อ กลายเป็นเจ้าพ่อตลาดวายไป

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถแบบ SUV ที่นิสสันพัฒนามาจากรถต้นแบบอย่าง Nissan Kicks Concept โดยเปิดตัวตัวรถผลิตขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปี 2016 เพื่อทำตลาดในอเมริกาใต้เป็นหลัก ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม V แบบเดียวกับรถตระกูล Nissan Micra, Note, Pulsar หรือ Sylphy

ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม (เฉพาะรุ่น VL) ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย

แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

เวลาขับยังมีระบบอัจฉริยะ ช่วยให้คนขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทาง ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน จับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล แล้วแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือน เมื่อตรวจพบบุคคล หรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

Nissan-Kicks-ePower-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • หน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว บนมาตรวัด
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กุญแจระบบ Immobilizer
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-jam Protection ด้านผู้ขับ
  • ที่วางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง
  • ช่องวางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้า-หลัง 4 ตำแหน่ง
  • กล่องเก็บของด้านหน้า
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ไฟห้องสัมภาระด้านท้าย
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
  • ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ Nissan Connect จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 6 ตำแหน่ง Bluetooth, USB, AUX-in, ฟังก์ชั่น Apple CarPlay สำหรับ iOS (เฉพาะรุ่น V และ VL)
  • ชุดเครื่องเสียงมาตรฐาน วิทยุ AM/FM, Bluetooth, USB, AUX-in และลำโพง 4 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น S และ E)
  • เทคโนโลยร One-Pedal คันเร่งอัจฉริยะ
  • ระบบ Intelligent Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นชลอความเร็วและรักษาระยะห่างตามรถคันหน้า
  • ระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ ลดความเสียหายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ
  • ระบบ Blind Spot Warning เตือนจุดอับสายตา
  • ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนในขณะถอยออก
  • ระบบ Intelligent Around View Monitor กล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง พร้อมเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control
  • ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Intelligent Ride Control
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control
  • ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด ประกอบด้วยคู่หน้า, ข้าง และม่านข้างซ้าย-ขวา (รุ่น VL) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ Pretensioner and Load Limiter Seatbelts
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
  • กระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror แสดงผลด้วยจอ LCD ที่แสดงภาพจากกล้องด้านหลังตัวรถ สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลระหว่างจอแสดงภาพ หรือภาพสะท้อนแบบปกติจากกระจกได้
  • ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

Nissan-Kicks-e-POWER-ECO-Sticker

ECO Sticker ของ Nissan Kicks e-POWER 2020

เครื่องยนต์ : เป็นแบบเบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE (แบบเดียวกับใน Note e-Power) แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด  79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) ที่ 4,000-8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 500-3,008 รอบ/นาที

หากรวมพลังทั้งหมด ให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า ที่ 4,000 – 8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 500 – 3,008 รอบ/นาที และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker) หรือ 4.2 ลิตร/100 กม.

มิติตัวรถ : ยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,615 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,049,000 บาท ปรับขึ้น 50,000 บาท)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,103,900 บาท ปรับขึ้น 54,900 บาท)

มิติตัวรถ / เครื่องยนต์ ของ Toyota Corolla Cross 2020 และ Nissan Kicks 2020

Specifications Toyota Corolla Cross Nissan Kicks e-POWER
ยาว (มม.) 4,460 4,290
กว้าง (มม.) 1,825 1,760
สูง (มม.) 1,620 1,615
ระยะฐานล้อ (มม.) 2,640 2,615
ความกว้างล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,559/1,571 (รุ่น 1.8 Sport และ Hybrid Smart 1,569/1,581) 1,520/1,535
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) 161 175
วงเลี้ยวแคบสุด (เมตร) 5.2 5.1
น้ำหนัก (กิโลกรัม) 1,340-1,350
เครื่องยนต์ เบนซิน รหัส 2ZR-FBE 1,798 ซีซี แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที เบนซิน Hybrid รหัส HR12DE 1,279 ซีซี แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที

พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ขนาด 95 กิโลวัตต์ รวมกำลังทั้งหมด 129 แรงม้า

เบนซิน Hybrid รหัส 2ZR-FXE 1,798 ซีซี 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที

พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 53 กิโลวัตต์ รวมกำลังทั้งหมด 122 แรงม้า

ระบบส่งกำลัง CVT-i 7 สปีด (รุ่นเบนซิน) / E-CVT (รุ่น Hybrid) แบบอัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม./ลิตร 15.4 กม./ลิตร (รุ่นเบนซิน) / 23.3 กม./ลิตร (รุ่น Hybrid)

ตารางผ่อนดาวน์ Toyota Corolla Cross 2020 ใหม่

Toyota-Corolla-Cross-2020-ตารางผ่อนดาวน์

โปรโมชั่น Toyota Corolla Cross 2020 ใหม่

พิเศษสำหรับลูกค้าซื้อ All-New Corolla Cross วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2563

  • เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.85% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care
  • ขยายระยะเวลารับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 100,000 กม. มูลค่ากว่า 34,000 บาท
  • Toyota Privilege More ข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมเฉพาะลูกค้าโตโยต้า

ตารางผ่อนดาวน์ Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-e-POWER-2020-ตารางผ่อนดาวน์

โปรโมชั่น Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-ePower-2020

All-New Nissan Kicks รุ่น V

  • ราคาช่วงเปิดตัว 999,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

All-New Nissan Kicks รุ่น VL

  • ราคาช่วงเปิดตัว 1,049,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ย้ำกันอีกครั้ง! สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

The-3-Best-SUV-Nissan-Mazda-MG

รถในระดับ B-SUV ป้ายแดงยอดนิยม นับว่าเป็นรถที่ยอดฮิตมากในบ้านเรา มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 6 แสน ไปจนถึง 1 ล้านบาท ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันในตลาดรถยนต์อย่างดุเดือดกันมาหลายปี ถ้าไม่ติดว่าเจอโควิด-19 มาเสียก่อน เพราะตลาดกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร จนค่ายรถหลายค่าย ต่างพยายามเต็มที่เพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้ ซึ่งมีทั้งนักศึกษา คนวัยเริ่มต้นทำงาน ไปจนกระทั่งแม่บ้าน คนครอบครัวขนาดเล็ก เป็นต้น

CARRO Thailand จึงขอนำรถ B-SUV ยอดฮิตในหมู่คนไทย ที่เพิ่งเปิดตัวสดใหม่ช่วงต้นปี 2020 ด้วยกัน 3 แบรนด์ 3 รุ่น อย่าง Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) ที่วางแผนจะเปิดตัวกันในเดือนมีนาคม และในงาน Motor Show 2020 แต่โควิด-19 มา งานเลยล่มซะก่อน, Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) และ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) พร้อมตารางราคา และอัตราดอกเบี้ย มาเปรียบเทียบกันให้เห็น แบบช้าๆ ชัดๆ!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ในช่วงโควิด-19 สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Nissan-Kicks-ePower-2020

Nissan Kicks e-Power 2020

ข้อดี : เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด ที่มาพร้อมจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ข้อด้อย : หลายคนอาจผิดหวังกับความประหยัด ว่าประหยัดได้เท่า Eco-Car และไม่มีระบบ Active Cooling ให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเมืองร้อน (มาก) อย่างบ้านเรา ควรจะเพิ่มระบบหล่อเย็นจุดนี้ แม้ว่าแบตเตอรี่จะถูกออกแบบมาให้ทนความร้อนได้สูงก็ตาม

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถแบบ SUV ที่นิสสันพัฒนามาจากรถต้นแบบอย่าง Nissan Kicks Concept โดยเปิดตัวตัวรถผลิตขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปี 2016 เพื่อทำตลาดในอเมริกาใต้เป็นหลัก ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม V แบบเดียวกับรถตระกูล Nissan Micra, Note, Pulsar หรือ Sylphy

ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม (เฉพาะรุ่น VL) ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย

แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

เวลาขับยังมีระบบอัจฉริยะ ช่วยให้คนขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทาง ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน จับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล แล้วแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือน เมื่อตรวจพบบุคคล หรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

