Mazda-Annual-Sales-Volume-In-Thailand

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจประจำปี 2562 ที่ผ่านมา ยอดขายพุ่งสูงสุดเกือบ 6 หมื่นคัน Mazda2 (มาสด้า2) ยังคว้าแชมป์สองปีติดต่อกัน

มั่นใจปี 2563 ตลาดรถยนต์จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เน้นการบริหารงานแบบครบวงจร เตรียมเสริมทัพรถใหม่อีกเพียบ ทั้งรถเก๋ง รถอเนกประสงค์ รถครอสโอเวอร์ Mazda CX-30 และรถปิกอัพ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

มั่นใจปีนี้ยอดขายมากกว่า 60,000 คัน และครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6%

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อไปถอยรถ Mazda รุ่นใหม่ๆ ต้อนรับปี 2020 ลองมาขายคันเก่ากับ CARRO Express ดูสิ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2562 ที่ผ่านมา ถูกคาดการณ์ว่ายอดรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปี 2561 ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 1.04 ล้านคัน แม้จะมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกเข้ามากระทบ แต่ท้ายที่สุดตัวเลขรวมก็ทะลุ 1 ล้านคัน (ประมาณการ) ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

All-New-Mazda-CX-8-2019

ในส่วนของมาสด้าสามารถบรรลุยอดขายรวมได้สูงถึง 58,129 คัน ลดลงประมาณ 17.5% และครองส่วนแบ่งการตลาด 5.8% แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 46,704 คัน รถอเนกประสงค์จำนวน 5,736 คัน โดยเฉพาะการเปิดตัว CX-8 Crossover 7 ที่นั่ง ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าแบบครอบครัวจนสร้างกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า รวมทั้งรถปิกอัพจำนวน 5,664 คัน และรถสปอร์ต MX-5 จำนวน 25 คัน

เนื่องจากตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมามีการแข่งขันที่สูงมาก แม้ว่ามาสด้าจะส่งรถยนต์รุ่นใหม่ลงสู้ศึกในตลาดถึง 6 รุ่น แต่ทั้งหมดอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่กลับทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ สาเหตุสำคัญเกิดจากความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อตัวโปรดักซ์ทุกรุ่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมในทุกพื้นที่ การสื่อสารแบรนด์สู่ความเป็นพรีเมียมที่ลูกค้าสัมผัสได้จริง ตลอดจนการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี

ส่งผลให้ยอดขายรวมทะลุถึง 58,129 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 5.8%

All-New-Mazda-CX-8-2019

“ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2562 ขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 2.5% โดยรวมต้องบอกว่า “ดีขึ้น” แต่ยังต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น ปัจจัยสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งแม้ว่าจะจัดการเลือกตั้งได้ไปได้ด้วยดี แต่ก็ใช้เวลานานกว่าที่จะจัดการแต่งตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้โครงการสำคัญๆ ชะลอออกไป ไม่สามารถเดินต่อได้ จึงไม่มีกลไกมาช่วยส่งเสริม”

พร้อมกันนี้ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.8 – 3.0% ค่าเงินและเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ หากค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 30/ดอลลาร์ฯ ในปีนี้จะกระทบสินค้าเกษตร รถยนต์ และท่องเที่ยว การผลิตอาจลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน ด้านการท่องเที่ยว ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดลงจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เพราะประเทศไทยยังถือเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลัก จากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาเซียน รวมทั้งจากไทยเที่ยวไทย

The-All-New-Mazda3-2019

ประเด็นทางเศรษฐกิจไทย ปี 2563 จำเป็นต้องได้รับแรงหนุนจากภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ รัฐต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและการคลัง การลงทุนโครงการของภาครัฐคือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง อาทิ ท่าอากาศยาน ทางหลวงพิเศษ รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าในเมือง

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คือ สถานการณ์ทางการเมืองของไทยและสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงส่งผลมาถึงเศรษฐกิจไทย ส่วนปัญหาภัยแล้ง อาจกระทบภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในห่วงโซ่ แต่จะส่งผลให้ราคาพืชผลทางการเกษตรทุกชนิดมีแนวโน้มดีขึ้น

Mazda2-2020

ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2562 ยอดขายรวมทะลุ 1 ล้านคัน และที่สำคัญ มาสด้า2 ครองแชมป์เบอร์หนึ่งและตลาดรวมรถยนต์เก๋งมาสด้าครองอันดับ 3 อย่างถาวร ก้าวขึ้นครองอันดับหนึ่งของ B Car และ Eco Car เป็นปีที่สองติดต่อกัน

ล่าสุดการปรับโฉมของ New Mazda2 จะส่งผลให้มาสด้ายังคงรักษาแชมป์ในเซกเม้นต์นี้ต่อไป แม้ต้องเผชิญกับคู่แข่งรอบด้าน

ดังนั้น การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รถยนต์มาสด้า มียอดขายสะสมสูงถึง 2.6 แสนคัน ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี เท่านั้น

The-All-New-Mazda3-2019

สำหรับปี 2563 มาสด้ายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการสื่อสารวิสัยทัศน์ Sustainable Zoom-Zoom 2030 โดยยังคงเน้นเรื่อง “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “Joy of Driving” ซึ่งเป็นพื้นฐานที่เราไม่เคยเปลี่ยน

โดยในปีนี้ Mazda Motor Corporation กำลังจะครบ 100 ปี ในวันที่ 30 มกราคม นี้ และทาง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เตรียมจัดกิจกรรมไปพร้อมกันกับมาสด้าทั่วโลกตลอดทั้งปี 2020 และแน่นอนว่าเรากำลังเตรียมงานสำคัญเพื่อร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกัน

นโยบายเกี่ยวกับผู้จำหน่าย การปรับปรุงโชว์รูมทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ภายในปีงบประมาณ 2562 นี้ กิจกรรมส่งเสริมการขายจะถูกยึดถือเป็นนโยบายหลักเพื่อให้ดีลเลอร์ทั่วประเทศดำเนินการ ทุกคนต้องออกไปเจอลูกค้าด้วยตัวเอง เน้นสร้างทีมงานให้แข็งแกร่ง และดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด

ด้านผลิตภัณฑ์ ปี 2563 เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่ม Crossover SUV และครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง รถอเนกประสงค์ และรถปิกอัพ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ทั้งกลุ่มคนโสด คู่สมรส และกลุ่มครอบครัว ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ด้านอะไหล่และการขนส่ง มาสด้าปรับปรุงทั้งคุณภาพและราคาจนสามารถใกล้เคียงกับตลาด หรือบางชิ้นส่วนมีราคาที่ต่ำกว่าตลาด ด้านการจัดส่งอะไหล่ไปยังศูนย์บริการ มีบริการจัดส่ง 2 รอบต่อวัน สำหรับเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด 1 รอบต่อวัน

สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้า ประจำปี 2562 เปรียบเทียบกับปี 2561

ข้อมูลการขายรถ มกราคม – ธันวาคม 2561 มกราคม – ธันวาคม 2562 % เปลี่ยนแปลง
มาสด้า2 45,972 41,987 – 8.6
มาสด้า3 5,255 4,717 – 10.2
มาสด้า CX-3 3,536 1,971 – 44.2
มาสด้า CX-5 8,184 3,020 – 63.0
มาสด้า CX-8 n/a 745 n/a
มาสด้า BT-50 โปร 7,498 5,664 – 24.4
มาสด้า MX-5 30 25 – 16.6
ยอดรวม 70,475 58,129 – 17.5
CEO-Honda-Confident-Hybrid-Popular-More-EV-Car

แม้ว่าในโลกยุคปัจจุบัน “รถยนต์ไฟฟ้า” นับได้ว่าเป็นเทรนด์ของโลกที่มาพร้อมๆ กับยุค Disruption ของอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่หลายรูปแบบ หนึ่งในผู้ที่สร้างความโดดเด่นที่สุดในวงการรถยนต์ไฟฟ้า คงต้องยกให้กับเขา “Elon Musk (อีลอน มัสก์)” ที่เมื่อวานที่ผ่านมา ก็เพิ่งถอดสูท เต้นระบำส่ายเอว ในการเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla (เทสล่า) ที่ประเทศจีน!

