พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

“พระเครื่อง” นับเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยมาตั้งแต่ในยุคโบราณ ในอดีตมักเรียกกันว่าพระเครื่องราง หรือพระพุทธรูปขนาดเล็ก ที่มักออกแบบเป็นแบบพระพิมพ์ สร้างสำหรับบรรจุไว้ในเจดีย์เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ซึ่งในบรรดาพระเครื่องนี้ อาจจะรวมถึงรูปของพระสงฆ์อริยบุคคล พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าด้วย

พระเครื่องในรูปแบบต่างๆ ที่คนไทยให้ความเชื่อและความศรัทธาในพุทธคุณด้านต่างๆ ทำให้เป็นที่นิยมนำพระห้อยคอติดตัว เพื่อความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ ซึ่งในบรรดาแรงงานไทยก็เช่นกัน หลายคนต้องทำงานหนักในที่กลางแจ้ง ที่เสี่ยงภัยอันตราย หรือต้องไปทำงานต่างแดน พบเจอกับความลำบาก ก็รู้สึกอุ่นใจที่มีพระคอยคุ้มครอง

สำหรับพระเครื่องแบบไหน ที่เหมาะกับวันเกิดตัวคุณเองมากที่สุด Mr.Carro นำข้อมูลมาให้คุณอ่านแล้วจ้า

พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

พระกรุวัดตะไกร อยุธยา (ภาพจาก ไข่นุ้ย สมุย / Iamarchitect Idea)

พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์เป็น พระปางมารวิชัย เป็นพระพิมพ์ที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะพญามาร

สิทธิการิยะโบราณอาจารย์ท่านว่า คนเกิดวันอาทิตย์นั้นเป็นคนมีความจริงจังมาดมั่น มุ่งมั่นในการงาน มีความคล่องแคล่วว่องไว แต่จะเป็นคนอารมณ์ร้อนมักฉุนเฉียวง่าย การตัดสินใจมักขาดสติ ความยั้งคิด

โบราณจารย์ท่านจึงให้ พระพุทธรูปปางถวายเนตร เป็น พระประจำวันอาทิตย์ เนื่องจาก ปางถวายเนตร เป็นปางยืนพิจารณาธรรมอันปิติ ในท่าสำรวม หมายถึงการกระทำอย่างมีสติ ดังนั้นเมื่อดาวอาทิตย์ เป็นตำแหน่งลักขณาที่มีอำนาจอยู่ในตัว

พระเครื่องที่ผู้เกิดวันอาทิตย์ควรอาราธนาเพื่อความเป็นสิริมงคลนั้น ควรจะเป็นพระพิมพ์ที่ผ่านความร้อนจากไฟ เนื่องจากจะช่วยหนุนธาตุประจำตัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งควรเป็น พระปางมารวิชัย เนื่องจากเป็นพระพิมพ์ ที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะพญามาร เนื่องจากดวงชะตาผู้เกิดวันอาทิตย์ เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจประกอบอาชีพ จึงมักมีศัตรู หรือคู่อริคิดปองร้าย

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้แก่ พระพิมพ์ที่มีพุทธลักษณะเป็นปางมารวิชัย เช่น พระกรุวัดตะไกร อยุธยา, พระกรุขรัวอีโต้ วัดเลียบ กทม., พระรอดลำพูน กรุวัดมหาวัน, พระคง ลำพูน, พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี, พระหลวงพ่อโต กรุบางกระทิง พิมพ์มารวิชัย, พระกริ่งคลองตะเคียน อยุธยา ฯลฯ

สรุป พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ พระคู่กายที่ถูกโฉลกควรจะเป็นพระปางมารวิชัย พระศิลปนั่งที่มีพุทธลักษณะเป็นปางมารวิชัยจะดีที่สุด

พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

พระยอดขุนพล (ภาพจาก สมเด็จวัดระฆัง พระนางพญา / Tirapatt Ieamsaard)

พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันจันทร์

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์เป็น พระยอดขุนพล วันจันทร์มีเสน่ห์ แต่ขาดอำนาจวาสนา พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันจันทร์ ที่ช่วยเสริมคือตระกูล พระยอดขุนพล ช่วยเสริมบารมีในอำนาจยิ่งนัก

สิทธิการิยะโบราณอาจารย์ท่านว่า คนที่เกิดวันจันทร์ จะเป็นคนที่มีเสน่ห์เป็นที่รักแก่บุคคลทั้งหลาย โกรธง่ายหายเร็ว ทำการสิ่งใดมักละเอียด เหมาะสำหรับงานด้านศิลปะวิทยา แต่เป็นผู้ใจน้อย อ่อนไหว ทำให้ขาดอำนาจและวาสนา

โบราณจารย์ท่านจึงได้ให้ พระปางห้ามญาติ เป็น พระประจำวันจันทร์ เพราะดาวจันทร์ความคิดสับสน ปางนี้จึงเหมือนเตือนเจ้าชะตา ผู้ที่กำเนิดในตำแหน่งลัขณาดาวจันทร์นี้ ดุจพระพุทธองค์ห้ามญาติทั้งสองฝ่ายแย่งน้ำซึ่งกันและกัน เมื่อวันจันทร์เป็นวันที่มีเสน่ห์ แต่ขาดซึ่งอำนาจและวาสนา

พระเครื่องประจำวันจันทร์ พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ ควรจะเป็นตระกูล พระยอดขุนพลเนื้อพระทำด้วยตะกั่วแก่ ดีบุก ปรอท (ชินเงิน) ตะกั่วเดือน (ตะกั่วสนิมแดง) พระในชุดนี้ โบราณจารย์ท่านถือว่า เสริมบารมีในอำนาจยิ่งนัก พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ ได้แก่ พระในตระกูลเนื้อชิน

อาทิเช่น พระร่วงหลังรางปืน จังหวัดสุโขทัย, พระหูยาน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี, พระร่วงหลังลายน้ำ จ.ลพบุรี, พระเชตุพน จ.สุโขทัย, พระชินราชใบเสมา กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก, พระมเหศวร กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี, พระท่ากระดาน กรุศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี, พระพิจิตรข้างเม็ดกรุเขาพนมเพลิง, พระกรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ

สรุป พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันจันทร์ พระคู่กายควรจะเป็น พระยอดขุนพล พระกรุต่างๆ ในตระกูลเนื้อชิน เป็นพระเครื่องประจำวันเกิดดีที่สุด

พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

พระผง (ภาพจาก พระเครื่องธรรมคุณ / พระสมเด็จ พระบ้านๆ พระกรุพระผง)

พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันอังคาร

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคาร ควรเป็น พระเนื้อผงต่างๆ พระผงในตระกูลพระสมเด็จซึ่ง พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันอังคาร พระผงพุทธคุณที่ไม่ผ่านความร้อน พุทธานุภาพขององค์พระจะช่วยให้จิตใจเยือกเย็นเป็นสมาธิ

สิทธิการิยะโบราณอาจารย์ท่านว่า คนเกิดวันอังคารเป็นคนมุทะลุดุดัน มักเจ้าอารมณ์โมโหร้าย โกรธเคืองขุ่นข้องหมองใจจะอันตราย แต่เป็นซึ่งคนที่รักจริง เอาจริงเอาจังต่อสิ่งที่ตนเองได้กระทำ

โบราณจารย์ท่านจึงได้ให้ พระปางไสยาสน์ เป็น พระประจำวันอังคาร เพราะพระพุทธเจ้าไสยาสน์ นั้นหมายถึงตอนที่พระพุทธองค์ท่านเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน คำว่านิพพาน เป็นว่า เย็น ดังนั้นสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคารซึ่งมีอารมณ์ร้อน จึงควรมีพระประจำวันเกิดคือ พระนอนเย็นอนุสติ เตือนใจให้รู้จักความเยือกเย็น ส่วนพระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคาร นั้นควรเป็นพระผงพุทธคุณ เนื่องจากว่าเป็นพระเครื่องที่มิได้ผ่านความร้อน อีกทั้งพุทธานุภาพจากองค์พระเนื้อผง จะช่วยให้จิตใจเยือกเย็น เป็นสมาธิ สามารถบรรเทาธาตุโทสะจริต แห่งฤกษ์ดวงชะตาวันเกิดของตนได้

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคารได้แก่ พระผงในตระกูลพระสมเด็จ อาทิเช่น พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม, พระสมเด็จวัดเกศไชโย (พระรุ่นใหม่ก็ใช้ได้) รวมถึงพระผงของพระคณาจารย์ต่าง เช่น พระสมเด็จปิลันทน์วัดระฆัง พระวัดสามปลื้ม พระวัดท้ายตลาด พระวัดพลับ พระผงวัดปากน้ำภาษีเจริญ พระเนื้อผงของพระเกจิอาจารย์ต่างๆ (ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเก่าก็ได้) ฯลฯ

สรุป พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันอังคาร พระคู่กายที่ถูกโฉลกควรจะเป็น พระเนื้อผงต่างๆ เป็นพระเครื่องประจำวันเกิดที่ดีที่สุด

พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

พระลีลา (ภาพจาก พระเครื่องพระบูชา / พระบ้านอินเทลลิเจนท์ บ้านโป่ง)

พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพุธ

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิด วันพุธกลางวัน ควรเป็น พระยืนปางลีลาต่างๆ วันพุธกลางคืน ควรเป็นพวกเครื่องรางของขลัง พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพุธ เนื่องจากวันพุธเป็นฤกษ์แห่งการทำกิน พระเครื่องจะเสริมดวงป้องกันอาถรรพ์ต่างๆ

โบราณจารย์ท่านว่า คนที่เกิดวันพุธแยกเป็น 2 วันคือ วันพุธกลางวัน และ วันพุธกลางคืน ซึ่งผู้เกิดวันพุธกลางวันนั้น ท่านว่าเป็นคนพูดเก่ง มีวาจาฉะฉาน ชัดเจนเฉือนใจ แต่ไม่อยาบคาย ทำมาค้าขายคล่องแคล่ว เดินทางเก่ง ติดต่อสื่อสารกับผู้ใดมักได้ลาภเสมอ แต่มักทำคุณคนไม่ขึ้น ทำดีอย่างไรมักไม่มีใครเห็น

โบราณจารย์ท่านจึงได้ให้ พระปางอุ้มบาตร เป็น พระประจำวันเกิดในวันพุธกลางวัน หมายถึงการบิณฑบาตร โปรดสัตว์ โดยมิได้เห็นแก่ความร่ำรวยหรือยากดีมีจน จะเป็นซึ่งพระราชามหากษัตริย์หรือขอทานยาจกก็ตาม ซึ่งแม้ผู้ใดปรารถนาในกุศลนั้น ท่านโปรดเท่าเทียมกัน จึงเป็นอนุสติกับเจ้าของดวงชะตาผู้เกิดในวันพุธกลางวัน ว่าแม้ทำความดี มิมีได้เห็น ก็ไม่ต้องใส่ใจ

ผู้เกิดวันพุธกลางคืน นั้นท่านว่า จะเป็นคนที่มีความลึกลับมีความรู้ความสามารถในสิ่งที่คนทั่วไปไม่มี และมักจะมีลางสังหรณ์ทราบการณ์ล่วงหน้า แต่มักไม่ค่อยมีคนเข้าใจเวลามีปัญหา

โบราณจารย์ท่านจึงให้ พระปางป่าเลไลย์ เป็น พระประจำวันพุธกลางคืน เป็นอณุสติ เนื่องจากพระปางนี้ เป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงเบื่อหน่ายพระสาวกที่ขัดแย้งกัน พระพุทธองค์จึงทรงเสด็จไปเพียงลำพัง ณ ป่าเลไลย์ มีช้างป่ามาถวายกล้วย และ ลิงมาถวายน้ำผึ้ง ฯลฯ

เนื่องจากวันพุธกลางวันเป็นฤกษ์แห่งการทำกิน พระเครื่องที่เหมาะสมนั้นควรเป็น พระประเภทลีลา หรือ ปางลีลาเสด็จกลับจากดาวดึงส์ มีความหมายแห่งความก้าวหน้า อาทิเช่น พระพิมพ์ลีลา ของพระเกจิอาจารย์ต่างๆ, พระลีลา 25 พุทธศตวรรษ, พระลีลากรุต่างๆ เช่น ลีลาเม็ดขนุน, ลีลาพลูจีบ, ลีลากลีบจำปา, ลีลาเมืองสวรรค์ ชัยนาท ฯลฯ

สำหรับพระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพุธกลางคืน นั้นเนื่องจากลักษณะวันของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนมักมีสัมผัสพิเศษ เหนือธรรมชาติ มีลางสังหรณ์มากกว่าคนเกิดวันอื่น ดังนั้นนอกจากพระเครื่องพระพิมพ์ที่อาราธนาแล้วควรจะมีเครื่องรางของขลัง เพื่อเสริมดวงไว้คุ้มครองป้องกันอาถรรพ์ต่างๆ ซึ่งคนที่เกิดในวันนี้ สัมผัสได้ง่าย

ตัวอย่างเครื่องรางที่ควรพกพา เช่น พระราหูอมจันทร์ กะลาตาเดียว หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง, เบี้ยแก้,ไม้ครู, ลูกสะกด ฯลฯ

สรุป พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพุธกลางวัน พระเครื่องที่ควรปกติดตัวคือ พระยืนปางลีลาต่างๆ พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพุธกลางคืน พระเครื่องที่ควรปกติดตัวคือ พวกเครื่องรางของขลัง จากพระเกจิอาจารย์แบบต่างๆ

พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

พระกำแพงเปิดโลก (ภาพจาก พุทธบารมี พระสมเด็จ / กรุพระเครื่องซิตี้ ร้านรัชมงคล/รัชกำแพงเพชร)

พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดี

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ควรเป็น พระปางเปิดโลก พระเครื่องที่มีพุทธลักษณะเป็น พระยืนปางเปิดโลก ซึ่ง พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดี ซึ่งด้วยความที่เป็นผู้มีความรู้มีปัญญา พระปางเปิดโลก ช่วยเสริมดวงวาสนาเป็นพระแห่งปัญญา

สิทธิการิยะโบราณอาจารย์ ท่านกล่าวว่าคนที่เกิดวันพฤหัสบดีนั้นท่านว่า จะเป็นคนที่มีภูมิปัญญาชาญฉลาดมีความยุติธรรมซื่อตรง มีความรู้กว้างขวาง ชอบศึกษาหาความรู้ จิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่จะเป็นคนไม่ยอมคน ไม่ฉ้อฉลจนเป็นคนสังคมแคบ ด้วยความที่เป็น ผู้มีความรู้มีภูมิปัญญาอันชาญฉลาด

โบราณครูบาอาจารย์ ท่านจึงให้ พระปางสมาธิ เป็น พระประจำวันพฤหัสบดี เนื่องจากพระปางสมาธิ วันพฤหัสบดี ปางตรัสรู้ หรือปางสมาธิหมายถึงการเจริญสมาธิอันหมายถึงปัญญา

พระเครื่องประจำวันพฤหัสบดี พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี นั้นเนื่องจากเป็นผู้ที่มีปัญญา มีความรู้กว้างขวาง พระพิมพ์ที่ช่วยเสริมดวงวาสนานั้น

ตั้งแต่โบราณท่านว่า พระปางเปิดโลก ท่านถือว่าเป็นพระแห่งปัญญา เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีเป็นที่สุด พระพิมพ์นี่นี้ ที่มีชื่อเสียงอาทิเช่น พระปางเปิดโลก ที่พระเกจิอาจารย์ต่างๆสร้างขึ้นมา หรือจะเป็นพระกรุเก่าต่างๆ เช่น พระปางเปิดโลก ศิลปะนครศรีธรรมราช พระกรุเตาเรียง จ.สุโขทัย, พระกำแพงเปิดโลก เม็ดทองหลาง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นพระในตระกูลทุ่งเศรษฐี ฯลฯ

สรุป พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดี พระคู่กายที่ถูกโฉลกควรจะเป็น พระยืนปางเปิดโลก จะดีที่สุดเป็นพระแห่งปัญญา

พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

พระปิดตา (ภาพจาก พระบ้านทุกสาย รับประกันแท้ตามหลักสากล)

พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันศุกร์

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ ควรเป็น พระปิตตา พระภควัมปติ ซึ่งเป็น พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันศุกร์ เนื่องจากลักษณะของคนเกิดวันศุกร์ เป็นคนหลงในสิ่งสวยงาม พระปิตตา พระภควัมปติ เพื่อเป็นลักษณะอณุสติเตือนใจ มิให้หลงในสิ่งต่างๆและเสริมดวงโชคลาภวาสนา

สิทธิการิยะโบราณอาจารย์ท่านว่า คนที่เกิดวันศุกร์ นั้นจะเป็นคนที่มีราคะจริตสูง เป็นผู้ซึ่งหลงในสิ่งสวยงาม ชอบของสวยของงาม ทำงานประณีต

โบราณจารย์ท่านจึงได้ให้ พระปางรำพึง เป็น พระประจำวันศุกร์ เป็นอณุสติเตือนเนื่องจากว่า ปางรำพึงนั้น ตามพุทธประวัติ นั้นเป็นปางที่พระพุทธองค์ ทรงพิจารณาธรรมสังเวช หมายถึง อสุภกรรมฐาน ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เกิดวันศุกร์จึงควรมีพระปางรำพึงไว้เป็นอณุสติไว้ ไม่ให้หลงลุ่มหลงกับกิเลสรอบตัวมากเกินไป

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ นั้นจึงควรเป็น พระปิตตาภควัมปติ เพื่อเป็นลักษณะอณุสติเตือนใจ มิให้หลงในสิ่งต่างๆ และเสริมดวงโชคลาภวาสนา จะไหลมาอย่างที่คาดไม่ถึง

พระปิตตา พระภควัมปติ ที่มากมายหลายเกจิอาจารย์ เช่น พระปิดตาพ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ, พระภควัมปติ ของหลวงพ่อแก้ว จ.ชลบุรี, พระภควัมปติของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี ฯลฯ

สรุป พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันศุกร์ พระคู่กายที่ถูกโฉลก ควรจะเป็น พระปิดตามหาอุตม์ พระปิตตา พระภควัมปติแบบต่างๆ เป็นดีที่สุด