Nissan-Kicks-ePower-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • หน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว บนมาตรวัด
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กุญแจระบบ Immobilizer
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-jam Protection ด้านผู้ขับ
  • ที่วางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง
  • ช่องวางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้า-หลัง 4 ตำแหน่ง
  • กล่องเก็บของด้านหน้า
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ไฟห้องสัมภาระด้านท้าย
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
  • ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ Nissan Connect จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 6 ตำแหน่ง Bluetooth, USB, AUX-in, ฟังก์ชั่น Apple CarPlay สำหรับ iOS (เฉพาะรุ่น V และ VL)
  • ชุดเครื่องเสียงมาตรฐาน วิทยุ AM/FM, Bluetooth, USB, AUX-in และลำโพง 4 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น S และ E)
  • เทคโนโลยร One-Pedal คันเร่งอัจฉริยะ
  • ระบบ Intelligent Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นชลอความเร็วและรักษาระยะห่างตามรถคันหน้า
  • ระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ ลดความเสียหายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ
  • ระบบ Blind Spot Warning เตือนจุดอับสายตา
  • ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนในขณะถอยออก
  • ระบบ Intelligent Around View Monitor กล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง พร้อมเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control
  • ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Intelligent Ride Control
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control
  • ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด ประกอบด้วยคู่หน้า, ข้าง และม่านข้างซ้าย-ขวา (รุ่น VL) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ Pretensioner and Load Limiter Seatbelts
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
  • กระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror แสดงผลด้วยจอ LCD ที่แสดงภาพจากกล้องด้านหลังตัวรถ สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลระหว่างจอแสดงภาพ หรือภาพสะท้อนแบบปกติจากกระจกได้
  • ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

Nissan-Kicks-e-POWER-ECO-Sticker

ECO Sticker ของ Nissan Kicks e-POWER 2020

เครื่องยนต์ : เป็นแบบเบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE (แบบเดียวกับใน Note e-Power) แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด  79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) ที่ 4,000-8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 500-3,008 รอบ/นาที

หากรวมพลังทั้งหมด ให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า ที่ 4,000 – 8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 500 – 3,008 รอบ/นาที และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker) หรือ 4.2 ลิตร/100 กม.

มิติตัวรถ : ยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,615 มม.

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,049,000 บาท ปรับขึ้น 50,000 บาท)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,103,900 บาท ปรับขึ้น 54,900 บาท)

Mazda-CX-30-2020

Mazda CX-30 2020

ข้อดี : รูปทรงใหญ่ เพราะเป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 แต่ในบ้านเราถูกจับรวมมาในกลุ่ม B-SUV ด้วย ภายในนั่งกัน 4 คนสบายๆ แต่เบาะหลังอาจจะต้องปรับหน่อย สำหรับผู้ที่สูง 170 ซม. ขึ้นไป การขับขี่ที่ง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนขับ Mazda3 เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต

ความรู้สึกของการขับขี่ มีการเซ็ทช่วงล่างและโช๊คอัพ มาให้ใกล้เคียงกับใน Mazda3 นิ่มและนุ่ม ไม่ยวบไม่ยุบ (ถ้าไม่ใช้ความเร็วเข้าโค้งแรงๆ) แต่ว่าชิ้นส่วนชิ้นงานที่ใช้ไม่เหมือนกัน ยกเว้นระบบเบรก ที่ยกของ Mazda3 มาใช้ทั้งชุด แต่ปรับให้เหมาะสมกับความสูง และน้ำหนักของตัวรถมากกว่า พร้อมระบบ GVC Plus ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม

ผนวกกับพวงมาลัยให้น้ำหนักที่หนืดได้อย่างพอเหมาะ และประตูไฟฟ้าด้านหลัง ใช้งานได้อย่างดี เหมาะสำหรับขนจักรยานพับได้ พาลูกหลานไปปั่นกันในวันหยุด และมีที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 430 ลิตร

ข้อด้อย : ความกว้างขวางอาจเป็นรอง เมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นอื่นๆ แต่นี่ก็ไม่ใช่ความคาดหวังของลูกค้าที่ซื้อ Mazda อยู่แล้ว กับเรื่องศูนยบริการ และราคาอะไหล่ในภายภาคหน้า และแอร์ด้านหลังไม่ค่อยเย็น หากขับรถขณะอากาศร้อนมาก ต้องเร่งแอร์ให้แรงขึ้น รวมถึงคนนั่งเบาะหลังอาจเวียนหัว หรือเมารถได้ เนื่องจากเบาะคู่หน้าขนาดใหญ่ ค่อนข้างทึบในมุมผู่นั่งด้านหลัง

รายละเอียดตัวรถ :All-New Mazda CX-30 เปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2019 และเปิดตัวในไทยเมื่อ 6 มีนาคม 2563 ในช่วงที่โควิด-19 กำลังมา ซึ่งจะมาแทนที่เจ้า Mazda CX-3 นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 กับแนวคิด “Life’s Always On เติมชีวิตให้เต็มความหมาย” สง่างามด้วยดีไซน์จาก โคโดะ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เรียบง่ายแต่งดงาม มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC PLUS

Mazda CX-30 มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.0 C, 2.0 S และ 2.0 SP กับสีที่มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)

All-New-Mazda-CX-30-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED
  • ไฟส่องสว่างสําหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบ LED Signature
  • ระบบเสียง Premium Sound จาก BOSE รอบทิศทาง พร้อมลําโพง 12 ตําแหน่ง และ Sub-Woofer (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • หน้าจอกลาง Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง (พร้อมปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support)
  • เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat 2 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตําแหน่ง (คู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง,ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง และหัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง)
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟา
  • เซ็นเซอร์กะระยะ 4 จุด และกล้องมองหลัง
  • หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
  • ระบบ Auto Brake Hold
  • ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button

และ … ระบบความปลอดภัย i-Activsense (เฉพาะรุ่น 2.0 SP)

  • ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 ̊ View Monitor)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
  • ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
  • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)

เครื่องยนต์ : เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร (ขับขี่โดยเฉลี่ย ในเมือง-นอกเมือง ประมาณ 10-12 กม./ลิตร)

ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ ตัวเดียวกับที่วางอยู่ใน Mazda3 สามารถใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,395 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,540 มม. ระยะฐานล้อ 2,655 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. ล้อแบบล้อแม็ก 16 นิ้ว และแบบ 18 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

New-MG-ZS-2020

MG ZS 2020

ข้อดี : MG ZS 2020 เป็นรถในรูปแบบ B-SUV ที่มีราคาจำหน่าย ถูกที่สุดในตลาดไทยเวลานี้! นับตั้งแต่เปิดตัวมาในเดือนกันยายน 2560 เป็นต้นมา รวมไปถึงรุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียวๆ อย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่เปิดจำหน่ายไปเมื่อ 20 มิถุนายน 2562 ก็คงไม่ต้องพูดว่ากระแสตอบรับดีแค่ไหน ดูได้จากยอดการผลิต ZS ที่มากถึง 30,000 คันเข้าไปแล้ว (ยอด ณ เดือนมกราคม 2563)

เป็นรถยอดนิยมมากของคนมีครอบครัวเล็กๆ พ่อบ้าน แม่บ้าน ใช้งานได้อเนกประสงค์ ด้วยรูปทรงที่สวย ใหญ่ สง่าเหมือนรถ SUV จากยุโรป ทั้งภายนอกและภายใน สวย นั่งสบาย เรียกได้ว่าออพชั่น คุ้มราคามากๆ วัสดุการประกอบภายในถือว่าใช้ได้ รวมถึงการแก้ปัญหาของศูนย์บริการ และบริการหลังการขายดีกว่าแต่ก่อนมาก

ข้อด้อย : เครื่องยนต์อาจแรงไม่ทันใจใครบางคน ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย เฉลี่ย​ 10-13​ กม./ลิตร กับชื่อเสียงของ MG ZS ของโฉมที่ผ่านมากับการมีปัญหา ต้องเคลมกันยกใหญ่ ขึ้นยานแม่กันหลายคัน ส่วนศูนย์บริการที่อาจจะยังไม่มาก การหาอะไหล่เทียบ (ในอนาคตที่ไม่ได้เข้าศูนย์บริการ) ก็ต้องรอดูกันต่อไป รวมไปถึงราคาขายต่อในตลาดรถมือสอง ที่ไม่ใช่รถตลาด ราคาอาจตกมากหน่อย