แต่เนื่องด้วยจากอุตสาหกรรมน้ำมัน และส่วนประกอบเกี่ยวเนื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ ยังคงเป็นผลประโยชน์ชิ้นใหญ่ของบริษัทน้ำมัน และบรรดา Supplier ทั่วโลก

จึงให้บรรดาค่ายรถยนต์หลายค่าย ที่แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่น และนำแสดงออกมาในรูปแบบรถ Concept Car (เรียกแบบไทยๆ ก็ รถต้นแบบ หรือ รถแนวคิด) ออกมาบ่อยๆ แต่ตัวเองก็ต้องพยายามปกป้องและผลักดัน ให้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปด้วยเชื้อเพลิง อยู่ในตลาดรถยนต์ไปให้นานที่สุด

ถ้าเบื่อรถคันเดิม อยากเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า มาขายรถคันเดิม กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

และทำไมล่ะ CEO Honda อย่าง Takahiro Hachigo (ทาคาฮิโระ ฮาจิโกะ) ถึงมองเทรนด์รถใหม่ คนนิยมรถไฮบริด มากกว่ารถ EV? MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟังกัน …

https://s3-prod-europe.autonews.com/s3fs-public/styles/width_792/public/Honda%20CEO%20Takahiro%20Hachigo%20web.jpg

Takahiro Hachigo

ทาง Takahiro Hachigo CEO ของ Honda Motor Co. ประเทศญี่ปุ่น ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Auto News Europe ยังคงวางเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ไฮบริด และขายรถยนต์ไฮบริดให้มากขึ้น และปรัชญาสำคัญของ Honda ก็ยังคงตั้งใจผลิตรถที่ประหยัดน้ำมันที่สุด ออกมาจำหน่ายเช่นเคย

แม้ว่าในปี 2030 นี้ Honda จะคาดหวังว่า ยอดขายรถยนต์ 2 ใน 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ไปตามวิสัยทัศน์ปี 2030 “Honda e:TECHNOLOGY” แล้วก็ตาม

แต่ CEO Honda ยังเชื่อว่ารถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ยังคงเป็นเทรนด์ของรถใหม่อยู่ในเวลานี้ ไม่คิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นกระแสหลักของวงการรถยนต์โลกในตอนนี้ และยังไม่เชื่อด้วยซ้ำไปว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เวลานี้จะต้องการรถยนต์ EV จริงๆ หรือ?

เพราะบรรดาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ในหลายๆ ประเทศ รวมไปถึงกฎหมายบางอย่าง ยังคงไม่พร้อมรองรับต่อรถยนต์ไฟฟ้านัก รถยนต์ไฟฟ้า จึงอาจไม่ใช่รถที่ผู้คนส่วนใหญ่ในเวลานี้ต้องการ และทาง Honda เองคิดว่า เราก็ยังคงต้องพัฒนารถยนต์ EV กันต่อไป

ซึ่งทาง Honda เราพยายามเน้นปรับปรุงรถยนต์ไฮบริด ให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน และใช้น้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้สภาวะแวดล้อมของโลกอยู่ในภาวะที่มลพิษน้อยที่สุด พร้อมกับผ่านมาตรฐานไอเสียอันเข้มงวดให้ได้อีกด้วย

พอมองในส่วนของระบบขับเคลื่อนรถยนต์โดยไร้คนขับ (Autonomous Driving) ทาง CEO Honda เอง กล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยบอกว่าเรามีการลงทุนไปถึงเรื่องนี้เช่นกัน รวมไปถึงการผลิตรถยนต์ที่ทำให้ผู้ขับขี่ เกิดอุบัติเหตุได้น้อยที่สุด หรือไม่เกิดขึ้นเลย

Honda-Accord-2019

หนึ่งในสิ่งที่ Honda ภูมิใจนำเสนอในรถหลายๆ รุ่น ที่เราได้เห็นกันในปัจจุบัน อาทิเช่น ระบบ “Honda Sensing” ที่ติดตั้งในรถยนต์รุ่น Civic และ Accord ซึ่งก็มีการใช้เรดาร์ ในการตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้า เพื่อช่วยผู้ขับขี่รถให้อยู่ในเลน รวมไปถึงการเบรกโดยอัตโนมัติ หากเข้าไปวัตถุด้านหน้ามากเกินไป เป็นต้น

แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ต้องใช้ต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง แต่ทาง Honda ก็จะพยายามพัฒนาฟังก์ชั่นเหล่านี้ ให้มีราคาที่ย่อมเยาว์ เพื่อจะได้ติดตั้งในรถทุกระดับได้ในอนาคต

https://www.synopsys.com/content/dam/synopsys/solutions/images/cs327718450-automotive-levels-infographic-v4.jpg.imgw.850.x.jpg

Levels of Driving Automation (แหล่งที่มา Synopsys.com)

เมื่อไหร่ก็ตามที่ไปถึงระดับ 3 ทาง Honda ก็คงต้องใช้ระบบ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งทางเรายังคงคิดอยู่ว่า จะตัดสินใจนำระบบนี้ไปติดตั้งในรถรุ่นใดเป็นรุ่นแรก สำหรับระบบขับเคลื่อนรถยนต์โดยอัตโนมัตินี้

สำหรับรถยนต์ EV ในปี 2020 Honda จะเริ่มจำหน่าย Honda e ในญี่ปุ่น (เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีรูปทรงคล้ายกับ Honda Civic รุ่นแรก) และจะดำเนินธุรกิจโดยมีวิสัยทัศน์ 2030 เป็นแนวทาง เพื่อตอบสนองผู้คนทั่วโลก นอกจากจะส่งมอบความสุขแล้ว ยังเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิตให้กับผู้คนอีกด้วย

แหล่งที่มาจาก:

Motor-Expo-2019-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2019 ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก แต่ยอดจองก็ถือว่าน่าพอใจ แม้ว่าจะตกจากปีที่แล้วมากก็ตาม เรียกได้ว่า สุขใจทั้งคนซื้อรถ ได้รถใหม่ไปขับ แต่หลายคนก็อาจทุกข์ใจตอนหาเงินผ่อนรถ กับโดนไฟแนนซ์ยึด ส่วนคนทำงานบริษัทรถ ก็ได้รับโบนัสกันถ้วนหน้า

โดยในงาน Motor Expo 2019 ตั้งเป้าจะมียอดจองรถภายในงาน 50,000 คัน รถจักรยานยนต์ 9,000 คัน และเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 56,000 ล้านบาท คาดผู้ชมงานราว 1.6 ล้านคน

แต่ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2019 ในปีนี้ ทำได้ทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 44,740 คัน! ลดลงจากปีก่อน 16.2% (หากนับรวมยอดจองรถยนต์อย่างเดียว จะมียอดจองทั้งหมดอยู่ที่ 37,489 คัน)

Motor-Expo-2019

ยอดจองรถตก มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เช่น เศรษฐกิจตกต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง สงครามการค้า และปัจจัยภายในประเทศ เช่น การปรับขึ้นอัตราภาษีที่ดิน รวมถึงภาษีรถจักรยานยนต์อัตราใหม่คิดตามค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2563 ส่งผลให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ส่วนยอดผู้เข้าชมงาน ยังได้รับความสนใจจากประชาชนตามเป้าที่ตั้งไว้

จากข้อมูลของผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อรถ…ชิงรถ” พบว่า รถยนต์ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ Honda, Toyota, Mitsubishi, Mazda, MG และ Nissan ปีนี้รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 45.5% มากกว่าปีก่อน (38.9%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 29.2% แฮทช์แบค 12.6% และเก๋งประเภทอื่น 3.7% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda City, Nissan Almera, Honda Civic, Mazda2 และ Toyota Yaris

รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 33.4% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (34.3%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Mitsubishi Pajero Sport, MG ZS, MG HS, Ford Everest, และ Toyota Fortuner

รถกระบะมีสัดส่วน 14.5% ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย (17.2%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Isuzu D-Max, Toyota Revo, Ford Ranger, Mitsubishi Triton และ Nissan Navara

