Motor Expo 2022 - มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 พบกัน! 1-12 ธ.ค. 2565

“Motor Expo 2022” (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39) (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2022) หรือ The 39th Thailand International Motor Expo 2022 งานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ได้เวลา…สัมผัสอนาคต – It’s TIME…Come Touch the Future” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ รถยนต์ไฟฟ้าออกใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้ รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปี ฟันฝ่าวิกฤตโควิด-19 ที่รุมอย่างหนักมาตลอดสองปี ต้อนรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมการใช้ และการผลิตภายในประเทศ

โดยงาน Motor Expo 2022 จัดที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 พร้อมวางมาตรการป้องกัน COVID-19 ไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้มางาน เข้าชมงานได้สะดวก และปลอดภัย

ซึ่งมาตราการควบคุมป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ชมงาน คือต้องเเสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยโรคโควิด-19 มาเเล้ว 21-90 วัน หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR เเละได้ผลลัพธ์ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเข้างาน

หากท่านใดที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 2 เข็ม หรือผลการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ไม่มีแสดงขึ้นมาในหมอพร้อม หรือเด็กเล็กอายุ 6-12 ปี ที่ยังรับวัคซีนไม่ได้ จะต้องตรวจ ATK (บริเวณหน้างาน) มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 99 บาท (ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ไม่ต้องตรวจ ATK)

covid-manual

ในปีนี้มีแบรนด์รถยนต์เข้าร่วมงานมากมายถึง 33 ยี่ห้อ เริ่มจากค่ายญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Lexus, Nissan, Honda, Mitsubishi, Isuzu, Mazda, Subaru, Suzuki ส่วนรถเกาหลีอีก 2 แบรนด์คือ KIA และ Hyundai และจีนอย่าง Pocco, Great Wall Motor  (ORA กับ Haval) และ BYD เป็นต้น

ในส่วนของแบรนด์รถยุโรปและรถอเมริกัน ก็มาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ Audi, BMW, Lotus, Mercedes-Benz, Maserati, MINI, Porsche, Volvo, MG,  Ford, Peugeot, Aston Martin และ Rolls-Royce เป็นต้น

รวมถึงชุดแต่งและรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระ ได้แก่ BMW M Performance, Carlsson, Moke, M’Z Speed และ Swift

https://www.motorexpo.co.th/data/content/2021110215221424.jpg

แผนผังงาน Motor Expo 2022

ในส่วนของรถมือสอง ก็มีมาร่วมงานในงานถึง 3 ค่าย เช่น Mercedes-Benz Certified, BMW Premium Selection และ Volvo Selekt

ทางด้านของรถจักรยานยนต์ มี 12 ยี่ห้อ อาทิ BMW, Bajaj, Ducati, Harley-Davidson, Honda, Husqvarna, Kawasaki, KTM, Royal Enfield, Suzuki, Triumph และ Yamaha เป็นต้น

บรรยากาศงาน Motor Expo 2021

สำหรับยอดจองรถภายในงาน Motor Expo 2021 คาดว่าใกล้เคียงปีก่อนประมาณ 30,000 คัน ผู้ชมงานราว 1 ล้านคน แบ่งเป็นชมงานปกติ 80% ชมงานออนไลน์ 20% สร้างเม็ดเงินสะพัดในงานกว่า 35,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ภายในงาน “Motor Expo 2021” ยังจัดกิจกรรมมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน โดยปีนี้ยังคงแจกรถยนต์ 3 คัน และจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 1 คัน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

รายการ “ซื้อรถ ชิงรถ” ผู้ชมงาน ที่จอง/ซื้อรถยนต์ภายในงาน จะได้รับสิทธิ์ ชิงรถยนต์ Hyundai Ioniq Electric มูลค่า 1,749,000 บาท

รายการ “ซื้อบัตร ชิงรถ” ผู้ชมที่ซื้อบัตรเข้าชมงาน มูลค่า 100 บาท จะได้รับคูปองสำหรับการกรอกรายละเอียดต่างๆ เพื่อชิงรถยนต์ New MG5 รุ่น C มูลค่า 559,000 บาท

รายการ “ซื้อมอเตอร์ไซค์ ชิงบิ๊กไบค์” สำหรับลูกค้าที่จอง/ซื้อมอเตอร์ไซค์ภายในงาน จะได้รับสิทธิ์ชิง Suzuki Katana มูลค่า 569,000 บาท

รายการ “ซื้อบัตร ชิงรถ” ผู้ชมที่ซื้อสินค้าภายในวันเดียวกัน ตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ยกเว้นการจอง/ซื้อรถใหม่, รถจักรยานยนต์ และรถใช้แล้ว จะได้รับสิทธิ์ ชิงรถยนต์ Mitsubishi Mirage มูลค่า 474,000 บาท และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ Skill Driving Experience Junior” อบรมขับขี่ปลอดภัย สำหรับเด็กอายุ 4-8 ปี เพื่อปลูกฝังวินัยจราจร ขณะที่โครงการ “ขับเป็น… ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล” (Skill Driving Experience) จัดอบรมขับขี่ปลอดภัยฟรีให้แก่ผู้สนใจ

อีกทั้ง สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ยังจัดแสดงรถโบราณทรงคุณค่าหลากหลายลักษณะ โดยปีนี้มีการจัดแสดงตามช่วงเวลาที่สำคัญ เช่น รถก่อนสงครามโลก รถหลังสงครามโลก และรถคลาสสิค

พร้อมพื้นที่ Motorsport รวมรถแข่งหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Circuit, Drag, Drift รวมถึงรถแต่งหลากหลายสไตล์ มาจอดเรียงรายให้ผู้รักความเร็วได้สัมผัส และถ่ายภาพกันอย่างใกล้ชิด

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2022 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เอาเงินไปซื้อรถใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

หากใครที่มีโอกาสได้เปิดฟังคลื่นวิทยุที่เกี่ยวกับการรายงานสภาพจราจร เช่น สวพ.91 หรือ จส.100 จะสังเกตได้ว่า ในวันๆ หนึ่ง มีผู้คนที่โทรเข้ามาแจ้งเรื่องลืมของในรถแท็กซี่กันเยอะมาก โดยสิ่งของที่ยอดฮิตของคนขี้ลืม ได้แก่ กระเป๋าสตางค์, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, กระเป๋าต่างๆ, กล้องถ่ายรูป, ซองเอกสาร, ร่ม หรือกุญแจต่างๆ เป็นต้น

10-อันดับ-ลืมของบนรถแท็กซี่-สวพ.91

ภาพจาก สวพ.91

ซึ่งบางคน อาจจะจำได้แค่บางอย่าง แต่บางคน ก็จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง (เพราะอาจจะขึ้น Taxi ตอนกลางคืน หรือเมาด้วยล่ะ) ทำให้ยากต่อการติดตาม ของหายแล้วไม่ได้คืน

Mr.Carro ขอแนะนำ 5 สิ่งที่ควรจำ เมื่อขึ้นรถแท็กซี่ เวลาลืมของ จะได้ตามได้ ครับ …

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

ภาพจาก แท็กซี่แวนไทยแลนด์

1. เวลา และสถานที่ขึ้น-ลง

อันนี้ถือว่าสำคัญ หากคุณไม่ได้เรียกแท็กซี่จากในโรงแรม หรือบางสถานที่ ที่มีการจดเลขทะเบียน หรือมีภาพจากในกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ การจดจำเวลา และสถานที่ขึ้น-ลง ถือว่าสำคัญ เพราะรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ มักแบ่งกันขับกันเป็นกะ จะได้ตามตัวคนขับได้ถูก

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

ภาพจาก แท็กซี่เกรดเอ อ้วนรังสิต

2. สีรถ

อันนี้ก็ถือว่าสำคัญ เพราะปัจจุบันนี้ แท็กซี่บ้านเรามีสารพัดสีมาก จนได้ชื่อว่า “รถสีลูกกวาด” เลยทีเดียว ซึ่งก็มีตั้งแต่รถส่วนบุคคล เขียว-เหลือง, รถแท็กซี่รุ่นเก่า เหลือง-ดำ ส่วนรถสหกรณ์ก็มีหลากหลายสี ตั้งแต่สีเหลืองทั้งคัน สีเขียวทั้งคัน สีฟ้า สีชมพู โดยบางคันอาจจะมี 2 สี ซึ่งคาดแถบสีขาวไว้ด้านข้างตัวรถด้วย ต้องสังเกตดีๆ

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

3. ป้ายทะเบียนรถ

ทะเบียนรถ ถือว่าสำคัญที่สุดในการตามหาตัวรถ นอกจากดูนอกตัวรถแล้ว บริเวณภายในประตูรถทั้งเบาะหน้า และเบาะหลัง ก็มีเลขทะเบียนติดเอาไว้ และมีอักษรเทียบระหว่างภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าเป็นทะเบียน มฎ 1234 ภายในจะเป็น AA 1234 เพื่อให้ชาวต่างชาติจำได้ง่ายขึ้น ขึ้นรถมาแล้วกลัวลืม ก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ก่อนเลย

4. ชื่อ-สกุล รหัส ของคนขับ / รูปพรรณของคนขับ

ชื่อ-สกุล รหัส ของคนขับบริเวณด้านหน้ารถ ควรสังเกตให้ละเอียด รวมถึงสังเกตดูว่า คนขับ มีรูปร่างอย่างไร อ้วน ผอม หนุ่ม แก่ หัวล้าน ผมยาว ใส่แว่น มีไฝ รอยสัก ฯลฯ เพราะบางครั้ง บัตรประจำตัวคนขับที่แสดงไว้ อาจะเป็นคนละคนกับคนขับ

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

5. คนขับฟังวิทยุ หรือดูอะไรอยู่ตอนนั้น

นี่ก็สำคัญ! หากขณะนั่งในรถ คนขับแท็กซี่ เปิดฟังรายการวิทยุอะไร คลื่นไหน หากนึกขึ้นได้ ให้ลองรีบโทรเข้าไปในรายการนั้นๆ ดูทันที หากรายการนั้นเป็นรายการสด หรือกำลังดู Live สด เพจอะไรอยู่ เผื่อคนขับรถได้ยินได้ฟังได้เห็นแล้ว โอกาสที่คุณจะได้ของคืน มีมากขึ้นครับ

