Car-Pawn-For-Sale

รถหลุดจำนำ ราคาถู้กถูก แต่ขับแล้ว ไม่รู้จะโดนตำรวจจับเมื่อไหร่!!!

Car-Pawn-For-Sale

“รถหลุดจำนำ” ที่หลายต่อหลายคน เห็นมีการประกาศลงขายในกลุ่ม Facebook มากมายนั้น ราคามันช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน! กับรถที่สภาพยังดูใหม่ บางคันมีเอกสารด้วย แต่ประกาศขาย ในราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อ!!!

ใช่ครับ แต่ … เพราะถ้ารถโอนได้ปกติ ราคาขายคงไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ ขนาดรถย้อมแมว หรือรถอุบัติเหตุมาทำใหม่ ยังขายไม่ได้ราคาแบบนี้เลย

เรามารู้กันดีกว่าครับว่า รถหลุดจำนำ คือรถอะไร ประเภทไหน และถูกกฎหมายหรือไม่ …

Car-Pawn-For-Sale

รถหลุดจำนำ คือ รถที่เจ้าของรถมีปัญหาด้านการเงิน จึงเอารถไปจำนำกับคนที่รับจำนำ หรือปล่อยตามบ่อน โดยทำสัญญากันเพียงแค่โอนลอย และต้องจ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไถ่ถอนคืนได้ทั้งหมด เหมือนเราเอาของไปเข้าโรงรับจำนำนั่นล่ะครับ พอเจ้าของรถไม่มาไถ่ถอนตามเวลาที่กำหนด รถยนต์คันนั้นจะกลายเป็นรถหลุดจำนำทันที พ่อค้าที่จำนำรถไว้ก็เอารถมาขายทอดตลาดอีกที

หรือ รถหลุดจำนำชื่อบุคคล มีเอกสารหน้าเล่ม กับสัญญารับจำนำ หรือ รถที่ถูกขโมยมา

คนที่ซื้อรถหลุดจำนำมาใช้ จะเรียกได้ว่า เป็นรถที่ผิดกฎหมายก็ไม่เชิง คือสามารถซื้อได้ขายได้ แต่แทบจะร้อยทั้งร้อย ไม่สามารถโอนได้ แม้ว่าพ่อค้าจะรับจำนำรถที่มีเอกสารถูกต้อง

Car-Pawn-For-Sale

โดยหลักแล้ว รถหลุดจำนำ จะมีเอกสารดังกล่าวนี้

  • สำเนาหน้าเล่มทะเบียนรถยนต์
  • สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
  • สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของรถ
  • เอกสารโอนลอยรถยนต์ (เจ้าของรถเซ็นชื่อไว้เรียบร้อย)
  • เอกสารมอบอำนาจ (เจ้าของรถเซ็นชื่อไว้เรียบร้อย)

Car-Pawn-For-Sale

เพราะรถหลุดจำนำรถส่วนใหญ่ มัก “ติดไฟแนนซ์” ยังผ่อนไม่หมด กรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถ (ในเล่มทะเบียน) ก็ยังเป็นของไฟแนนซ์อยู่ การต่อ พ.ร.บ. หรือการทำประกันภัยต่างๆ ก็คงไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะมีแค่รถ และกุญแจที่เป็นของเราเท่านั้น โดยกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถและชื่อผู้ครอบครองยังเป็นของเจ้าของคนเดิมอยู่

บางคันแจ๊คพอต ดันเป็นรถที่ถูกขโมยมา หรือนำซากรถมาสวมทะเบียน เพื่อให้ตามจับได้ยาก โดยใช้รถที่มีสี รุ่น และปีเดียวกัน มาสวมทะเบียน และมีการดัดแปลงเลขตัวถังให้ตรงกัน เอาทะเบียนรถคันอื่นมาสวม ดังที่เป็นข่าวเรื่อง “รถฝาแฝด” อยู่บ่อยๆ นั่นล่ะครับ

Car-Pawn-For-Sale

รถฝาแฝด รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน และทะเบียนเหมือนกัน!

คนที่ซื้อรถหลุดจำนำไป ก็ต้องรับความเสี่ยงให้ได้ครับ เพราะเหมือนเอาของที่ยังผ่อนไม่หมดไปขายต่อ ถ้าไฟแนนซ์และตำรวจตามรถจนเจอ ก็จะโดนยึดรถ ถ้ามีการฟ้องร้อง หรือมีคนแจ้งรถหายไว้ (ในกรณีที่เป็นรถถูกขโมยมา) คนที่ซื้อไป อาจจะโดนข้อหารับของโจรไปอีกกระทง

และยังเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อแก๊งต้มตุ๋นที่ขายรถพวกนี้ รู้กันกับคนมีสีไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว อาจถูกตำรวจไปตามยึดรถ หลังจากซื้อมาขับเพียงไม่กี่เดือน พร้อมข่มขู่เอาเงินคุณก็ได้ หากคุณไม่ยอมก็จะถูกจับดำเนินคดี จนต้องยอมจ่ายไป

Car-Pawn-For-Sale

รถฝาแฝด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือเรื่องจริง!

ทางที่ดี อย่าไปเล่นเลยครับรถประเภทนี้ ถึงจะราคาถูกมากๆ ก็เถอะ ได้ไม่คุ้มเสียหรอกครับท่าน

ซื้อรถทั้งที เราควรจะวางแผนทางการเงินดีๆ มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้น้อย เหลือเก็บใช้หนี้ (แบบที่คุณน้าวีระ ธีรภัทร ชอบพูดในรายการวิทยุบ่อยๆ นั่นละครับ) ซื้อรถที่มีเอกสาร มีเล่มทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจะดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่ง หรือรถมือสอง ก็ตาม …

ถ้าคุณอยากซื้อ-ขายรถแบบปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องรถหลุดจำนำ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สวพ.91

Buy-Secondhand-Cars-And-Vat

เรื่อง “ภาษี” ถ้าคนที่ไม่คุ้นชิน มักจะมีอะไรที่ชวนให้งงอยู่เสมอ … แม้กระทั่งการซื้อ-ขายรถ ก็เช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ถ้าหากคุณซื้อรถมือหนึ่งจากโชว์รูม ไม่ว่าจะจ่ายด้วยเงินสด หรือจะผ่อนดาวน์ก็แล้วแต่ ล้วนถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ “VAT 7%” ด้วยกันทั้งสิ้น

แต่ถ้าซื้อรถมือสองล่ะ บางคนบอกว่า ฉันซื้อมา ไม่เห็นต้องเสียภาษีอะไรเลย แต่บางคนก็บอกว่าซื้อมาแล้ว ต้องเสียภาษี VAT 7% ด้วย!

CARRO จะมาเล่าให้ฟังครับ ว่าทำไม ซื้อรถมือสอง ถึงมีทั้งคนที่ต้องเสียภาษี และไม่ต้องเสียภาษี ครับ.

Buy-Secondhand-cars-And-VAT-Tax

VAT (Value Added Tax) คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ปัจจุบันเราจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ในอัตราคงที่ 7% (ซึ่งคำนวณมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม 6.3% + ภาษีท้องถิ่น 0.7%) เกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อขาย จะกี่ครั้งก็ตาม ผู้ขายจะต้องมีหน้าที่นำเงินส่ง กรมสรรพากร ครับ

ซื้อรถมือสอง หากคุณซื้อรถระหว่าง “บุคคลธรรมดา” ในกรณีนี้ “ไม่ต้องเสียภาษี”

เพราะจัดว่า บุคคลธรรมดา ได้ขายสินค้าที่เป็นทรัพย์สินสิ่งของใช้ส่วนตัว หากการขายรถดังกล่าว ไม่ได้กระทำไปในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ ก็ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนคนที่ซื้อรถไปก็เสียแต่ค่าโอนรถ + ค่าอากรแสตมป์แค่นั้นครับ

และในส่วนของ ผู้ขายรถ (ที่เป็นบุคคลธรรมดา) ทางกรมสรรพากร กำหนดให้ผู้มีเงินได้ได้รับยกเว้น ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ประจำปี ตามมาตรา 42 (9) แห่งประมวลรัษฎากร ก็คือ ขายรถได้เท่าไหร่ รับเงินเข้ากระเป๋าลูกเดียว ไม่ต้องจ่ายภาษีครับ

กรณีที่คุณซื้อกับเต็นท์รถ บริษัท หรือจากบุคคลที่ใช้ในการประกอบกิจการและเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม อันนี้ล่ะครับ ที่ “ต้องเสียภาษี”

เช่น เต็นท์รถที่คุณไปซื้อ เขาจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัด หรือในรูปแบบ ห้างหุ้นส่วนจำกัด, ห้างหุ้นส่วนสามัญ และ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ซึ่งราคารถที่เขาลงประกาศนั้น หากมีการลงบัญชีเข้าในบริษัทแล้ว ก็ย่อมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือ VAT 7%) เข้าไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง …

Buy-Secondhand-cars-And-VAT-Tax

ยกตัวอย่างเช่น รถมือสองที่คุณกำลังจะซื้อราคา 400,000 บาท บวกกับ VAT 7% ของราคารถเท่ากับ 28,000 บาท ดังนั้นราคาตัวรถจริงๆ ที่คุณจะต้องจ่าย นั่นคือ 400,000 + 28,000 = 428,000 บาท