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถ MG ที่ใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะใหม่ล่าสุด i-SMART ที่นับเป็นครั้งแรกของคนขับรถ สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในรถด้วยการสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย รวมถึงรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ สอดคล้องกับยุคอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งหรือ IoT (Internet of Things)

พร้อมระบบ Emergency Call โทร-ส่งข้อความ-ระบุพิกัดรถไปยังเบอร์โทรที่ตั้งค่าไว้ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน, ระบบ Smart Connect เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ท เพื่อใช้งานระบบอินโฟเทนเมนท์ รวมถึงระบบนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real-Time และระบบ Smart Check ช่วยตรวจสอบสถานะของรถ และช่วยเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ ล็อค-ปลดล็อคประตู ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะผ่าน MG Mobile Application เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ทีเดียว ซึ่งฟังก์ชั่นในราคารถหลักล้านเหล่านี้ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงมาก

มาพร้อมช่วงล่าง Euro Tuning Suspension ที่ให้การทรงตัวดีเยี่ยม ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลงและช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam ที่ช่วยให้การควบคุมขับขี่ได้ลงตัวมากขึ้น

New MG ZS มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C+, D+ และรุ่นสูงสุดคือ X+ พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี คือ สีขาว Arctic White, สีแดง Scarlet Red, สีเงิน Silver Metallic และ สีดำ Black Knight

New-MG-ZS-2020

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กระจังหน้าปรับแบบใหม่
  • ชุดไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมฟังก์ชั่นเปิด-ปิดอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น X+)
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ทรงใหม่
  • ไฟตัดหมอกหน้า (ยกเว้นรุ่น C+)
  • กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว แบบพับอัตโนมัติ
  • ราวหลังคา (ยกเว้นรุ่น C+)
  • ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X+)
  • หลังคา Panoramic Sunroof (เฉพาะรุ่น X+)
  • ภายในรถโทนสีดำ พร้อมเบาะผ้าสีดำ (เฉพาะรุ่น C+)
  • ภายในรถโทนสีน้ำตาล และดำ พร้อมเบาะหนังสังเคราะห์ (เฉพาะรุ่น D+ และ X+)
  • มาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้วแบบ Digital Multi-Function Display แบบใหม่ (เฉพาะรุ่น D+ และ X+)
  • จอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว จัดวางแบบกึ่งลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay พร้อมฟังก์ชั่น Smart Check, Smart Command และ Smart Connect
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) (ยกเว้นรุ่น C+)
  • ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล
  • ระบบกรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็กในระดับ PM 2.5
  • เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น X+)
  • กุญแจรีโมท Smart Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กล้องมองภาพแสดงผล 360 องศา รอบคัน Around View Monitor (เฉพาะรุ่น X+), กล้องมองภาพถอยหลัง (เฉพาะรุ่น D+)
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • เบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
  • ระบบหน่วงเวลาการดับไฟหน้า เมื่อดับเครื่องยนต์ Follow Me Home Light
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กแบบ ISOFIX
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (ยกเว้นรุ่น C+), ม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น X+)
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
  • ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) (เฉพาะรุ่น X+)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit) (ยกเว้นรุ่น C+)

เครื่องยนต์ : เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 15S4C แบบ 4 DOHC สูบ 16 วาล์ว VTi – TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ทุกรุ่น ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) สามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง, โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 4,323 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,628 มม. (รุ่น C+) 1,653 มม. (รุ่น D+ และ X+) ระยะฐานล้อ 2,585 มม. ล้อแบบอัลลอยขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว (X+)

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2563)

  • รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
  • รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-e-POWER-2020-ตารางผ่อนดาวน์

โปรโมชั่น Nissan Kicks e-POWER 2020 ใหม่

Nissan-Kicks-ePower-2020

All-New Nissan Kicks รุ่น V

  • ราคาช่วงเปิดตัว 999,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

All-New Nissan Kicks รุ่น VL

  • ราคาช่วงเปิดตัว 1,049,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

ตารางผ่อนดาวน์ Mazda CX-30 2020 ใหม่

Mazda-CX-30-2020-ตารางผ่อนดาวน์

ตารางผ่อนดาวน์ MG ZS 2020 ใหม่

MG-ZS-2020-ตารางผ่อนดาวน์

ในเวลานี้ ใครที่อยากขายรถ เพื่อซื้อรถใหม่ ต้อนรับปีใหม่นี้ ต้องนึกถึงเรา CARRO! เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand จ้า แค่นี้การเปลี่ยนรถใหม่ของคุณ ก็ง่ายขึ้นแล้ว

Used-Car-Loan-Rates

เมื่อคุณคิดจะซื้อรถมือสองสักคันหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยความอยากได้ ความจำเป็นในการใช้งาน ถ้าหากซื้อด้วยเงินสดได้เลยก็คงจะดี เพราะไม่ต้องมีภาระมาผ่อนรถทุกเดือนในภายหลัง ส่วนใหญ่มักติดเรื่องงบประมาณมีไม่เพียงพอ ต่อการซื้อรถมือสองด้วยเงินสดทีเดียวได้

การพึ่งพาสถาบันทางการเงิน หรือบริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ ก็เหมือนจะเป็นทางออกของคนอยากมีรถมือสอง เลือกปฏิบัติกัน …

3-Steps-For-Buying-Used-Car

แต่การเลือกซื้อรถมือสองนั้น ดอกเบี้ยย่อมต่างไปจากรถมือหนึ่งอยู่พอสมควร กล่าวคือ ปีรถยิ่งเก่า ดอกเบี้ยยิ่งแพง และดอกเบี้ยรถกระบะ หรือรถตู้ จะแพงกว่าดอกเบี้ยรถเก๋ง ซึ่งหากคุณคิดจะซื้อรถมือสอง และนำรถเข้าไฟแนนซ์ ถ้าเป็นไปได้ อายุรถไม่ควรเกิน 5 ปี จะได้ดอกเบี้ยถูก ไม่เกิน 4.5% ต่อปี

ธนาคารไทยพาณิชย์ (CAR.SCB)

SCB-Bank-Secondhand-Interest-Rate-2018

SCB-Secondhand-Interest-Rate-2019

ปี 2562 – 2564 รถยนต์ใช้แล้ว สำหรับอายุรถยนต์ไม่เกิน 9 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี (Flat Interest Rate) 13% และรถยนต์ใช้แล้ว สำหรับอายุรถยนต์ตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป 17%

และ รถยนต์ใช้แล้ว สำหรับอายุรถยนต์ไม่เกิน 9 ปี อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี
(Effective Interest Rate) 26% และรถยนต์ใช้แล้ว สำหรับอายุรถยนต์ตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป 34%

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://car.scb/used-car

ลีสซิ่งกสิกรไทย (Kasikorn Leasing)

สิทธิพิเศษสำหรับผู้มีบัญชีเงินเดือนกสิกรไทย

  • ​​​​​​​​​​​​​​​​สมัครสินเชื่อรถ (รถใหม่) ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.09% ต่อปี
  • สมัครสินเชื่อรถช่วยได้ รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.55%* ต่อปี

เงื่อนไข

1. สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อรถ (รถใหม่) ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2564 ได้รับอนุมัติและเกิดเป็นสัญญาเช่าซื้อภายในวันที่ 28 ก.พ. 2565 เฉพาะลูกค้าที่เลือกใช้แคมเปญดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้มีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกสิกรไทย (K-Payroll) ตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด โดยมีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.09% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี เฉพาะรุ่นรถยนต์ที่ร่วมรายการ) รับฟรี! Gift Voucher หรือของกำนัล มูลค่าเทียบเท่า 1,000 บาท และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

2. สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อรถช่วยได้ ประเภทโอนเล่มทะเบียนรถสำหรับรถยนต์ และประเภทจำนำทะเบียนรถ ที่เลือกผ่อนชำระทั้งอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่และอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2564 ได้รับการอนุมัติ เกิดสัญญาและเบิกใช้วงเงิน ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2565 รับฟรี! Gift Voucher หรือของกำนัล มูลค่าเทียบเท่า 1,000 บาท และได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.55% ต่อปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยลูกค้าต้องมีอายุไม่เกิน 55 ปี ณ วันยื่นใบสมัคร  มีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท มีอายุงานในสถานที่ทำงานปัจจุบันขั้นต่ำ 6 เดือน และผ่านการทดลองงานแล้ว ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่ปลอดภาระหนี้หรือภาระผูกพันใดๆ รถยนต์มีอายุไม่เกิน 16 ปี (คำนวณจากวันจดทะเบียนรถยนต์ถึงวันที่สมัครสินเชื่อ) อยู่ในสภาพใช้งานได้ปกติ ไม่มีความชำรุดบกพร่อง ทั้งนี้ ลูกค้าต้องไม่เคยมีประวัติค้างชำระค่างวดเกินกว่า 3 เดือน

3. การพิจารณาเครดิต หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กำหนด และบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่เห็นสมควรโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ประเมินสินเชื่อรถได้ที่นี่ – https://www.kasikornleasing.com/th/calculator/Pages/used-car.aspx

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.kasikornleasing.com/th/loan/Pages/auto-hire-purchase-used.aspx

กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง (KTB Leasing)

KTB-Leasing

KTB-Leasing-Secondhand-Interest-Rate-2018

ปี 2563 ดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) ร้อยละ 2.60 – 4.55 ต่อปี (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการผ่อนชำระ)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – http://www.ktbleasing.co.th/Content/System/MainSaleCar

ธนาคารธนชาต (Thanachart Bank)

Thanachart-Bank-Secondhand-Interest-Rate-2021

ปี 2564 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.90% – 16.70% ต่อปี

สำหรับรถเก๋ง

  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2007 – 2011 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 5.70 – 15.25% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 10.46 – 23.90% ต่อปี
  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2012 – 2013 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.65 – 14.75% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 8.63 – 23.24% ต่อปี
  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2014 – 2015 ขึ้นไป ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.35 – 14.35% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 8.10 – 22.70% ต่อปี
  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2016 ขึ้นไป ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.90 – 13.95% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 7.29 – 22.17% ต่อปี

สำหรับรถกระบะ / รถตู้

  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2007 – 2011 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 6.40 – 16.70% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 11.66 – 25.79% ต่อปี
  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2012 – 2013 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 5.25 – 15.25% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 8.80 – 23.50% ต่อปี
  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2014 – 2015 ขึ้นไป ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.75 – 14.95% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 8.80 – 23.50% ต่อปี
  • หากรถยนต์จดทะเบียนในปี 2016 ขึ้นไป ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.40 – 14.65% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 8.19 – 23.11% ต่อปี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.thanachartbank.co.th/TbankCMSFrontend/PersonalTHDetail.aspx?PTypeID=9&ProID=127&PName=Personal

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (Kiatnakin Phatra Bank)

Kiatnakin-Phatra-Secondhand-Interest-Rate-2021

ปี 2563 – 2564 สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ร้อยละ 2.65 – 9.00% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการผ่อนชำระ) และอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 4.77 – 16.61% ต่อปี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://bank.kkpfg.com/th/interest/auto-loan

ธนาคารทิสโก้

Tisco-Bank-Secondhand-Interest-Rate-2018

ปี 2561 – 2564 อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี (Flat Interest Rate) ร้อยละ 6.00 – 7.00% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 10.97 – 13.51% ต่อปี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.tisco.co.th/th/rates.html

กรุงศรีออโต้ (Krungsri Auto)

Krungsri-Auto-Secondhand-Interest-Rate-2020-2021

ปี 2564 กรุงศรี รถบ้าน สินเชื่อรถบ้าน ดอกเบี้ยรถยนต์ใช้แล้วที่จดทะเบียนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 15 ปี

ดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) เริ่มต้น ร้อยละ 4.00 – 15.00 ต่อปี (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการผ่อนชำระ) และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 7.00 – 27.69% ต่อปี

สำหรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไป ดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) เริ่มต้น ร้อยละ 10.00 – 19.00 ต่อปี (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการผ่อนชำระ) และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะอยู่ที่ร้อยละ 18.00 – 33.69% ต่อปี

กรุงศรี รถบ้าน สินเชื่อรถบ้าน

กรุงศรี รถบ้าน สินเชื่อรถบ้าน เป็นบริการสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสองโดยตรงจากเจ้าของรถหรือที่เรียกกันว่า รถซื้อ-ขายกันเอง หรือรถบ้าน

จุดเด่นของสินเชื่อรถบ้าน “กรุงศรี รถบ้าน” (Rod Baan)
  • ให้วงเงินสูงสุดถึง 90% ของราคาประเมินรถยนต์ของธนาคารฯ
  • ดอกเบี้ยต่ำ
  • ผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน
  • ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน (เฉพาะผู้สมัครที่มีสัญชาติไทย)
  • ให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อขายจนถึงการขอสินเชื่อเช่าซื้อ ทำสัญญา และประเมินราคารถ และสะดวกรวดเร็วกับ บริการดิลิเวอรี่ ที่ให้บริการทำสัญญาถึงบ้าน

กรุงศรี ยูสด์ คาร์ สินเชื่อรถเต็นท์

ให้ท่านเป็นเจ้าของรถเต็นท์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องรอเก็บเงินก้อน ด้วยสินเชื่อรถเต็นท์ กรุงศรี ยูสด์ คาร์

พบข้อเสนอที่หลากหลาย พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของท่านจากธนาคาร อาทิ วงเงินสินเชื่อประมาณ 80% ของราคารถ ระยะเวลาการเช่าซื้อนานสูงสุด 84 เดือน ดาวน์น้อย หรือไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เป็นต้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.krungsriauto.com/auto/Products.html

ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ (CIMB Thai Auto)

สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว คือสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์จะซื้อรถยนต์มือสอง ไม่ว่าจะซื้อจากผู้แทนจำหน่ายที่เป็นตัวแทน(เต็นท์) หรือซื้อจากเจ้าของรถยนต์โดยตรงก็สามารถยื่นขอสินเชื่อกับบริษัทฯได้ด้วยเงื่อนไขที่พิเศษสุดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 684 6500
  • ให้วงเงินสูง*
  • รับรถ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ อายุจดทะเบียนสูงสุด 19 ปี*
  • ดอกเบี้ยต่ำ*
  • ผ่อนนานสูงสุด 72 งวด*
  • ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน*
หมายเหตุ *อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับประเภทรถ ปีจดทะเบียนของรถยนต์ และระยะเวลาการผ่อนชำระ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด กำหนด
ท่านสามารถคำนวณอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นด้วยตัวของท่านเอง – https://www.cimbthaiauto.com/calculate.php

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.cimbthaiauto.com/product-usedcar-cal.htm

เงินติดล้อ

Ngerntidlor-เงินติดล้อ-Interest-Rate-2021

ปี 2564 รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ รถบัส รถบรรทุก อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่สูงสุด

  • ปีรถ 2544 – 2548 1.80% ต่อเดือน
  • ปีรถ 2549 – 2553 1.55% ต่อเดือน
  • ปีรถ 2554 – 2558 1.30% ต่อเดือน
  • ปีรถ 2559 – 2564 1.05% ต่อเดือน

(เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 22.50% – 34.74% ต่อปี)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – https://www.ngerntidlor.com/

ดูอัตราดอกเบี้ยรถมือสองกันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากขายรถเดิม เพื่อจะเปลี่ยนรถใหม่ ก็สามารถขายกับทาง CARRO ได้ง่ายๆ ได้ราคาที่ดีที่สุด พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

The-3-Best-MPV-Toyota-Kia-Hyundai

รถ MPV ป้ายแดงยอดนิยม ในราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท ปีนี้ถือว่าแข่งกันดุเดือดกันเลยทีเดียว เพราะตลาดกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร จนค่ายรถหลายค่าย ต่างพยายามที่จะทำราคา เจาะกลุ่มคนมีครอบครัวขนาดใหญ่ นักธุรกิจ เจ้าของกิจการต่างๆ ที่นิยมใช้รถประเภทนี้ ให้ได้มากที่สุด