ส่วนรถหรู มียอดขายรวม 4,181 คัน โดย 5 แบรนด์ ที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ BMW, Mercedes-Benz, Volvo, Porsche และ Audi

รถจักรยานยนต์จาก 26 ผู้ผลิต ยอดขายรวม 7,251 คัน ลดลงจากเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย จากข้อมูลของผู้ร่วมกิจกรรม “ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิ๊กไบค์” พบกว่า รถจักรยานยนต์ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda, Yamaha, Kawasaki, Harley-Davidson และ GPX

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงาน 1,251,743 บาท และราคาเฉลี่ยของรถจักรยานยนต์ 265,860 บาท เงินหมุนเวียนภายในงานราว 50,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,510,307 คน ใกล้เคียงปีก่อน (1,534,961 คน)

ส่วนใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถป้ายแดง หรือรับเงินก้อนไปใช้ในช่วงสิ้นปี สามารถนำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

สรุป

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 44,189 คัน (หากรวมยอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย เป็น 53,358 คัน)

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2019 วันที่ 28 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2562 (Carro Update ยอด ณ วันที่ 10 ธ.ค. 2562)

Toyota-GR-Supra

1. Toyota 6,243 คัน

Honda-City-2020

2. Honda 5,766 คัน

Mazda2-2020

3. Mazda 3,998 คัน

Isuzu-D-Max-2020

4. Isuzu 3,716 คัน

Mitsubishi-Mirage-2020

5. Mitsubishi 2,959 คัน

6. Suzuki 2,308 คัน

MG-ZS-EV-2019

7. MG 2,252 คัน

Nissan-Almera-2020

8. Nissan 2,218 คัน

Mercedes-Benz-E300-e

9. Mercedes-Benz 1,862 คัน

Ford-Everest-Sport-2019

10. Ford 1,323 คัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2018 ได้ที่นี่ >> https://th.carro.co/blog/motor-expo-2018-booking/

ดูสรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ได้ที่นี่ >> https://th.carro.co/blog/motor-expo-2017-booking/

สำหรับผู้ที่ซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2019 ไปแล้ว แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ขายรถง่ายๆ ได้ราคาดี กับ CARRO Thailand”

The-10-Best-In-Motor-Expo-2019

10 “ที่สุด” ในงาน Motor Expo ที่คุณยังไม่รู้ หรืออาจจะรู้ไม่หมด!

งาน “Motor Expo 2019” หรือ “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบนั้น …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย CARRO ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2019” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ส่วนใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ เอารถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ถูกที่สุด

Suzuki-Celerio-2019

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2019 ยังคงเป็นSuzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ)” รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย อัดแน่นคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร ในราคาเริ่มต้นที่ 318,000 บาท!

แพงที่สุด / เร็วที่สุด

McLaren-Senna-2019

ขอขอบคุณภาพจาก Motor Expo

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2019 นั่นก็คือ McLaren Senna (แมคลาเรน เซนนา) รถ Hyper Car หรือรถแข่งในคราบรถถนน ที่มีคันเดียวในประเทศไทย (ซึ่งผลิตเป็นคันที่ 269 และมีเจ้าของเรียบร้อยแล้ว) ราคารวมภาษีแล้วกว่า 200 ล้านบาท! ซึ่งผลิตจำนวนจำกัด เพียง 500 คันทั่วโลก เป็นการระลึกถึงอดีตนักแข่งรถ Formula 1 ชาวบราซิลอย่าง Ayrton Senna (ไอร์ตัน เซนนา) แชมป์เปี้ยนโลก 3 สมัย ปี 1988, 1990 และ 1991 ในช่วงที่อยู่ทีม McLaren-Honda

ตัวถังทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 1,198 กิโลกรัม ประกอบด้วยเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร แบบ V8 Twin Turbo 800 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 2.8 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 340 กม./ชม.

เท่ที่สุด

Scuderia-Toro-Rosso-STR14-Motor-Expo-2019

เท่ที่สุดในงาน Motor Expo 2019 ต้องยกให้บูธ PTTOR ที่นำรถ Mock-Up รุ่น STR14 ของทีม Scuderia Toro Rosso ที่ขับโดย Alex Albon Ansusinha (อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์) ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่จัดว่าเป็นคนไทยคนที่ 2 ที่เข้าร่วมแข่งรถในรายการ Formula 1 (ฟอร์มูล่าวัน) ฤดูกาล 2019 มาโชว์ในงาน Motor Expo 2019

โดย STR14 นี้ ใช้เครื่องยนต์จากค่าย Honda รหัส RA619H ขนาด 1.6 ลิตร แบบ V6 DOHC 740 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ 8 สปีด มีน้ำหนักเครื่องยนต์อยู่ที่ 145 กิโลกรัม ในราคาค่าตัวนับร้อยล้านบาท

รถ EV (รถยนต์ไฟฟ้า) ถูกที่สุด

BYD-M3

รถ EV ที่ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2019 ครั้งนี้ ต้องยกให้กับรถไฟฟ้าสัญชาติจีน อยู่ที่บูธ PTTOR อย่าง “BYD M3” (บีวายดี เอ็ม3) มาพร้อมด้วยระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ด้วยมอเตอร์ 70 Kwh พร้อมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 50 Kwh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 300 กม. (คำนวณจากที่รวมน้ำหนักบรรทุก 700 กก. หรือเทียบเท่ามีผู้โดยสาร 7 คน)

อัตราการสิ้นเปลือง 1 Kwh : 6 กม. เทียบเท่ากับ กม.ละ เพียง 0.833 บาท ซึ่งประหยัดกว่าค่าเชื้อเพลิงถึง 3 เท่า ในราคา 999,000 บาท

เก่าที่สุด

Jaguar-E-Type

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Jaguar E-Type” (จากัวร์ อี-ไทป์) ซึ่งผลิตระหว่างปี 1961-1964 ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาด 3,781 ซีซี (3.8 ลิตร) ถือเป็นรถที่เก่าที่สุดในงานครับ

ใหญ่ที่สุด

TATA-Ultra

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Expo 2019 ครั้งนี้ ต้องยกให้ “TATA Ultra” (ทาทา อุลตร้า) รถบรรทุก 6 ล้อ พร้อมเบรก ABS ติดตั้งจากโรงงาน มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 4 สูบ ขนาด 3 ลิตร ให้กำลังและแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม ราคาเริ่มต้นเพียง 794,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอื่นๆภายในงาน)

รถ SUV เร็วที่สุด

Lamborghini-Urus

รถ SUV ที่เร็วที่สุดในงาน Motor Expo 2019 ก็ยังคงเป็น Lamborghini Urus (ลัมโบร์กินี อูรูส) นั่นเอง ในราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 23,420,000 บาท กับ Super SUV คันแรกของโลก ที่ถ่ายทอด DNA ของลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ผสมผสานกับความเอนกประสงค์ของรถ SUV ที่มาพร้อมคำนิยามว่า “Since We Made It Possible”

ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo ให้พละกำลัง 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดกว่า 300 กม./ ชม. 

รถจักรยานแพงที่สุด

Porsche-Bike-RX

ในงาน Motor Expo 2019 นี้ แม้แต่จักรยาน ก็มีขายเช่นกัน! ต้องยกให้ “Porsche Bike RX” (ปอร์เช่ ไบค์ อาร์เอ็กซ์) ที่ไฝฝันของชาวน่องเหล็กหลายต่อหลายคน ด้วยเฟรมแบบคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมเกียร์ 22 สปีดของ Shimano น้ำหนักเบาประมาณ 10 กิโลกรัม ในราคา 277,725 บาท (จากราคาเดิม 370,300 บาท!)

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

MV-Agusta-F4-RC

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2019 ต้องยกให้กับ MV Agusta F4 RC (เอ็มวี ออกัสต้า เอฟ4 อาร์ซี) ยอดรถ Supersport Bike พลังแรงจากอิตาลีที่เปิดตัวในปี 2019 ทำสีแฟริ่งใหม่ แบบเดียวกับที่แข่งในรายการ WSBK

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1,000 ซีซี 212 แรงม้า ระบบเบรกหน้า-หลัง ใช้ของ Brembo พร้อมตัวกันสะบัดจาก Ohlins โดยผลิตออกมาเพียง 100 คันทั่วโลกเท่านั้น และมีเพียง 2 คันในไทย! ในราคา 2,400,000 บาท!