ไม่ว่าจะซื้อสด หรือซื้อผ่อน ก็ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มครับ แต่โดยมากแล้ว ทางเต็นท์ก็จะมีวิธีการจัดการเอา เราก็อาจไม่ต้องเสียภาษีครับ

หรือยกเว้นว่า เป็นรถฝากขาย เต็นท์รถจะให้ผู้ฝากขายรถโอนลอย เมื่อมีคนมาซื้อไป หรือรถบ้าน ที่ผู้ซื้อผู้ขายตกลงไปซื้อกันเอง อย่างนี้ไม่เสียภาษี

Buy-Secondhand-cars-And-VAT-Tax

อีกกรณีหนึ่ง รถที่เต็นท์ไปประมูลมาจากบริษัทประมูล เขาบวกภาษีมูลค่าเพิ่มมาเรียบร้อยแล้ว พอทางเต็นท์นำรถมาขาย เขาจึงต้องบวกภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปอีกต่อหนึ่ง เท่ากับว่า รถคันนี้เสียภาษีมาแล้วสองต่อ ทำให้ราคาสุทธิแพงขึ้น ถ้าเทียบกับซื้อต่อจากบุคคลธรรมดา

ถ้าหากนำรถไปจัดไฟแนนซ์ด้วยแล้ว ก็ยังต้องเสีย VAT 7% เพิ่มอีกเช่นกันครับ

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Cover-เก็บเงินวันละ 100 บาท ซื้อรถมือสองรุ่นไหนได้บ้าง

มีสลึง พึงบรรจบ ให้ครบบาท … เก็บเงินวันละร้อยบาท ก็ซื้อรถมือสองได้ …

แม้ว่าช่วงนี้ เศรษฐกิจจะไม่ดีนัก การเงินฝืดเคือง จะเก็บเงินซื้ออะไรสักอย่าง ก็อาจจะต้องใช้เวลา โดยต้องวางเป้าหมายไว้ เริ่มจากเก็บเงินน้อยๆ ไปก่อน รวบรวมให้ได้มากๆ ก็จะเป็นเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาเอง …

CARRO จะมาแนะนำครับ ว่า หากคุณเก็บเงินเพียงวันละ 100 บาท จะซื้อรถอะไรได้บ้าง …

Keep-100-Baht-Toyota-Corolla-EE101-AE101-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 1 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 1 ปี เป็นจำนวนเงิน 36,500 บาท คุณก็สามารถซื้อ Toyota Corolla (EE100/AE101) แบบตามสภาพได้ 1 คัน เหมาะสำหรับคนที่กำลังตั้งเนื้อตั้งตัว ได้รถที่อึด ถึก ทน ไว้ใช้หาเงิน หรือให้เมียไว้ใช้ขับไปส่งลูกที่โรงเรียน

Keep-100-Baht-BMW-Series-5-E34-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 2 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 2 ปี เป็นจำนวนเงิน 75,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ BMW Series 5 (E34) สภาพต้องไปลุ้นเอา (ว่าซ่อมมากน้อยแค่ไหน) ได้ 1 คัน เหมาะสำหรับคนชอบรถหรูคันใหญ่ๆ หน่อย จากแดนเยอรมนี และยังมีเงินส่วนต่างเหลือไว้ซ่อม อีกนิดหน่อยครับ

Keep-100-Baht-Mercedes-Benz-C-Class-W202-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 5 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 5 ปี เป็นจำนวนเงิน 179,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ Mercedes-Benz C-Class (W202) สภาพงามๆ ได้ 1 คัน เหมาะสำหรับคนชอบรถหรูรุ่นเริ่มต้น กับรถตราดาวสามแฉกครับ

Keep-100-Baht-Toyota-Vios-Honda-City-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 10 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 10 ปี เป็นจำนวนเงิน 365,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) หรือ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ได้แล้วครับ แถมยังเหลือเงินส่วนต่าง เอาไว้ซ่อมได้อีกด้วยครับ

Keep-100-Baht-Toyota-Vios-Honda-CR-V-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 15 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 15 ปี เป็นจำนวนเงิน 523,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ Honda CR-V (เจเนอเรชั่นที่ 3) ได้ 1 คันครับ แถมยังเหลือเงินส่วนต่าง เอาไว้ซ่อมได้อีกด้วยครับ

ซื้อรถมือสอง ต้องเก็บเงินวันละ 100 บาท แต่ถ้าจะขายรถมือสอง ต้องมาขายที่ CARRO (คาร์โร) ครับ …

แต่ถ้าใครอยากขายรถ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ซื้อซากรถ ขายซากรถ

“ซากรถ” ถ้าจะว่ากันตามตรง ก็คือ รถที่หมดสภาพการใช้งานแล้ว นั่นเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น รถเกิดอุบัติเหตุมา ชนจนยับ แบบว่าโครงสร้างหลักๆ ตัวรถบิดงอไป ถ้าหากซ่อมแล้วคงไม่เหมือนเดิม ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย หรือเป็นรถที่เก่ามากๆ อะไหล่หายากมากๆ เสียหรือจอดทิ้งไว้นานจนใช้การไม่ได้ หรือรถที่ถูกน้ำท่วมมา เป็นต้น

ซื้อซากรถ ขายซากรถ

ภาพจาก สตาร์ บอย

คนอยากขายซากรถ ก็เพราะรถใช้งานไม่ได้แล้ว เก็บไว้ก็รกสถานที่ กับการที่บริษัทประมูล บริษัทประกันภัย ได้ซากรถมาจากผู้เอาประกันภัยอีกที (กฎหมายมีว่า ถ้าทุนประกันเกินกว่า 80% ของราคารถ ซากรถจะเป็นของบริษัทประกันภัย) ส่วนคนซื้อ ก็ต้องการเศษชิ้นส่วนจากซากรถที่ยังพอใช้การได้ นำไปเป็นอะไหล่ใส่ให้รถของตัวเอง แกะชิ้นส่วนขาย หรือนำเศษเหล็กไปหลอมใหม่ ก็มีจะบรรดาอู่หรือป่าช้ารถต่างๆ ติดต่อขอซื้อไปทำอะไหล่กันในราคาถูกๆ

CARRO ขอแนะนำเกร็ดความรู้ต่างๆ สำหรับคนที่อยากซื้อ หรืออยากขายซากรถ ครับ.

ซื้อซากรถ ขายซากรถ

ภาพจาก Buddy Ratchasinghan

อยากซื้อซากรถ

ถ้าเป็นไปได้ หากต้องการซื้อซากรถไปปั้นใหม่ ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ควรเลือกซากรถที่ยังมีทะเบียนอยู่ แต่อาจจะหายากหน่อย (แต่บางกรณี ที่ผู้ขายก็อยากเก็บทะเบียนไว้ เพื่อป้องกันผู้ซื้อไปแล้วนำไปสวมใส่กับรถคันอื่น ในกรณีที่เป็นซากรถจากการเกิดอุบัติเหตุมา หรือป้องกันผู้ซื้อไปแล้ว ไม่ยอมไปโอนทะเบียนรถเป็นของตัวเอง และนำไปทะเบียนไปสวมรถคันอื่นใช้ก่อเรื่องก่อราว)

ที่สำคัญ แม้ว่าจะเป็นซากรถ ก็ต้องทำ “สัญญาซื้อขาย” เฉกเช่นเดียวกับการซื้อขายรถมือสอง ครับ

ถ้าหากอยากซื้อซากรถมาปั้นใหม่ ก็ต้องทำให้จบ ซ่อมแซมให้รถสภาพสมบูรณ์ วิ่งได้ เพราะถ้าสภาพเป็นซากรถ การตรวจสภาพตอนต่อภาษีประจำปี จดทะเบียนรถใหม่ แจ้งเปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนสี ไม่ผ่านแน่ๆ หรือการนำซากรถหัวตัด หรือท้ายตัด มาต่อกันใหม่ ก็ต้องมีวิศวกรระดับสามัญ เป็นผู้รับรองอีก ถึงจะสามารถนำรถไปตรวจสภาพ จดทะเบียนได้

ระวังซื้อรถแถมคดีมา ซากรถบางคันเป็นรถสวมทะเบียน รถขโมยมา หรือรถติดจำนำที่บ่อน ไม่มีเงินมาไถ่รถคืน รถไม่มีทะเบียน บางคัน ต่อทะเบียนได้แต่ไม่มีเล่ม สวมเล่มทะเบียน รถยำมา อาจจะโดนคดีทั้งคนซื้อเเละคนขาย

ซื้อซากรถ ขายซากรถ

ภาพจาก ช่างนนท์ เซอร์วิส บ้าพลัง

อยากขายซากรถ

การขายซากรถ (แบบเป็นรถที่จอดทิ้งจนพัง หรือซ่อมไม่คุ้ม) ควรขายพร้อมกับเล่มทะเบียนรถไปด้วย เพราะจะได้ราคาที่ดีกว่าซากรถที่ไม่มีเล่มทะเบียน เพราะหลังจากวันที่ 5 ม.ค. 2558 รถที่ยกเลิกการใช้รถในกรณีซากรถ ไม่สามารถจดทะเบียนใหม่ได้ครับ