CARRO Thailand จึงขอนำรถ MPV ยอดฮิตในหมู่คนไทย 3 แบรนด์ 3 รุ่น ได้แก่ Toyota Majesty (โตโยต้า มาเจสตี้), KIA Grand Carnival (เกีย แกรนด์ คานิวัล) และ Hyundai H-1 (ฮุนได เอชวัน) พร้อมตารางราคา และอัตราดอกเบี้ย จากในงาน Motor Expo 2019 มาเปรียบเทียบกันให้เห็น แบบช้าๆ ชัดๆ!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ ต้อนรับปีใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Toyota-Majesty

Toyota Majesty 2020

ข้อดี : คันใหญ่ ตัวรถยาว (5,265 มม.) และกว้าง (1,950 มม.) พื้นที่ภายในกว้าง นั่งสบาย เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร หรือครอบครัวใหญ่ๆ ที่มีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ราคารับได้ ออพชั่นเยอะ ศูนย์บริการและอะไหล่มีพร้อม วงเลี้ยวแคบสุดในระดับเดียวกัน พวงมาลัยไม่หนัก ช่วงล่างดี

ข้อด้อย : ตัวรถยาว สูง และกว้าง หาที่จอดรถในเมืองยาก ขึ้น-ลง ลานจอดรถบางที่ลำบาก เจ้าของรถถ้าขับเอง ความรู้สึกเหมือนคนขับรถให้ผู้บริหาร

รายละเอียดตัวรถ : รถตู้ระดับพรีเมี่ยม หรือ Luxury Van มาใน Concept “Live Beyond the Class” ดีไซน์อันโดดเด่น หรูหรา และเป็นเอกลักษณ์ ที่นั่งแบบ Captain seat พร้อมระบบบริหารหลังไฟฟ้า และการออกแบบเครื่องยนต์วางหน้า (Semi-Bonnet) ให้ความเงียบภายในห้องโดยสาร และระบบ ระบบ T-Connect Telematics

ควบคู่ไปกับระบบช่วงล่างแบบใหม่ ช่วยซับแรงสั่นสะเทือน และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก อย่าง Toyota Safety Sense และสามารถรองรับน้ำมันดีเซล B20 ได้

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน
  • ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED
  • ไฟตัดหมอก
  • กระจกมองข้างพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว
  • ล้ออัลลอย 17 นิ้ว
  • เบาะหลังพับได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
  • ประตูบานสไลด์ไฟฟ้า 2 ด้าน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • พวงมาลัยตกแต่งด้วยลายไม้พร้อมปุ่มควบคุม
  • มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
  • ที่นั่งปรับนอนไฟฟ้าพร้อมที่รองขาปรับอัตโนมัติ
  • จุดยึดเบาะหนังสำหรับเด็ก 4 ตำแหน่ง
  • ที่นั่งแบบ Captain Seat พร้อมระบบบริหารหลังไฟฟ้า
  • ที่วางแก้วน้ำและช่องต่อ USB 7 ตำแหน่ง
  • ม่านบังแดดและไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
  • ไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal)
  • ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Difference)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
  • กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
    Toyota Safety Sense (เฉพาะรุ่น Grande)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร Turbo รหัส 1GD-FTV ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,200 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 5,265 มม. กว้าง 1,950 มม. สูง 1,990 มม. ระยะฐานล้อ 3,210 มม. ล้อแบบล้อแม็ก 17 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2562)

  • รุ่น Standard ราคา 1,799,000 บาท
  • รุ่น Premium ราคา 1,899,000 บาท
  • รุ่น Grande ราคา 2,199,000 บาท

KIA-Grand-Carnival

KIA Grand Carnival 2020

ข้อดี : คันใหญ่ กว้างสุดในระดับเดียวกัน (1,985 มม.) นั่งสบาย ขับง่าย พื้นฐานแบบรถเก๋ง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ งานประกอบดี กำลังเครื่องให้เยอะสุดในรถระดับเดียวกัน ช่วงล่างค่อนข้างนุ่มนวล เกาะถนน การทรงตัวค่อนข้างดี เจ้าของรถ สามารถขับเองได้อย่างมั่นใจ ภาพลักษณ์แบบรถครอบครัวมากกว่า

ข้อด้อย : อะไหล่หายาก ศูนย์บริการมีน้อย ไม่ครอบคลุมในต่างจังหวัด ราคาตกมากกว่า ห้องโดยสารภายใน หลังคาเตี้ยไปหน่อย สำหรับคนที่สูง 170 ซม. ขึ้นไป

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถยนต์ Premium MPV อเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอดตั้งแต่เปิดตัวในปี 2015 โดยในช่วงปลายปี 2019 นี้ ได้เปิดตัวรุ่นย่อย LX ที่นำเข้าจากประเทศเวียดนาม สามารถทำราคาได้ถูกลงกว่าเดิม ส่วนในรุ่น EX และ SXL ยังคงนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้เหมือนเดิม พร้อมฟังก์ชัน และระบบอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ภายในรถที่ครบครัน

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • หน้าปัดแบบ Supervision Cluster ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล 7″ TFT LED
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
  • ระบบวิทยุที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (เฉพาะรุ่น EX และ SXL)
  • เบาะหลังแถวที่ 4 สามารถพับเก็บแบบ Pop-Up Sinking ที่สามารถดึงออก และพับเก็บได้อย่างง่ายดาย ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
  • Dual Sunroof ระบบซันรูฟไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง บริเวณเหนือศีรษะคนขับ และเหนือเบาะแถวที่ 2 (เฉพาะรุ่น SXL)
  • ระบบประตูข้างไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดาย ด้วยรีโมทคอลโทรลแผงควบคุมเหนือศีรษะคนขับ หรือด้วยระบบ Smart Entry ด้วยปุ่มที่ตำแหน่งด้ามจับของประตูด้านนอก
  • ระบบประตูท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เปิด-ปิดประตูท้ายอย่างง่ายดาย
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ ที่ออกตัวได้ทันทีหลังจากเบรก เพียงแค่เหยียบคันเร่ง (เฉพาะรุ่น EX และ SXL)
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะผู้ขับขี่ และ กระจกมองข้าง 2 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น SXL)
  • ระบบเบาะทำความเย็นคู่หน้า (เฉพาะรุ่น SXL)
  • Blind Spot Detector ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
  • Rear Cross Traffic Alert ระบบเตือนเมื่อมีรถขับผ่านด้านหลัง
  • Electronic Stability Control Package ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ (ESC) ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเบรก (ฺBAS) และระบบช่วยออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HAC)
  • ISOFIX หูเกี่ยวติดตั้งเบาะสำหรับเด็กบนเบาะแถวที่ 2

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว CRDi ให้แรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,750 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 5,115 มม. กว้าง 1,985 มม. สูง 1,740 มม. ระยะฐานล้อ 3,060 มม. ล้อแบบล้อแม็ก 18 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2562)

  • รุ่น LX ราคา 1,397,000 บาท
  • รุ่น EX ราคา 1,991,000 บาท
  • รุ่น SXL ราคา 2,292,000 บาท

Hyundai-H-1

Hyundai H-1 2020

ข้อดี : เป็นรถ MPV แบบ 11 ที่นั่ง ที่ออกมานานที่สุด (ตั้งแต่ปี 2551) ในบรรดา 3 คันนี้ ย่อมมั่นใจได้ว่า อะไหล่ต่างๆ หาได้ง่ายกว่าแน่นอน และมีราคาไม่แพง เพราะผลิตที่อินโดนีเซีย (ในส่วนของ Grand Starex มาในแบบ MPV หรู 7 ที่นั่ง ราคาแพงขึ้นมาอีกนิดนึง) อีกทั้ง Hyundai ยังมีศูนย์บริการที่กระจายอยู่หลายที่ในประเทศ และเป็นรถที่เจ้าของขับเองได้ แม้ว่าจะคันใหญ่ไปสักหน่อย แต่เหมาะมากสำหรับคนที่มีครอบครัวใหญ่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ขึ้น-ลงรถ สะดวก

ข้อด้อย : ตัวรถสูง การเข้า-ออก ลานจอดรถ อาจต้องระวังนิดนึง และ H-1 พื้นฐานแบบรถตู้ ช่วงล่างค่อนข้างไม่นุ่มนวลนัก คนขับดูเหมือนคนขับรถให้ผู้บริหารนั่ง