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุด

Zongzhen-Ryuka-Retro

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2019 นั่นคือ “Zongzhen Ryuka Retro” (จงเซิน ริวก้า เรโทร) มาในราคา 29,900 บาท

อยากรู้ราคารถใหม่ในงาน Motor Expo 2019 มียอดดาวน์ ยอดจัด ผ่อนเดือนละเท่าไหร่ ดูได้ที่นี่

รวมใบราคา และตารางผ่อนรถใหม่ป้ายแดง จากงาน Motor Expo 2019 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2019)

สำหรับใบราคาและตารางผ่อนที่เรานำมาฝากในครั้งนี้ Carro ขอเน้นไปที่รถตลาดเป็นหลัก อาทิเช่น ToyotaHondaNissanMitsubishi, Isuzu, Mazda, Ford, Mercedes-Benz, BMW และ MG เป็นต้น

ส่วนใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ เอารถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

หากท่านใดที่สนใจรถยนต์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม ลองดูงบประมาณที่ตัวเองมี Promotion แจ๋วๆ จากใบราคาภายในงาน ที่ CARRO คัดสรรรถยี่ห้อยอดนิยมในงาน Motor Expo 2019 มาลงให้ชมด้านล่างครับ.

Toyota

Toyota-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Toyota-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Nissan

ดูตารางราคา Nissan Almera 2020 เพิ่มเติมได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/compare-price-interest-rate-nissan-almera-2020-vs-honda-city-2020/

Nissan-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Nissan-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Honda

ดูตารางราคา Honda City 2020 เพิ่มเติมได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/compare-price-interest-rate-nissan-almera-2020-vs-honda-city-2020/

Honda-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Honda-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Honda-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Honda-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Mazda

Mazda-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Mazda-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Mitsubishi

Mitsubishi-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Mitsubishi-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Mitsubishi-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Suzuki

Suzuki-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Suzuki-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Isuzu

Isuzu-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Isuzu-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Isuzu-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Isuzu-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Ford 

Ford-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Ford-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

MG

MG-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

MG-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

Mercedes-Benz

Mercedes-Benz-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

BMW

BMW-Price-Promotion-Motor-Expo-2019

โปรดฟังอีกครั้ง! ใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ เอารถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

SUV-And-Crossover-In-Motor-Expo-2019

ในยุคปัจจุบัน ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV และ Crossover นั้น เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี (ดูได้จากยอดขายรถประเภทนี้ ย้อนหลังไป 7-8 ปีที่ผ่านมา) เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม

ในงาน Motor Expo 2019 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2019) นี้ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่มีไลน์การผลิตรถแนว SUV, PPV และ Crossover ต่างรีบนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตนออกสู่ตลาดโดยเร็ว เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขาย ซึ่งในงาน Motor Expo 2019 จะมีรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

1. Nissan X-Trail

Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล) จัดเป็นรถ Crossover ที่เปิดตัวในบ้านเราตั้งแต่เมื่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และแบบ Hybrid (ไฮบริด) รายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย

เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบรับกับวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี หรือระบบเครื่องเสียงที่ให้ความบันเทิงรุ่นใหม่แบบ A-IVI และหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ มีให้เลือกทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง เป็นต้น

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร

ราคา

แบบเบนซิน

  • รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท
  • รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท
  • รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท

แบบ Hybrid

  • รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท
  • รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

2. Subaru XV

Subaru-XV-GT-Edition-2019

Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี) ได้พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของแพลทฟอร์มใหม่ “Subaru Global Platform” ช่วยให้ขับรถได้อย่างสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพในการควบคุมในระดับสูงสุด แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นกว่า 70% การสั่นสะเทือนลดลง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำซึ่งยังผลให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Subaru XV มากับเครื่องยนต์เบนซินสูบนอน Boxer ขนาด 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง Direct Injection ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมมาตร Symmetrical All-Wheel Drive และตัวช่วยอย่างระบบ X-MODE

ราคา

  • รุ่น 2.0i ราคา 1,234,221 บาท
  • รุ่น 2.0i-P ราคา 1,279,221 บาท
  • รุ่น GT Edition ราคา 1,338,000 บาท

3. Subaru Forester

Subaru-Forester-2019

Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) จัดเป็นรถ Crossover SUV ที่มีเอกลักษณ์ในด้านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา หรือ Symmetical AWD โดยในงาน Motor Expo 2019 ซูบารุ ได้เปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศของ Forester อีกครั้ง

มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อมฟังก์ชั่น X-Mode ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย เสริมระบบความปลอดภัยยุคใหม่ ระบบ Eyesight ประกอบด้วยระบบเบรคอัตโนมัติก่อนการชน ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนที่ ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลนโดยไม่เจตนา และระบบเตือนมีมีรถแล่นมาจากด้านหลังขณะถอยรถ เป็นต้น

ราคา

รุ่น 2.0i-L ราคา 1,030,000 บาท (รวม Option Pack 1,330,000 บาท)
รุ่น 2.0i-S ราคา 1,060,000 บาท (รวม Option Pack 1,380,000 บาท)
รุ่น 2.0i-S Eyesight 1,145,000 บาท (รวม Option Pack 1,425,000 บาท)

*ราคารวมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 100,000 กม., บริการช่วยเหลือ 24 ชม./ 3 ปี, เซนเซอร์ถอยหลัง, เบาะหนังแท้

4. Honda CR-V

Honda-CR-V-2019

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี) ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง นำเสนอเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร  เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo 2018

พร้อมเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบครันในทุกรุ่น อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) และระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เป็นต้น

ราคา

  • รุ่น 2.4 S (5 ที่นั่ง) ราคา 1,359,000 บาท
  • รุ่น 2.4 ES 4WD (5 ที่นั่ง) ราคา 1,499,000 บาท
  • รุ่น 2.4 E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,409,000 บาท
  • รุ่น 2.4 EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,549,000 บาท
  • รุ่น DT-E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,559,000 บาท
  • รุ่น DT-EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,699,000 บาท

5. Mazda CX-8

All-New-Mazda-CX-8

All-New Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) งานนี้มาโชว์ตัวใน Motor Expo 2019 อย่างเป็นทางการ รถ Crossover อเนกประสงค์ SUV ระดับ Premium แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ถือเป็น Crossover SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์ความภูมิฐาน สง่างาม และความสมบูรณ์แบบ ตัวรถยาวขึ้น นั่งสบายทุกที่นั่ง ภายใต้ปรัชญา KODO design : Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงามจากคอนเซ็ปต์ “Less is More”

ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยขุมพลังของ 2 เครื่องยนต์ สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า ปรับปรุงพัฒนาใหม่ โดยในรุ่นดีเซล XDL Exclusive 6 ที่นั่ง มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร 194 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงถึง 13.5 กม./ลิตร

ราคา

  • รุ่น 2.5 S ราคา 1,599,000 บาท
  • รุ่น 2.5 SP ราคา 1,699,000 บาท
  • รุ่น XDL ราคา 1,899,000 บาท
  • รุ่น XDL Exclusive ราคา 2,069,000 บาท

6. Mitsubishi Pajero Sport

New-Mitsubishi-Pajero-Sport-2019

Mitsubishi Pajro Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในโลก มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหราและทรงพลังยิ่งขึ้น เอาใจนักธุรกิจ ผู้บริหาร ที่มีครอบครัวแล้ว พร้อมปรับปรุงภายในห้องโดยสารใหม่ ด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับปรุงใหม่เพื่อง่ายต่อการอ่าน และประตูท้ายไฟฟ้าที่ใช่ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเปิด-ปิด ด้วยสมาร์ทโฟน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร MIVEC เทอร์โบดีเซล 181 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด กับเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครันยิ่งขึ้น ด้วยระบบส่งสัญญาณเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (LCA) และระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)

ราคา

  • รุ่น 2.4 D GT ราคา 1,299,000 บาท
  • รุ่น 2.4 D GT-Premium 2WD ราคา 1,469,000 บาท
  • รุ่น 2.4 D GT-Premium 4WDราคา 1,599,000 บาท

7. MG ZS

MG-ZS-EV-2019

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) รถ Crossover SUV เพื่อชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด มาพร้อมระบบอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ครั้งแรกในโลก รูปลักษณ์โดดเด่นสไตล์ บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่ให้ความหรูหราทันสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น ห้องโดยสารสะดวกสบาย กว้างขวาง พร้อมระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System 9 ระบบ

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

และยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ MG ในไทยด้วย กับ New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธี่ยม ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5 kWh วิ่งได้ไกลกว่า 337 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟทั้งแบบ Normal Charge ใช้เวลาเพียง 6.5 ชั่วโมง และแบบ Quick Charge ที่ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที

ราคา

  • รุ่น 1.5 C ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น 1.5 D ราคา 729,000 บาท
  • รุ่น 1.5 X Sunroof ราคา 789,000 บาท
  • รุ่น EV ราคา 1,190,000 บาท

8. MG HS

MG-HS-2019

All-New MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รถยนต์ SUV รุ่นล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “Elegance” นิยามของ SUV ที่เหนือระดับ ดีไซน์ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยที่ครบครันมากยิ่งขึ้น

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้แรงม้าสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด  250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบ/นาที โดยสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที พร้อมรองรับน้ำมัน E85

ราคา

  • รุ่น C ราคา 919,000 บาท
  • รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
  • รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท

9. Chevrolet Captiva

Chevrolet-Captiva

All-New Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) ใหม่ จัดเป็นรถอเนกประสงค์ Crossover SUV ขนาดใหญ่คุ้มค่าที่สุดในตลาด ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายผู้ที่สนใจ รถอเนกประสงค์ขนาด Compact สามารถเป็นเจ้าของรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ได้ เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการพื้นที่ใช้สอย และการใช้งานแบบรถอเนกประสงค์ SUV ขนาดใหญ่

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (1,451 ซีซี) DOHC Turbo DVVT ให้แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด พร้อม Mode Shift Control รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10

ราคา

  • รุ่น LS ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 999,000 บาท (เพิ่ม 30,000 บาท สำหรับรุ่น 7 ที่นั่ง)
  • รุ่น LT ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น Top สุด Premier ราคา 1,199,000 บาท

10. Peugeot 3008 & 5008

Peugeot-3008

Peugeot 3008 และ 5008 (เปอโยต์) ค่ายรถจากแดนน้ำหอม หลังจากกลับมารุกตลาดในไทยอีกครั้ง ด้วยตัวแทนจำหน่ายเจ้าใหม่ ก็พร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆ ด้วย SUV 2 รุ่น คือ Peugeot 3008 SUV 5 ที่นั่ง และ 5008 SUV 7 ที่นั่ง มาโชว์ในงาน Motor Expo 2019 ทันที

มาพร้อมห้องโดยสาร ‘i-Cockpit’ สุดล้ำ พวงมาลัยขนาดกะทัดรัด และมีตำแหน่งการขับที่ดีเยี่ยม และดีไซน์ร่วมสมัย

ราคา

  • รุ่น 3008 Active ราคา 1,549,000 บาท
  • รุ่น 3008 Allure ราคา 1,699,000 บาท
  • รุ่น 5008 Active ราคา 1,749,000 บาท
  • รุ่น 5008 Allure ราคา 1,899,000 บาท

11. BMW X3

BMW-X3-M-2019

BMW X3 M (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 เอ็ม) ครั้งแรกในงาน Motor Expo 2019! และยังเป็นครั้งแรกของตระกูล M ที่เปิดตลาดใหม่ จับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์อเนกประสงค์ Mid-Size Sports Activity Vehicle (SAV) ควบด้วยความทรงพลังแบบ BMW M

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ M TwinPower Turbo แบบ 6 สูบเรียง 480 แรงม้า สามารถทำความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.2 วินาที โลดแล่นสู่ความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. พร้อมสุดยอดโครงสร้างแชสซีส์ในสไตล์รถแข่งสุดดุดัน และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive

ราคา

– BMW X5 xDrive40e Pure Experience ราคา 4,399,000 บาท (รวม BSI ราคา 4,439,000 บาท)
– BMW X5 xDrive40e M Sport ราคา 4,699,000 บาท (รวม BSI ราคา 4,739,000 บาท)

12. Audi Q3

Audi-Q3-Sportback

Audi Q3 (อาวดี้ คิว3) ที่เป็นดาวเด่นของ Audi ในงาน Motor Expo 2019 จัดเป็น SUV รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีความสมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นทุกมิติ เพิ่มความกว้างขวาง ความสะดวกสบายในการใช้งาน และการเข้าออกตัวรถ

การออกแบบด้านหน้า ในห้องโดยสารควบคุมด้วยระบบ MMI Radio Plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ Smartphone Interface รองรับ Android และ Apple CarPlay

ราคา

  • รุ่น Q3 35 TFSI ราคา 2,299,000 บาท
  • รุ่น Q3 35 TFSI S line ราคา 2,499,000 บาท
  • รุ่น Q3 Sportback 35 TFSI S line ราคา 2,649,000 บาท

13. Range Rover Evoque

Range-Rover-Evoque-2019

Range Rover Evoque (เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค) ใหม่ SUV สำหรับคนเมืองที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง ยังมาพร้อมตัวเลือกของเครื่องยนต์ทั้งแบบระบบไฟฟ้า Plug-In Hybrid และดีเซล Ingenium

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ Range Rover Evoque จากรุ่นก่อนหน้านี้ ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 ด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 772,096 คัน กวาดรางวัลระดับนานาชาติมากว่า 217 รางวัล ตัวใหม่นี้คือวิวัฒนาการอีกขั้น ที่มาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยในปัจจุบัน

ราคา

  • ราคาเริ่มต้นที่ 3,999,000 บาท

14. Porsche Cayenne Coupe 

Porsche-Cayenne-Coupe

Porsche Cayenne Coupe (ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้) รถสปอร์ตอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดจากปอร์เช่ ที่มาพร้อมความโฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตาด้วยแนวหลังคาที่ลาดลงมาจรดท้ายรถ สะดวกสบายทุกการเดินทางด้วยเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต 4 ที่นั่ง

สปอร์ตเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ Turbo ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 243 กม./ชม. ติดตั้งอุปกรณ์มาตราฐาน ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุด พร้อมระบบ Apple CarPlay และ ระบบเครื่องเสียง BOSE Surround Sound System

ราคา

  • Porsche Cayenne Coupe ราคาเริ่มต้นที่ 8.6 ล้านบาท
  • Porsche Cayenne e-Hybrid Coupe ราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท

15. Lamborghini Urus

Lamborghini-Urus

Lamborghini Urus (ลัมโบร์กีนี อูรุส) เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในรูปแบบรถ Super SUV ขนาด 5 ที่นั่ง เน้นดีไซน์และสมรรถนะตามฉบับ Lamborghini ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งเน้นความสปอร์ต ใช้ระบบอินโฟเทนเม้นท์ Lamborghini Infotainment System (LIS) พร้อมจุดเด่นอย่างโหมดการขับขี่ระบบ Tamburo ที่มีโหมดการขับขี่ให้ 6 โหมด

ช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive Air Suspension พร้อม Active Damping และ Active Roll Stabilization ใช้จานเบรกคาร์บอนเซรามิคขนาด 440 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 10-Pot ด้านหน้า และขนาด 370 มม. ในด้านหลัง ให้ระยะเบรก 100-0 กม./ชม. อยู่ที่ 33.7 เมตร

มาพร้อมขุมพลัง V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 650 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.6 วินาที ต่อเนื่องจนถึง 200 กม./ชม. ในเวลา 12.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 305 กม./ชม.