พระเครื่องประจำวันเกิด ขวัญใจแรงงานไทย

พระเนื้อว่าน (ภาพจาก หลวงพ่อนอง วัดทรายขาว)

พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันเสาร์

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ ควรเป็น พระที่สร้างจากธรรมชาติ เช่น พระเนื้อว่าน จากธรรมชาติ ซึ่งเป็น พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันเสาร์ เนื่องจากลักษณะของคนเกิดวันเสาร์ ด้วยดาวเสาร์ เป็นคนจริงจังเคร่งเครียด พระเนื้อว่าน มีคุณลักษณะที่เย็นและบริสุทธิ์จากธรรมชาติ

สิทธิการิยะโบราณอาจารย์ท่านว่า คนที่เกิดวันเสาร์ จะเป็นคนจริงจังกับชีวิต พูดจริงทำจริง ภายนอก จะดูดุดันแต่ภายในใจเป็นคนใจอ่อน แต่เป็นดวงที่คนอื่นจะทำร้ายได้ยากมาก เนื่องจากตำแหน่งลักขณาดวงดาวนี้เป็นคนดวงแข็ง

โบราณจารย์ถือว่า คนเกิดวันเสาร์นั้นดวงแข็งไม่มีผู้ใดทำร้ายได้ จึงได้ให้ถือเอา พระปางนาคปรก เป็น พระประจำวันเสาร์ เนื่องจากหมายถึง พระยามุจรินทร์นาคราช มาแผ่พังพาฬป้องกันภยันตรายต่างๆ แก่พระพุทธองค์

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ นั้นจึงควรเป็นพระเนื้อว่าน เนื่องจากดาวเสาร์ เป็นคนจริงจังเคร่งเครียด พระเนื้อว่าน ซึ่งมีคุณลักษณะที่เย็นและบริสุทธิ์จากธรรมชาติจะช่วยทำให้ ลดความเคร่งเครียดลง

สรุป พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันเสาร์ พระคู่กายที่ถูกโฉลกควรจะเป็น พระเครื่องเนื้อว่าน เป็นดีที่สุด

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาจาก:

10 ป้ายรถเมล์ในไทยและเอเซียที่น่ารอที่สุด

ในปัจจุบัน ประเทศไทยนอกจากจะคุ้นชินกับปัญหารถติดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกกันมานานแล้ว รวมไปถึงปัญหาของฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกปี ซึ่งเป็นที่วิตกของหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณสุข หรือด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

โดยทางออกของปัญหา (ที่ผู้สมัครฯ ผู้ว่า กทม. หลายคนบอก “เราทำได้” แน่นอน!!!!!) แต่ทว่า … ระบบขนส่งมวลชนตอนนี้อยู่ในสถานะย่ำแย่ (แม้ว่าจะเปลี่ยนรถเมล์ใหม่รัวๆ แล้วก็ตาม แต่รถเมล์หลายสายก็หายไป) ไม่จูงใจให้คนมาใช้บริการ และส่วนใหญ่ออกแบบไม่เข้ากับหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design)

ป้ายรถเมล์ไทยในอดีต

ป้ายรถเมล์ไทยในอดีต (ภาพจาก Flickr)

แถมรถเมล์ที่มีบริการยังมีสภาพเก่า ควันดำ สกปรก กะเวลารอไม่ค่อยได้ บริการไม่ค่อยดีในบางคัน และไม่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ยิ่งจุดเล็กๆ อย่าง “ป้ายรถเมล์” ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ บนความไม่สำคัญ (ของคนที่ไม่ได้รอรถเมล์) ที่บั่นทอนความรู้สึกให้อยากมาใช้บริการ น้อยลงไปอีก

ป้ายรถเมล์ยุคเก่าของไทยในปัจจุบัน

ป้ายรถเมล์ยุคเก่าของไทยในปัจจุบัน  (ภาพจาก Google Map)

เมื่อเทียบกับต่างประเทศ กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีผู้ใช้รถเมล์น้อยกว่าหลายประเทศ จากสำรวจผู้ใช้รถเมล์ เทียบกับประชากรเมือง ของ ดร.สุเมธ องกิตติกุล และคณะ พบว่า กรุงเทพฯ มีผู้ใช้รถเมล์เพียง 21% ของประชากรเมืองทั้งหมด ขณะที่ สิงคโปร์ มีผู้ใช้รถเมล์ 70% ฮ่องกง 81% และลอนดอน 70% ของประชากรเมืองทั้งหมด

ป้ายรถเมล์ยุคใหม่ของไทยในปัจจุบัน

ป้ายรถเมล์ยุคใหม่ของไทยในปัจจุบัน  (ภาพจาก Google Map)

MR.CARRO ขอนำเสนอข้อมูลของ “ป้ายรถเมล์” ทั้งในไทยและในเอเชีย (เอาแค่นี้ก่อน ไว้วันหลังค่อยยกของยุโรปมาให้อ่านกันต่อ) เรามาดูกันว่า ป้ายรถเมล์ที่ไหน น่ารอรถเมล์ที่สุดกันดีกว่า

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ไทย

แม้ว่าป้ายรถเมล์ในไทย อาจจะมีป้ายรถเมล์อยู่หลากหลายสภาพ ตั้งแต่ของใหม่ล่าสุด แจ๋วสุด ใหญ่สุด (หาดูได้ตามหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ บางที่) ครบเครื่องเรื่องเทคโนโลยี

ไปจนถึงป้ายรถเมล์ตั้งแต่ยุค “ศาลาประชากรไทย” หรือศาลาตามทางหลวง ที่ใช้งานมาจนถึง 30 – 40 ปีแล้ว หรือป้ายรถเมล์แบบยุค 2000 ที่ได้บริษัท JCDecaux (ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านบิลบอร์ดระดับโลก) และ TSF – บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จํากัด (มหาชน) มาสร้างไว้เพื่อแลกกับได้สิทธิ์โฆษณาที่ป้าย ก็ยังมีใช้งานอยู่ ในความทรงจำของใครหลายๆ คน

ไม่ว่าจะเป็นสภาพเก่า หลังคารั่ว ที่นั่งไม่มี หรือป้ายรถเมล์ อยู่ใต้บันไดสะพานลอย มืด เปลี่ยว ต้นไม้รก ป้ายโฆษณาใหญ่เกิน ตัวเลขบอกเส้นทางไม่ Update ฯลฯ ก็ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ ถ้าจะต้องมารอรถเมล์กันนานๆ

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

แต่ว่าช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 กทม. ได้เปิดตัวศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางอัจฉริยะ (Smart Bus Shelter) เช็ก ชาร์จ แชร์ ได้ฟรี และมีสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะมากขึ้น

สำหรับศาลารอรถเมล์อัจฉริยะรูปแบบใหม่ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบ Full Function และแบบ Light Function โดยแบบ Full Function จะมีระบบบอกสายรถเมล์ และเวลาการมาถึงของรถเมล์บนจอ LFD ขนาด 32 นิ้ว มีระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พร้อมทั้งป้ายโฆษณาข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของ กทม. บนจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

นอกจากนี้ ยังมีที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และ Free Wi-Fi (ฟรีไว-ไฟ) สอดรับกับนโยบาย Smart Bus Shelter ตามแนวคิดการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งในส่วนของ Light Function จะไม่มีจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว และระบบ Wi-Fi Router

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

เมียนมาร์

แม้ว่าในประเทศพม่า (หรือเมียนมาร์) บนท้องถนนจะมีความงุนงงและวุ่ยวายที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเมียนมาร์เปลี่ยนมาขับรถชิดขวามาหลายสิบปีแล้ว แต่รถยนต์พวงมาลัยขวา ที่เป็นรถเก่ามาจากญี่ปุ่น ยังคงวิ่งกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง! และป้ายรถเมล์ ศาลารอรถเมล์ส่วนใหญ่ ก็ยังเก่าๆ ไม่ต่างจากบ้านเรานัก

แต่ช่วงปี 2018 ในเมียนมาร์ ได้เปิดตัวป้ายรถเมล์ใหม่ 500 จุด ซึ่งเป็นป้ายฟรีที่เอกชนของ FMIDecaux บริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างบริษัทโฆษณาระดับโลก JCDecaux (ซึ่งก็เคยมาสร้างป้ายรถเมล์ในไทย) และ FMI บริษัทใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ของพม่า ลงทุนให้กว่า 13 ล้านเหรียญ โดยมีเงื่อนไขว่า FMIDecaux จะลงโฆษณาในป้ายรถเมล์เหล่านี้ได้ฟรีเป็นเวลา 20 ปี

พร้อมทำจุดต่อคิวเพื่อให้ขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ และเพิ่มจุดจอดให้เพียงพอต่อรถที่มาถึงด้วย

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

มาเลเซีย

สำหรับป้ายรถเมล์ในมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของเราก็มีป้ายรถเมล์ที่น่าใช้บริการอยู่

ด้วยตัวป้ายที่โล่งโปร่งตากับกระจกแบบกันลมกันฝน และก็มีป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ พร้อมกับทางลาดสำหรับวีลแชร์ แต่ถ้าเป็นป้ายรถเมล์ในย่านในเมือง ตัวป้ายก็จะค่อนข้างใหญ่โต คล้ายๆ กับในหลายประเทศ

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

สิงคโปร์

สิงคโปร์ นับเป็นประเทศแรกๆ ใน ASEAN ที่ออกแบบและวางระบบเมืองอัจฉริยะ Smart City เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเริ่มปรับปรุงเมืองให้รองรับกับระบบดิจิทัลต่างๆ นับแต่ปี 2015 ที่รัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศให้เขตจูร่ง เป็นพื้นที่ทดสอบเมืองอัจฉริยะ

โครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะ Smart Bus Station ของสิงคโปร์ จัดเป็นป้ายรถเมล์ที่เป็นมิตรต่อคนทั้งมวล นับตั้งแต่มีบริการ Wi-Fi ฟรี มีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ จอแสดงผลการจราจร ที่จะบอกว่ารถเมล์แต่ละสายมาถึงป้ายในเวลากี่นาที อีกทั้งยังมีต้นไม้ หนังสือ ชิงช้า และพื้นที่แสดงผลงานโดยศิลปินท้องถิ่นบริเวณหลังป้ายด้วย

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

อินโดนีเซีย

ในอินโดนีเซีย ถ้าเป็นในตัวเมืองจาการ์ต้าจะนิยมตั้งป้ายรถเมล์ไว้ที่เกาะกลางถนน (เพราะรถเมล์จะวิ่งบริเวณบัสเลน เลนขวาสุด) แลตัวป้ายรถเมล์ที่ดีไซน์ทันสมัยหน่อย บางป้ายก็อาจจะเป็นป้ายรถเมล์แบบยกสูง แบบเปิดโล่ง มีบันได ขึ้น-ลง พร้อมทางลาดสำหรับรถวีลแชร์ และมีป้ายบอกเลขสาย ชื่อป้าย และแผนที่เส้นทางเดินรถด้วย

แต่ถ้าเป็นป้ายรถเมล์ในจังหวัดอื่นๆ ก็จะมีสภาพไม่ต่างไปจากประเทศอื่นๆ ในแถบ ASEAN นัก

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ฮ่องกง

สำหรับป้ายรถเมล์ของฮ่องกง ตามป้ายรถเมล์จะมีเสาป้ายระบุชื่อป้าย หมายเลขรถเมล์ผ่าน สถานที่จอด ถ้าในตัวเมืองป้ายรถเมล์ก็จะมีขนาดใหญ่หน่อย

วิธีรอง่ายๆ แค่เข้าแถวให้ตรงเสาป้ายให้ถูกป้ายสายที่เราจะขึ้น รถเมล์จะจอดตรงป้ายเลขนั้น

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

จีน

ป้ายรถเมล์ในจีนนั้นมีค่อนข้างหลากหลายมาก ตั้งแต่ป้ายรถเมล์แบบบ้านๆ ตามเมืองรองๆ และป้ายรถเมล์ใหญ่ๆ ในเมืองหลวง โดยแต่ละป้ายรถเมล์ก็จะมีข้อมูลรถเมล์แต่ละสายครบถ้วน ละเอียด ทั้งต้นทางและปลายทาง สถานที่ผ่าน และทิศทางที่จะไป

ซึ่งป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่จีนก็มี! เช่นในเมืองตงก่วน ป้ายรถเมล์อัจฉริยะดังกล่าว จะแสดงผลตำแหน่งแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ GPS ทำให้ผู้โดยสารทราบระยะห่างจากป้ายของรถเมล์ ช่วยให้วางแผนเวลาและวิธีการเดินทางได้ง่ายขึ้น

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ไต้หวัน

ป้ายรถเมล์ที่ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน นี่ก็ถือว่าเป็นป้ายรถเมล์ และศาลารอรถเมล์ที่น่าใช้บริการอีกจุดหนึ่ง เนื่องจากเป็นป้ายรถเมล์ที่มีบอกเลขสายแล้ว ยังบอกเวลาของรถที่จะมาถึงอีกด้วย อีกทั้งยังสะอาด ใช้งานสะดวกตามหลักอารยะสถาปัตย์

ส่วนในพื้นที่ห่างไกลที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ตั้งป้ายรถเมล์ไม่สะดวก เช่นในนครนิวไทเป ได้ร่วมกับบริษัท จงหัวเทเลคอม พัฒนาป้ายรถเมล์อัจฉริยะ e-Paper (อี-เปเปอร์) หรือ กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ บอกเวลารถเมล์มาถึง อุณหภูมิอากาศ และข้อมูลประกาศกิจกรรมต่างๆ มีแผงโซล่าเซลล์ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อชาร์ตแบตเตอรี่เต็มใช้งานได้ต่อเนื่อง 14 วัน ต้นทุนป้ายละ 1 แสนเหรียญไต้หวันเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

เกาหลี

นอกจากเราจะได้ความไฮเทคในหลายอย่างที่มาจากเกาหลีใต้แล้ว ป้ายรถเมล์ของที่นี่ ก็ยังมีความไฮเทคไม่แพ้ใครในโลกอีกด้วยครับ เช่น ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ได้เปิดตัวป้ายรถเมล์อัจฉริยะที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things

ที่นอกจากจะมีกระจก กันแดดกันฝน และยังมี Wi-Fi ฟรี และมีจอแสดงเวลาโดยประมาณที่รถเมล์จะมาถึงและหน้าจอแสดงสภาพการจราจรภายนอกตามเวลาจริงแล้ว ยังช่วยปกป้องกันโควิด-19 ได้ด้วย

ซึ่งก่อนคุณจะเข้าไปในศาลารอรถเมล์ไฮเทคนี้ จะต้องยืนหน้ากล้องตรวจจับความร้อน โดยประตูจะเปิดต้อนรับผู้ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียสเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีเครื่องจ่ายเจลล้างมือ รวมทั้งคำแนะนำให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากตลอดเวลา และเว้นระยะห่างจากกันอย่างน้อย 1 เมตร

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ญี่ปุ่น

นี่จัดว่าเป็นประเทศที่คนรอรถเมล์อยากไปรอกันเป็นอันดับต้นๆ แล้วล่ะ เพราะมีป้ายรถเมล์หลากหลายรูปแบบ ทั้งดีไซน์สวยเก๋ แต่ใช้งานได้จริงอยู่มากมาย

รวมถึงมีป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ เลขสายรถเมล์ สถานที่ต้นทาง-ปลายทาง มีตารางเวลาเดินรถที่ต่างกัน ทั้งแบบตารางสำหรับวันธรรมดา และตารางสำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ รวมถึงความถี่การเดินรถ เช่น วันธรรมดามีรถวิ่งทุกๆ 20 นาที ส่วนวันหยุดมีรถวิ่งทุกๆ 30 นาที เป็นต้น

ส่วนถ้าเป็นในเมืองใหญ่ๆ ก็จะมีป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่พัฒนาให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมจอ LCD บอกเส้นทางต่างๆ อีกด้วย

แถมรถเมล์ของญี่ปุ่น ยังจอดรถรับคนทุกป้ายด้วย! โดยที่คนรอขึ้นไม่ต้องโบกเรียกเลยทีเดียว เพียงแค่ไปยืนรอที่ป้ายรถเมล์เท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Burnout Syndrome ไม่ได้ขี้เกียจ ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แค่หมดไฟในการทำงาน

เคยเป็นไหมในตอนทำงานกับอาการ “เปื่อย” แม้รู้ดีว่ารีบแค่ไหนแต่ไฟในการทำงานมันเหมือนมอดดับลง แบบนั้นเรียกว่าคุณกำลังอยู่ในอาการ Burnout Syndrome เรื่องราวของการเจ็บป่วยที่แอบแฝงอยู่กับชีวิตการทำงานที่หลายคนไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวเองกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นผู้ป่วย “ภาวะหมดไฟในการทำงาน!”