แต่ถ้าคนขับ เปิดเพลงจาก USB/มือถือ หรือ ปิดวิทยุ … ก็ตัดข้อนี้ไปได้ครับ

ทางที่ดี ก่อนลงแท็กซี่ ควรตรวจสอบให้เรียบร้อย ว่าลืมสิ่งของอะไรไว้บนเบาะ หรือในฝากระโปรงท้ายหรือไม่ เพราะโอกาสที่จะได้คืนนั้น บอกได้เลยว่าน้อย … ฉะนั้น ต้องรอบคอบก่อน กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาขับแทนนั่งแท็กซี่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

Mr.Carro เชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ ต้องเป็นคนที่รักสัตว์เลี้ยงแน่ๆ ซึ่งหลายคนอาจจะเลี้ยงสุนัข (หมา) กันอยู่ หมาน่ารักถือได้ว่าเป็นเพื่อนยากของมนุษย์ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ทั้งสายพันธุ์เล็กแบบหมากระเป๋า ไปจนถึงสายพันธุ์ใหญ่แบบหมานักล่าก็ตาม

แต่การเดินทางของคนและน้องหมานั้น ก็ต้องบอกว่ามีแน่นอน ไม่ว่าจะพาน้องหมาไปเที่ยวด้วยกันที่ต่างจังหวัด พาหมาไปเดินออกกำลังกาย หรือพาสุนัขไปหาหมอที่คลินิคสัตว์เลี้ยง ก็สุดแท้แต่ …

ปัญหาของทั้งคนและน้องหมา ก็มีอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่เคยนำหมา หรือสัตว์เลี้ยงติดรถไปด้วย ก็จะติดปัญหาว่า จะเตรียมตัวอย่างไรดี ไม่ให้หมานั้นซุกซน เห่าหนวกหู หรือทั้งฉี่ทั้งอึภายในรถ ส่วนตัวหมาเอง ก็ต้องดูว่า จะทำตัวอย่างไรดี ไม่ให้เจ้านายเขกกบาลระหว่างทาง …..

Mr.Carro ขอแนะนำ 5 วิธี สร้างความสุขให้คนและน้องหมา เวลาติดรถไปด้วยกันนั้น จะมีอะไรบ้าง …..

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

1. งดอาหาร (สุนัข) ล่วงหน้า

ก่อนที่คุณจะขับรถออกไปไหนมาไหน แล้วต้องเอาหมาติดรถไปด้วย ควรงดให้อาหารและน้ำหมาก่อน สักประมาณ 1-2 ชั่วโมง

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

2. สุนัขนั่งหลังดีกว่า

ตำแหน่งที่เหมาะสมเวลาให้หมานั่งไปกับรถของคุณ นั่นคือ เบาะด้านหลัง เพื่อที่จะทำให้คุณไม่เสียสมาธิเวลาขับรถ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ และควรฝึกให้หมานั่งนิ่งๆ

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

3. อย่าลืมสายจูง หรือสายนิรภัย

ขนาดคนนั่งภายในรถยนต์ ยังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเลย แล้วหมาก็ต้องมีสายรัดนิรภัยด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันอันตรายจากการตกหล่น หรือกระแทก เมื่อคุณเบรกกะทันหัน และยังเหมาะกับหมาที่มีนิสัยซุกซน ชอบปีนป่าย กระโดดโลดเต้น วิ่งไปวิ่งมา ถ้าไม่มีไว้คุณคงขับรถลำบากแน่นอน

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

4. อย่าลืมผ้าคลุมเบาะ

จริงๆ แล้ว ไม่ว่าเบาะรถยนต์นั่งของคุณ จะทำด้วยวัสดุอะไร เช่น สักหลาด กำมะหยี่ หนังไวนิล หรือหนังแท้ คุณก็ควรจะมีผ้าปูรองนั่ง หรือผ้าคลุมเบาะแยกต่างหาก เพราะการให้หมานั่งบนเบาะแบบเพียวๆ เลย มันไม่ดีเท่าไหร่นัก เพื่อป้องกันเล็บของหมา ไปขูดขีดบนเบาะ หรือน้ำลายหมา ที่อาจทำให้เบาะในรถของคุณสกปรก หรือมีกลิ่น อีกทั้งยังป้องกันขนหมาร่วงไปบริเวณอื่นๆ อีกด้วย

5 วิธี ฝึกน้องหมานั่งรถ เมื่อต้องไปด้วยกัน!

5. กระดาษชำระ X ถุงพลาสติก X ชามข้าวสุนัข

หลายคนสงสัย ทำให้ต้องเอากระดาษชำระ และถุงพลาสติกไปด้วย เพราะเราก็ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า หมามันเกิดจะปวดขี้ หรือปวดเยี่ยว ขึ้นมาตอนไหนเมื่อไหร่ การมีกระดาษชำระ และถุงพลาสติกไว้ ก็ถือว่าดี ไม่สกปรกเลอะเทอะในรถด้วย และยังเอาใส้อ้วกของหมา กรณีที่หมาเมารถได้ด้วยเช่นกัน

สำหรับชามข้าวหมา เผื่อไว้สำหรับใครที่เดินทางไกลนานๆ ขนาดคนยังหิว หมาก็รู้สึกหิวด้วยเช่นกัน เอาไว้สำหรับใส่น้ำ ใส่อาหารให้หมากินระหว่างทางได้

หากหมาของใครที่ไม่คุ้นชินกับการเดินทางไกล หรือมีอาการลนลานเวลาอยู่ในรถ อาจจะนำของเล่นของหมา มาให้หมาเล่นระหว่างทางไปด้วย ถ้าเป็นแบบหมากระเป๋า ก็เอาผ้าห่ม เสื้อผ้าหมา (กรณีหมาขนสั้น ขี้หนาว) หรือที่นอนหมาไปด้วย เพื่อให้หมาอุ่นกาย อุ่นใจ และมีของเล่นที่คุ้นเคยหว่างทางครับผม

แค่นี้ คุณกับหมา ก็เดินทางไปด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

รวมข้อมูลทางด่วนฟรี วันหยุดเดือน พ.ค. 65

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) หรือ EXAT, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL ได้ยกเว้นการเก็บค่าทางด่วนในวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ในสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไขใหม่ ให้ขึ้นทางด่วนฟรีตลอดอายุสัมปทานจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2578 และจะไม่มีการขึ้นราคาค่าทางด่วน จนถึงปี 2571 (เฉพาะเส้นทางที่อยู่ในการดูแลของการทางพิเศษฯ)

ทำให้คนไทยที่ต้องใช้รถใช้ทางด่วน ได้ขึ้นทางด่วนฟรีกันถ้วนหน้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ในวันหยุดราชการตลอดปี 2565 เรามาดูกันว่า ทางด่วนฟรี พฤษภาคม 2565 มีวันไหนกันบ้าง Carro รวบรวมข้อมูลทางด่วนฟรีเดือนพฤษภาคม 2565 มาให้ดูกันแล้วจ้า …

ทางด่วนฟรี ในวันหยุดราชการ พฤษภาคม 2565 มีดังนี้ …

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนพฤษภาคม

  • 4 พฤษภาคม 2565 วันฉัตรมงคล
  • 13 พฤษภาคม 2565 วันพืชมงคล
  • 15 พฤษภาคม 2565 วันวิสาขบูชา

ทางด่วนที่สามารถขึ้นฟรีได้ 3 เส้นทาง มีดังนี้ …

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) 19 ด่าน
  • ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) 31 ด่าน
  • ทางด่วนอุดรรัถยา (ปากเกร็ด-บางปะอิน) 10 ด่าน

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ไว้ใช้ขึ้นทางด่วนฟรี มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ:

  • วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ เพราะเป็นวันหยุดของภาคเอกชน จึงไม่ได้รับสิทธิ์ขึ้นทางด่วนฟรี

Carro รวมข้อมูลทางด่วนฟรี ทุกวันหยุดตลอดปี 65!

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) หรือ EXAT, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL ได้ยกเว้นการเก็บค่าทางด่วนในวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ในสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไขใหม่ ให้ขึ้นทางด่วนฟรีตลอดอายุสัมปทานจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2578 และจะไม่มีการขึ้นราคาค่าทางด่วน จนถึงปี 2571 (เฉพาะเส้นทางที่อยู่ในการดูแลของการทางพิเศษฯ)

ทำให้คนไทยที่ต้องใช้รถใช้ทางด่วน ได้ขึ้นทางด่วนฟรีกันถ้วนหน้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ในวันหยุดราชการตลอดปี 2565 เรามาดูกันว่า ทางด่วนฟรี 2565 มีวันไหนกันบ้าง Carro รวบรวมข้อมูลทางด่วนฟรีมาให้ดูกันแล้วจ้า …

Carro รวมข้อมูลทางด่วนฟรี ทุกวันหยุดตลอดปี 65!

ทางด่วนฟรี ในวันหยุดราชการ 2565 มีดังนี้ …

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนมกราคม

  • 1 มกราคม 2565 วันขึ้นปีใหม่

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนกุมภาพันธ์

  • 16 กุมภาพันธ์ 2565 วันมาฆบูชา

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนเมษายน

  • 6 เมษายน วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ (วันจักรี)
  • 13-15 เมษายน 2565 วันสงกรานต์ (3 วัน)

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนพฤษภาคม

  • 4 พฤษภาคม 2565 วันฉัตรมงคล
  • 13 พฤษภาคม 2565 วันพืชมงคล
  • 15 พฤษภาคม 2565 วันวิสาขบูชา

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนมิถุนายน

  • 3 มิถุนายน 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนกรกฎาคม

  • 13 กรกฎาคม 2565 วันอาสาฬหบูชา
  • 14 กรกฎาคม 2565 วันเข้าพรรษา
  • 28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนสิงหาคม

  • 12 สิงหาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนตุลาคม

  • 13 ตุลาคม 2565 วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
  • 23 ตุลาคม 2565 วันปิยมหาราช

ทางด่วนฟรีวันหยุดเดือนธันวาคม

  • 5 ธันวาคม 2565 วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ
  • 10 ธันวาคม 2565 วันรัฐธรรมนูญ
  • 31 ธันวาคม 2565 วันสิ้นปี

Carro รวมข้อมูลทางด่วนฟรี ทุกวันหยุดตลอดปี 65!