รายละเอียดตัวรถ : ห้องโดยสารขนาดใหญ่ของ H-1 รองรับผู้โดยสารได้ถึง 11 ที่นั่ง สามารถปรับเลื่อนตำแหน่งเบาะที่นั่งได้หลากหลายเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย และพื้นที่วางสัมภาระได้ตามความต้องการ

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมียมสลับดำ
  • สเกิร์ตหน้า / ข้าง และกันชนหลังตกแต่งด้วยแถบโครเมียม
  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
  • ไฟตัดหมอก
  • ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ประตูสไลด์ไฟฟ้าสองข้าง พร้อมรีโมท (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ไฟส่องพื้นที่กระจกมองข้าง (Puddle Lamps) (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • เบาะหนัง / เบาะแถวที่ 2 ปรับหมุน 180 องศา
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
  • ภายในตกแต่งลายไม้
  • พนักพิงศีรษะแบบปีกผีเสื้อ (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบเบาะ อุ่น/เย็น สำหรับคนขับ (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • คันเกียร์หุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED พร้อม Mood Lighting เปลี่ยนได้ 6 สี (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ช่องจ่ายไฟ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • เครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • จอภาพ LCD ติดเพดานพับไฟฟ้าแบบ Full HD 13.3 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง สำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ Smart View (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP (เฉพาะรุ่น Deluxe)
  • Entertainment Counter ระบบบันเทิงเต็มรูปแบบ หน้าจอขนาดใหญ่ 22 นิ้ว แบบ Full HD พร้อมเครื่องเล่น DVD เบสนุ่มลึกด้วยลำโพงคุณภาพสูง 4 ตำแหน่ง จาก Pioneer (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
  • Electric VIP Seats เบาะหนัง ปรับเอนพนักพิงและที่รองขาด้วยระบบไฟฟ้า หมอนรองศีรษะออกแบบพิเศษในลักษณะปีกผีเสื้อ (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
  • Heated/Ventilated Seat เบาะนั่งตำแหน่งคนขับสามารถปรับความเย็นหรืออุ่นได้ 3 ระดับ (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
  • Wireless Charger ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายบริเวณที่นั่งข้างคนขับ (เฉพาะรุ่น Grand Starex)

เครื่องยนต์ : ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส D4CB Variable Geometry Turbocharger และ Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 2,250 รอบ/นาที

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Shift ทุกรุ่น รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร

มิติตัวรถ : ยาว 5,169 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,925 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ล้อแบบอัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ราคาจำหน่าย : (Update ล่าสุด เดือนธันวาคม 2562)

  • รุ่น Touring ราคา 1,329,000 บาท
  • รุ่น Elite ราคา 1,529,000 บาท
  • รุ่น Deluxe ราคา 1,729,000 บาท
  • รุ่น Grand Starex Premium ราคา 2,349,000 บาท
  • รุ่น Grand Starex VIP ราคา 2,399,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ All-New Toyota Majesty 2020 ใหม่

Toyota-Majesty-Price-Motor-Expo-2019

ตารางผ่อนดาวน์ New KIA Grand Carnival 2020 ใหม่

KIA-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

ตารางผ่อนดาวน์ New Hyundai H-1 2020 ใหม่

Hyundai-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

สำหรับใครที่ต้องการดูไฟล์ภาพขนาดใหญ่ สามารถ “ดาวน์โหลด” ได้ข้างล่างนี้

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ All-New Toyota Majesty 2020 ใหม่

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ New KIA Grand Carnival 2020 ใหม่

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ New Hyundai H-1 2020 ใหม่

ในเวลานี้ ใครที่อยากขายรถ เพื่อซื้อรถใหม่ ต้อนรับปีใหม่นี้ ต้องนึกถึงเรา CARRO! เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand จ้า แค่นี้การเปลี่ยนรถใหม่ของคุณ ก็ง่ายขึ้นแล้ว

Compare-Price-Interest-Rate-Nissan-Almera-2020-vs-Honda-City-2020

CARRO Thailand นำตารางราคา และอัตราดอกเบี้ย ของ Nissan Almera 2020 (นิสสัน อัลเมร่า) และ Honda City 2020 (ฮอนด้า ซิตี้) ในงาน Motor Expo 2019 มาเปรียบเทียบกันให้เห็น แบบช้าๆ ชัดๆ!

หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนกันแบบไหนได้เลย 

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Nissan Almera 2020

All-New-Nissan-Almera-2020

ข้อดี : ราคาไม่แพง ดอกเบี้ยถูก ให้ออพชั่นเยอะ พื้นที่ภายในกว้างมาก พื้นที่เก็บสัมภาระ ใหญ่มาก

ข้อด้อย : วัสดุภายในสมราคา ไม่มีเบาะหนังแท้ ภายในห้องเครื่อง ดูไม่ค่อยเรียบร้อย ไม่มียางอะไหล่ให้ ในรุ่น Top สุด (เป็นชุดปะยางแทน) ส่วนรุ่นถูกสุด กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้าไม่ได้ และล้อยังเป็นกระทะเหล็ก

รายละเอียดตัวรถ : ออกแบบภายใต้ปรัชญา “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof)

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • กระจังหน้าแบบโครเมียมรมดำ (ในรุ่น VL)
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (ในรุ่น VL)
  • เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC)
  • เทคโนโลยีออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA)
  • เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning (IFCW)
  • เทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
  • เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM)
  • ระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth®, USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
  • สวิตซ์ควบคุมหน้าจอ แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT บนพวงมาลัย
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Apple CarPlay® (สำหรับระบบปฏิบัติการณ์ iOS)
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • สวิตซ์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และรับโทรศัพท์บนพวงมาลัย
  • เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning system (BSW) (ในรุ่น VL)
  • เทคโนโลยีตรวจจับวตถุด้านหลังรถขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA) (ในรุ่น VL)
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) (ในรุ่น VL)
  • ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (ในรุ่น VL)
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Intelligent Key – I-Key)

เครื่องยนต์ : ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

มิติตัวรถ : ยาว 4,495 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,460 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม. ล้อมีทั้งกระทะเหล็กพร้อมฝาครอบ 15 นิ้ว และล้อแม็ก 15 นิ้ว

มีสีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง Radiant Red สีส้ม Monarch Orange สีขาว Storm White สีดำ Black Star สีเทา Gun Metallic และสีเงิน Brilliant Silver

ราคาจำหน่าย :

  • รุ่น S ราคา 499,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 639,000 บาท

Honda City 2020

All-New-Honda-City-RS-2020

ข้อดี : รูปทรงสวย สปอร์ต ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย พื้นที่เก็บสัมภาระ ใหญ่มาก เครื่องแรง ช่วงล่างเกาะถนน ห้องเครื่องเก็บสายไฟ เก็บท่อต่างๆ ได้เรียบร้อย

ข้อด้อย : ราคาจำหน่าย ที่สูงไปนิดนึง แม้ว่าจะลดลงมาจากโฉมที่แล้วก็ตาม และชุดคอนโซลภายใน บางคนติดว่าสวยสู้โฉมเก่าไม่ได้ ซึ่งก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน กับระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ดูธรรมดาไปหน่อย

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถในขนาด B-Segment (หรือ Sub-Compact ที่กระโดดลงมาเล่นในตลาดรถ Eco-Car Phase 2 แต่ทาง Honda ไม่เรียก Eco-Car แต่เรียกเป็น Ecology Car)

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • กระจังหน้าแบบโครเมียม
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว (ในรุ่น RS)
  • เบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV)
  • คอนโซลหน้าแบบ Piano Black
  • มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
  • ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน (ในรุ่น RS)
  • กระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS (ในรุ่น RS)
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED (ในรุ่น RS)
  • กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว (ในรุ่น RS)
  • สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS (ในรุ่น RS)
  • เบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (ในรุ่น RS)

เครื่องยนต์ : ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbocharger ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทุกรุ่น ให้อัตราเร่ง และประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.8 กม./ลิตร และมี Paddle Shifts เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้ แบบ 7 สปีด และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้

มิติตัวรถ : ยาว 4,553 มม. กว้าง 1,748 มม. สูง 1,467 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม.

มีสีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีขาว Platinum (มุก) เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV สีดำ Crystal (มุก) สีเงิน Lunar (เมทัลลิก) สีเทา Modern Steel (เมทัลลิก) และสีขาว Taffata เฉพาะรุ่น V และรุ่น S

ราคาจำหน่าย :

  • รุ่น S ราคา 579,500 บาท
  • รุ่น V ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 739,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ All-New Nissan Almera 2020 ใหม่

All-New-Nissan-Almera-2020-Price-List

ตารางผ่อนดาวน์ All-New Honda City 2020 ใหม่

All-New-Nissan-Almera-2020-Price-List

สำหรับใครที่ต้องการดูไฟล์ภาพขนาดใหญ่ สามารถ “ดาวน์โหลด” ได้ข้างล่างนี้

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ All-New Nissan Almera 2020 ใหม่

ราคา และตารางผ่อนดาวน์ All-New Honda City 2020 ใหม่

สำหรับใครที่มองหารถใหม่ ในรูปแบบอีโค่คาร์ อย่าพลาด! แต่ถ้าอยากขายรถคันเดิม ต้องนึกถึงเรา มาขายรถกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

Buy-Secondhand-Cars-And-Vat

เรื่อง “ภาษี” ถ้าคนที่ไม่คุ้นชิน มักจะมีอะไรที่ชวนให้งงอยู่เสมอ … แม้กระทั่งการซื้อ-ขายรถ ก็เช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ถ้าหากคุณซื้อรถมือหนึ่งจากโชว์รูม ไม่ว่าจะจ่ายด้วยเงินสด หรือจะผ่อนดาวน์ก็แล้วแต่ ล้วนถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ “VAT 7%” ด้วยกันทั้งสิ้น

แต่ถ้าซื้อรถมือสองล่ะ บางคนบอกว่า ฉันซื้อมา ไม่เห็นต้องเสียภาษีอะไรเลย แต่บางคนก็บอกว่าซื้อมาแล้ว ต้องเสียภาษี VAT 7% ด้วย!

CARRO จะมาเล่าให้ฟังครับ ว่าทำไม ซื้อรถมือสอง ถึงมีทั้งคนที่ต้องเสียภาษี และไม่ต้องเสียภาษี ครับ.

Buy-Secondhand-cars-And-VAT-Tax

VAT (Value Added Tax) คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ปัจจุบันเราจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ในอัตราคงที่ 7% (ซึ่งคำนวณมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม 6.3% + ภาษีท้องถิ่น 0.7%) เกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อขาย จะกี่ครั้งก็ตาม ผู้ขายจะต้องมีหน้าที่นำเงินส่ง กรมสรรพากร ครับ

ซื้อรถมือสอง หากคุณซื้อรถระหว่าง “บุคคลธรรมดา” ในกรณีนี้ “ไม่ต้องเสียภาษี”

เพราะจัดว่า บุคคลธรรมดา ได้ขายสินค้าที่เป็นทรัพย์สินสิ่งของใช้ส่วนตัว หากการขายรถดังกล่าว ไม่ได้กระทำไปในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ ก็ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนคนที่ซื้อรถไปก็เสียแต่ค่าโอนรถ + ค่าอากรแสตมป์แค่นั้นครับ

และในส่วนของ ผู้ขายรถ (ที่เป็นบุคคลธรรมดา) ทางกรมสรรพากร กำหนดให้ผู้มีเงินได้ได้รับยกเว้น ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ประจำปี ตามมาตรา 42 (9) แห่งประมวลรัษฎากร ก็คือ ขายรถได้เท่าไหร่ รับเงินเข้ากระเป๋าลูกเดียว ไม่ต้องจ่ายภาษีครับ

กรณีที่คุณซื้อกับเต็นท์รถ บริษัท หรือจากบุคคลที่ใช้ในการประกอบกิจการและเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม อันนี้ล่ะครับ ที่ “ต้องเสียภาษี”

เช่น เต็นท์รถที่คุณไปซื้อ เขาจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัด หรือในรูปแบบ ห้างหุ้นส่วนจำกัด, ห้างหุ้นส่วนสามัญ และ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ซึ่งราคารถที่เขาลงประกาศนั้น หากมีการลงบัญชีเข้าในบริษัทแล้ว ก็ย่อมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือ VAT 7%) เข้าไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง …

Buy-Secondhand-cars-And-VAT-Tax

ยกตัวอย่างเช่น รถมือสองที่คุณกำลังจะซื้อราคา 400,000 บาท บวกกับ VAT 7% ของราคารถเท่ากับ 28,000 บาท ดังนั้นราคาตัวรถจริงๆ ที่คุณจะต้องจ่าย นั่นคือ 400,000 + 28,000 = 428,000 บาท

ไม่ว่าจะซื้อสด หรือซื้อผ่อน ก็ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มครับ แต่โดยมากแล้ว ทางเต็นท์ก็จะมีวิธีการจัดการเอา เราก็อาจไม่ต้องเสียภาษีครับ

หรือยกเว้นว่า เป็นรถฝากขาย เต็นท์รถจะให้ผู้ฝากขายรถโอนลอย เมื่อมีคนมาซื้อไป หรือรถบ้าน ที่ผู้ซื้อผู้ขายตกลงไปซื้อกันเอง อย่างนี้ไม่เสียภาษี

Buy-Secondhand-cars-And-VAT-Tax

อีกกรณีหนึ่ง รถที่เต็นท์ไปประมูลมาจากบริษัทประมูล เขาบวกภาษีมูลค่าเพิ่มมาเรียบร้อยแล้ว พอทางเต็นท์นำรถมาขาย เขาจึงต้องบวกภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปอีกต่อหนึ่ง เท่ากับว่า รถคันนี้เสียภาษีมาแล้วสองต่อ ทำให้ราคาสุทธิแพงขึ้น ถ้าเทียบกับซื้อต่อจากบุคคลธรรมดา

ถ้าหากนำรถไปจัดไฟแนนซ์ด้วยแล้ว ก็ยังต้องเสีย VAT 7% เพิ่มอีกเช่นกันครับ

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

อยากขายรถติดไฟแนนซ์

หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ผู้ขายรถส่วนใหญ่อยากรู้ สำหรับเศรษฐกิจยุคนี้ เสียงส่วนใหญ่ของคนใช้รถคือ “ผ่อนรถไม่ไหว” และโทรมาปรึกษากันบ่อยมากๆ ถ้าหากคุณผ่อนรถต่อไม่ไหว และรถคันนั้นยังอยู่ในไฟแนนซ์ จะขายเป็นรถมือสองได้ไหม? ในบทความนี้ CARRO มีคำตอบ

อันดับแรก สิ่งที่ผู้ขายทุกคนควรทราบเอาไว้ ว่าถ้าหากคุณได้ทำการกู้สินเชื่อรถยนต์ผ่านไฟแนนซ์ และอยากจะทำการขายรถ โดยที่คุณยังผ่อนไม่ครบงวด ชื่อผู้มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของรถยนต์คันนั้น ยังเป็นชื่อของไฟแนนซ์อยู่ นั่นเท่ากับว่าคุณมีฐานะเป็นแค่ “ผู้เช่าซื้อรถยนต์” เท่านั้น

ซึ่งถ้าหากคุณตัดสินใจแล้วว่าต้องการขายรถยนต์ เราขอแนะนำให้ปฎิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้

Know-10-Thai-Words-About-Used-Car

1. สิ่งที่ควรทำก่อนการซื้อขายรถยนต์

หลังจากที่มีคนสนใจมาซื้อรถคุณแล้ว หรือตกลงกับทางดีลเลอร์รถมือสองเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อไปก็คือ

1.1 นำเงินไปปิดไฟแนนซ์

วิธีแรก คือ การนำเงินไปปิดไฟแนนซ์ที่เหลือให้หมด ซึ่งวิธีการนี้ผู้ซื้อและผู้ขาย ควรตกลงกันก่อน ว่าจะนำเงินของฝ่ายใดไปปิดไฟแนนซ์ เพราะหลังจากที่คุณนำเงินไปปิดไฟแนนซ์เรียบร้อยแล้ว สมุดคู่มือทะเบียนรถ รวมถึงกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถ จะถูกโอนมาเป็นของผู้ขาย จากนั้นผู้ขาย จึงทำการโอนให้ผู้ซื้ออีกทีหนึง