โรคนี้เกิดขึ้นจากไหน มีลักษณะอย่างไร น่ากลัวแค่ไหนต่อร่างกาย และเราสามารถป้องกันการเจ็บป่วยในรูปแบบนี้ได้หรือไม่ หรือว่ามีวิธีการรักษาดูแลอาการอย่างไร มาทำความรู้จักกับการต่อยอดของ ออฟฟิศ ซินโดรม สู่ Burnout Syndrome กันดีกว่า ซึ่งมีผลต่อคุณมากเลยทีเดียว

รู้จักกับ Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน

Burnout Syndrome คืออะไร? อาการเจ็บป่วยที่เรียกว่า ภาวะหมดไฟในการทำงาน ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากแต่เดิม มนุษย์เราทำงานในวิถีกสิกรรม ก่อนยกระดับมาเป็นการทำงานในภาคอุตสาหกรรมพร้อมทั้งการทำงานด้านเอกสารและ IT ที่ต้องขลุกอยู่แต่ในออฟฟิศตลอดเวลา และการทำงานในรูปแบบเดิมๆ ซ้ำๆ เหล่านี้กลายเป็นที่มาของปัญหาที่เรียกอาการเหล่านี้ว่า “หมดไฟในการทำงาน”

ซึ่งทาง องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ความสำคัญต่อปัญหานี้มาก เพราะเจ้าโรคอุบัติใหม่ตัวนี้กำลังเป็นเนื้อร้ายที่กัดกร่อนพลังความสามารถของมนุษย์ทั่วไปที่โหมทำงานหนักมากเกินจนเกิดภาวะตื้อตันจนไม่อยากทำอะไรอีกต่อไป และมันกลายเป็นเหมือนเชื้อไฟที่พากันลุกลามจนเป็นสาเหตุก่อให้เกิดปัญหาโรคซึมเศร้า

โดยประเทศที่ถูกภาวะหมดไฟในการทำงานโจมตีอย่างหนักได้แก่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่พนักงานบริษัททำงานหนักยิ่งกว่าหนูถีบจักร มีภาวะบีบคั้นทางอารมณ์สูงมากจึงก่อให้เกิดปัญหา Burnout Syndrome ตามมา และกลายเป็นบทสรุปที่น่าเศร้าในหลายต่อหลายครั้ง

ซึ่งในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้ได้ลุกลามเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ไม่เพียงแต่ผู้คนในวัยทำงานที่ประสบกับปัญหานี้เท่านั้น ยังรวมไปถึงเด็กนักเรียนที่ถูกเคี่ยวเข็ญให้เรียนหนังสืออย่างหนักก็มีสิทธิ์ที่จะมีภาวะหมดไฟลงไปได้เช่นกัน ซึ่งทุกคนควรหันมาใส่ใจกับภาวะเหล่านี้

Burnout Syndrome ไม่ได้ขี้เกียจ ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แค่หมดไฟในการทำงาน

สาเหตุหลักของอาการ “หมดไฟในการทำงาน”

สำหรับอาการเจ็บป่วยในรูปแบบของ Burnout Syndrome เป็นอาการเจ็บป่วยจากสภาพจิตใจเป็นหลัก โดยปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากการหักโหมทำงานหนักมากจนเกินไป รวมถึงปริมาณงานที่มีมากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว งานที่ดูเหมือนไม่มากแต่มีความละเอียดและซับซ้อนของโครงสร้างสูงก็สามารถก่อให้เกิดภาวะนี้ได้

นอกจากนั้นแล้ว การได้รับมอบหมายงานที่เยอะ หรือยุ่งยาก แต่มีความเร่งด่วนสูงย่อมก่อให้เกิดปัญหานี้ตามได้ด้วยเช่นกัน โดยการเกิดภาวะหมดไฟในการทำงานจะมาในรูปแบบของความเครียดสะสม ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ใหม่มากสำหรับสังคมไทยที่หลาย ๆ บริษัทในทุกวันนี้เลือกจ้างคนทำงานเพียงน้อยนิดแต่ต้องรับผิดชอบเนื้องานจำนวนมากจนเกิดภาวะความเครียดสะสมแบบนี้ขึ้นมานั่นเอง

การเร่งรีบแข่งขันกันทางด้านการศึกษา เป็นการผลักดันให้เด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวยุคใหม่เกิดภาวะความตึงเครียดทางด้านอารมณ์จากการเรียนที่ไม่มีวันสิ้นสุดนับตั้งแต่เล็กจนโต ทำให้เกิดอาการหมดไฟไม่อยากทำอะไร และต่อยอดต่อมาจนกลายเป็นอาการของโรคซึมเศร้าที่เป็นผลพวงของภาวะการเจ็บป่วยในรูปแบบนี้ ดังนั้นเรื่องของ Burnout Syndrome เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามโดยเด็ดขาด

Burnout Syndrome ไม่ได้ขี้เกียจ ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แค่หมดไฟในการทำงาน

อาการไหนที่บ่งชี้ว่าคุณอยู่ในภาวะ Burnout Syndrome หรือเปล่า?

Burnout Syndrome หรือ ภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นภาวะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจ

ผลกระทบจากภาวะเครียดสะสมที่เกิดขึ้นจากการทำงานหรือการหมกมุ่นจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปจนทำให้เกิดภาวะเบื่อ ไม่อยากทำงานอีกต่อไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีการแบ่งระดับของภาวะ Burnout Syndrome เป็น 3 ระดับใหญ่ๆ ด้วยกัน ดังนี้

  • ระดับเหนื่อยล้า

เมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้น มันคือความยากลำบากที่จะลุกไปทำงาน ระหว่างการเดินทางไปสู่ที่ทำงานเป็นเวลาอันแสนขมขื่น เมื่อไปถึงที่ทำงานแล้วเกิดภาวะตื้อ ตัน คิดอะไรไม่ออก เบื่อหน่ายในทุกสิ่งและทำงานแบบซังกะตาย ทั้งหมดนี้คือสัญญาณเริ่มต้นของภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือ Burnout Syndrome แม้ว่ายังคงสามารถประคับประคองให้ทำงานต่อไปได้ แต่ถึงกระนั้นประสิทธิภาพสำหรับการทำงานจะค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไป งานเริ่มส่งช้า หรือไม่มีคุณภาพ ซึ่งถ้าไม่แก้ไขตั้งแต่ต้นย่อมมีผลต่อตัวบุคคลผู้กำลังเจอกับปัญหา Burnout Syndrome และองค์กรที่รับพวกเขาเข้าทำงานด้วย

  • ระดับทัศนคติเชิงลบ

เมื่อเริ่มมีความขุ่นข้องหมองใจในการทำงาน สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือทัศนคติต่าง ๆ ที่มีเกี่ยวกับงานจะตกต่ำลง ผู้ป่วยเริ่มมองทุกอย่างในแง่ลบทั้งสิ้น แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กลายเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ได้ รวมไปถึงการมองผู้ร่วมงานคนอื่นในแง่ร้าย การมองดูที่ทำงานในมุมลบ ทั้งหมดนี้จะหล่อหลอมให้เกิดความรู้สึกห่อเหี่ยวภายในจิตใจ จนในท้ายที่สุดคือไม่ต้องการทำอะไรอีกต่อไปแล้ว

  • ระดับวิกฤต

ระดับนี้ถือเป็นระดับอันตรายที่สุดเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับบุคลิกภาพและอารมณ์อย่างรุนแรง และมักมีปัญหาในเรื่องของอาการโรคซึมเศร้าเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย โดยในช่วงวิกฤตนี้จะมีปัญหาในการกระทบกระทั่งกันทางอารมณ์สูงมาก อาการโมโหเกรี้ยวกราด ไม่พอใจในสิ่งต่าง ๆ สูงขึ้นจนไม่อาจที่จะทำงานกับใครต่อไปได้ ซึ่งการแก้ไขปัญหาโดยทั่วไปคือการปลดพนักงานคนนั้นออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่เป็นการดึงพนักงานคนนั้นออกมาแก้ไขปัญหา จนกลายเป็นการโยนปัญหาไปยังตัวผู้ป่วยในท้ายที่สุด

Burnout Syndrome ไม่ได้ขี้เกียจ ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แค่หมดไฟในการทำงาน

การตรวจสอบว่าคุณกำลังหมดไฟในการทำงานหรือ Burnout หรือไม่?

เพื่อไม่ให้คุณต้องติดกับดักของการทำงานมากเกินไปจนหมดไฟในการทำงาน ลองเช็กตัวเองสักนิดเพื่อเป็นการประเมินผลตัวเองเบื้องต้นว่าเรากำลังมีความเสี่ยงหรือไม่ ซึ่งถ้าเรากำลังเข้าข่ายของผู้มีความเสี่ยงแล้วจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที ที่นี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าเข้าข่ายคนที่กำลังจะหมดไฟ ต้องเช็กลิสต์ตรวจสอบสภาวะการ Burnout ซึ่งอาการมีดังนี้

  • หงุดหงิด โมโหง่าย
  • เริ่มไม่พอใจในที่ทำงาน
  • มองเพื่อนร่วมงานในแง่ลบ
  • ปัดปัญหา ไม่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
  • ขาดความกระตือรือร้น
  • ส่งงานสาย
  • งานถูกแก้ไขอยู่บ่อยครั้ง
  • มีงานที่ไม่เสร็จค้างสะสมอยู่มากเกินไป
  • ไม่อยากไปทำงาน

ถ้ามีอาการทั้งหมดหรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของภาวะเหล่านี้ นั่นคือคุณกำลังเผชิญหน้ากับปัญหา Burnout Syndrome เข้าให้แล้ว ดังนั้นการจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้คือวิธีการที่ดีที่สุดก่อนที่มันจะกำเริบกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นต่อมาในอนาคต

แล้วภาวะหมดไฟในการทำงานรวมถึงการเรียน มีวิธีแก้อย่างไร?

อาการ Burnout แก้ไขได้ หากผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาเข้าใจกับสถานการณ์ของตนเอง ซึ่งมีวิธีการง่ายๆ ดังนี้

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ หัวใจสำคัญสำหรับการแก้ไขปัญหาทั้งหมดคือการพักผ่อนที่ดี แม้ในความเป็นจริง การ Burnout นั้นมีผลกระทบที่ตามมาคือการนอนไม่หลับ ดังนั้นการฝึกตัวเองให้นอนเป็นเวลาย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แม้ว่าไม่หลับ แต่การได้นอนพักสายตาย่อมทำให้ความเครียดและความวิตกกังวลลดลงไปได้
  2. แบ่งเวลาให้เหมาะสม การทำงานที่ดีคือการจัดสรรเวลาให้ถูกต้อง การหอบงานกลับมาทำที่บ้านแบบหามรุ่งหามค่ำคือทางเลือกที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นการทำงานที่เต็มพิกัดแล้ว ควรเลือกที่จะพักผ่อน เพื่อให้คุณสามารถจัดสรรเวลาการทำงานและการพักผ่อนได้อย่างลงตัว จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  3. ปรึกษาแพทย์ ในกรณีที่แก้ไขปัญหาไม่ได้ การปรึกษาแพทย์นับเป็นทางเลือกที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อแพทย์จะได้ทำการวินิจฉัยสำหรับการรักษาไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบการใช้ชีวิต หรือการรับประทานยาเพื่อการรักษา เป็นต้น

ภาวะ Burnout Syndrome คือ เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม รู้เท่าทันปัญหาและรีบจัดการอย่างทันท่วงที จะทำให้คุณสามารถคงรักษาพลังในการทำงานได้อย่างมีความสุข และเพื่อให้การป้องกันเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ เมื่อหมดไฟในการทำงานอาจทำให้คุณต้องเสี่ยงใกล้อุบัติเหตุมากขึ้น การมองหาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่ “รู้ใจ” ย่อมตอบโจทย์ความคุ้มครองที่ดีที่สุดให้กับคุณได้ ปรึกษาเราในเรื่องประกันจะช่วยให้คุณอุ่นใจในทุกเวลาแห่งการใช้ชีวิตได้เสมอ เพราะเราทำให้ประกันภัยเป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน ราคาดี และเชื่อถือได้!

ติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจได้ทาง FB fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

วันนี้ก็เข้าสู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์กันแล้วนะครับ หลายคนอาจจะชอบกันเป็นพิเศษเพราะเป็นช่วงเทศกาลหยุดยาวนั่นเอง! เพราะได้พาครอบครัว ลูกหลานไปเที่ยว ไปเยี่ยมญาติ กลับบ้านเกิด หรือเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันนั่นเอง ซึ่งเวลานี้ไม่ว่าคุณจะไปไหนมาไหน ก็ต้องระวังเจ้าโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกันด้วยนะครับ …

แต่คุณทราบหรือไม่ ว่า ประเพณีสงกรานต์นี้ จัดได้ว่าเป็นประเพณีร่วมรากอุษาคเนย์ ในประเทศแถบอาเซียนเลยทีเดียว เพราะประเทศเพื่อนบ้านของเรา อย่าง ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อยชาวไตแถบเวียดนาม และสิบสองปันนา มนฑลยูนนานของจีน รวมถึงศรีลังกา และในประเทศอินเดีย ก็มีประเพณีรดน้ำ สาดน้ำแบบบ้านเราเช่นกัน

สำหรับประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์ จะมีตำนานและที่มาอย่างไรนั้น CARRO มีข้อมูลน่ารู้มาฝากครับ

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

ประวัติวันสงกรานต์

ประเพณีสงกรานต์ สันนิษฐานกันว่าได้รับวัฒนธรรมมาจากเทศกาลโฮลีในอินเดีย แต่เทศกาลโฮลี (Holi) จะใช้การสาดสีแทน ถือว่าเป็นการปัดเป่าโรคร้ายไปจากตัว เพราะสีที่นำมาสาดใส่กันนั้น เป็นสีที่ได้มาจากพืชพรรณและสมุนไพรตามธรรมชาติ โดยจะจัดให้มีขึ้นในทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ซึ่งก็คือเดือนมีนาคม แต่ก็มีนักเขียนด้านประวัติศาสตร์ บอกว่าคนละความหมายกันกับความเชื่อของสงกรานต์ก็ตาม

สำหรับคำว่า สงกรานต์ เป็นคำในภาษาสันสกฤตหมายถึง การเคลื่อนย้าย โดยอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายการประทับในจักรราศี หรือการเคลื่อนเข้าสู่ปีใหม่ตามความเชื่อของไทยและบางประเทศในแถบ ASEAN ซึ่งประเพณีสงกรานต์มีสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณคู่กับตรุษ จึงมักเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึง การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

เดิมทีวันที่จัดสงกรานต์นั้น มีการคำนวณทางดาราศาสตร์ แต่ในปัจจุบันได้กำหนดวันที่แน่นอน คือ ตั้งแต่ 13 – 15 เมษายน หรือมีชื่อเรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันเนา และวันเถลิงศก

แต่เดิม วันขึ้นปีใหม่ไทย คือ วันเริ่มปีปฏิทินของไทยจนถึง พ.ศ. 2432 จึงเปลี่ยนแปลงมาเป็นวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ สาเหตุก็เพราะสอดคล้องกับธรรมเนียมโบราณ หากนับทางจันทรคติ จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ซึ่งก็คือวันสงกรานต์ หรือวันที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีนไปสู่ราศีเมษนั่นเอง แม้ว่าในปีต่อไปจะไม่ตรงกับวันสงกรานต์ (หมายถึงวันที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีน ไปสู่ราศีเมษ)

จนถึง พ.ศ. 2483 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ประกาศให้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามแบบสากลนิยมแทนวันที่ 1 เมษายน โดยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2484 เป็นต้นมา

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

เทศกาลสงกรานต์ ในอดีต-ปัจจุบัน

ในอดีต เทศกาลสงกรานต์ จะมีพิธีกรรมที่มีแค่ภายในครอบครัว หรือในชุมชน แต่ในปัจจุบันได้ปรับเทศกาลสงกรานต์ในระดับประเทศ ทุกจังหวัดมักจัดงานกัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว และในวันนี้จะใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ มีการรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ และการสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคลในปีใหม่ไทย

ในสังคมไทยสมัยใหม่ สงกรานต์ กลายเป็นประเพณีที่ผู้คนนิยมกลับบ้านในต่างจังหวัด หรือไปเที่ยวต่างประเทศและวังสงกรานต์ ยังมีแบ่งให้เป็นวันเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ในวันที่ 13 เมษายน และวันครอบครัว ในวันที่ 14 เมษายน อีกด้วย

ซึ่งก็ยังมีประเพณีที่สืบทอดมาตั้งแต่ดั้งเดิมและถูกแปลงไปแบบสมัยใหม่ เช่นแหล่งเล่นน้ำของเหล่าวัยรุ่น วัยทำงาน ในย่านห้างต่างๆ หรือสถานบันเทิงต่างๆ กลายเป็น Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ ไป

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

กิจกรรมสงกรานต์ มีอะไรบ้าง?

การทำบุญตักบาตร นับว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้ตนเอง อีกทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว การทำบุญในลักษณะนี้มักจะมีการเตรียมไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาทำบุญก็จะนำอาหารไปตักบาตรถวายพระภิกษุที่ศาลาวัดโดยจัดเป็นที่รวมสำหรับการทำบุญ พอหลังจากทำบุญเสร็จเรียบร้อย ก็จะก่อเจดีย์ทรายอันเป็นประเพณีที่สำคัญในวันสงกรานต์อีกด้วย

การรดน้ำ นับได้ว่าเป็นการอวยพรปีใหม่ให้แก่กันและกัน น้ำที่นำมาใช้รด มักเป็นน้ำหอมเจือด้วยน้ำธรรมดา

การสรงน้ำพระ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด ซึ่งในบางที่ก็จะมีการจัดให้สรงน้ำพระสงฆ์เพิ่มเติมด้วย

การบังสุกุลอัฐิ สำหรับเถ้ากระดูกของญาติผู้ใหญ่ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว มักทำที่เก็บเป็นลักษณะของเจดีย์ จากนั้นจะนิมนต์พระไปบังสุกุล

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

การรดน้ำผู้ใหญ่ คือการที่เราไปอวยพรผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ อย่าง ครูบาอาจารย์ มักจะนั่งลงกับที่ จากนั้นผู้ที่รดก็จะเอาน้ำหอมเจือกับน้ำธรรมดารดลงไปที่มือ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะให้ศีลให้พรผู้ที่ไปรด หากเป็นพระก็อาจนำเอาผ้าสบงไปถวายเพื่อให้ผลัดเปลี่ยนด้วย แต่หากเป็นฆราวาสก็จะหาผ้าถุง หรือผ้าขาวม้าไปให้เปลี่ยน เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในวันปีใหม่ไทย

การดำหัว มีจุดประสงค์คล้ายกับการรดน้ำของทางภาคกลาง ส่วนใหญ่จะพบเห็นการดำหัวได้ทางภาคเหนือ การดำหัวทำเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ที่อาวุโสว่า ไม่ว่าเป็น พระ ผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน หรือเป็นการขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ของที่ใช้ในการดำหัวหลักๆ ประกอบด้วย อาภรณ์ มะพร้าว กล้วย ส้มป่อย เทียน และดอกไม้

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

การปล่อยนกปล่อยปลา ถือว่าการล้างบาปที่เราได้ทำไว้ เป็นการสะเดาะเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นดี มีแต่ความสุข ความสบายในวันขึ้นปีใหม่

การขนทรายเข้าวัด ในทางภาคเหนือนิยมขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นนิมิตโชคลาคให้พบแต่ความสุข ความเจริญ เงินทองไหลมาเทมาดุจทรายที่ขนเข้าวัด แต่ก็มีบางพื้นที่มีความเชื่อว่า การนำทรายที่ติดเท้าออกจากวัดเป็นบาป จึงต้องขนทรายเข้าวัดเพื่อไม่ให้เกิดบาปนั่นเองครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

แนะนำสถานที่ตระเวนทำบุญ รับสงกรานต์ 2565

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 แบบนี้ หลายท่านใช้โอกาสที่จะได้หยุดกันแบบยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตั้งแต่ 5 – 16 วัน ได้ชาร์จแบตพักผ่อนหลังจากที่ต้องทำงานหนักกันมา เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือกินดื่มฉลองกันท่ามกลางเทศกาลแห่งความสุขแห่งนี้

แต่หลายคนก็เลือกที่จะใช้โอกาสในช่วงหยุดยาว พาครอบครัวเข้าวัดทำบุญ สรงน้ำพระ ไม่ว่าจะเป็นวัดใกล้ๆ บ้าน หรือวัดดังๆ ก็ตาม เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และก็ถือได้ว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของหลายครอบครัวเช่นกัน

CARRO ขอนำเสนอ 10 วัดดังๆ ที่ผู้คนนิยมไปเพิ่มพลังบุญ ทำบุญ สรงน้ำพระ กันในวันสงกรานต์ 2565 ครับ

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

สำหรับ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ที่คนไทยรู้จักกันดี จัดเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย

โดยรัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้น พร้อมกับการสร้างพระบรมมหาราชวัง และการสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี เมื่อปี 2325 ตามประเพณีการสร้างพระอารามหลวงในเขตพระราชวังที่มีมาตั้งแต่อดีต และเพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต

อีกทั้งในบริเวณเดียวกัน หากคุณไหว้พระเสร็จแล้ว ก็สามารถเที่ยววัดอื่นๆ โดยรอบ หรือแถวท่าช้าง ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ หรือสนามหลวงต่อได้เลย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ท่ามหาราช
  • วัดโพธิ์
  • วัดมหาธาตุ
  • ราชนาวีสโมสร

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

ภาพจาก watpho.com

2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

มาที่อีกวัดที่อยู่ใกล้ชิดกับวัดพระแก้วเลย นั่นคือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการสร้าง แต่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นหลัง ปี 2231 ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บ้างว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพระเพทราชา เดิมเรียกว่า “วัดโพธาราม” หรือ “วัดโพธิ์”

วัดโพธิ์ จัดเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์ พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล

ซึ่งในปีนี้มีจัดงาน “สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด” ให้ทุกคนได้ทำบุญกันตามประเพณี กับสงกรานต์วิถีไทย สรงน้ำพระพุทธรูป ขอพรเสริมสิริมงคล ถ่ายรูปกับพระเจดีย์ทราย ที่ตกแต่งสวยงาม รูปทรงเดียวกับเจดีย์ภายในวัดโพธิ์ สามารถไปร่วมกิจกรรมวันสงกรานต์ ได้จนถึงวันที่ 17 เมษายนนี้

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ท่ามหาราช
  • วัดโพธิ์
  • วัดมหาธาตุ
  • ราชนาวีสโมสร

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)

ภาพจาก watarun1.com

3. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาย่านฝั่งธนบุรีกันบ้าง มาที่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณที่สร้างในสมัยอยุธยา สำหรับที่มาของวัดแจ้ง เพราะสมัยพระเจ้าตากสินทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี

แต่ความเชื่อนี้บางส่วนแย้งว่าไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว

สำหรับวัดอรุณนอกจากจะเคยมีความโดดเด่นอยู่ในเหรียญ 10 บาทแล้ว ยังมีพระปรางค์ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสัญลักษณ์ความสวยงามในสายตาชาวโลก และเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน

ซึ่งพระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ก่อสร้างโดยช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญ บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน มีการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบัน คู่กันกับพระปรางค์เล็ก 4 องค์ รอบ 4 ทิศ โดยรอบพระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ด้วย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ท่ามหาราช
  • ราชนาวีสโมสร
  • ริมถนนอรุณอมรินทร์
  • วัดกัลยาณมิตร

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

ภาพจาก วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

4. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง จัดเป็นวัดชื่อดังในย่านฝั่งธนฯ อีกหนึ่งวัด เป็นวัดเก่าสร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ยุครัชกาลที่ 1 ได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระแก้ว โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นจึงได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม”

สำหรับพระประธานในพระอุโบสถวัดระฆัง มีชื่อว่า พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ 4 ศอกเศษ เบื้องพระพักตร์มีรูปพระสาวก 3 องค์ นั่งประนมมือดุจรับพระพุทธโอวาท ซึ่งพระประธานองค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก โดยมีเรื่องเล่ากันว่า รัชกาลที่ 5 เคยตรัสว่า “ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที”

และมีความเชื่อกันว่า ถ้าได้มาไหว้พระที่วัดระฆัง จะมีคนนิยมชมชื่น มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • อาคารจอดรถภายในวัดระฆัง
  • ลานจอดรถปากซอยอรุณอมรินทร์ 20
  • ริมถนนอรุณอมรินทร์

วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

ภาพจาก วัดสุทัศน์เทพวราราม

5. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า วัดสุทัศน์ เริ่มสร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 1 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” โดยมีพื้นที่ตั้งอยู่ในดงสะแก เป็นที่ลุ่ม จึงโปรดเกล้าฯ ให้ถมที่สร้างเป็นวัด และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อน เพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย

ภายในพระวิหารมี พระศรีศากยมุนี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ถอดแบบมาจากพระวิหารพระมงคลบพิตร จ.กรุงศรีอยุธยา ส่วนที่พระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธตรีโลกเชฏฐ์ ปางมารวิชัย และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเป็นฝีมือช่างชั้นครูในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่สำคัญ วัดนี้ยังจัดเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 ด้วย

หลายคนว่า หากได้มาไหว้พระที่วัดสุทัศน์ จะทำให้ชีวิตมีอนาคตกว้างไกล เป็นที่รักแก่บุคคลทั่วไป

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ริมถนนศิริพงษ์
  • The Old Siam Plaza (ดิโอลด์สยามพลาซ่า)
  • ศาลเจ้าพ่อเสือ
  • โรงเรียนภารตะ
  • วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า
  • โรงเรียนภารตวิทยาลัย

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

ภาพจาก วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม : Marble Temple

6. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร หรือนิยมเรียกสั้นๆ ว่า วัดเบญจ (และโค้งวัดเบญจ ที่คนเชียร์ม้าในสนามม้านางเลิ้งรู้จักกันดี) ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่เดิมชื่อ วัดแหลม หรือ วัดไทรทอง ภายหลังได้รับพระราชทานนามจาก รัชกาลที่ 5 ว่า วัดเบญจบพิตร ซึ่งหมายถึง วัดของเจ้านาย 5 พระองค์ ที่ทรงร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดนี้

เมื่อ รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างสวนดุสิตขึ้น พระองค์ทรงทำผาติกรรมสถาปนาวัดขึ้นใหม่และพระราชทานามว่า วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อันหมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 และเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในชื่อ “Marble Temple”

จุดเด่นของวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร นั่นคือ การวางแปลนแผนผังที่ดีที่สุดวัดหนึ่ง พระอุโบสถอันวิจิตรงดงาม สร้างด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากเมืองคาร์รารา (Carrara) ประเทศอิตาลี พระประธานภายในของวัด จำลองมาจากพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก

และบริเวณพระระเบียงด้านหลังพระอุโบสถ เรียงรายด้วยพระพุทธรูปโบราณปางต่าง ๆ 52 องค์ ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงรวบรวมมาจากหัวเมืองต่างๆ และต่างประเทศ

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • หน้าวัดและภายในวัด

วัดโสธรวรารามวรวิหาร

ภาพจาก วัดโสธรวราราม วรวิหาร

7. วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธโสธร” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.98 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง

ตามตำนานเล่าว่า หลวงพ่อพุทธโสธร ได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้

ปกติแล้ว วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดที่มีผู้คนมาอธิษฐานขอพรกันเป็นจำนวนมาก ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี จะมีผู้คนแวะเวียนกันมาหนาแน่นตลอดทั้งวัน หากใครบนบานหรือขอพรได้ตามปรารถนา ก็จะมาแก้บนกันด้วยไข่ต้ม หรือ ละครรำ แต่ไข่ต้มนั้นเป็นที่นิยมมาก จนทำให้การถือตะกร้าไข่ต้มในวัดแห่งนี้เป็นเรื่องปกติไปเลย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ลานจอดรถ, ตึกจอดรถภายในวัด
  • โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร

วัดพนัญเชิงวรวิหาร

ภาพจาก วัดพนัญเชิงวรวิหาร หลวงพ่อโต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

8. วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา

วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดารเหนือ กล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง อีกทั้งพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ระบุว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1868 หรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สถาปนากรุงศรีอยุธยาได้ 26 ปี

ภายในวัดมีจุดเด่นสำคัญ คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง(三宝公 / 三寶公)ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อโต หรือพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร วัสดุปูนปั้นลงรักปิดทอง ถือกันว่าเป็นพระโบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาแต่แรกสร้างกรุง

หลวงพ่อโต เป็นพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในหมู่ชาวจีนมากโดยเรียกกันว่า “ซำปอกง” นอกจากชาวไทยแล้ว ยังมีผู้มีเชื้อสายจีน ยังหลั่งไหลกันมากราบไหว้บูชาจำนวนมาก

นอกจากหลวงพ่อโต หรือเจ้าพ่อซำปอกง แห่งวัดพนัญเชิง ที่ผู้คนมาสักการะกันอย่างหนาตาในทุกเทศกาลแล้ว ใกล้กันนั้นยังมี “ศาลพระนางสร้อยดอกหมาก” หรือ “ศาลเจ้าแม่แอเนี้ย” อันเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมในยุคก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ที่มีผู้คนนิยมมาขอพรความรัก มาสักการะไม่น้อยเช่นกัน

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ภายในวัดพนัญเชิง
  • วัดใหญ่ชัยมงคล

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

ภาพจาก วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่

9. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ โดย พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์มังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า “วัดลีเชียงพระ” สมัยพญาแสนเมืองมาขึ้นครองเวียงเชียงใหม่ โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย มาประดิษฐาน

ภายในประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ “เชียงแสนสิงห์หนึ่ง”

ซึ่งในวันสงกรานต์ หรือช่วงประเพณีปี๋ใหม่เมือง จะประดิษฐานขึ้นบนรถบุษบกแห่ไปรอบเมืองเพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำพระเนื่องในเทศกาลปีใหม่ตามคติล้านนาด้วย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ภายในวัดพระสิงห์
  • โรงเรียนธรรมราชศึกษา

วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน)

ภาพจาก วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน)

10. วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

วัดสุดท้าย ขอพาลงใต้มาที่วัดมหัตตมังคลาราม (หรือวัดหาดใหญ่ใน) เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์เมื่อปี 2479 โดยนายทอง และนางฉิ้น ใจเย็น ได้บริจาคที่ดินของตนส่วนหนึ่งในครั้งแรก ต่อมาในปี 2520 ได้เปลี่ยนนามวัดมาเป็น “วัดมหัตตมังคลาราม” เพื่อให้สอดคล้องกับนามพระพุทธไสยาสน์ ที่ รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทาน

ปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ พระนอนขนาดใหญ่ หรือ พระพุทธมหัตตมงคล มีความยาว 35 เมตร สูง 15 เมตร และกว้าง 10 เมตร นับว่าเป็นพระนอนใหญ่อันดับ 3 ของโลก

เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางวัดจะจัดพิธีล้างทำความสะอาดพระนอนประจำปี ที่ถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาทุกปี โดยจะมีชาวบ้านมาช่วยกันทำความสะอาด รวมทั้งใช้รถกระเช้าขึ้นไปฉีดน้ำล้างองค์พระนอน เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก และยังร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าห่มพระนอนอีกด้วย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ภายในวัดหาดใหญ่ใน

สงกรานต์ปีนี้ ไม่ว่าคุณจะเพิ่มพลังบุญ ทำบุญสรงน้ำพระที่ไหน จะเป็นวัดมีชื่อเสียงหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าการได้พาตัวเองและครอบครัวได้พบกับความสุข ความสบายใจ และความเป็นสิริมงคลในช่วงหยุดยาว ที่สำคัญอย่าลืมขับรถด้วยความระมัดระวัง และความปลอดภัยด้วยนะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมเส้นทางลัด 4 ภาคทั่วไทย ในเทศกาลสงกรานต์

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่กำลังจะถึงนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดและเดินทางกลับบ้าน โดยใช้รถยนต์และบริการรถทัวร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้การจราจรบนท้องถนนจะมีความหนาแน่นหลายเส้นทางเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา

ในการเดินทางช่วงสงกรานต์ 2565 นี้ CARRO จึงขอเสนอเส้นทางสู่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้อ่านได้เดินทางสะดวกขึ้น หลีกเลี่ยงรถติด ลดเวลาการเดินทาง และถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ ในช่วงสงกรานต์ ซึ่งในมอเตอร์เวย์บางสาย ยังมีการเปิดให้ใช้บริการฟรีอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม >> รวมจุดพักรถ จุดช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี สงกรานต์ 2565

เส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคเหนือ

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไปรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.พระนครศรีอยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณบุรี) –จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณบุรี – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้า สู่จังหวัดนครสวรรค์
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป รังสิต – อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก
  • เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ ไปรังสิต – ต่างระดับคลองหลวง (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – เชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 3214) – ทางหลวงหมายเลข 347 – ทางหลวงหมายเลข32 จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่ภาคเหนือ
  • เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯ ไปวงแหวนตะวันออก (ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) – ต่างระดับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) – อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ถนนโรจนะ (ทางหลวงหมายเลข 309) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 เข้าสู่ภาคเหนือ

เส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคอีสาน

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ต.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 21) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี – อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา หรือจากอ.บ้านนาไร่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าสู่อ.กบินทร์บุรีสู่อ.อรัญประเทศ
  • เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ ไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314 หรือ ทางหลวงหมายเลข 304) –
    อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา
  • เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯ ไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี – อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) – ทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (ทางเบี่ยงที่กม.65+200) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

เส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคตะวันออก

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไป จ.ชลบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สาย กรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา)
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป อ.บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา-ตราด) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป อ.พนัสนิคม – จ.ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 304)
  • เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ ไปทางหลวงหมายเลข 34 ถนนเทพรัตน – ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา – ชลบุรี)จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท

เส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้

  • เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไป จ.สมุทรสาคร – จ.สมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 35) – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป อ.สามพราน – อ.นครชัยศรี – จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) – อ.นครชัยศรี –จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นอกจากนี้ บนถนนทางหลวงยังมีการติดตั้งป้ายเส้นทางเลี่ยง หรือเส้นทางแนะนำตามถนนทุกเส้นเป็นระยะ มีการติดตั้งไฟฟ้าเพิ่มแสงสว่าง ตลอดจนเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก พร้อมอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในทุกช่วงการเดินทาง

และถ้าหากผู้อ่านต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างการเดินทาง ก็สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 อีกด้วยค่ะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ค่ะ

รวมจุดพักรถ จุดช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี สงกรานต์ 2565

ในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์แบบนี้ หลายๆ ท่าน กำลังเริ่มวางแผนที่จะไปเที่ยวกันแล้วเชียว หลังจากที่เจอวิกฤตโควิด-19 กันไปอย่างหนักหน่วงในสองปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า สงกรานต์ปีนี้ โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ จะยังระบาดกันไม่หยุดถึงวันนี้

ใครที่จะเดินทางกลับบ้าน พบปะญาติพี่น้องในปีนี้ ก็ต้องดูแลสุขภาพกันให้ดีนะครับ และช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผู้คนเดินทางกันจำนวนมาก อย่าลืมเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ

และบรรดาหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ต้องหาทางบรรเทาความแออัดจากการเดินทาง นั่นคือการคือมอบ “ของขวัญ” (ที่เอาภาษีประชาชนมาจ่ายทีหลัง …) เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง ให้กับประชาชนที่ใช้บริการ … ที่สำคัญ เมาไม่ขับ ระหว่างเดินทางกลับบ้านนะครับ

CARRO ขอรวบรวมจุดพักรถ จุดช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่จอดรถฟรี ค่าผ่านทางฟรี ในสถานที่ต่างๆ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ให้ทุกท่านได้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า และกลับบ้านสงกรานต์กันอย่างมีความสุข และปลอดโควิด-19 ครับ.

จุดพักรถ

กรมการขนส่งทางบก ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการขนส่งรถโดยสารและรถบรรทุกทั่วประเทศ เน้นมาตรการเตรียมพร้อม!!! อำนวยความสะดวกประชาชนรองรับการเดินทางตลอดช่วงสงกรานต์ 2565 เพื่อให้พี่น้องประชาชน “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19”

กรมการขนส่งทางบก และ กระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมแผนรองรับเพื่อให้ประชาชน “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19” ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2565 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางโดยใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้นกว่าในช่วงปีใหม่ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง อาจมีผลให้ประชาชนลดการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และเลือกเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ทั้งรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมให้บริการประชาชน ตามแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 และยังคงต้องปฏิบัติมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด ดังนี้

ด้านการอำนวยความสะดวก กรมการขนส่งทางบก ได้ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดวางแผนและประสานผู้ประกอบการขนส่งในพื้นที่ จัดเตรียมรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนทั้งเที่ยวไป-กลับ พร้อมจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง

อีกทั้งยังมีการตรวจความพร้อมระหว่างเส้นทาง ณ จุด Checking Point และ Rest Area บนถนนสายหลัก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากความบกพร่องของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบในระหว่างการเดินทาง รวมทั้งให้พนักงานขับรถได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าและอ่อนเพลียจากการขับรถ โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งกำชับพนักงานขับรถทั้งรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางที่ผ่านในเส้นทาง นำรถเข้าตรวจ ณ จุด Checking Point และ Rest Area โดยกรมการขนส่งทางบกได้จัดทำแผนที่จุด Checking Point 25 แห่ง และ Rest Area ใน 13 จังหวัด

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มีมาตรการควบคุมการใช้ความเร็วของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มความถี่ในการออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วในเส้นทางสายหลัก ควบคู่กับบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบการกระผิดที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด

สำหรับประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนนทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม – 15 เมษายน 2565 ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน กว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” เพื่อให้ประชาชนนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้ารับบริการตรวจสภาพความพร้อมเบื้องต้นก่อนเดินทางกว่า 20 รายการ โดยไม่คิดค่าบริการ

เช็กเลย! 77 จุดทั่วประเทศ “ตำรวจ” จับมือ “อาชีวะ” เปิดจุดเช็กรถฟรี – ซ่อมรถให้ โครงการ “อาชีวะอาสาทำความดีช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565”

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ร่วมมือกับ โครงการอาชีวะจิตอาสาร่วมด้วยช่วยประชาชนเทศกาลสงกรานต์ 2565 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมทำโครงการ “อาชีวะอาสาทำความดีช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565” ดึงพลังด้านบวกของกลุ่มนักเรียนอาชีวะ ที่มีทักษะ มีฝีมือ และที่สำคัญมีจิตอาสา มาช่วยกันร่วมสร้างประโยชน์ ให้แก่สังคม โดยตั้งจุดบริการประชาชน ตรวจเช็กสภาพรถ ซ่อมแซมยานพาหนะในเบื้องต้น ตามจุดต่างๆ 77 แห่ง ทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 เริ่มตั้งแต่ 11 – 17 เมษายน 2565

จะเริ่มตั้งจุดบริการทั่วประเทศ 77 แห่ง จังหวัดละ 1 แห่ง ทั้งใน กทม. และ 76 จังหวัด แต่ละจุดจะให้บริการตรวจเช็กสภาพรถ เตรียมรถให้พร้อมก่อนเดินทางไกล รวมทั้งตรวจเช็กซ่อมแซมกรณีรถเสียระหว่างทาง ทำให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นกรณีต้องเปลี่ยนอะไหล่ทางทีมนักเรียนอาชีวะจะแนะนำให้โดยเจ้าของรถต้องรับผิดชอบในส่วนนี้เอง

อย่างไรก็ตาม ในกรณีประชาชนรถเสียระหว่างทาง หากประสานไปยังตำรวจ ตำรวจในพื้นที่จะประสานไปยังนักเรียนอาชีวะจิตอาสาในโครงการฯ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ส่งต่อตรวจเช็ก ซ่อมแซมเพื่อให้เดินทางต่อได้ หรือในกรณีรถเสียถึงขั้นจำเป็นต้องส่งเข้าศูนย์ฯ หรืออู่มาตรฐาน ก็จะช่วยซ่อมแซมเบื้องต้น อำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ในจุดบริการ ทั้ง 77 แห่ง ตำรวจจะจัดเครื่องดื่ม อาทิ น้ำดื่ม กาแฟ ไว้คอยบริการประชาชนระหว่างรอรับบริการด้วย

โครงการ “อาชีวะอาสาทำความดีช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565” เริ่มตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2565 ตั้งจุดบริการตรวจเช็กรถ ช่างซ่อมรถจิตอาสา พร้อมกันทั่วประเทศ จังหวัดละ 1 แห่ง ดังนี้

เขตรับผิดชอบกองบัญชาการตำรวจนครบาล

กรุงเทพมหานคร – ปั๊มปตท. รามอินทรา กม.14 ถนนรามอินทรา แขวง/เขต คันนายาว

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 1

ชัยนาท – จุดพักรถอู่ตะเภา (ขาขึ้นไปนครสวรรค์) ริมทางสายเอเชีย อ.มโนรมย์
นนทบุรี – ปั๊มปตท. ไทรใหญ่
ปทุมธานี – ปั๊มปตท. เชนตระกูล ถนนราชพฤกษ์ กม.35
พระนครศรีอยุธยา – จุดบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงวังน้อยสนับทึบ ถ.พหลโยธิน อ.วังน้อย
ลพบุรี – หน้าวิทยาลัยเทคนิคโคกสำโรง
สมุทรปราการ – บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์เปอเรชั่น จำกัด อ.บางบ่อ
สิงห์บุรี – บริเวณหน้าสำนักงานบำรุงทางสิงห์บุรี อ.อินทร์บุรี
สระบุรี – บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานสระบุรี ถ.มิตรภาพ อ.เมือง
อ่างทอง – ร้านอ่างทองแทรคเตอร์ 9910 ถ.สายเอเชีย อ.เมือง

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 2

จันทบุรี – ด้านหน้าศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) แบบถาวรวิทยาลัยการอาชีพนายายอาม
ฉะเชิงเทรา – ปั๊มบางจาก ถ.สิริโสธร อ.บ้านโพธิ์
ชลบุรี – หน้าปั๊มปตท. (สหกรณ์การเกษตรบางละมุง) ถ.สุขุมวิท อ.บางละมุง
ตราด – ปั๊มปตท. ตรงข้ามแขวงการทางตราด อ.เมือง
นครนายก – ศูนย์ฝึกอาชีพผลิตภัณฑ์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน จว.นครนายก สี่แยกศูนย์พระเทพ ถ.เลี่ยงเมือง อ.เมือง
ปราจีนบุรี – ปั๊มปตท. ถ.สุวรรณศร อ.เมือง
ระยอง – ปั๊มปตท. สมาพันธ์พัฒนา ถ.สาย 36 อ.เมือง
สระแก้ว – วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว อ.วัฒนานคร

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3

ชัยภูมิ – ปั๊มปตท. ถ.ชัยภูมิ – บ้านเขว้า อ.เมือง
นครราชสีมา – ปั๊มปตท. ประเสริฐสินปิโตรเลียม ถ.มิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง
บุรีรัมย์ – ปั๊มปตท. ถ.โชคชัย – เดชอุดม อ.นางรอง
ยโสธร – หน้าวิทยาลัยเทคนิคยโสธร อ.เมือง
ศรีสะเกษ – หน้าวิทยาลัย อาคารศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ
สุรินทร์ – ปั๊มปตท. ถนนโชคชัย – เดชอุดม อ.ปราสาท
อุบลราชธานี – บริษัท อุบล – ตระการ ปิโตรเลียม จำกัด อ.เมือง
อำนาจเจริญ – หน้าวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 4

กาฬสินธุ์ – ปั๊มโนนตาล ถ.กุดยางสามัคคี อ.เมือง
ขอนแก่น – ศูนย์ประตูเมือง หน้าสวนสาธารณะประตูเมือง
นครพนม – หมวดทางหลวงนครพนม บ้านดอนนายาง ถ.นิตโย อ.เมือง
บึงกาฬ – หน้าแขวงการทางบึงกาฬ
มหาสารคาม – ปั๊มปตท. อิสาณบริการ อ.เมือง
มุกดาหาร – ปั๊มปตท. ศูนย์ไหม อ.เมือง
ร้อยเอ็ด – ปั๊มปตท. ถั่วจั่วกี่ อ.เมือง
เลย – ปั๊มปตท. นาหนอง อ.เมือง
สกลนคร – ปั๊มปตท. ถ.เลี่ยงเมือง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง
หนองคาย – ศูนย์ O-TOP หนองคาย ถ.มิตรภาพ หนองคาย – อุดรธานี อ.เมือง
หนองบัวลำภู – ปั๊มปตท. บ้านหว้าทอง ถ.อุดร – เลย อ.เมือง
อุดรธานี – ปั๊มปตท. ถนนนาดี อ.เมือง

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 5

เชียงราย – วัดร่องขุ่น อ.เมือง
เชียงใหม่ – กองพลทหาราบที่ 7 อ.แม่ริม
น่าน – ปั๊มปตท. ถ.ยันตรกิจโกศล อ.เมือง
พะเยา – หน้าสถานีตำรวจทางหลวงพะเยา
แพร่ – สามแยกช่อแฮ ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ อ.เมือง
แม่ฮ่องสอน – อบต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง
ลำปาง – ปั๊มปตท. ตรงข้ามสนามกอล์ฟเขลางค์ อ.เมือง
ลำพูน – ลานหน้าร้านกาแฟ วิทยาลัยการอาชีพบ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 6

กำแพงเพชร – หน้าสำนักงานฝ่ายก่อสร้าง 2 โครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 4 กรมชลประทาน
ตาก – ปั๊มพีที สาขาบ้านตาก อ.บ้านตาก
นครสวรรค์ – บริเวณจุดพักรถหน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมือง
พิจิตร – หน้าหมวดทางหลวงวชิรบารมี อ.วชิรบารมี
พิษณุโลก – บริษัท ศรีสุธาออยล์ จำกัด ถ.วงแหวนรอบเมืองพิษณุโลกด้านทิศใต้ อ.เมือง
เพชรบูรณ์ – หน้าพุทธอุทยานเพชรบุระ (องค์พระใหญ่) อ.เมือง
สุโขทัย – หน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรสุโขทัย อ.ศรีสำโรง
อุตรดิตถ์ – ปั๊มปตท. ถ.สายเอเชีย พิษณุโลก – เด่นชัย อ.เมือง
อุทัยธานี – วิทยาลัยเทคนิคอุทัยธานี อ.เมือง

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 7

กาญจนบุรี – หน้าที่ว่าการอำเภอพนมทวน
นครปฐม – หจก.อุดมชัยวิทย์ (สำนักงานใหญ่) ถ.เพชรเกษม อ.สามพราน
ประจวบคีรีขันธ์ – ปั๊มปตท. ถ.เพชรเกษม ต.เกาะหลัก อ.เมือง
เพชรบุรี – ป้อมตำรวจ แยกท่าศาลา ถ.เพชรเกษม อ.บ้านลาด
ราชบุรี – ปั๊มปตท. ต.อ่างทอง อ.เมือง
สุพรรณบุรี – ปั๊มปตท. ถ.กรุงเทพฯ – ชัยนาท อ.เมือง
สมุทรสงคราม – บริเวณใต้สะพานต่างระดับ ทางเข้าเมืองสมุทรสงคราม ถ.พระราม 2
สมุทรสาคร – ปั๊มปตท. ถ.พระราม 2 ต.บางโทรัด อ.เมือง

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 8

กระบี่ – หน่วยบริการตำรวจทางหลวงกระบี่
ชุมพร – ห้องอาหารคุณสาหร่าย อ.ท่าแซะ
นครศรีธรรมราช – ปั๊มปตท. ต.ปากพูน อ.เมือง
พังงา – ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) แบบถาวร ประจำจังหวัดพังงา
ภูเก็ต – ด่านตรวจภูเก็ต ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง
ระนอง – ปั๊มพีที ถ.เพชรเกษม อ.เมือง
สุราษฎร์ธานี – ปั๊มเชลล์ ถ.เลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง

เขตรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 9

ตรัง – หน่วยบริการประชาชน สภ.ห้วยยอด สี่แยกอันดามัน
นราธิวาส – หน้าวิทยาลัยเทคนิคสุไหงโก-ลก
ปัตตานี – ปั๊มพีที ปาวาปิโตรเลียม อ.สายบุรี
พัทลุง – DR ออร์โต้คาร์ อ.เมือง
ยะลา – หน้าวิทยาลัยเทคนิคยะลา
สงขลา – ปั๊มปตท. ถ.เลี่ยงเมือง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่
สตูล – ปั๊มปตท. ละงู อ.ละงู

เดินทางด้วยรถเมล์

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ขสมก. จึงได้จัดแผนการเดินรถโดยสารรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,643 คัน จำนวน 16,653 เที่ยว

2. จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง รวม 48 คัน ดังนี้
– สาย A 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 16 คัน
– สาย A 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 12 คัน
– สาย A 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ 8 คัน
– สาย A 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 8 คัน
– สาย S 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 4 คัน

3. จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จำนวน 5 สถานี รวม 34 เส้นทาง ดังนี้
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517, และ 536
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย 2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 66, 79, 511, 515, 516 และ 556
– สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 4, 21, 25, 34, 73 และ 501
– สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สาย 49 และ 67

4. จัดเดินรถให้บริการฟรี “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เม.ย.65” สำหรับผู้ใช้บริการที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป โดยผู้สูงอายุจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนต่อพนักงานเก็บค่าโดยสาร เพื่อใช้สิทธิ์บริการฟรีทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ

มาตรการความปลอดภัย

1. กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร ดูแลการขึ้น-ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย

2. ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร

3. ให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกให้บริการ ประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็คสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ตามมาตรฐานคุณภาพบริการ ISO 9001 : 2015

4. จัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น – ลงรถของผู้ใช้บริการ

นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ได้แก่ ศูนย์วิทยุรัชดา สำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ศูนย์วิทยุเขตการเดินรถที่ 1 – 8 ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 และจัดเจ้าหน้าที่ Call Center 1348 ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในการเดินรถอีกด้วย

ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช้บริการสอบถามเส้นทางรถเมล์ หรือ แนะนำบริการได้ที่ Facebook : BMTA องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ Call Center 1348 ทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 5.00 – 22.00 น.

ภาพตารางแสดงขบวนรถพิเศษช่วยโดยสาร เทศกาลสงกรานต์ 2565 ประกอบด้วย วันเดินทาง 11 เมษายน 2565 ถึง 17 เมษายน 2565, หมายเลขขบวนรถเที่ยวไป และกลับ, สถานีต้นทาง และปลายทาง, เวลาที่รถออก และเวลาที่รถถึง โดยสามารถสอบถามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ เบอร์โทรศัพท์ 1690

เดินทางด้วยรถไฟ

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดมาตรการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 โดยเพิ่มเที่ยวขบวนรถพิเศษ 13 ขบวน และพ่วงตู้โดยสารจนเต็มหน่วยลากจูง รองรับการเดินทางได้สูงสุด 100,000 คน/วัน พร้อมจัดศูนย์ปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ควบคู่กับมาตรการทางสาธารณสุขเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างเคร่งครัด เพื่อส่งผู้โดยสารเดินทางถึงที่หมายปลอดภัยตลอดการเดินทาง โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2565 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวสูงกว่าช่วงเวลาปกติ การรถไฟฯ จัดมาตรการรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2565 โดยได้พ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ 184 ขบวน/วัน แบ่งออกเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 46 ขบวน ขบวนรถเชิงสังคม 138 ขบวน และแยกตามเส้นทางเป็นสายเหนือ 34 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 44 ขบวน สายใต้ 46 ขบวน สายตะวันออก 22 ขบวน สายมหาชัย 34 ขบวน สายแม่กลอง 4 ขบวน ซึ่งสามารถรองรับปริมาณการเดินทางได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน

นอกจากนี้ มีการเพิ่มให้บริการขบวนรถพิเศษ ประเภทรถนอนปรับอากาศ และรถนั่งชั้น 3 ไป-กลับ จำนวน 13 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มได้ประมาณ 8,000 คน ดังนี้

วันที่ 11 – 12 เมษายน 2565

  • เพิ่มขบวนรถเที่ยวไป จำนวน 7 ขบวน

วันที่ 11 เมษายน 2565 จำนวน 1 ขบวน

  • ขบวนรถพิเศษที่ 977 กรุงเทพ – อุบลราชธานี เวลาออก 22.00 น. เวลาถึง 9.00 น.

วันที่ 12 เมษายน 2565 จำนวน 4 ขบวน

  • ขบวนรถพิเศษที่ 5 กรุงเทพ – เชียงใหม่ เวลาออก 19.10 น. เวลาถึง 8.10 น.
  • ขบวนรถพิเศษที่ 967 กรุงเทพ – อุดรธานี เวลาออก 21.15 น. เวลาถึง 8.10 น.
  • ขบวนรถพิเศษที่ 977 กรุงเทพ – อุบลราชธานี เวลาออก 22.00 น. เวลาถึง 9.00 น.
  • ขบวนรถพิเศษที่ 955 กรุงเทพ – ศิลาอาสน์ เวลาออก 22.30 น. เวลาถึง 7.30 น.

วันที่ 12 , 16 – 17 เมษายน 2565

  • เพิ่มขบวนรถเที่ยวกลับ จำนวน 6 ขบวน

วันที่ 12 เมษายน 2565 จำนวน 1 ขบวน

  • ขบวนรถพิเศษที่ 978 อุบลราชธานี – กรุงเทพ เวลาออก 10.15 น. เวลาถึง 20.50 น.

วันที่ 16 เมษายน 2565 จำนวน 1 ขบวน

  • ขบวนรถพิเศษที่ 934 อุบลราชธานี – กรุงเทพ เวลาออก 19.30 น. เวลาถึง 6.25 น.

วันที่ 17 เมษายน 2565 จำนวน 4 ขบวน

  • ขบวนรถพิเศษที่ 6 เชียงใหม่ – กรุงเทพ เวลาออก 18.55 น. เวลาถึง 8.00 น.
  • ขบวนรถพิเศษที่ 934 อุบลราชธานี – กรุงเทพ เวลาออก 19.30 น. เวลาถึง 6.25 น.
  • ขบวนรถพิเศษที่ 962 ศิลาอาสน์ – กรุงเทพ เวลาออก 19.40 น. เวลาถึง 4.10 น.
  • ขบวนรถพิเศษที่ 936 อุดรธานี – กรุงเทพ เวลาออก 21.10 น. เวลาถึง 7.30 น.

ทั้งนี้ จากการดำเนินตามมาตรการดังกล่าว การรถไฟฯ มั่นใจว่าจะสามารถให้บริการผู้โดยสารเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยตลอดการเดินทาง และไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ของขบวนรถที่ให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดตามข่าวสารได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

รฟฟท. ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ฟรี! เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน 2565

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน 2565 บริษัทจึงมอบสิทธิพิเศษให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ฟรี! ตั้งแต่เวลา 5.30 – 24.00 น. ในวันที่ 13 เมษายน 2565 (ผู้สูงอายุต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่บริเวณห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร)

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

เดินทางด้วยรถไฟฟ้า

บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ร่วมสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2564 พาผู้สูงวัยนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส บีอาร์ที สายสีทอง ฟรี ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 24.00 น.

ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ที่ห้องจำหน่ายตั๋วบีทีเอส บีอาร์ที และรถไฟฟ้าสายสีทองในทุกสถานี รับคูปองโดยสารฟรี

สำหรับบัตรแรบบิทผู้สูงอายุ ใช้เดินทางฟรี สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลย ระบบจะไม่หักเงิน และไม่ต้องรับคูปองครับ

ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในช่วงเทศกาลฯ ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบข้อมูลการให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แบบ Real Time ได้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “BTS SkyTrain” ทาง App Store และ Google Play Store

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ฉลองเทศกาลสงกรานต์และวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เชิญชวนผู้โดยสารที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟรี ระหว่างวันที่ 13 – 15  เมษายน 2565 ตลอดระยะเวลาให้บริการ

ผู้สูงอายุสามารถติดต่อที่ห้องออกบัตรโดยสารได้ทั้ง 2 สาย สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ทุกสถานี เพื่อรับคูปองโดยสารรถไฟฟ้าฟรี สำหรับผ่านเข้า – ออกประตูพิเศษ (Swing Gate) เพื่อเข้าระบบ เป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวในการพาผู้สูงอายุเดินทางท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ รอบเส้นทางรถไฟฟ้า MRT

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลโทร. 02-624-5200 หรือติดตามทางช่องทางต่างๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ก: MRT Bangkok Metro / ทวิตเตอร์: MRT Bangkok Metro / อินสตาแกรม : mrt_bangkok และโมบายแอปพลิเคชัน : Bangkok MRT “เดินทางปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ด้วยรถไฟฟ้า MRT”

จอดรถฟรี

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดที่ลานจอดรถระยะยาว (Long Term Parking) โซน C ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 เวลา 08.00 น. – วันที่ 17 เมษายน 2565 เวลา 17.00 น. (รวม 7 วัน) โดยลานจอดรถโซนดังกล่าว สามารถรองรับรถยนต์ได้จำนวน 718 คัน

ทั้งนี้ ทสภ. มีรถ Shuttle Bus สาย A วิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง 

ผู้ใช้บริการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการอาคารจอดรถยนต์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-132-9511 ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเดินทางฟรี

กรมทางหลวง ให้ทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) “ฟรี” 3 เส้นทาง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ได้แก่

  • มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) เส้นทาง กรุงเทพ – ชลบุรี – พัทยา
  • มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เส้นทาง บางปะอิน – บางพลี และ พระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน

ตั้งแต่เวลา 0.01 น. ของวันที่ 12 เมษายน 2565 ถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2565 (รวม 8 วัน)

นอกจากนี้ มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ช่วง ปากช่อง – สีคิ้ว ระยะทาง 35.75 กิโลเมตร เปิดให้วิ่งฟรีชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 11–18 เมษายน 2565 เวลา 6.00 น.– 24.00 น. โดยจัดการจราจรแบบเดินรถทางเดียว ช่วงเดินทางขาออกจากกรุงเทพฯ วันที่ 11–14 เมษายน 2565 และช่วงเดินทางขาเข้ากรุงเทพฯ วันที่ 15–18 เมษายน 2565

โดยผู้ใช้ทางสามารถติดตามการรายงานสภาพจริงการจราจร Online แบบ Real time ผ่านแอพพลิเคชั่น M-Traffic (มอเตอร์เวย์) / Thailand Highway Traffic และเฟสบุ๊ค “ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุกรมทางหลวง”

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทย 421 แห่ง โดยร่วมกับตำรวจทางหลวง และหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งภายในจุดบริการทั่วไทย มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ การให้ข้อมูลเส้นทาง แนะนำเส้นทางเลือก บริการน้ำดื่ม รวมทั้ง แอลกอฮอล์เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัส โควิด-19 พร้อมทั้งจัดเตรียมจุดห้องน้ำบริการประชาชน 581 แห่ง (ในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ) อีกด้วย

หากต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทาง ติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193

15 ธ.ค. ขึ้นค่าทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ รถ 4 ล้อ ปรับเป็น 65 บาท!

ค่าทางด่วนฟรี

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม จัดทางด่วนฟรีสงกรานต์ 2565 ดังนี้

  1. ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี)
  2. ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)

ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2565 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 เวลา 24.00 น. (รวม 7 วัน) ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เช่นเดียวกับกรมทางหลวง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565

ส่วนทางด่วนฟรีวันที่ 13 – 15 เมษายน 2565 (รวม 3 วัน) ภายใต้สัญญาสัมปทานแก้ไขใหม่

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1)
  • ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2)
  • ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน – ปากเกร็ด)

ทั้งนี้ ผู้ใช้ทางพิเศษสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง สภาพการจราจร และขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ EXAT Call Center โทร 1543 และสามารถดาวน์โหลด Application “EXAT Portal”เพื่อตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและการใช้บัตร Easy Pass รับข่าวสารโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ และเรียกใช้งาน Application อื่นๆ ของ กทพ. อาทิ EXAT Traffic อีกทั้งยังสามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS) ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ที่ตรวจเช็กรถฟรี ก่อนเดินทางสงกรานต์ 2565!

ช่วงเวลาสงกรานต์ของทุกๆ ปี เป็นช่วงที่มีผู้คนเดินทางบนท้องถนนกันสูงมาก และตัวเลขของอุบัติเหตุบนท้องถนนก็สูงมากตามไปด้วย แม้ว่าในช่วงนี้โควิด-19 ก็ยังระบาดอยู่ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้กระแสการเดินทางของผู้คนลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากหลายคนอาจชินกันซะแล้ว

แต่เพื่อความพร้อมในการเดินทาง ลดปัญหาจากอุบัติเหตุ หรือปัญหารถเสียกลางทาง ทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำรถไปตรวจสภาพก่อนออกเดินทาง ซึ่งในช่วงที่มีโควิด-19 ระบาดอยู่ตอนนี้ หลายที่เมื่อคุณตรวจสภาพรถยนต์เสร็จ อาจมีบริการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในรถคุณให้ฟรีด้วย

MR.CARRO รวบรวมข้อมูลตรวจเช็ครถฟรี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านเลือกนำรถไปตรวจเช็กได้ตามความสะดวกเลยครับผม

กรมการขนส่งทางบก ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย และตั้งจุดให้บริการทั่วไทย

กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ชวนเจ้าของรถเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ตรวจเช็กความพร้อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์เบื้องต้น ฟรี!!! ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 15 เมษายน 2565

มีรายการตรวจเช็กความพร้อมจำนวนกว่า 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง การทำงานของเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง หม้อน้ำและรอยรั่ว ไส้กรองอากาศ การทำงานของไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ บางหน่วยงานยังมีบริการตรวจเช็กลูกหมากปีกนก ลูกปืนล้อ ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงท่อและข้อต่อน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพิ่มเติม ทั้งยังให้ส่วนลดค่าอะไหล่บางรายการอีกด้วย เจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์สามารถนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศรวมกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2565

กิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนร่วมจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนด้วยดีมาโดยตลอด อาทิ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน,สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย, สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมการค้าไทย – ยุโรป, สถาบันยานยนต์, สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฮุนได มอเตอร์ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟอร์ซเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ซูซูกิโมโตเซลส์คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท คาร์เวิลด์ คลับ จำกัด, บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บี – ควิก จำกัด, บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด, บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น

Honda

Honda (ฮอนด้า) จัดแคมเปญซัมเมอร์นี้ ชวนลูกค้าเตรียมรถให้พร้อมและมั่นใจในทุกการเดินทางกับ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ตรวจรถก่อนใช้กับฮอนด้า” ซึ่ง บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก จัดขึ้นฟรี!

บริการตรวจสภาพรถยนต์ 25 รายการ (ตามรายการที่กำหนด) รับเพิ่มบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายในห้องโดยสารรถยนต์ฟรี เพื่อลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

รวมถึงมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์เข้ารับการบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2565

รายการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ

1. ตรวจวัดค่าแบตเตอรี่ด้วยเครื่องทดสอบโวลท์ / แอมแปร์ และตรวจเติมน้ำกลั่น
2. ตรวจเติมระดับน้ำในถังสำรองหม้อน้ำและถังเก็บน้ำล้างกระจก
3. ตรวจการรั่วซึมของท่อยางหม้อน้ำ บน / ล่าง
4. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
5. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
6. ตรวจระดับน้ำมันเบรก / คลัทช์ (สำหรับรุ่นที่มี)
7. ตรวจระดับน้ำมัน พวงมาลัยเพาเวอร์ (สำหรับรุ่นที่มี)
8. ตรวจระดับน้ำมันเกียร์
9. ตรวจสภาพสายพานขับด้านนอก
10. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
11. ตรวจระดับหัวฉีดน้ำล้างกระจก
12. ตรวจสภาพยาง วัดแรงดัน / เติมลมยาง 5 เส้น
13. ตรวจการทำงานของ ไฟสัญญาณ / ไฟส่องสว่าง
14. ตรวจการทำงานของ เข็มขัดนิรภัย
15. ตรวจการทำงานของ ระยะแป้นเบรก
16. ตรวจการทำงานของ ระยะยกคันโยกเบรกมือ
17. ตรวจการทำงานของ แม่ปั๊มเบรก และหม้อลมเบรก
18. ตรวจการทำงานของ ระบบปรับอากาศ (ความเย็น / ช่องทางลม)
19. ตรวจสภาพของ ท่ออ่อนเบรก 4 ล้อ
20. ตรวจลูกหมากและยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย
21. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านซ้าย
22. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านขวา
23. ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง / ท่อ และข้อต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิง
24. ตรวจการทำงานของเครื่องยนต์ รอบเดินเบา / การรั่วซึม
25. ตรวจช่วงล่าง ลูกยาง และลูกหมากต่างๆ

ลูกค้าฮอนด้าที่สนใจ สามารถนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพและรับบริการได้ที่ศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 – 30 เมษายน 2565 โดยสามารถจองคิวเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านบริการ “Online Service Booking” ที่ https://servicebooking.honda.co.th หรือทาง LINE Honda Thailand Official Account (@Honda-Thailand) ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการพิเศษเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับบริการ “Honda Drop & Go” เพียงนัดหมายเช็กระยะล่วงหน้า นำรถมาฝากกุญแจไว้ แล้วไปทำธุระต่อได้เลย หรือบริการ “Honda Quick Service” การนัดหมายเช็กระยะเร่งด่วน แบบรอรับรถได้ภายในเวลาที่กำหนด

Nissan Always Cares Summer Campaign

Nissan

Nissan ชวนลูกค้านำรถเข้าเช็คระยะต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ กับ “Nissan Always Cares ร้อนนี้ ขับขี่ปลอดภัย สบายใจทุกเส้นทาง” ด้วยโปรโมชั่นตรวจเช็คฟรี 28 รายการ พร้อมทั้งบริการล้างรถ ดูดฝุ่น ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในรถยนต์ ฟรี และส่วนลดพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565

Nissan Always Cares ให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรีถึง 28 รายการ พร้อมส่วนลดแพ็คเกจเช็คระยะสูงสุดถึง 24% และสามารถเลือกบริการผ่อนชำระ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า พร้อมส่วนลด 500 บาทเมื่อเปลี่ยนยาง 4 เส้น

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อเข้ารับบริการ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษเหล่านี้ได้ที่ศูนย์บริการนิสสันใกล้บ้าน หรือติดต่อ นิสสัน คอลเซ็นเตอร์ โทร 02-401-9600

*ท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ – https://www.nissan.co.th/owners/service-package.html

Suzuki

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การสนับสนุนกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนนในช่วงสงกรานต์ ภาใต้โครงการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์”

เชิญชวนลูกค้ารถยนต์ซูซูกิ นำรถเข้ารับการตรวจเช็กสภาพฟรี 15 รายการ อาทิเช่น ระบบเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ระบบเบรค ระบบช่วงล่าง ระบบไฟส่องสว่าง, แบตเตอรี่ และระบบปรับอากาศ เป็นต้น พร้อมจับมือผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ เพิ่มมาตรการงานบริการให้กับลูกค้า ทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อโรคภายในห้องโดยสาร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เติมเต็มความมั่นใจให้กับลูกค้า รับการเดินทางในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังคงเป็นประเด็นหลักในสังคม ตอกย้ำความตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้ารถยนต์ซูซูกิ ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ”

ลูกค้ารถยนต์ซูซูกิสามารถเข้ารับบริการดังกล่าว โดยติดต่อนัดหมายล่วงหน้าได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ SUZUKI Cause We Care โทร 1800-600-900 (ไม่คิดค่าบริการ) ระหว่างวันนี้ – 30 เมษายน 2565

Isuzu

โปรเด็ด สุดคุ้ม อีซูซุจัดให้

1. แพ็กเกจเปลี่ยนผ้าเบรกยี่ห้ออะไหล่แท้ตรีเพชร ราคาเหมา ค่าอะไหล่รวมค่าแรงและภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. แพ็กเกจเปลี่ยนแผ่นคลัตช์ยี่ห้ออะไหล่แท้ตรีเพชร ราคาเหมา ค่าอะไหล่รวมค่าแรงและภาษีมูลค่าเพิ่ม
3. รับส่วนลด 15% สำหรับอะไหล่ ช่วงล่าง เบรก คลัตช์ ซีลล้อ ลูกปืนล้อ ยี่ห้ออะไหล่แท้ตรีเพชรเท่านั้น
4. รับส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับอะไหล่บำรุงรักษาเชิงป้องกัน
5. เปลี่ยนยางรถยนต์ยี่ห้อบริดจสโตนที่ศูนย์บริการฯ ทุกๆ 1 เส้น สูงสุด 4 เส้นต่อใบเสร็จ รับส่วนลดสูงสุดเส้นละ 550 บาท
6. เปลี่ยนแบตเตอรี่ยี่ห้อตรีเพชร เพาเวอร์แมคซ์ หรือยี่ห้อ 3K ที่ศูนย์บริการฯ รับส่วนลด 300 บาท ต่อลูก
7. ฟรี ตรวจเช็กสภาพรถ 30 รายการ (รายการอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น)

รายการตรวจเช็กสภาพทั่วไป 30 รายการ (รายการอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่นรถ)
1 การสตาร์ท รอบหมุนเดินเบา การเร่งเครื่อง
2 ระบบไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณ สวิทช์ควบคุมต่าง ๆ
3 แป้นคันเร่ง ระยะฟรีแป้นเบรก แป้นคลัตช์ การกีดขวางของพรมปูพื้น
4 ระยะฟรีวงพวงมาลัย การทำงานของแตร
5 การทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศ
6 การหลวมคลอนของคันเกียร์ ระยะคันดึงเบรกมือ
7 การทำงานของเข็มขัดนิรภัย
8 ระดับน้ำมัน สี การรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง
9 ระดับน้ำล้างกระจก
10 สภาพท่อยาง ระดับน้ำมัน สี การรั่วซึม ของน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
11 ระดับน้ำ สี การรั่วซึมของระบบหล่อเย็น ฝาหม้อน้ำ ถังพักน้ำ
12 ความตึง ความเสียหายของสายพานทั้งหมด
13 สภาพของไส้กรองอากาศ
14 ระดับน้ำมัน สี การรั่วซึมของเบรก คลัตช์
15 สภาพแบตเตอรี่ ระดับน้ำกลั่น ค่าความต่างศักย์ (V) และค่า CCA
16 ความหลวมและการรั่วซึมของระบบบังคับเลี้ยว
17 ความหลวมของลูกหมากและบูชปีกนก
18 ความหลวมของเพลาขับหน้า (ลูกปืน) ยางกันฝุ่นเพลาขับ (รุ่น 4WD)
19 การรั่วซึมระดับน้ำมันเกียร์ของระบบSHIFT-ON-THE-FLY เฟืองท้ายลูกหน้า (รุ่น4WD)
20 การรั่วซึม ระดับน้ำมันของน้ำมันเกียร์ หรือเกียร์พร้อมเกียร์สโลว์ (รุ่น 4WD)
21 สภาพ ความหลวม ของกากบาทเพลากลางและสายเบรกมือ
22 สภาพแหนบ ยูโบลต์ สลักแหนบหน้าหลังหรือคอยล์สปริงหลัง
23 การรั่วซึม ระดับน้ำมันของน้ำมันเฟืองท้ายลูกหลัง เสื้อเพลา
24 ความเสียหาย หลวม ท่อไอเสีย
25 การรั่วซึมของน้ำมันโช้กอัพ สภาพยางหูโช้กอัพ (หน้า-หลัง)
26 การรั่วซึมของระบบทางเดินน้ำมัน ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
27 สภาพความหลวมของลูกปืนดุมล้อ (หน้า-หลัง)
28 สภาพการยึดแน่นของนอตล้อ กระทะล้อ ความดันลมยาง (หน้า-หลัง)
29 การรั่วซึม ข้อต่อ แป๊ปเบรก สายอ่อน (หน้า-หลัง)
30 ตรวจสอบการทำงานของระบบเบรกเบื้องต้น
ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 31 พ.ค. 2565 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

วิริยะประกันภัย

วิริยะประกันภัย ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมของสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทาง มุ่งหวังลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 พร้อมให้บริการตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นฟรี 20 รายการ ณ ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย 31 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.- 12 เม.ย.65

ทั้งนี้ลูกค้าวิริยะประกันภัยและประชาชนทั่วไป สามารถนำรถยนต์เข้ามารับบริการตรวจเช็คสภาพเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จำนวน 20 รายการ อาทิ ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง ตรวจสภาพยาง ตรวจสภาพการทำงานของไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณ ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ตรวจสอบเบรก ตรวจสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ณ ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยที่ติดป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์ 2565” พร้อมรับของที่ระลึกฟรี! สเปรย์แอลกอฮอล์ “วีแคร์” เมื่อลงทะเบียนตอบแบบสอบถาม โดยสามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 12 เมษายน 2565

สำหรับศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการให้บริการตรวจรถฟรี จำนวน 31 แห่ง ได้แก่