ทางด่วนที่สามารถขึ้นฟรีได้ 3 เส้นทาง มีดังนี้ …

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) 19 ด่าน
  • ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) 31 ด่าน
  • ทางด่วนอุดรรัถยา (ปากเกร็ด-บางปะอิน) 10 ด่าน

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ไว้ใช้ขึ้นทางด่วนฟรี มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ:

  • วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ เพราะเป็นวันหยุดของภาคเอกชน จึงไม่ได้รับสิทธิ์ขึ้นทางด่วนฟรี

Carro แนะนำสถานที่ทำบุญวันวิสาขบูชา

วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนา ที่ชาวพุทธศาสนิกชนทั้งโลก ต่างร่วมเฉลิมฉลองวันสำคัญ เนื่องจากเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ ได้แก่ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระพุทธโคดม ซึ่งทั้ง 3 เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นตรงกัน ณ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน)

ชาวพุทธจึงถือว่า เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง เพราะเกิดขึ้นตรงกัน ณ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 และเรียกวันนี้ว่า วิสาขบูชา ย่อมาจาก วิสาขปุรณมีบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ

Carro รวมที่ทำบุญ ไหว้พระ เวียนเทียน วันวิสาขบูชา

ภาพจาก กรมประชาสัมพันธ์

และยังเป็นวันสำคัญหรือวันหยุดในหลายๆ ประเทศ เช่น ไทย, กัมพูชา, ลาว, พม่า, มาเลเซีย (เรียกว่าวัน Wesak Day), สิงคโปร์ (เรียกว่าวัน Vesak Day) อินโดนิเชีย, อินเดีย, เนปาล, ศรีลังกา, ทิเบต, ภูฐาน, ฮ่องกง หรือไต้หวัน และยังเป็นวันสำคัญนานาชาติตามข้อมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติอีกด้วย

Carro รวมที่ทำบุญ ไหว้พระ เวียนเทียน วันวิสาขบูชา

ภาพจาก กรมประชาสัมพันธ์

วันวิสาขบูชา 2565 นอกจากพุทธศาสนิกชนจะรักษาศีล 5 ศีล 8 ไปทำบุญตักบาตร เข้าวัดบำเพ็ญกุศล ถือศีล ฟังธรรม ปล่อยนกปล่อยปลา ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถในช่วงค่ำ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา หรือจะทำบุญออนไลน์ เวียนเทียนออนไลน์ก็ยังได้

และในวันนี้ Carro จะมาแนะนำวัดยอดนิยม ที่เหล่าชาวพุทธนิยมไปทำบุญกันในวันวิสาขบูชากันครับ

Carro รวมที่ทำบุญ ไหว้พระ เวียนเทียน วันวิสาขบูชา

ภาพจาก วัดผ่องพลอยวิริยาราม

1. วัดผ่องพลอยวิริยาราม

วัดผ่องพลอยวิริยาราม เดิมมีชื่อว่า วัดใหม่วิริยสังฆาราม พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าร่วม พิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ถวายเป็นพุทธบูชา ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่อยู่ใกล้เขตบางนา เข้าร่วมพิธีเวียนเทียนได้โดยรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัย

Location:

พิกัด: https://goo.gl/maps/35rXUb6L87PRAbf28
ที่อยู่: ซ.หมู่บ้านศรีพงษ์ ถ.สุขุมวิท 105 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ
การเดินทาง: สามารถเดินทางโดยยานพาหนะส่วนตัว หรือรถโดยสารประจำทาง

  • เส้นทางที่ 1 : เดินทางโดย รถบัสสาย 145 (ปอ.) ลงซอยลาซาล (ออกเมือง) และเดินต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวซ้ายที่ถนนลาซาล และเลี้ยวซ้าย เดินตรงต่อไปที่ซอยลาซาล 46 สังเกตุวัดผ่องพลอยวิริยาราม
  • เส้นทางที่ 2 : เดินทางโดย BTS ลงสถานีอุดมสุข ทางออก 4 ขึ้นรถเมล์สาย 2 และ 23 (ไปเมกาบางนา), 38, 46, 48, 98, 132, 139, 180 ไปซอยบางนาตราด 28 และเดินไปวัดผ่องพลอยที่ซอยลาซาล 46

Carro รวมที่ทำบุญ ไหว้พระ เวียนเทียน วันวิสาขบูชา

ภาพจาก หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ – สวนโมกข์กรุงเทพ

2. หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ – สวนโมกข์กรุงเทพ

หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ – สวนโมกข์กรุงเทพ จัดกิจกรรมทางศาสนา ในวันที่ 15 พ.ค. เวลา 8.00 – 22.00 น. มีกิจกรรมให้เข้าร่วมตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น “ร่วมทำบุญตักบาตร เวียนเทียน สนทนา และปฏิบัติเพ็ญภาวนา ชาคริยานุโยค” เป็นเจ้าภาพอาหารให้กับผู้ทำบุญ หรือเป็นจิตอาสางานธรรม โดยรับเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น

อ่านกำหนดการเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3vVtvId
ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://register.bia.or.th/

Location:

พิกัด: https://goo.gl/maps/S5AzUVBymmJQXWNR8
ที่อยู่: หอจดหมายเหตุ พุทธทาส อินทปัญโญ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ถนนนิคมรถไฟสายสอง เขตจตุจักร
การเดินทาง: แนะนำให้เดินทางโดยรถสาธารณะ เพื่อความสะดวก

  • เส้นทางที่ 1 เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงสถานีพหลโยธิน ออกประตู 3 เดินลัดสวนสาธารณะข้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ข้ามสะพานลอยฝั่งสวนจตุจักร เดินเลียบถนนไปสำนักงานใหญ่ ปตท. เดินผ่านอาคารการบินพลเรือน เลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเข้าสวนรถไฟ สังเกตุซ้ายมือจะเห็นหอจดหมายเหตุฯ (เดินประมาณ 15-20 นาที หรือนั่งวินมอเตอร์ไซค์ 10 บาท)
  • เส้นทางที่ 2 เดินทางโดย BTS ลงสถานีหมอชิต หรือ MRT ลงสถานีจตุจักร ออกประตู 1, 2 และขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ แจ้งว่าไปหอจดหมายเหตุฯ
  • เส้นทางที่ 3 หากมายานพาหนะส่วนตัว ให้จอดที่จอดรถของสวนรถไฟ และเดินเข้าไปยังหอจดหมายเหตุฯ

Carro รวมที่ทำบุญ ไหว้พระ เวียนเทียน วันวิสาขบูชา

ภาพจาก ตลาดน้ำขวัญ เรียม

3. ตลาดน้ำขวัญ-เรียม ตลาดน้ำกลางกรุง

ตลาดน้ำขวัญ-เรียม ตลาดน้ำกลางกรุง จัดกิจกรรมตักบาตรพระทางเรือ ในวันที่ 15 พ.ค. เวลา 7.30 – 8.00 น. และเปิดให้เวียนเทียนได้ตลอดวัน มีศาลขวัญเรียม ตำนานของคลองแสนแสบ มากราบไหว้ขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากจะได้ทำกิจกรรมทางศาสนาแล้ว ยังมีตลาดน้ำ แหล่งท่องเที่ยวที่จำลองวิถีชีวิตของชาวบ้านคลองแสนแสบ ภายในตลาดมีจำหน่ายอาหาร ขนม ของใช้อีกมายมายให้ได้เลือกชิม ช้อป หรือซื้อของกลับไปฝากกันได้อีกด้วย

ข้อกำหนดในการเข้าร่วมกิจกรรม

  • กรุณาสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทุกคน ทุกวัย
  • โปรดตรวจอุณหภูมิก่อนเข้าตลาดน้ำ
  • มีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการ
  • กรุณาเว้นระยะห่างตามที่ตลาดน้ำกำหนด

Location:

พิกัด: https://goo.gl/maps/yRCC1LQ7FPNL7Sx5A
ที่อยู่: ซ.รามคำแหง 185 ถ.รามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
การเดินทาง: ไปยังตลาดน้ำขวัญเรียม สามารถเดินทางโดยยานพาหนะส่วนตัว หรือรถโดยสารก็ได้

  • เส้นทางที่ 1 : ถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) / รถเมล์สาย 27, ปอ. 502 / รถยนต์ส่วนตัว มีที่จอด วิ่งตรงมาจาก The Mall บางกะปิ ผ่านสวนสยาม จะเจอปากทางเข้าวัดเลี้ยวเข้ามา วัดบำเพ็ญเหนือ ทางด้านขวา ต้องไปเลี้ยวกลับ
  • เส้นทางที่ 2 :ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) / รถเมล์สาย 113, 514, 519 / รถยนต์ส่วนตัว วิ่งตรงมาจาก ม.รามคำแหง ผ่านแยกบ้านม้า ผ่านซอยมิสทีนเข้ามาวัดบางเพ็งใต้ อยู่ทางซ้ายมือ
  • เส้นทางที่ 3 : รถยนต์ส่วนตัวที่มาเที่ยวทางตลาดน้ำขวัญเรียม ทางตลาดมีที่จอดรถให้ฟรี

Carro รวมที่ทำบุญ ไหว้พระ เวียนเทียน วันวิสาขบูชา

ภาพจาก กรมประชาสัมพันธ์

4. เวียนเทียนออนไลน์

หรือใครไม่อยากขับรถ ไม่อยากออกจากบ้าน เสี่ยงโรคระบาด Carro ขอแนะนำ ทำกิจกรรมทางศาสนาแบบ New Normal ไร้การสัมผัส ไม่ต้องขับรถ สามารถเลือกวันและเวลาเวียนเทียน-ปฏิบัติธรรมได้เอง ขอแนะนำ “เวียนเทียน-ปฎิบัติธรรมออนไลน์” ผ่าน www.เวียนเทียนออนไลน์.com

ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเวียนเทียน พร้อมทั้งปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นังสมาธิ ฟังเทศน์ เนื่องในวันวิสาขบูชา ร่วมปฏิบัติธรรมออนไลน์ โดยให้พุทธศาสนิกชนสามารถเลือกสถานที่เวียนเทียนได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นวัดในประเทศไทย สังเวชนียสถาน หรือ วัดไทยในต่างประเทศ พร้อมเลือกคำอธิษฐาน และสามารถแชร์ออกไปให้เพื่อนๆ ของเราได้มาร่วมเวียนเทียนออนไลน์ด้วยกันได้

นอกจากนี้เรายังมีระบบปฏิบัติธรรมออนไลน์ ซึ่งสามารถร่วมสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังเทศน์ เป็นการผสมผสานระหว่างกิจกรรมทางพุทธศาสนา และนวัตกรรมในระบบออนไลน์เข้าด้วยกัน เริ่มปฏิบัติธรรม-เวียนเทียนออนไลน์ได้ระหว่างวันที่ 12-17 พฤษภาคม 2565

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/WianTianOnline/

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

10 เขื่อนสวย วิวดี ขับรถเที่ยวได้

“เขื่อน” หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Dam” จุดประสงค์คือการสร้างที่ปิดกั้นลำน้ำธรรมชาติ ระหว่างหุบเขา หรือเนินสูง เพื่อกั้นน้ำนอกจากใช้เป็นแหล่งน้ำในหน้าแล้ง เก็บน้ำในฤดูฝน โดยยังใช้เอามาโครงการชลประทาน ผลิตไฟฟ้าก็ได้ บางพื้นที่เรียกว่าอ่างเก็บน้ำก็มี

เขื่อนในประเทศไทย นอกจากจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่พื้นที่นั้นๆ ยังนำมาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดได้ด้วย หรือพักผ่อนหย่อนใจ ให้คนมาเที่ยว ถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย

มาดูกันว่า 10 เขื่อนในประเทศไทย จะมีเขื่อนไหนที่น่าขับรถไปเที่ยว ไปทำกิจกรรมสนุกๆ กันบ้าง …

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้

ภาพจาก Thailand Tourism Directory

1. อ่างเก็บน้ำกะทูน (เขื่อนกะทูน) จังหวัดนครศรีธรรมราช

อ่างเก็บน้ำกะทูน อยู่ใน ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับการขนานนามว่า เป็นสวิสเซอร์แลนด์แดนใต้ เพราะมีทิวทัศน์ของทะเลสาบและขุนเขาที่สวยงาม เป็นฉากหลังนั่นเองครับ

หนึ่งในโครงการพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความทุกข์ยากของชาวบ้าน ซึ่งประสบเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2531 จึงทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้น จนแล้วเสร็จในปี 2540 ครอบคลุมพื้นที่ 12,500 ไร่ นับว่าเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่มาก และใต้อ่างเก็บน้ำในอดีตก็คือหมู่บ้านกะทูนในอดีตนั่นเอง

สำหรับกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว คือ การได้มาชมวิวทะเลสาบเหนืออ่างเก็บน้ำแห่งนี้ มีฉากหลังเป็นขุนเขาที่สวยงาม พร้อมกับอิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารที่ตั้งอยู่เรียงรายบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ ตามถนนเส้นคลองกะทูนใต้ หรือจะล่องเรือชมภูมิทัศน์และรับฟังประวัติชุมชนก็ได้

โดยเฉพาะในระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน ถือเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะนอกจากชมทะเลหมอกยามเช้า ยังจะได้ชื่นชมกับนกนางนวลแกลบ ที่อพยพมาอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก และเดินป่าท่องไพรไปชมน้ำตกหนานน้ำฟุ้ง ซึ่งว่ากันว่ามีความงดงามมาก

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปอ่างเก็บน้ำกะทูน : ประมาณ 710 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถได้ - เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

2. เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก

เขื่อนภูมิพล หรือในอดีตมีชื่อว่า เขื่อนยันฮี (ตามชื่อหุบเขาย่านรี แต่เรียกไปเรียกมา กลายเป็นยันฮีซะงั้น) อยู่ที่ อ.สามเงา จ.ตาก เป็นเขื่อนเอนกประสงค์แห่งแรกในไทย สร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้งขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในไทย และเอเชียอาคเนย์ จัดอยู่ในอันดับ 8 ของโลก มีความสูงจากฐานถึงสันเขื่อน 154 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร อ่างเก็บน้ำมีความจุสูงสุด 13,462 ล้าน ลบ.ม.

ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลในขณะนั้นมีแนวคิดจะสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังน้ำ จึงจัดตั้ง “คณะกรรมการพิจารณาสร้างโรงไฟฟ้าทั่วราชอาณาจักร” เพื่อสำรวจพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ พบว่าในลำน้ำปิง บริเวณหุบเขาย่านรีหรือยันฮี มีความเหมาะสมต่อการสร้างเขื่อนเป็นอย่างยิ่ง

จึงนำมาสู่การสำรวจ “เขื่อนยันฮี” ในปี พ.ศ. 2496 เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2500 – 2507 และในปีเดียวกันนี้เอง ก็มีการตั้ง “การไฟฟ้ายันฮี” (กฟย.) เพื่อรับผิดชอบการสร้างเขื่อน และผลิตไฟฟ้าให้กับภาคกลางและภาคเหนือ แล้วเสร็จทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2507

รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้ชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล เมื่อ 25 กรกฎาคม 2500 ซึ่งเขื่อนภูมิพลแห่งนี้ นอกเหนือจากการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดตากอีกด้วย

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนภูมิพล : ประมาณ 480 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก

ภาพจาก เขื่อนขุนด่านปราการชล – Khun Dan Prakarnchon Dam

3. เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก

เขื่อนขุนด่านปราการชล เดิมชื่อ เขื่อนคลองท่าด่าน ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก เป็นเขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในโลก ก่อสร้างระหว่างปี 2540 – 2546 มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูงจุดสูงสุด 93 เมตร ความจุน้ำมากถึง 224 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนขุนด่านปราการชลนี้ เป็นเขื่อนซึ่งรองรับน้ำมาจากด้านบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทางน้ำตกเหวนรก ก่อนเก็บกักและผันระบายลงสู่แม่น้ำนครนายก โดยอดีตก่อนจะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ มีเขื่อนเดิมขนาดเล็กที่ชื่อเขื่อนคลองท่าด่าน แต่ไม่สามารถหยุดยั้งปัญหาน้ำท่วมได้ กระทั่งมีการสร้างเขื่อนใหม่ทับของเก่า กลายเป็นเขื่อนขุนด่านปราการชลนี่เอง

การมาเที่ยวประกอบด้วยสองจุดใหญ่ อย่างแรกคือการชมวิวบนสันเขื่อน ซึ่งให้ภาพอ่างเก็บน้ำมุมสูงที่โอบล้อมด้วยภูเขาสวยงาม ขณะที่ฝั่งมองกลับไปยังตัวเมือง ก็เป็นภาพพาโนรามาสุดอลังการ ยามพระอาทิตย์ตกยิ่งสวยงามมาก ถนนเส้นขึ้นสันเขื่อนยังเป็นที่นิยมของการปั่นจักรยานกันอีกต่างหาก

อย่างต่อมาคือการเที่ยวเล่นน้ำด้านล่างของเขื่อน โดยนอกจากจะทำการระบายน้ำตามฤดูกาล ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือเทศกาลต่างๆ จะมีการผันน้ำเพื่อให้ประชาชนได้เล่นกันอย่างสนุกสนานด้วย มีการจัดทำที่จอดรถ ซุ้มเพิงพักผ่อนหย่อนใจ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและครอบครัวที่มาเที่ยวพักผ่อน

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนขุนด่านปราการชล : ประมาณ 125 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

4. เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2516 – 2523 บนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นับเป็นเขื่อนแห่งที่ 8 ในจำนวน 17 แห่ง ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างขึ้นเพื่ออำนวยประโยชน์ทางด้านต่างๆ ตลอดจนพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ของราษฎร และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม

เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีความสูงจากฐานราก 140 เมตร สันเขื่อนยาว 610 เมตร กว้าง 15 เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 419 ตร.กม. มีความจุมากเป็นอันดับหนึ่งคือ 17,745 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนศรีนครินทร์ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินแก่ผู้มาเที่ยวชม ก่อให้เกิดการท่องเที่ยวรอบๆ เขื่อน ไปด้วยอย่างกว้างขวาง เช่น แพท่องเที่ยวในอ่างเก็บน้ำ สวนเวลารำลึก สะพานข้ามแม่น้ำแคว น้ำตกเอราวัณ ถ้ำพระธาตุ หรือน้ำตกศรีนครินทร์ (น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น) เป็นต้น

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนศรีนครินทร์ : ประมาณ 205 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี

ภาพจาก กรมประชาสัมพันธ์

5. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นโครงการตามพระราชดำริของ รัชกาลที่ 9 นับเป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และบ้านคำพราน ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี ใช้เวลาตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2537 ถึง 30 กันยายน 2542 มีความจุน้ำ 756 ล้าน ลบ.ม.

โดยรัชกาลที่ 9 พระราชทานนามว่า “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” และเสด็จทรงเปิดเขื่อนฯ เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2542 นอกจากจะแก้ปัญหาน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลาก และน้ำแล้งในช่วงฤดูร้อน ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และบริเวณกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลอีกด้วย

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะทำการกักเก็บน้ำแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของลพบุรี ซึ่งทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีตั้งแต่จุดนั่งชมวิวริมอ่างเก็บน้ำ หอคอยเฉลิมพระเกียรติ สันเขื่อน หรือพระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย (หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก) อยู่บริเวณท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

และที่หยุดรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นที่หยุดรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี อยู่ในเขตทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่หยุดรถนี้จะมีรถไฟสายพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว คือ กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้บริการช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ทุกปี

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ : ประมาณ 160 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนพระรามหก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

6. เขื่อนพระรามหก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เขื่อนพระราม 6 ตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเขื่อนทดน้ำแห่งแรกของสยาม ใช้กั้นแม่น้ำป่าสักเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 ในปี 2467 เดิมชื่อ เขื่อนพระเฑียรฆราชา ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นเขื่อนพระราม 6 ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน นับว่าถูกใจคนชอบแหล่งท่องเที่ยวแนวย้อนยุคใกล้ๆ กรุง

ลักษณะของเขื่อนเป็นบานเหล็กจำนวน 5 ช่องทำหน้าที่เป็นประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกกว่า 680,000 ไร่ นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนหย่อนใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ริมเขื่อนอันเงียบสงบ และยังเป็นสถานที่เหมาะถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้บริเวณริมเขื่อน มีศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP ให้นักท่องเที่ยวได้แวะซื้อกลับไปเป็นของฝาก เช่น ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ดอกไม้ประดิษฐ์จากกระดาษสา เป็นต้น แลอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของพระนครศรีอยุธยา เช่น วัดสะตือ และวัดไก่แจ้ เป็นต้น จึงเป็นแหล่งแวะพักผ่อนที่ดีก่อนออกเดินทางต่อ

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนพระรามหก : ประมาณ 111 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

7. เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

เขื่อนแก่งกระจาน เป็นเขื่อนดินแห่งแรกของไทย ตัวเขื่อนเริ่มการก่อสร้างในปี 2504 – 2509 โดยรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดเขื่อนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2509 ซึ่งเป็นเขื่อนดินสูง 58 เมตร สันเขื่อนยาว 760 เมตร กว้าง 8 เมตร ระดับสันเขื่อน +106 เมตร รทก.

นอกจากนี้ยังมีเขื่อนดินปิดเขาต่ำทางขวางเขื่อนอีก 2 แห่ง คือ แห่งแรกสูง 36 เมตร สันเขื่อนยาว 305 เมตร แห่งที่ 2 สูง 24 เมตร สันเขื่อนยาว 255 เมตร อ่างเก็บน้ำมีพื้นที่ 46.5 ตร.กม. ความจุ 710 ล้านลบ.ม. เพื่อไว้ใช้ในการผลิตไฟฟ้า และชลประทานบริเวณที่ราบ จ.เพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งยังให้ประโยชน์ด้านการประมง การคมนาคมทางน้ำ และการพักผ่อนหย่อนใจ

นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้กับ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ห่างจากที่ว่าการอำเภอแก่งกระจานประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในไทย มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี และมีลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม ส่วนใหญ่จะเป็นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น นั่งเรือชมทิวทัศน์รอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน กางเต็นท์พักแรมริมอ่างเก็บน้ำ พายเรือคายักเที่ยวเล่นชมวิว เดินข้ามสะพานแขวนไปชมเกาะกลางน้ำ ชมอุทยานวังมัจฉา น้ำตกทอทิพย์ ทะเลหมอก ดูนก ผีเสื้อ เป็นต้น

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนแก่งกระจาน : ประมาณ 170 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

8. เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

เขื่อนสิริกิติ์ เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในไทยก่อสร้างขึ้น ตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน เดิมชื่อ “เขื่อนผาซ่อม” เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2506 – 2515 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “เขื่อนสิริกิติ์” เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2511 ก่อสร้างขึ้น ปิดกั้นแม่น้ำน่าน ณ บริเวณเขาผาซ่อม ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 58 กิโลเมตร

เป็นเขื่อนดินมีแกนเป็นดินเหนียว สูงจากท้องน้ำ 113.60 เมตร สันเขื่อนอยู่สูงกว่าน้ำทะเลปานกลาง 169 เมตร กว้าง 12 เมตร โดยมีฐานตอนกว้างสุด 630 เมตร การก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ทำให้เกิดอ่างเก็บขนาดใหญ่ เหนือเขื่อนมีเนื้อที่ 260 ตร.กม. กักน้ำได้ 9,510 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนสิริกิติ์ จัดเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ประโยชน์ที่ได้จากเขื่อนนี้มีอย่าง คือ การชลประทาน การบรรเทาอุทกภัย การผลิตกระแสไฟฟ้า การประมง การคมนาคมทางน้ำ และมีทิวทัศน์ที่สวยงามโดยเฉพาะในฤดูหนาว ความเงียบสงบของบรรยากาศ ประกอบกับพืชพันธุ์ไม้ที่งามสะพรั่ง มีทั้งสระบัว ลานประติมากรรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสวน ชื่อ “ประติมากรรมสู่แสงสว่าง” ลานอเนกประสงค์ และลานสุขภาพ

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนแก่งกระจาน : ประมาณ 520 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

9. เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

เขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งอยู่ ต.เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของไทย ซึ่งสร้างขึ้นถัดจากเขื่อนภูมิพล

เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างปิดกั้นแม่น้ำพอง ตรงบริเวณที่เรียกว่า “พองหนีบ” ต.โคกสูง อ.น้ำพอง (ปัจจุบันเป็น อ.อุบลรัตน์) จ.ขอนแก่น โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2507 – 2509

โดยในตัวของเขื่อนอุบลรัตน์เอง กลายเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดบางแสนสอง ทำให้เกิดแพขายอาหารและแพท่องเที่ยว พร้อมทั้งบริการเรือลากกล้วย หรือ บาบาน่าโบ๊ต มีผู้นิยมมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และยังมี่เดินชมสวนไม้ในวรรณคดี สวนประติมากรรมไดโนเสาร์ รวมถึงสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม อีกด้วย

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนอุบลรัตน์ : ประมาณ 500 กิโลเมตร

10 เขื่อนสวยในไทย ขับรถไปเที่ยวได้ - เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฏร์ธานี

ภาพจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

10. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฏร์ธานี

เขื่อนรัชชประภา เดิมเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ ที่คนไทยมักเรียกกันว่า กุ้ยหลินเมืองไทย สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อก่อสร้างเสร็จ รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” แปลว่า “Light of the Kingdom”

เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,639 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตร.กม. ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้าน ลบ.ม. และยังมีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ

เขื่อนแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งมายังชุมชนต่างๆ และที่สำคัญเขื่อนรัชชประภาแห่งนี้ ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ สวยสดงดงาม สงบร่มรื่น ภายในอ่างเก็บน้ำมีแพที่พักของอุทยานแห่งชาติเขาสก และแพเอกชนอีกหลายแห่ง ซึ่งคุณสามารถเข้าไปนอนแพได้ด้วย

คุณสามารถเช่าเรือหางยาวล่องชมความงามของเทือกเขาหินปูนเหนืออ่างเก็บน้ำ หรือเดินป่าเที่ยวถ้ำน้ำทะลุได้ จุดชมวิวสันเขื่อน มีพระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) ให้สักการะด้วย

ระยะทางจากกรุงเทพฯ (สุขุมวิท-อโศก) ไปเขื่อนรัชชประภา : ประมาณ 690 กิโลเมตร

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  • Wikipedia

10 ป้ายรถเมล์ในไทยและเอเซียที่น่ารอที่สุด

ในปัจจุบัน ประเทศไทยนอกจากจะคุ้นชินกับปัญหารถติดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกกันมานานแล้ว รวมไปถึงปัญหาของฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกปี ซึ่งเป็นที่วิตกของหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณสุข หรือด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

โดยทางออกของปัญหา (ที่ผู้สมัครฯ ผู้ว่า กทม. หลายคนบอก “เราทำได้” แน่นอน!!!!!) แต่ทว่า … ระบบขนส่งมวลชนตอนนี้อยู่ในสถานะย่ำแย่ (แม้ว่าจะเปลี่ยนรถเมล์ใหม่รัวๆ แล้วก็ตาม แต่รถเมล์หลายสายก็หายไป) ไม่จูงใจให้คนมาใช้บริการ และส่วนใหญ่ออกแบบไม่เข้ากับหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design)

ป้ายรถเมล์ไทยในอดีต

ป้ายรถเมล์ไทยในอดีต (ภาพจาก Flickr)

แถมรถเมล์ที่มีบริการยังมีสภาพเก่า ควันดำ สกปรก กะเวลารอไม่ค่อยได้ บริการไม่ค่อยดีในบางคัน และไม่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ยิ่งจุดเล็กๆ อย่าง “ป้ายรถเมล์” ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ บนความไม่สำคัญ (ของคนที่ไม่ได้รอรถเมล์) ที่บั่นทอนความรู้สึกให้อยากมาใช้บริการ น้อยลงไปอีก

ป้ายรถเมล์ยุคเก่าของไทยในปัจจุบัน

ป้ายรถเมล์ยุคเก่าของไทยในปัจจุบัน  (ภาพจาก Google Map)

เมื่อเทียบกับต่างประเทศ กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีผู้ใช้รถเมล์น้อยกว่าหลายประเทศ จากสำรวจผู้ใช้รถเมล์ เทียบกับประชากรเมือง ของ ดร.สุเมธ องกิตติกุล และคณะ พบว่า กรุงเทพฯ มีผู้ใช้รถเมล์เพียง 21% ของประชากรเมืองทั้งหมด ขณะที่ สิงคโปร์ มีผู้ใช้รถเมล์ 70% ฮ่องกง 81% และลอนดอน 70% ของประชากรเมืองทั้งหมด

ป้ายรถเมล์ยุคใหม่ของไทยในปัจจุบัน

ป้ายรถเมล์ยุคใหม่ของไทยในปัจจุบัน  (ภาพจาก Google Map)

MR.CARRO ขอนำเสนอข้อมูลของ “ป้ายรถเมล์” ทั้งในไทยและในเอเชีย (เอาแค่นี้ก่อน ไว้วันหลังค่อยยกของยุโรปมาให้อ่านกันต่อ) เรามาดูกันว่า ป้ายรถเมล์ที่ไหน น่ารอรถเมล์ที่สุดกันดีกว่า

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ไทย

แม้ว่าป้ายรถเมล์ในไทย อาจจะมีป้ายรถเมล์อยู่หลากหลายสภาพ ตั้งแต่ของใหม่ล่าสุด แจ๋วสุด ใหญ่สุด (หาดูได้ตามหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ บางที่) ครบเครื่องเรื่องเทคโนโลยี

ไปจนถึงป้ายรถเมล์ตั้งแต่ยุค “ศาลาประชากรไทย” หรือศาลาตามทางหลวง ที่ใช้งานมาจนถึง 30 – 40 ปีแล้ว หรือป้ายรถเมล์แบบยุค 2000 ที่ได้บริษัท JCDecaux (ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านบิลบอร์ดระดับโลก) และ TSF – บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จํากัด (มหาชน) มาสร้างไว้เพื่อแลกกับได้สิทธิ์โฆษณาที่ป้าย ก็ยังมีใช้งานอยู่ ในความทรงจำของใครหลายๆ คน

ไม่ว่าจะเป็นสภาพเก่า หลังคารั่ว ที่นั่งไม่มี หรือป้ายรถเมล์ อยู่ใต้บันไดสะพานลอย มืด เปลี่ยว ต้นไม้รก ป้ายโฆษณาใหญ่เกิน ตัวเลขบอกเส้นทางไม่ Update ฯลฯ ก็ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ ถ้าจะต้องมารอรถเมล์กันนานๆ

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

แต่ว่าช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 กทม. ได้เปิดตัวศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางอัจฉริยะ (Smart Bus Shelter) เช็ก ชาร์จ แชร์ ได้ฟรี และมีสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะมากขึ้น

สำหรับศาลารอรถเมล์อัจฉริยะรูปแบบใหม่ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบ Full Function และแบบ Light Function โดยแบบ Full Function จะมีระบบบอกสายรถเมล์ และเวลาการมาถึงของรถเมล์บนจอ LFD ขนาด 32 นิ้ว มีระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบไฟฟ้าส่องสว่าง พร้อมทั้งป้ายโฆษณาข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของ กทม. บนจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

นอกจากนี้ ยังมีที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และ Free Wi-Fi (ฟรีไว-ไฟ) สอดรับกับนโยบาย Smart Bus Shelter ตามแนวคิดการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งในส่วนของ Light Function จะไม่มีจอแสดงผลขนาด 55 นิ้ว และระบบ Wi-Fi Router

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

เมียนมาร์

แม้ว่าในประเทศพม่า (หรือเมียนมาร์) บนท้องถนนจะมีความงุนงงและวุ่ยวายที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเมียนมาร์เปลี่ยนมาขับรถชิดขวามาหลายสิบปีแล้ว แต่รถยนต์พวงมาลัยขวา ที่เป็นรถเก่ามาจากญี่ปุ่น ยังคงวิ่งกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง! และป้ายรถเมล์ ศาลารอรถเมล์ส่วนใหญ่ ก็ยังเก่าๆ ไม่ต่างจากบ้านเรานัก

แต่ช่วงปี 2018 ในเมียนมาร์ ได้เปิดตัวป้ายรถเมล์ใหม่ 500 จุด ซึ่งเป็นป้ายฟรีที่เอกชนของ FMIDecaux บริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างบริษัทโฆษณาระดับโลก JCDecaux (ซึ่งก็เคยมาสร้างป้ายรถเมล์ในไทย) และ FMI บริษัทใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ของพม่า ลงทุนให้กว่า 13 ล้านเหรียญ โดยมีเงื่อนไขว่า FMIDecaux จะลงโฆษณาในป้ายรถเมล์เหล่านี้ได้ฟรีเป็นเวลา 20 ปี

พร้อมทำจุดต่อคิวเพื่อให้ขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ และเพิ่มจุดจอดให้เพียงพอต่อรถที่มาถึงด้วย

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

มาเลเซีย

สำหรับป้ายรถเมล์ในมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของเราก็มีป้ายรถเมล์ที่น่าใช้บริการอยู่

ด้วยตัวป้ายที่โล่งโปร่งตากับกระจกแบบกันลมกันฝน และก็มีป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ พร้อมกับทางลาดสำหรับวีลแชร์ แต่ถ้าเป็นป้ายรถเมล์ในย่านในเมือง ตัวป้ายก็จะค่อนข้างใหญ่โต คล้ายๆ กับในหลายประเทศ

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

สิงคโปร์

สิงคโปร์ นับเป็นประเทศแรกๆ ใน ASEAN ที่ออกแบบและวางระบบเมืองอัจฉริยะ Smart City เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเริ่มปรับปรุงเมืองให้รองรับกับระบบดิจิทัลต่างๆ นับแต่ปี 2015 ที่รัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศให้เขตจูร่ง เป็นพื้นที่ทดสอบเมืองอัจฉริยะ

โครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะ Smart Bus Station ของสิงคโปร์ จัดเป็นป้ายรถเมล์ที่เป็นมิตรต่อคนทั้งมวล นับตั้งแต่มีบริการ Wi-Fi ฟรี มีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ จอแสดงผลการจราจร ที่จะบอกว่ารถเมล์แต่ละสายมาถึงป้ายในเวลากี่นาที อีกทั้งยังมีต้นไม้ หนังสือ ชิงช้า และพื้นที่แสดงผลงานโดยศิลปินท้องถิ่นบริเวณหลังป้ายด้วย

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

อินโดนีเซีย

ในอินโดนีเซีย ถ้าเป็นในตัวเมืองจาการ์ต้าจะนิยมตั้งป้ายรถเมล์ไว้ที่เกาะกลางถนน (เพราะรถเมล์จะวิ่งบริเวณบัสเลน เลนขวาสุด) แลตัวป้ายรถเมล์ที่ดีไซน์ทันสมัยหน่อย บางป้ายก็อาจจะเป็นป้ายรถเมล์แบบยกสูง แบบเปิดโล่ง มีบันได ขึ้น-ลง พร้อมทางลาดสำหรับรถวีลแชร์ และมีป้ายบอกเลขสาย ชื่อป้าย และแผนที่เส้นทางเดินรถด้วย

แต่ถ้าเป็นป้ายรถเมล์ในจังหวัดอื่นๆ ก็จะมีสภาพไม่ต่างไปจากประเทศอื่นๆ ในแถบ ASEAN นัก

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ฮ่องกง

สำหรับป้ายรถเมล์ของฮ่องกง ตามป้ายรถเมล์จะมีเสาป้ายระบุชื่อป้าย หมายเลขรถเมล์ผ่าน สถานที่จอด ถ้าในตัวเมืองป้ายรถเมล์ก็จะมีขนาดใหญ่หน่อย

วิธีรอง่ายๆ แค่เข้าแถวให้ตรงเสาป้ายให้ถูกป้ายสายที่เราจะขึ้น รถเมล์จะจอดตรงป้ายเลขนั้น

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

จีน

ป้ายรถเมล์ในจีนนั้นมีค่อนข้างหลากหลายมาก ตั้งแต่ป้ายรถเมล์แบบบ้านๆ ตามเมืองรองๆ และป้ายรถเมล์ใหญ่ๆ ในเมืองหลวง โดยแต่ละป้ายรถเมล์ก็จะมีข้อมูลรถเมล์แต่ละสายครบถ้วน ละเอียด ทั้งต้นทางและปลายทาง สถานที่ผ่าน และทิศทางที่จะไป

ซึ่งป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่จีนก็มี! เช่นในเมืองตงก่วน ป้ายรถเมล์อัจฉริยะดังกล่าว จะแสดงผลตำแหน่งแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ GPS ทำให้ผู้โดยสารทราบระยะห่างจากป้ายของรถเมล์ ช่วยให้วางแผนเวลาและวิธีการเดินทางได้ง่ายขึ้น

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ไต้หวัน

ป้ายรถเมล์ที่ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน นี่ก็ถือว่าเป็นป้ายรถเมล์ และศาลารอรถเมล์ที่น่าใช้บริการอีกจุดหนึ่ง เนื่องจากเป็นป้ายรถเมล์ที่มีบอกเลขสายแล้ว ยังบอกเวลาของรถที่จะมาถึงอีกด้วย อีกทั้งยังสะอาด ใช้งานสะดวกตามหลักอารยะสถาปัตย์

ส่วนในพื้นที่ห่างไกลที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ตั้งป้ายรถเมล์ไม่สะดวก เช่นในนครนิวไทเป ได้ร่วมกับบริษัท จงหัวเทเลคอม พัฒนาป้ายรถเมล์อัจฉริยะ e-Paper (อี-เปเปอร์) หรือ กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ บอกเวลารถเมล์มาถึง อุณหภูมิอากาศ และข้อมูลประกาศกิจกรรมต่างๆ มีแผงโซล่าเซลล์ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อชาร์ตแบตเตอรี่เต็มใช้งานได้ต่อเนื่อง 14 วัน ต้นทุนป้ายละ 1 แสนเหรียญไต้หวันเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

เกาหลี

นอกจากเราจะได้ความไฮเทคในหลายอย่างที่มาจากเกาหลีใต้แล้ว ป้ายรถเมล์ของที่นี่ ก็ยังมีความไฮเทคไม่แพ้ใครในโลกอีกด้วยครับ เช่น ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ได้เปิดตัวป้ายรถเมล์อัจฉริยะที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things

ที่นอกจากจะมีกระจก กันแดดกันฝน และยังมี Wi-Fi ฟรี และมีจอแสดงเวลาโดยประมาณที่รถเมล์จะมาถึงและหน้าจอแสดงสภาพการจราจรภายนอกตามเวลาจริงแล้ว ยังช่วยปกป้องกันโควิด-19 ได้ด้วย

ซึ่งก่อนคุณจะเข้าไปในศาลารอรถเมล์ไฮเทคนี้ จะต้องยืนหน้ากล้องตรวจจับความร้อน โดยประตูจะเปิดต้อนรับผู้ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียสเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีเครื่องจ่ายเจลล้างมือ รวมทั้งคำแนะนำให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากตลอดเวลา และเว้นระยะห่างจากกันอย่างน้อย 1 เมตร

10 "ป้ายรถเมล์" ในไทยและในเอเชีย ที่ไหนน่ารอสุด!

ญี่ปุ่น

นี่จัดว่าเป็นประเทศที่คนรอรถเมล์อยากไปรอกันเป็นอันดับต้นๆ แล้วล่ะ เพราะมีป้ายรถเมล์หลากหลายรูปแบบ ทั้งดีไซน์สวยเก๋ แต่ใช้งานได้จริงอยู่มากมาย

รวมถึงมีป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ เลขสายรถเมล์ สถานที่ต้นทาง-ปลายทาง มีตารางเวลาเดินรถที่ต่างกัน ทั้งแบบตารางสำหรับวันธรรมดา และตารางสำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ รวมถึงความถี่การเดินรถ เช่น วันธรรมดามีรถวิ่งทุกๆ 20 นาที ส่วนวันหยุดมีรถวิ่งทุกๆ 30 นาที เป็นต้น

ส่วนถ้าเป็นในเมืองใหญ่ๆ ก็จะมีป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่พัฒนาให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมจอ LCD บอกเส้นทางต่างๆ อีกด้วย

แถมรถเมล์ของญี่ปุ่น ยังจอดรถรับคนทุกป้ายด้วย! โดยที่คนรอขึ้นไม่ต้องโบกเรียกเลยทีเดียว เพียงแค่ไปยืนรอที่ป้ายรถเมล์เท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

วันนี้ก็เข้าสู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์กันแล้วนะครับ หลายคนอาจจะชอบกันเป็นพิเศษเพราะเป็นช่วงเทศกาลหยุดยาวนั่นเอง! เพราะได้พาครอบครัว ลูกหลานไปเที่ยว ไปเยี่ยมญาติ กลับบ้านเกิด หรือเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันนั่นเอง ซึ่งเวลานี้ไม่ว่าคุณจะไปไหนมาไหน ก็ต้องระวังเจ้าโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกันด้วยนะครับ …

แต่คุณทราบหรือไม่ ว่า ประเพณีสงกรานต์นี้ จัดได้ว่าเป็นประเพณีร่วมรากอุษาคเนย์ ในประเทศแถบอาเซียนเลยทีเดียว เพราะประเทศเพื่อนบ้านของเรา อย่าง ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อยชาวไตแถบเวียดนาม และสิบสองปันนา มนฑลยูนนานของจีน รวมถึงศรีลังกา และในประเทศอินเดีย ก็มีประเพณีรดน้ำ สาดน้ำแบบบ้านเราเช่นกัน

สำหรับประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์ จะมีตำนานและที่มาอย่างไรนั้น CARRO มีข้อมูลน่ารู้มาฝากครับ

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

ประวัติวันสงกรานต์

ประเพณีสงกรานต์ สันนิษฐานกันว่าได้รับวัฒนธรรมมาจากเทศกาลโฮลีในอินเดีย แต่เทศกาลโฮลี (Holi) จะใช้การสาดสีแทน ถือว่าเป็นการปัดเป่าโรคร้ายไปจากตัว เพราะสีที่นำมาสาดใส่กันนั้น เป็นสีที่ได้มาจากพืชพรรณและสมุนไพรตามธรรมชาติ โดยจะจัดให้มีขึ้นในทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ซึ่งก็คือเดือนมีนาคม แต่ก็มีนักเขียนด้านประวัติศาสตร์ บอกว่าคนละความหมายกันกับความเชื่อของสงกรานต์ก็ตาม

สำหรับคำว่า สงกรานต์ เป็นคำในภาษาสันสกฤตหมายถึง การเคลื่อนย้าย โดยอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายการประทับในจักรราศี หรือการเคลื่อนเข้าสู่ปีใหม่ตามความเชื่อของไทยและบางประเทศในแถบ ASEAN ซึ่งประเพณีสงกรานต์มีสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณคู่กับตรุษ จึงมักเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึง การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

เดิมทีวันที่จัดสงกรานต์นั้น มีการคำนวณทางดาราศาสตร์ แต่ในปัจจุบันได้กำหนดวันที่แน่นอน คือ ตั้งแต่ 13 – 15 เมษายน หรือมีชื่อเรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันเนา และวันเถลิงศก

แต่เดิม วันขึ้นปีใหม่ไทย คือ วันเริ่มปีปฏิทินของไทยจนถึง พ.ศ. 2432 จึงเปลี่ยนแปลงมาเป็นวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ สาเหตุก็เพราะสอดคล้องกับธรรมเนียมโบราณ หากนับทางจันทรคติ จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ซึ่งก็คือวันสงกรานต์ หรือวันที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีนไปสู่ราศีเมษนั่นเอง แม้ว่าในปีต่อไปจะไม่ตรงกับวันสงกรานต์ (หมายถึงวันที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีน ไปสู่ราศีเมษ)

จนถึง พ.ศ. 2483 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ประกาศให้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามแบบสากลนิยมแทนวันที่ 1 เมษายน โดยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2484 เป็นต้นมา

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

เทศกาลสงกรานต์ ในอดีต-ปัจจุบัน

ในอดีต เทศกาลสงกรานต์ จะมีพิธีกรรมที่มีแค่ภายในครอบครัว หรือในชุมชน แต่ในปัจจุบันได้ปรับเทศกาลสงกรานต์ในระดับประเทศ ทุกจังหวัดมักจัดงานกัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว และในวันนี้จะใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ มีการรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ และการสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคลในปีใหม่ไทย

ในสังคมไทยสมัยใหม่ สงกรานต์ กลายเป็นประเพณีที่ผู้คนนิยมกลับบ้านในต่างจังหวัด หรือไปเที่ยวต่างประเทศและวังสงกรานต์ ยังมีแบ่งให้เป็นวันเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ในวันที่ 13 เมษายน และวันครอบครัว ในวันที่ 14 เมษายน อีกด้วย

ซึ่งก็ยังมีประเพณีที่สืบทอดมาตั้งแต่ดั้งเดิมและถูกแปลงไปแบบสมัยใหม่ เช่นแหล่งเล่นน้ำของเหล่าวัยรุ่น วัยทำงาน ในย่านห้างต่างๆ หรือสถานบันเทิงต่างๆ กลายเป็น Water Festival หรือ เทศกาลแห่งน้ำ ไป

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

กิจกรรมสงกรานต์ มีอะไรบ้าง?

การทำบุญตักบาตร นับว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้ตนเอง อีกทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว การทำบุญในลักษณะนี้มักจะมีการเตรียมไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาทำบุญก็จะนำอาหารไปตักบาตรถวายพระภิกษุที่ศาลาวัดโดยจัดเป็นที่รวมสำหรับการทำบุญ พอหลังจากทำบุญเสร็จเรียบร้อย ก็จะก่อเจดีย์ทรายอันเป็นประเพณีที่สำคัญในวันสงกรานต์อีกด้วย

การรดน้ำ นับได้ว่าเป็นการอวยพรปีใหม่ให้แก่กันและกัน น้ำที่นำมาใช้รด มักเป็นน้ำหอมเจือด้วยน้ำธรรมดา

การสรงน้ำพระ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด ซึ่งในบางที่ก็จะมีการจัดให้สรงน้ำพระสงฆ์เพิ่มเติมด้วย

การบังสุกุลอัฐิ สำหรับเถ้ากระดูกของญาติผู้ใหญ่ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว มักทำที่เก็บเป็นลักษณะของเจดีย์ จากนั้นจะนิมนต์พระไปบังสุกุล

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

การรดน้ำผู้ใหญ่ คือการที่เราไปอวยพรผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ อย่าง ครูบาอาจารย์ มักจะนั่งลงกับที่ จากนั้นผู้ที่รดก็จะเอาน้ำหอมเจือกับน้ำธรรมดารดลงไปที่มือ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะให้ศีลให้พรผู้ที่ไปรด หากเป็นพระก็อาจนำเอาผ้าสบงไปถวายเพื่อให้ผลัดเปลี่ยนด้วย แต่หากเป็นฆราวาสก็จะหาผ้าถุง หรือผ้าขาวม้าไปให้เปลี่ยน เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในวันปีใหม่ไทย

การดำหัว มีจุดประสงค์คล้ายกับการรดน้ำของทางภาคกลาง ส่วนใหญ่จะพบเห็นการดำหัวได้ทางภาคเหนือ การดำหัวทำเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ที่อาวุโสว่า ไม่ว่าเป็น พระ ผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน หรือเป็นการขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ของที่ใช้ในการดำหัวหลักๆ ประกอบด้วย อาภรณ์ มะพร้าว กล้วย ส้มป่อย เทียน และดอกไม้

ประวัติวันสงกรานต์ และเทศกาลวันสงกรานต์

การปล่อยนกปล่อยปลา ถือว่าการล้างบาปที่เราได้ทำไว้ เป็นการสะเดาะเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นดี มีแต่ความสุข ความสบายในวันขึ้นปีใหม่

การขนทรายเข้าวัด ในทางภาคเหนือนิยมขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นนิมิตโชคลาคให้พบแต่ความสุข ความเจริญ เงินทองไหลมาเทมาดุจทรายที่ขนเข้าวัด แต่ก็มีบางพื้นที่มีความเชื่อว่า การนำทรายที่ติดเท้าออกจากวัดเป็นบาป จึงต้องขนทรายเข้าวัดเพื่อไม่ให้เกิดบาปนั่นเองครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

แนะนำสถานที่ตระเวนทำบุญ รับสงกรานต์ 2565

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 แบบนี้ หลายท่านใช้โอกาสที่จะได้หยุดกันแบบยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตั้งแต่ 5 – 16 วัน ได้ชาร์จแบตพักผ่อนหลังจากที่ต้องทำงานหนักกันมา เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือกินดื่มฉลองกันท่ามกลางเทศกาลแห่งความสุขแห่งนี้

แต่หลายคนก็เลือกที่จะใช้โอกาสในช่วงหยุดยาว พาครอบครัวเข้าวัดทำบุญ สรงน้ำพระ ไม่ว่าจะเป็นวัดใกล้ๆ บ้าน หรือวัดดังๆ ก็ตาม เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และก็ถือได้ว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของหลายครอบครัวเช่นกัน

CARRO ขอนำเสนอ 10 วัดดังๆ ที่ผู้คนนิยมไปเพิ่มพลังบุญ ทำบุญ สรงน้ำพระ กันในวันสงกรานต์ 2565 ครับ

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

สำหรับ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ที่คนไทยรู้จักกันดี จัดเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย

โดยรัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้น พร้อมกับการสร้างพระบรมมหาราชวัง และการสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี เมื่อปี 2325 ตามประเพณีการสร้างพระอารามหลวงในเขตพระราชวังที่มีมาตั้งแต่อดีต และเพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต

อีกทั้งในบริเวณเดียวกัน หากคุณไหว้พระเสร็จแล้ว ก็สามารถเที่ยววัดอื่นๆ โดยรอบ หรือแถวท่าช้าง ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ หรือสนามหลวงต่อได้เลย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ท่ามหาราช
  • วัดโพธิ์
  • วัดมหาธาตุ
  • ราชนาวีสโมสร

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

ภาพจาก watpho.com

2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

มาที่อีกวัดที่อยู่ใกล้ชิดกับวัดพระแก้วเลย นั่นคือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการสร้าง แต่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นหลัง ปี 2231 ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บ้างว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพระเพทราชา เดิมเรียกว่า “วัดโพธาราม” หรือ “วัดโพธิ์”

วัดโพธิ์ จัดเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์ พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล

ซึ่งในปีนี้มีจัดงาน “สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด” ให้ทุกคนได้ทำบุญกันตามประเพณี กับสงกรานต์วิถีไทย สรงน้ำพระพุทธรูป ขอพรเสริมสิริมงคล ถ่ายรูปกับพระเจดีย์ทราย ที่ตกแต่งสวยงาม รูปทรงเดียวกับเจดีย์ภายในวัดโพธิ์ สามารถไปร่วมกิจกรรมวันสงกรานต์ ได้จนถึงวันที่ 17 เมษายนนี้

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ท่ามหาราช
  • วัดโพธิ์
  • วัดมหาธาตุ
  • ราชนาวีสโมสร

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)

ภาพจาก watarun1.com

3. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาย่านฝั่งธนบุรีกันบ้าง มาที่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณที่สร้างในสมัยอยุธยา สำหรับที่มาของวัดแจ้ง เพราะสมัยพระเจ้าตากสินทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี

แต่ความเชื่อนี้บางส่วนแย้งว่าไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว

สำหรับวัดอรุณนอกจากจะเคยมีความโดดเด่นอยู่ในเหรียญ 10 บาทแล้ว ยังมีพระปรางค์ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสัญลักษณ์ความสวยงามในสายตาชาวโลก และเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน

ซึ่งพระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ก่อสร้างโดยช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญ บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน มีการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบัน คู่กันกับพระปรางค์เล็ก 4 องค์ รอบ 4 ทิศ โดยรอบพระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ด้วย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ท่ามหาราช
  • ราชนาวีสโมสร
  • ริมถนนอรุณอมรินทร์
  • วัดกัลยาณมิตร

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

ภาพจาก วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

4. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง จัดเป็นวัดชื่อดังในย่านฝั่งธนฯ อีกหนึ่งวัด เป็นวัดเก่าสร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ยุครัชกาลที่ 1 ได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระแก้ว โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นจึงได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม”

สำหรับพระประธานในพระอุโบสถวัดระฆัง มีชื่อว่า พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ 4 ศอกเศษ เบื้องพระพักตร์มีรูปพระสาวก 3 องค์ นั่งประนมมือดุจรับพระพุทธโอวาท ซึ่งพระประธานองค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก โดยมีเรื่องเล่ากันว่า รัชกาลที่ 5 เคยตรัสว่า “ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที”

และมีความเชื่อกันว่า ถ้าได้มาไหว้พระที่วัดระฆัง จะมีคนนิยมชมชื่น มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • อาคารจอดรถภายในวัดระฆัง
  • ลานจอดรถปากซอยอรุณอมรินทร์ 20
  • ริมถนนอรุณอมรินทร์

วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

ภาพจาก วัดสุทัศน์เทพวราราม

5. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า วัดสุทัศน์ เริ่มสร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 1 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” โดยมีพื้นที่ตั้งอยู่ในดงสะแก เป็นที่ลุ่ม จึงโปรดเกล้าฯ ให้ถมที่สร้างเป็นวัด และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อน เพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย

ภายในพระวิหารมี พระศรีศากยมุนี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ถอดแบบมาจากพระวิหารพระมงคลบพิตร จ.กรุงศรีอยุธยา ส่วนที่พระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธตรีโลกเชฏฐ์ ปางมารวิชัย และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเป็นฝีมือช่างชั้นครูในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่สำคัญ วัดนี้ยังจัดเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 ด้วย

หลายคนว่า หากได้มาไหว้พระที่วัดสุทัศน์ จะทำให้ชีวิตมีอนาคตกว้างไกล เป็นที่รักแก่บุคคลทั่วไป

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ริมถนนศิริพงษ์
  • The Old Siam Plaza (ดิโอลด์สยามพลาซ่า)
  • ศาลเจ้าพ่อเสือ
  • โรงเรียนภารตะ
  • วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า
  • โรงเรียนภารตวิทยาลัย

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

ภาพจาก วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม : Marble Temple

6. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร หรือนิยมเรียกสั้นๆ ว่า วัดเบญจ (และโค้งวัดเบญจ ที่คนเชียร์ม้าในสนามม้านางเลิ้งรู้จักกันดี) ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่เดิมชื่อ วัดแหลม หรือ วัดไทรทอง ภายหลังได้รับพระราชทานนามจาก รัชกาลที่ 5 ว่า วัดเบญจบพิตร ซึ่งหมายถึง วัดของเจ้านาย 5 พระองค์ ที่ทรงร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดนี้

เมื่อ รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างสวนดุสิตขึ้น พระองค์ทรงทำผาติกรรมสถาปนาวัดขึ้นใหม่และพระราชทานามว่า วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อันหมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 และเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในชื่อ “Marble Temple”

จุดเด่นของวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร นั่นคือ การวางแปลนแผนผังที่ดีที่สุดวัดหนึ่ง พระอุโบสถอันวิจิตรงดงาม สร้างด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากเมืองคาร์รารา (Carrara) ประเทศอิตาลี พระประธานภายในของวัด จำลองมาจากพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก

และบริเวณพระระเบียงด้านหลังพระอุโบสถ เรียงรายด้วยพระพุทธรูปโบราณปางต่าง ๆ 52 องค์ ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงรวบรวมมาจากหัวเมืองต่างๆ และต่างประเทศ

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • หน้าวัดและภายในวัด

วัดโสธรวรารามวรวิหาร

ภาพจาก วัดโสธรวราราม วรวิหาร

7. วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธโสธร” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.98 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง

ตามตำนานเล่าว่า หลวงพ่อพุทธโสธร ได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้

ปกติแล้ว วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดที่มีผู้คนมาอธิษฐานขอพรกันเป็นจำนวนมาก ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี จะมีผู้คนแวะเวียนกันมาหนาแน่นตลอดทั้งวัน หากใครบนบานหรือขอพรได้ตามปรารถนา ก็จะมาแก้บนกันด้วยไข่ต้ม หรือ ละครรำ แต่ไข่ต้มนั้นเป็นที่นิยมมาก จนทำให้การถือตะกร้าไข่ต้มในวัดแห่งนี้เป็นเรื่องปกติไปเลย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ลานจอดรถ, ตึกจอดรถภายในวัด
  • โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร

วัดพนัญเชิงวรวิหาร

ภาพจาก วัดพนัญเชิงวรวิหาร หลวงพ่อโต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

8. วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา

วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดารเหนือ กล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง อีกทั้งพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ระบุว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1868 หรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สถาปนากรุงศรีอยุธยาได้ 26 ปี

ภายในวัดมีจุดเด่นสำคัญ คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง(三宝公 / 三寶公)ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อโต หรือพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร วัสดุปูนปั้นลงรักปิดทอง ถือกันว่าเป็นพระโบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาแต่แรกสร้างกรุง

หลวงพ่อโต เป็นพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในหมู่ชาวจีนมากโดยเรียกกันว่า “ซำปอกง” นอกจากชาวไทยแล้ว ยังมีผู้มีเชื้อสายจีน ยังหลั่งไหลกันมากราบไหว้บูชาจำนวนมาก

นอกจากหลวงพ่อโต หรือเจ้าพ่อซำปอกง แห่งวัดพนัญเชิง ที่ผู้คนมาสักการะกันอย่างหนาตาในทุกเทศกาลแล้ว ใกล้กันนั้นยังมี “ศาลพระนางสร้อยดอกหมาก” หรือ “ศาลเจ้าแม่แอเนี้ย” อันเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมในยุคก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ที่มีผู้คนนิยมมาขอพรความรัก มาสักการะไม่น้อยเช่นกัน

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ภายในวัดพนัญเชิง
  • วัดใหญ่ชัยมงคล

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

ภาพจาก วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่

9. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ โดย พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์มังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า “วัดลีเชียงพระ” สมัยพญาแสนเมืองมาขึ้นครองเวียงเชียงใหม่ โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย มาประดิษฐาน

ภายในประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ “เชียงแสนสิงห์หนึ่ง”

ซึ่งในวันสงกรานต์ หรือช่วงประเพณีปี๋ใหม่เมือง จะประดิษฐานขึ้นบนรถบุษบกแห่ไปรอบเมืองเพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำพระเนื่องในเทศกาลปีใหม่ตามคติล้านนาด้วย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ภายในวัดพระสิงห์
  • โรงเรียนธรรมราชศึกษา

วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน)

ภาพจาก วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน)

10. วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

วัดสุดท้าย ขอพาลงใต้มาที่วัดมหัตตมังคลาราม (หรือวัดหาดใหญ่ใน) เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์เมื่อปี 2479 โดยนายทอง และนางฉิ้น ใจเย็น ได้บริจาคที่ดินของตนส่วนหนึ่งในครั้งแรก ต่อมาในปี 2520 ได้เปลี่ยนนามวัดมาเป็น “วัดมหัตตมังคลาราม” เพื่อให้สอดคล้องกับนามพระพุทธไสยาสน์ ที่ รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทาน

ปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ พระนอนขนาดใหญ่ หรือ พระพุทธมหัตตมงคล มีความยาว 35 เมตร สูง 15 เมตร และกว้าง 10 เมตร นับว่าเป็นพระนอนใหญ่อันดับ 3 ของโลก

เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางวัดจะจัดพิธีล้างทำความสะอาดพระนอนประจำปี ที่ถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาทุกปี โดยจะมีชาวบ้านมาช่วยกันทำความสะอาด รวมทั้งใช้รถกระเช้าขึ้นไปฉีดน้ำล้างองค์พระนอน เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก และยังร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าห่มพระนอนอีกด้วย

สถานที่จอดรถใกล้เคียง:

  • ภายในวัดหาดใหญ่ใน

สงกรานต์ปีนี้ ไม่ว่าคุณจะเพิ่มพลังบุญ ทำบุญสรงน้ำพระที่ไหน จะเป็นวัดมีชื่อเสียงหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าการได้พาตัวเองและครอบครัวได้พบกับความสุข ความสบายใจ และความเป็นสิริมงคลในช่วงหยุดยาว ที่สำคัญอย่าลืมขับรถด้วยความระมัดระวัง และความปลอดภัยด้วยนะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ช่วงสงกรานต์ 2565 มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! อย่าลืม ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้อง CARRO Automall

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