ส่วนในกรณีที่จะขายซากรถ (แบบที่อุบัติเหตุมา ชนจนยับ ซ่อมไปก็ไม่เหมือนเดิม) ให้ระวังเรื่องทะเบียนรถอย่างเดียว หรือก่อนจะขาย (ถ้าภาษีประจำปียังไม่หมดอายุ) จะไปแจ้งยกเลิกใช้งานรถตลอดไปที่กรมการขนส่งทางบกเลยก็ได้ หรือไม่ก็ตัดเพลทเลขตัวถัง กับเก็บตัวเล่มทะเบียน ไว้ครับ กันพวกไม่หวังดี ซื้อซากไปแล้ว นำรถไปสวมทะเบียน แล้วไปต่อเรื่องก่อราว

ส่วนการขาย ก็เหมือนกับการขายรถมือสอง กรณีต้องการโอนลอย ก็เตรียมเล่มทะเบียนและหลักฐานให้พร้อม ก็สามารถขายได้แล้วครับ

ซื้อซากรถ ขายซากรถ

ภาพจาก ส.รัตกุล เอี่ยมสะอาด

สำหรับใครที่มีซากรถครอบครองอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะขายทิ้ง หรือเอาซากรถไปทำอะไรต่อดี เชิญมาขายได้ที่ CARRO ง่ายนิดเดียว เรารับซื้อซากรถ เพียงแค่กรอกรายละเอียดใน Link นี้ —> https://th.carro.co/sell-car/express/scrapcar หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

10-Secondhand-Cars-For-Salary-15K

“รถยนต์” ปัจจุบันถือเป็นปัจจัยที่ 5 แล้ว ซึ่งถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ การไม่มีรถขับนั้น ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ลำบากนัก เพราะยังมีระบบขนส่งมวลชนรองรับอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ ตามที่ทราบกันดี รวมไปถึงการเดินทางที่เสียเวลาหลายต่อ ต้องมารอรถเมล์ที่กะเวลาไม่ได้ บางทีจำเป็นต้องเข้าตรอกซอยไกลๆ จะพึ่งแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์ตลอดไปนั้น คงเหนื่อยหน่อย …

ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานมาหลายปีแล้ว หรือจะเป็นเด็กจบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน แน่นอนล่ะ เห็นรถที่ออกใหม่ สวยๆ ต่างก็อยากได้ทั้งนั้น ซึ่งรถยนต์หนึ่งคัน ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าทางด่วน ค่าพรบ.รถยนต์ ค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ อีกมากมาย

ฐานเงินเดือนที่เด็กจบใหม่ ส่วนใหญ่ก็อาจจะเริ่มต้นกันที่ 15,000 บาท หรือบางอาชีพที่ฐานเงินเดือนไม่สูงนัก ได้เงินเดือนประมาณนี้ก็มี ถ้าหากจะไปซื้อรถป้ายแดงเลย ก็ไหวอยู่ แต่ต้องคุมค่าใช้จ่ายดีๆ เลยล่ะ แต่ถ้าจะมองรถมือสอง ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า และเหมาะสมกับสภาวะทางการเงินของคุณ ที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายไม่รัดตัวจนเกินไปนัก

เงินเดือน 15,000 บาท เป็นเจ้าของรถคันไหนได้บ้าง … ไม่ต้องแปลกใจที่มีแต่รถมือสอง อายุ 10-20 ปี ที่เป็นแบรนด์รถตลาด เพราะรุ่นไหนที่มีคนนิยมใช้มากๆ มันจะช่วยให้คุณไม่ลำบากเวลาต้องซ่อม หรือหาอะไหล่

Carro คัดเลือกรถมือสองยอดนิยม ในปีรถที่ไม่เก่ามากนัก มาให้พิจารณากันครับ.

1.Toyota Corolla (EE100/EE101/AE101) “สามห่วง” รุ่นปี 1992-1996

Toyota-Corolla-สามห่วง

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) รุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นแรกที่มีการใช้ Logo “Toyota” โดย Toyota สามห่วง เปิดตัวในไทยเมื่อ 13 มีนาคม 2535 มีเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 2E (และ 4E-FE ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปี 2537) และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE ให้เลือก

เป็นรถที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือน 15,000 บาท มาก (หรือคนเงินเดือนมากกว่าจะซื้อใช้ก็ได้เช่นกัน!) เพราะอะไหล่หาง่าย ของแท้ ของเทียบ ของมือสอง มีให้เลือกเพียบ เครื่องยนต์ทนทาน ติดแก๊ส LPG ก็ทน ระบบต่างๆ ไม่ซับซ้อน วิ่งได้นับล้านกิโลเมตร ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้หมด นี่คือข้อดีของรุ่นนี้

2.Toyota Corolla (AE110/AE111/AE112) “ตองหนึ่ง”, “ตูดเป็ด” และ “HI-TORQ”

Toyota-Corolla-AE111

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) โฉมนี้ เปิดตัวในประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2539 โดย Toyota ตองหนึ่ง ยกเลิกเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร แล้วหันมาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 5A-FE และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE ยอดฮิตเหมือนเดิม ต่อมาในช่วงปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2541 จึงเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมคำต่อท้ายว่า “Altis” (อัลติส) และชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ใหม่ “Hi-Torq” (ไฮทอร์ค) ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 7A-FE

เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงมากในขณะนั้น ซึ่งการที่รถรุ่นนี้เคยถูกนำไปเป็นแท็กซี่ อะไหล่หาง่าย ของแท้ ของเทียบ ของมือสอง มีให้เลือกเพียบ เครื่องยนต์ทนทาน ระบบต่างๆ ไม่ซับซ้อน วิ่งได้นับล้านกิโลเมตร ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้หมด อาจจะเลือกรุ่นที่เกรดสูงหน่อย เช่น 1.6 GXi, 1.6 SE.G หรือ 1.8 SE.G เป็นต้น เพราะจะได้ออพชั่นมากกว่า

3.Toyota Corolla Altis (ZZE121/ZZE122) “หน้าหมู”

Toyota-Corolla-Altis

Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) โฉม “Altis หน้าหมู” นี้ เป็นรถที่ได้รับความนิยมมากมายจากแท็กซี่ หรือมวลชน เพราะขึ้นชื่อถึงเรื่องความทนทาน อะไหล่หาง่าย ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้

เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2544 ภายใต้แนวคิด “Break Into Style” ที่พัฒนาใหม่หมดทั้งแนวคิด การออกแบบ และเทคโนโลยี พร้อมใช้พรีเซนเตอร์คนดังอย่าง “แบรด์ พิตต์” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 3ZZ-FE 110 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 1ZZ-FE 136 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

อีกทั้งยังมีรุ่นพิเศษต่างๆ ออกมาสร้างสีสันในตลาดตามมาตลอดของอายุรถรุ่นนี้ ที่ขายมาจนถึงต้นปี 2551 สามารถสร้างยอดขายรวมได้มากถึง 143,301 คัน ขอแนะนำสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเก็บไว้อยู่มากหน่อย เนื่องจากราคาตัวรถมือสอง อยู่ที่ตั้งแต่ไม่กี่หมื่นบาท (กรณีเป็นรถแท็กซี่เก่า) ไปจนถึงหนึ่งแสนปลายๆ ถึงเกือบๆ สองแสนบาท (สำหรับรถบ้าน) แต่แลกกับตัวรถที่สดกว่า ปีใหม่กว่า

4.Toyota Soluna (AL50)

Toyota-Soluna-AL50

Toyota Soluna (โตโยต้า โซลูน่า) เป็นรถยนต์รุ่นเล็กสุดของค่ายโตโยต้าในสมัยนั้น ที่ก็ยังถือว่า เปิดตัวในเดือนมกราคม 2540 และสร้างยอดขายที่ถล่มทลายได้ในเพียงเวลาสั้นๆ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 5A-FE ที่ยกมาจากใน Corolla

ในเดือนพฤษภาคม 2541 Soluna ออกรุ่นพิเศษ “Soluna Special Version” (โซลูน่า สเปเชี่ยล เวอร์ชั่น) มีชื่อเป็นภาษาไทยและเลขไทย ติดที่ฝากระโปรงหลัง เป็นรุ่นแรกในโลกของรถโตโยต้า ที่ติดชื่อรุ่นรถและตัวเลขเครื่องยนต์เป็นภาษาท้องถิ่น หลายคนน่าจะยังจำกันได้

หลังจากปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2542 ปรับหน้าตาใหม่ กันชนใหม่ ไฟท้ายใหม่ หรือที่บรรดาเต็นท์รถมือสองเรียกกันว่า “ไฟท้ายหยดน้ำ” เป็นรถที่ได้เหมาะมากสำหรับมนุษย์เงินเดือน ด้วยราคามือสองเริ่มต้นที่ไม่กี่หมื่นบาทก็ซื้อได้แล้ว อะไหล่หาง่าย ของแท้ ของเทียบ ของมือสอง มีให้เลือกเพียบ เครื่องยนต์ทนทาน ระบบต่างๆ ไม่ซับซ้อน ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้หมด แต่ควรเลือกรุ่นที่เกรดสูงหน่อย เช่น 1.5 GLi หรือ 1.5E และ 1,5G ในโฉมไฟท้ายหยดน้ำ เพราะจะได้ออพชั่นเยอะกว่ารุ่นล่างๆ

5.Toyota Soluna Vios (NCP42)

Toyota-Soluna-Vios

“Toyota Soluna Vios” (โตโยต้า โซลูน่า วีออส) รถรุ่นยอดนิยมที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของโตโยต้า ถ้าเป็นรถในขนาด Sub-Compact โดยชื่อรุ่น “VIOS” (วีออส) มาจากภาษาลาติน “VIO” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Moving Forward” หรือ เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ในภาษาไทย

เปิดตัวครั้งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2545 ใช้ขุมพลังใหม่ ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. (142 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,200 รอบ/นาที

อีกทั้งยังมีรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Turbo 143 แรงม้า ให้เลือกอีกด้วย … เป็นรถมือสองอีกหนึ่งตัวเลือก ของคนเงินเดือนน้อย ไม่ควรพลาด! เนื่องด้วยเครื่องยนต์ที่แรงอย่างทันใจ ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม อะไหล่มือหนึ่งมือสอง ของแท้ของเทียม หาง่าย ตามสไตล์ Toyota

6.Toyota Avanza (F600)

Toyota-Avanza

 

Toyota Avanza (โตโยต้า อแวนซ่า) เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง นำเข้าจากอินโดนีเซีย ชื่อรุ่นมาจากคำว่า “Avanzato” ในภาษาอิตาลี หรือ “Advance” ในภาษาอังกฤษ … เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2547 ในรูปแบบรถยนต์นั่งแนวใหม่ “Compact Multi – Purpose Vehicle” ขนาดห้องโดยสารใช้แนวคิดการออกแบบ “Tall Boy” หลังคาทรงสูง นั่งได้ 7 คน วางตำแหน่งเบาะนั่งแบบ Flex And Fold ปรับได้อิสระ คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน ทนทาน ค่าดูแลรักษาต่ำ

Toyota Avanza เจเนอเรชั่นแรก มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส K3-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 88 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.3 กก.-ม. (120 นิวตัน-เมตร) ที่ 3,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2551 เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นขนาด 1.5 ลิตร รหัส 3SZ-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.4 กก.-ม. (141 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด …

โดย Avanza (F600) ถือเป็นรถมือสองที่คนมีฐานเงินเดือนไม่สูงนัก หรือทำงานอาชีพอิสระ แต่มีครอบครัวแล้ว ไว้ใช้ขนของในวันทำงาน หรือใช้เป็นรถพาลูกๆ ไปเที่ยวในวันหยุด ก็ลงตัวครับ …

7.Nissan Sunny NEO (N16)

Nissan-Sunny-NEO

Nissan Sunny NEO (นิสสัน ซันนี่ นีโอ) จัดว่าเป็นรถยอดนิยมจากค่ายนิสสันอีกหนึ่งรุ่น ในประเภทรถ Compact ที่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2543 และขายกันต่อเนื่อยาวนานหลายปี มีอยู่ 3 โฉมหลักๆ ให้เลือกในบ้านเรา (โดยปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้าย ในเดือนมีนาคม 2548) เป็นรถที่ได้รับความนิยมอยู่พอสมควร อะไหล่หาง่าย ช่างทั่วไปซ่อมได้ ถือเป็นรถที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือน 15K อีกหนึ่งรุ่น เพราะถ้าคุณมีเงินเก็บแค่ 7 หมื่นบาท ก็พอหารุ่นนี้ได้แล้ว (แต่สภาพของตัวรถ ก็อีกเรื่องนึง) …

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส QG16DE ให้แรงม้าสูงสุด 118 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

และในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร (ที่เริ่มแรกใช้ในชื่อ Sunny Almera – ซันนี่ อัลเมร่า) รหัส QG18DE ให้แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

8.Honda Civic (EK)

Honda-Civic-EK

อันนี้เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนชอบแต่งรถหน่อย สำหรับ Honda Civic (EK) (ฮอนด้า ซีวิค) ที่เปิดตัวในบ้านเราเมื่อเดือนตุลาคม 2538 ตามมาติดด้วยรุ่น 1.8 Si อีกทั้งยังมีรุ่น 2 ประตู คูเป้ ให้เลือกอีกด้วย เรียกได้ว่าถูกใจวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานสุดๆ แต่งบประมาณก็อาจจะต้องมีมากหน่อย (ส่วนรุ่น 4 ประตู มีเงินเก็บเพียง 5 หมื่นบาท ก็หาซื้อได้แล้ว) และในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ยังมีเพิ่มเทคโนโลยีลดมลพิษอย่าง “LEV” อีกด้วยครับ

มีเครื่องยนต์ให้เลือกกันถึง 3 แบบ … เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.7 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

ถ้าอยากได้แบบแรงสั่งได้ และออพชั่นที่มากกว่า ต้องเลือกเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 127 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.7 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

และในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส B18B แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.7 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ข้างในเป็นเบาะหนังแท้โทนสีเทาดำ รุ่นนี้จะหายากหน่อยครับ

9.Honda Civic (ES)

Honda-Civic-ES

ส่วนอันนี้ เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนชอบรถเรียบๆ สไตล์คนมีครอบครัวแล้ว หรือจะแต่งซิ่งก็ได้เช่นกัน กับ Honda Civic (ES) (ฮอนด้า ซีวิค) โฉม “Dimension” ชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.7 ลิตร เป็นรถที่ดูดี สวยหรู อะไหล่หาได้ง่าย ทนทาน และ Civic โฉมนี้ เป็นโฉมแรก ที่ฮอนด้าได้ทำรุ่น Hybrid นำเข้ามาขายในไทยด้วย เปิดตัวในไทยเมื่อ 27 ตุลาคม 2543 ซึ่งตามหลังประเทศญี่ปุ่นเพียง 7 สัปดาห์เท่านั้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ 1.7 ลิตร ที่ให้พลังแรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันเหมือนกับเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร โดยเครื่องยนต์ขนาด 1.7 ลิตร ยังแบ่งได้อีก 2 แบบ นั่นคือแบบ SOHC 120 แรงม้า และแบบ VTEC 130 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

และในเดือนมกราคม 2547 ได้ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร i-VTEC รหัส K20A 155 แรงม้า มาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งในโฉมไมเนอร์เชนจ์นี้จะแต่งสวยหน่อย

10.Mitsubishi Lancer Cedia

Mitsubishi-Lancer-Cedia

Mitsubishi Lancer Cedia (มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ซีเดีย) เปิดตัวในบ้านเราเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2544 พร้อมชื่อต่อท้ายคำว่า “Cedia” ที่เป็นการนำคำว่า Century + Diamond มารวมกัน นับเป็น Lancer อีกหนึ่งรุ่น ที่ขายยาวนานในตลาดบ้านเรา และมีชุดแต่งให้เล่นเยอะ (เพราะเหมือน Lancer Evolution)

มาพร้อมเครื่องยนต์รหัส 4G18 ขนาด 1.6 ลิตร 108 แรงม้า และรหัส 4G93 ขนาด 1.8 ลิตร 124 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 6 สปีด Invecs III

หลังจากนั้นในต้นปี 2547 Mitsubishi ทำการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ด้วยกระจังหน้าทรงปิระมิด พร้อมยกเลิกเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และนำเครื่องยนต์รหัส 4G63 ขนาด 2.0 ลิตร 135 แรงม้า มาแทน …

และในเดือนมีนาคม 2551 เพิ่มอีกทางเลือกคือ New Lancer E20 รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และ Lancer CNG ติดตั้งระบบจ่ายเชื้อเพลิงสำหรับการใช้ก๊าซธรรมชาติอัด CNG (Compressed Natural Gas) สำหรับลูกค้าที่ต้องการรถยนต์นั่งที่คุ้มค่าคุ้มราคาและประหยัดรายจ่ายค่าเชื้อเพลิง ก่อนจะขายไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะมี Lancer EX ออกมาจำหน่ายแล้วก็ตาม รถรุ่นนี้ ถือว่ายังเหมาะสมกับมนุษย์เงินเดือน ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานครับ

Mr.Carro หวังว่า 10 รถมือสอง ที่คนเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท น่าซื้อ! ที่นำมาเสนอนั้น หากใครสนใจ ก็ลอง Inbox สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage Carro Thailand ได้นะครับ

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

รถยนต์ทุกคันที่ใช้งาน จะต้องต่อภาษีรถยนต์ประจำปีทุกปีเป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้าหากเสียภาษีล่าช้า จะต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มอีกร้อยละหนึ่งทุกเดือน แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้เจ้าของรถ ไม่ได้ไปชำระภาษีรถยนต์ประจำปีจนขาดเกิน 3 ปี ซึ่งส่งผลให้ทางกรมการขนส่งทางบก ระงับทะเบียนรถยนต์ทันที พร้อมทั้งส่งจดหมายแจ้งไปยังเจ้าของรถด้วย

ซึ่งเจ้าของรถต้องคืนแผ่นป้าย และนำสมุดคู่มือมาให้ทางราชการบันทึกการระงับทะเบียน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนระงับการดำเนินการทางทะเบียน หากไม่ไปดำเนินการ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