1) อู่ร่วมมิตรการาจ
2) บริษัท นิวเพื่อนยนต์ จำกัด
3) บริษัท ไทยรัตน์ยานยนต์ จำกัด
4) หจก. งามวงศ์วาน คาร์แคร์
5) บริษัท อู่นำชัย รัตนาธิเบศร์ จำกัด
6) บริษัท เจริญกิจ ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
7) บริษัท เจริญกิจ ราชพฤกษ์ จำกัด
8) บริษัท เซอร์กิต ติวานนท์ จำกัด
9) บริษัท คุงการาจ จำกัด
10) บริษัท อู่นำชัย เตาปูน จำกัด
11) บริษัท เซอร์กิตบริการ จำกัด
12) บริษัท อู่กังวานชัยการช่าง จำกัด
13) บริษัท อู่วิชัยยนต์ จำกัด
14) บริษัท เทวินทร์ คาร์เซ็นเตอร์ จำกัด
15) บริษัท อู่บอส 888 การาจ จำกัด
16) บริษัท ธนพัฒน์ ออโต้ เซ็นเตอร์ จำกัด
17) บริษัท เพอร์เฟคท์ สปีด ไลน์ จำกัด
18) บริษัท เอส ซี ซี 65 การาจ จำกัด
19) หจก. เจดีย์ออโต้เซอร์วิส
20) หจก.เป้งการาจ
21) บริษัท เจ.เอส.อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
22) บริษัท อู่ เอส.เอส. อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
23) บริษัท รุ่งเจริญ บอดี้ คลีนิค จำกัด
24) บริษัท สุขุมวิท เอ.ที. เซอร์วิส
25) หจก.สุทินคาร์เซอร์วิส
26) บริษัท เฮงบอดี้คาร์ เซอร์วิส จำกัด
27) บริษัท วงษ์ศิริเลิศ คาร์ เซอร์วิส (1997) จำกัด
28) บริษัท เจริญภัณฑ์ยนตรกิจ เซอร์วิส จำกัด
29) บริษัท นที อินเตอร์เซอร์วิส จำกัด สาขา 1
30) บริษัท อู่แม่กลอง จำกัด
31) บริษัท อ.พิพัฒน์ยนต์ (1989) จำกัด

B-Quik

บี-ควิก เอาใจเจ้าของรถทุกยี่ห้อ นำรถเข้าตรวจเช็กสุขภาพฟรี 30 รายการ ที่บี-ควิก ทุกสาขาทั่วไทย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่ ไม่ต้องสมัครสมาชิก และไม่มีข้อผูกมัดใดๆ แจ้งเจ้าหน้าที่ที่สาขาก่อนรับบริการได้เลย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1153

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

5 เคล็ดลับ เสริมความปังให้รถรับสงกรานต์

ช่วงนี้ก็ใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ 2565 กันแล้วนะครับ ซึ่งหลายคนก็เริ่มวางแพลน เริ่มลาพักร้อน ท่องเที่ยวในวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ 2565 ที่มีวันหยุดตั้งแต่ 13-15 เมษายน แต่ถ้าใช้วันลาพักร้อนด้วย ก็จะเพิ่มวันหยุดยาว 6 – 15 วันเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าช่วงนี้โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่จะยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ในปีนี้ ยังคงจัดไม่ได้ติดต่อกันเป็นปีที่สอง แต่การเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงน้ำมันแพงเช่นนี้ ก็อาจจะมีบางส่วน ที่หันไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ก็ต้องอย่าลืมรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยกันด้วยนะครับ

สำหรับใครที่มีรถส่วนตัว และจะใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือเดินทางกลับภูมิลำเนา CARRO มีเคล็ดลับเสริมความปังให้รถรับสงกรานต์ มาบอกกันจ้า …

5 เคล็ดลับ เสริมความปังให้รถรับสงกรานต์

1. ตรวจสภาพรถให้พร้อม

การตรวจสภาพรถให้พร้อม นี่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนการเดินทางเลยก็ว่าได้ เพราะความปลอดภัยจากการใช้รถของคุณต้องมาเป็นอันดับแรก เริ่มต้นตั้งแต่ตรวจสภาพชุดไฟหน้า-ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ชุดใบปัดน้ำฝน ยางรถยนต์ หรือลมยาง กันก่อน …

ต่อมาก็ตรวจดูในส่วนของเครื่องยนต์ หม้อน้ำ สายพาน แบตเตอรี่ ของเหลวต่างๆ ในรถยนต์ ช่วงล่าง ระบบเบรก ผ้าเบรก หรือจานเบรก เป็นต้น ซึ่งในจุดนี้ถ้าใครไม่ชำนาญ หรือไม่มีความรู้มากพอ ก็อาจจะนำรถยนต์ไปเข้าศูนย์บริการที่มีรับตรวจสภาพรถยนต์ฟรี ตามรายละเอียดด้านล่างได้

อ่านเพิ่มเติม >> รวมข้อมูล สถานที่ตรวจเช็กสภาพรถฟรี ก่อนเดินทางสงกรานต์ 2565!

5 เคล็ดลับ เสริมความปังให้รถรับสงกรานต์

2. ทำความสะอาดรถ

คงจะไม่แปลกถ้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ รถของคุณอาจจะขาวโพลนด้วยแป้ง (ถ้าผ่านบางพื้นที่ที่เขาเล่นน้ำกัน) หรืออาจต้องลุยฝุ่น ลุยโคลน (หรือลุยฝน) ในบางพื้นที่ เรามีเคล็ดลับในการทำความสะอาดรถเอง มาฝากกันครับ

อันดับแรก คือ ถ้ากระจกหน้ารถโดนแป้ง หรือคราบแป้งดินสอพอง อย่าใช้ที่ปัดน้ำฝนฉีดล้างตอนขับรถ เพราะแป้งจะกระจายตัวเป็นคราบเลอะไปทั่วกระจก ซึ่งบดบังทัศนวิสัยขณะขับขี่ซึ่งและเป็นอันตรายอย่างมาก

ทางที่ดีหาที่จอดข้างทางให้เรียบร้อย แล้วค่อยใช้ที่ปัดน้ำฝนฉีดล้างให้สะอาด หรือหาผ้าชุบน้ำ ผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ด และค่อยขับรถไปต่อ

แต่ถ้าคุณอยากล้างรถ เราขอแนะนำให้ฉีดน้ำสะอาดล้างทั้งคัน ล้างคราบแป้งออกให้เร็วที่สุด เพราะแป้งที่แห้งและโดนแสงแดดนานๆ จะเกาะสีรถและทำให้สีลอก สีซีดได้ และใช้น้ำยาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ เพราะน้ำยาประเภทอื่นอาจจะทำให้แว็กซ์เคลือบรถจางลง และทิ้งคราบน้ำ คราบหินปูนไว้บนรถได้

เริ่มล้างรถจากข้างบนด้วยการเช็ดกระจก ซึ่งในน้ำยาเช็ดกระจกจะมี Isopropyl Alcohol (ไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์) ช่วยให้กระจกกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ แล้วค่อยๆ ไล่มาด้านข้าง และด้านล่างของรถ ซึ่งจะเป็นส่วนที่มีฝุ่น ดิน และสิ่งสกปรกสะสมมากที่สุด

ต่อมาก็ทำความสะอาดภายในรถง่ายๆ เช่น แผงคอนโซล แผงประตูภายในรถ ก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด และเช็ดแห้งด้วยผ้าแห้งสีขาว ก่อนจะใช้สเปรย์เคลือบเงาฉีด จะช่วยรักษาสภาพของหนังและพลาสติกภายในรถ ให้ดูเงางาม

ถ้ารถคุณใช้เบาะหนัง ให้ใช้ผ้าขนนุ่มชุบน้ำเปล่า หรือน้ำสบู่อ่อนๆ ค่อยๆ เช็ด หรืออาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ

5 เคล็ดลับ เสริมความปังให้รถรับสงกรานต์

3. พวงมาลัยมงคลตามวันเกิด

เมื่อทำความสะอาดภายในรถเสร็จแล้ว บางคนอาจจะอยากหาพวงมาลัยสวยๆ สักอัน มาแขวนไว้ในรถ เรามีคำแนะนำดังนี้ครับ

  • คนเกิดวันอาทิตย์ – ควรแขวนพวงมาลัยริบบิ้น สีเขียว
  • คนเกิดวันจันทร์ – ควรแขวนพวงมาลัยริบบิ้น สีม่วง
  • คนเกิดวันอังคาร – ควรแขวนพวงมาลัยริบบิ้น สีน้ำเงิน
  • คนเกิดวันพุธ – ควรแขวนพวงมาลัยริบบิ้น สีเหลือง
  • คนเกิดวันพฤหัสบดี – ควรแขวนพวงมาลัยริบบิ้น สีแดง
  • คนเกิดวันศุกร์ – ควรแขวนพวงมาลัยริบบิ้น สีชมพู
  • คนเกิดวันเสาร์ – ควรแขวนพวงมาลัยริบบิ้น สีฟ้า

ให้นำพวงมาลัยสองชายทั้ง 3 พวง มาแขวนหรือห้อยที่กระจกมองหลัง หรือแขวนไว้ที่พวงมาลัยรถยนต์ และก่อนออกรถให้ท่องคาถาแคล้วคลาดของ พระครูวิหารกิจจานุการ (ปาน โสนนฺโท) วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล

“อิติ สุคะโต อาระหังพุธโท นโมพุทธายะ
ปัตถวีคงคา ภุมมะเทวา ขมามิหัง
สุจิโต พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง”

5 เคล็ดลับ เสริมความปังให้รถรับสงกรานต์

4. พระติดหน้ารถกันอันตราย

ตามความเชื่อของคนขับรถชาวพุทธ มักจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ มาไว้ในรถเพื่อความอุ่นใจ และเป็นสิริมงคลทุกครั้งก่อนออกเดินทาง บางคนอาจจะไหว้แม่ย่านางก่อน หรือบางคนอาจนำพระมาตั้งหรือวางที่หน้ารถ หรือมีเครื่องรางของขลัง กุมารทอง มาไว้ในรถ เพื่อให้ท่านช่วยคุ้มครองระหว่างเดินทางอย่างปลอดภัย

สำหรับการนำพระมาวางไว้ในรถ ไม่ว่าเป็นพระพุทธรูปองค์จิ๋วๆ หรือหลวงพ่อองค์ต่างๆ ที่เจ้าของรถเลื่อมใสบูชา การตั้งพระในรถนั้น จะตั้งหันหน้าออกไปทางหน้ารถก็ได้ ซึ่งบางคนอาจเชื่อว่าให้พระได้เห็นในทิศทางข้างหน้าจะได้ปกป้อง คุ้มครองคนในรถ

หรือการตั้งพระให้หันหน้าเข้ามาในตัวรถก็สามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะจะเป็นเครื่องเตือนใจขณะขับขี่เมื่อได้เห็นด้านหน้าขององค์พระ และเวลาเราไหว้ในรถ ก็เปรียบดั่งไหว้พระที่อยู่ตรงหน้าเช่นกัน

5 เคล็ดลับ เสริมความปังให้รถรับสงกรานต์

5. เมาไม่ขับ

แน่นอนว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์แบบนี้แล้ว การกินดื่มนั้นย่อมมีแน่นอน หากรู้ตัวว่าต้องขับรถ หรือจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะใกล้ไกล ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม และนอนหลับให้เพียงพอ ก่อนเดินทางขับขี่ในระยะไกลๆ

เพราะถ้าเมาแล้วขับ หรือง่วงแล้วขับ อาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณเอง ผู้โดยสารในรถ และเพื่อนร่วมทางได้ครับ และที่สำคัญ อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัย หรือถ้ารู้สึกง่วงนอนแล้ว อย่าฝืน ให้จอดรถพัก หรือหาคนอื่นขับให้แทนนะครับ! แล้วคุณจะเดินทางได้แบบปังๆ ในช่วงสงกรานต์ 2565 นี้ครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

“Motor Show 2022 (มอเตอร์โชว์ 2022)” หรือ The 43rd Bangkok International Motor Show 2022 ภายใต้แนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล” หรือ “Keep Moving Forward Together” ค่ายรถยนต์-จักรยานยนต์ชั้นนำเข้าร่วมงานกันพอสมควร กระตุ้นให้หลายคนต้องตระเวนเดินดู บูธแล้วบูธเล่า จนเมื่อยขาและหิวข้าวกันไปตามๆ กัน

แต่ในเมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เวลาหิวก็ต้องหาอะไรทานก่อน ถึงจะมีแรงฮึดขึ้นมาเดินไปดูพริตตี้ ไปดูของแต่งรถ หรือไปเจาะแจ๊ะกับเซลล์ขายรถต่อ ด้วยเหตุนี้ทาง อิมแพค เมืองทองธานี จึงได้จัดเตรียมร้านอาหารไว้หลายรูปแบบ ตั้งแต่แนว Food Street แลกการ์ดแล้วไปซื้อตามร้านเอา, ร้านกาแฟ, ร้านอาหารจีน, ร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารฝรั่ง ไปจนถึงร้านอาหารระดับหรู สำหรับให้ผู้บริหาร นักธุรกิจมาทานก็มี

ซึ่ง CARRO ก็ตระหนักถึงเรื่องปากท้องเป็นสำคัญเช่นกัน เลยขอมาแนะนำร้านอาหารจานเด็ด ในโซนต่างๆ ของอิมแพค เมืองทองธานี รอบงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) ว่ามีตรงไหนที่มีร้านอาหารเด่นๆ ฝืมือล้ำเลิศ อร่อยถูกปาก ไปชิมกันเลยครับ …

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

ร้านอาหารไทย “มโนราห์”

ร้านอาหารไทยที่โดดเด่นด้วยเมนูอาหารใต้แบบดั้งเดิม ตอบโจทย์ผู้ชื่นชอบอาหารไทย มอบความหลากหลายด้วยอาหารไทยทั้ง 4 ภาค พร้อมตอบสนองผู้มาที่งาน Motor Show 2022 @ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ในร้านมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยคลาสสิค เน้นสีแดงทอง โอ่อ่าหรูหรา ตกแต่งด้วยศิลปะไทยแต่แฝงไว้ซึ่งความทันสมัย เคล้าด้วยดนตรีไทยบรรเลงขับกล่อม พบเมนูอาหารไทย 4 ภาคกว่า 100 เมนู รังสรรค์โดยเชฟอิทธิพล ไชยชาญ หรือเชฟเช่ เชฟคุณภาพที่มีประสบการณ์ทำอาหารในโรงแรมชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 30 ปี

พลาดไม่ได้กับเมนูประจำร้านแบบดั้งเดิม อย่าง วิหคนอนรัง ข้าวยำมโนราห์ อันดามันหม้อไฟ กุ้งเกล็ดหิมะ (ทอดมันกุ้ง) แกงไตปลา ห่อหมกชาวเล น้ำพริกกะปิกับปลาทูชะอม ปลากะพงทอดน้ำปลา พร้อมเมนูเซ็ตกลางวันในราคาสมเหตุสมผล นอกจากนี้ทางร้านยังรองรับการจัดงานทุกรูปแบบ งานจัดเลี้ยง ทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ ค็อกเทล อาหารไทยดั้งเดิมและประยุกต์ และอาหารสากล

ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 บริเวณล็อบบี้ อาคารชาเลนเจอร์ 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถรองรับลูกค้าได้ 120 ท่าน

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Bistro De Champagne

บิสโตร เดอ แชมเปญ ในพื้นที่กว้างขวางอลังการ บนชั้น 2 ของอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ท่านจะได้พบกับความแวววาวของร้านอาหารซึ่งตกแต่งด้วย คริสตัล เสริมบรรยากาศหรูด้วยสีงาช้าง พร้อมผ่อนคลายบนเก้าอี้หนัง และรื่นรมย์กับอาหารนานาชาติ เสมือนหนึ่งได้ท่องไปทั่วโลก

ตั้งอยู่ที่ ล็อบบี้ อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 3 เวลาเปิดให้บริการในช่วงเวลาจัดนิทรรศการ (ขึ้นอยู่กับเวลาในการจัดนิทรรศการ)

  • ร้านอาหาร เปิดเวลา 11.00 – 19.00 น.
  • เลาจน์ เปิดเวลา 9.00 – 19.00 น.

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Hong Kong Fisherman

ร้านอาหาร “ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน” สาขาอิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นร้านอาหารสไตล์ฮ่องกงที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด

บรรยากาศในร้านโอ่อ่ากว้างขวาง ผสานการตกแต่งในสไตล์ Modern Chinese ด้วยวัสดุไม้ และความแอนทีคที่มีกลิ่นอายสไตล์จีนยุคเซี่ยงไฮ้โบราณ เพียบพร้อมด้วยหลากหลายเมนูอร่อยระดับตำนานพบกับหลากหลายเมนูอาหารต้นตำรับที่มีให้เลือกสรรมากกว่า 200 เมนูระดับตำนาน

บริการความอร่อยตั้งแต่ออเดิร์ฟ อาหารอะลาคาร์ท และติ่มซำกว่า 50 เมนู ไปจนถึงของหวานสไตล์ฮ่องกงที่ทำสดใหม่ ดีไซน์ของร้านจำลองมาจากท่าเรือวิคตอเรีย เกาะฮ่องกง ภายใต้การดูแลควบคุมความอร่อยโดยสุดยอดเชฟฮ่องกงคุณภาพ

ตั้งอยู่ที่ ล็อบบี้ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 12 เวลาเปิดให้บริการ 11.00 – 22.00 น.

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Hong Kong Café

ที่ Hong Kong Café (ฮ่องกงคาเฟ่) @ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ท่านจะได้ลิ้มรสเสมือนร้านน้ำชาในฮ่องกง (Cha Chaan Teng) อิ่มอร่อยไปกับเมนูละลานตาทั้งติ่มซำสดใหม่ ก๋วยเตี๋ยว โจ๊ก และอาหารจานด่วนพร้อมด้วยของว่างแบบฮ่องกงแท้ๆ ซึ่งเชฟฮ่องกงของเราเป็นผู้คัดสรรและลงมือปรุงรสชาติจากประสบการณ์ชั้นเลิศ Hong Kong CAFÉ รอให้คุณมาพิสูจน์ความอร่อยได้ทุกเวลาทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ

ด้วยบรรยากาศทันสมัย ผนวกกับการตกแต่งในลักษณะกึ่งจีนโบราณ ทำให้ผู้ใช้บริการได้ดื่มด่ำทั้งบรรยากาศ และอาหารรสเยี่ยมจากพ่อครัวที่ได้เลือกสรรมาแล้วจากฮ่องกง ซึ่งมีความเป็นเลิศในด้านติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยว และข้าวต้ม ปรุงสดใหม่ พร้อมตกแต่งในจานหรูมีดีไซน์เสิร์ฟให้กับทุกท่าน

ตั้งอยู่ที่ ฟู้ดเอเทรี่ยม อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 3 เวลาเปิดให้บริการ 11.00 – 21.00 น.

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Hong Kong Suki

Hong Kong Suki (ฮ่องกง สุกี้) @ เดอะพอร์ทอล อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร้านสุกี้สไตล์ฮ่องกงขนานแท้ ด้วยการตกแต่งร้านแบบจีนโมเดิร์น เอกลักษณ์ความอร่อยและความพิถีพิถันของน้ำซุปสุกี้สไตล์ฮ่องกงที่หาทานยาก พร้อมวัตถุดิบที่สดใหม่ อาทิ ลูกชิ้นสไตล์ฮ่องกง เนื้อหมู เนื้อวัว ของทะเล ที่คัดสรรเกรดคุณภาพอย่างดี พร้อมหลากหลายเมนู A La Carte แบบฉบับฮ่องกงจานด่วน อาทิ บาร์บีคิวหมูแดงหมูกรอบ เป็ดย่างสไตล์ฮ่องกง บะหมี่หน้าต่าง และติ่มซำหลากสไตล์ ที่ทำสดใหม่ทุกวัน

รังสรรค์ความอร่อยโดยทีมงานเชฟชาวฮ่องกงและเชฟชาวไทยมากด้วยประสบการณ์ เสมือนได้ไปรับประทานสุกี้ที่เกาะฮ่องกง ด้วยคุณภาพและความอร่อยที่คุณไว้วางใจ

เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 20.00 น. *เปิดให้บริการเฉพาะวันที่มีการจัดงานบางงาน เท่านั้น

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Terrazza

Terrazza (เทอราซ่า) กับบรรยากาศผ่อนคลายหรูหรา ในโทนสีขาว อบอุ่น แต่แฝงไว้ซึ่งความเรียบง่ายเสมือนรับประทานอาหารกับครอบครัวอยู่ที่บ้าน ตอบโจทย์ทุกความอร่อยด้วยอาหารหลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย ทั้งแบบดั้งเดิมและฟิวชั่น ตลอดจนอาหารสไตล์ตะวันตกหลากรสชาติ ทั้งแบบ A La Carte และบุฟเฟ่ต์ รังสรรค์โดยเชฟฝีมือเยี่ยม ใช้วัตถุดิบชั้นดี ออกมาเป็นอาหารจานอร่อยเอาใจลูกค้าทุกท่านได้ลิ้มลองกว่า 100 เมนู นอกจากนี้ยังมีขนมหวาน และเครื่องดื่มแก้วโปรด ค็อกเทลหลากสีสัน

ตั้งอยู่ที่ ล็อบบี้ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 6 เปิดให้บริการเฉพาะวันจัดงาน เวลา 9.00 – 21.00 น.

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Flann O’Brien’s Irish Pub

Flann O’Brien’s Irish Pub (ฟลาน โอเบรียนส์ ไอริช ผับ) ลูกค้าจะเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มนานาชนิดพร้อมอร่อยไปกับอาหารไอริชต้นตำรับจานโต ทั้งสตูและพาย รวมถึงแซนวิชและสลัดต่างๆ ในบรรยากาศไอริชผับแท้ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ที่ไอริชผับในกรุงดับลิน ดั่งที่ ฟลาน โอเบรียนส์ พรรณนาไว้ในนิยาย จนคุณลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ที่ไอริชผับในไทย

นอกจากนี้ เพื่อเอาใจคอกีฬาให้ได้ลุ้นการแข่งขันกีฬา แมชต์สำคัญอย่างจุใจ หรือสนุกสนานไปกับรายการโชว์ต่างๆ ตลอดคืน ทางร้านยังมีทีวีจอยักษ์ติดตังทั้งภายในร้าน และบริเวณระเบียง ช่วยเพิ่มสีสันให้มื้ออาหารของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

พร้อมบริการคุณด้วยเบียร์สด เบียร์ขวด ไซเดอร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ อร่อยกับอาหารจานหลักทั้ง แซนวิช สลัด เบอร์เกอร์ และพายต่างๆ รวมถึงอาหารพิเศษประจำวันและชุดอาหารเช้าอีกด้วย

ตั้งอยูที่ ฟู้ดเอเทรี่ยม อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 3 เวลาเปิดให้บริการ 11.00 – 23.00 น. (มีดนตรีสดได้)

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Taisho-Tei Ramen

Taisho-Tei Ramen (ไทโช-เต ราเมน) ร้านราเมนสไตล์ญี่ปุ่นเอกลักษณ์ช้อนโต ซดน้ำซุปสะใจ เพียบพร้อมบรรยากาศความเป็นส่วนตัวตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นโอเรนทัลได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น

ไทโช-เต โดดเด่นในเรื่องของน้ำซุป โดยนำเสนอ 4 น้ำซุปหลักที่มีต้นกำเนิดจากภูมิภาคต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น รังสรรค์โดยเชฟมากประสบการณ์ ได้แก่ ซุปทงคตสึ (ซุปกระดูกหมู) จากคิวชู ซุปมิโสะ (ซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) จากฮอกไกโดซุปโชยุ (ซุปซีอิ๊วญี่ปุ่น) จากคันโต และซุปต้มยำจากไทย เมนูแนะนำ เมนูทงคตสึ ไทโชเต เมนูมิโซะ ไทโชเต เมนูต้มยำทงคตสึ ไทโชเต เมนูโชยุ ไทโชเต และ ยังมีหลากหลายเมนู อาทิ ข้าวแกงกระหรี่เมนูอิชิยากิ ของทานเล่นอย่าง เกี๊ยวซ่าไก่คาราอะเกะ ฯลฯ พร้อมของหวานสไตล์ญี่ปุ่นอีกมากมาย

ตั้งอยู่ที่ สกาย คิทเช่น และ ฟู้ดเอเทรี่ยม อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 3 เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 20.00 น.

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Tsubohachi

Tsubohachi (สึโบฮาจิ) เอาใจคนรักอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับและรองรับลูกค้าที่มาเดินเที่ยวชมงาน Motor Show 2022 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ชูจุดเด่นอาหารญี่ปุ่นคุณภาพ วัตถุดิบชั้นเลิศ พบเมนูอร่อยมากมายกว่า 200 รายการ ทั้งอาหารประเภทชุดและจานเดี่ยว อาทิ ชุดปลาดิบรวมชุดพิเศษ ปูทาราบะนึ่ง ข้าวอบสไตล์ญี่ปุ่นหน้าต่างๆ อาหารปิ้งย่าง และอาหารทานเล่นสำหรับแกล้มกับเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ด้วยคุณภาพและความน่าเชื่อถือกว่า 40 ปี โดยมีสาขากว่า 6 สาขาในไทย สไตล์การตกแต่งที่เรียบง่ายของร้าน ให้บรรยากาศอบอุ่นแบบญี่ปุ่นขนานแท้

ตั้งอยู่ที่ เดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ เปิดทำการเฉพาะในวันที่มีการจัดงานบางงานเท่านั้น 11.00 – 20.00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย เวลา 19.30 น.)

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

อีสาน แอ็ท อารีน่า

อีสาน แอ็ท อารีน่า ร้านอาหารอีสานแนวใหม่ โดดเด่นในเรื่องการใช้วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม และอาหารที่หลากหลาย เพื่อเอาใจลูกค้าหลากหลายกลุ่ม รวมถึงลูกค้าที่แวะมาชมงาน Motor Show 2022 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นำเสนออาหารอีสานในสไตล์ฟิวชั่น แต่ยังคงความอร่อยครบรส ทั้ง เปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด ส่วนของการตกแต่งร้านนั้นโดดเด่นโดยการใช้สีโทนสดใสในแบบสมัยใหม่ และใช้ไม้ พร้อมลวดลายจากกระเบื้องผสมเข้าไปให้รู้สึกถึงบรรยากาศของความเป็นอีสานแบบดั้งเดิม

ทั้งนี้เชฟได้รังสรรค์ความอร่อยกว่า 70 เมนู อาทิ ส้มตำปูม้า ตำข้าวโพดไข่เค็ม ลาบ น้ำตก ของทอด ปลากะพงลุยสวน ไก่ก๊อกล็อก (ไก่ใต้น้ำ) ไก่อบสมุนไพร ต้มแซ่บซี่โครงหมูอ่อน และเครื่องเคียงอย่างข้าวเหนียว ผักสด พร้อมเครื่องดื่มอีกมากมาย สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 70 ที่นั่ง

ตั้งอยู่ที่ เดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ เวลาเปิดให้บริการ 11.00 – 20.00 น. *เปิดให้บริการเฉพาะวันที่มีการจัดงานบางงาน เท่านั้น

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Retro Bar and Cafe

Retro Bar and Cafe (เรโทร บาร์ แอนด์ คาเฟ่) พบกับช่วงเวลาของความสุข พร้อมเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของความทรงจำดีๆ ในระหว่างยุค 70-90 ที่สุดของความเรืองรองในด้านดนตรีและแฟชั่นและผู้คน

ร้านอาหารที่รวบรวมความสุข โดดเด่นด้วยบรรยากาศสุดเท่ห์ ตกแต่งแบบโมเดิร์นเน้นสีดำ ประดับประดาโคมไฟจากตลับเทปเพลง และลวดลายกำแพงเด่นสะดุดตาด้วยปกเทปและ CD ในอดีต ที่ชวนให้คุณได้รำลึกความหลังแสนประทับใจ

เสิร์ฟอาหารตั้งแต่เมนูทานเล่นแกล้มเครื่องดื่ม เมนูอาหารไทย ฟิวชั่นจานอร่อย และของหวาน เน้นเรื่องคุณภาพและการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี โดยมีเชฟคุณภาพรังสรรค์ความอร่อยในทุกเมนู เมนูแนะนำ อาทิ ซุปครีมผักโขม สลัดทูน่าโพชเอ้ก สเต็กแซนวิช บรูเขตต้าแซลมอนเมนู ไข่ตุ๋นต้มยำกุ้ง แซลมอนสเต็กกับซอสเปรี้ยวหวาน สปาเก็ตตี้ อากริโย โอริโย และยังมีเมนูบาร์บีคิวย่างสดใหม่บริการทุกวัน พร้อมของหวาน ไอศกรีมซันเดย์ แซนด์วิชไอศกรีม เครื่องดื่มเลิศรส ให้คุณสังสรรค์กับเพื่อนที่รู้ใจได้ตลอดทั้งวัน

ตั้งอยู่ที่ เดอะ พอร์ทอล ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 23.00 น. *เปิดให้บริการเฉพาะวันที่มีการจัดงานบางงาน เท่านั้น

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Breeze Cafe and Bar

Breeze Cafe and Bar (บรีซ คาเฟ่ แอนด์ บาร์) ให้ลูกค้าได้เลือกดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ทั้งบรรยากาศด้านนอกริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ และโซนด้านใน ตกแต่งด้วยโทนสีขาว โปร่งสบายตา ในสไตล์ Kinfolk ที่ผสมผสานระหว่างไม้ เหล็ก อิฐ และการอยู่กับต้นไม้และธรรมชาติ นำเสนออาหารฟิวชั่น ตะวันตก และไทย

โดยทีมเชฟคุณภาพได้คัดสรรหลากหลายเมนูคุณภาพกว่า 60 เมนู อาทิ ซี่โครงหมูอบซอสสูตรพิเศษ แซลมอนรมควัน ไก่พาเมซาน ซีซาร์สลัด เบอร์เกอร์ หรือจะเป็นอาหารไทย อย่าง ผัดไทวุ้นเส้น ยำส้มโอกุ้งสด พร้อมขนมหวาน ไอศกรีม วาฟเฟิล และอื่นๆ อีกมากมาย ภายใต้การดูแลของเชฟชาวออสเตรเลียที่มีประสบการณ์ในระดับโรงแรมนานาชาติกว่า 20 ปี

นอกจากนี้ภายในร้านยังมีบาร์กาแฟ ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มกาแฟหลากหลายและขนมหวานสุดพิเศษ พร้อมเครื่องดื่มเบียร์ และไวน์ชั้นเลิศให้คุณตลอดทั้งคืน ในบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยทะเลสาบ และสนามโกคาร์ท อิมแพ็ค สปีดพาร์ค เมืองทองธานี สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 84 ที่นั่ง

ตั้งอยู่ที่ อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบเมืองทองธานี) เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30 – 21.00 น. (ปิดรับออเดอร์ 20.30 น.)

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

อีสาน จิ้มจุ่ม

อีสาน จิ้มจุ่ม ยกหม้อรวมมิตรให้แซ่บนัว จัดเต็ม ให้ได้ชิลกับบรรยากาศริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ภายในร้านตกแต่งให้โดดเด่นโดยการใช้สีโทนสดใสในแบบสมัยใหม่ และใช้ไม้ พร้อมลวดลายจากกระเบื้องผสมเข้าไปให้รู้สึกถึงบรรยากาศของความเป็นอีสานแบบดั้งเดิม และความเป็นจิ้มจุ่ม

ซึ่งวัตถุดิบและแต่ละเมนูอาหารเชฟได้เลือกสรรเป็นอย่างดี มีให้เลือกเป็นชุดเล็ก ชุดใหญ่ ทั้งอาหารทะเล เนื้อใน เนื้อสันนอก หมูสามชั้น เนื้อโคขุน เครื่องใน และผักชนิดต่างๆ ยังไม่พอมีอาหารอีสานจานเดียวให้เลือก อาทิ ส้มตำไทยใส่วาซาบิ พล่ากุ้ง ปอเปี๊ยะลาบวุ้นเส้น ปลานิล ปลาทับทิมเผาเกลือ พล่ากุ้ง ยำวุ้นเส้นหมูสับกุ้งสด ทั้งนี้ยังเอาใจลูกค้าที่ชอบร้องเพลงเพื่อความบันเทิง จัดห้องคาราโอเกะ เพิ่มบรรยากาศให้สนุกกับครอบครัว และเพื่อนๆ อีกด้วย

ตั้งอยูที่ อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบเมืองทองธานี) เปิดบริการทุกวัน: เวลา 11.30 – 21.00 น. (ปิดรับออเดอร์ 20:30 น.)

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Uwajima

Uwajima (อุวะจิมะ) ร้านอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบทานง่าย โดดเด่นด้วยหลากหลายเมนูอร่อย เอาใจคนรักอาหารทะเลในสไตล์ญี่ปุ่น ที่มาพร้อมวัตถุดิบคุณภาพอย่างซูชิ เมนูแนะนำอย่างอาหารทะเลย่างด้วยถ่านชาร์โคล โดยเชฟชาวญี่ปุ่นได้รังสรรค์หลากหลายเมนูอร่อยแบบครบครัน ให้คุณได้เพลิดเพลินกับวิวที่สวยงามบริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี

พบกับซาชิมิของทะเลสดใหม่ นำเข้าจากญี่ปุ่น เมนูซูชิเนื้อแน่นเต็มคำ และเมนูของทะเลย่างถ่านชาร์โคล อาทิ ปูทาระบะ หอยนางรม หอยเชลล์ กุ้งลายเสือ นาเบะหม้อไฟ และเมนูสลัดซาชิมิ มาสัมผัสบรรยากาศสุดชิล พร้อมลิ้มลองเมนู A La Carte สไตล์ญี่ปุ่นที่คุณจะประทับใจ

ตั้งอยู่ที่ อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบเมืองทองธานี) เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00 – 21.00 น. (ปิดรับออเดอร์ 20.30 น.) เสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00 – 21.00 น. (ปิดรับออเดอร์ 20.30 น.)

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

Jackie Seafood

Jackie Seafood (แจ็คกี้ ซีฟู้ด) ร้านอาหารซีฟู้ดสไตล์ฮ่องกงในเครืออิมแพ็ค นำเสนอเมนูอาหารทะเลที่มีความหลากหลายภายใต้การดูแลของ “เชฟแจ็คกี้ ชาน” เชฟชาวฮ่องกงที่ผ่านประสบการณ์การทำอาหารจากโรงแรม 5 ดาวชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศ มากว่า 40 ปี

สำหรับร้าน “แจ็คกี้ ซีฟู้ด” นั้นมีความน่าสนใจและลงตัวในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเมนูอาหารทะเลสดใหม่ในรูปแบบง่ายๆ แต่พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการทำ โดย Concept ของร้านจะเป็นแนว “ต่าย-ผ่าย-ตอง” (Dai Pai Dong) นอกจากนี้ทางร้านยังมีอาหารจีนสไตล์ฮ่องกง แต้จิ๋ว หรือกวางตุ้งให้ลิ้มลองกัน มีให้เลือกอิ่มอร่อยกันอย่างจุใจกว่า 100 เมนู

สำหรับความหมายของคำว่า ซีฟู้ด หรืออาหารทะเล สำหรับคนฮ่องกงนั้นหมายถึงอาหารนั้นต้องมีชีวิตและว่ายอยู่เท่านั้น ดังนั้นหน้าร้านจึงมีสัตว์ทะเลหรือซีฟู้ดในตู้ให้ลูกค้าได้เลือก รวมถึงเมนูอาหารทะเลอื่นๆ อีกด้วย เมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องลอง อาทิ “เป็ดย่างไม้ลิ้นจี่” “แคเนเดียนล็อบสเตอร์นึ่งข้าวเหนียวทรงเครื่อง” “ปูเนื้อนึ่งไข่ขาวเหล้าจีน” เป็นต้น

ตั้งอยู่ที่ อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบเมืองทองธานี) เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30 – 21.00 น. (ปิดรับออเดอร์ 20.30 น.)

รวมร้านอาหารจานเด็ด รอบงาน Motor Show 2022

The Portal – Food Arena

The Portal – Food Arena (เดอะ พอร์ทอล ฟู้ด อารีน่า) ศูนย์รวมอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายแห่งใหม่ ภายในศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของอาคารเดอะ พอร์ทอล บริการภายใต้สโลแกน “เสิร์ฟความสุขทุกเมนูด้วยหัวใจ เลือกโซนที่ใช่ในสไตล์ที่เป็นตัวคุณ”

เลือกรับบริการอาหารอร่อยจากกว่า 14 ร้านชื่อดัง รวมถึงขนมหวาน และบาร์น้ำ 2 เคาน์เตอร์ 1 คีออส ในราคาเริ่มต้น 45-80 บาท เปิดให้บริการทุกวัน 10.00 – 20.00 น. (หากมีการจัดงานที่อิมแพ็ค อารีน่า ขยายเวลาเป็น 21.00 น.) *ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงวันและเวลาให้บริการโดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

นอกจากนี้ ในอิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังมีศูนย์อาหาร และร้านอาหารชื่อดังให้เลือกชิมกันอีกมากมาย ทั้งในโซนของ Food Atrium หรือ Sky Kitchen เช่นกัน

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก: