โปรโมชั่นรถยนต์เดือน เม.ย. 65

สวัสดีในเดือนเมษายน 2565 เป็นเดือนที่มีหน้าหนาวโผล่มาตั้งแต่ต้นเดือน 2-3 วัน จากภาวะอากาศโลกแปรปรวน ทำให้หลายคนรู้สึกดี หรือมีกำลังวังชาในการทำงานจากอากาศเย็นๆ ก่อนที่จะกลับมาร้อนระอุต้อนรับช่วงเทศกาลสงกรนาต์ 2565 เหมือนเดิม

แม้ว่าในเดือนนี้ โควิดสายพันธุ์ใหม่อย่าง “โอมิครอน” ยังคงระบาดแบบพุ่งไม่หยุดกันต่อเนื่อง บวกกับรัสเซียทำสงครามรบกับยูเครนไม่ยอมจบ แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป และปัญหา “น้ำมันแพง” ก็ยังไม่ลดละ ส่งผลให้ในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) ที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้ายอดจองกระฉูด เพราะคนที่มีกำลังซื้อ ยังต้องหนีไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อประหยัดน้ำมัน

หลายคนที่มีแพลนอยากเปลี่ยนรถใหม่ในช่วงนี้ Carro เองได้คัดสรรโปรโมชั่นรถยนต์มากมาย มาฝากกันเช่นเคยครับ ใครอยากขายรถคันเดิม มาขายกับ Carro รับรองขายออกได้ไวแน่นอน …

ใครกลัวผ่อนรถป้ายแดงช่วงนี้ไม่ไหว ต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และรับคืนเงินภายใน 5 วัน! พร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ Carro สิ! โทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง Carro Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express รับรองขายรถคันเดิมออกได้ไวแน่นอน

สำหรับโปรโมชั่นรถใหม่ ในเดือนเมษายน 2565 เชิญชมได้ด้านล่างครับ.

ATIV & YARIS URBAN ADDICT

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

1. ฟรี ประกันภัยชั้น 1 Toyota Care
พร้อม ช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน

2. ดาวน์เริ่มต้น 0 บาท

4 – 30 เมษายน 2565

VIOS ALL IS POSSIBLE

ซื้อ VIOS วันนี้ รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง TOYOTA Care

4 – 30 เมษายน 2565

SIENTA CHIC CLICKS คลิกให้ชีวิตสุดชิค

ซื้อ SIENTA วันนี้ รับดอกเบี้ยพิเศษ 2.19% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป

4 – 30 เมษายน 2565

เป็นเจ้าของ Corolla Cross วันนี้

(1) สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน รับฟรี ประกันภัยชั้น 1 Toyota Care พร้อมดอกเบี้ย 0.65% หรือเลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0%

(2) สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%

(3) และรับข้อเสนอพิเศษขยายระยะเวลาการคุ้มครอง (มูลค่า 35,000 บาท)

  • รับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.

4 – 30 เมษายน 2565

COROLLA CROSS MODELLISTA รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด

หมายเหตุ

  • รุ่นพิเศษ Corolla Cross Modellista เฉพาะรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium เท่านั้น จำนวนจำกัด 250 คัน
  • อุปกรณ์ตกแต่ง Modellista (สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง ซ้าย-ขวา, สเกิร์ตหลัง และล้อแม็ก 18 นิ้ว) มูลค่า 41,500 บาท มีเฉพาะสี Celestite Gray Metallic, Platinum White Pearl และ Metal Stream Metallic ประกอบและติดตั้งโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด
  • อุปกรณ์ตกแต่งรับประกันสูงสุดในระยะเวลา 36 เดือน หรือระยะ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน) ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด
  • ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าทำสีหลังคาดำ

ชุดแต่งใหม่กับสไตล์สุดชิค ผ่อนเพิ่มเพียง 850 บาท/เดือน*

เป็นเจ้าของ โคโรล่า ครอส พร้อมชุดแต่งใหม่ URBAN SPORT ราคา 51,900 บาท*

*ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าติดตั้ง และค่าทำสีหลังคาดำ – ราคาเงินผ่อนที่เพิ่มคำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ดาวน์ 25% ระยะเวลา 72 เดือน สำหรับรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium โดยอ้างอิงดอกเบี้ยเดือน ม.ค. 2564 บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง  (ประเทศไทย) จำกัด

  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ติดตั้งกับรถรุ่นใหม่ (ต้องติดตั้ง จากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือ รับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ล้อ Lenso รับประกันโครงสร้างล้อ 10 ปี ตามเงื่อนไขการรับประกัน บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด

ชุดแต่งใหม่กับสไตล์สุดลุย ผ่อนเพิ่มเพียง 960 บาท/เดือน*

เป็นเจ้าของ โคโรลล่า ครอส พร้อม ชุดแต่งใหม่ ADVENTURE ราคา 58,900 บาท*

*ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าติดตั้ง – ราคาเงินผ่อนที่เพิ่มคำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ดาวน์ 25% ระยะเวลา 72 เดือน สำหรับรุ่น Hybrid Premium โดยอ้างอิงดอกเบี้ยเดือน ม.ค. 2564 บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • แร็คหลังคา ไม่สามารถติดตั้งในรุ่น Hybrid Premium Safety
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ติดตั้งกับรถรุ่นใหม่ (ต้องติดตั้ง จากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือ รับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ล้อ Lenso รับประกันโครงสร้างล้อ 10 ปี ตามเงื่อนไขการรับประกัน บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด
  • แร็คหลังคา รับประกัน 6 เดือน ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีเคที ไฟเบอร์ จำกัด

CHR CAMPAIGN

เป็นเจ้าของ C-HR วันนี้ พร้อมรับดีลสุดพิเศษ รับทันที ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมเลือกรับแคมเปญพิเศษ

ทางเลือกที่ 1 ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป)

ทางเลือกที่ 2 ผ่อนเริ่มต้นเพียง 11,590 บาทต่อเดือน

  • รุ่น HEV Premium Safety ราคา 1,139,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 11,590 บาท ที่ดาวน์ 25.44% นาน 84 เดือน
  • คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยของ บริษัท ลีสซิ่ง ไอซีบีซี (ไทย) จำกัด

พร้อมรับแพ็กเกจรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี และแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี (มูลค่า 35,000 บาท)

  • รับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.

4 – 30 เมษายน 2565

ซื้อโคโรลล่า อัลติส รุ่น 1.6 G วันนี้ รับข้อเสนอดียวกับ Motor Show มูลค่ารวมกว่า 135,000 บาท

  • ต่อที่ 1 เลือกรับดอกเบี้ย 0% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 8,790 บาท/เดือน หรือ ดาวน์ต่ำเพียง 46,300 บาท
  • ต่อที่ 2 ฟรี! ประกันภัยชั้น 1
  • ต่อที่ 3 ค่าแรงเช็กระยะฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ เคมีภัณฑ์

4 – 30 เมษายน 2565

ซื้อโคโรลล่า อัลติส วันนี้ รับข้อเสนอเดียวกับ Motor Show รวมมูลค่ากว่า 83,000 บาท

ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.35% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 หรือ เลือกรับดอกเบี้ยต่ำสุด 0.85%

พร้อมแพ็กเกจการรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ที่ครอบคลุมทั้งแบตเตอรี่ และระบบไฮบริด กับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี

พร้อมข้อเสนอพิเศษ กับแพ็กเกจขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่

4 – 30 เมษายน 2565

CAMRY CAMPAIGN

ทางเลือกที่ 1: ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.69% พร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น1 โตโยต้าแคร์

ทางเลือกที่ 2: ดอกเบี้ยพิเศษ 1.19%

4 – 30 เมษายน 2565

All-New Toyota Veloz – BETTER TOGETHER

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

1. ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 60,000 – 100,000 กม.

2. ดอกเบี้ยต่ำ 1.75% พร้อม ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care
ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 60,000 – 100,000 กม.

4 – 30 เมษายน 2565

ดู Promotion Toyota เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.toyota.co.th/promotion

Nissan

โปรโมชั่น Nissan ขับรถนิสสันให้สนุก โปรโมชั่นนี้มีผลถึง 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2565

Nissan Kicks Sky Edition

Kicks

Nissan Kicks e-Power รุ่น E, V และ VL รับข้อเสนอ 3 ต่อ ด้วยสิทธิพิเศษที่มากกว่า

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 84 เดือน) (ผ่อน 9,367 บาท/เดือน สำหรับรุ่น VL)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับขี่เร้าใจ ไม่พอใจคืนรถได้ใน 30 วัน

ต่อที่ 2 ฟรี แพ็กเกจขับสบายหายห่วง

  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี/100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี Roadside Service Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง  (5 ปี หรือ 150,000 กม)
  • ฟรี SAVE SAFE Platinum Package (5 ปี หรือ 100,000 กม)

ต่อที่ 3 (เฉพาะ รุ่น V และ VL)

  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ Stylish Package

* พิเศษ Kicks e-Power SKY EDITION สีลิมิเต็ด สีใหม่ น้ำเงิน ไนท์บลู พร้อมหลังคาขาว ที่มาพร้อมฟรีชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้ SKY EDITION มูลค่ากว่า 71,150 บาท (จำนวนจำกัด)

CARRO Automall แนะนำ Nissan Note รถ Eco-Car สุดคุ้มอีกรุ่น พร้อมสู้น้ำมันแพง!

Note

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,900 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 9,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2 ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง

  • ฟรี SAVE SAFE Platinum Package (5 ปี หรือ 100,000 กม) มูลค่า 18,233 บาท

Nissan March / นิสสัน มาร์ช

March

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,750 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (เงินดาวน์ 15%, ผ่อนนาน 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 4,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package มูลค่า 4,120 บาท

Nissan Almera / นิสสัน อัลเมร่า

Almera

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.29% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้น 5,921 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/70,000 กิโลเมตร

ต่อที่ 3 (เฉพาะรุ่น VL Sportech)

  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง SPORTECH PREMIUM PACKAGE

NISSAN TEANA

Leaf

ราคาก่อนส่วนลดพิเศษ: 1,990,000 บาท

ต่อที่ 1

  • ราคาพิเศษ 1,499,000 บาท + อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% 72 เดือน(ดาวน์ 25%)

ต่อที่ 2

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ฟรี เครื่อง Wallbox EV Charger รวมค่าติดตั้งมูลค่า 77,000 บาท
  • ฟรี รับประกันระบบไฟฟ้า 5 ปี/ 100,000 กม.
  • ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี/ 160,000 กม.
  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี (Premium Roadside Assistance)
NISSAN GT-R

GT-R

  • สอบถามได้ที่โชว์รูมนิสสัน GT-R ดีลเลอร์

Nissan-SC-Aug-21

Navara

Nissan Navara Single Cab ใหม

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ดาวน์เริ่มต้น 23,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท (ดาวน์ 20% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร
Nissan Navara King Cab ใหม่  

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ดาวน์เริ่มต้น 15,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน (3)

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New Navara King Cab Calibre

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25%, ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 44,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,890 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA K/Cab Calibre V MT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ราคาพิเศษ 699,000 บาท
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน
  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA D/Cab Calibre 

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25%, ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ดาวน์เริ่มต้น 53,900 บาท พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน (4)

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,599 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA D/Cab Calibre V MT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • ราคาพิเศษ 799,000 บาท
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน
  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี

ต่อที่ 2

  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

New NAVARA D/Cab PRO-2X 7AT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 30%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 10,499 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

ต่อที่ 3

  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษพร้อมติดตั้ง มูลค่า 44,000 บาท

New NAVARA D/Cab 4WD PRO-4X 7AT

ต่อที่ 1 เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% (ดาวน์ 30%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

หรือ

  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 12,500 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 84 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

ต่อที่ 3

  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษพร้อมติดตั้ง มูลค่า 44,000 บาท

Terra

ต่อที่ 1

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.39% (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับฟรี สูงสุด 90 วัน

ต่อที่ 2

  • ฟรี โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

ต่อที่ 3 (เฉพาะรุ่น VL)

  • ฟรี อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

NISSAN URVAN

Urvan

สอบถามรายละเอียดที่ผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสัน

ดู Promotion Nissan เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.nissan.co.th/offers.html

Honda

New Honda Civic e:HEV 2022

โปรโมชั่น Honda

Honda City Hatchback e:HEV

– รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.59% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

  • ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ พร้อม ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม. รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

You’re e:HEV Family รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 – 31 มี.ค. 65

Honda City

– ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.39%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
หรือ
ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.65%* หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,989 บาท
หรือ
รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29%** พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 12,000 บาท
หรือ
รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.89%* พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 24,000 บาท

Honda City Hatchback

– รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปีหรือ
ข้อเสนอเสนอพิเศษ ผ่อนเริ่มต้น 7,500 บาท กับ DOUBLE SMILE*

Honda City e:HEV

– รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.59% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ พร้อม ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม. รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

You’re e:HEV Family รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 – 31 มี.ค. 65

หรือ

ข้อเสนอพิเศษ ผ่อนเริ่มต้น 11,000 บาท กับ DOUBLE SMILE* ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ พร้อม ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม. รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปีYou’re e:HEV Family รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 – 31 มี.ค. 65

Honda Jazz

ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับฟรี ! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร หรือ

ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,500 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

*ดาวน์ 25% ผ่อน 12-48 เดือน

All-New Honda Civic

ดอกเบี้ย 2.59%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

*ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

All-New Honda Civic e:HEV

ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ มูลค่า 19,500 บาท เมื่อจองสิทธิ์ ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ ตั้งแต่ 24 มี.ค. 65 – 31 พ.ค. 65 เปิดรับจองสิทธิ์ทั้ง 2 รุ่น e:HEV RS และ e:HEV EL+

Honda Civic Hatchback

ดอกเบี้ย 1.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือ

ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท

*ดาวน์ 25% ผ่อน 12-48 เดือน

New Honda Accord

รุ่น Turbo EL

รับดอกเบี้ย 1.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี ค่าแรงเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมรับ “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” หรือ

รับข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี ! ค่าแรงเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมรับ “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์”

หรือ

รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV TECH

รับดอกเบี้ย 0% ฟรี ค่าแรงเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรพร้อมรับ “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

สำหรับลูกค้าฮอนด้า แอคคอร์ด เกรด e:HEV EL+ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) ภายในหนังสีดำ รับเพิ่ม! บัตรน้ำมันมูลค่า 18,000 บาท และ  กระเป๋าเดินทาง Huskie มูลค่า 12,995 บาท

You’re e:HEV Family รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท ตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 – 31 มี.ค. 65

Honda Mobilio
ดอกเบี้ยพิเศษ 0%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับเพิ่ม ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

หรือ

ดอกเบี้ยพิเศษ 2.29%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมรับฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 4,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 48,000 บาท และรับเพิ่ม ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

Honda BR-V

ดอกเบี้ยพิเศษ 0.59%* พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
ฟรี ! ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส (Exhaust Pip Finisher) มูลค่า 500 บาท หรือ

ดอกเบี้ย 1.99 %* และฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 12 เดือน พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี ! ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส (Exhaust Pip Finisher) มูลค่า 500 บาท

Honda HR-V

รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.59% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
พร้อม ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ และ รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

You’re e:HEV Family รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท สำหรับลูกค้า Honda Loyalty รุ่น อี:เอชอีวี หรือไฮบริด

Honda CR-V

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%*
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร
หรือ
รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%*พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
เกรด 2.4S, 2.4E, 2.4 ES 4WD, 2.4 EL 4WD
รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร หรือ
เกรด 2.4S, 2.4E, 2.4 ES 4WD, 2.4 EL 4WD

ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE ผ่อนเริ่มต้น 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปีฟรี! ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

ดู Promotion Honda เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.honda.co.th/promotions

Mazda

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

MAZDA Promotion

Mazda มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสามารถออกรถและเป็นเจ้าของรถมาสด้าทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น

Mazda2

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี บัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท

Mazda3

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda CX-3

ดอกเบี้ย 1.33%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda CX-30

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี บัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท

Mazda CX-5

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
Mazda Care Program 3 ปี

Mazda CX-8

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
Mazda Care Program 3 ปี

Mazda MX-5

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ขยายการรับประกันคุณภาพรถ เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

All-New Mazda BT-50

ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

ดู Promotion Mazda เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mazda.co.th/offers/latest-offers/

Mitsubishi

Mitsubishi Outlander PHEV

  • เลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% (1)
  • รับฟรี แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 20,200 บาท และ ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท (2)
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 34,300 บาท (3)
  • รับฟรี ค่าติดตั้งจุดชาร์จไฟ มูลค่าสูงสุด 20,000 บาท (4)
  • รับฟรี เครื่องฟอกอากาศ Nanoe X (5)
  • รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (6)
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี (7) พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี (8)
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ผ่าน M-Drive (9)

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ระหว่างวันที่ 4 – 30 เมษายน 2565 รับ (1) (2) (3) (4) (5) และ (9)

New Attrage and New Mirage

  • ผ่อนเริ่มต้น 5,XXX บาท
  • ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 21,963 บาท และ ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 17,600 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี (4) พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 5,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ หรือ มิตซูบิชิ มิราจ รุ่น SMART ตั้งแต่วันที่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

Mitsubishi Xpander

  • รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%
  • รับฟรี แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 26,810 บาท และ ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 22,000 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

Mitsubishi Xpander Cross

  • รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%
  • รับฟรี แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 26,810 บาท และ ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 22,800 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Pajero Sport และ New Pajero Sport Elite Edition

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%
  • เลือกรับ แพคเกจบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่าสูงสุด 26,376 บาท และฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 29,300 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • รับฟรีอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงระบบดิจิตอล (HDMI WiFi Dongle)
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ และ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ (LR) 

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 5,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 18,900 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ (4WD)

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 6,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 18,900 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นเมกะ แค็บ (LR)

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 6,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 21,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับ รุ่นเมกะ แค็บ (HR)

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 7,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 21,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ (LR)

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 6,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 23,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ (HR) ผ่อนเริ่มต้น 8,XXX บาท

  • เลือกรับ ผ่อนเริ่มต้น 8,XXX บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 23,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

all-Model-Promotion-campaign

New Triton สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ (4WD) รับ ดอกเบี้ย 0.59%* นาน 48 เดือน

  • รับ ดอกเบี้ย 0.59% นาน 48 เดือน
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุด 23,100 บาท
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • ครอบครัวมิตซูบิชิรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ผ่าน M-Drive

สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตั้งแต่ ตั้งแต่ 4 – 30 เมษายน 2565

ดู Promotion Mitsubishi เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/buy/promotion

Suzuki

โปรโมชั่น Suzuki ร้อนแรง แซงทุกดีล

จากความสำเร็จของโครงการในแคมเปญพิเศษ Suzuki Mega Deal ในช่วงเดือนปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ Suzuki ในเดือนมกราคม 2565 ได้จำนวน 1,851 คัน เติบโตเพิ่มมากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซูซูกิจึงตอกย้ำความสำเร็จดังกล่าวด้วยการจัดแคมเปญพิเศษ “Suzuki Super Surprise Deal” เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวของซูซูกิ รวมถึงผลักดันยอดขาย และรองรับกับฤดูการขายรถยนต์ในช่วงต้นปี

Suzuki XL7

  • รับ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 15,000 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
  • พิเศษส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท สำหรับลูกค้าเจ้าของรถยนต์ซูซูกิและครอบครัว หรือ กลุ่มลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทมหาชน หรือ บุคลากรทางการแพทย์

Suzuki Swift ใหม่ ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอพิเศษ “ซูซูกิช่วยผ่อนสูงสุด 10 เดือน” เดือนละ 4,000 บาท
  • หรือ รับข้อเสนอ ขับฟรี 120 วัน  หรือ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0%
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,333 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 40,000 บาท
  • พร้อมฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท และประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
  • พิเศษส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท สำหรับลูกค้าเจ้าของรถยนต์ซูซูกิและครอบครัว หรือ กลุ่มลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทมหาชน หรือ บุคลากรทางการแพทย์

Suzuki Ciaz ทุกรุ่น

  •  เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,777 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 0% หรือ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 50,000 บาท
  • พร้อมฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท และประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
  • พิเศษส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท สำหรับกลุ่มลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทมหาชน บุคลากรทางการแพทย์ หรือรับส่วนลด 10,000 บาท สำหรับลูกค้าเจ้าของรถยนต์ซูซูกิและครอบครัว

Suzuki Celerio ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอพิเศษผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ GX หรือ ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 5,000 บาท สำหรับรุ่น GA MT
  • พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

All New Suzuki Ertiga ทุกรุ่น

  • เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ4,444 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท
  • หรือ เลือกรับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 0.99% หรือส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท
  • พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
  • พิเศษส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท สำหรับลูกค้าเจ้าของรถยนต์ซูซูกิและครอบครัว หรือ กลุ่มลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทมหาชน หรือ บุคลากรทางการแพทย์

Suzuki Carry ทุกรุ่น

  • ข้อเสนอส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • พร้อมส่วนลดพิเศษ 10,000 บาท สำหรับ ลูกค้าเจ้าของรถยนต์ซูซูกิและครอบครัว หรือ กลุ่มลูกค้าข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทมหาชน หรือ บุคลากรทางการแพทย์

ดู Promotion Suzuki เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.suzuki.co.th/th/promotion/

Isuzu

โปรร้อนเวอร์ กับ Master of All Roads ขับฟรี 90 วัน

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

*ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ: สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 4 เม.ย. 2565 – 30 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 31 พ.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / ตัวอย่างเงื่อนไขไฟแนนซ์ ดาวน์เริ่มต้น 5% หรือ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.20 % (คำนวณจากเงินดาวน์ 25% และผ่อนชำระ 48 เดือน) หรือเลือกรับเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค โปรจัดใหญ่…ให้เต็มแมคซ์ ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR SHOW