TIPS: ส่วนใหญ่ถ้านำเงินไปปิดไฟแนนซ์ จะมีข้อดี ตรงที่ได้ส่วนลดค่าดอกเบี้ย จากทางบริษัทไฟแนนซ์

1.2 เปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อ (คนผ่อนรถ) ให้เป็นชื่อผู้ซื้อ

ถ้าหากผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะใช้เงินใครไปปิดไฟแนนซ์ แนะนำว่าให้ไปที่บริษัทไฟแนนซ์ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถคันนั้น และให้โอนชื่อจากผู้ขาย ไปเป็นชื่อผู้ซื้อ ให้ผู้ซื้อเป็นคนจ่ายค่างวดผ่อนรถต่อแทน แต่อาจจะต้องมีการจ่ายค่ารถด้วยในกรณีที่ผู้ขาย ต้องการค่ารถทั้งหมดที่เคยผ่อนมา ผู้ขายย่อมไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ จีงเป็นที่มาของคำว่า “ขายดาวน์”

TIPS: ข้อดีของการโอนชื่อผู้เช่าซื้อ คือคุณไม่ต้องกังวล ในกรณีที่ไม่มีการส่งค่างวดไฟแนนซ์ต่อ เพราะถือว่าผู้ขายได้โอนกรรมสิทธิ์ผู้เช่าซื้อให้ผู้ซื้อที่ซื้อรถต่อจากคุณเรียบร้อยแล้ว

Toyota-Vios-Carro-Express

2. เลือกว่าจะขายรถให้ใคร

2.1 ขายให้ดีลเลอร์รถมือสอง (เต็นท์รถมือสอง)

ข้อดีของการขายรถให้ “ดีลเลอร์รถมือสอง” คือ สะดวก รวดเร็ว ได้เงินทันใจ เพราะถ้าหากคุณรีบใช้เงินจริง ทางเต็นท์รถอาจจะสามารถนำเงินไปปิดไฟแนนซ์ให้คุณได้เลย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตกลง ของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย รวมไปถึงราคารับซื้อ ที่อาจไม่ถูกใจคุณนัก

2.2 ขายให้กับ CARRO (คาร์โร)

ข้อดีจะคล้ายกับขายให้ดีลเลอร์รถมือสอง (เต็นท์รถมือสอง) แต่ข้อแตกต่างคือ มีความรวดเร็วกว่า และสะดวกกว่าต้องที่ไม่ต้องออกเดินทางไปโชว์รูมเอง แค่กรอกข้อมูล กับจำนวนเงินที่ต้องการ หลังจากนั้น คาร์โร จะดำเนินการให้ จนสามารถขายรถได้ในระยะเวลาอันสั้น และได้ราคาที่ดีที่สุดแน่นอน

TIPS: ซึ่งถ้าหากคุณอยากขายรถแบบด่วนๆ สามารถใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express (หรือคลิกที่รูปก็ได้) หรือโทร. 02-508-8425

Carro-Express

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ แล้วเราจะติดต่อกลับโดยด่วนที่สุด—> เพิ่มเพื่อน

วิธีการขายก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่กรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้ รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ ของรถคุณ พร้อมราคารถที่คุณต้องการขาย และอย่าลืม! รูปภาพรถหลายๆ มุม ทั้งภายนอกและภายใน

พอเจ้าหน้าที่ของ CARRO ตรวจสอบข้อมูลเสร็จ ก็จะติดต่อกลับมาหาคุณภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าข้อมูลมีไม่เพียงพอ แต่ถ้ามีข้อมูลครบถ้วน ก็จะนัดตกลงราคา ตรวจสภาพรถของคุณ พร้อมเซ็นสัญญาซื้อขาย และปิดการขายได้ทันที รับเงินสดกลับบ้านได้เลยจ้า

Carro-Express-Instruction

2.3 ขายรถเองไม่ผ่านคนกลาง

หรือถ้าหากใครไม่รีบร้อน ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ โดยการไปประกาศขายรถด้วยตัวเอง แบบไม่ผ่านคนกลาง แต่ก็จะมีข้อเสียคือ อาจจะต้องรอจนกว่าจะมีผู้ซื้อสนใจมาดูรถ ซึ่งอาจจะช้าหรือเร็วก็ได้ แต่การขายด้วยวิธีนี้ คุณจะต้องมั่นใจว่า คนที่ซื้อต่อรถคุณไป เขาจะไปเปลี่ยนสัญญาผ่อนต่อ หรือไปปิดไฟแนนซ์จริงๆ ไม่อย่างนั้นก็จะมีคดีแพ่งที่คุณต้องมาตามล้างตามเช็ด จ่ายหนี้แบบไม่ได้ใช้รถต่ออีก

และต้องระวังเรื่อง “สัญญาซื้อขาย” เพราะจะเป็นหลักฐานในกรณีที่คุณนำรถไปขายเอง เพราะคุณต้องรู้ว่า รถติดไฟแนนซ์ เป็นทรัพย์สินในสัญญาเงินกู้ คุณยังไม่ได้เป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ หากคนซื้อเกิดเบี้ยวขึ้นมา ทางไฟแนนซ์สามารถฟ้องได้ทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา (ฐานยักยอกทรัพย์) นะครับ

TIPS: ซึ่งถ้าหากคุณอยากขายรถแบบไม่รีบร้อน สามารถไปโพสต์ประกาศขาย “โพสต์ขายออนไลน์” ได้ฟรี! บนเว็บไซต์ของ CARRO เพียงแค่คุณลงทะเบียนเบอร์ OTP สำเร็จ ก็สามารถใช้งานได้ทันที!

Carro-Express

3. ทำการซื้อ-ขาย รถยนต์ และไปโอนกรรมสิทธิ์รถ

หลังจากที่คุณได้จัดการเรื่องไฟแนนซ์เรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถไปซื้อ-ขาย รถยนต์ และไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้

– ซึ่งถ้าหากคุณได้นำเงินไปปิดไฟแนนซ์แล้ว คุณจะได้เล่มสมุดคู่มือทะเบียนรถมา และสามารถไปโอนได้ที่กรมการขนส่ง *สามารถดูรายละเอียดการเตรียมเอกสารได้ ที่นี่

– แต่ถ้าหากคุณได้เลือกวิธีที่สอง คือการโอนชื่อผู้เช่าซื้อ สมุดคู่มือทะเบียนรถ และกรรมสิทธิ์รถคันนั้นจะยังเป็นของไฟแนนซ์ ซึ่งผู้ขายต้องจัดเตรียมเอกสารของรถคันนั้นทั้งหมด เพื่อส่งต่อให้ผู้ซื้อไปดำเนินการเอง เมื่อส่งค่างวดไฟแนนซ์ครบเรียบร้อย

Beware-While-Transfer-Car

ข้อควรระวัง: ถ้าหากคุณต้องการขายรถที่ติดไฟแนนซ์ ไม่แนะนำให้ขายรถไปทั้งๆ ที่ยังไม่ปิดไฟแนนซ์ หรือชื่อผู้เช่าซื้อรถยนต์ยังเป็นชื่อผู้ขายอยู่ เพราะตามกฎหมายแล้ว ผู้เช่าซื้อมีสิทธิครอบครองเท่านั้น ไม่มีสิทธินำไปขายต่อให้ผู้อื่น มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา ไม่ว่าจะเป็นการขายให้เต็นท์ หรือขายเอง

สรุปว่า หากคุณทำตามขั้นตอนในบทความนี้ รถที่ยังติดไฟแนนซ์ของคุณ ก็จะสามารถขายต่อได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย และยังเป็นการป้องกันการโดนโกงได้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปเลือกใช้

และสำหรับใครที่ยังนึกไม่ออกว่า ขายรถที่ไหนดี? หรือขายรถติดไฟแนนซ์ได้ที่ไหน ก็อย่าลืมนึกถึง CARRO นะครับ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้ ที่ Facebook CARRO Thailand