ราคา

– Lamborghini Urus ราคา 23,420,000 บาท

New-Car-Promotion-MotorExpo

งาน Motor Expo 2019 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36) มาภายใต้แนวคิด “โลดแล่นทันใด ทะยานไปด้วยกัน” หรือ “Ride and Drive Together Now” จัดเต็มรถรุ่นใหม่ ที่เปิดตัวในปีนี้และในงานนี้ มาจัดแสดงส่งท้ายปี สู้กับเศรษฐกิจซบเซาของปีนี้อย่างเต็มที่

เชิญพบกับรถยนต์ที่ร่วมงานจำนวนมากถึง 33 แบรนด์ และรถจักรยานยนต์อีก 26 แบรนด์ ซึ่งมีแบรนด์ใหม่ มาเปิดตัวในงานนี้ด้วย!

Motor-Expo-2019

นอกจากโปรโมชั่นพิเศษมากมายแล้ว งานนี้ยังมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน โดยปีนี้ยังคงแจกรถยนต์ 3 คัน และจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 1 คัน รวมถึงลุ้นชิงรางวัลอื่นๆ จากการซื้อสินค้าอีกมากมาย และยังมีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี! จาก 3 จุดในกรุงเทพฯ และที่รังสิต ให้คุณเดินทางมาชมงานได้อย่างสะดวกสบาย

และหากใครที่สนใจ ต้องการ “ขายรถ” กับทาง CARRO เพื่อนำเงินไปซื้อรถคันใหม่ ขายได้ไว! เร็ว! ได้ราคาที่ดีที่สุด! พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! สามารถเข้าไปกรอกรายละเอียดได้ที่ https://th.carro.co/sell-car/express

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาเวลาว่าง ไปเดินเที่ยวชมงานกันครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Expo 2019 กันได้เลย

Toyota-GR-Supra

Toyota GR Supra

Nissan-Almera-2020

Nissan Almera 2020

Nissan-GT-R-50th-Anniversary

Nissan Leaf

Honda-City-2020

Honda City 2020

Honda-Civic-Hatchback-MY2020

Honda Civic Hatchback 2020

Mitsubishi-Mirage-2020

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi-Attrage-2020

Mitsubishi Attrage

Isuzu-D-Max-2020

Isuzu D-Max

Hyundai-Veloster

 

Hyundai Veloster

Mini-Countryman-John-Cooper-Works

Mini Countryman John Cooper Works

Porsche-718-Cayman-AAS

Porsche 718 Cayman AAS Sport Edition

Mazda2-2020

Mazda2 2020

Mercedes-AMG

Mercedes-AMG

Volvo-V60

Volvo V60

โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2019 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2019 ฟรี! ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/

All-New-Honda-City-Turbo-2020

Honda เปิดตัว All-New City (ฮอนด้า ซิตี้) ในไทย เป็นประเทศแรกของโลก ใช้เครื่องยนต์ VTEC Turbo 1.0 ลิตร 122 แรงม้า

พิเศษครั้งแรกกับรุ่น RS ที่พร้อมตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS รอบคัน อีกทั้งนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เจเนอเรชันล่าสุด พร้อมเผยโฉมในงาน Motor Expo 2019 ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562

สำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 พร้อมรับนาฬิกา Fitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black มูลค่า 6,490 บาท

ถ้าหากใครสนใจที่จะขายรถคันเดิม เพื่อรับเงินก้อนไปดาวน์หรือซื้อ Honda City Turbo คันใหม่ออกมาใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ Carro ได้ ง่ายๆ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ พร้อมรับเงินไว ภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

All-New-Honda-City-2020-Main

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) นับเป็นรถที่สำคัญของฮอนด้า ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นยนตรกรรมสำหรับภูมิภาค (Regional Model) โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี 2539 และได้กระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เจเนอเรชัน 1 ถึง เจเนอเรชัน 4 ด้วยยอดขายสะสมใน 60 ประเทศทั่วโลก กว่า 4 ล้านคัน!

ซึ่งภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียเป็นตลาดที่สำคัญของฮอนด้า ซิตี้ เห็นได้จากยอดขายกว่า 100,000 คัน ในปี 2562 (มกราคม – กันยายน 2562) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% จากยอดขายฮอนด้า ซิตี้ ทั่วโลก

All-New-Honda-City-2020-Lineup

และประเทศไทย ถือเป็นตลาดหลักของ ฮอนด้า ซิตี้ เป็นตลาดที่ขายดี ขายได้เยอะ และเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าในภูมิภาคอีกด้วย Honda จึงเลือกเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นครั้งแรกในโลก ที่เมืองไทย และมาพร้อมราคาที่ปรับ “ลดลง” ในทุกรุ่นย่อย!

All-New-Honda-City-2020

All-New-Honda-City-2020

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตและสง่างาม ด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

All-New-Honda-City-2020

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับสรีระ เพื่อความสะดวกสบายในทุกที่นั่ง หรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทนสีดำ หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม

All-New-Honda-City-2020

All-New-Honda-City-2020

และฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

All-New-Honda-City-RS-2020

ครั้งแรกกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รุ่น RS ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้า-กระจังหน้า สไตล์สปอร์ต ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว

All-New-Honda-City-RS-2020

สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

All-New-Honda-City-RS-2020

ภายในห้องโดยสารสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS

All-New-Honda-City-RS-2020

โดดเด่นด้วยขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbocharger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่ง และประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.8 กม./ลิตร และมี Paddle Shifts เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้ แบบ 7 สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แถมผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย

เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

All-New-Honda-City-2020

และมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีขาว Platinum (มุก) เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV สีดำ Crystal (มุก) สีเงิน Lunar (เมทัลลิก) สีเทา Modern Steel (เมทัลลิก) และสีขาว Taffata เฉพาะรุ่น V และรุ่น S

ราคาจำหน่าย All-New Honda City มีดังนี้ครับ

  • รุ่น S ราคา 579,500 บาท
  • รุ่น V ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 739,000 บาท

All-New-Honda-City-2020-Modulo

เสริมความสปอร์ตในสไตล์คุณไปอีกขั้น ด้วยชุดแต่ง Modulo (โมดูโล) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก ราคา 8,150 บาท แป้นคันเร่งและเบรกดีไซน์สปอร์ต ราคา 1,300 บาท คิ้วบันได LED ราคา 4,400 บาท ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายสปอร์ต ราคา 3,600 บาท (ราคาต่อ 1 วง ไม่รวมยาง) ไฟตัดหมอกแบบ LED ราคา 5,500 บาท และกล้องหน้ารถ ราคา 3,850 บาท

นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจ ทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ได้แก่

  • Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
  • Modulo Aero RS Package ราคา 17,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
  • Modulo Aero Sport Package ราคา 23,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก

พบกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่งาน Motor Expo 2019 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป

หมายเหตุ:
– อุปกรณ์มาตรฐาน อาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
– สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
– ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%
– ข้อเสนอพิเศษสำหรับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

New-Car-In-Motor-Expo-2019

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” หรือ The 36th Thailand International Motor Expo 2019 ภายใต้แนวคิด “โลดแล่นทันใด ทะยานไปด้วยกัน” หรือ “Ride and Drive Together Now” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้ รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2019 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2019 ฟรี! ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/

Carro ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2019 กันตั้งแต่ในเดือนตุลาคม จนถึงเดือนพฤศจิกายน บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ไปแล้วหลายค่าย Carro ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

1. Toyota Yaris Cross

Toyota-Yaris-Cross-2020

Toyota (โตโยต้า) เผยโฉม Toyota Yaris Cross (โตโยต้า ยาริส ครอส) ได้ฤกษ์เปิดตัว “รุ่นปรับปรุงใหม่” และ “ชุดแต่งพิเศษ Yaris Cross” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE แบบ Dual VVT-iE 92 แรงม้า แรง ประหยัดน้ำมัน รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และผ่านมาตรฐาน EURO 5 ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S Mode

โดยมีทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ High, Mid และ Entry พร้อมแนะนำ ชุดแต่งพิเศษ Yaris Cross ครั้งแรกกับรถสไตล์ Crossover ในกลุ่มอีโคคาร์ (ราคาพิเศษ 35,000 บาท สามารถติดตั้งได้กับ Yaris รุ่น High และรุ่น Mid (สินค้ามีจำนวนจำกัด)

ด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง กับชุดอุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง (ซ้าย-ขวา), สเกิร์ตท้าย, ชุดตกแต่งขอบประตูรถ หลังคาเคลือบฟิล์มดำ Matt Black, ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมคิ้วซุ้มล้อและสัญลักษณ์ Cross ด้านท้ายรถ นอกจากนี้ยังได้รับการปรับแต่งชุดสปริงและโช้คยกสูง 30 มม.

และยังมีระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC และ HAC พร้อมถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง และกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง แม้ขณะดับเครื่องยนต์ เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และบันทึกภาพกรณีพบสิ่งผิดปกติ ในราคา 539,000 – 649,000 บาท

2. Toyota Yaris ATIV

Toyota-Yaris-ATIV-2020

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) เปิดตัว “รุ่นปรับปรุงใหม่” และ “ชุดแต่งพิเศษ ATIV GT” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE แบบ Dual VVT-iE 92 แรงม้า แรง ประหยัดน้ำมัน รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และผ่านมาตรฐาน EURO 5 ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S Mode

โดยมีทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ High, Mid และ Entry พร้อมแนะนำ ชุดแต่งพิเศษ ATIV GT (ราคาพิเศษ 7,000 บาท สามารถติดตั้งได้กับ ATIV ทุกรุ่นและทุกสี (พิเศษ! มีจำนวนจำกัด)) ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง สเกิร์ตกันชนหน้า, สเกิร์ตข้าง (ซ้าย-ขวา), สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง และเพิ่มระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System)

กับระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC และ HAC พร้อมถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง และกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง แม้ขณะดับเครื่องยนต์ เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และบันทึกภาพกรณีพบสิ่งผิดปกติ ในราคา 529,000 – 649,000 บาท

3. Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota-Hilux-Revo-ตูน-บอดี้สแลม

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) โฉมปี 2020 พร้อมจ้าง “พี่ตูน บอดี้สแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย มาเป็นพรีเซนเตอร์ใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ Over The Limit…ทลายทุกขีดจำกัด

โดยทาง Toyota ยังได้ร่วมมือกับบริษัท อีซียู ช็อป1 จำกัด ติดตั้งกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รุ่น Ultra Boost สำหรับรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร GD Efficient Boost โดยกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รุ่น Ultra Boost จะทำงานร่วมกับ ECU หลักของเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มแรงม้าสูงสุดถึง 204 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดสูงสุด 518 นิวตัน-เมตร เพื่อการออกตัวและเร่งแซงที่ไวมากยิ่งขึ้น

และแพ็คเกจชุดแต่งพิเศษสำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่นสมาร์ทแค็บ ทั้งแบบยกสูง Prerunner และขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมไปถึงรุ่น Z Edition เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้า และกรอบไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์ใหม่ กับสปอยเลอร์รอบคัน

4. Toyota GR Supra

Toyota-GR-Supra

การกลับมาใหม่ของ Toyota GR Supra (โตโยต้า จีอาร์ ซูปร้า) ที่แฟนๆ Supra ในทั่วโลกก็มีทั้งเสียงตอบรับที่ดี และเสียงตอบรับที่ดูตกใจกับการเปลี่ยนไปของรถสปอร์ตระดับตำนานของโตโยต้ารุ่นนี้ โดยมันคือฝาแฝดของ BMW Z4 นั่นเอง! ส่วนภายในได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก FT-1 Concept

ในบ้านเรานำเข้ามาโชว์ตัวเป็นๆ ให้เห็นกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในที่สุด วันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ Toyota ก็เตรียมเปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการซะที ในราคาหลักหลายล้านบาทเลยทีเดียว!

GR Supra นี้ ใช้เครื่องยนต์จาก BMW ขนาด 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง Turbo 340 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Paddle Shifts สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.1 วินาที ถือว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุด ที่ Toyota เคยผลิตมา ส่วนความเร็วสูงสุด จำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ในราคาประมาณ 5 บ้านบาท (ซึ่งมีคนรับมอบเป็นเจ้าของรถแล้ว อย่างน้อย 5 คน)

5. Honda City

All-New-Honda-City-RS-2020

เป็นไปตามคาด สำหรับ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ไทย วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2019 นับเป็นครั้งแรกของ City กับการกระโดดลงมาเล่นในตลาดรถ Eco-Car นั่นเอง

ในส่วนของเครื่องยนต์ ปลี่ยนใหม่หมดกับเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC VTEC 12 วาล์ว Turbo Dual VTC ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Paddle Shift 7 สปีด และเครื่องยนต์รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ในราคา 579,500 – 739,000 บาท

6. Nissan Almera

All-New-Nissan-Almera-2020

Nissan (นิสสัน) เผยโฉม Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) เปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เตรียมโชว์ในงาน Motor Expo 2019 ออกแบบภายใต้ปรัชญา “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ ส่วนภายในออกแบบใหม่หมด ซึ่งกว้างขวางมากๆ เหมือนเดิม

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

และยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility เป็นจุดเด่นด้านความปลอดภัยของ Nissan ด้วย ในราคา 499,000 – 639,000 บาท

7. Mazda CX-8

All-New-Mazda-CX-8-2019

Mazda เผยโฉม Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ SUV ระดับ Premium แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ถือเป็น Crossover SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์ความภูมิฐาน สง่างาม และความสมบูรณ์แบบ ตัวรถยาวขึ้น นั่งสบายทุกที่นั่ง ภายใต้ปรัชญา KODO design : Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงามจากคอนเซ็ปต์ “Less is More”

ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยขุมพลังของ 2 เครื่องยนต์ สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า ปรับปรุงพัฒนาใหม่ โดยในรุ่นดีเซล XDL Exclusive 6 ที่นั่ง มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร 194 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงถึง 13.5 กม./ลิตร

พร้อมส่งมอบความคุ้มค่าด้วยการรับประกันคุณภาพและฟรีค่าแรงนาน 5 ปี ในราคา 1,599,000 – 2,069,000 บาท

8. Mitsubishi Mirage / Attarge

New-Mitsubishi-Mirage-2020

New-Mitsubishi-Attrage-2020

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เผยโฉม “Mitsubishi Mirage” (มิตซูบิชิ มิราจ) และ “Mitsubishi Attrage” (มิตซูบิชิ แอททราจ) ใหม่ ด้วยแนวคิด “พลังจากข้างใน ไปให้สุด” พร้อมดีไซน์ Advanced ‘Dynamic Shield’ อันโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าตกแต่งด้วยเส้นสีแดง กันชนใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light ชุดไฟตัดหมอกแบบใหม่ ไฟท้ายแบบ LED และ ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 15 นิ้ว ทั้งนี้ Mirage ใหม่ ยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต

ภายในห้องโดยสารยกระดับใหม่ ทั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ High Contrast ตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์ดีไซน์ใหม่ สำหรับ มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ และ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์และผ้าดีไซน์ใหม่ ส่วน มิตซูบิชิ มิราจ มีแผงควบคุมเปิด-ปิดกระจกข้างตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ พร้อมวัสดุบุนุ่มบริเวณแผงประตู

และทั้ง 2 รุ่น สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอระบบสัมผัส Smartphone – Link Display Audio (SDA) ขนาด 7 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อบลูทูธ

สำหรับ Mitsubishi Mirage ราคาอยูที่ 474,000 – 619,000 บาท และ

สำหรับ Mitsubishi Attrage ราคาอยูที่ 494,000 – 624,000 บาท

9. Mitsubishi Triton Athlete

 New-Mitsubishi-Triton-Athlete-2020

Mitsubishi Triton Athlete (มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท) ใหม่ “เหนือชั้น สายพันธุ์สปอร์ต” ยกระดับสู่ความสปอร์ตเต็มขั้นโดยพัฒนาจากรุ่นสูงสุดของกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ด้วยชุดตกแต่งกันชนหน้าสีดำแบบสปอร์ต หลังคาสีดำพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ด้านหลังดีไซน์มือเปิดกระบะท้าย และกันชนหลังสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ ‘Athlete’ บนฝากระบะท้าย พร้อมชุดปูพื้นกระบะ แกร่งขึ้นด้วยกรอบกระจกมองข้างและสไตล์ลิ่งบาร์สีดำ พร้อมบันไดข้าง รวมถึงสัญลักษณ์ ‘Athlete’ บนแถบกราฟฟิกข้างตัวรถ

ภายในห้องโดยสารตกแต่งพิเศษด้วยเบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ทูโทนสีดำสลับสีส้ม พร้อมสัญลักษณ์ ‘Athlete’ เดินด้ายสีส้มที่หัวเกียร์ แผงประตู และเบรกมือ วัสดุบุนุ่มกันกระแทกบริเวณหัวเข่า และฝากล่องเก็บของคอนโซลกลางตกแต่งด้วยสีส้ม พร้อมพรมห้องโดยสารปักสัญลักษณ์ ‘Athlete’ สีส้ม ในราคา 1,035,000 – 1,146,000 บาท

10. Isuzu D-Max

All-New-Isuzu-D-Max-2019

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัว All-New Isuzu D-Max (ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์) พลานุภาพ…พลิกโลก! “Infinite Potential” “ยนตรกรรมที่เหนือกว่าคำว่าปิกอัพ” ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน แรงสะใจกับขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ แพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยใหม่เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น

ผ่านการพัฒนาโดยการทดสอบในอุโมงค์ลม Japan Railway Research Institute หรือ JR ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบรถไฟหัวกระสุนของประเทศญี่ปุ่น “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” จึงเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม และมีห้องโดยสารที่เงียบขึ้นอีกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX  190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Gen 2 รุ่น RZ4E-TC ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น 150 แรงม้า ในราคา 510,000 – 1,164,000 บาท

11. Ford Ranger FX4

Ford-Ranger-FX4

Ford (ฟอร์ด) เปิดตัว Ford Ranger FX4 (ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4) ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ดุดัน และอุปกรณ์เทคโนโลยีอันทันสมัย ยกระดับมาตรฐานกระบะพันธุ์แกร่งให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ชุดล้ออัลลอยด์สีดำ ขนาด 18 นิ้ว กันชนหลังสีดำ และสปอร์ตบาร์สีดำดีไซน์ใหม่

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งโทนสีดำเงา เดินด้ายสีแดงตั้งแต่แผงคอนโซล เกียร์ ที่วางแขน ขอบประตู และเบาะนั่ง พร้อมประดับสัญลักษณ์ FX4 ที่พรมและเบาะนั่งคู่หน้า นำเสนอระบบความบันเทิง SYNC ใหม่ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับภาษาไทย การใช้งานผ่าน Apple Car Play และ Android Auto รองรับไฟล์ VDO รวมถึงระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน ในราคา 919,000 บาท

12. Ford Everest Sport

Ford-Everest-Sport

Ford Everest Sport (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต) รุ่นพิเศษ ออกแบบใหม่ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสีดำเงา ทั้งกระจังหน้า กระจกมองข้าง และราวหลังคา ประดับสัญลักษณ์รุ่นสปอร์ตทั้งด้านข้างและด้านหลัง กันชนหลังสีดำ พร้อมล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 20 นิ้ว หรูหรา โดดเด่นด้วยตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนกระโปรงหน้ารถ

ภายในของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพิ่มลูกเล่นและความโฉบเฉี่ยว ด้วยโทนสีดำน้ำเงิน ตั้งแต่แผงคอนโซล ที่วางแขน และเบาะที่นั่ง พร้อมสลักลายคำว่า Sport บนเบาะนั่งคู่หน้า พร้อมตกแต่งลวดลาย Hydrographic เคลือบ 2 ชั้น บนวัสดุที่ทันสมัย บนคอนโซลหน้าและที่เปิดประตู ระบบความบันเทิง SYNC 3 สั่งงานด้วยเสียง รองรับภาษาไทย พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มาพร้อมกับระบบช่วยโทรฉุกเฉินและกล้องมองหลังขณะถอดจอด ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอบหลังแบบปรับอุณหภูมิแยกได้ ในราคา 1,469,000 บาท

13. Porsche Cayenne Coupe

Porsche-Cayenne-Coupe

Porsche Cayenne Coupe (ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้) รถสปอร์ตอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดจากปอร์เช่ ที่มาพร้อมความโฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตาด้วยแนวหลังคาที่ลาดลงมาจรดท้ายรถ สะดวกสบายทุกการเดินทางด้วยเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต 4 ที่นั่ง

สปอร์ตเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ Turbo ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 243 กม./ชม. ติดตั้งอุปกรณ์มาตราฐาน ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุด พร้อมระบบ Apple CarPlay และ ระบบเครื่องเสียง BOSE Surround Sound System โดย Cayenne Coupe ใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 8.6 ล้านบาท และ Cayenne e-Hybrid Coupe ราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท

รถรุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้า สามารถดูได้ใน Link ด้านล่างนี้

All-New-Nissan-Almera-2020

Nissan เปิดตัว All-New Almera (นิสสัน อัลเมร่า) ในไทย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ใช้เครื่องยนต์ Turbo 1.0 ลิตร 100 แรงม้า รถยนต์แบบซีดานอัจฉริยะ สำหรับการใช้งานในเมืองที่สมบูรณ์แบบ

ถ้าหากใครสนใจที่จะขายรถคันเดิม เพื่อรับเงินก้อนไปดาวน์หรือซื้อ Nissan Almera คันใหม่ออกมาใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้ ง่ายๆ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ พร้อมรับเงินไว ภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

“นิสสัน กำหนดให้ อัลเมร่า ใหม่ ท้าทายทุกความเชื่อกับรถยนต์ซิตี้คาร์ และต้องการมอบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของเรา” ยูทากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กล่าว

All-New-Nissan-Almera-2020

All-New-Nissan-Almera-2020

ตัวรถ ออกแบบภายใต้ปรัชญา “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof)

All-New-Nissan-Almera-2020

All-New-Nissan-Almera-2020

มิติตัวรถ ยาว 4,495 มม. (ยาวกว่ารุ่นเก่า 70 มม.) กว้าง 1,740 มม. (กว้างขึ้น 45 มม.) สูง 1,460 มม. (เตี้ยลง 40 มม.) ระยะฐานล้อ 2,620 มม. (ยาวขึ้น 20 มม.) ล้อมีทั้งกระทะเหล็กพร้อมฝาครอบ 15 นิ้ว และล้อแม็ก 15 นิ้ว

All-New-Nissan-Almera-2020

ภายในออกแบบใหม่หมด เพื่อรองรับแผงหน้าปัดแบบใหม่ หน้าจอ Infotainment พวงมาลัยและที่นั่งผู้โดยสาร ใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ และพื้นที่วางขากว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน และด้านท้าย ผู้ใหญ่เข้าไปนอนได้สบายๆ

All-New-Nissan-Almera-2020

โดดเด่นด้วยระบบเสียง Bose คุณภาพเสียงแบบรอบทิศทาง ลำโพง 10 ตำแหน่ง, หน้าจอ Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มอัจฉริยะ Center Commander ใช้งานง่าย

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

ด้านความปลอดภัย ยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility ที่ช่วยตรวจสอบความปลอดภัยและป้องกันผู้ขับขี่และผู้โดยสาร บริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของรถ

เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดใน นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ซึ่งมีนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ได้แก่ เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) และเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) และเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) ด้วยกล้องสี่ตัวที่ด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้าง รอบคัน

ระบบอินโฟเทนเมนต์ NissanConnect พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI ช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายด้วยการนำระบบสาระและความบันเทิง ระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัยและอื่นๆ ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวด้วยการเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ใหญ่แค่ไหน ดูเอาเอง!

มีสีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง Radiant Red สีส้ม Monarch Orange สีขาว Storm White สีดำ Black Star สีเทา Gun Metallic และสีเงิน Brilliant Silver

ราคาจำหน่าย All-New Nissan Almera มีดังนี้ครับ

  • รุ่น S ราคา 499,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 639,000 บาท

ทั้งนี้ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ พร้อมจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ และจะเริ่มส่งมอบรถในเดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นไป พร้อมการประกันรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

All-New-Nissan-Almera-2020