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 4,944 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 5,744 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นสปาร์ค บี 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน เม.ย. 2565 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 4 เม.ย. 2565 – 30 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 31 พ.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ โปรร้อนเวอร์ กับ Master of All Roads

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 5,548 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 6,348 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นสเปซแค็บ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน เม.ย. 2565 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 4 เม.ย. 2565 – 30 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 31 พ.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(3) ลูกค้าที่เป็นสมาชิกอีซูซุเอ็กเซลเลนซี่คลับและมีสถานะเป็น “เจ้าของรถ” ตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรม “อีซูซุเอ็กเซลเลนซี่คลับ” ณ วันเซ็นสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด จะได้รับความคุ้มครองขยายการรับประกันเป็น 7 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อนสำหรับลูกค้าทั่วไปจะได้รับความคุ้มครองเป็น 5 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน / รถที่มีสิทธิ์รับข้อเสนอพิเศษ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น” / กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น”

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู โปรจัดใหญ่…ให้เต็มแมคซ์ ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR SHOW

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,776 บาท ต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,576 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นไฮแลนเดอร์ LDA 2 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน เม.ย. 2565 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 4 เม.ย. 2565 – 30 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 31 พ.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ แค็บโฟร์ โปรร้อนเวอร์ กับ Master of All Roads

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,304 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,104 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นแค็บโฟร์ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.95% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน มี.ค. – เม.ย. 2565 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2565 – 3 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 30 เม.ย. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู โปรร้อนเวอร์ กับ Master of All Roads

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 7,785 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 8,585 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นไฮแลนเดอร์ L DA 4 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.95% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน มี.ค. – เม.ย. 2565 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2565 – 3 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 30 เม.ย. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ใหม่! อีซูซุวี-ครอส 4×4 โปรจัดใหญ่…ให้เต็มแมคซ์ ข้อเสนอเดียวกับ MOTOR SHOW

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน เม.ย. 2565 ดอกเบี้ย 1.89% กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 4 เม.ย. 2565 – 30 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 31 พ.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ โปรทะลุไมล์ เงื่อนไขเดียวกับ MOTOR SHOW

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,776 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,576 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นเอ็กซ์-ซีรีส์ สปีด 2 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน เม.ย. 2565 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกภายใน 30 วัน หลังจากวันที่รับรถ โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาเช่าซื้อ / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 4 เม.ย. 2565 – 30 เม.ย. 2565 และรับรถภายในวันที่ 31 พ.ค. 2565 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระได้สูงสุด 96 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ออลนิว มิว-เอ็กซ์ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.39% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 9,xxx บาท/เดือน

รายละเอียด/เงื่อนไขของรายการ

(1) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.39% ดาวน์ 30% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อรถ ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ทุกรุ่น / เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเดือน เม.ย. 2565

(2) ผ่อนเริ่มต้น 9,922 บาท ต่อเดือน คำนวณจากรุ่น Active 1,900 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ สีธรรมดา กรณีดาวน์ 30% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 2.70% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเดือน เม.ย. 2565

(3) ลูกค้าที่เป็นสมาชิกอีซูซุเอ็กเซลเลนซี่คลับและมีสถานะเป็น “เจ้าของรถ” ตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรม “อีซูซุเอ็กเซลเลนซี่คลับ” ณ วันเซ็นสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด จะได้รับความคุ้มครองขยายการรับประกันเป็น 7 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน สำหรับลูกค้าทั่วไปจะได้รับความคุ้มครองเป็น 5 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน / รถที่มีสิทธิ์รับข้อเสนอพิเศษ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น” / กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น”

ดู Promotion Isuzu เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.isuzu-tis.com/specialoffer/campaign/

Subaru

จอง ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ วันนี้ รับข้อเสนอพิเศษเดียวกับงาน Motor Show 2022*

เติมความฝันให้ชีวิตของคุณด้วยรถ SUV ที่ไม่ธรรมดา! ทุกสิ่งที่คุณต้องการมีให้ในซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ตั้งแต่ พื้นที่ใช้สอย ความปลอดภัย และการขับขี่ที่มั่นคง มาพร้อมด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากกว่า 100 รายการ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ พร้อมแล้วที่จะช่วยให้คุณปลอดภัยในทุกสภาพถนน

เริ่มแล้ววันนี้! กับข้อเสนอพิเศษงานมอเตอร์โชว์

ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ดาวน์เพียง 0 บาท* พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

*เฉพาะสถาบันการเงินที่ร่วมรายการเท่านั้น | เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 เท่านั้น

จอง ซูบารุ เอ็กซ์วี อายไซต์วันนี้ รับข้อเสนอพิเศษเดียวกับงาน Motor Show 2022*

ซูบารุ เอ็กซ์วี อายไซต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง EyeSight ที่ได้รับรางวัลการันตีด้วยเทคโนโลยี 6 ฟังก์ชัน

  1. ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ
  2. ระบบจัดการกำลังเครื่องยนต์
  3. ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน
  4. ระบบเตือนเมื่อรถส่ายไปมา
  5. ระบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติ
  6. ระบบเตือนเมื่อรถเคลื่อนที่

เริ่มแล้ววันนี้! กับข้อเสนอพิเศษงานมอเตอร์โชว์

New XV EyeSight รับสิทธิประโยชน์สูงสุด 100,000 บาท*

  1. ดอกเบี้ยพิเศษ
  2. ฟรี แพ็คเกจบำรุงรักษา 3 ปี
  3. ฟรี ประกันภัยชั้น 1

* เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าที่จองภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 เท่านั้น

จอง ซูบารุ เอ้าท์แบ็ค ใหม่ วันนี้ รับข้อเสนอพิเศษเดียวกับงานมอเตอร์โชว์*

ดื่มด่ำความรู้สึกอันแสนหรูหราและประณีตไปกับ ซูบารุ เอ้าท์แบ็ค ใหม่

สัมผัสความหรูหราพร้อมความสปอร์ตยิ่งขึ้นใน ซูบารุ เอ้าท์แบ็ค ใหม่ เพลิดเพลินไปกับการออกแบบที่คล่องตัว และลงตัวยิ่งขึ้น ซูบารุ เอ้าท์แบ็ค ใหม่ พร้อมแล้วที่จะส่งมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดี
ครั้งนี้มาพร้อมความปลอดภัยและสมรรถนะในการขับขี่คุณและคนที่คุณรักจะต้องเพลิดเพลินจากความเงียบสบายในอีกระดับ

เริ่มแล้ววันนี้! กับข้อเสนอพิเศษงานมอเตอร์โชว์

  • ดอกเบี้ยพิเศษ
  • ฟรี แพ็คเกจบำรุงรักษา 3 ปี
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1

* เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 เท่านั้น

ดู Promotion Subaru เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.subaru.asia/th/th/promotions/

Ford

Ranger October offers

พบกับโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์มากมายจาก Ford (ฟอร์ด) และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ

ดู Promotion Ford เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.ford.co.th/buying/latest-offers/

MG

New MG HS

  • ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.90 % นาน 4 ปี
  • ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
  • ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.

New MG HS PHEV

  • ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.90 % นาน 4 ปี
  • ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
  • ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
  • แบตเตอรี่แรงดันสูงรับประกันนาน 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

โปรโมชั่น MG มอบโปรโมชั่นสุด Fun

MG5

  • ดาวน์เริ่มต้น 5% หรือ ดอกเบี้ย 0.55% นาน 6 เดือน
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MG EP Plus

  • รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.89%
  • ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
  • ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
  • พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

MG ZS

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0.90%
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MG Extender

  • รับดอกเบี้ย 0% นาน 6 ปี
  • ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
  • พิเศษ! สำหรับลูกค้าเก่าเอ็มจี (Loyalty Program) หรือ นำรถเก่าแลกรถใหม่ (Trade-in) รับสิทธิ์ ส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 20,000 บาท
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กิโลเมตร

โปรโมชั่น

  • รถยนต์รุ่นนี้มีแผนที่จะเปิดตัวภายในปี 2566
  • ภาพ MG Cyberster ที่ใช้ในการโฆษณาเป็นเพียงรถ Concept เท่านั้น โดยรถยนต์ที่จำหน่ายจริงจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งอาจมีดีไซน์ และฟังก์ชันที่แตกต่าง เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับการใช้งานบนท้องถนนได้จริง
  • ลูกค้าที่จอง จะมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นร่วมกับทีมพัฒนา MG Cyberster เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ในเวลาระหว่างนี้ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะมีการอัพเดทสถานการณ์ และอาจมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้เป็นการเฉพาะ ให้กับผู้จองสิทธิ์ได้เข้าร่วมเท่านั้น
  • สิทธิ์ในการจองแบ่งเป็น 2 ระดับ ลูกค้าที่สนใจสามารถเลือกจองได้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 ท่าน ต่อ 1 คัน เท่านั้น

ดู Promotion MG เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mgcars.com/th/Promotion

Great Wall Motor – ORA

ORA Good Cat

รายละเอียดข้อเสนอพิเศษ ORA GOOD CAT GREAT WALL GREAT DEAL

  1. ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคาร และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด
  2. ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร 1 ครั้ง จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ หากต้องการติดตั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและผู้รับการติดตั้งต้องตรวจสอบและเตรียมมิเตอร์ไฟที่สามารถใช้กับโฮมชาร์จเจอร์ด้วยตนเอง) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท ศึกษาข้อมูลการติดตั้งเพิ่มเติมที่ http://shorturl.at/hwNOY
  3. ฟรีประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 โดยบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 24,600 บาท
  4. ฟรีบริการส่งมอบรถทั่วประเทศมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 8,500 บาท*
  5. ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 5 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) มูลค่า 10,588 บาท* โดยลูกค้าต้องนำรถเข้ารับการบำรุงรักษาทุก 1 ปี หรือ 15,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ตลอดระยะเวลาการใช้สิทธิ เพื่อรักษาสิทธิการบำรุงรักษาตามระยะทาง และเป็นไปตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถใหม่
  6. ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับหรือส่งรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง จำนวน 4 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท*
  7. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท*
  8. รับ GWM point 15,000 คะแนน เพื่อแลกของสมนาคุณและบริการต่างๆ บน GWM Application
  9. ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 1,640 บาท
  10. การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  11. การรับประกันแบตเตอรี่ EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  12. ข้อเสนอพิเศษนี้สามารถใช้ได้กับรถยนต์ ORA GOOD CATทุกรุ่น ภายใต้ GREAT WALL GREAT DEAL CAMPAIGN รวมมูลค่าข้อเสนอพิเศษกว่า 133,000 บาท เมื่อจองและวางเงินมัดจำภายในวันที่ 4 เมษายน 2565 ถึง 30 เมษายน 2565 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 สำหรับรุ่น 400 TECH และ รุ่น 400 PRO และรับรถภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 สำหรับรุ่น 500 ULTRA ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจองสิทธิ์และการวางเงินมัดจำต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

*เงื่อนไขการให้บริการ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.gwm.co.th/aftersales/

เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

** ข้อกำหนดและเงื่อนไข ORA GOOD CAT GREAT WALL GREAT DEAL

ข้อเสนอพิเศษ  ORA GOOD CAT GREAT WALL GREAT DEAL ระยะเวลาข้อเสนอพิเศษ 4 เมษายน 2565 ถึง 30 เมษายน 2565 โดย บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ บริษัทฯ) ที่แอปพลิเคชัน GWM หรือที่เว็บไซต์ www.GWM.co.th

All New HAVAL JOLION Hybrid SUV

HAVAL JOLION Great Wall Great Deal ข้อเสนอพิเศษต้อนรับมอเตอร์โชว์

ข้อเสนอพิเศษ HAVAL JOLION Great Wall Great Deal ข้อเสนอเดียวกับมอเตอร์โชว์ ระยะเวลาโปรโมชั่น 4 เมษายน 2565 ถึง 30 เมษายน 2565 โดย บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ บริษัทฯ)  ที่แอปพลิเคชัน GWM หรือที่เว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH

  1. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5% หรือ ผ่อนสูงสุด 84 เดือน มูลค่าสูงสุด 15,000บาท เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคาร และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด
  2. ฟรีประกันภัยรถยนต์ ชั้น1 โดยบริษัทประกันภัยที่บริษัทฯกำหนด* เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท
  3. ฟรี บริการส่งมอบรถถึงบ้านทั่วประเทศ พร้อมน้ำมันเต็มถัง มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
  4. ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) รวมมูลค่า 31,832 บาท**โดยลูกค้าต้องนำรถเข้ารับบริการบำรุงรักษาทุก 6 เดือน หรือ 10,000 กม.(แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ตลอดระยะเวลาการใช้สิทธิ เพื่อรักษาสิทธิการบำรุงรักษาตามระยะทาง และเป็นไปตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถใหม่
  5. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท**
  6. ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับหรือส่งรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง และ / หรือบริการบำรุงรักษาตามระยะทางนอกสถานที่ (GWM mobile service) จำนวน 4 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท**
  7. การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)**
  8. การรับประกันแบตเตอรีไฮบริด เป็นระยะเวลา 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  9. รับ GWM point 15,000 คะแนน เพื่อแลกของสมนาคุณและบริการต่างๆ บน GWM Application
  10. ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 1,450 บาท

รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้ HAVAL JOLION Great Wall Great Deal ข้อเสนอเดียวกับมอเตอร์โชว์ จำนวน 96,000 บาท

โปรโมชั่นนี้สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่นของ HAVAL JOLION เมื่อจองรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 ถึง 30 เมษายน 2565  และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

* ประกันภัยชั้นหนึ่งโดย บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

**เงื่อนไขการให้บริการ เป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.gwm.co.th/aftersales/

All New HAVAL H6 Hybrid SUV ภายใต้ Great Wall Great Deal ข้อเสนอพิเศษต้อนรับมอเตอร์โชว์

  1. HAVAL H6 Great Wall Great Deal ข้อเสนอพิเศษต้อนรับมอเตอร์โชว์

ระยะเวลาโปรโมชั่น 4 เมษายน – 30 เมษายน 2565 โดย บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ บริษัทฯ) ที่แอปพลิเคชัน GWM หรือที่เว็บไซต์ www.GWM.co.th

  1. เฉพาะรุ่น HAVAL H6 รุ่น Ultra ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 19,000บาท เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคาร และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด
  2. เฉพาะรุ่น HAVAL H6 รุ่น Pro ดอกเบี้ย 0.99% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 45,000 บาท เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคาร และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด
  3. พิเศษเฉพาะ HAVAL H6 รุ่น Pro เท่านั้น – ฟรีฟิลม์กรองแสง ลามิน่า รุ่น CM ONE มูลค่าสูงสุด 7,400 บาท และ ถาดรองสัมภาระตอนท้าย GWM มูลค่า 2,000 บาท รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 9,400 บาท
  4. ฟรีประกันภัยรถยนต์ ชั้น1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่gwm.co.th
  5. ฟรีบริการส่งมอบรถทั่วประเทศ พร้อมน้ำมันเต็มถัง มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท*
  6. ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) มูลค่า 33,474 บาท โดยลูกค้าต้องนำรถเข้ารับการบำรุงรักษาทุก 6 เดือน หรือ 10,000 กม.(แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)ตลอดระยะเวลาการใช้สิทธิ เพื่อรักษาสิทธิการบำรุงรักษาตามระยะทางและเป็นไปตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถใหม่*
  7. รับ GWM point 15,000 คะแนน เพื่อแลกของสมนาคุณและบริการต่างๆ บน GWM Application
  8. ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับหรือส่งรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง จำนวน 4 ครั้ง มูลค่าสูงสุด 3,000 บาท และ บริการบำรุงรักษาตามระยะทางนอกสถานที่ (GWM mobile service) จำนวน 2 ครั้ง มูลค่าสูงสุด 1,500 บาท รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 4,500 บาท*
  9. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท*
  10. การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)**
  11. การรับประกันแบตเตอรีไฮบริด เป็นระยะเวลา 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  12. ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม มูลค่ารวม 1,440 บาท

โปรโมชั่นนี้สามารถใช้ได้กับรถ HAVAL H6 เมื่อจองรถตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 – 30 เมษายน 2565 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้  Great Wall Great Deal CAMPAIGN เฉพาะ HAVAL H6 รุ่น Ultra มูลค่า 100,000 บาท เฉพาะ HAVAL H6 รุ่น Pro มูลค่า 138,000 บาท เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจองสิทธิ์และการวางเงินมัดจำต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รายละเอียดได้ที่ https://www.gwm.co.th/aftersales/

ดู Promotion GWM Motor เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.gwm.co.th/premiere-deal-terms-conditons/

Hyundai

รับข้อเสนอเมื่อจองรถยนต์ฮุนไดในงานมอเตอร์โชว์ หรือที่โชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ
ระยะเวลาข้อเสนอ:
ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2565 – 3 เมษายน 2565

ข้อเสนอเมื่อซื้อ Hyundai CRETA รุ่น SE หรือ SEL:
(1) รับฟรีค่าแรง เมื่อเข้ารับบริการเช็คระยะที่ศูนย์บริการฮุนไดทั่วประเทศ เป็นระยะเวลา 5 ปี มูลค่าประมาณ 10,000 บาท

(2) รับฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 19,000 บาท จากบริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ซึ่งออกโดยบริษัทประกันภัย

(3) รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) มูลค่า 20,000 บาท

(4) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) นาน 5 ปี มูลค่า 5,000 บาท

(5) สำหรับลูกค้าเก่ารถยนต์ฮุนไดทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 10,000 บาท

(6) รับข้อเสนอ ดาวน์เริ่มต้น 10% และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน เมื่อผ่อนชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด โดยเกณฑ์การพิจารณาและเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

(7) รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุดเพียง 1.89% เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป สำหรับระยะเวลาการผ่อนจำนวน 48 เดือน เมื่อผ่อนชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด โดยเกณฑ์การพิจารณาและเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

ข้อเสนอเมื่อซื้อ Hyundai STARIA รุ่น Premium:

(1) ดาวน์เริ่มต้น 10% และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน เมื่อผ่อนชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด โดยเกณฑ์การพิจารณาจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

(2) รับฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 30,985.64 บาท จากบริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ซึ่งออกโดยบริษัทประกันภัย

(3) รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) มูลค่าประมาณ 35,000 บาท

(4) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) นาน 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท

(5) สำหรับลูกค้าเก่ารถยนต์ฮุนไดทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 10,000 บาท

(6) รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุดเพียง 1.99% เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป สำหรับระยะเวลาการผ่อนจำนวน 48 เดือน เมื่อผ่อนชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด โดยเกณฑ์การพิจารณาและเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

ข้อเสนอเมื่อซื้อ Hyundai STARIA รุ่น S หรือ SEL:

(1) รับบัตรเติมน้ำมัน ปตท. มูลค่า 10,000 บาท สำหรับใช้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมัน บริษัท ปตท. ทุกสาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ โดยจะสามารถรับข้อเสนอดังกล่าว เมื่อทำการจองรถภายในวันที่ 3 เมษายน 2565 และได้รับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 ซึ่งจะดำเนินการจัดส่งบัตรไปยังผู้ที่ทำการจองตามระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นภายใน 30 วันทำการหลังจากวันที่ส่งมอบรถ และไม่สามารถเปลี่ยนเป็นส่วนลดหรือเงินสดได้ ระยะเวลาของแคมเปญดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 65 – 30 เมษายน 65

(2) ดาวน์เริ่มต้น 10% และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน เมื่อผ่อนชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด โดยเกณฑ์การพิจารณาจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

(3) รับฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 30,985.64 บาท จากบริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ซึ่งออกโดยบริษัทประกันภัย

(4) รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) มูลค่าประมาณ 35,000 บาท

(5) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) นาน 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท

(6) สำหรับลูกค้าเก่ารถยนต์ฮุนไดทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 10,000 บาท

(7) รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุดเพียง 1.99% เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป สำหรับระยะเวลาการผ่อนจำนวน 48 เดือน เมื่อผ่อนชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด โดยเกณฑ์การพิจารณาและเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

ข้อเสนอเมื่อซื้อ Hyundai H-1 Elite NS:
(1) ดาวน์เริ่มต้น 10% และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน เมื่อผ่อนชำระกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด โดยเกณฑ์การพิจารณาจะเป็นไปตามที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกำหนด

(2) รับฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี  มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,764.60 บาท จากบริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ซึ่งออกโดยบริษัทประกันภัย

(3) รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. โดยในปีที่ 4-5 หรือมากกว่า 100,000 กม. แต่ไม่เกิน 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) รับประกันเฉพาะชิ้นส่วนอะไหล่หลักของระบบเครื่องยนต์ เกียร์  และกล่องควบคุมสมองกล ตามเงื่อนไขและรายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือรับประกันคุณภาพรถยนต์ มูลค่าประมาณ 30,000 บาท

(4) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) นาน 5 ปี มูลค่า 8,950 บาท

(5) สำหรับลูกค้าเก่ารถยนต์ฮุนไดทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 10,000 บาท

ดู Promotion Hyundai เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.hyundai.co.th/shopping-tools/promotions/

Volvo

ข้อเสนอ Recharge For a Better Future

สำหรับรถยนต์วอลโว่คันโปรดของคุณ มอบให้ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 29 เมษายน 2565

ดู Promotion Volvo เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.volvocars.com/th-th/buy/discover/offers

BMW

Motor Show 2022

ข้อเสนอสุดพิเศษ BMW Protect (ประกันภัยชั้น 1) สูงสุด 3 ปี ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2565 พร้อมทางเลือกของข้อเสนอเพิ่มเติม ได้แก่

– ดาวน์เริ่มต้น 0%

– การันตีมูลค่าในอนาคต (GFV)