นั่นหมายความว่า รถยนต์คันนั้นได้ถูกระงับทะเบียนไปแล้ว หากคุณต้องการจะขายรถ ไม่สามารถทำการซื้อขายรถ ใช้รถวิ่งรับจ้าง โอนรถหรือย้ายทะเบียนรถได้ และยังเป็นภาระของคนซื้อรถ ซึ่งต้องชำระภาษีรถยนต์ที่ค้างอยู่ 3 ปีก่อน ถึงสามารถจดทะเบียนรถใหม่ ให้สามารถนำรถมาใช้งานบนท้องถนนได้อีกครั้ง ขั้นตอนวิธีการมีอะไรบ้าง อ่านด้านล่างเลยครับ …

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ขั้นตอนที่ 1

นำเล่มทะเบียน มาให้ทางราชการบันทึกการระงับทะเบียน และชำระภาษีค้างชำระ ตามอัตราภาษีรถประจำปีของรถแต่ละประเภทและเสียภาษีเพิ่มร้อยละ 1 ต่อเดือนจนถึงวันชำระ ณ สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ที่รถจดทะเบียน

หมายเหตุ: รถที่ค้างชำระภาษีรถประจำปี หลังจากวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2547 โดยค้างเกิน 3 ปี จะเสียภาษีเพิ่มร้อยละ 1 ต่อเดือนจนถึงวันชำระ (หากเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้เสียภาษีก่อนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2547 จะต้องค่าปรับร้อยละ 20 ต่อปี ย้อนหลังไป 3 ปี เช่นกัน)

ขั้นตอนที่ 2

พร้อมทั้งแจ้งการขอใช้รถอีกครั้ง (คือ การจดทะเบียนรถยนต์ใหม่) พร้อมชำระอัตราค่าธรรมเนียมภาษีประจำปีของทะเบียนรถใหม่ (ซึ่งต้องมี พรบ. เตรียมมาด้วย)

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

เอกสารและหลักฐานที่ต้องใช้

  • สมุดคู่มือจดทะเบียน ที่บันทึกการระงับทะเบียนแล้ว (ตัวจริงเท่านั้น พร้อมสำเนา)
  • บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
  • หลักฐานการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
  • หลักฐานการได้มาของรถ เช่น หนังสือสัญญาซื้อขาย หรือหลักฐานการขายทอดตลาด (กรณีมิได้จดทะเบียนในชื่อเจ้าของเดิม)
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล อายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม กรณีเป็นนิติบุคคล
  • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่เจ้าของรถไม่สะดวกไปดำเนินการ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ค่าธรรมเนียม

  • ค่าจดทะเบียนรถใหม่ 315 บาท
  • ค่าสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 100 บาท
  • ค่าแผ่นป้ายทะเบียนรถ ป้ายละ 100 บาท
  • หลักฐานการประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
  • อัตราภาษีของรถแต่ละประเภท
  • ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพ รถจักรยานยนต์ 10 บาท รถยนต์ 50 บาท

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ขอขอบคุณภาพขวามือจาก Login ชลน่าน @ Pantip

ขั้นตอนที่ 3

สำหรับช่องทางชำระภาษีรถประจำปี มีช่องทางการชำระหลากหลาย อาทิเช่น

  • กรมการขนส่งทางบก มีบริการ Drive-Thru เตรียมเอกสารและเงินไว้ ขับรถเข้าไปจ่ายได้เลย ซึ่งจะช่วยลดเวลาดำเนินการลงได้อีก มีเวลาเปิดทำการตั้งแต่ 7.30-15.30 น.
  • ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งทุกสาขาในกรุงเทพมหานคร แต่มีข้อยกเว้น คือต้องเป็นรถยนต์ที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ เท่านั้น และต้องไม่เป็นการจ่ายภาษีแบบที่ค้างชำระ สามารถจ่ายล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำนักงานเขตทุกเขตในกรุงเทพมหานคร แต่ต้องเป็นแบบไม่ค้างชำระและจ่ายล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน
  • ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง มีบริการรับชำระภาษีรถยนต์เช่นกัน และมีเงื่อนไขเช่นเดียวกับเบื้องต้น
  • ตามห้างสรรพสินค้า เช่น ห้างบิ๊กซี 13 สาขา ห้างในเครือเซนทรัล หรือพาราไดซ์พาร์ค (ศรีนครินทร์) เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.
  • ต่อทางอินเตอร์เน็ต ที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่กรมการขนส่งทางบกอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ประสงค์จะต่อภาษีรถยนต์ เตรียมเอกสารเหมือนกับการไปต่อที่กรมการขนส่งทางบก กรอกข้อมูล และเลือกวิธีการชำระเงินได้ 3 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นหักจากบัญชีธนาคาร ผ่านบัตรเครดิต หรือพิมพ์เอกสารออกมา แล้วไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส แต่การต่อภาษีทางอินเตอร์เน็ตไม่สามารถต่อได้ กรณีที่ภาษีค้างชำระเกิน 1 ปี และล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน สำหรับรถที่ต้องใช้เอกสารการตรวจรถ ก็ไม่สามารถต่อทางอินเตอร์เน็ตได้เช่นกัน
  • ชำระภาษีรถผ่าน ตรอ., ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เซเว่น-อีเลฟเว่น กว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ และล่าสุด ชำระภาษีบนมือถือทุกเครือข่าย AIS, True Move และ DTAC

ซึ่งเจ้าของรถ สามารถชำระภาษีรถได้ล่วงหน้า 3 เดือน ก่อนอายุภาษีสิ้นสุดครับ

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ถ้าคุณเบื่อต่อภาษีรถยนต์คันเดิมแล้ว หรือจ่ายไม่ไหว อยากตัดสินใจขายรถด่วนๆ เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ มาขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ได้ เราเสนอให้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

โสด,-ซื้อรถ,-ประหยัด

โสด โทรศัพท์มีกล้อง! อยากมีรถขับเก๋ๆ เลือกซื้อเองได้ไม่ยาก

ภาระไม่มี และพี่เปย์ไว อาจเป็นคำนิยามใหม่ของ #คนโสด2018 หลายๆคน แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีภาระอย่างคนอื่นที่มีคู่หรือมีครอบครัว เราก็ต้องเตรียมตัวและ Plan เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เป๊ะ! ยิ่งเรื่องรถยิ่งสำคัญ เพราะการใช้ชีวิตคนเดียวนั้นไม่มีใครคอยรับคอยส่ง ไม่มีใครคอยแชร์ค่างวด ค่าน้ำมัน ค่าอะไหล่ ไหนจะต้องสำรองค่าดูแลรักษารถตามอายุการใช้งาน ถ้าพลาดมาก็หนักกว่าชาวบ้าน เพราะต้องรับผิดชอบคนเดียวล้วนๆ

ฉะนั้น เรามาเตรียมตัวให้พร้อม จะได้เป็นโสดให้สนุก ไม่ทุกข์ เพราะการมีรถจะไม่เป็นภาระ วันนี้ Carro จึงขอเสนอทริคดีๆ บวกรถเก๋ๆ ที่จะทำให้ชีวิตโสดของคุณปัง ไม่มีพัง!

1.ราคาไม่แพงเกินไป

นี่คือปัจจัยสำคัญอันดับ 1 ในการเลือกซื้อรถของคนโสด บางคนอาจแย้งว่า เห้ย! สไตล์เราคือ Luxury นะยู แต่เดี๋ยวก่อน! เราเข้าใจเรื่อง Style ว่าเป็นของใครของมัน แต่อยากให้ลองคำนวนว่ารายรับเรามีเท่าไหร่ มีรายจ่ายอะไรบ้าง เพราะการบริหารรายจ่ายที่ดี ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถไม่ควรเกิน 25 – 30% ของรายรับ ต่อเดือน เพราะชีวิตยังมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นอีก เช่น ค่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าประกันชีวิต ฯลฯ คุณจึงไม่ควรถวายเงินเดือนมากกว่าครึ่งไปกับค่างวดรถและค่าน้ำมัน เพราะอาจจะชักหน้าไม่ถึงหลัง และที่น่ากลัวกว่าการโดนยึดรถคือ การเป็นหนี้!

