Howto-Prevent-Car-Theft

กว่าจะได้เป็นเจ้าของรถยนต์สักคันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะฉะนั้น เราก็ต้องดูแลรถยนต์อย่างใส่ใจ เพื่อให้รถมีสภาพที่ดี พร้อมใช้งาน และอยู่กับเราไปนาน ๆ

ไม่เพียงแค่เรื่องของอุบัติเหตุที่สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์เท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงเรื่อง “รถยนต์หาย” ที่จะสร้างปัญหาและผลกระทบทางการเงินให้ไม่น้อยเลย เพราะฉะนั้น กันไว้ดีกว่าแก้ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้เลย

เคล็ดลับการดูแลรถยนต์ เพื่อป้องกันรถหาย

Howto-Prevent-Car-Theft

จอดรถยนต์ในพื้นที่สว่าง มองเห็นง่าย

เมื่อคุณต้องจอดรถยนต์ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อย่างเช่นห้างสรรพสินค้า หรือลานจอดรถสาธารณะ แนะนำให้เลือกจอดในพื้นที่ที่มีแสงสว่างส่องทั่วบริเวณ และผู้คนที่สัญจรไปมาสามารถมองเห็นได้ง่าย ไม่อยู่ในที่ลับตาคน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เหล่ามิจฉาชีพใช้ความมืดในการแอบขโมยรถหรืองัดรถของคุณ

ลำดับถัดมาก็คือ เมื่อมีแสงสว่างแล้ว ก็ควรมีกล้องวงจรปิดที่จับภาพบริเวณลานจอดรถเอาไว้ด้วย เพื่อช่วยในการสอดส่องดูแล หากเกิดเหตุใดๆ ขึ้นมาจริง ๆ จะได้ใช้ภาพที่ถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องวงจรปิดมาใช้เป็นหลักฐานในการจับตัวคนร้ายได้

อย่าลืมล็อกรถให้เรียบร้อย

เป็นวิธีป้องกันรถยนต์หายแบบง่ายๆ ที่ต้องเริ่มต้นที่ตัวเองเลย กับการล็อกรถยนต์ ซึ่งเป็นด่านแรกในการป้องกัน หากเจ้าของรถยนต์ไม่รอบคอบ แล้วเผลอจอดรถทิ้งไว้โดยไม่ได้ล็อกให้เรียบร้อย ก็เป็นการเปิดโอกาสให้เหล่ามิจฉาชีพดีๆ นี่เอง เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรทำก่อนเดินออกจากตัวรถยนต์ก็คือการเช็กให้เรียบร้อยว่าได้ทำการล็อกรถยนต์แน่นสนิทแล้ว

โดยคุณสามารถซื้อที่ล็อกพวงมาลัยรถยนต์มาใช้เพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงในการลักลอบขับรถยนต์ออกไป ต่อให้เหล่ามิจฉาชีพจะสะเดาะกลอนประตูเข้ามาในรถของเราได้ แต่ก็ไม่สามารถขับออกไปได้ และอาจจะเสียเวลากับการปลดล็อกกลอนพวงมาลัยเป็นเวลานาน ซึ่งในขณะนั้นก็จะมีคนสังเกตเห็นความผิดปกติได้ก่อน

ใช้ระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์

ลองใช้เทคโนโลยีมาช่วยก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ว่าก็คือ Engine Immobilizer System ที่จะคอยตรวจสอบในตอนที่เราเสียบกุญแจรถเพื่อสตาร์ทรถ โดยทั้งลูกกุญแจและแม่กุญแจจะทำการส่งสัญญาณสื่อสารโค้ดเฉพาะ หากว่าการเข้ารหัสมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ระบบจะตัดสัญญาณการสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที จึงไม่สามารถสตาร์ทรถยนต์ได้อีก วิธีนี้เหมาะกับรถยนต์ที่ขับมือเดียว มีกุญแจชุดเดียว เพราะกุญแจปั๊มจะไม่สามารถนำมาใช้เข้ารหัสกับระบบป้องกันนี้ได้

Howto-Prevent-Car-Theft

เช็กการทำงานของสัญญาณกันขโมยเสมอ

หากว่ากันตามความเป็นจริง สัญญาณกันขโมยในรถยนต์นั้นอาจเป็นระบบที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานอย่างเต็มที่เท่าใดนัก เราจะรู้ก็ต่อเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครอยากให้เกิดนัก แล้วถ้าการทำงานของสัญญาณกันขโมยผิดปกติล่ะ เราจะรู้ได้อย่างไร?

ดังนั้น การเช็กการทำงานของสัญญาณกันขโมยรถยนต์จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก จึงไม่อยากให้ผู้ใช้รถยนต์ทุกคนมองข้ามไป เราจึงควรตรวจสอบให้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบการทำงานของมันยังคงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้เสมอ จะได้อุ่นใจมากขึ้นด้วย

เลือกความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์

การทำประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมกรณีที่รถยนต์หาย เป็นการวางแผนเพื่อรองรับความเสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง เพราะถ้าเกิดรถหายขึ้นมาจริง ๆ คุณสามารถแจ้งกับทางบริษัทประกันภัย เพื่อให้ทางประกันฯ มาตรวจสอบสถานที่ วันเวลาที่รถหาย และช่วยดำเนินการเรื่องการเคลมประกันและจ่ายเงินค่าชดเชยกับบริษัทประกันภัยตามข้อตกลงที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ ทั้งนี้ ความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ยังช่วยดูแลในกรณีอื่น ๆ ที่รถยนต์ได้รับความเสียหายอีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับในการดูแลป้องกันไม่ให้รถยนต์หาย ที่ rabbit finance นำมาแบ่งปันเหล่าคนรักรถทุกท่าน เพราะรถยนต์เป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูง จึงอยากให้ทุกคนรักษาให้ดี เพื่อให้รถยนต์คันโปรดอยู่กับคุณไปนานๆ

Carro-Roojai-The-Keys-To-Driving-Safety

ถ้าคุณคิดว่าการไปสอบใบขับขี่รถยนต์ ทั้งข้อเขียนและปฎิบัติ จะช่วยให้คุณรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้รถบนท้องถนนอย่างปลอดภัยแล้วล่ะก็… คุณกำลังคิดผิด เพราะในความจริงการใช้รถมันมีอะไรมากกว่านั้น คุณจึงไม่ควรพลาดเนื้อหาเหล่านี้ที่เรากำลังจะบอก เพื่อให้คุณขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น

วันนี้ Roojai.com จะพาคุณไปดูสิ่งที่มากกว่าแค่เรื่อง กฎจราจร หรือสิ่งที่ได้รู้จากตอน อบรมใบขับขี่ แต่เป็นความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับใครที่ต้องใช้รถในเมือง ความหนาแน่นในการจราจรมีสูง ทำให้ความเสี่ยงแปรผกผันตาม ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง

The-Keys-To-Driving-Safety

1. จอดรถให้ปลอดภัย

การจอดรถใช่ว่ามีที่ว่างตรงไหนก็จอดได้ เพราะมันอาจส่งผลต่อเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถของคุณด้วย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงควรเลี่ยงจอดรถในที่เปลี่ยว หรือถ้าต้องจอดรถค้างคืนในที่ที่ไม่เคยจอด ควรเลือกจอดให้อยู่ใน “สายตา” ของกล่องวงจรปิดสักหน่อย ที่เดี๋ยวนี้มีติดอยู่ทั่วไปตามหน้าบ้านหรือร้านค้า

จอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงว่ารถของคุณจะอยู่ในอันตราย ก็ไม่ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าใด ๆ ไว้ในรถด้วย ขโมยขโจรมันเยอะ บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย เกิดหายไปก็ไม่เสียดาย แต่ก็ต้องอย่าลืมนึกด้วยล่ะ ว่าค่าใช้จ่ายในการซ่อมหลังจากรถถูกงัดหรือโดนทุบไปแล้วอยู่ที่ราคาเท่าไร หลายคนก็คงไม่อยากต้องมาเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้โดยไม่จำเป็นหรอก

2. ใช้ไฟสัญญาณรถให้เป็นนิสัย

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสัญญาณไฟมีอยู่ไม่น้อย และเรารู้ว่าตอน อบรมใบขับขี่ เขาให้ใช้ แต่คุณให้ความสำคัญกับมันมากน้อยแค่ไหน? ทั้งการเปิดไฟส่องสว่างบ้าง ไฟสัญญาณบ้าง หรือไฟเบรกที่เสีย คุณใช้มันเป็นนิสัยแล้วหรือยัง?

ควรใช้เป็นประจำไม่ว่าในซอยเล็กๆ หรือถนนใหญ่ เพราะอย่าลืมว่า คุณไม่ใช่คนเดียวที่ใช้รถใช้ถนน คนอื่น ๆ ที่เขาใช้ร่วม เขาไม่มีทางรู้หรอกว่าคุณจะเลี้ยวหรือเบรก หรือจะขับรถไปทางไหน และมันคงไม่แฟร์กับพวกเขาถ้าต้องมาสูญเสียจากอุบัติเพราะความมักง่ายไม่ใช้ไฟสัญญาณ ดังนั้นใช้ไฟสัญญาณให้เป็นนิสัยไว้ดีที่สุด

The-Keys-To-Driving-Safety

3. ถ้ารถพร้อม การขับขี่ก็ปลอดภัยกว่า

ในตอนที่ สอบใบขับขี่ หลายคนน่าจะเน้นจำในเรื่องของ กฎจราจร เป็นสำคัญ ในตอนอบรมก็มีแทรกให้ความรู้เรื่องการดูแลรถอยู่บ้าง แต่ความจริงการดูแลรถมันมีอะไรมากกว่านั้น การเป็นเจ้าของรถจริง ๆ มันก็เหมือนเป็นภาระอันใหญ่ยิ่ง และถ้ารู้จักรถที่ตัวเองใช้ให้มากกว่าแค่ทั่วไป มันจะไม่ใช่เรื่องยากเลย

ขอแนะนำให้คุณหมั่นตรวจเช็ครถในส่วนของพื้นฐานการใช้งาน ตั้งแต่ในส่วนของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ระบบหล่อเย็น เบรก ยาง และอื่น ๆ มากไปกว่านั้น คุณควรหาความรู้เกี่ยวกับรถที่ตัวเองใช้ไว้บ้างด้วย ว่าถ้ามีปัญหาจากการใช้งานตรงไหนต้องซ่อมยังไง คอยหมั่นสังเกตความผิดปกติของตัวรถ รถมีปัญหาอะไรก็รีบแก้ อย่าปล่อยให้ลุกลามไปเสียที่จุดอื่นๆ จนเสียหายใหญ่ ซ่อมแพง หรือพาให้การใช้รถของคุณต้องปลอดภัยน้อยลงจากเดิม

4. โทรศัพท์ต้องพร้อมอยู่เสมอ

จริง ๆ เราไม่แนะนำให้ใช้โทรศัพท์บนรถหรอกนะ เพราะมันจะเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งนี้ “มันก็ต้องมี” และจำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อคุณใช้รถ รถดับ รถพังกลางทาง หรือเกิดอุบัติเหตุ โทรศัพท์นี่แหละคือตัวช่วยที่ดีที่สุดแล้ว

โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนที่มีอินเทอร์เน็ต ควรมีติดตัวไว้เสมอในตอนที่ใช้รถ เมมเบอร์ฉุกเฉินไว้ด้วยทั้งเบอร์ประกันรถของคุณ เบอร์ช่าง เบอร์อู่ หรือแม้แต่เบอร์รถยก เพื่อให้ตอนที่จะใช้จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาหา และควรมีพวกสายชาร์จไว้สำหรับชาร์จไฟโทรศัพท์ในรถด้วย

The-Keys-To-Driving-Safety

5. ออกจากซอย ระวังซ้ายมากขึ้นอีกนิด

หลายคนน่าจะเจอบ่อยเวลาที่ออกจากซอย เราก็มองขวาแล้วอย่างดี แต่มักจะมีรถมอเตอร์ไซค์ประเภท “ชอบแทรก” ขอไปก่อนเพราะเห็นว่ารถตัวเองเล็กกว่า แทรกแซงไปทางซ้าย บางคนไม่ระวังหรือไม่เห็นแล้วหักเลี้ยวมากไป ก็จะไปเบียดกับรถมอเตอร์ไซค์ แนะนำคือเวลาที่จะออกจากซอยให้ระวังซ้ายสักหน่อย มองขวาเห็นแล้วว่ารถไม่มีมีก็เหลียวระวังทางซ้ายไว้เพื่อเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ

6. ไม่ชัวร์ก็อย่าเปลี่ยนเลน

โดยเฉพาะสายซิ่งยิ่งต้องห้ามใจไว้สักหน่อย ทางแคบ ๆ ที่คิดว่าแซงได้หรือเคยแซงได้มันอาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป ตอนสอบใบขับขี่ก็บอกอยู่ว่าถ้าจะเปลี่ยนเลนให้มั่นใจว่ารถที่ตามมาต้องอยู่ในระยะห่างพอสมควร เห็นช่องเล็ก ๆ คิดจะแซง เปลี่ยนเลน ต้องให้ชัวร์ก่อนว่ารถคันหลังขับตามมาอยู่ไกลพอให้ไป อย่ามั่นใจในตัวเองมากเกินไปเพราะ “ถ้าไม่พ้น” ขึ้นมาจงจำไว้ว่ามันไม่ใช่แค่คุณหรอกนะที่จะต้องสูญเสีย

The-Keys-To-Driving-Safety

7. ใจกว้างขึ้นบนถนนก็ปลอดภัยขึ้น

ดูจากคลิปมากมายของพวก “หัวร้อน” ในการใช้รถ และคิดว่าตัวเองคงไม่ทำเรื่องแบบนั้น แต่พออยู่ในสถานการณ์จริงกลับทำไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยที่มากกว่า เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนใจกว้างในการใช้รถสักหน่อย เข้าใจว่าทุกคนมีพฤติกรรมในการใช้รถไม่เหมือนกัน บางคนนิสัยไม่ดีขี่แซงในจังหวะที่ไม่ควร แทรกรถเข้าไปทั้งที่แทรกไม่ได้

ทุกพฤติกรรมทำให้การใช้รถมีความสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น แต่ถ้าทุกคนขับขี่ด้วยน้ำใจ อะไรปล่อยได้ก็ปล่อย ไม่เก็บมาคิดเล็กคิดน้อยจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าบนท้องถนนจะปลอดภัย มากขึ้นอีกเยอะ

และทั้งหมดน่าจะช่วยให้ทุกคนใช้รถกันได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น รู้ว่า ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย  เริ่มนับที่หนึ่งจากคุณและอีกหลาย ๆ คน บนท้องถนนก็จะเป็นที่ที่มีความสุขมากขึ้นได้แล้ว ปลอดภัยมากขึ้น อุบัติเหตุที่เกิดจากรถก็จะน้อยลง และที่สำคัญรถทุกคันต้องทำประกันรถยนต์เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ เรามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม. เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้คุณอีกด้วยนะ สามารถเช็คราคาออนไลน์ พร้อมทั้งซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. ซื้อง่าย ไม่ซับซ้อน ราคาดี และเชื่อใจได้ ต้อง Roojai.com รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า คลิกเลย

Parking-Safety-Tips-For-Your-Car

ปัญหาการหาที่จอดรถไม่ได้สักที ยอมรับเลยว่าเป็นปัญหาที่คอยกวนใจให้กับเราได้ตลอดเวลาเลย จนบางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะพึ่งพาไสยศาสตร์ให้ช่วยเราหาที่จอดรถให้ได้สักที แต่ก็ใช่ว่าทุกที่จอดรถที่เราจะเจอจะสร้างความสบายใจให้แก่เรา บางทีรถป้ายแดง หรือรถมือสอง ก็ต้องการความปลอดภัย หากเจอที่ที่ดูไม่เหมาะกับการจอดรถ ก็ขอเลือกไม่จอดดีกว่า รวมไปถึงอันตราย และการเสี่ยงต่อรถหายด้วย

ดังนั้นวันนี้ masii เลยมีเคล็ดลับมาบอกว่าที่จอดรถแบบไหนที่เราควรหลีกเลี่ยงบ้าง

Parking-Safety-Tips-For-Your-Car

ใต้ต้นไม้ใหญ่

หากอากาศร้อนระอุ หลายคนมักจะมองหาที่จอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่เพราะต้นไม้สามารถให้ร่มเงากับรถของเราได้ แต่เพื่อนๆ ทราบกันไหมครับว่า การจอดรถใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่นั้น ต้องแลกกับความเสี่ยงที่กิ่งไม้ต่างๆ จะโค่นหักใส่รถของเราได้ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ และในช่วงหน้าฝนแบบนี้ หากเลี่ยงได้ทาง มาสิ แนะนำให้เลี่ยงไปก่อนเลยครับ

ที่มืดและเปลี่ยว

การเลือกจอดรถในที่มืดและเปลี่ยวนั้น รวมไปถึงการจอดรถห่างไกล และลับสายตานั้น ปฎิเสธไม่ได้ว่าเลยว่าการกระทำนี้เป็นการง่ายต่อการที่รถของเราจะหายจากการถูกโจรกรรมแน่ๆ และสิ่งของในรถอาจจะโดนขโมย หรืออาจจะโดนทุบกระจกก็เป็นไปได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่ในการเลือกจอดรถ ควรหาที่จอดที่เหมาะสม มีแสงสว่างพอเพียง อีกทั้งยังมีผู้คนพลุกพล่าน

Parking-Safety-Tips-For-Your-Car

ทางลาดชัน

มือใหม่ต้องฟังเลย เวลาเดินทางออกต่างจังหวัด อาจจะเห็นว่าไม่ค่อยจะมีรถวิ่งสักเท่าไรนั้น และมีเหตุจำเป็นต้องจอดข้างทาง สิ่งที่เพื่อนๆ ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน คือ การจอดรถบนลาดชัด หรือบนเนินเขา ครับ เพราะว่านอกจากจะส่งผลต่อระบบเบรกรถของเราแล้ว ยังเสี่ยงต่อการรถไหลอีกด้วย สร้างความเสียหายให้กับรถของเรา และคนอื่นด้วย

และเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณี การเลือกทำประกันรถยนต์ไว้จะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่าย และค่ารักษาพยาบาลให้เราได้ เรียกได้ว่าสร้างความอุ่นใจ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ หากใครสนใจประกันรถยนต์ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันได้ทันที มีข้อมูลสงสัยโทร 02 710 3100 เรามีทีมงานคอยให้คำแนะนำครับ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com