– สบายใจ 4 ทางเลือกในอนาคต เลือกขาย หรือเลือกคืนรถตามใจคุณเมื่อสิ้นสุดสัญญาฯ

*รุ่นรถที่เข้าร่วม BMW 2 Series, BMW 3 Series, BMW 3 Series Gran Sedan, BMW 5 Series, BMW 7 Series, BMW X3, BMW X5 (ไม่รวมรุ่นปรับอุปกรณ์ปี 2022) และ BMW X7 (ยกเว้น รุ่น BMW X7 xDrive40d M Sport)

เงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่จองรถบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่กำหนด และทำสัญญาทางการเงินแบบฟรีด้อม ช้อยส์ กับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สำหรับรถที่จองและรับรถตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เม.ย. 2565

MOTOR SHOW OFFER

รับ GARMIN SMART WATCH VENU 2S* เมื่อจองรถ BMW X SERIES ทุกรุ่น สำหรับลูกค้าที่จองรถบีเอ็มดับเบิลยู X Series ทุกรุ่น (รวมถึง BMW iX และ BMW iX3)

ดู Promotion BMW เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.bmw.co.th/th/topics/offers-and-services/special-offers/special-offers.html

10 อันดับ ยอดจองรถยนต์ ในงาน Motor Show 2022

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เผยยอดจองรถยนต์หลังการจัดงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) ที่แม้ว่าผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 ยังคงมีอยู่ต่อเนื่องสองปี แม้ว่ากำลังซื้อจะหายไปจากที่คาดบ้าง แต่ก็นับว่ามากกว่าปีที่ผ่านมา และกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในงานนี้มาแรงมาก บวกกับปัญหาน้ำมันแพง รถ EV สามารถสร้างยอดจองในงานได้กระฉูด

งาน Motor Show 2022 ครั้งนี้ สร้างยอดจองรถในงานได้ถึง 33,396 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 13.6% จากปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการณ์ของภาครัฐที่ส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้ส่วนลดมากถึง 150,000 บาท ประกอบกับรถยนต์และรถยนต์จักรยานยนต์รุ่นใหม่ ที่แนะนำในช่วงงาน รวมถึงโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายของค่ายรถ

ขณะที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยของการจัดงาน ทำให้มีตัวเลขผู้เข้าชมงานสูงถึง 1,578,898 คน

10 อันดับ ยอดจองรถยนต์ ในงาน Motor Show 2022

การที่ค่ายรถยนต์เริ่มให้ความสำคัญกับรถในกลุ่มพลังงานไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้ภายในงานครั้งนี้ มีการนำเสนอรถพลังงานไฟฟ้าในงาน Motor Show 2022 มากถึง 20 รุ่น ประกอบกับภาครัฐเริ่มมีนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการส่งเสริมผ่านการมอบส่วนลดกว่า 150,000 บาท ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์ภายในงานมากกว่า 10% เป็นยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับการออกนโยบายสนับสนุนของภาครัฐในครั้งนี้ ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย อย่างชัดเจนใน 2 ด้าน ด้านแรก คือ มีส่วนช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้มีความสนใจและต้องการที่จะเป็นเจ้าของเนื่องราคาจำหน่ายที่ถูกลง เข้าถึงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่อย่างรถไฟฟ้าได้ง่าย มีความมั่นใจที่อยากจะลองใช้รถประเภทนี้มากขึ้น ส่วนด้านของผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์การมีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่ชัดเจน ส่งผลให้ค่ายรถยนต์มีความมั่นใจ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในการทำตลาดรถไฟฟ้าในไทยมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ทั้งการยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการของภาครัฐจากค่ายรถยนต์ การปรับลดราคาจำหน่ายรถไฟฟ้า รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการผลิตรถไฟฟ้าในประเทศ นับเป็นความชัดเจนที่แสดงผ่านทุกฝ่ายว่าเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นศูนย์ กลางของรถไฟฟ้าในอาเซียนอีกด้วย

10 อันดับ ยอดจองรถยนต์ ในงาน Motor Show 2022

ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชน คือ รถของ ค่าย MG (เอ็มจี) และ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ที่ได้ลงนามกับภาครัฐที่ส่งเสริมแคมเปญ ประกาศลดราคาขายปลีกลงไป 160,500 – 161,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 ค่ายมียอดจองภายในงานรวมกันมากกว่า 2,000 คัน

นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นและยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Toyota, Mercedes-Benz, BMW และ Volvo ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทำให้ในปีนี้ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าภายในงานเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาเราต้องเจอผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดจองลดลงจากช่วงปรกติ แต่ด้วยตัวเลขยอดจองในปีนี้มีการเติบโตขึ้นจากปีก่อน จึงเชื่อว่ากำลังซื้อของคนไทยที่อยากได้รถยนต์คันใหม่ไม่ได้หายไป แต่รอเวลาที่เหมาะสม เมื่อมีแคมเปญและโปรโมชั่นของค่ายรถที่น่าสนใจและช่วยให้ทุกคนเป็นเจ้าของรถคันใหม่ได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคก็สามารถเลือกรถที่เหมาะสมกับความต้องการได้

10 อันดับ ยอดจองรถยนต์ ในงาน Motor Show 2022

โดยสิ่งที่ตอกย้ำพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าให้การตอบรับกับรถ ยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวและรับจองภายในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรกได้อย่างชัดเจน คือ แบรนด์น้องใหม่อย่าง Great Wall Motor ซึ่งเข้าร่วม Motor Show (มอเตอร์โชว์) เป็นปีที่ 2 และเริ่มเปิดรับจองรถยนต์ในงานเป็นครั้งแรก ก็สร้างยอดจองจากรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น เฉพาะในงานได้มากถึง 1,520 คัน

สำหรับปริมาณยอดจองรถใหม่ภายในงานมีปริมาณอยู่ที่ 31,896 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 14.4% ส่วนยอดจองรถจักรยานยนต์ภายในงานมีปริมาณอยู่ที่ 2,040 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 2% รวมทั้งหมดในงาน 33,396 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย. 2560 รวม 36,093 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 รวม 36,587 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. 2562 รวม 49,278 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 15 ก.ค. – 26 ก.ค. 2563 รวม 22,791 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 24 มี.ค. – 4 เม.ย. 2564 รวม 27,868 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 21 มี.ค. – 3 เม.ย. 2565 รวม 31,896 คัน

*ตัวเลขยอดจองด้านบน เฉพาะยอดจองรถยนต์ เท่านั้น

ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2022

ตารางยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2022

ตารางยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน Motor Show 2022

ตารางยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน Motor Show 2022

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับของ Motor Show 2022 วันที่ 21 มี.ค. – 3 เม.ย. 2565

1. Toyota 5,128 คัน

All-New Toyota Veloz 2022

2. Honda 3,019 คัน

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

3. Mazda 2,906 คัน

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

4. Isuzu 2,594 คัน

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

5. Mitsubishi 2,553 คัน

New-Mitsubishi Xpander 2022

6. MG 2,324 คัน

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

7. Suzuki 2,204 คัน

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

8. Mercedes-Benz 2,102 คัน

All-New Mercedes-Benz C-Class W206 2022

9. Ford 1,797 คัน

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

10. Nissan 1,620 คัน

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

พบกันใหม่ในปีหน้ากับงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44″ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี 

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ในปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ที่สมรรถนะดีมากกว่าในอดีตมาก และออพชั่นติดรถสุดทันสมัย ไม่แพ้รถยนต์นั่งเลยทีเดียว ซึ่งคาวมนิยมในบ้านเรากับความเป็นรถสารพัดประโยชน์ ทั้งในเชิงพาณิชย์ การใช้งานที่อเนกประสงค์ ขนของได้ ลุยน้ำได้ ไปกันได้หลายคน ใช้ทำเป็นรถรับจ้างหาเงินได้อีกด้วย

ในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เอ็มจี ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Show 2022 จะมีรถกระบะรุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ปีนี้นำ Hilux Revo GR Sport (ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต) ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาโชว์ รถกระบะยกสูงรุ่นท็อป Premium Adventure ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจากรถแข่งระดับโลก ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ World Rally Championship (WRC) เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถกระบะดีไซน์สปอร์ต

ดุดัน ทันสมัย ทั้งการออกแบบภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอย มาพร้อมกับโช้คอัพแบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) เพิ่มประสิทธิภาพให้สมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง ขับสนุกเร้าใจ สามารถขับลุยได้ทุกที่ ครบครันด้วยอุปกรณ์ความบันเทิง อาทิ หน้าจอสัมผัส Touchscreen ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay

แข็งแกร่งในทุกมิติด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร แรงสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ให้สมรรถนะที่แรง ดุดัน และเร้าใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด นุ่มนวล เกาะถนนมั่นใจด้วยช่วงล่าง SuperFlex Suspension เพิ่มความนุ่มนวลเช่นเดียวกับรถ SUV พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ Variable Flow Control ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ราคาของ Toyota Hilux Revo มีดังนี้

  • Hilux Revo รุ่นมาตรฐาน กระบะตอนเดียว มี 7 รุ่น ราคา 544,000 – 704,000 บาท
  • Hilux Revo Z-Edition มี 8 รุ่น ราคา 619,000 – 805,000 บาท
  • Hilux Revo ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner มี 10 รุ่น ราคา 724,000 – 1,026,000 บาท
  • Hilux Revo แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 5 รุ่น ราคา 879,000 – 1,176,000 บาท
  • Hilux Revo GR Sport 2WD ราคา 889,000 บาท
  • Hilux Revo Rocco มี 4 รุ่น ราคา 966,000 – 1,256,000 บาท
  • Hilux Revo GR Sport 4WD ราคา 1,299,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่! ครั้งแรกของโลก! ผลงานความสมบูรณ์แบบล่าสุดจาก DNA ของ Isuzu ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน มิติตัวรถใหญ่ บึกบึนยิ่งขึ้น ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ยกระดับความพรีเมี่ยม สู่มาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพระดับ Top Class ด้วยสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน เพิ่มความดุดัน และล้อ อัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius

ห้องโดยสารภายใน ผสานความเท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาล และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน ออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวางแบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver จัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานหลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment

มีให้เลือกครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 510,000 – 1,172,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) รถกระบะที่ กล้า… เพื่อคนแกร่ง ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า โดดเด่นด้วยด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน และเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบจาก Nissan Intelligent Mobility

นาวารา ใหม่ มีเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่

  • เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ Twin Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผันแบบ VGS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YD25DDTTi ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร

นอกจากนี้ ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สามารถลุยได้ทุกที่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และเทคโนโลยีที่เสริมความมั่นใจในทุกสภาวะของเส้นทาง อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential: B-LSD) และ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (Electronic Rear Locking Differential)  รวมถึงเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) ที่เสริมฟังก์ชัน Off-Road Meter เมื่ออยู่ในโหมด 4L

นอกจากนี้ นาวารา ใหม่ ยังนำรุ่นพิเศษ PRO-4X และ PRO-2X ใหม่ ถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจาก Nissan Titan สำหรับลูกค้าที่ชอบการเดินทางแบบผจญภัยพร้อมลุยไปในเส้นทางแปลกใหม่ ที่เสริมความดุดันของดีไซน์ภายนอก จากกระจังหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งโทนสีดำ ปรับแต่งช่วงล่างใหม่ให้สามารถลุยไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ ด้วยล้ออัลลอยพร้อมยางแบบ All-Terrain

โดยทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมสีพิเศษ สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) เสริมด้วยชุดแต่งที่มีแอคเซนท์สีส้มแดง ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยเบาะนั่งสีดำดีไซน์สปอร์ต ในราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-2X และ 1,149,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-4X

ราคาของ Nissan Navara อยู่ที่ 519,000 – 1,149,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ปีนี้มาในแนวชุดแต่ง Ralliart (แรลลี่อาร์ต) กับแนวคิด “Engineered Beyond Tough” หน้าตาภายนอกใช้ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น และกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Tube กับกันชนดีไซน์ใหม่ ลงตัวกับล้อแม็กลาย 6 ก้านคู่ และด้วยระยะความสูงจากพื้นถึง 700 มม. ช่วยลดความเสี่ยงที่ไฟหน้าและไฟตัดหมอกจะได้รับความเสียหายขับรถลุยน้ำท่วม หรือถูกหินกระเด็นใส่ตัวรถ

ส่วนออพชั่นภายใน และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร ช่องแอร์แบบใหม่ ใช้วัสดุภายในดูโดดเด่นขึ้น และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครันที่สุดในระดับเดียวกัน รวมไปถึงกล้องมองภาพรอบคัน ที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคันพร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคัน และเซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo Clean Diesel ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด แบบใหม่พร้อม Sport Mode

ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II พร้อมฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง ด้วย 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และโหมด 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control พ่วงด้วยโหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 519,000 – 1,112,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Mazda BT-50

All-New Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) เจเนอเรชั่นใหม่ ผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ดีไซน์ที่ถูกออกแบบอย่างสง่างามที่สุดในโลก คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีความทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด

การออกแบบที่สง่างาม สไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ให้ความสะดวกสบายเทียบเท่ารถเอสยูวี ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกโอกาส หรือ “Built for Dress and Jeans” ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ออกแบบด้วย Signature Wing ขนาดใหญ่ รูปทรงด้านหน้าที่สง่างามในสไตล์รถเอสยูวี ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

ภายในห้องโดยสาร ประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด ใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง คอนโซลหน้าถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดานเลือกใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่ง ให้นั่งสบายในทุกตำแหน่ง และแผงประตูดูหรูหรา ด้วยการตกแต่งสไตล์เดียวกับรถ SUV

การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์โดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลักการ Human Machine Interface ทุกฟังก์ชันง่ายต่อการใช้งาน การรับรู้ข้อมูลการขับขี่รวมถึงสายเรียกเข้าหรือชื่อเพลงบนหน้าจอแบบสี MID (Multi-Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT (Thin-film Transistor Technology)

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาส กับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มีทั้งแบบส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แถมรองรับน้ำมันดีเซลได้ถึง B20

ราคาของ Mazda BT-50 อยู่ที่ 569,000 – 1,153,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Ford Ranger / Ranger Raptor

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) เจเนอเรชั่นใหม่ สุดยอดรถกระบะที่แกร่งที่สุด สมบุกสมบันที่สุด และชาญฉลาดที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉมใหม่ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว ยกระดับความแข็งแกร่งภายนอกพร้อมความหรูหราสะดวกสบายภายใน โดยในระยะแรก สมนิยาม “เกิดมาแกร่ง” อย่างแท้จริง มีให้เลือกเฉพาะรุ่น Sport และ Wildtrak เท่านั้น พร้อมเปิดให้จองแล้วผ่านเวบไซต์ของ Ford

ดีไซน์ภายนอกของ All-new Ford Ranger 2022 โดดเด่นด้วยไฟหน้ารูปตัว C และกระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมระบบไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก และบันไดเหยียบด้านข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ขึ้น-ลงกระบะท้ายได้ง่ายขึ้น เสริมด้วยฐานล้อที่มีความยาวและความกว้างเพิ่มขึ้น 50 มม.

ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรายิ่งขึ้น แผงหน้าปัดใหม่ พร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว ที่เชื่อมเข้ากับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับ Apple CarPlay/Android Auto พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง และแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับรถได้เต็มรูปแบบ

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล Turbo 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

Ford Ranger ใหม่ เคาะราคารุ่น Sport เริ่มต้นที่ 929,000 บาท และรุ่น Wildtrak เริ่มต้นที่ 999,000 บาท

All-New Ford Ranger Raptor 2022

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเตอร์ แรพเตอร์) เจเนอเรชั่นใหม่ รถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเรนเจอร์ อัดแน่นด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา มาพร้อมดีไซน์ที่ดุดันยิ่งกว่าเคย พร้อมลุยทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนทางเรียบในชีวิตประจำวัน หรือเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด

ตัวรถภายนอกมาพร้อมความดุดัน และจุดเด่นหลายๆ อย่าง เช่น ติดตั้งระบบไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าเสียงท่อไอเสีย มีระดับความดังด้วยกันถีง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา เสริมด้วยระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา จะรักษาการหมุนของ Turbo ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที ช่วยให้เร่งได้ทันใจขณะออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร EcoBoost V6 Twin Turbo มอบกำลังสูงสุดถึง 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบ/นาที และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งทั้งหมดถูกปรับจูนตามมาตรฐานของ Ford Performance ถ่ายทอดกำลังได้เต็มพิกัดทั้งบนทางกรวด ดิน โคลน และทราย ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร Twin Turbo จะยังคงมีอยู่

ราคาของ Ford Ranger Raptor อยู่ที่ 1,869,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) มาใน Concept “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าใหม่ ตั้งแต่การจัดวาง Daytime Running Light ไว้ด้านบน

พร้อมชุดไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED Projector จัดวางเรียงเป็น 3 ระดับ ตามแนวตั้งด้านข้างของกันชนหน้า โดยไฟส่องสว่างลดระดับต่ำลงกว่าเดิม ทำให้ไม่รบกวนรถที่สวนทางมา พร้อมล้ออัลลอยด์แบบ Bi-Colour ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายใน เสริมความพรีเมี่ยมด้วยสีทูโทน สีน้ำตาลสลับสีดำ คอนโซล และแผงประตูตกแต่งพิเศษ ด้วยวัสดุแบบ Soft Touch พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าเอนได้ถึง 150 องศา และตกแต่งเบาะด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์

ตอกย้ำความเป็นสมาร์ทปิกอัพ ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ครบครันถึง 9 ระบบ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมมอบความคุ้มค่าที่เหนือกว่า

วางสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล Commonrail Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 161 แรงม้า ให้ทั้งพละกำลังโดดเด่น การประหยัดน้ำมัน และมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อในเกือบทุกรุ่น พร้อม Option ต่างๆ ที่ให้มากกว่ารถทุกรุ่นเมื่อเทียบในระดับราคาเดียวกัน

สำหรับ MG Extender ใหม่ ราคาอยูที่ 559,000 – 1,039,000 บาท

… ถูกใจรุ่นไหน ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Motor Show 2022 กันได้เลยนะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์ในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid นั้น ในงานมอเตอร์โชว์ 2022 (Motor Show 2022) ยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นเทรนด์ของโลกไปซะแล้ว แถมมีกระแสมาสูสีกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากความสะดวกของรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid คือการใช้งานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องหาที่ชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่หมด และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก อีกทั้งยังสามารถใช้งานในโหมด EV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ ได้เช่นกัน

ซึ่งตลาดรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid ก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท อาทิ รถเก๋ง, รถ SUV, หรือรถ MPV เป็นต้น แต่ในหัวข้อนี้ เราจะขอนำเสนอถึงรถแบบ SUV และ Crossover ที่มาในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid กันครับ

CARRO ขอคัดสรรรถ Hybrid และ Plug-In Hybrid รุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) ที่น่าซื้อน่าสนในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท มาให้ชม 8 รุ่นครับ …

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

Toyota Corolla Cross Hybrid

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ของโตโยต้าซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัว สร้างยอดขายสูงสุดในตลาดรถ Sub-Compact SUV ที่สำคัญ ยอดขายรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด มีสัดส่วนถึง 85% ของยอดจำหน่ายรวม และเป็นยอดขายสูงสุด ในตลาดรถ Hybrid SUV

แข็งแกร่งด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic View Monitor)

ซึ่งในงาน Motor Show 2022 นี้  Toyota Corolla Cross GR Sport (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส จีอาร์ สปอร์ต) ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ชมงานอย่างต่อเนื่อง เติมเต็มด้วย DNA ของมอเตอร์สปอร์ต ด้วยจิตวิญญาณของ Gazoo Racing ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งแพ็กเกจชุด GR ทั้งคัน

นอกจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาแล้ว ยังมีในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ที่มาพร้อมชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross Hybrid

  • รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Premium ชุดแต่ง Modellista ราคา 1,130,500 บาท
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ชุดแต่ง Modellista ราคา 1,240,500 บาท
  • รุ่น HEV GR Sport ราคา 1,249,000 บาท

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม
***สำหรับสี Platinum White Pearl/Black Roof เพิ่มเงิน 15,000 บาท
****สำหรับสี Red Mica Metallic/Black Roof เพิ่มเงิน 10,000 บาท

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

Toyota C-HR Hybrid

Toyota C-HR HEV GR Sport (โตโยต้า ซีเอชอาร์ จีอาร์ สปอร์ต) ใหม่ “Race Your Irresistible Ambition” ความเร้าใจที่ยากเกินต้านทาน เสริมทัพ GR Series พร้อม Fun to drive ไปกับ Sub-Compact SUV ใหม่ล่าสุด

สำหรับ Toyota C-HR ได้รับความนิยมจากลูกค้าที่ชื่นชอบสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยยอดจองรวมทุกรุ่นกว่า 9,000 คัน (ข้อมูลถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565) พร้อมแนะนำ “C-HR HEV GR Sport ใหม่” สายพันธุ์ Racing เครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร ผสาน 2 พลังขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ พร้อมประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ลิตร

ดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตกับแพ็กเกจชุด GR Sport ประกอบด้วย สเกิร์ตรอบคัน, ชุดตกแต่งกันชนหน้า, ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่, ไฟตัดหมอกแบบ LED, พร้อมสัญลักษณ์ GR ที่กันชนหน้า และ GR Sport บริเวณท้ายรถ

ภายในตกแต่งด้วยสีดำ Total Look และสี Gun Metallic สไตล์ GR เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ เดินด้ายสีเทา พร้อมสัญลักษณ์ GR , พวงมาลัยหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมสัญลักษณ์ GR, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR

ช่วงล่างปรับจูนใหม่แบบสปอร์ต Upgrade คอยล์สปริง และช็อคแอบซอร์บเบอร์ ทรงตัวดีขึ้น เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจและขับสนุกมากยิ่งขึ้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และช่วงล่างด้านหลัง Double Wishbone

ราคาของ Toyota C-HR

  • รุ่น HV Premium Safety ราคา 1,139,000 บาท
  • รุ่น HEV GR Sport ราคา 1,189,000 บาท

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

Honda HR-V e:HEV

All-New Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก!

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

ราคาของ Honda HR-V e:HEV

  • รุ่น E ราคา 979,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 1,079,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 1,179,000 บาท

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

Nissan Kicks

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

โดยมีให้เลือกในรุ่นย่อย E, V และ VL พร้อมเสริมความอุ่นใจของลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการขยายเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็น 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

และขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท
  • รุ่น VL (ภายในสีทูโทน) ราคา 1,059,000 บาท

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) เป็นรถ SUV ระดับพรีเมียมที่ประกอบในประเทศ ผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มด้วย “Pajero” สุดยอดตำนานแห่งรถเอสยูวี “Mitsubishi Lancer Evolution” เจ้าแห่งสนาม “เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ” (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง “i-MiEV” (ไอ-มีฟ)

ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว และหรูหราเหนือระดับ ดีไซน์ภายในประณีตทุกรายละเอียด ห้องโดยสารกว้างขวาง ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 305 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดอีวี (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) โหมด ไฮบริด (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และโหมดพาราเรล ไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน)

พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 52.6 กม./ลิตร หรือ 1.9 ลิตรต่อ 100 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

ราคาของ Mitsubishi Outlander PHEV

  • รุ่น GT ราคา 1,640,000 บาท
  • รุ่น GT-Premium 2WD ราคา 1,759,000 บาท

New MG HS PHEV 2022

MG HS PHEV

MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) โฉมใหม่เปิดตัวในงาน Motor Show 2022 ครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด Refinement โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมรูปโฉมใหม่ที่ผสานความหรูหราทันสมัยและความสปอร์ตอย่างลงตัว มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ และ ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid)

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการติดตั้งระบบนำทางเสมือนจริง หรือ AR Navigation ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้าที่ถ่ายทอดสภาวะแวดล้อมจริงในขณะเดินทาง ร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบ Realtime ช่วยให้การใช้งานระบบนำทางแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่าเดิม

และระบบกุญแจดิจิตอล (Digital Key Technology) อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 26 ระบบ และระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2

พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า

มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

ราคาของ MG HS PHEV

  • รุ่น PHEV D ราคา 1299,000 บาท
  • รุ่น PHEV X ราคา 1,379,000 บาท

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

Haval Jolion Hybrid SUV

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงานระยอง เปิดตัวในไทยคันแรกของโลก (ที่เป็นรุ่นพวงมาลัยขวา) เรียกคนดูเข้าบูธในงาน Motor Show 2022 ได้แน่นเช่นเคย ด้วยราคาสุดเร้าใจและการออกแบบรถ คุณภาพวัสดุ ที่ดูดีไม่แพ้รถเจ้าตลาดหลายๆ ยี่ห้อ

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะเช่นเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคันทีเดียว ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างขวาง สะดวกสบาย

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว

ราคาของ Haval Jolion

  • รุ่น Tech ราคา 879,000 บาท
  • รุ่น Pro ราคา 939,000 บาท
  • รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท

8 รถ SUV Hybrid และ Plug-In Hybrid น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน! ในงาน Motor Show 2022

Haval H6 Hybrid SUV

All-New Haval H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6) ยังคงเป็นรถ SUV Hybrid ยอดฮิตอีกหนึ่งรุ่นที่คนมางาน Motor Expo 2021 ต้องแวะไปดู ก็ได้เสียงตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย โดยเป็นราคาแบบ “One Price” ราคาเดียวกันในทุกๆ ช่องทางการขาย

อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ ผสานการการออกแบบที่สวยงาม พร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย และยังสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ตัวรถผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ และการสั่งการและควบคุมรถผ่าน GWM Application

กับขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส GW4B15 GDIT EVO พ่วงระบบเทอร์โบแปรผันและซูเปอร์ชาร์จ รวมกำลังสูงสุดมากถึง 243 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์แบบ DHT ที่รองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด

ราคาของ Haval H6 HEV

  • รุ่น Pro ราคา 1,149,000 บาท
  • รุ่น Ultra ราคา 1,249,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวม 5 รถเก๋ง Hybrid และ PHEV ราคาไม่เกิน 2 ล้าน น่าซื้อ! ในงาน Motor Show 2022

ในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) นี้รถยนต์ในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid นั้น แม้ว่าปัจจุบันกระแสอาจจะตกไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันในท้องตลาด รวมไปถึงกลุ่มคนที่ยังชื่นชอบรถสไตล์เก๋งอยู่

สำหรับจุดเด่นของรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid นั่นคือการใช้งานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องหาที่ชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่หมด และช่วยประหยัดน้ำมันได้มาก อีกทั้งยังสามารถใช้งานในโหมด EV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ ได้เช่นกัน

CARRO ขอคัดเลือกรถเก๋ง รถยนต์นั่งแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid รุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) ที่น่าซื้อน่าสนในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท รุ่นยอดนิยมทั้งแบบมือหนึ่งและมือสอง มาให้ชมด้วยกัน 5 รุ่นครับ …

รวม 5 รถเก๋ง Hybrid และ PHEV ราคาไม่เกิน 2 ล้าน น่าซื้อ! ในงาน Motor Show 2022

Toyota Corolla Altis Hybrid

Toyota Corolla Altis (โคโรลล่า อัลติส) รถยนต์เก๋ง Hybrid ตลาด C-Segment บนสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้ความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่ (Fun-to-drive) สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ตัวรถมาพร้อมระบบ Full Hybrid System ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกในการขับขี่ และตอบสนองต่อการเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ อัดออพชั่นแจ๋วๆ อย่าง ระบบปรับระดับกระจกข้างอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (Outer Mirror Reverse Function) และระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) มาให้ด้วย

พร้อมระบบ Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ที่มีระบบการทำงานเพิ่มเติม คือ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed Range ซึ่งสามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า และระบบ Lane Tracing Assist ที่ช่วยประคองรถยนต์ให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ในขณะเข้าโค้ง

ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 กับขุมพลังเครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 53 กิโลวัตต์ รวมกำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT เพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น

ราคาของ Toyota Corolla Altis Hybrid

  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 994,000 บาท
  • รุ่น HEV GR Sport ราคา 1,114,000 บาท

รวม 5 รถเก๋ง Hybrid และ PHEV ราคาไม่เกิน 2 ล้าน น่าซื้อ! ในงาน Motor Show 2022

Toyota Camry Hybrid

Toyota Camry Hybrid (โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ สมบูรณ์แบบด้วยภาพลักษณ์หรูหรา ดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ มาพร้อมคิ้วโครเมียม ชุดไฟหน้าเพิ่มความโฉบเฉี่ยว เพิ่มขนาดล้ออัลลอยใหญ่ 18 นิ้ว ให้ความสปอร์ต มั่นใจในทุกการขับขี่และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมจากสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA

ห้องโดยสารภายใน ฉีกแนวการออกแบบเดิมๆ ทิ้งไป เล่นเส้นสายรูปตัว “Y” ตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้แบบใหม่ หนังหุ้มเบาะหนังแท้พร้อมวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มพิเศษที่ตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ เบาะนั่งคู่หน้า Ventilator พร้อมพัดลมจากใต้เบาะและพนักพิงให้ความรู้สึก Premium เบาะนั่งด้านหลังปรับไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมที่คอนโซลด้านหลัง หน้าจอแบบ Floating Type ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า “Toyota Safety Sense” เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด

เครื่องยนต์สำหรับรุ่นไฮบริด…ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้า x เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force ทำงานร่วมกันอัตโนมัติ ให้การตอบสนองเต็มกำลัง กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที

มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 88 กิโลวัตต์ / แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร และเกียร์ E-CVT ขีดสุดแห่งพลังขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 23.8 กม./ลิตร

พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วย ชุดแต่ง Modellista package ที่ออกแบบจากญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด Tokyo Style มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในราคา 41,000 บาท โดยสามารถติดตั้งกับคัมรี รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ได้ทุกรุ่น

ราคาของ Toyota Camry Hybrid

  • รุ่น 2.5 HEV Premium ราคา 1,659,000 บาท
  • รุ่น 2.5 HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท

รวม 5 รถเก๋ง Hybrid และ PHEV ราคาไม่เกิน 2 ล้าน น่าซื้อ! ในงาน Motor Show 2022

Honda City e:HEV

Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อีเอชอีวี) ยนตรกรรม Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ City Car ในประเทศไทย มีให้เลือกทั้งในแบบตัวถัง Sedan 4 ประตู และแบบ Hatchback 5 ประตู ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive i-MMD ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 98 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เป็นระบบ Full Hybrid 109 แรงม้า ที่ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กม./ลิตร และรองรับน้ำมัน E20

พร้อมเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “Honda SENSING” (ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง) ดีไซน์สปอร์ตโดดเด่น ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS เสริมเอกลักษณ์เฉพาะของความเป็นไฮบริดด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และโลโก้ e:HEV

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกมิติ ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม เช่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) เป็นต้น

ราคาของ Honda City e:HEV

  • รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS Hatchback ราคา 849,000 บาท

All-New Honda Civic eHEV 2022

Honda Civic e:HEV

Honda Civic e:HEV (ฮอนด้า ซีวิค อีเอชอีวี) เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ไทย ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานไอคอน ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ใหม่ และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) เป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย

ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายความสปอร์ตพรีเมียม ชัดเจนด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมในรุ่น e:HEV RS ดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตพรีเมียม ด้วยเบาะหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัย สำหรับรุ่น e:HEV RS อาทิ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ดีไซน์เรียบหรู ล็อกและปลดล็อกรถได้ เพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เป็นต้น

ขุมพลังขับเคลื่อนแบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยมีทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode

ราคาของ Honda Civic e:HEV

  • รุ่น EL+ ราคาไม่เกิน 1,150,000 บาท
  • รุ่น RS ราคาไม่เกิน 1,270,000 บาท

*ราคาที่แสดงเป็นราคาประมาณการ ซึ่งราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการอาจมีการเปลี่ยนแปลง / เปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2565

รวม 5 รถเก๋ง Hybrid และ PHEV ราคาไม่เกิน 2 ล้าน น่าซื้อ! ในงาน Motor Show 2022

Honda Accord e:HEV

Honda Accord e:HEV (ฮอนด้า แอคคอร์ด อีเอชอีวี) โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งด้านการขับเคลื่อน ขุมพลัง Full Hybrid และด้านความปลอดภัย มาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัยกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ซึ่งผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า

ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียม เส้นสายปราดเปรียวและเฉียบคม ผสานความหรูหราและสปอร์ตไว้ลงตัว มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียมที่เชื่อมต่อกับไฟหน้า และไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED

ตอกย้ำเอกลักษณ์อันโดดเด่นของยนตรกรรมไฮบริดใน แอคคอร์ด e:HEV ด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลัง และซันรูฟพร้อมระบบ One-Touch

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง ผสานดีไซน์ความหรูหราและประณีตไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยเบาะหนังดีไซน์พรีเมียมสีน้ำตาลและสีดำ พร้อมชุดตกแต่งลายไม้ ระบบแอร์อัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมเทคโนโลยีระบบฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster Technology) ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD)

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ (Memory Seat with Easy Entry/Exit)

รุ่น e:HEV มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กม./ลิตร อีกทั้งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 97 กรัม/กม. ระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดถึง 3 โหมด ได้แก่ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode

ราคาของ Honda Accord e:HEV

  • รุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,639,000 บาท
  • รุ่น e:HEV TECH ราคา 1,799,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

10 ที่สุด ในงาน Motor Show 2022

“งานมอเตอร์โชว์ 2022” หรือ “Motor Show 2022” ในยุค New Normal ที่มีรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ รุ่นใหม่ๆ ที่แต่ละค่ายต่างเลือกมาโชว์มาขาย รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ทั้งโปรโมชั่น แคมเปญผ่อนดาวน์ และพริตตี้สาวสวยในยุคมีหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย หลายคนเห็นกันชินตาแล้ว นับจากการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ปีที่สอง …

แต่ในงานมอเตอร์โชว์ Motor Show 2022 การขับเคลื่อนในเชิงธุรกิจ ก็ยังต้องดำเนินต่อไป ด้านผู้ร่วมงานนอกจากจะต้องทำการขายให้ได้มากที่สุดแล้ว บางรายอาจสร้างสีสันให้กับบูธตัวเอง เพื่อเรียกลูกค้า สร้างความจดจำไม่ลืม แม้ว่างานจะจบไปแล้วก็ตาม ด้วยการนำจุดเด่นๆ ของผลิตภัณฑ์ที่มี มาร่วมโชว์ในงานครั้งนี้

ซึ่งจุดเด่นบางอย่าง เราถือได้ว่ามีความเป็น “ที่สุด” ที่มีมาโชว์หรือขายภายในงานครั้งนี้ CARRO จึงรวบรวม “10 ที่สุด” ที่เกี่ยวกับยานยนต์ในงาน “Motor Show 2022” มาให้ทุกท่านได้ว้าวกัน ว่ามีด้วยหรือเนี่ย!

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

ถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Show 2022 ไม่มีใครล้มตำแหน่งของเขาไปได้เป็นเวลาหลายปี นั่นคือ Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car (รถอีโคคาร์) ขนาดเล็กของซูซูกิขาย มาในราคาเพียง 328,000 บาท ที่ขายกันมายาวนานหลายปี

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

New Rolls-Royce Ghost Black Badge 2022

รถยนต์นั่งแพงที่สุด

รถยนต์นั่ง “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2022 ก็คงเป็นแบรนด์เดิมเหมือนแทบทุกปี นั่นคือ Rolls-Royce Black Badge Ghost (โรลส์-รอยซ์ แบล็กแบดจ์ โกสต์) ในราคา 37,900,000 บาท!

อัครยนตรกรรมยุคใหม่ที่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะ สะท้อนตัวตนของผู้ครอบครองที่มีรสนิยมพิเศษ ตัวถังพ่นสีขาวอาร์คติกไวท์ (Arctic White) ตัดกันกับโค้ชไลน์ (Coachline) ด้านข้างเป็นเส้นสีดำที่ลากยาวจรดตัวถัง โดยเป็นงานแฮนด์เมดผ่านปลายพู่กันของ มร.มาร์ค คอร์ต ผู้รับผิดชอบการวาดโค้ชไลน์เพียงหนึ่งเดียวของ โรลส์-รอยซ์

ขณะที่ชิ้นส่วนสแตนเลสชุบโครเมียมต่างๆ อาทิ ขอบกระจก ปลายท่อไอเสีย รวมไปถึงสัญลักษณ์นางฟ้าหรือ Spirit of Ecstasy (สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี) บนฝาประโปรง ถูกทำเป็นโครเมียมสีดำ ด้วยกรรมวิธีชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้มีสีเข้มและดูเงางาม ผสานความอลังการของล้อแม็กคาร์บอนคอมโพสิต ขอบ 21 นิ้ว ที่ผลิตมาโดยเฉพาะ

ห้องโดยสารสุดหรูหรา แดชบอร์ดประดับด้วยแผงวีเนียร์ (Veneer) Technical Fibre ลวดลายสามมิติ เป็นงานแฮนด์เมด ผลิตจากเส้นใยคาร์บอนและโลหะ เคลือบด้วยเรซิน พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยสัญลักษณ์อินฟินิตี้ (Infinity) บริเวณนาฬิกาบนแดชบอร์ด, กลางเบาะหลัง และแผ่นกันรอยบริเวณประตู สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ไร้ขีดจำกัด

เครื่องยนต์เบนซิน Turbo V12 สูบ 6.75 ลิตร ปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพให้มีกำลังระดับ 600 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ตอบสนองแบบสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ผสานเสียงคำรามหนักแน่นจากชุดท่อไอเสียแบบพิเศษ ขณะที่ช่วงล่างปรับปรุงให้สปอร์ตมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบเบรกที่อัพเกรดให้เหมาะสมกับสมรรถนะที่สูงขึ้น

Maserati MC20 2022

รถ Super Car แพงที่สุด

รถ Super Car ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2022 ขอยกให้ Maserati MC20 (มาเซราติ เอ็มซี20) สะท้อนความเป็นสปอร์ตของ มาเซราติ ยุคใหม่ โดยอักษร “MC” ย่อจากคำว่า Maserati Corse ขณะที่ตัวเลข 20 ก็สื่อถึงปี 2020 ซึ่งเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแบรนด์ มาเซราติ

Maserati MC20 ยังคว้ารางวัล “Most Beautiful Supercar of the Year 2021” และ “Super Sports Car of the Year” อีกทั้งยังเป็นซูเปอร์คาร์ ซึ่งผลิตในโรงงานที่เมืองโมเดนา อิตาลี 100%

ตัวรถดีไซน์พลิ้วไหว ผสานจิตวิญญาณสปอร์ตของขุมพลัง Nettuno แบบ V6 สูบ Twin Turbo 630 แรงม้า แรงบิด 730 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 325 กม./ชม. ซึ่งขุมพลังบล็อคนี้ เป็นเครื่องยนต์ที่ มาเซราติ ผลิตขึ้นด้วยตนเองอีกครั้งในรอบ 20 ปี

Maserati MC20 มาในราคาที่เป็นเจ้าของได้ เริ่มต้นที่ 21,500,000 บาท!

Brabus 800 Adventure XLP 2022

รถ SUV แพงที่สุด

ส่วนรถ SUV ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2022 ได้แก่ Brabus 800 Adventure XLP (บราบัส 800 แอดเวนเจอร์ เอ็กซ์แอลพี) เป็นการนำ Mercedes-AMG G63 รุ่นใหม่ล่าสุด มาปรับแต่งและขนานนามว่า Brabus 800 ในราคา 38,900,000 บาท!!! พร้อม Option เพิ่มเติมที่สามารถจัดใส่ในรถได้ถึง 50 ล้านบาท! เศรษฐีสายรถแต่งห้ามพลาด!

Brabus 800 Adventure XLP มาพร้อมความพิเศษและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยโลโก้ Brabus แบบเรืองแสงที่กระจังหน้า กับชุดแต่ง Widestar ของ Brabus ทำให้มีความกว้างกว่าเดิม 100 มม. ออกแบบกันชนหน้า-หลังใหม่ พร้อมไฟ LED เสริมที่ชายล่างกันชนและบนหลังคา ส่วนฝากระโปรงหน้ายกชุดใหม่ พร้อมสปอยเลอร์หลังคา ชุดฝาครอบล้ออะไหล่แบบคาร์บอนไฟเบอร์

Brabus ยังใช้ชุดล้อ BRABUS “Platinum Edition” Monoblock ขนาด 23 นิ้ว ที่หุ้มด้วยยางประสิทธิภาพสูงขนาด 305/35R23 ส่วนการออกแบบภายใน เจ้าของรถสามารถออกแบบได้ตามต้องการ ที่ Brabus จะนำเสนอทางเลือกการตกแต่งที่หลากหลาย ตั้งแต่ตัวเลือกหนังชั้นดี Alcantara ไปจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ในสีต่างๆ หรือตามที่ลูกค้าต้องการแบบไม่มีที่สิ้นสุด

ด้วยเครื่องยนต์จาก Mercedes-AMG G63 ที่ทาง Brabus ปรับแต่งจนมีกำลัง 789 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที อัปเกรดระบบท่อไอเสียสแตนเลสแบบสปอร์ตพร้อมวาล์วควบคุมได้ ด้วยแพ็คเกจปรับแต่งของ Brabus ทำให้คันนี้วิ่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.1 วินาที เท่านั้น

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาถูกที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ที่ถูกที่สุดในงาน Motor Show 2022 ต้องยกให้กับรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนนั่นเอง กับ Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

รุ่น L ราคาเริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

New Porsche Taycan GTS 2022

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาแพงที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) (ที่มาโชว์) และราคาแพงที่สุดในงาน Motor Show 2022 ครั้งนี้ ต้องยกให้ Porsche Taycan GTS (ปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส) ใหม่ ด้วยตำแหน่งทางการตลาดที่วางไว้อย่างสมบูรณ์แบบ สไตล์สปอร์ตเต็มพิกัด ระหว่าง Taycan 4S (ไทคานน์ โฟร์เอส) กับ Taycan Turbo (ไทคานน์ เทอร์โบ)

สำหรับ Porsche Taycan GTS คันนี้ คือเวอร์ชั่นที่สปอร์ตที่สุด เร้าใจที่สุด มาพร้อมพิสัยการเดินทางสูงสุดถึง 504 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP) นี่คือ Taycan รุ่นแรกที่ทำลายขีดจำกัดระยะทาง 500 กิโลเมตรได้สำเร็จ

รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุด มีดีไซน์ที่แตกต่างจากพี่น้องร่วมตระกูล: ชุดแต่งตัวถัง Sports Design Package เสริมภาพลักษณ์ดุดัน ตกแต่งกันชนหน้า-ท้าย และสเกิร์ตข้าง รวมไปถึงไฟหน้ารมดำ 3D Track Graphics ที่ได้รับการติดตั้ง Daytime Running Light แบบ LED

นับเป็นครั้งแรกกับการติดตั้งหลังคากระจก Panoramic Roof พร้อมเทคโนโลยี “Sunshine Control” อุปกรณ์พิเศษสำหรับ Taycan GTS ใหม่ แบ่งพื้นที่กระจกออกเป็น 9 ส่วน โดยแต่ละส่วนสามารถควบคุมการทำงานได้อิสระ เพิ่มฟังก์ชั่นในการกรองแสงจากภายนอกด้วยระดับการทำงานที่ปรับได้หลากหลาย ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุ Race-Tex สีดำ ชิ้นงานอลูมิเนียมปัดเงา

พกพาพละกำลังมหาศาลติดตัวมากว่า 598 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ Launch Control ขณะที่ใช้งานในโหมด Normal จะให้กำลังที่ 517 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.

Sakun.C EV Aluminum Bus

รถใหญ่ที่สุด

ถ้านับถึงสิ่งที่มีล้อ ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Show 2022 ครั้งนี้ต้องยกให้ Sakun.C (สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น) เปิดตัวผลงาน “EV Aluminum Bus” พร้อมโชว์ตัวในงาน Motor Show 2022

Sakun C ได้ร่วมกับ สวทช. พัฒนา “EV Aluminum Bus” สัญชาติไทย ตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียมขึ้นรูปผสมพิเศษ แข็งแรงกว่าเหล็กและอะลูมิเนียมทั่วไปถึง 4 เท่า ซึ่งเป็นอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ผลิตรถ Super Car แต่บริษัทนำมาใช้ผลิตรถเมล์ไฟฟ้า สำหรับคนไทย ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กครึ่งนึง ทำให้ใช้งานได้นานถึง 30 ปี

วิ่งได้ไกล ไม่ผุกร่อนหรือเป็นสนิม และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ลดฝุ่นควัน PM 2.5 มีค่า CO2 เป็นศูนย์ ด้านแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบการชาร์จไฟจะจัดทำไว้ให้เป็นไปตามคุณสมบัติที่ ขสมก. กำหนด

Siam Watercraft Motor Show 2022

ใหญ่ที่สุด

สิ่งที่ใหญ่ที่สุดในงาน Motor Show 2022 ครั้งนี้ต้องขอยกให้เรือจากบูธ Siam Watercraft และ Siam Motor Boats & Yachting ที่นำเรือสปีดโบ๊ต Cranchi และ Cobalt รวมถึงเรือเซิร์ฟอย่าง Malibu Boats และเจ็ทสกี Seadoo โมเดลใหม่ 2022 มาโชว์ในงาน ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว

Harley-Davidson Road Glide Special ST 2022

มอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

มอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Show 2022 ต้องยกให้กับ Harley-Davidson Road Glide Special ST (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน โรด กริด สเปเชี่ยล เอสที) ที่มาพร้อมความโดดเด่นเรื่องงานดีไซน์ สไตล์แฟร์ริ่งทรงจมูกฉลามแบบแอโรไดนามิกที่มีช่องระบายอากาศแบบแยกส่วนคงที่ (Fixed) พร้อมไฟหน้าแบบคู่

ใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ขนาด 1,923 ซีซี แบบ 2 สูบ V-Twin 4 จังหวะ 2 วาล์ว/สูบ ในราคา 1,649,900 บาท

Nissan Skyline R30 Motor Show 2022

เท่ที่สุด

ในงาน Motor Show 2022 น่าจะเรียกได้เลยว่าบูธ ROD นี้ เอารถแปลกมาโชว์ที่สุดแล้ว ตั้งแต่ไปเดินชมงานมา นั่นคือ Nissan Skyline (R30) คันนี้ ที่แต่งในแนวของ Zokusha (族車) หรือ Shakotan (車高短) รถเตี้ยติดดิน ตีโป่ง ใส่ล้อแม็กออฟเซ็ตลึกๆ สไตล์แก๊งรถซิ่งของญี่ปุ่นช่วงยุค 70 – 80 นั่นเอง

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

รถ Eco-Car (อีโคคาร์) ยังจัดได้ว่าเป็นรถยอดนิยมของคนไทยมานานนับสิบกว่าปี ที่แม้ว่าจะเป็นรถเล็ก แต่ก็ให้พลังเครื่องยนต์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง หรือขับในต่างจังหวัดก็ได้ ด้วยคุณสมบัติที่ประหยัดน้ำมัน (เหมาะเลยกับในยุคน้ำมันแพงเช่นนี้) ขับง่าย หาที่จอดรถก็ง่าย และยังซ่อมง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ อีกทั้งมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง วัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ ที่รายได้ยังไม่มากนัก ก็สามารถวางดาวน์ และผ่อนต่อเดือนได้สบายๆ

ในงาน Motor Show 2022 นี้ ผู้ผลิตรถ Eco-Car หลายเจ้า เช่น โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ, มาสด้า หรือ ซูซูกิ ก็ยังนำเสนอรถในแบบ Eco-Car กันอย่างต่อเนื่องเหมือนเช่นเคย

โดยในงาน Motor Show 2022 จะมีรถ Eco-Car รุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด “Intelligent Urban Sedan” โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใหม่โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) เป็นต้น แถมยังมีรุ่นใส่ชุดแต่งสปอร์อย่าง Sportech (สปอร์ตเทค) ให้เลือก

ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI สะดวกสบายในการใข้งานทั้งระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ภายใต้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน

วางขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) มีประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

ราคาของ Nissan Almera

  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 619,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 649,000 บาท
  • รุ่น VL Sportech ราคา 699,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ในงาน Motor Show 2022 นี้ ชูรุ่นตกแต่งพิเศษ Ralliart ด้วยสติ๊กเกอร์รอบคัน สำหรับภายนอกมากับภาพลักษณ์ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่ให้เพิ่มเติม

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Mirage

  • รุ่น 1.2 Active ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Ralliart ราคา 537,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart ราคา 579,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย พัฒนามาจาก Suzuki A: Wind Concept ต้นแบบรถยนต์ประหยัดพลังงานระดับโลก ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกของโลก (World Premier) ในไทย ได้ชื่อว่าคุณภาพเกินตัว ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถอีโคคาร์

มียอดจำหน่ายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวอยู่ที่ 13,732 คัน (เดือนพฤษภาคม 2557 – พฤศจิกายน 2562) อัดแน่นด้วยคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร อีกทั้้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ ของรถยนต์นั่งมาตรฐานโลก ส่งออกไปขายในเอเชียและยุโรปด้วย

ราคาของ Suzuki Celerio

  • รุ่น GA MT ราคา 328,000 บาท
  • รุ่น GL MT ราคา 408,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 437,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) ปรับโฉมใหม่ เพิ่มลุคสปอร์ตปราดเปรียว กระจังหน้าโครเมียมแบบใหม่ และล้อแม็กใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED

ภายในมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย กับ Keyless Push Start ปุ่มสตาร์ทในรถ

โดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ให้ความแข็งแรง ลดน้ำหนักทุกส่วนของรถยนต์ แต่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน ขับขี่ได้คล่องตัว รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Swift

  • รุ่น GL CVT ราคา 557,000 บาท
  • รุ่น GL PLUS CVT ราคา 567,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 629,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Suzuki Ciaz

Suzuki CIAZ (ซูซูกิ เซียส) มาภายใต้แนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” สุดยอดสปอร์ตอีโคซีดานที่หลายคนรอคอย

ด้านภายนอก ไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ต อีโอคาร์ กระจังหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันพร้อมสปอยเลอร์หลังไดนามิก

ภายใน คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต Suzuki Smart Connect จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay กับเบาะหนังคุณภาพสูง ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 565 ลิตร

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลือง 20 กม./ลิตร รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Ciaz

  • รุ่น GL MT ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น GL CVT ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 625,000 บาท
  • รุ่น RS CVT ราคา 675,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Toyota Yaris

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) และ Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์แฮทช์แบ็ค Yaris เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพื่อตอบสนองความต้องการรถ Eco-Car ในไทย และในเดือนสิงหาคม 2560 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของรถใน Segmant อีโคคาร์

สำหรับ Yaris ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีความสปอร์ต พรีเมียม ด้วยภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก สเกิร์ตด้านข้าง และด้านหลัง ล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงินขนาด 15 นิ้ว

ควบคู่ไปกับชุดแต่งพิเศษ X-URBAN โดดเด่น สไตล์ครอสโอเวอร์ ออกแบบภายใต้แนวคิด Modern & Cool ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตครอสโอเวอร์รอบคัน ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมโช๊คอัพและสปริงแบบยกสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ภายในได้ปรับพวงมาลัยแบบ Soft Touch หุ้มหนังชนิดนุ่มพิเศษ และแบบหุ้มหนังนุ่มพิเศษสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งด้านหน้าและหลังสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ เดินด้ายลายพิเศษ ที่วางแขน และกล่องเก็บของที่คอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์ซีดานยอดนิยม ATIV ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่คล่องตัว ให้ความรู้สึกสนุกสนานในทุกการขับขี่ “Fun-To-Drive” พร้อมฟังก์ชันสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

สำหรับ Yaris ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีความสปอร์ต พรีเมียม ด้วยภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก สเกิร์ตด้านข้าง และด้านหลัง สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงินขนาด 15 นิ้ว ส่วนภายในได้ปรับพวงมาลัยแบบ Soft Touch หุ้มหนังชนิดนุ่มพิเศษ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris ATIV

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Honda City

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ครั้งแรกกับการกระโดดลงมาอยู่ในตลาดรถ Eco-Car ของ Honda City ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหรา และภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายเหนือระดับรถซิตี้คาร์ และครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตเร้าใจไปอีกขั้น

สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายที่เฉียบคมโดดเด่น ด้วยไฟหน้าแบบ Projector พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารสะดวกสบายในทุกที่นั่ง หรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทนสีดำ หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันระดับพรีเมียม อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

ครั้งแรกกับ Honda City RS ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสปอร์ต ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS

มาพร้อมขุมพลัง Turbo ใหม่ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC Turbo 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แต่ยังประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กม./ลิตร

ราคาของ Honda City

  • รุ่น S ราคา 579,500 บาท
  • รุ่น V ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Honda City Hatchback

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทข์แบค) นี่ก็นับเป็นครั้งแรกของ Honda City ในรูปแบบ Hatchback 5 ประตู ที่เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในโลก ผสานเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) แยกพับแบบ 60:40 ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตล้ำสมัย ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมยกระดับความสปอร์ตอีกขั้นในรุ่น RS ครบครันด้วยฟังก์ชันที่พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานระดับพรีเมียม และเทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์และทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน Honda CONNECT

มาพร้อมการขับขี่ที่สนุกสนานกับขุมพลัง Turbo เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC Turbo ให้สมรรถนะการขับขี่สูงถึง 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร

พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจในทุกการเดินทาง อาทิ กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ถุงลม 6 ตำแหน่ง เป็นต้น

ราคาของ Honda City Hatchback

  • รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS ราคา 849,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Mazda2

Mazda2 (มาสด้า2) 2022 Collection ยกระดับความคุ้มค่ากับออพชั่นที่เกินราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ขับสนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น ดีไซน์เรียบหรูสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ตามแนวคิด Kodo Design (โคโดะ ดีไซน์) ที่เรียบง่าย แต่งดงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ยังมาพร้อมสีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) สีใหม่ สำหรับ 4 ประตู และ 5 ประตูและเพิ่มสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) สีใหม่ สำหรับซีดาน 4 ประตู

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ตดีไซน์ใหม่ ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับความพรีเมี่ยม และเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานนี้ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน

มั่นใจทุกการขับขี่ให้ทุกเส้นทางสนุกมั่นใจได้ในแบบของคุณกับ Active Driving Display สกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ Sport Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

จัดเต็มกับระบบความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense และยังมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) และกล้องมองหลัง รวมถึงระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP เพิ่มการขับขี่ไร้กังวลที่ทั้งประหยัดและปลอดภัย

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda2 / Mazda2 Sports

  • รุ่น 1.3 E / E Sports ราคา 546,000 บาท
  • รุ่น 1.3 C / C Sports ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 659,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XDL / XDL Sports ราคา 799,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: Nissan March (นิสสัน มาร์ช) และ Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) ณ วันที่จัดทำบทความ ทางผู้ผลิตรถยนต์มิได้นำรถยนต์มาจัดแสดงในงาน Motor Show 2022 แต่ยังคงมีข้อมูลรถยนต์ และราคาใบราคาที่แจกในงาน Motor Show 2022 ตามปกติ

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

ในปี 2022 นี้ บอกได้คำเดียวเลยว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือ Electric Vehicle (รถ EV) กำลังมาแรงสุดๆ ในไทยและในวงการยานยนต์โลก ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นรถที่แทบจะไม่มีมลพิษ ช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น จนค่ายรถทุกค่าย ต่างต้องรีบป้อนรถยนต์ไฟฟ้าในแบรนด์ของตัวเอง ออกมาขายกันยกใหญ่

และในยุคที่ราคาน้ำมันแพงไปทั่วโลกขณะนี้ ยิ่งทำให้ผู้คนต้องเริ่มหันมาจับตามอง รวมไปถึงการที่ค่ายรถ (บางแบรนด์) ได้ร่วมลงนาม MOU บันทึกข้อตกลงร่วมกับกรมสรรพสามิตในเฟสแรก รัฐบาลจะมอบเงินอุดหนุน จำนวน 70,000 – 150,000 บาทต่อคันตามขนาดแบตเตอรี่รถยนต์ ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า (บางแบรนด์) ถูกลงกว่าเดิม พร้อมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการลดลงของภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องซื้อแล้วล่ะแบบนี้ แล้วมาขายรถคันเดิมที่ CARRO Express ได้เลย

และในงาน Motor Show 2022 (มอเตอร์โชว์ 2022) ที่จัดขึ้นในเวลานี้ รถพลังงานไฟฟ้ายอดฮิต คงต้องยกให้กับแบรนด์รถยนต์ของจีน และของยุโรปหลายๆ แบรนด์ ส่วนทางด้านค่ายญี่ปุ่น แม้จะมีรถยนต์ไฟฟ้านำมาโชว์ในงานนี้แล้ว แต่แผนการผลิตและจำหน่ายในไทยยังดูเงียบกริ้บ

MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชม รถยนต์ไฟฟ้า ภายในงาน Motor Show 2022 จะมีรถรุ่นเด่นๆ ที่น่าสนใจ รุ่นไหนบ้าง? เราขอจัดเต็ม (เฉพาะรุ่นที่มีขายในงาน มีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ) มาให้เลือกดูกัน 15 รุ่นเลยครับ …

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

1. ORA Good Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) เรียกได้ว่ายังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง คนดูกันแน่นขนัดในงาน Motor Show 2022 แถมมียอดจองยาวนานหลายเดือน สำหรับเจ้าแมวเหมียวไฟฟ้าคันนี้ แถมยังได้ปรับลดราคาลงมามากถึง 160,500 บาท! กับ 2 รูปแบบแบตเตอรี่ และ 3 รุ่นย่อย

พร้อมนำ ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ต เผยโฉมครั้งแรกในไทย มาโชว์พร้อมรับจองผ่านทาง Application GWM ด้วยจ้า

ORA Good Cat ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ (143 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 152 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ ORA-Goddess Easy Drive พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈32 นาที และ 40 นาที (ในรุ่น 500 Ultra), ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈45 นาที และ ≈60 นาที (ในรุ่น 500 Ultra) กับการชาร์จไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ ≈8 ชั่วโมง และ ≈10 ชั่วโมง (ในรุ่น 500 Ultra)

ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น!

  • รุ่น 400KM Tech จากราคา 989,000 บาท เป็นราคา 828,500 บาท
  • รุ่น 400KM Pro จากราคา 1,059,000 บาท เป็นราคา 898,500 บาท
  • รุ่น 500KM Ultra จากราคา 1,199,000 บาท เป็นราคา 1,038,500 บาท

ORA Good Cat 2022 ยังมาพร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ อาทิ

  • รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% สำหรับทุกรุ่น
  • ฟรีโฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้ง
  • ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
  • แพ็กเกจบำรุงรักษา GWM PRO Service Inclusive (GPSI) 5 ปี
  • รับสิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับและส่งมอบรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง 4 ครั้ง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 5 ปี
  • รับคะแนนสะสม GWM Point 15,000 คะแนน

และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 136,000 บาท

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

2. Pocco Duoduo

Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

3. Pocco Meimei

Pocco Meimei Mini EV (ป๊อคโค่ เม่ยเม่ย) หรือ 朋克美美 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวก กับนวัตกรรมสุดล้ำ ยิ่งทวีคูณความน่ารัก น่าเลิฟ ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร และกำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 9.2 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 399,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 469,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

4. Takano TTE500

Takano TTE500 (ทากาโน่ ทีทีอี 500) นับว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารูปทรงกระบะรุ่นเดียวที่มีจำหน่ายในไทย เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นมาจากอดีตนักแข่งรถของญี่ปุ่น ที่ต้องการทำสิ่งดีๆ เพื่อโลกใบนี้บ้าง โดยรถกระบะไฟฟ้าขนาดจิ๋วคันนี้ พาคุณไปได้ทุกที่ สามารถรับน้ำหนักในการบรรทุกได้มากถึง 300 กิโลกรัม

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ พร้อมแบตเตอรี่ 12V 125 แอมป์ ขนาด 6 ลูก ใต้พื้นกระบะหลัง และเครื่องยนต์เบนซินขนาดจิ๋วช่วยปั่นไฟฟ้าให้แบตเตอรี่ ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ 100-120 กิโลเมตร โดยใช้เงินเพียง 30 บาท และทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม.

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 4 ปี

Takano TTE500 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 490,000 บาท

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

5. Lexus UX 300e

The New All-Electric Lexus UX 300e (เลกซัส ยูเอ็กซ์300อี) จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากค่ายเลกซัส ภายใต้แบรนด์ “LEXUS ELECTRIFIED” ซึ่ง Lexus ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2019 เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์เลกซัสทั่วโลก

โดย The New All-Electric Lexus UX 300e ยนตรกรรมรถยนต์ไฟฟ้า มีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ภายในออกแบบอย่างปราณีต ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือใครจากสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) ซึ่งมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ การทรงตัวดีเยี่ยม

พร้อมด้วยระบบการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 201 แรงม้า อัตราเร่งแรง ดุดัน มีสมรรถนะอันทรงพลัง โดยระยะทางวิ่งได้สูงสุด 360* กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

และชาร์จแบบ Quick DC Charger 0-80% ได้ภายใน 50 นาที สำหรับการชาร์จแบบกระแสตรงผ่านการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ 50 กิโลวัตต์ ด้วยกำลังไฟ 125 แอมป์ โดยแบตเตอรี่มีขนาด 54 kWh

รับประกันทั้งระบบ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี

Lexus UX 300e ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,490,000 บาท!

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

6. Nissan Leaf

Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) “Simply Amazing” เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” และมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” และถือเป็นรถค่ายญี่ปุ่นเจ้าแรก ที่กระโดดลงมาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างจริงจัง แม้ว่าตอนนี้กระแสรถ EV ค่ายนี้จะดูเงียบๆ ไปบ้างก็ตาม

Nissan Leaf ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.9 วินาที รองรับการขับขี่เป็นระยะทาง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC

ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 40 kWh สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟขนาด 3.6 kW ได้ในเวลา 12 ชั่วโมง และกำลังไฟขนาด 6.6 kW ในเวลา 6 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด่วนจนถึงระดับ 80% ได้ในเวลา 40 นาที

รับประกันทั้งระบบ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

Nissan Leaf ในราคาพร้อมซื้อ 1,499,000 บาท!

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

7. MG EP EV

MG EP (เอ็มจี อีพี) รถยนต์ในรูปแบบ Station Wagon ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” มีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่0-100% เฉลี่ยเพียง200 บาทหรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง บาท/กม. จึงทำให้ประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมั 2-3 เท่า

ประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน ได้แก่ ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย ที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ โดดเด่นด้วยสมรรถนะของ EV เทคโนโลยีที่ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay

และในส่วนของรุ่น Plus ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม, ติดตั้งระบบกรองอากาศ PM 2.5 และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า

และสมรรถนะจาก EV เทคโนโลยี (EV Technology) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ

สำหรับแบตเตอรี่ของ New MG EP เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

MG EP มาในราคาเบาๆ จากเดิม 988,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 227,000 บาท) ลดลงมาเหลือ 761,000 บาท! และ MG EP Plus ราคาเดิม 998,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 227,000 บาท) เหลือ 771,000 บาท!

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

8. MG ZS EV

New MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) รถยนต์ไฟฟ้า 100% โฉมใหม่ ที่มาพร้อมกับ Concept “Truly Easy” เรียบหรู ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด BRIT Dynamic ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handing) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ขับขี่ง่าย มั่นใจในทุกเส้นทาง

ภายในมาพร้อมการใช้งานที่ “ง่าย” และ สบาย ยิ่งขึ้น กว้างขวาง เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน บวกกับหน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว มีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) เป็นต้น

ตอบโจทย์เอาท์ดอร์ไลฟ์สไตล์ด้วยฟีเจอร์ V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 2,200 วัตต์ สมรรถนะสูง ด้วยมอเตอร์ขนาด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 50.3 kWh สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

New MG ZS EV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D รุ่นเริ่มต้น ราคา 949,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 240,000 บาท) และรุ่น X ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ในราคา 1,023,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 246,000 บาท)

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

9. Tesla Model Y

Tesla Model Y (เทสลา โมเดล วาย) รถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังที่สุดในโลก ในรูปแบบ Crossover 5 ที่นั่งรุ่นล่าสุด สร้างบนพื้นฐานของ Tesla Model 3 กับราคาที่จับต้องได้ ที่แม้ว่าในบ้านเรา Tesla ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดด้วยตัวเอง แต่ก็มีผู้จำหน่ายอิสระได้นำเข้ามาขายกันหลายเจ้าเลยทีเดียว

ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งแบบ Single Motor และ Dual Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบ AWD ในรุ่น Dual Motor มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 283 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Standard Plus, Long Range และ Performance เป็นแบบขนาด 75 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที (Standard Plus), 5 วินาที (Long Range) และ 3.3 วินาที (Performance) ทำความเร็วได้สูงสุด 217 กม./ชม. (Standard Plus, Long Range) และ 250 กม./ชม. (Performance) ให้ระยะทางวิ่ง 455 กิโลเมตร (Single Motor), 542 กิโลเมตร (Dual Motor) และ 528 กิโลเมตร (Performance) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (คำนวณตามมาตรฐาน WLTP) โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 6 – 6.5 ชั่วโมง

ราคาพิเศษเพียง 2,990,000 บาท! จองในงานพร้อมรับฟรี Wall box (แท่นชาร์จ) จาก Tesla มูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

10. Audi e-tron GT

Audi e-tron GT (อาวดี้ อี-ทรอน จีที) ซุปเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า 100% สเปคไทยพวงมาลัยขวา เป็นยนตรกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุด ฮอตที่สุด หลังจากการเปิดตัวผ่าน Online World Premier ของ AUDI AG เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ผลิตจากโรงงาน Böllinger Höfe ประเทศเยอรมนี

เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 3 ที่ทาง อาวดี้ ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่าย พร้อมข้อเสนอราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 6,390,000 บาท สำหรับรุ่น e-tron GT quattro ส่วน e-tron GT quattro Performance ราคาเพียง 6,790,000 บาท และตัวท็อปที่สุดคือ RS e-tron GT quattro เปิดตัวในราคาเพียง 9,490,000 บาท พร้อมออฟชั่นจัดเต็ม คุ้มค่าอย่างแน่นอน

มาพร้อมกับนวัตกรรมไฟหน้า Matrix LED with Laser light กับหลังคาพาโนรามิคผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยในการกรองแสง โดยมาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีดำ

การออกแบบที่ยึดมั่นใน DNA ของ Audi สะท้อนให้เห็นความโดดเด่นและแตกต่างอย่างลงตัว ด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ของ e-motors ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง กำลังสูงสุด 530 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร ส่วนในรุ่น Top อย่าง RS ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงถึง 646 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร
มาพร้อมกับระบบ Electric quattro ที่เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัว และออกตัวในลักษณะเร่งแซงมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Audi ไม่หยุดที่จะพัฒนาเทคโนโลยี ที่เรียกกันว่า e-sound เสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยเสียงสังเคราะห์ ยกระดับให้ความสนุกสนานในการขับรถไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.1 วินาที ใน Boost Mode ทำความเร็วได้สูงสุด 245 กม./ชม. แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 kWh ทำให้ขับได้กว่า 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ NEDC)

และในรุ่น Top สุด อย่าง RS ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที ใน Boost Mode ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. สามารถขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC)

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

ราคาเริ่มต้นที่ 6,399,000 บาท

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

11. BMW iX3

BMW iX3 (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3) มาพร้อมเอกลักษณ์สุดล้ำ ประสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับความหนาแน่นและความจุพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่แรงดันสูง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า เทคโนโลยีการชาร์จ และแบตเตอรี่แรงดันสูงรุ่นล่าสุด ที่ได้รับการยกระดับในด้านสมรรถนะการทำงาน การใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะทางในการขับขี่ อีกทั้งยังเพิ่มความหนาแน่นและศักยภาพของกำลังไฟฟ้าด้วยการรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และระบบเกียร์ไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน เช่นเดียวกับ BMW iX

ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ใน BMW iX3 ส่งพละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ซึ่งโดดเด่นว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่นๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง โลดแล่นจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.

ขับขี่สนุกอย่างอุ่นใจด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ปริมาตรความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่การติดตั้งและน้ำหนัก ส่วนความจุพลังงานรวมอยู่ที่ 80kWh เพื่อขับเคลื่อนให้ BMW iX3 ขับขี่ได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และ 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

เทคโนโลยีระบบชาร์จใหม่ล่าสุดเติมพลังงานสู่แบตเตอรี่ 400 โวลต์ และแหล่งจ่ายไฟ 12 โวลต์ แก่อุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถ หากใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ สามารถชาร์จด้วยระบบไฟแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และเมื่อชาร์จแบบรวดเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จะรับพลังงานได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ และสำหรับการชาร์จด้วยแรงดันนี้ BMW iX3 ยังรองรับการชาร์จจาก 0-80% ได้ภายใน 34 นาที เพิ่มระยะทางการวิ่งถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 10 นาที (ตามมาตรฐาน WLTP)

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

BMW iX3 มาในราคา 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

12. BMW iX

BMW iX (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์) จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจาก BMW ที่มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้า ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลัง

BMW iX xDrive50 Sport มาพร้อมหน้าจอแสดงผลและระบบทำงาน iDrive เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรก ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้า

โดยจอ BMW Curved Display เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลซึ่งประกอบไปด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วและจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดิจิทัลมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ และแสดงกราฟฟิกดีไซน์ใหม่ขณะสื่อสารกับผู้ใช้งาน ระบบ My Modes ใหม่ ขยายการตั้งค่าต่างๆ ของรถยนต์ให้ครอบคลุมประสบการณ์ขับขี่ทุกรูปแบบ

BMW iX xDrive50 Sport ให้พละกำลังสูงสุด 523 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 765 นิวตันเมตร มอบระยะทางขับเคลื่อนสูงสุดถึง 630 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) พร้อมระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-Actuator Wheel Slip Limitation) ติดตั้งควบคู่กับระบบ AWD เป็นครั้งแรก โลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.6 วินาที

แบตเตอรี่แรงดันสูงใน BMW iX xDrive50 Sport มีความจุพลังงานรวม 111.5 kWh หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ และสำหรับการชาร์จจากเครื่องชาร์จ 100 กิโลวัตต์นั้น จะใช้เวลาราว 56 นาที ในการชาร์จจาก 10% ถึง 80%

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

BMW iX ราคาอยู่ที่ 5,999,000 บาท!

BMW i4 eDrive40 M Sport

13. BMW i4

BMW i4 (บีเอ็มดับเบิลยู i4) ถือเป็น Gran Coupé สี่ประตูที่ผสมผสานความโอ่อ่ากว้างขวางภายในตัวรถเข้ากับการใช้งานจริง พร้อมโลดแล่นบนท้องถนนกับความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต เอกลักษณ์ความพรีเมียมที่ถูกสะท้อนให้เห็นในระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีแชสซีส์ นอกจากนี้ ระบบควบคุมและระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นใหม่ พร้อมนวัตกรรมล้ำสมัยของระบบขับขี่และระบบการจอดอัตโนมัติ ยังช่วยเพิ่มทุกประสบการณ์การขับขี่อีกด้วย

มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อยคือ BMW i4 M50 ใหม่ รุ่นแรกจาก M GmbH ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนปราศจากมลพิษ (อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 22.5 – 18 kWh / 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวบริเวณเพลาหน้าและด้านหลังของรถ ส่งพลังได้ถึง 544 แรงม้า ทำระยะวิ่งได้สูงสุดถึง 521 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

ด้านบีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive40 M Sport ใหม่ (อัตราการใช้ไฟฟ้ารวม 19.1 – 16.1 kWh / 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP) ผสมผสานมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 340 แรงม้า เข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มอบระยะวิ่งสูงสุดถึง 590 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ยังประกอบด้วยแบตเตอรี่แรงดันสูงพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มีความจุแบตเตอรีแรงดันสูงที่ 83.9 kWh สามารถชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 205 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 31 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10 – 80%

BMW i4 eDrive40 M Sport ใหม่ ราคา 4,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

BMW i4 M50 ใหม่ ราคา 4,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

14. Mini Electric Collection Edition

Mini Electric Collection Edition (มินิ อิเลคทริค คอลเลคชั่น เอดิชั่น) ใหม่ ทำให้แฟนๆ มินิ ได้จับจองเป็นเจ้าของในงาน Motor Show 2022 โดยในไทย มีรุ่นพิเศษนี้จำหน่ายแค่ 40 คันเท่านั้น

Mini Electric Collection Edition แต่ละคันล้วนมีเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ด้วยโทนสีหลากเฉดของ Multitone Roof ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากเทคนิคการพ่นสีแบบใหม่ของมินิที่โรงงานในอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

กระบวนการนี้ จะเริ่มลงสีหลังคาด้วยสีฟ้าอ่อน Pearly Blue เป็นสีแรก ต่อด้วยสีน้ำเงินเข้ม San Marino Blue ด้านหน้า และสีดำ Jet Black ที่ด้านหลัง ทำให้เกิดการไล่สีที่สวยสะดุดตา นอกจากนี้ การไล่โทนสีในแต่ละคันอาจแตกต่างกันเล็กน้อยจากขั้นตอนการลงสี จึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใครในแต่ละคันของมินิรุ่นพิเศษนี้นั่นเอง

Mini Electric Collection Edition ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับสนุก ส่งกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.3 วินาที ใช้แบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุ 32.6 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 217 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC)

ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัยก็จัดมาอย่างรอบด้าน เดินทางอย่างมีสไตล์ด้วยลูกเล่นพิเศษอย่างวิทยุ มินิ Visual Boost ผิวภายในห้องโดยสารที่ตกแต่งแบบ มินิ Yours ชุดลำโพง 12 ตัวจาก Harman Kardon และอื่นๆ

พร้อมรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยซื้อเพิ่ม MSI Standard ได้อีก 6 ปี

โดยมีให้เลือกในสีน้ำเงิน Island Blue และสีเทา Rooftop Grey มาในราคา 2,459,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

15. Volvo XC40 Recharge

Volvo XC40 Recharge Pure Electric (วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 เพียว อิเล็กทริค) รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Crossover SUV ขนาด Compact รุ่นแรกจากค่าย Volvo ที่ทำตลาดอย่างเป็นทางการในไทย เปิดตัว (แต่ไม่มีรถตัวจริงมาโชว์) ไปในงาน Motor Show 2021 ที่ผ่านมา

ภายนอกใช้กระจังหน้าเป็นแบบยูนิบอดี้ เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่านี่คือรถตระกูลไฟฟ้าของ Volvo พร้อมการตกแต่งภายในระดับพรีเมียมด้วยวัสดุหนังสีดำ รวมถึงระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS ที่พัฒนาร่วมกับ Google ที่ใช้ในการขับขี่ และระบบความปลอดภัยขั้นสูงเต็มรูปแบบ

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง 2 ตำแหน่งขนาด 204 แรงม้า ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ให้กำลังรวมสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงแบบลิเธียมไอออน ขนาด 78 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กม./ชม. ให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 418 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สามารถชาร์จผ่าน Wallbox ขนาด 11 kw จาก 0-100% ได้ในเวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง และรองรับระบบชาร์จด่วนจนถึงระดับ 80% ในเวลาประมาณ 40 นาที

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

Volvo XC40 Recharge Pure Electric มาในราคา 2,590,000 บาท ยังครอบคลุมถึงค่าบริการชาร์จไฟจาก EA Anywhere เป็นเวลา 1 ปีเต็ม

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

อันนี้แถมให้ … Volvo C40 Recharge Pure Electric

Volvo C40 Recharge Pure Electric (วอลโว้ ซี40 รีาร์จ เพียว อิเล็กทริค) เป็นรถยนต์แบบ Crossover SUV รุ่นที่ 2 ต่อจาก Volvo XC40 Recharge Pure Electric ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ใช้แพล็ตฟอร์ม CMA (Compact Modular Architecture) สำหรับรถ Compact แบบเดียวกับ XC40 แต่รูปลักษณ์ตัวรถแบบ Coupe

ด้านหน้ารถดูเรียบหรู มินิมอลแบบสวีเดน ด้วยตะแกรงแบบฝาครอบปิดสีเดียวกับตัวถัง มีแผง Aero Optimised Spoiler ช่วยในเรื่องของการทรงตัวและการยึดเกาะถนน และไฟท้ายแบบเส้นปะ ที่เดินเส้นไปสู่แผงไฟหลักด้านหลัง สะท้อนการผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิกได้อย่างลงตัว

แผงคอนโซลหน้าในสไตล์ Topography Translucent Decor ที่ได้แรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาในประเทศสวีเดน ใส่ลูกเล่นซ้อนวัสดุที่แตกต่างกันถึง 3 เลเยอร์ ให้มุมมอง 3 มิติบนผิวสัมผัสที่เรืองแสง และยังมีหลังคา Panoramic Glass Roof

พร้อมเพลิดเพลินกับระบบ Infotainment ของ Volvo with Google Built in ที่ให้คุณใช้แอปจากกูเกิ้ลอย่าง Google Maps, Google Assistant รวมทั้ง Google Play หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Volvo Cars App บนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้ ฝากระโปรงหลังยังเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมจัดเก็บสัมภาระได้มากถึง 413 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลง จัดเก็บได้มากถึง 1,205 ลิตร

ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ ติดตั้งด้านหน้า-หลัง ให้กำลังรวม 408 แรงม้า ที่ 4,350 – 13,900 รอบ/นาที* แรงบิดสูงสุด 660 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Dual Motor AWD ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.7 วินาทีเท่านั้น* จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 180 กม./ชม.

แบตเตอรี่มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ ขนาด 58 kWh และ 72.6 kWh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่แบบ Ultra-Fast รองรับแรงดันไฟสูงสุด 400 โวลต์ และ 800 โวลต์

ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 80% ในเวลาเพียง 37 นาที (หากชาร์จไฟบ้าน 0-100% ที่กำลังไฟ AC 11kW Fast Charging (Type2) 3-phase 16A ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง)

พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

Volvo C40 Recharge Pure Electric สนนราคาอยู่ที่ 2,790,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมรถใหม่ รถเด่น รถต้นแบบ ในงาน Motor Show 2022

“Motor Show 2022 (มอเตอร์โชว์ 2022)” หรือ The 43rd Bangkok International Motor Show 2022 ภายใต้แนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล” หรือ “Keep Moving Forward Together” ค่ายรถยนต์-จักรยานยนต์ชั้นนำเข้าร่วมงานกันพอสมควร ซึ่งแต่ละแบรนด์ ต่างเตรียม “วัคซีน” เข็มกระตุ้นโปรโมชั่นฉีดให้ผู้บริโภค มีแรงซื้อรถกันไหวถ้วนหน้า และคนที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า บอกได้เลยว่างานนี้มาโชว์กันเต็มที่สุดๆ!

ในส่วนของ CARRO ก็ขอนำเสนอรถเด่นรุ่นใหม่ และรถใหม่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Show 2022 โดยบริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ CARRO ขอนำภาพสวยๆ มาให้ดูกันอย่างจุใจ

สำหรับบริษัทรถยนต์ ที่เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ประกอบไปด้วย Ford, BMW, MINI, Suzuki, Rolls-Royce, Aston Martin, Jeep, Maserati, Peugeot, Mazda, Hyundai, Mercedes-Benz, Great Wall Motors, Nissan, Toyota, Lexus, Honda, Audi, MG, Isuzu, Mitsubishi, Porsche, Bentley, Volvo, Kia, Subaru และ Takano

ด้านผู้จำหน่ายอิสระ และสำนักแต่งรถก็มี อาทิ Barbus, Rojam, Tachart หรือ BRG Group เป็นต้น

และในส่วนของค่ายรถมอเตอร์ไซค์ ได้แก่ Thai Honda, Suzuki Motosales, Kawasaki, Yamaha, Ducati, Royal Enfield และ Harlay-Davidson เป็นต้น

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Show 2022 กันได้เลย

Foxtron Model C 2022

Fortron Model C

BYD Dolphin 2022

BYD Dolphin

Hozon Neta V 2022

Hozon Neta V

Hozon Neta U Pro 2022

Hozon Neta U Pro

All-New Subaru BRZ 2022

All-New Subaru BRZ

All-New Hyundai Staria Premium 2022

All-New Hyundai Staria Premium

New Hyundai Creta 2022

New Hyundai Creta

All-New Ford Ranger Raptor 2022

All-New Ford Ranger Raptor

All-New Ford Everest 2022

All-New Ford Everest

All-New Toyota bZ4X 2022

All-New Toyota bZ4X

Toyota e-Palette

Toyota e-Palette

All-New Toyota Veloz 2022

All-New Toyota Veloz

All-New Honda Civic eHEV 2022

All-New Honda Civic e:HEV

New-Mitsubishi Xpander 2022

New Mitsubishi Xpander

All-New ORA Good Cat GT 2022

All-New ORA Good Cat GT

All-New Tank 300 HEV 2022

All-New Tank 300 HEV

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

New MG ZS EV

New MG HS PHEV 2022

New MG HS

Audi RS7 Sportback 2022

Audi RS7 Sportback

Audi Q7 TFSI e 2022

Audi Q7 TFSI e

Audi Q8 TFSI e 2022

Audi Q8 TFSI e

BMW i4 eDrive40 M Sport

BMW i4 eDrive40 M Sport

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

New Mini Electric Collection Edition

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

All-New Volvo C40 Recharge Pure Electric

New Rolls-Royce Ghost Black Badge 2022

New Rolls-Royce Ghost Black Badge

New Rolls-Royce Cullinan Black Badge

New Porsche Taycan GTS 2022

New Porsche Taycan GTS

New Bentey Flying Spur Hybrid 2022

New Bentey Flying Spur Hybrid

New Bentey Bentayga Hybrid 2022

New Bentey Bentayga Hybrid

David Brown Automotive Motor Show 2022

David Brown Automotive

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

CARRO พาชมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Show 2022

“Motor Show 2022” (มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43) หรือ The 43rd Bangkok International Motor Show 2022 ภายใต้แนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล” หรือ “Keep Moving Forward Together” พร้อมนำรถรุ่นใหม่มาโชว์ให้ดูกันเต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศการจัดงานแบบวิถีชีวิตใหม่-New Normal ปลอดภัยไร้กังวลจากโควิด-19 และในปีนี้ พิเศษ! ด้วยโซน Smart EV City ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนยุคใหม่

โดยงานมอเตอร์โชว์ 2022 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ รถรุ่นเด่นๆ และรถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดตัวกันตั้งแต่ก่อนงาน และในงาน Motor Show 2022 แม้ว่าในปีนี้ บริษัทรถยนต์หลายค่าย อาจจะมีรถใหม่มาเผยโฉมกันไม่มากนัก … เอาล่ะ CARRO ขอแนะนำรถในงาน Motor  Show 2022 ให้ได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ กันเลยครับ …

New Toyota C-HR GR Sport 2022

Toyota C-HR GR Sport

Toyota C-HR HEV GR Sport (โตโยต้า ซีเอชอาร์ จีอาร์ สปอร์ต) ใหม่ “Race Your Irresistible Ambition” ความเร้าใจที่ยากเกินต้านทาน เสริมทัพ GR Series พร้อม Fun to drive ไปกับ Sub-Compact SUV ใหม่ล่าสุด

สำหรับ Toyota C-HR ได้รับความนิยมจากลูกค้าที่ชื่นชอบสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยยอดจองรวมทุกรุ่นกว่า 9,000 คัน (ข้อมูลถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565) พร้อมแนะนำ “C-HR HEV GR Sport ใหม่” สายพันธุ์ Racing เครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร ผสาน 2 พลังขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ พร้อมประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ลิตร

ดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตกับแพ็กเกจชุด GR Sport ประกอบด้วย สเกิร์ตรอบคัน, ชุดตกแต่งกันชนหน้า, ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่, ไฟตัดหมอกแบบ LED, พร้อมสัญลักษณ์ GR ที่กันชนหน้า และ GR Sport บริเวณท้ายรถ

ภายในตกแต่งด้วยสีดำ Total Look และสี Gun Metallic สไตล์ GR เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ เดินด้ายสีเทา พร้อมสัญลักษณ์ GR , พวงมาลัยหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมสัญลักษณ์ GR, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR

ช่วงล่างปรับจูนใหม่แบบสปอร์ต Upgrade คอยล์สปริง และช็อคแอบซอร์บเบอร์ ทรงตัวดีขึ้น เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจและขับสนุกมากยิ่งขึ้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และช่วงล่างด้านหลัง Double Wishbone

Toyota C-HR HEV GR Sport มาในราคา 1,189,000 บาท

Toyota bZ4X 2022

Toyota bZ4X

นับตั้งแต่ Toyota (โตโยต้า) เผยโฉมรถ Crossover SUV หรือ C-SUV พลังงานไฟฟ้า 100% จากค่ายโตโยต้า Toyota bZ4X (โตโยต้า บีแซดโฟร์เอ็กซ์) ใหม่ ก็เป็นที่สนใจอย่างมากของชาวโลก และมีข่าวว่าในงาน Motor Show 2022 (มอเตอร์โชว์ 2022) นี้ Toyota ได้นำเข้ามาให้ได้ชื่นชมกัน ก่อนเตรียมขายในไทยเร็วๆ นี้

Toyota bZ ชื่อรุ่นเป็นคำย่อมาจากคำว่า “Beyond Zero” และยังเป็นรุ่นแรกของตระกูล bZ Series ที่โตโยต้าจะใช้ชื่อ bZ นี้ เพื่อสื่อถึงความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม e-TNGA ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มใหม่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ร่วมพัฒนากับทาง Subaru และ Daihatsu รวมจุดเด่นด้านระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของโตโยต้า และความเชี่ยวชาญด้านระบบ AWD ของ Subaru ไว้

ขุมพลังมีด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว แบบ AC Synchronous Electric Motor ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 71.4 kWh ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.4 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม./ชม. วิ่งได้ไกลสุด 500 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)

ส่วนแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แบบ AC Synchronous Electric Motor ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 336 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 71.4 kWh ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม. สามารถขับได้ไกลสุด 460 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)

รองรับการชาร์จไฟทั้งแบบกระแสสลับ AC กำลังไฟ 6.6 kW ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง และกระแสตรง DC กำลังไฟ 150 kW จาก 0-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

All-New Toyota Veloz 2022

Toyota Veloz

All-New Toyota Veloz (โตโยต้า เวลอซ) รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สไตล์ Premium Crossover ดีไซน์ล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ C-Segment ใช้แนวคิดการสื่อสารการตลาดว่า “ใช้ชีวิตไปด้วยกัน” หรือ “Better Together”

ภายนอกดูโดดเด่น กระจังหน้าดีไซน์ขนาดใหญ่พร้อมไฟหน้าแบบ LED ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง พร้อมแผ่นกันใต้ท้องรถสไตล์ Crossover มีแนวเส้นขอบโครเมียมด้านหน้าตัวรถยาวถึงด้านหลัง ล้อและซุ้มล้อขนาดใหญ่แบบ SUV

ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย เบาะนั่งปรับได้หลากหลายถึง 7 แบบ เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยด้วยแผงหน้าปัด TFT ปรับได้ 4 รูปแบบ ระบบเครื่องเสียง หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) ช่องเสียบ USB 4 จุด และที่วางแก้วน้ำมากถึง 15 จุด

ที่สำคัญยังเพียบพร้อมด้วยระบบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในรถระดับเดียวกัน ด้วย Toyota Safety Sense หรือ TSS พร้อมแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ และเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร 106 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 17.9 กม./ ลิตร หยุดรถมั่นใจด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า

มีให้ลูกค้าเลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Premium และ รุ่น Smart ในราคา 875,000 – 975,000 บาท (ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงานเท่านั้น)

New Mitsubishi Xpander 2022

Mitsubishi Xpander

Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) เปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์ ในงาน Motor Show 2022 นี้แต่ยังไม่เปิดราคาจำหน่าย

ปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงตัวรถใหญ่เพิ่มขึ้นอีก 95 มม. และความสูงจากพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 15 มม. ทำให้รถมีความสูงมากถึง 220 มม. พร้อมติดตั้งและเพิ่มเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า

ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield ด้านหลังดีไซน์ใหม่ ติดตั้งกันชนท้ายและแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ ดีไซน์ 3 มิติ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สีทูโทนขนาด 17 นิ้ว

ห้องโดยสารสีทูโทน สีน้ำตาล-ดำ ดีไซน์ใหม่แบบ Horizontal Axis จัดเรียงแผงควบคุมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ใช้งานง่าย พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ทรงสปอร์ต วัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มเบาะนั่ง มีหน้าจอระบบสัมผัส รุ่นใหม่ ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับการใช้งานแอปเปิล คาร์เพลย์ ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมกันนี้ยังติดตั้ง ที่วางขวดน้ำขนาด 600 มล. มากถึง 4 ขวด บริเวณที่พักแขนอีกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่องรุ่นใหม่ Eco-Dynamic CVT

All-New Subaru BRZ 2022

Subaru BRZ

The All-New Subaru BRZ (ซูบารุ บีอาร์แซด) รถสปอร์ตคูเป้ระดับตำนาน ที่ครั้งนี้พลิกโฉมการออกแบบใหม่หมดทั้งคันในเจเนอเรชันที่ 2 ตั้งแต่เครื่องยนต์ขุมพลังใหม่ จนถึงดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว พร้อมอัดแน่นเทคโนโลยีความปลอดภัย EyeSight Advanced Driver Assist Technology เป็นครั้งแรก จนได้รับการยกย่องให้เป็น “สุดยอดสปอร์ตคูเป้ยอดนิยมแห่งปี” จากหลายเวทีระดับโลก

B – BOXER สปอร์ตคูเป้เจเนอเรชั่น 2 ของซูบารุที่สานต่อ DNA อันเป็นเอกลักษณ์ ของ Subaru BRZ รถสปอร์ตที่คล่องตัวและมีน้ำหนักเบา กับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่ปรับขุมพลังใหม่ ขนาด 2.4 ลิตร มอบอัตราเร่งที่ดุดันด้วยพละกำลัง 237 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร

R – Rear Wheel Drive เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่วางเครื่องยนต์ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ทำงานประสานกับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมแพดเดิลชิฟต์ ตอกย้ำนิยามความเป็นรถสปอร์ตที่ขับสนุก ตอบสนองการขับขี่ทุกรูปแบบได้ดังใจ

Z – Zenith ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ต น้ำหนักเบา ให้การควบคุมและการตอบสนองที่ดีเยี่ยม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมีส่วนร่วมกับรถได้เป็นหนึ่งเดียว

ห้องโดยสารและแผงคอนโซลดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งคู่หน้าบุด้วยหนังและวัสดุพิเศษ (Ultrasuede) แผงหน้าปัดเรือนไมล์แบบ LCD หน้าจอระบบสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto เสริมระบบควบคุมเสถียรภาพแบบสปอร์ต Track mode ที่ให้อิสระแก่ผู้ขับขี่มากขึ้น และเพิ่มความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย EyeSight Advanced Driver Assist Technology

The All-New Subaru BRZ 2.4 MT ราคาขายปลีกแนะนำ 2,283,800 บาท ราคาออพชันแพค 415,200 บาท ราคารวม 2,699,000 บาท และรุ่น 2.4 AT EyeSight ราคาขายปลีกแนะนำ 2,433,800 บาท ราคาออพชันแพค 415,200 บาท ราคารวม 2,849,000 บาท

New Hyundai Creta2022

Hyundai Creta

Hyundai Creta (ฮุนได เครต้า) ใหม่ รถอเนกประสงค์รุ่นแรกของฮุนได ในไทย นำเข้าจากโรงงาน Hyundai ในอินโดนีเซีย

ชื่อรุ่น เครต้า คือความเชื่อมโยง จากชื่อของหมู่เกาะครีต ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของบรรยากาศที่สงบ ผ่อนคลาย ขณะเดียวกันเต็มไปด้วยพลังงาน และความคึกคักของกิจกรรมบนเกาะ

ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เส้นหลังคาและเสา C เน้นความมั่นคง ส่วนภายในออกแบบเน้นความพรีเมี่ยม และร่วมสมัย บริเวณด้านหน้าแผงหน้าปัดแนวยาวเชื่อมต่อไปกับแผงด้านข้างประตู เสมือนปีกที่โค้งรับกัน ดูเข้ม และมีพลังเหมือนโอบอุ้มผู้โดยสาร ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลบนจอ LED ขนาด 10.25 นิ้ว ความละเอียดสูง บริเวณแผงด้านหน้าติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว มอบพละกำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ IVT พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 แบบ คือ อีโค (Eco), คอมฟอร์ท (Comfort), สปอร์ต (Sport) และสมาร์ท (Smart) พร้อมปุ่มปรับการขับขี่เฉพาะสภาพถนนหิมะ, ทรายหรือโคลน

Hyundai Creta มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ SE และ SEL มาในราคา 949,000 – 999,000 บาท

All-New Neta V 2022

NETA V

ปตท. จับมือ Hozon เตรียมขายรถยนต์ไฟฟ้า NETA (เนต้า) ในรุ่น NETA V (เนต้า วี) (哪吒V) สไตล์ Crossover พวงมาลัยขวา ภายใต้บริษัท NETA Auto Thailand ผ่านบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100% ร่วมกับ บริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU ร่วมกัน เปิดตัวรถในงาน Motor Show 2022 นี้

Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ Crossover ขนาดเล็กแบบ 5 ประตู ตัวรถภายนอกได้แรงบันดาลในมาจาก “โลมา” ด้านหน้ารถยื่นแหลมเหมือนปากโลมา ด้านข้างมีสันนูน เน้นความลู่ลม ส่วนจุดชาร์จไฟติดตั้งที่ซุ้มล้อด้านหน้า ใช้ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 15 นิ้ว ด้านท้ายมีสปอยเลอร์หลังคาและไฟเบรกดวงที่ 3 มาให้

ภายในห้องโดยสารดูเรียบง่ายสไตล์มินิมอล แผงคอนโซลแบบเล่นระดับพร้อมตกแต่งลายไม้ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ฝั่งผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง 2 ก้านขนาดใหญ่แบบหัวตัดและท้ายตัด หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่เป็นแบบดิจิทัลทรงเหลี่ยมยาว มีหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 13 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมสั่งงานด้วยเสียง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติและระบบกรองอากาศ N95 มีกุญแจ Keyless แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย

ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่เพลาคู่ล้อหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า มาพร้อมแบตเตอรี่มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ รุ่น Standard ใช้แบตเตอรี่แบตลิเธียม LFP ขนาด 40 kW แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ให้ระยะทางการวิ่งอยู่ที่ 301 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนในรุ่น Lone Range ใช้มีแบตเตอรี่ขนาด 55 kW มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกล 401 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)

อัตราเร่งจาก 0-50 กม./ชม. ในรุ่น Standard จะอยู่ที่ 5.9 วินาที ส่วนในรุ่น Lone Range จะอยู่ที่ 4.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงุสดจะถูกจำกัดไว้ที่ 100 กม./ชม.

รองรับการชาร์จไฟขนาด 3.3 kW ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชม. และขนาด 6.6 kW จะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชม. มาพร้อมระบบ Fast Charging ที่ชาร์จไฟแบบ DC ตั้งแต่ 30-80% ในเวลาเพียง 30 นาที

NETA V ราคาคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 750,000 บาท

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

MG ZS EV

New MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) รถยนต์ไฟฟ้า 100% โฉมใหม่ ที่มาพร้อมกับ Concept “Truly Easy” เรียบหรู ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด BRIT Dynamic ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handing) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ขับขี่ง่าย มั่นใจในทุกเส้นทาง

ภายในมาพร้อมการใช้งานที่ “ง่าย” และ สบาย ยิ่งขึ้น กว้างขวาง เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน บวกกับหน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว มีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) เป็นต้น

ตอบโจทย์เอาท์ดอร์ไลฟ์สไตล์ด้วยฟีเจอร์ V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 2,200 วัตต์ สมรรถนะสูง ด้วยมอเตอร์ขนาด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ความจุ 50.3 kWh สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า

New MG ZS EV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D รุ่นเริ่มต้น ราคา 949,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรกาส่งเสริมจากภาครัฐ 240,000 บาท) และรุ่น X ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ในราคา 1,023,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรกาส่งเสริมจากภาครัฐ 246,000 บาท)

New MG HS และ MG HS PHEV 2022

MG HS / MG HS PHEV

New MG HS (เอ็มจี เอชเอส) และ New MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเฮชอีวี) โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด Refinement โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมรูปโฉมใหม่ที่ผสานความหรูหราทันสมัยและความสปอร์ตอย่างลงตัว มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ และ ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid)

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการติดตั้งระบบนำทางเสมือนจริง หรือ AR Navigation ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้าที่ถ่ายทอดสภาวะแวดล้อมจริงในขณะเดินทาง ร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบ Realtime ช่วยให้การใช้งานระบบนำทางแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่าเดิม

และระบบกุญแจดิจิตอล (Digital Key Technology) อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 26 ระบบ และระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2

พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด

และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

New MG HS และ New MG HS PHEV มี 5 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น C รุ่น D และรุ่น X และรุ่นปลั๊กอินไฮบริดจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น PHEV D และ รุ่น PHEV X ในราคาตั้งแต่ 939,000 – 1379,000 บาท

All-New ORA Good Cat GT 2022

ORA Good Cat GT

ORA Good Cat GT (โอร่า กู๊ด แคท จีที) เจ้าเหมียวไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นจากแบรนด์ ORA มาเผยโฉมครั้งแรกในงาน Motor Show 2022 ด้วยดีไซน์อันโฉบเฉี่ยว สปอร์ตดุดัน และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ

เริ่มตั้งแต่กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตตกแต่งด้วยลายคาร์บอนและแถบสีแดง ซุ้มล้อลายคาร์บอน สปอยเลอร์หลังพร้อมสัญลักษณ์ GT ส่วนกันชนท้ายมีลักษณะคล้ายดิฟฟิวเซอร์ในตัว ล้ออัลลอยเป็นแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ซึ่ง ORA ระบุว่าได้แรงบันดาลใจการออกแบบจาก “กรงเล็บแมว” ตกแต่งด้วยแถบสีแดง ใส่ยาง Giti ขนาด 215/50R18

ห้องโดยสารเน้นความสปอร์ตด้วยโทนสีดำ-แดง เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังกลับสีแดง พร้อมระบบนวด มีหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว, ระบบแสดงสภาพอากาศออนไลน์ ระบบสั่งงานด้วยคำสั่งเสียง ฯลฯ รวมถึงมีระบบอัปเกรดซอฟท์แวร์แบบออนไลน์ (FOTA) และประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าพร้อมเซ็นเซอร์เท้า

ORA Good Cat GT มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลัง 171 แรงม้า มากกว่ารุ่นปกติ 28 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม./ชม. ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที

ส่วนชุดแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต ขนาด 59.1 kWh ให้ระยะทางสูงสุด 480 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ขนาด 6.6 kW ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. และชาร์จเร็วกระแสตรง DC 0-80% ในเวลา 45 นาที และ 30-80% ในเวลา 32 นาที

พร้อมเปิดรับจองผ่าน Application GWM ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 30 เมษายน 2565 ใครอยากเป็นเจ้าของเจ้าเหมียว GT คันนี้ เตรียมจองได้เลย

All-New Tank 300 HEV 2022

Tank 300 HEV

Tank 300 HEV (แทงก์ 300 เอชอีวี) รถยนต์ออฟโรดสไตล์โมเดิร์น มาพร้อมรูปทรงสง่างามและเครื่องยนต์ทรงพลัง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ภายในเมืองครบครัน และการผจญภัยของผู้ขับขี่ขาลุยอย่างลงตัว ถ่ายทอดคุณสมบัติของแบรนด์ในการสร้าง “แบรนด์ออฟโรดที่โฉบเฉี่ยวทันสมัยระดับโลก” สำหรับ “Tank” เป็นแบรนด์หลักลำดับที่ 5 ที่เปิดตัวโดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ในปี 2564 นำมาโชว์ในงาน Motor Show 2022 ครั้งนี้ด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จแบบฉีดตรง มีกำลังสูงแม้ขณะทำงานเต็มที่ การใช้เกียร์ 8AT ไม่เพียงช่วยให้การขับขี่ที่ความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ยังรับประกันการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย พร้อมความสามารถแบบออฟโรด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โหมดเกาะถนน” อันทรงพลัง โดยที่เพลาไขว้สามารถวิ่งได้อย่างราบรื่นและเบรกได้อย่างรวดเร็วเมื่อขับขึ้นทางลาดชัน

เทคโนโลยีอัจฉริยะ เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันอันทรงพลังของ รถยนต์รุ่น GWM Tank 300 ด้วยระบบวิดีโอ 360 องศา ที่ปรับเปลี่ยนมุมมองได้หลากหลาย แม้ว่าจะขับรถในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ฟีเจอร์ตรวจจับทัศนียภาพรอบตัว (Surround View Monitor) จะแสดงภาพชัดเจนบนหน้าจอ LCD ได้ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถสั่งงานฟังก์ชันบางอย่างด้วยเสียงเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด

All-New Mercedes-Benz C-Class W206 2022

Mercedes-Benz C-Class (W206)

The New Mercedes-Benz C-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส) เจเนอเรชั่นที่ 6 รหัส W206 คือเดอะนิว Baby Luxury ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบสปอร์ต และตัวรถที่กว้างขึ้นในทุกมิติ

ส่วนดีไซน์ภายในก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ทั้งหน้าจอ LCD ความละเอียดสูง การปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง คอนโซลกลางแบบ LED จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้ว ที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย ทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและมาตรฐานของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ยกระดับขึ้นอีกขั้น

มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ กับขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร พัฒนาใหม่พร้อมระบบ Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถ โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ แบบ 48V Technology ทำให้ได้กำลังรวมมากถึง 200 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที และทำความเร็วได้สูงสุด 245 กม./ชม. พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC)

The New Mercedes-Benz C-Class มีวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น C 220 d Avantgarde และ รุ่น C 220 d AMG Dynamic

Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe Special EDITION 2022

Mercedes-AMG C43 4Matic Coupé Special Edition

Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé Special EDITION (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี43 4แมติก คูเป้ สเปเชี่ยล เอดิชั่น) คือสัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์แบบที่พิเศษเหนือใครของรถยนต์สปอร์ตในแบบฉบับ Mercedes-AMG ดีไซน์ภายนอกสะท้อนความเร้าใจตามแบบฉบับ AMG ได้อย่างลงตัว

ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 BITURBO มอบกำลังสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที เร็ว แรง และเร้าใจในชั่วพริบตาด้วยอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที

เร้าใจเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC ที่ออกตัวพุ่งทะยานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เข้าโค้งได้เฉียบคม ส่วนระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G Transmission แบบใหม่ยังมาพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและแม่นยำ

All-New Ford Ranger 2022

Ford Ranger

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) เจเนอเรชั่นใหม่ สุดยอดรถกระบะที่แกร่งที่สุด สมบุกสมบันที่สุด และชาญฉลาดที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉมใหม่ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว ยกระดับความแข็งแกร่งภายนอกพร้อมความหรูหราสะดวกสบายภายใน โดยในระยะแรก สมนิยาม “เกิดมาแกร่ง” อย่างแท้จริง มีให้เลือกเฉพาะรุ่น Sport และ Wildtrak เท่านั้น พร้อมเปิดให้จองแล้วผ่านเวบไซต์ของ Ford

ดีไซน์ภายนอกของ All-new Ford Ranger 2022 โดดเด่นด้วยไฟหน้ารูปตัว C และกระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมระบบไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก และบันไดเหยียบด้านข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ขึ้น-ลงกระบะท้ายได้ง่ายขึ้น เสริมด้วยฐานล้อที่มีความยาวและความกว้างเพิ่มขึ้น 50 มม.

ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรายิ่งขึ้น แผงหน้าปัดใหม่ พร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว ที่เชื่อมเข้ากับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับ Apple CarPlay/Android Auto พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง และแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับรถได้เต็มรูปแบบ

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล Turbo 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

Ford Ranger ใหม่ เคาะราคารุ่น Sport เริ่มต้นที่ 929,000 บาท และรุ่น Wildtrak เริ่มต้นที่ 999,000 บาท

All-New Ford Ranger Raptor 2022

Ford Ranger Raptor

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) เจเนอเรชั่นใหม่ รถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเรนเจอร์ อัดแน่นด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา มาพร้อมดีไซน์ที่ดุดันยิ่งกว่าเคย พร้อมลุยทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนทางเรียบในชีวิตประจำวัน หรือเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด

ตัวรถภายนอกมาพร้อมความดุดัน และจุดเด่นหลายๆ อย่าง เช่น ติดตั้งระบบไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าเสียงท่อไอเสีย มีระดับความดังด้วยกันถีง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา เสริมด้วยระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา จะรักษาการหมุนของ Turbo ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที ช่วยให้เร่งได้ทันใจขณะออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร EcoBoost V6 Twin Turbo มอบกำลังสูงสุดถึง 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบ/นาที และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งทั้งหมดถูกปรับจูนตามมาตรฐานของ Ford Performance ถ่ายทอดกำลังได้เต็มพิกัดทั้งบนทางกรวด ดิน โคลน และทราย ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร Twin Turbo จะยังคงมีอยู่

Ford Ranger Raptor ใหม่ มาในราคา 1,869,000 บาท!

All-New Ford Everest 2022

Ford Everest

Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) เจเนอเรชั่นใหม่ ออกแบบและพัฒนาเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับคนรักการผจญภัยตัวจริง ผสานสมรรถนะอันโดดเด่นพร้อมลุยเข้ากับความสะดวกสบายเหนือระดับได้อย่างลงตัว มาพร้อมโฉมใหม่ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำสมัยแข็งแกร่ง ภายในสะดวกสบายเป็นส่วนตัว ในระยะแรกจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Sport และ Titamium+

ขุมพลังของรุ่น Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 405 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขณะที่รุ่น Titanium+ ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร Bi-Turbo 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยการขับขี่และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกยิ่งกว่าเคย เช่น หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ 12.4 นิ้ว, หน้าจอสี Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay/Android Auto พร้อมส่งมอบความสนุกในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในชีวิตประจำวัน การขับไปทำกิจกรรมงานอดิเรกยามว่าง ไปจนถึงการออกเดินทางผจญภัยเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่

Ford Everest ใหม่ มาในราคา 1,464,000 – 1,854,000 บาท

Audi Q7 Q8 60 TFSi e 2022

Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition และ Audi Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition

Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition (ออดี้ คิว7) และ Audi Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition (ออดี้ คิว8) พรีเมียม SUV ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก มาพร้อม Dynamic Badge ตราสัญลักษณ์ “60 TFSI e” ด้านท้ายรถ ซึ่งเป็นตัวเลขบ่งบอกแรงม้าที่สูงที่สุดเท่าที่ Audi เคยใช้มา โดยในส่วนของเครื่องยนต์สันดาปเป็นเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังได้ถึง 136 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร

เมื่อผสานการทำงานกันจะให้พละกำลังจากระบบขับเคลื่อนสูงสุดถึง 462 แรงม้า 700 นิวตันเมตร ซึ่งนับเป็นรถยนต์พรีเมียม SUV ปลั๊กอินไฮบริด ที่มีกำลังสูงสุดในตลาดประเทศไทยตอนนี้ ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 5.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.

ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-อิออนแรงดันสูง มีความจุ 17.9 kW สามารถรองรับการชาร์จได้สูงสุดถึง 7.4 kW/ชม. ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายใน 2.5 ชม. แบตเตอรี่ถูกบรรจุไว้ในบริเวณที่เก็บสัมภาระท้ายรถ ซึ่ง Audi ได้ออกแบบแบตเตอรี่ให้มีขนาดเล็ก ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระยังคงมีขนาดความจุสัมภาระสูงมากถึง 650 ลิตร ในรุ่น Audi Q7 และ 505 ลิตร ในรุ่น Audi Q8 สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้มากกว่า 40 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สอดรับจากการวิจัยของ Audi ที่พบว่าลูกค้าส่วนมากจะใช้งานรถไฟฟ้าในเมืองไม่เกินวันละ 30 กิโลเมตร

Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition และ Audi Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition ได้รับการออกแบบให้ลุคสปอร์ต ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง S line และอัพเกรดการตกแต่งเป็นแบบ Black Edition เปลี่ยนคิ้วโครเมียมรอบคันเป็นสีดำ และฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 21 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงทั้งหน้า-หลัง

ส่วนภายใน Audi Q7 ได้เพิ่มอุปกรณ์การตกแต่งเป็นแบบ S line Interior พวงมาลัยท้ายตัดพร้อมเบาะนั่งพร้อมตราสัญลักษณ์ S line ส่วนในรุ่น Audi Q8 ตกแต่งให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วย เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบ Super Sport ลาย Diamond Cut ในแบบฉบับ RS Full Bucket Seat วัสดุหุ้มหนัง Valcona คุณภาพสูง นุ่มสบาย พวงมาลัย Multifunction แบบสปอร์ตท้ายตัด ระบบ MMI Navigation plus พร้อม MMI touch ขนาด 10.1 นิ้ว และจอควบคุม Multifunction แบบสัมผัส

พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว พร้อม Paddle shift จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ 17 ตำแหน่ง 730 วัตต์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน และเพิ่มฟังก์ชั่นเปิดแอร์ได้ขณะดับเครื่อง (Stationary Air-conditioning) ช่วงล่างระบบถุงลม (Adaptive air suspension) ในรุ่น Audi Q7 และช่วงล่างระบบถุงลมแบบ Sport ในรุ่น Audi Q8

Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition มาในราคา 4,799,000 บาท และ Audi Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition มาในราคา 4,899,000 บาท (จำนวนจำกัด)

New Audi RS7 Sportback 2022

Audi RS7 Sportback

The New Audi RS 7 Sportback (ออดี้ อาร์เอส7 สปอร์ตแบ็ค) สุดยอดนวัตกรรมสปอร์ต 4 ประตูตัวแรงสมรรถนะ Supercar 600 แรงม้า สมรรถนะ Supercar ออฟชั่นจัดเต็ม ผลงานอันยอดเยี่ยมจากทีม Audi Sport ที่สุดแห่งสมรรถนะจาก Racing Sport

โดดเด่นด้วยรูปทรง Sportback ท้ายลาด ดีไซน์สปอร์ตเต็มตัว ตัวรถกำยำมัดกล้ามสวยงาม ล้ำหน้าทั้งดีไซน์ ฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีการใช้งาน แต่ดุดันแข็งแกร่งตามแบบฉบับรถยนต์ในตระกูล RS

ภายในห้องโดยสารที่สปอร์ตสุดๆ ตกแต่งด้วย Carbon Twill Structure พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร (Contour / Ambient Lighting) ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี เบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports หุ้มหนัง Valcona ตกแต่งแบบ Honeycomb เดินด้ายสีแดงสไตล์ RS Sports พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้ม Alcantara แบบสปอร์ตท้ายตัดพร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift คอนโซลกลางหุ้มหนัง Fine Nappa สีดำ ด้านข้างคอนโซลกลางตกแต่งด้วย Dinamica สีดำ ด้ายสีแดง

จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus แบบ RS Monitor ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลแบบ Runway เครื่องบิน รวมถึงการแสดงค่าแรง G ที่เกิดขึ้นขณะขับขี่ ล้ำสมัยด้วยระบบ MMI Navigation plus พร้อมจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว และจอมัลติฟังก์ชั่นแบบสัมผัสตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว พร้อม Audi drive select ปรับโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบอัตโนมัติ หรือจะซิ่งสนุกกับ “RS MODE” ก็ได้อย่างง่ายดาย กระหึ่มด้วยระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ 16 ลำโพง 705 วัตต์ พร้อมระบบปรับอากาศแยกอิสระ 4 โซน

ทรงพลังและแรงจัดด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4.0 ลิตร V8 Turbo 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.6 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 280 กม./ชม. จากออฟชั่นพิเศษ Dynamic Package ติดตั้งเป็นมาตรฐานสำหรับรถที่นำเข้ามาขายในไทยโดยเฉพาะ

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with Sports Differential ในการขับขี่ปกติ ระบบจะกระจายกำลังไปยังล้อหน้า-หลังในอัตรา 40:60 และในลักษณะการขับขี่รูปแบบอื่น ระบบจะกระจายไปยังล้อหน้าได้สูงสุดถึง 70% หรือกระจายน้ำหนักไปยังล้อหลังได้สูงสุดถึง 85%

ในส่วนเฟืองท้ายพิเศษ Sport Differential อาวดี้ ประเทศไทย ได้สั่งอุปกรณ์พิเศษนี้มาเป็นมาตรฐานใน RS 7 Sportback ที่นำเข้ามาขายในไทย โดย Sport Differential จะสามารถถ่ายกำลังไปยังล้อซ้าย/ขวา ได้อย่างอิสระและฉับไว ช่วยให้การเข้าโค้งมีความสนุกสนาน เหมาะกับการขับขี่แบบสปอร์ตเป็นอย่างยิ่ง

The New Audi RS 7 Sportback มาในราคา 10,700,000 บาท

New BMW M440i xDrive Coupe 2022

BMW M440i xDrive Coupe

BMW M440i xDrive Coupé (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม440ไอ เอ็กซ์ไดรฟ์ คูเป้) ใหม่ รถสปอร์ตรุ่นท็อปของตระกูลซีรีส์ 4 คูเป้ ที่ผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ด้านวิศวกรรมจาก BMW M

หน้ารถเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้งขนาดใหญ่ พร้อมไฟหน้าเทคโนโลยี BMW Laserlight ที่ติดตั้งระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติมาด้วย ส่วนหน้าต่างทั้งสองข้าง เนี้ยบด้วยกรอบดำวาวจากชุดแต่ง BMW Individual high-gloss Shadow Line เข้ากับเส้นสายด้านข้าง เช่นเดียวกับอุปกรณ์เสริมสไตล์ M ที่จัดมาครบชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่ง M Aerodynamics สปอยเลอร์แบบ M ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วในแบบ Double-spoke และเบรก M Sport พร้อมคาลิเปอร์สีแดงแบบ High-Gloss

พร้อมมอบบรรยากาศความแรงในสไตล์ M ในทุกอณูด้วยพวงมาลัยหนังและเข็มขัดนิรภัยแบบ M พร้อมตกแต่งพื้นผิวภายในแบบ Aluminium Tetragon ตัดกับเพดานหลังคาภายในแบบ BMW Individual สีดำ Anthracite ส่วนแผงคอนโซลด้านหน้า เต็มตากับแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบ BMW Live Cockpit Professional และ BMW ConnectedDrive ได้ รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟน และความบันเทิงจากระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์ Harman Kardon

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเพ่งสมาธิไปที่ท้องถนนได้แบบไม่ต้องละสายตา ด้วยระบบ BMW Head-Up Display รุ่นใหม่ล่าสุด มีพื้นที่การแสดงข้อมูลใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 70%

มอบพลังเต็มพิกัดจากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งพละกำลังสูงสุดถึง 387 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,900-5,000 รอบ/นาที ทำงานควบคู่กับเกียร์ 8 สปีดแบบ Steptronic Sport เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม.

ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ก็ทำงานผสานกับช่วงล่างระบบ adaptive M เฟืองท้ายแบบ M Sport และระบบบังคับเลี้ยวแบบแปรผันตามการหมุนของพวงมาลัย (Variable Sport Steering) ตอบสนองทุกการควบคุมรวดเร็วฉับไว คล่องตัวและแม่นยำสูงสุด

BMW M440i xDrive Coupé ใหม่ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกมากมาย ทั้งระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus), ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go (Active Cruise Control with Stop & Go) รวมถึงระบบกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera)

บีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ จะเปิดจองภายในไตรมาสที่สองของปี 2565 ผ่านช่องทางออนไลน์ ในราคาประมาณ 5,300,000 – 5,500,000 บาท

New BMW X4 xDrive20d M-Sport 2022

BMW X4 xDrive20d M Sport

BMW X4 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์4) รถยนต์ที่นิยามความเป็น Sport Activity Coupé กลับมาอีกครั้งกับความสดใหม่ในรุ่น BMW X4 xDrive20d M Sport ใหม่ ที่เสริมความเฉียบของรุ่นก่อนหน้าด้วยคุณสมบัติและการตกแต่งแบบรอบด้าน

BMW X4 xDrive20d M Sport มาพร้อมกับโฉมใหม่ นับจากกระจังหน้าไตคู่สไตล์ M ด้านหน้า จับคู่กับไฟหน้าแบบ Adaptive LED และชุดแต่ง BMW Individual High-Gloss Shadow Line ด้วยกรอบและซี่กระจังหน้าสีดำ ส่วนท้ายรถใช้ไฟท้าย LED ทรง 3 มิติที่เข้าคู่กับกันชนดีไซน์ใหม่และปากท่อไอเสียทรงกว้าง

ส่วนล้อแม็กอัลลอยใหม่สไตล์ M ขนาด 20 นิ้วแบบ Double-spoke แมทช์กับความมั่นใจบนท้องถนนจากช่วงล่างแบบ adaptive พร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus)

ส่วนภายในห้องโดยสาร ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยหลังคาซันรูฟ กับพื้นผิวที่ตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ต และระบบ BMW Head-Up Display ขณะที่ระบบ BMW Live Cockpit Professional ก็พร้อมมอบความสะดวกสบายในการใช้งานระบบต่าง ๆ ขณะเดินทาง

BMW X4 xDrive20d M Sport ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo เช่นเคย ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที ทำงานผสานกับระบบเกียร์ Steptronic 8 จังหวะ พร้อมส่งให้ตัวรถทะยานสู่ 100 กม./ชม. ใน 8.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 213 กม./ชม.

BMW X4 xDrive20d M Sportมาในราคา 4,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

New BMW X4 M Competition 2022

BMW X4 M Competition

BMW X4 M Competition (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 4 เอ็ม คอมเพทิชั่น) ใหม่ เติมพลังให้เหนือกว่า X4 M รุ่นเดิมด้วยชุดแต่ง Competition เสริมให้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ M TwinPower Turbo ขนาด 3.0 ลิตร 510 แรงม้า ขณะที่การเร่งจาก 0-100 กม./ชม ได้ในเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น ประสิทธิภาพเต็มพิกัดนี้ เป็นการผนึกรวมนวัตกรรมรถแข่งของ BMW M3 และ M4 เช่น เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบาที่ช่วยส่งแรงบิดและพละกำลังรอบเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น และระบบทำความเย็นเครื่องยนต์ที่ผ่านการทดสอบบนสนามแข่ง

ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ช่วยให้คล่องตัวสูง โดย M xDrive จะทำงานร่วมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) ส่งแรงบิดไปยังเพลาหน้าเฉพาะในกรณีที่ได้ส่งกำลังเต็มพิกัดไปที่ล้อหลังผ่านระบบเกียร์ 8 จังหวะแบบ M Steptronic พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic ขณะที่ระบบเบรกประสิทธิภาพสูง BMW M Compound Brake พร้อมเติมมาดเข้มด้วยคาลิเปอร์สีดำขลับ

รูปลักษณ์ของ BMW X4 M Competition ใหม่ ได้แรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตคูเป้ กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ที่เสริมด้วยชุดแต่ง BMW Individual High-Gloss Shadow Line with Extended Contents ส่วนไฟหน้า LED มาในทรงที่แบนราบกว่ารุ่เดิม ตกแต่งสีดำแบบ BMW M Light Shadow Line พร้อมด้วยท่อไอเสีย 4 ท่อ 2 คู่ ในสีดำโครเมียม ติดตั้งประกบอยู่ทั้งสองข้างของดิฟฟิวเซอร์ รับกับล้อแม็ก 21 นิ้วแบบ M light alloy ในดีไซน์ Double-spoke แบบสลับสี

ภายในห้องโดยสารใช้เบาะหนังสปอร์ตแบบ M เข็มขัดนิรภัยแบบ M และพื้นผิวภายในที่ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมหลังคากระจก Panorama นอกจากฟังก์ชันมากมายในระบบ BMW Live Cockpit Professional แล้ว X4 M Competition รุ่นนี้ยังมีระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant รุ่น Professional ติดตั้งมาให้ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (Active Cruise Control with Stop & Go) นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างของตัวรถได้จากระยะไกล ผ่านกุญแจ BMW Display Key

BMW X4 M Competition มาในราคา 8,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW X5 xDrive30d M Sport

BMW X5 xDrive30d M Sport

BMW X5 xDrive30d M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 เอ็กซ์ไดรฟ์30ดี เอ็ม สปอร์ต) ใหม่ รถยนต์ตระกูล Sports Activity Vehicle รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล พร้อมด้วยเทคโนโลยี mild hybrid ด้วยการเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าแรงดัน 48 โวลต์ เสริมพละกำลังขึ้นมาอีก 11 แรงม้า ในขณะสตาร์ทรถและเร่งความเร็ว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ AdBlue สารพิเศษที่ช่วยลดปริมาณไนโตรเจนออกไซด์ในไอเสีย โดยทำปฏิกิริยาเคมีเพื่อแตกสารดังกล่าวให้กลายเป็นไนโตรเจนและน้ำ ซึ่งไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม

เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo แรงกว่าเดิมด้วยพลังสูงสุด 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที เร่งจาก 0-100 กม./ชม. เพียง 6.1 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.

มาในมาดขรึมสง่างามยิ่งกว่าเดิม ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics พร้อมด้วย M High-Gloss Shadow Line และ M Roof Rails High-Gloss Shadow Line ส่วนห้องโดยสารสปอร์ตด้วยพื้นผิวที่แต่งสไตล์ M ด้วยลาย Aluminium Tetragon เพดานภายในสีดำ anthracite แบบ M และพวงมาลัยหนัง M Sport

BMW X5 xDrive30d M Sport มาในราคา 4,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

Mini Electric Collection Edition 2022

Mini Electric Collection Edition

Mini Electric Collection Edition (มินิ อิเลคทริค คอลเลคชั่น เอดิชั่น) ใหม่ ออกมาโลดแล่นให้แฟนมินิได้ยลโฉมและตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของในงาน Motor Show 2022 โดยในไทย มีรุ่นพิเศษนี้จำหน่ายแค่ 40 คันเท่านั้น

Mini Electric Collection Edition แต่ละคันล้วนมีเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ด้วยโทนสีหลากเฉดของ Multitone Roof ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากเทคนิคการพ่นสีแบบใหม่ของมินิที่โรงงานในอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

กระบวนการนี้ จะเริ่มลงสีหลังคาด้วยสีฟ้าอ่อน Pearly Blue เป็นสีแรก ต่อด้วยสีน้ำเงินเข้ม San Marino Blue ด้านหน้า และสีดำ Jet Black ที่ด้านหลัง ทำให้เกิดการไล่สีที่สวยสะดุดตา นอกจากนี้ การไล่โทนสีในแต่ละคันอาจแตกต่างกันเล็กน้อยจากขั้นตอนการลงสี จึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใครในแต่ละคันของมินิรุ่นพิเศษนี้นั่นเอง

Mini Electric Collection Edition ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับสนุก ส่งกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.3 วินาที ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัยก็จัดมาอย่างรอบด้าน เดินทางอย่างมีสไตล์ด้วยลูกเล่นพิเศษอย่างวิทยุ มินิ Visual Boost ผิวภายในห้องโดยสารที่ตกแต่งแบบ มินิ Yours ชุดลำโพง 12 ตัวจาก Harman Kardon และอื่นๆ

โดยมีให้เลือกในสีน้ำเงิน Island Blue และสีเทา Rooftop Grey มาในราคา 2,459,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)

New Bentley Flying Spur Hybrid 2022

Bentley Flying Spur Hybrid

Bentley Flying Spur Hybrid (เบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด) อัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดาน 4 ประตู แบบ 4 ที่นั่ง ที่ได้รับการขนานนามจากสื่อชั้นนำทั่วโลกว่าเป็น “ยนตรกรรมสปอร์ตซีดานที่ดีที่สุดในโลก” ตัวรถเพิ่มความยาวขึ้น 130 มม. ส่งผลให้มีห้องโดยสารกว้างขึ้น เพิ่มความหรูหราและพื้นที่ให้กับภายในห้องโดยสาร

ตอบโจทย์ทุกความต้องการลูกค้าในแบบ Executive พร้อมสัมผัสเทคโนโลยี City Specification ประกอบด้วย ระบบช่วยจอดรถ ระบบภาพจากกล้องมุมมองด้านบน ระบบเตือนคนข้ามถนน ระบบเตือนด้านหลังตัวรถ ระบบไฟหน้าแบบ Full Matrix LED ปรับลำแสงอัตโนมัติ และโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 4 โหมด

อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอดิจิทัลความคมชัดสูงแบบสัมผัส (HD Digital) บริเวณคอลโซลกลางขนาด 12.3 นิ้ว และเครื่องเสียงเบนท์ลีย์ จำนวน 10 ลำโพง ขนาด 650 วัตต์

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ประหยัดพลังงานรุ่น V6 ขนาด 2.9 ลิตร Twin Turbo แบบไฮบริด ให้กำลังสูงสุด 536 แรงม้า พร้อมแรงบิดกว่า 750 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดถึง 285 กม./ชม. ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที

Bentley Flying Spur Hybrid ราคาเริ่มต้นที่ 14,200,000 บาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

New Bentley Bentayga Hybrid 2022

Bentley Bentayga Hybrid

New Bentley Bentayga Hybrid (เบนท์ลีย์ เบนเทก้า ไฮบริด) อัครยนตรกรรมเอสยูวีอเนกประสงค์แบบ 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ประหยัดพลังงานรุ่น V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร แบบไฮบริดวิวัฒนาการล่าสุด

ผลิตพละกำลังสูงสุด 443 แรงม้า พร้อมแรงบิดกว่า 700 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดถึง 247 กม./ชม. ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลาเพียง 5.9 วินาที

Bentley Bentayga Hybrid ราคาเริ่มต้นที่ 13,200,000 บาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

New Porsche Taycan GTS 2022

Porsche Taycan GTS

Porshce Taycan GTS (ปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส) คือเวอร์ชั่นที่สปอร์ตที่สุด เร้าใจที่สุด มาพร้อมพิสัยการเดินทางสูงสุดถึง 504 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) นี่คือ Taycan รุ่นแรกที่ทำลายขีดจำกัดระยะทาง 500 กิโลเมตรได้สำเร็จ

รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุด มีงานออกแบบดีไซน์ที่สร้างความแตกต่างจากพี่น้องร่วมตระกูล ด้วยชุดแต่งตัวถัง Sports Design Package เสริมภาพลักษณ์ดุดันจากชิ้นงานกันชนหน้า กันชนท้าย และสเกิร์ตข้าง รวมไปถึงโคมหน้าไฟ รมดำ 3D Track Graphics ที่ได้รับการติดตั้ง Daytime Running Light แบบ LED

ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุ Race-Tex สีดำ ชิ้นงานอลูมิเนียมปัดเงา เสริมความหรูหราสง่างาม และความสปอร์ตดุดันได้อย่างลงตัว และนับเป็นครั้งแรกกับการติดตั้งหลังคากระจก Panoramic Roof พร้อมเทคโนโลยี “Sunshine Control” อุปกรณ์พิเศษ แบ่งพื้นที่กระจกออกเป็น 9 ส่วน โดยแต่ละส่วนสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างอิสระ พร้อมฟังก์ชั่นกรองแสงภายนอกด้วยระดับการทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย

พกพาพละกำลังมหาศาลติดตัวมากว่า 598 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ Launch Control ขณะที่ใช้งานในโหมด Normal จะให้กำลังที่ 517 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.

New-Volvo C40 Recharge Pure Electric 2022

Volvo C40 Recharge Pure Electric

Volvo C40 Recharge Pure Electric (วอลโว้ ซี40 รีาร์จ เพียว อิเล็กทริค) เป็นรถยนต์แบบ Crossover SUV รุ่นที่ 2 ต่อจาก Volvo XC40 Recharge Pure Electric ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ใช้แพล็ตฟอร์ม CMA (Compact Modular Architecture) สำหรับรถ Compact แบบเดียวกับ XC40 แต่รูปลักษณ์ตัวรถแบบ Coupe

ด้านหน้ารถดูเรียบหรู มินิมอลแบบสวีเดน ด้วยตะแกรงแบบฝาครอบปิดสีเดียวกับตัวถัง มีแผง Aero Optimised Spoiler ช่วยในเรื่องของการทรงตัวและการยึดเกาะถนน และไฟท้ายแบบเส้นปะ ที่เดินเส้นไปสู่แผงไฟหลักด้านหลัง สะท้อนการผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิกได้อย่างลงตัว

แผงคอนโซลหน้าในสไตล์ Topography Translucent Decor ที่ได้แรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาในประเทศสวีเดน ใส่ลูกเล่นซ้อนวัสดุที่แตกต่างกันถึง 3 เลเยอร์ ให้มุมมอง 3 มิติบนผิวสัมผัสที่เรืองแสง และยังมีหลังคา Panoramic Glass Roof

พร้อมเพลิดเพลินกับระบบ Infotainment ของ Volvo with Google Built in ที่ให้คุณใช้แอปจากกูเกิ้ลอย่าง Google Maps, Google Assistant รวมทั้ง Google Play หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Volvo Cars App บนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้ ฝากระโปรงหลังยังเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมจัดเก็บสัมภาระได้มากถึง 413 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลง จัดเก็บได้มากถึง 1,205 ลิตร

ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ ติดตั้งด้านหน้า-หลัง ให้กำลังรวม 408 แรงม้า ที่ 4,350 – 13,900 รอบ/นาที* แรงบิดสูงสุด 660 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Dual Motor AWD ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.7 วินาทีเท่านั้น* จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 180 กม./ชม.

แบตเตอรี่มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ ขนาด 58 kWh และ 72.6 kWh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่แบบ Ultra-Fast รองรับแรงดันไฟสูงสุด 400 โวลต์ และ 800 โวลต์

ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 80% ในเวลาเพียง 37 นาที (หากชาร์จไฟบ้าน 0-100% ที่กำลังไฟ AC 11kW Fast Charging (Type2) 3-phase 16A ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง)

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