รถที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราขอแนะนำ

Nissan March

Nissan March

Suzuki Celerio

suzuki-celerio

Nissan Almera

Nissan Almera

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage

2.เลือกรุ่นที่ประหยัดน้ำมัน

เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศไทยมีการขึ้นและลงตลอดเวลา ไม่ค่อยเสถียร และเราต้องใช้รถทุกวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ วิธีที่เซฟที่สุดคือ เลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่ประหยัดน้ำมัน ได้แก่

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage

Mazda2

Mazda 2

Toyota Yaris

toyota-Yaris

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio

 

3.สามารถเติมน้ำมัน E85 หรือ E20 ได้

รุ่นที่จะแนะนำในข้อนี้เหมาะกับคนโสดตัวคนเดียวมากที่สุด เพราะขนาดเล็ก ปราดเปรียว ขับและดูแลง่าย เหมาะกับสภาพถนนในกรุงเทพฯ และยังเหมาะกับสภาพการเงินในกระเป๋าคนโสดอีกด้วย เพราะเติมน้ำมันที่มีราคาถูกได้ คือ E85 หรือ E20 รถที่แนะนำ ได้แก่

Honda Jazz

honda jazz

Honda City

Honda City

4.ค่าบำรุงรักษาไม่แพง

ข้อนี้เป็นข้อที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ แต่มักจะโดนมองข้าม เพราะรถ 1 คัน ก็เหมือนกับคนในครอบครัว 1 คน รับมาในชีวิตแล้วก็ต้องดูแลกันจนวันสุดท้าย การดูแลก็ทำได้ไม่ยาก เช่น ใช้งานอย่างถนอม หมั่นตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ เช็คระยะ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ฯลฯ จะเห็นได้ว่า การบำรุงรักษามีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง แม้ยังไม่รวมประกัน พ.ร.บ. แต่ถ้าหากใครคิดว่ามีรายรับสูงงงงงมากพอ สภาพการเงินคล่องมือ ไม่มีความเดือดร้อนทางการเงินใดๆ ทั้งโสด รวย และพร้อมเป เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณสามารถเลือกซื้อรถได้ทุกรุ่นตามใจอยาก

แต่ถ้าหากคุณยังเป็นโสด ตัวคนเดียว ไม่มีรายรับที่มากพอบวกกับยังมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ เราขอแนะนำให้เลือกซื้อรถตลาดอย่าง Toyota หรือ Honda เพราะราคาสามารถเอื้อมถึง อะไหล่หาง่าย ค่าบำรุงรักษาถูก ซ่อมไม่ยุ่งยาก หรือเลือกซื้อรถบ้านมือสอง ก็คุ้มค่าเช่นกัน แค่นี้ เราก็จะโสดแบบ Cool Cool เก๋ๆ เงินเหลือพร้อมเปย์ มีรถพร้อมขับ และไร้ปัญหากวนใจภายหลัง!

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

ในปัจจุบัน การซื้อรถมือสองนั้นถือเป็นทางเลือกที่ดีในยุคเศรษฐกิจซบเซา ต้องใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งสอดรับกับบรรดาดีลเลอร์ หรือเต็นท์รถมือสอง ต่างก็คัดสรรรถยนต์คุณภาพดีมาจำหน่ายมากมาย

บางที่มีการันตีผ่านการตรวจสภาพจากบริษัทรับตรวจสภาพรถ หรือยืนยันได้ว่าไม่เคยชนหนัก ไม่เคยโดนน้ำท่วม ฯลฯ พร้อมรับประกันหลังการขาย ซึ่งถือว่าน่าใช้ไม่แพ้รถป้ายแดงหลายรุ่นที่ยังมีขายอยู่ในท้องตลาด อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่า และได้รถคันใหญ่กว่า แถมสมรรถนะดีกว่าอีกด้วย

แต่การจัดไฟแนนซ์รถมือสองให้ผ่านได้นั้น หลายคนอาจมองว่ายาก เพราะทางบริษัทไฟแนนซ์หรือสถาบันการเงินต่างๆ จะทำการประเมินจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ควบคู่กัน เช่น เอกสาร ฐานเงินเดือน รายรับรายจ่าย และอื่นๆ ของผู้ขอจัดไฟแนนซ์ เป็นต้น

แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ต่างกันคือ “อาชีพ” ของผู้ขอจัดไฟแนนซ์ เนื่องจากอาชีพเป็นตัวบ่งบอกถึงที่มาของรายได้ และเป็นสิ่งที่จะช่วยการันตีได้ว่า ผู้กู้ มีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้นั่นเอง

โดย CARRO จะมาแนะนำขั้นตอนของการเตรียมเอกสารในการยื่นขอจัดไฟแนนซ์รถมือสองของแต่ละอาชีพ ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ครับ

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

1. พนักงานประจำ

พนักงานประจำ คือ คนทำงานที่มีเงินเดือนประจำคงที่ หรือมีรายรับที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ เดือน เช่น พนักงานบริษัทเอกชน, ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่เงินเดือนมักจะถูกโอนเข้าบัญชีผ่านทางสถาบันการเงิน และมีสลิปเงินเดือนยืนยันชัดเจน สามารถตรวจสอบได้จาก Statement ย้อนหลัง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

 1.1พนักงานเงินเดือนประจำคงที่ : คือ ผู้ที่ไม่มีรายได้อื่นนอกเหนือไปจากเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือน จำนวนรายรับจึงเป็นจำนวนเดิมทุกเดือน ไม่เปลี่ยนแปลง

1.2 พนักงานเงินเดือนประจำที่มีรายรับอื่นๆ : คือ ผู้ที่มีค่าล่วงเวลา (OT) ค่าคอมมิชชั่น ค่าเข้าเวร ค่าที่พัก และอื่นๆ รวมถึงผู้ที่มีอาชีพเสริมและมีรายรับเพิ่มเข้ามาด้วย

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับอาชีพพนักงานประจำ

  • Statement ย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • สลิปเงินเดือน (เป็นแบบคาร์บอน) หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • แผนที่บ้าน และแผนที่ทำงาน

ไม่ว่าจะมีรายรับ หรือมีรายรับพิเศษต่อเดือนเท่าไหร่ ก็ควรที่จะเก็บสลิปเงินเดือน หรือหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ถึงยอดเงินจำนวนนั้นๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการตัดสินใจให้บริษัทไฟแนนซ์อนุมัติสินเชื่อให้ได้ง่ายขึ้น

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

2. บุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระ

ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ คือ ผู้ที่มีรายรับต่อเดือนไม่แน่นอนและไม่คงที่ รวมถึงการไม่มีสลิปเงินเดือนที่ชัดเจน เช่น นักร้อง นักแสดง ผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ผู้รับเหมาก่อสร้าง เกษตรกร และเจ้าของกิจการส่วนตัว เป็นต้น ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องเตรียมเอกสารมากกว่าผู้ที่มีเงินเดือนประจำ เพื่อใช้ยืนยันและชี้แจงที่มาของรายได้ประกอบกับช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับบริษัทไฟแนนซ์นั่นเอง โดยสามารถแบ่งอาชีพอิสระและเอกสารที่ต้องเตรียมออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ดังนี้

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

2.1 ผู้ประกอบอาชีพค้าขาย : ไม่ว่าจะเป็นขายสินค้าออนไลน์ ขายอาหาร หรือ ขายของตามตลาดทั่วๆ ไป สิ่งที่ต้องเตรียม คือ

–  สร้างรายรับให้ตนเองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเงินไปเข้าบัญชีให้เกิดความสม่ำเสมอ
– หากมีสถานที่ประกอบกิจการเป็นหลักแหล่ง ให้นำหลักฐาน เช่น ใบเสร็จค่าเช่าที่ หรือถ้าประกอบกิจการที่บ้านตนเอง ให้ใช้หนังสือทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน
– กรณีที่ไม่มีสถานที่ในการประกอบกิจการเป็นหลักแหล่ง ให้เก็บใบเสร็จที่ใช้ในการซื้อของเพื่อนำมาขายไว้ทั้งหมด เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันและใช้ตรวจสอบเงินหมุนในธุรกิจ รวมทั้งสต๊อกสินค้าเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมของไปขายจริง

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

2.2 ผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง : สำหรับอาชีพรับเหมาก่อสร้าง สิ่งที่ต้องเตรียม คือ

– ถ่ายรูปหน้างาน หรืองานที่กำลังทำอยู่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันการทำงาน
– เงินที่ได้อาจได้เป็นก้อน หรือได้หลังจากงานเสร็จ ให้เก็บสัญญาจ้าง หรือใบเสนอราคาไว้เพื่อยืนยันว่ามีงานรับเหมาจากผู้จ้างจริง
– สิ่งสำคัญที่สุดคือ Statement  ย้อนหลัง เพื่อที่บริษัทไฟแนนซ์จะสามารถตรวจสอบได้ว่ามีรายรับที่สม่ำเสมอหรือไม่

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

2.3 ผู้ประกอบอาชีพรับจ้างอิสระ : ไม่ว่าจะเป็น นักร้อง นักแสดง หรือช่างภาพอิสระ สิ่งที่ต้องเตรียม คือ

– สร้างรายรับให้ตนเองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเงินไปเข้าบัญชีให้เกิดความสม่ำเสมอ
– ถ้าสามารถขอหนังสือรับรองจากผู้จ้างได้จะถือว่าดีมาก

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

2.4 ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร : ไม่ว่าจะเป็นทำไร่ ทำสวน หรือเลี้ยงสัตว์ สิ่งที่ต้องเตรียม คือ

– ใบเสร็จยืนยันการ ซื้อ-ขาย ผลผลิตกับผู้ซื้อ นายทุน หรือพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆในการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นใบเสร็จค่าปุ๋ย ค่ายากำจัดวัชพืช ค่าอุปกรณ์การเกษตร รวมถึงค่าบำรุงรักษาเครื่องมือทางการเกษตรเล็กๆน้อยๆ
– สิ่งสำคัญที่สุดคือ สมุดทะเบียนเกษตรกร เพราะในสมุดเล่มนี้มีข้อมูลการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร เพื่อเป็นหลักฐานในการยืนยันจำนวนการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร และมีการทำการเกษตรจริง
– หากขายผลผลิตได้เป็นรายปี ทุกๆ 6 เดือน หรือตามฤดูกาล สามารถนำเงินก้อนนั้นๆไปฝากเข้าบัญชี เพื่อสร้างรายรับที่สามารถนำมาหารเป็นรายเดือนได้

CARRO แนะนำแต่ละอาชีพ ต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรบ้าง เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับอาชีพอิสระ

  • Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
  • เอกสารรับรองรายได้โดยมีผู้ค้ำประกัน (กรณีเงินดาวน์ต่ำ)
  • รูปถ่ายกิจการ หรือร้านค้าที่คุณเป็นเจ้าของ รวมถึงภาพถ่ายสต๊อกสินค้า, สินค้าที่ทำการซื้อ-ขาย, บิล-ใบเสร็จต่างๆ, ใบเสนอราคา (ถ้ามี)
  • แผนที่บ้าน และแผนที่ทำงาน
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน

ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือความพร้อมของเอกสารในแต่ละอาชีพนั้นๆ เพื่อยืนยันและชี้แจงที่มาของรายได้กับบริษัทไฟแนนซ์ เพียงเท่านี้การจัดไฟแนนซ์รถมือสองให้ผ่านก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ใช้เวลาเพียงแค่ 3-7 วัน ก็ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย คุณก็รับรถไปขับได้เลยทันที!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครที่กำลังมองหารถคันใหม่ในตอนนี้ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันของ CARRO Automall คุณไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของรถจมน้ำ รถน้ำท่วม หรือรถจมบาดาล เพราะเราไม่นำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายโดยเด็ดขาด และรถทุกคันยังผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Motor-Expo-2017-Analysis

Motor Expo ปีนี้ มั่นใจยอดจองรถยนต์ 40,000 คัน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง

Motor-Expo-2016

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับคนรักรถยนต์นะครับ ว่า ในบ้านเราตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา มีงานแสดงรถยนต์ขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมของคนที่ชอบรถต้องไปเดินเที่ยวในงานสม่ำเสมอ นั่นคืองานต้นปีอย่าง “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ของค่ายกรังด์ปรีซ์ และงานปลายปี “มหกรรมยานยนต์” ของค่ายสื่อสากล และภายหลังก็มีงานกลางปีของ “BIG Motor Sale” หรืองาน “มหกรรมยานยนต์ เพื่อขายแห่งชาติ” จากค่ายยานยนต์ …

Motor-Expo-2016

และก็ยังมีงานยิบย่อยต่างๆ ที่จัดโชว์รถยนต์กันตามห้างบ้าง หรือตามภูมิภาคต่างๆ แทบทุกเดือน ขอร่วมลงมาแบ่งเค้กก้อนนี้จากการจัดงาน Event ด้วยคน …

แต่ฉันใดก็ฉันนั้น ยามเศรษฐกิจดี เงินสะพัด ผู้คนก็กล้าที่จะจับจ่ายใช้สอย กล้าที่จะซื้อรถมือหนึ่ง แต่เมื่อยามเศรษฐกิจซบเซา การปล่อยสินเชื่อและราคาของรถใหม่ และสถานะทางการเงิน ย่อมทำให้ผู้ที่ตัดสินใจซื้อต้องคิดหนัก ตัวเลือกอย่างรถมือสองในตลาด จึงเป็นที่หมายปองและสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้นเช่นกัน …

Motor-Expo-2016

สำหรับงาน Motor Expo นั้น จาก Concept ของการจัดงานแต่แรกเริ่มในปี 2527 “มหกรรมยานยนต์” เน้นโชว์รถยนต์และเทคโนโลยีเป็นหลัก ภายหลังจึงพัฒนามาเป็นงาน Thailand International Motor Expo คือเป็นทั้งงานโชว์รถยนต์ รถต้นแบบ และนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลก และรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ต่างพร้อมใจกันขายรถอย่างดุเดือด จัดเต็มทั้งแคมเปญและโปรโมชั่น นับเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่ และรถมือสอง ได้เข้ามาเลือกชมรถที่ตัวเองชอบ ได้ทดลองขับรถดูภายในงาน ก่อนจะตัดสินใจจองรถ หรือซื้อรถใหม่ภายในงาน

Motor-Expo-2017-Poster

แนวคิดของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” คือ “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เพื่อให้ผู้บริโภคได้ชมยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่พวกเขาเคยฝันไว้ และเพื่อยืนยันว่า ทุกความฝันเป็นจริงได้ในโลกยานยนต์ …

ภายรวมของงาน Motor Expo 2016 ที่ผ่านมานั้น แม้ว่าจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซามากของประเทศไทย แต่งานนี้ แสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของอาเซียน และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในงานรวม 4.5 หมื่นล้านบาท

Pretty-Mazda

อีกทั้งการแต่งกายของพริตตี้ในงาน มีความเรียบหรู เรียบร้อยกว่าปีก่อนๆ และเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองกับวัฒนธรรมที่งดงามของไทยอีกด้วย คาดว่าในงาน Motor Expo 2017 บรรดาน้องๆ พริตตี้ ก็ยังคง Concept ของความเรียบร้อย (คือไม่แต่งตัวโป๊) ไปมากจนเกินไปเฉกเช่นปีที่ผ่านมา

Motor-Expo

ด้านยอดจองรถในงานปีที่ผ่านมาของ Motor Expo 2016 มีตัวเลขเป็นที่น่าพอใจ รถยนต์มียอดจองรวมอยู่ที่ 32,422 คัน ลดลงจากปีก่อน 17.1% เนื่องจากบ้านเมืองยังอยู่ในบรรยากาศโศกเศร้า รวมทั้งรถใหม่หลายรุ่นที่ประชาชนสนใจได้เลื่อนการเปิดตัวออกไป อย่างไรก็ตามในส่วนของรถจักรยานยนต์ สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดจองสูงถึง 7,942 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 98.6 % ด้านราคาเฉลี่ยรถที่ขายได้ในงานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,177,393 บาท เนื่องจากปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคให้ความสนใจรถเก๋งหรู รถ SUV และรถกระบะ เพิ่มมากขึ้น ส่วนผู้เข้าชมงานจำนวน 1,191,718 คน ลดลง 19.3%

Motor-Expo

สำหรับในงาน Motor Expo 2017 ตลาดรถยนต์บ้านเราปีนี้จะสดใสขึ้นเหมือนฟ้าหลังฝน แต่ทางผู้จัดงานก็คาดการณ์ยอดจองรถยนต์ในงานไว้สูงถึง 40,000 คัน! และยอดจองรถจักรยานยนต์ 7,000 คัน ส่วนจำนวนผู้ชมคาดว่าจะสูงถึง 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงซึมๆ ทรงตัวอยู่ในขณะนี้ ก็ยังมีปัจจัยทางตรงที่ช่วยให้ตลาดรถปลายปีนี้คึกคักขึ้น อาทิ การสิ้นสุดเงื่อนไขครอบครอง 5 ปี ของผู้เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่เวลานั้นยังไม่ส่งผลต่อตลาด เนื่องจากเป็นช่วงทุกข์โศกของคนไทยทั้งประเทศพอดี พอปี 2560 นี้ เจ้าของรถคันแรกที่พ้นเงื่อนไข บางส่วนก็จะมองหารถใหม่กัน และปัจจัยทางอ้อม จากราคาสินค้าเกษตรหลายอย่าง มีราคาดีขึ้น

และในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ มีรถยนต์ที่รอเปิดตัวกันอยู่หลายรุ่น ซึ่งหนักไปทางรถแนว SUV หลายรุ่นจากค่ายญี่ปุ่นและค่ายยุโรป รอให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของ เชื่อว่าจะกระตุ้นให้ยอดขายรถปลายปีนี้ คึกคักมากยิ่งขึ้น

ยอดขายรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ตั้งไว้ 40,000 คัน และยอดขายรถจักรยานยนต์ 7,000 คัน คาดว่าจะทำได้ถึงเป้า … หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามดูกันต่อไปครับ

Easy-Buy-Secondhand-Car

ทุกวันนี้ การตัดสินใจเลือกซื้อรถมือสองสักคันของผู้บริโภค ย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกันไป เช่น งบประมาณที่มี ความชอบในรูปร่างหน้าตาของตัวรถ สมรรถนะเครื่องยนต์ ราคาขายต่อ วัตถุประสงค์การใช้งานต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจของผู้ซื้อ

มุมมองของคนที่ซื้อรถมือสอง มีความคิดเห็นว่า ตลาดรถมือสองยังตอบสนองผู้ที่ต้องการใช้รถได้ดี แม้ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีขณะนี้ เพราะรถมือสองอายุไม่กี่ปีที่เป็นที่นิยมในท้องตลาด ยังมีคุณภาพดีและน่าใช้ไม่แพ้รถใหม่มือหนึ่ง และมีราคาถูกกว่ารถมือหนึ่งถึงหลายแสนบาทในบางรุ่น แถมสามารถลดภาระค่างวดได้อีกมาก เมื่อเทียบกับการผ่อนรถยนต์ใหม่ป้ายแดง

ถ้าจะบอกว่า อยู่ในกรุงเทพฯ หาดูรถมือสองได้ง่าย เพราะมีหลายย่านที่เป็นแหล่งรวมรถมือสองจำนวนมาก แต่ในต่างจังหวัดก็อาจจะหาดูรถมือสองลำบากหน่อย ในกรณีที่อยากดูรถคันจริงๆ ไม่ใช่ดูในออนไลน์ เพราะส่วนมากจะอยู่กระจายกัน ไม่ค่อยรวมกันเป็นย่านแบบในจังหวัดใหญ่ๆ หรือในกรุงเทพฯ

แล้วเขาทำธุรกิจกันอย่างไรล่ะ? ทั้งในมุมคนซื้อ และในมุมคนขาย MR.CARRO จะเล่าให้ฟัง

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

ตลาดรถยนต์มือสองหลักๆ ของรถเต็นท์ในต่างจังหวัด ประมาณ 80% ยังเป็นกลุ่มลูกค้าเกษตรกร ที่ใช้รถกระบะเพื่อบรรทุกสินค้าทางด้านเกษตร และการเดินทางที่เน้นประหยัดน้ำมัน เน้นขนคนนั่งได้เยอะๆ ส่วนตลาดรถเก๋ง 20% เป็นลูกค้ากลุ่มข้าราชการ และคนทำงานในบริษัทท้องถิ่นนั้น

รถมือสองในตลาดต่างจังหวัด โดยมากแล้วมักจะเป็นรถที่ตัดมาจากเต็นท์รถใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ที่อาจจะขายมานานแล้วแต่ขายไม่ได้สักที หรือว่าเป็นรถที่ทางเต็นท์ต่างจังหวัดต้องการ เลยมาขอตัดไป

อีกส่วนหนึ่ง เป็นรถที่มาจากลานประมูลต่างๆ หรือไฟแนนซ์ต่างๆ ขายทอดตลาดในกรุงเทพฯ อาจจะซื้อมาขายไปบวกกำไรต่อ

และรถรุ่นปีเก่าๆ หน่อย อาจจะซื้อมาจากรถบ้าน รถที่ลูกค้ามาเทิร์นที่เต็นท์ หรือผู้ใช้งานในจังหวัดนั้นๆ นำมาขาย และเป็นรถที่คนเมืองส่วนมากมักไม่นิยมกัน แต่ในต่างจังหวัดยังเป็นที่นิยม เนื่องจากมีราคาที่ย่อมเยาว์ ซื้อเงินสดได้เลยไม่ต้องผ่อน และบางผู้ประกอบการอาจใจดีให้ผ่อนเป็นกรณีพีเศษด้วย

รถแบบไหนที่ขาย? ส่วนมากก็จะเป็นรถราคาตามสภาพ บางเต็นท์ก็อาจจะมีเก็บงานให้นิดๆ หน่อยๆ หรือซ่อมเฉพาะในส่วนที่เสียหนักๆ ให้ใช้การได้ เพราะตลาดต่างจังหวัด ผู้คนส่วนมากรายได้อาจไม่สูงนัก ทำให้รถราคาหลักหมื่นยังเป็นที่ต้องการมาก แต่ด้วยราคาที่ถูก รถแทบทั้งหมดจึงเป็นรถตามสภาพ มีเสีย มีซ่อม เปลี่ยนนู่นนี่เป็นเรื่องปกติ ว่าแต่คุณรับได้หรือเปล่าล่ะ?

แต่ก็ไม่ใช่ว่า ต่างจังหวัด ตามเต็นท์รถจะมีแต่รถเก่าเสมอไป รถมือสองราคาหลักแสน หลักล้าน ก็ขอบอกได้ว่า มีอยู่เยอะเช่นกันครับ

Easy-Buy-Secondhand-Car

เคล็ดลับควรรู้ ในการเลือกซื้อรถมือสอง

ควรดูรถในที่กลางแจ้ง มีแสงสว่างหรือแดดจ้า เส้นสายตัวถังตัวรถ กับทรงของรถต้องเรียบเดิม ไม่เบี้ยวหรือยับ หรือผุมาก สภาพสีต้องสม่ำเสมอกันทั้งคัน ดูรอยอาร์ค ตะเข็บตามจุดต่างๆ น็อตต่างๆ ต้องเรียบร้อย ไม่มีรอยบาก รอยงัด รอยถอดออกมา ควรตรวจเช็คระบบไฟทั้งภายนอกและภายในรถ ภายในเครื่องยนต์ ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ ระบบสายพานต่างๆ ระบบแอร์ ท่อยาง วาล์ว หัวเทียน การทำงานของเครื่องยนต์ เป็นต้น ทางที่ดี ควรเลือกรถที่เดิมๆ หรือสภาพใกล้เคียงที่สุดจากโรงงาน

ภายในห้องโดยสาร ตรวจดูสภาพขององค์ประกอบต่างๆ ภายในทั้งหมด ว่ามีจุดใดกรอบแตก หรือหมดสภาพแล้วหรือไม่ เบาะนั่งที่ดีควรแข็ง นิ่ม ไม่ยวบยาบหรือขาด ดูระบบทำงานภายในรถทั้งหมด ที่ปัดน้ำฝน ไฟสัญญาณต่างๆ กระจกไฟฟ้า วิทยุ ฯลฯ มีตรงไหนใช้ไม่ได้หรือเปล่า และมีกลิ่นเหม็นๆ กลิ่นอับ ภายในรถหรือไม่

จากนั้นก็ลองทดสอบขับ เสียงเครื่องยนต์เป็นอย่างไรเวลาเร่งเครื่อง ตอนเลี้ยวซ้าย-ขวา ถอยหลัง มีเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ จากตัวรถหรือไม่ สภาพช่วงล่าง โช็คอัพ วิ่งแล้วมียวบยาบ สะดุด หรือมีเสียงดังหรือไม่ ก่อนจะตรวจดูใต้ท้องรถด้วย มีหยดน้ำมันหรือของเหลว รั่วออกมาจากส่วนต่างๆ หรือไม่

Easy-Buy-Secondhand-Car

การซื้อเลือกสักคันนั้น ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการของตัวเอง เช่น

รถอีโคคาร์ (Eco-Car) เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก มีเครื่องยนต์ประมาณ 1.0 – 1.2 ลิตร ประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับขับในเมือง เช่น Toyota Yaris, Nissan March, Mitsubishi Mirage หรือ Suzuki Swift เป็นต้น

รถเก๋ง 4 ประตู หรือที่เรียกว่ารถซีดาน มีในตลาดหลายแบบ เช่น แบบ Sub-Compact (เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร), แบบ Compact (เครื่องยนต์ 1.6 – 2.0 ลิตร) และแบบ Mid-Size (เครื่องยนต์ 2.0 – 2.5 ลิตร) เหมาะที่จะขับในเมืองหรือนอกเมือง ให้กำลังมาก เช่น Toyota Altis, Honda Civic, Mazda3 หรือ Nissan Sylphy เป็นต้น

รถ SUV หรือรถ PPV (แบบที่คนไทยเรียก Toyota Fortuner, Isuzu MU-X, Chevrolet Trailblazer หรือ Mitsubishi Pajero Sport เป็นต้น) เป็นรถนั่งอเนกประสงค์ขนาด 7-8 ที่นั่ง มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ใช้งานในเมืองก็ได้ หรือขับลุยทางลูกรังในต่างจังหวัดก็ได้

รถ MPV เป็นรถอเนกประสงค์ขนาด 7-13 ที่นั่ง เน้นกลุ่มครอบครัวใหญ่ สำหรับใช้งานหรือในเมือง หรือใช้งานในต่างจังหวัด พอลุยได้บ้างนิดหน่อย เช่น Toyota Innova, Honda Freed, Suzuki Ertiga หรือ Mitsubishi Space Wagon เป็นต้น

รถกระบะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้บรรทุกของจำนวนมาก ลุยป่าฝ่าดง หรือใช้ในกิจการขนส่งต่างๆ และธุรกิจต่างๆ เช่น Toyota Hilux, Nissan Navara, Mitsubishi Triton, Mazda BT-50, Isuzu D-Max หรือ Chevrolet Colorado เป็นต้น

Easy-Buy-Secondhand-Car

ความสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อรถมือสอง ถ้าคุณไม่ได้ซื้อรถมือสองด้วยเงินสด คุณจะต้องผ่อนรถทุกเดือนต่อเนื่องกันเป็นปี และยังต้องมีค่าซ่อมบำรุงรถต่างๆ (ที่จำเป็นต้องจ่ายประจำทุกปีอยู่แล้ว) อาทิ ค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ค่าเปลี่ยนผ้าเบรก ค่าช่วงล่าง ค่าปรับจูนเครื่องยนต์ ฯลฯ รวมถึงค่าน้ำมันในระหว่างเดือนอีกด้วย เพราะฉะนั้น วางแผนการเงินของคุณให้รอบคอบ ทั้งเงินดาวน์ ยอดผ่อน รวมถึงค่าจิปาถะต่างๆ และยังต้องกันงบไว้ส่วนนึงไว้ สำหรับซ่อมแซม หรือดูแลรักษารถ

หากคุณสนใจที่จะขายรถมือสองในช่วงเวลานี้ แต่อาจจะพักอาศัย หรือทำงานในต่างจังหวัด CARRO เรามีบริการรับซื้อรถยนต์ของคุณถึงที่ โดยที่คุณจะไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการเรื่องขายรถยนต์ สามารถมาขายได้ที่ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน