ตลาดรถยนต์ปีนี้ มีลุ้น 8 แสนคัน EV/ SUV มาแรง!

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2564 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2565

ปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจและสังคมไทยเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม จากความมุ่งมั่นพยายามของภาครัฐและบุคลากรทางการแพทย์ เราเชื่อว่าสถานการณ์กำลังจะก้าวเข้าสู่ภาวะคลี่คลาย

อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า โตโยต้า จะสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนให้สำเร็จภายในปี 2593 โดยเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 Akio Toyoda (อากิโอะ โตโยดะ) กรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศไว้ว่าโตโยต้ามีกลยุทธ์มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือกลยุทธ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ โดยโตโยต้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ครบทั้ง 30 รุ่น ภายในปี 2573

ซึ่งรวมไปถึงรถซีรีส์ bZ จำนวน 5 โมเดล ซึ่งมาพร้อมแพลตฟอร์มที่พัฒนาใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่โดยเฉพาะ โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ทั้งสิ้น 3.5 ล้านคัน ภายในปี 2573

ทั้งนี้ โตโยต้าทุ่มเงินลงทุน 1.2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ โดยที่เงิน 0.6 ล้านล้านบาท เป็นการลงทุนด้านแบตเตอรี่ และยังลงทุนอีก 1.2 ล้านล้านบาท สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง ภายในปี 2573

ส่วนในประเทศไทยนั้น Toyota เริ่มแนะนำเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2552 โดยครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ถึง 80% และมีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้ามากสุดในอาเซียน เราลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปได้ 148,000 ตัน ซึ่งเท่ากับการปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น อีกทั้งในปีที่แล้ว เรายังได้ทำการแนะนำ Lexus UX300e ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ และ Lexus NX450h+ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด

Toyota มีแผนที่จะทำการแนะนำ Toyota bZ4X ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของซีรีส์ bZ ออกสู่ตลาดภายในปีนี้ พร้อมส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต

สำหรับยอดขายรถรวมในปี 2564 เป็นปีที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเกิดปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต เช่น ปัญหาชิปขาดตลาด ด้วยเหตุนี้ ยอดขายรวมภายในประเทศจึงอยู่ที่ราว 759,119 คัน หรือลดลง 4.2% เมื่อเทียบกับปี 2563

สถิติการขายรถยนต์ในปี 2564 ยอดขายปี 2564 การเปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563
 ปริมาณการขายรวม 759,119 คัน – 4.2%
 รถยนต์นั่ง  251,800 คัน -8.4%
 รถเพื่อการพาณิชย์ 507,319 คัน -1.9%
 รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 393,476 คัน -3.9%
 รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 341,452 คัน -6.4%

สำหรับยอดขายของโตโยต้าในปี 2564 นั้น ยอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 239,723 คัน หรือลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเรายังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 31.6% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด

ซึ่งหากว่ากันตามตรง ถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ถ้าเราดูยอดขายของปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่าเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นมา สืบเนื่องมาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนดำเนินกิจกรรมทางการตลาดที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบใหม่ เช่น การขายผ่านช่องทางออนไลน์ ถ้าเราลองดูที่ยอดขายของโตโยต้าในระหว่างช่วงไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 4 จะเห็นได้ว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของเราอยู่ที่ 32.5% ซึ่งเป็นระดับที่ไกล้เคียงกับในปี 2562 หรือช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาด โดยในส่วนของยอดขายของ ไฮลักซ์ รีโว่ นั้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 39.1% ซึ่งสูงกว่าของปี 2562 ในขณะที่ เอทีฟ และ ยาริส นั้น ก็สามารถครองอันดับ 1 ในตลาดรถ อีโคคาร์

ในส่วนของตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้ามียอดขายรวมทั้งปีเป็นอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อน ด้วยยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ของโคโรลลา ครอส ส่วนฟอร์จูนเนอร์ ก็มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะดัดแปลงต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี ในขณะเดียวกัน คัมรี ก็ครองอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์ขนาดกลาง ส่วนไฮเอซก็ครองอันดับ 1 ตลอดกาลเช่นกันสำหรับในตลาดรถตู้

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2564 ยอดขายปี 2564 การเปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563 ส่วนแบ่งตลาด
 ปริมาณการขายโตโยต้า 239,723 คัน    -1.9% 31.6%
 รถยนต์นั่ง  62,403 คัน -8.4% 24.8%
 รถเพื่อการพาณิชย์ 177,320 คัน +0.7% 35.0%
 รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 151,501 คัน +1.2% 38.5%
 รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 128,639 คัน -1.0% 37.7%

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2565

เป็นไปได้ว่าโควิด-19 จะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย อย่างไรก็ดี เราคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆ กับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมด

นอกจากนี้ ประชาชนเองก็เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ให้ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ส่วนปัญหาชิ้นส่วนการผลิตขาดตลาดก็จะค่อยๆ คลี่คลายลงเช่นกัน คาดหวังว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ และคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2565 จะอยู่ที่ 860,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2565 ยอดขายประมาณการปี 2565 เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564
 ปริมาณการขายรวม 860,000 คัน  + 13.3%
 รถยนต์นั่ง 292,500 คัน + 16.2%
 รถเพื่อการพาณิชย์ 567,500 คัน + 11.9%

“สำหรับโตโยต้า เราตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 284,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 18.5% โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 33%”

ประมาณการยอดขายรถยนต์

โตโยต้าในปี 2565

ยอดขายประมาณการปี 2565 เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564 ส่วนแบ่งตลาด
 ปริมาณการขายโตโยต้า 284,000 คัน  + 18.5% 33.0%
 รถยนต์นั่ง    81,000 คัน     + 29.8% 27.7%
 รถเพื่อการพาณิชย์ 203,000 คัน      + 14.5% 35.8%
 รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 175,932 คัน     + 16.1% 40.6%
 รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 149,000 คัน      + 15.8% 39.8%

ปริมาณการส่งออกรถยนต์และการผลิตของโตโยต้าในปี 2564

ในด้านการส่งออกรถยนต์ ในปี 2564 โตโยต้าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไปราว 292,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 35.5% จากปี 2563 โดยยอดรวมการผลิตรถยนต์สำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกในปี 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 514,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 16.1% จากปี 2563

ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของ

โตโยต้าในปี 2564

ปริมาณในปี 2564 เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563
 ปริมาณการส่งออก 292,000 คัน     + 35.5%
 ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ 514,000 คัน + 16.1%

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์และการผลิตของโตโยต้าในปี 2565

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ เราคาดว่าความต้องการของตลาดต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเราตั้งเป้าปริมาณการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 371,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 27.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเราตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของปี 2565 อยู่ที่ ราว 647,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 25.9% จากปีที่ผ่านมา

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าปี 2565 ปริมาณในปี 2565 เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564
 ปริมาณการส่งออก 371,000 คัน     + 27.2%
 ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ 647,000 คัน + 25.9%

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนธันวาคม 2564

1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 91,010 คัน ลดลง 12.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 27,150 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 29.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 18,801 คัน ลดลง 18.0% ส่วนแบ่งตลาด 20.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 11,556 คัน เพิ่มขึ้น 14.7% ส่วนแบ่งตลาด 12.7%

2.)  ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 31,917 คัน ลดลง 16.3%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 8,763 คัน เพิ่มขึ้น 4.6% ส่วนแบ่งตลาด 27.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 7,347 คัน ลดลง 16.6% ส่วนแบ่งตลาด 23.0%
อันดับที่ 3 ซูซูกิ 2,776 คัน ลดลง 14.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.7%

3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 59,093 คัน ลดลง 10.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,803 คัน ลดลง 18.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 18,801 คัน ลดลง 18.0% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,117 คัน ลดลง 10.4% ส่วนแบ่งตลาด 7.0%

4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)

ปริมาณการขาย 42,785 คัน ลดลง 16.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 16,908 คัน ลดลง 21.6% ส่วนแบ่งตลาด 39.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 16,733 คัน ลดลง 16.8% ส่วนแบ่งตลาด 39.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,117 คัน ลดลง 10.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.6%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 6,280 คัน

โตโยต้า 2,459 คัน – อีซูซุ 1,990 คัน – มิตซูบิชิ 872 คัน – ฟอร์ด 707 คัน – นิสสัน 252 คัน

 5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 36,505 คัน ลดลง 17%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 14,918 คัน ลดลง 20.5% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 14,274 คัน ลดลง 18.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,410 คัน ลดลง 8.8% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564

1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 759,119 คัน ลดลง 4.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า
239,723 คัน ลดลง 1.9% ส่วนแบ่งตลาด 31.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 184,160 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 24.3%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
88,692 คัน ลดลง 4.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 251,800 คัน ลดลง 8.4%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 76,886 คัน ลดลง 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 30.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
62,403 คัน ลดลง 8.4% ส่วนแบ่งตลาด 24.8%
อันดับที่ 3 มาสด้า 19,800 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%

3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 507,319 คัน ลดลง 1.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 184,160 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
177,320 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 32,329 คัน เพิ่มขึ้น 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%

4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)

ปริมาณการขาย 393,476 คัน ลดลง 3.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
167,180 คัน ลดลง 0.8% ส่วนแบ่งตลาด 42.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
151,501 คัน เพิ่มขึ้น 1.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 32,329 คัน เพิ่มขึ้น 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน : 52,024 คัน

โตโยต้า 22,862 คัน – อีซูซุ 16,439 คัน – มิตซูบิชิ 6,619  คัน – ฟอร์ด 5,025 คัน –  นิสสัน 1,079 คัน 

5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 341,452 คัน ลดลง 6.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
150,741 คัน ลดลง 6.0% ส่วนแบ่งตลาด 44.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
128,639 คัน ลดลง 1.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 27,304 คัน เพิ่มขึ้น 11.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:

Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 ลุยตลาด MPV

นี่ก็นับว่าเป็นรถ MPV สไตล์ทรงกล่องเป็นเอกลักษณ์ของ Toyota Noah ที่ตั้งแต่แยกสายพันธุ์ออกจากรถในตระกูล Liteace รุ่นหลัก มาเปิดตัวเจเนอเรชั่นแรกพร้อมกับ Toyota Voxy คู่แฝดแบบสปอร์ต ในเดือนพฤศจิกายน 2001 (แต่ยังคงใช้รหัสรุ่น “R” กันไปอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม)

ก็ถือได้ว่าเป็นรถมินิแวนสามใบเถาขนาดกลางนี้ ที่ยอดฮิตมากในญี่ปุ่นอีกรุ่น ด้วยยอดขายรวมกันทั้ง Noah และ Esquire มาพร้อมความหรู (แต่ Esquire เลิกผลิต ไม่ได้ไปต่อละ) เฉลี่ยปีละหนึ่งแสนกว่าคัน

สำหรับ Toyota Noah และ Voxy ในไทยที่ผ่านมา มีแต่เพียงผู้จำหน่ายอิสระ นำเข้ามาขายกันทุกเจเนอเรชั่นเท่านั้น แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ชาว Toyota Lover หลายๆ คน ที่ไม่อยากได้ Estima หรือสู้ราคา Alphard ไม่ไหว ก็หันมาเลือกใช้ รุ่นนี้แทน

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

และบัดนี้ All-New Toyota Noah 2022 (โตโยต้า โนอาห์) และ Toyota Voxy (โตโยต้า ว็อกซี่) ในรหัส R90 ก็ถูกพัฒนามาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 แล้ว พัฒนาขึ้นใหม่บนแพลตฟอร์ม TNGA-C ก่อนเปิดตัวในวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ Hybrid ให้เลือกด้วย

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ตัวรถภายนอกของทั้งสองรุ่น มาพร้อมทรงเหลี่ยม กระจกบานใหญ่ๆ ชุดไฟหน้าแบบ LED ทรงเหลี่ยมแบบโฉบเฉี่ยว ควบคู่ไปกับชุดกันชนหนาอันสุดใหญ่โตโอฬาร ออกแบบเสา C-Pillar ให้ตั้งชันมากขึ้นกว่าเดิม ระบบประตูสไลด์ไฟฟ้า ที่มีเซ็นเซอร์ด้านล่าง แค่แหย่เท้าไปประตูก็เปิดเองได้อัตโนมัติ แถมยังมีชุดแต่งพิเศษจาก TRD และ Modellista ของ Toyota ให้เสียเงินติดตั้งเพิ่มเติมได้

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

สำหรับมิติตัวรถยาว 4,695 มม. กว้าง 1,730 มม. และสูง 1,895 – 1,925 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่น และระยะฐานล้อ 2,850 มม. ส่วนมิติห้องโดยสารภายใน กว้าง 2,805 มม. ยาว 1,470 มม. และสูง 1,405 มม.

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ห้องโดยสารภายใน ยังคงความเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวเช่นเดิม แผงคอนโซลหน้าดูล้ำสมัย แต่ใช้งานง่าย โดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotainment ที่มีขนาดตั้งแต่ 8.5 นิ้ว ไปจนถึงในรุ่น Top สุดขนาด 10.5 นิ้ว

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ส่วนเบาะนั่งมีให้เลือกทั้ง 7 และ 8 ที่นั่ง และเบาะนั่งด้านหลังสุด ติดตั้งระบบพับเก็บเบาะด้วยไฟฟ้า เพียงกดปุ่มแค่ครั้งเดียวก็พับเบาะได้ พร้อมฝาท้ายแบบไฟฟ้า มีระบบหยุดได้ทุกจังหวะที่ต้องการ ไม่ต้องเปิดให้กว้างสุดได้แล้ว ส่วนด้านระบบความปลอดภัย มี Toyota Safety Sense จัดเต็ม

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

ขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบ ตั้งแต่แบบเบนซิน Hybrid รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร (14.5 กก.-ม.) ที่ 3,600 รอบ/นาที ผ่านระบบขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-Four

พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส 1VM ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า (70 กิโลวัตต์) ในล้อคู่หน้า และล้อหลังขนาด 41 แรงม้า (30 กิโลวัตต์)

ส่วนรุ่นเบนซิน ใช้ขุมพลังรหัส M20A-FKS ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร (20.6 กก.-ม.) ที่ 4,900 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ Direct-Shift-CVT ผ่านระบบขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

รุ่นย่อย All-New Toyota Noah 2022 ยังคงมีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย ตามความต้องการของลูกค้าตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น X, G, Z, S-G และ S-Z ส่วน All-New Toyota Voxy 2022 มีให้เลือกแค่รุ่นย่อย S-G และ S-Z

Toyota เปิดตัว Toyota Noah 2022 และ Voxy 2022 รถ MPV ทรงกล่องสุดไฮเทค พร้อมสู้คู่แข่ง!

สำหรับ All-New Toyota Noah 2022 และ Toyota Voxy 2022 มีราคาอยู่ที่ 2,670,000 – 3,960,000 เยน หรือ ประมาณ 810,000 – 1,188,000 บาทไทย

ส่วนในบ้านเรา หากใครอยากได้ All-New Toyota Noah 2022 และ Toyota Voxy 2022 ก็เตรียมเก็บเงินซื้อกันได้แล้วนะครับ คาดว่าผู้จำหน่ายอิสระหลายๆ เจ้า สั่งนำเข้ามาขายแน่นอน ช่วงราคาคงอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาทเหมือนเดิมครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อ Toyota Noah และ Toyota Voxy คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาดทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

10 อันดับ รถถูกสุดในไทย ปี 2022

ในยุคสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เมื่อคุณจะตัดสินใจออกรถใหม่ 2022 ไม่ว่าจะเพื่อมาใช้ในการเดินทาง ใช้ทำงาน หรือไว้ใช้งานในครอบครัว ให้ลูกขับไปมหาวิทยาลัย หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไปมากที่สุด

โดยคุณสมบัติต่างๆ ของรถนั้น ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจ และราคารถยนต์ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่า จะเป็นรถยนต์ที่มีราคาถูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณภาพจะด้อยเสมอไป และต้องเป็นรถที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงเป็นรถขายดี อะไหล่หาง่าย ซื้อง่ายขายคล่อง ขายต่อเป็นรถมือสองก็ง่ายด้วย

ส่วนถ้าใครกำลังอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปออกรถใหม่มาใช้ ลองมาขายกับ CARRO Express ดูสิ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

ด้วยเหตุนี้ MR.CARRO จึงรวบรวมข้อมูลรถยนต์ใหม่ป้ายแดง รถใหม่ 2022 ที่ยังมีขายอยู่ในปัจจุบัน หลากหลายรูปแบบ 10 อันดับ ถูกที่สุดในไทย ประจำปี 2022 มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน.

Suzuki Celerio / ซูซูกิ เซเลริโอ้

1. Suzuki Celerio ราคา 328,000 บาท

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย แม้ว่าจะขายมาหลายปี แต่ก็ยังได้รับความนิยม อัดแน่นคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร อีกทั้้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ ของรถยนต์นั่งมาตรฐานโลก ส่งออกไปขายในเอเชียและยุโรปด้วย

TATA Super Ace Mint / ทาทา ซูเปอร์ เอซ มินท์

2. TATA Super ACE Mint ราคา 375,000 บาท

TATA Super ACE Mint (ทาทา ซูเปอร์ เอซ มินท์) รถบรรทุกขนาดเล็กเพื่อการพาณิชย์ขนาดไม่เกิน 1 ตัน เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 1.4 ลิตร 70 แรงม้า รายแรกและรายเดียว ทรงพลังให้แรงบิดสูงสุด ในรอบเครื่องต่ำ ถือเป็นรถบรรทุกเล็กเพื่อการพาณิชย์อย่างแท้จริง

กระบะท้ายพื้นเรียบขนาดใหญ่ พร้อมเปิดได้ 3 ด้าน และวางเครื่องยนต์อยู่ใต้ที่นั่งคนขับ ทำให้พื้นที่กระบะท้ายยาวขึ้น เพิ่มพื้นที่บรรทุกและเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่

Suzuki Carry / ซูซูกิ แครี่

3. Suzuki Carry ราคา 385,000 บาท

Suzuki Carry (ซูซูกิ แครี่) รถบรรทุกเล็กจอมพลัง เจเนอเรชั่นที่ 2 ภายใต้แนวคิด Carry Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน ปรับโฉมใหม่หมดครั้งที่ 2 ตั้งแต่ผลิตรถรุ่นนี้นับตั้งแต่เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2549 กว่า 50,000 คัน เป็นรถขายดีในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงกลุ่มรถ Food Truck

มาพร้อมระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส K15B 95 แรงม้า ประหยัดน้ำมันมากขึ้น มีระบบเบรก ABS ห้องโดยสารโทนสีเทาดำออกแบบใหม่ ใหญ่ขึ้น ใช้พวงมาลัยไฟฟ้าช่วยลดแรงหมุนพวงมาลัยอีกด้วย และรับน้ำหนักได้มากถึง 945 กิโลกรัม

Nissan March / นิสสัน มาร์ช

4. Nissan March ราคา 420,000 บาท

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือได้ว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทยที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในปี 2553 โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน มียอดขายสะสมรวมได้หลายแสนคัน มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย อะไหล่หาง่าย ซื้อง่ายขายคล่อง

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร ขับขี่ก็ง่าย จอดรถก็คล่องตัว ราคาอะไหล่ไม่แพง คุ้มค่ามาก ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่ง หรือรถมือสอง

Mitsubishi Mirage / มิตซูบิชิ มิราจ

5. Mitsubishi Mirage ราคา 474,000 บาท

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ยิ่งในโฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับโฉมใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมกับออพชั่นใหม่ และอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

Mitsubishi Attrage / มิตซูบิชิ แอททราจ

6. Mitsubishi Attrage ราคา 494,000 บาท

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) โฉม Minorchange แต่งหน้าทาปากให้ดูสปอร์ตขึ้น ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mirage แต่ออกแบบเป็นรถ 4 ประตู ตัวรถภายในกว้างขวาง

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ขับง่าย คล่องตัว ออพชั่นเพียบ เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหารถคันแรก เน้นความประหยัดคุ้มค่า

Nissan Almera / นิสสัน อัลเมร่า

7. Nissan Almera ราคา 509,000 บาท

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) และภายในออกแบบใหม่หมด กว้างขวางมาก นั่งสบาย

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

MG3 / เอ็มจี3

8. MG3 ราคา 519,000 บาท

MG3 (เอ็มจี 3) รถแฮทช์แบ็คหลากสีสันสดใส มิติใหม่ของความสนุกด้วยเอกลักษณ์ของ All-New MG3 ที่มาพร้อมนิยามใหม่ “WE ARE FUN” : มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถรองรับการสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย พร้อมกับการอัพเดทฟังก์ชันใหม่บนแผนที่นำทางที่สามารถแนะนำร้านอาหาร และที่พัก พร้อมระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ออนไลน์

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ DOHC VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร 112 แรงม้า ผสานการทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode และยังจัดเต็มระบบความปลอดภัยอีกด้วย

Toyota Yaris ATIV / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

9. Toyota Yaris ATIV ราคา 539,000 บาท

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) นับเป็นรถยนต์ Eco-Car Sedan ที่เป็นรถขายดีในบ้านเราอีกรุ่น นับตั้งแต่ปี 2560 และปรับโฉมครั้งล่าสุดในเดือนกันยายน 2564 นี่เอง โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว กว้างขวาง ขับง่าย นั่งสบาย พร้อมฟังก์ชันสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ Super CVT-i ใหม่ พร้อม Shift Lock ขับขี่คล่องตัว ให้ความรู้สึกสนุกสนานในทุกการขับขี่ “Fun-To-Drive” พร้อมรองรับแก๊สโซฮอล์ E20

Mazda2 / มาสด้า2

10. Mazda2 Sedan / Hatchback ราคา 546,000 บาท

Mazda2 (มาสด้า2) นับเป็นรถยนต์ Hatchback 5 ประตู และ Sedan 4 ประตู ที่จำหน่ายในบ้านเรามาหลายปีอีกหนึ่งรุ่น นับตั้งแต่ปี 2558 และปรับโฉมครั้งล่าสุดมาในเดือนมกราคม 2565 เพิ่มอุปกรณ์ดีที่สุดในคลาส ขายราคาเท่าเดิม เพิ่มสีใหม่ Platinum Quartz (แพลตทินั่ม ควอตซ์) ทั้งในแบบ 4 ประตูและ 5 ประตู เอาใจลูกค้าเจนฯ ใหม่ ซึ่งยังติดอันดับรถขายดีในปัจจุบัน

ในรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร Skyactiv-G 93 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Skyactiv-Drive ให้ความคล่องตัว พร้อมให้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ในรุ่นเบนซิน พร้อมรองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และ 26.3 กม./ลิตร ในรุ่นดีเซล

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถถูกสุดในไทยที่นำมาเสนอนั้น หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! ลองเลือกซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ : ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนมกราคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

Toyota C+pod รถไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายทั่วไปในญี่ปุ่น เริ่มต้น 484,000 บาท

ข่าวดีของคนที่อยู่ในญี่ปุ่น! Toyota (โตโยต้า) ได้เริ่มต้นจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว 2 ที่นั่ง Toyota C+pod (โตโยต้า ซีพ็อด) รหัสรุ่น ZAZ-RMV12 อย่างเป็นทางการแก่บุคคลทั่วไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา หลังจากที่ Toyota ได้ประกาศทิศทางการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และเปิดตัวพร้อมกันมากถึง 16 รุ่นในรวดเดียวเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

ก่อนหน้านั้น Toyota C+pod ได้จำหน่ายในรูปแบบของการเช่าซื้อให้เฉพาะองค์กรและเทศบาลท้องถิ่น ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับชื่นชมอย่างมากมาย แต่ Toyota ก็ยังจำหน่าย Toyota C+pod แก่บุคคลทั่วไปในรูปแบบเช่าซื้อเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไข 3R (Reduce, Re-Use, Recycle)

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

มิติตัวรถยาว 2,490 มม. กว้าง 1,290 มม. สูง 1,550 มม. ระยะฐานล้อ 1,780 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มม. และน้ำหนักตัวรถ 660 – 690 กิโลกรัม ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมือง แต่เนื่องด้วยมิติตัวรถมีขนาดเล็กเช่นนี้ จึงถูกจัดเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กพิเศษตามกฎหมายของญี่ปุ่น ซึ่งขับขึ้นทางด่วนหรือทางหลวงระหว่างจังหวัดไม่ได้

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

สำหรับห้องโดยสารภายใน แม้ว่าตัวรถภายนอกจะดูขนาดเล็ก แต่เนื้อที่ภายในให้พื้นที่กว้างถึง 1,290 มม. ยาว 1,100 มม. สูง 1,070 มม. นั่งได้ 2 คน

ส่วนระบบความปลอดภัยของ C+pod ได้มาตรฐานความปลอดภัยของรถขนาดจิ๋วของญี่ปุ่น ช่วงล่างหน้าแบบสตรัท คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโครง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรก หลังดรัมเบรก

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

ขุมพลังขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้ารหัส 1RM ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 9.2 kW (12.5 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 56 นิวตันเมตร (5.7 กก.-ม.) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 9.06 kWh ทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ได้ระยะทางสูงสุด 150 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTC)

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

การชาร์จไฟฟ้าจาก 0-100% แบบเฟสเดียว 200V 16A ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และแบบเฟสเดียว 100V 6A จะใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง ซึ่ง Toyota C+Pod ยังสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ยามฉุกเฉินได้ด้วย อาทิ โทรศัพท์มือถือ, โน๊ตบุ๊ค, หม้อหุงข้าว หรือเครื่องทำความร้อนได้อีกด้วย

Toyota C+pod รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ได้ฤกษ์ขายบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่นแล้ว เคาะราคาเริ่มต้น 484,000 บาท

โตโยต้า C+pod มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น X ราคา 1,650,000 เยน หรือประมาณ 492,000 บาท และ G ราคา 1,716,000 เยน หรือราว 502,000 บาท

สำหรับในไทย โอกาสที่ Toyota จะนำเข้ามานั้น บอกได้เลยว่าไม่มีแน่นอนครับ!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงปลายปีนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

สถิติการขายรถยนต์ ยอดขายรถ ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2564

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2564 ยังชะลอตัวต่อเนื่องในทุกเซ็กเมนท์ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 71,716 คัน แต่มีอัตราการหดตัวที่ลดลงเพียง 9.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 23,793 คัน ลดลง 6.5% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 47,923 คัน ลดลง 10.8% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 38,550 คัน ลดลง 9.9%

สืบเนื่องจากภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังเกิดขึ้นทั่วประเทศ ส่งผลเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิต และการดำเนินธุรกิจ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการท่องเที่ยว และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้บริโภคยังคงชะลอการตัดสินใจซื้อ และรัดกุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

ORA Good Cat

ตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคมมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ส่งผลดีต่อการประกอบธุรกิจต่างๆ และประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงสภาวะปกติ และสืบเนื่องจากทุกค่ายรถยนต์แข่งกันนำเสนอแคมเปญและโปรโมชั่นในช่วงสิ้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงงาน Motor Expo 2021 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากถึง 1,151,540 คน และยอดจองรถยนต์ในงานมากถึง 31,583 คัน ไม่นับรวมยอดจองรถยนต์ตามโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทุกยี่ห้อทั่วประเทศ ภายใต้ข้อเสนอพิเศษ “เงื่อนไขเดียวกับมอเตอร์โชว์” เป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของลูกค้าได้อย่างดี

แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ที่เริ่มระบาดในหลายประเทศรวมทั้งไทย เป็นปัจจัยลบต่อตลาดรถยนต์ และสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ในปี 2565 นี้

บรรยากาศในงาน Motor Expo 2021

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตพฤศจิกายน 2564

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 71,716 คัน ลดลง 9.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 โตโยต้า 23,168 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 32.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 18,419 คัน ลดลง 4.8% ส่วนแบ่งตลาด 25.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 8,624 คัน ลดลง 3.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.0%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 23,793 คัน ลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 8,062 คัน เพิ่มขึ้น 9.3% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 6,304 คัน ลดลง 15.0% ส่วนแบ่งตลาด 26.5%
อันดับที่ 3 ซูซูกิ 2,242 คัน เพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 47,923 คัน ลดลง 10.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 อีซูซุ 18,419 คัน เพิ่มขึ้น 4.8% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 16,864 คัน ลดลง 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,859 คัน ลดลง 13.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.0%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 38,550 คัน ลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 อีซูซุ 16,956 คัน เพิ่มขึ้น 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 44.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 14,888 คัน ลดลง 14.0% ส่วนแบ่งตลาด 38.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,859 คัน ลดลง 13.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,410 คัน
โตโยต้า 2,338 คัน – อีซูซุ 1,734 คัน – มิตซูบิชิ 651 คัน – ฟอร์ด 482 คัน – นิสสัน 205 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 33,140 คัน ลดลง 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 อีซูซุ 15,222 คัน ลดลง 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 45.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,550 คัน ลดลง 13.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,377 คัน เพิ่มขึ้น 16.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.2%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 668,109 คัน ลดลง 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 โตโยต้า
212,573 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 165,359 คัน เพิ่มขึ้น 4.5% ส่วนแบ่งตลาด 24.8%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
77,136 คัน ลดลง 7.0% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 219,883 คัน ลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 68,123 คัน ลดลง 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 31.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
55,056 คัน ลดลง 7.2% ส่วนแบ่งตลาด 25.0%
อันดับที่ 3 มาสด้า 18,603 คัน ลดลง 12.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.5%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 448,226 คัน ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 อีซูซุ 157,517 คัน เพิ่มขึ้น 3.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
165,359 คัน เพิ่มขึ้น 4.5% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 28,212 คัน เพิ่มขึ้น 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 350,691 คัน ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 อีซูซุ
150,272 คัน เพิ่มขึ้น 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
134,768 คัน เพิ่มขึ้น 4.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 28,212 คัน เพิ่มขึ้น 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 45,744  คัน
โตโยต้า 20,403 คัน – อีซูซุ 14,449 คัน – มิตซูบิชิ 5,747 คัน – ฟอร์ด 4,318 คัน – นิสสัน 827 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 304,947 คัน ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อันดับที่ 1 อีซูซุ
135,823 คัน ลดลง 4.1% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
114,365 คัน เพิ่มขึ้น 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 23,894 คัน เพิ่มขึ้น 15.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาจาก:

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาน่าซื้อในงาน Motor Expo 2021

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ในปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ที่สมรรถนะดีมากกว่าในอดีตมาก และออพชั่นติดรถสุดทันสมัย ไม่แพ้รถยนต์นั่งเลยทีเดียว ซึ่งคาวมนิยมในบ้านเรากับความเป็นรถสารพัดประโยชน์ ทั้งในเชิงพาณิชย์ การใช้งานที่อเนกประสงค์ ขนของได้ ลุยน้ำได้ ไปกันได้หลายคน ใช้ทำเป็นรถรับจ้างหาเงินได้อีกด้วย

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เอ็มจี ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Expo 2021 จะมีรถกระบะรุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

Toyota Hilux Revo GR Sport

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) แม้ว่ากระแสจะดูไม่เปรี้ยงปร้างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว ในงาน Motor Show 2021 ครั้งนี้ ยังชูจุดขายอย่างรุ่น GR Sport กับ Hilux Revo GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในรุ่น Lo-Floor รถกระบะตัวเตี้ยหน้าหล่อที่เพิ่มความ Sport Premium ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขัน รถยนต์ทางเรียบ Super GT (Grand Touring)

และ Hilux Revo GR Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่น Hi-Floor กระบะยกสูงรุ่นท็อป Premium Adventure ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจากรถแข่งระดับโลก ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ World Rally Championship (WRC) เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถกระบะดีไซน์สปอร์ต ดุดัน ทันสมัย

ทั้งการออกแบบภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอย และการตกแต่งภายในห้องโดยสาร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ GR Sport มาพร้อมกับโช้คอัพแบบ Monotube Shock Absorber เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ขั้นสูง ขับสนุกเร้าใจ ขับลุยได้ทุกที่และมั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า Toyota Safety Sense

พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ 2.8 GD Super Power 204 แรงม้า ที่ตอบสนองความเร็ว แรง และการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งรถกระบะรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาสำหรับประเทศไทยเท่านั้น

ราคาของ Toyota Hilux Revo อยู่ที่ 584,000 – 1,299,000 บาท

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่! ครั้งแรกของโลก! ผลงานความสมบูรณ์แบบล่าสุดจาก DNA ของ Isuzu ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน มิติตัวรถใหญ่ บึกบึนยิ่งขึ้น ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ยกระดับความพรีเมี่ยม สู่มาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพระดับ Top Class ด้วยสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน เพิ่มความดุดัน และล้อ อัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius

ห้องโดยสารภายใน ผสานความเท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาล และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน ออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวางแบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver จัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานหลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment

มีให้เลือกครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 510,000 – 1,172,000 บาท

Nissan Navara PRO-4X

Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) รถกระบะที่ กล้า… เพื่อคนแกร่ง ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า โดดเด่นด้วยด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน และเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบจาก Nissan Intelligent Mobility

นาวารา ใหม่ มีเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่

  • เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ Twin Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผันแบบ VGS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YD25DDTTi ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร

นอกจากนี้ ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สามารถลุยได้ทุกที่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และเทคโนโลยีที่เสริมความมั่นใจในทุกสภาวะของเส้นทาง อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential: B-LSD) และ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (Electronic Rear Locking Differential) รวมถึงเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) ที่เสริมฟังก์ชัน Off-Road Meter เมื่ออยู่ในโหมด 4L

นอกจากนี้ นาวารา ใหม่ ยังนำรุ่นพิเศษ PRO-4X และ PRO-2X ใหม่ ถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจาก Nissan Titan สำหรับลูกค้าที่ชอบการเดินทางแบบผจญภัยพร้อมลุยไปในเส้นทางแปลกใหม่ ที่เสริมความดุดันของดีไซน์ภายนอก จากกระจังหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งโทนสีดำ ปรับแต่งช่วงล่างใหม่ให้สามารถลุยไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ ด้วยล้ออัลลอยพร้อมยางแบบ All-Terrain

โดยทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมสีพิเศษ สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) เสริมด้วยชุดแต่งที่มีแอคเซนท์สีส้มแดง ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยเบาะนั่งสีดำดีไซน์สปอร์ต ในราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-2X และ 1,149,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-4X

ราคาของ Nissan Navara อยู่ที่ 599,000 – 1,149,000 บาท

Mitsubishi Triton Ralliart

Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ยังคงตกแต่งรุ่นพิเศษออมาอย่างต่อเนื่องทุกปี งวดนี้ เกาะการกลับมาของแบรนด์ระดับไอคอน Ralliart (แรลลี่อาร์ท) ได้แก่ Mitsubishi Triton Ralliart (มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ท) มาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโรงงาน อาทิ ลวดลายสติกเกอร์ด้านข้างตัวรถสีแดง สีเงิน และสีดำ แผ่นกันโคลนสีแดง รวมถึงชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าที่มาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ท

โดยรุ่นแรลลี่อาร์ทจะแตกต่างจากรุ่นธรรมดา ด้วยชุดตกแต่งภายนอกสีดำสุดพิเศษ ออกแบบเฉพาะสำหรับกระจังหน้า ล้ออัลลอย และหลังคา สำหรับภายในตกแต่งด้วยพรมปูพื้นจะมาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ทด้วยเช่นกัน

สำหรับ Mitsubishi Triton Ralliart จะมาในรุ่น ไทรทัน ตัวเตี้ย มีให้เลือกในรุ่นย่อย ได้แก่ Mega Cab และ Double Cab ชุดตกแต่งพิเศษประกอบด้วยพื้นปูกระบะท้ายที่มีโลโก้แรลลี่อาร์ท และมือเปิดกระบะท้ายสีดำ เพิ่มลุคสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ไม่หยุดนิ่ง ของรุ่นไทรทันให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Solid White พร้อมหลังคาสีดำ และสีดำ Jet Black Mica

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 519,000 – 1,109,000 บาท

Mazda BT-50

Mazda BT-50

Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) เจเนอเรชั่นใหม่ ผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ดีไซน์ที่ถูกออกแบบอย่างสง่างามที่สุดในโลก คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีความทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด

การออกแบบที่สง่างาม สไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ให้ความสะดวกสบายเทียบเท่ารถเอสยูวี ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกโอกาส หรือ “Built for Dress and Jeans” ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ออกแบบด้วย Signature Wing ขนาดใหญ่ รูปทรงด้านหน้าที่สง่างามในสไตล์รถเอสยูวี ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

ภายในห้องโดยสาร ประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด ใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง คอนโซลหน้าถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดานเลือกใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่ง ให้นั่งสบายในทุกตำแหน่ง และแผงประตูดูหรูหรา ด้วยการตกแต่งสไตล์เดียวกับรถ SUV

การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์โดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลักการ Human Machine Interface ทุกฟังก์ชันง่ายต่อการใช้งาน การรับรู้ข้อมูลการขับขี่รวมถึงสายเรียกเข้าหรือชื่อเพลงบนหน้าจอแบบสี MID (Multi-Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT (Thin-film Transistor Technology)

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาส กับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มีทั้งแบบส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แถมรองรับน้ำมันดีเซลได้ถึง B20

ราคาของ Mazda BT-50 อยู่ที่ 569,000 – 1,153,000 บาท

Ford Ranger Raptor X

Ford Ranger / Ranger Raptor X

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ในงาน Motor Expo 2021 นี้ Ford นำกระบะรุ่นเด็ดอย่าง Ford Ranger Raptor X (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เอ็กซ์) รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นด้วย DNA ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งภายในและภายนอก เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ดุดัน สไตล์สปอร์ต มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ

ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ส่งมอบพละกำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมพิชิตทุกเส้นทางด้วยระบบ Terrain Management System (TMS) กับโหมดการขับขี่ถึง 6 รูปแบบ

และยังมี Fod Ranger XL Street Special Edition (ฟอร์ด เรนเจอร์ เอ็กซ์แอล สตรีท สเปเชียล เอดิชั่น) รถกระบะตอนครึ่งสำหรับลูกค้าคนรุ่นใหม่ ตกแต่งเป็นพิเศษโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งของทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ฟอร์ด ประเทศไทย มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ และมีจำนวนจำกัด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้งานของลูกค้าที่ชื่นชอบความแตกต่างได้อย่างลงตัว

ราคาของ Ford Ranger ทั้งหมด อยู่ที่ 562,000 – 1,729,000 บาท!

MG Extender

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) นำรุ่นไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดมาโชว์ในงาน Motor Show 2021 นี้ กับ Concept “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าใหม่ ตั้งแต่การจัดวาง Daytime Running Light ไว้ด้านบน

พร้อมชุดไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED Projector จัดวางเรียงเป็น 3 ระดับ ตามแนวตั้งด้านข้างของกันชนหน้า โดยไฟส่องสว่างลดระดับต่ำลงกว่าเดิม ทำให้ไม่รบกวนรถที่สวนทางมา พร้อมล้ออัลลอยด์แบบ Bi-Colour ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายใน เสริมความพรีเมี่ยมด้วยสีทูโทน สีน้ำตาลสลับสีดำ คอนโซล และแผงประตูตกแต่งพิเศษ ด้วยวัสดุแบบ Soft Touch พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าเอนได้ถึง 150 องศา และตกแต่งเบาะด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์

ตอกย้ำความเป็นสมาร์ทปิกอัพ ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ครบครันถึง 9 ระบบ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมมอบความคุ้มค่าที่เหนือกว่า

วางสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล Commonrail Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 161 แรงม้า ให้ทั้งพละกำลังโดดเด่น การประหยัดน้ำมัน และมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อในเกือบทุกรุ่น พร้อม Option ต่างๆ ที่ให้มากกว่ารถทุกรุ่นเมื่อเทียบในระดับราคาเดียวกัน

สำหรับ MG Extender ใหม่ ราคาอยูที่ 559,000 – 1,039,000 บาท

… ถูกใจรุ่นไหน ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Motor Expo 2021 กันได้เลยนะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

สถิติการขายรถยนต์ ยอดขายรถ ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2564

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2564 ยังชะลอตัวต่อเนื่องในทุกเซ็กเมนท์ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 64,462 คัน ลดลง 13%ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 19,950 คัน ลดลง 11.2% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 44,512 คัน ลดลง 13.8% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 35,352 คัน ลดลง 13.4%

ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม 2564 มีปริมาณการขาย 64,462 คัน ลดลง 13% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 11.2% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 13.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

เนื่องจากความวิตกกังวลต่อการระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนความสามารถในการซื้อรถยนต์ของลูกค้า

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ และมาตรการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยโดยไม่ต้องกักตัว ตลอดจนการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยเริ่มทั่วถึง คาดว่าการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยในการบริโภค และการท่องเที่ยวอาจเพิ่มขึ้น

อีกทั้งสถานการณ์ตลาดรถยนต์จะดีขึ้นไปจนถึงสิ้นปี ที่จะมีการจัดงาน Motor Expo 2021 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2021) ซึ่งหลายค่ายรถยนต์ต่างนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขาย “เงื่อนไขเดียวกับ มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ในช่วงปิดตัวเลขการขายประจำปีด้วยเช่นกัน

All-New Ford Ranger 2022

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2564 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,462 คัน ลดลง 13%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 22,845 คัน ลดลง 11.1% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,411 คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 23.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,183 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,950 คัน ลดลง 11.2%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 6,655 คัน ลดลง 8.0% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 5,651 คัน ลดลง 9.5% ส่วนแบ่งตลาด 28.3%
อันดับที่ 3 มาสด้า 1,780 คัน ลดลง 11.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.9%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 44,512 คัน ลดลง 13.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,194 คัน ลดลง 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 38.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,411 คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,823 คัน เพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 35,352 คัน ลดลง 13.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,918 คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,002 คัน ลดลง 12.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,823 คัน เพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,174 คัน
โตโยต้า 2,079 คัน – อีซูซุ 889 คัน – มิตซูบิชิ 564 คัน – ฟอร์ด 492 คัน – นิสสัน 150 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 31,178 คัน ลดลง 15.1%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,113 คัน ลดลง 17.7% ส่วนแบ่งตลาด 42.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,839 คัน ลดลง 7.2% ส่วนแบ่งตลาด 41.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,331 คัน เพิ่มขึ้น 6.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2564

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 596,393 คัน ลดลง 2.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า
189,405 คัน เพิ่มขึ้น 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 146,940 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
68,512 คัน ลดลง 7.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 196,090 คัน ลดลง 7.2%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 60,061 คัน ลดลง 2.6% ส่วนแบ่งตลาด 30.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
48,752 คัน ลดลง 6.1% ส่วนแบ่งตลาด 24.9%
อันดับที่ 3 มาสด้า 16,637 คัน ลดลง 10.6% ส่วนแบ่งตลาด 8.5%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 400,303 คัน เพิ่มขึ้น 0.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 146,940 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 36.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
140,653 คัน เพิ่มขึ้น 7.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 25,353 คัน เพิ่มขึ้น 15.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 312,141 คัน ลดลง 1%
อันดับที่ 1 อีซูซุ
133,316 คัน เพิ่มขึ้น 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
119,880 คัน เพิ่มขึ้น 6.8% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 25,353 คัน เพิ่มขึ้น 15.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 40,334 คัน
โตโยต้า 18,065 คัน – อีซูซุ 12,715 คัน – มิตซูบิชิ 5,096 คัน – ฟอร์ด 3,836 คัน – นิสสัน 622 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 271,804 คัน ลดลง 4.1%
อันดับที่ 1 อีซูซุ
120,601 คัน ลดลง 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
101,815 คัน เพิ่มขึ้น 4.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 21,517 คัน เพิ่มขึ้น 20.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาจาก:

ซื้อมั้ย! CARRO Automall ภูมิใจเสนอ Toyota Corolla Cross คุณภาพดี ราคาโดน!

ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะครับว่า รถ SUV และรถ Crossover หลากหลายรุ่น จัดเป็นรถขายดีทุกฤดูไปแล้วก็ว่าได้ เพราะได้ทั้งความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ตอบโจทย์คนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติ ซึ่งรถรุ่นใหม่ๆ ล้วนออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย และดูหรูหรามากขึ้นกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

ทาง CARRO Automall (คาร์โร ออโต้มอลล์) เอง ก็มีรถแบบ Crossover ที่หลายคนกำลังมองหามาไว้ใช้งาน กับความสารพัดประโยชน์ที่ได้รับจากรถแนวนี้ มีที่เก็บของจุกจิกเพียบ เบาะพับได้หลายรูปแบบ เครื่องยนต์พลังแรง แถมราคาขายต่อดี ไม่ตก แถมยังเป็นแบรนด์เจ้าตลาด ขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของศูนย์บริการ และการหาอะไหล่ และยังมีรุ่นไฮบริดให้เลือกด้วย

ไปรู้จักกับ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) รถขายดีนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งทาง CARRO Automall ภูมิใจเสนอ และอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของกันครับ …

All-New-Corolla-Cross-2020

สำหรับ Toyota Corolla Cross เป็นรถที่พัฒนาจากโครงสร้างใหม่อย่าง TNGA (Toyota New Global Architecture) แข็งแกร่งทนทาน ขับรถได้มั่นใจยิ่งขึ้น เฉกเช่นเดียวกับรถหลายๆ รุ่นของโตโยต้า โดยเป็นการนำ DNA ของรถ Corolla มาพัฒนาให้เป็นรถอเนกประสงค์

ตัวรถภายนอกออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว สปอร์ต หรูหราแต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง ชุดไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ราวหลังคา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และอีกจุดเด่นกับหลังคามูนรูฟไฟฟ้า กับประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า

All-New-Corolla-Cross-2020

ห้องโดยสารภายใน หรูหรา ดูดีมีระดับ ลงตัวด้วยสีภายในสีแดง (Terra Rossa) หลากหลายจุดเด่น เช่น หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ T-Connect, จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า, พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา, และมั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

All-New-Corolla-Cross-2020

ขุมพลังมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมทั้งหมดต่อได้ที่ >> รวมทุกจุดเด่น Toyota Corolla Cross 2020 ใหม่! เปิดตัวในไทยที่แรกในโลก ในราคา 989,000 – 1,199,000 บาท

และสำหรับ CARRO Automall ในเดือนกุมภาพันธุ์ 2565 เรามี Toyota Corolla Cross รถคุณภาพดี ราคาโดน มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 3 คัน ได้แก่ …..

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 เทา

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 เทา

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 เทา

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 เทา

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 เทา

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 เทา

1. Toyota Corolla Cross 1.8 HV Premium ปี 2020 เลขไมล์ 15,581 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 919,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-corolla-2020-D8N554.html

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ดำ

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ดำ

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ดำ

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ดำ

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ดำ

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ดำ

2. Toyota Corolla Cross 1.8 HV Premium ปี 2020 เลขไมล์ 27,696 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 939,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-corolla-2020-GV2VW4.html

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ขาว

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ขาว

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ขาว

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ขาว

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ขาว

TOYOTA COROLLA CROSS 1.8 HYBRID PREMIUM 2020 ขาว

3. Toyota Corolla Cross 1.8 HV Premium ปี 2020 เลขไมล์ 56,446 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 989,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-corolla-2020-DLK59Y.html

ถ้าใครที่กำลังมองหา Toyota Corolla Cross มือสอง (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริง เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถ Toyota Corolla Cross ทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก CARRO Automall เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธุ์ 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR

ในประเทศไทย รถ SUV และรถ Crossover หลากหลายรุ่น นับว่าเป็นรถขายดีประจำทุกฤดูเลยก็ว่าได้ เพราะได้ทั้งความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ตอบโจทย์คนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยว หรือไปเยี่ยมญาติลุยร้อน ลุยฝน ลุยหนาวได้ ซึ่งรถรุ่นใหม่ๆ ล้วนออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย และหรูหรา ดูดีมากขึ้นกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

ทาง CARRO Automall (คาร์โร ออโต้มอลล์) เรามีรถแบบ Crossover ที่หลายคนกำลังมองหามาไว้ใช้งาน กับความสารพัดประโยชน์ที่ได้รับจากรถแนวนี้ มีที่เก็บของจุกจิกเพียบ รูปทรงสวยสไตล์รถ Coupe เครื่องยนต์พลังแรง แถมราคาขายต่อดี แถมยัง เป็นแบรนด์เจ้าตลาด ขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของศูนย์บริการ และการหาอะไหล่

ไปรู้จักกับ Toyota C-HR (โตโยต้า ซีเอชอาร์) ที่ทาง CARRO Automall ภูมิใจเสนอ และอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของกันครับ มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR

สำหรับ Toyota C-HR Toyota C-HR จัดเป็นรถแบบ Sub-Compact Crossover SUV ซึ่งที่มาของชื่อ C-HR นั้น ย่อมาจากคำว่า Compact High Rider, Cross Hatch Runabout หรือ Coupé High–Rider (ซึ่งในไทย จะใช้นิยามในความหมายนี้มากที่สุด)

เปิดตัวครั้งแรกในตลาดญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2016 ก่อนจะเปิดตัวตามมาในยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ ในปี 2017 และเปิดตัวในไทยในงาน Motor Expo 2017 ก่อนจะเผยราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มกราคม 2561

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR

ตัวรถออกแบบมาให้แสดงถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของรถยนต์นั่งภายใต้แนวคิด “LIVE ALIVE…ออกไปใช้ชีวิต” ด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของเพชร ซึ่งเต็มไปด้วยความโดดเด่นสะดุดตา อีกทั้งการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ สะท้อนถึงรูปแบบพื้นผิวของอัญมณีที่มีความประณีตในการเจียระไน นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วย 4 เทคโนโลยีใหม่ อันได้แก่

  • New Generation of Hybrid – ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 พัฒนาให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลง แต่เก็บประจุไฟฟ้าได้มากขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ซึ่งประหยัดน้ำมันสูงถึง 24.4 กม./ลิตร และการย้ายตำแหน่งของแบตเตอรี่ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น

สำหรับขุมพลังที่ใช้ แบบเบนซินเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตร (17.8 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock

และในแบบไฮบริด เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 96 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร (14.5 กก.-ม.) ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 53 กิโลวัตต์ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR

  • โครงสร้าง TNGA (Toyota Global New Architecture) – นวัตกรรมโครงสร้างใหม่ TNGA ถูกพัฒนาขึ้นโดยการออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ให้แข็งแกร่ง (Body Rigidity) และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง (Low Center of Gravity) ลดการโคลงตัวของตัวถัง เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการเกาะถนน (STABILITY) คล่องตัวทุกจังหวะการขับขี่ (AGILITY) รวมถึงการออกแบบห้องโดยสาร เพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ให้กว้างขึ้นโดยลดจุดอับสายตา (VISIBILITY) นอกจากนี้ Toyota C-HR มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนแล้วยังเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
  • Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยใหม่ของรถโตโยต้ามาตรฐานระดับโลก ซึ่งรวมเอาระบบความปลอดภัยขั้นสูงไว้ด้วยกัน อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR

  • Toyota T-Connect Telematics ระบบที่เชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถยนต์ ผ่าน Smartphone และ Apple Watch พร้อมทั้งเครือข่ายศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อรับข้อมูลและความช่วยเหลือตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทาง T-Connect Telematics บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์และช่วยค้นหาพิกัดในกรณีที่รถถูกโจรกรรม สัญญาณ Wi-Fi ในรถยนต์ และการลดเบี้ยประกันด้วยโปรแกรม Pay As You Drive insurance เป็นต้น

โดย โตโยต้า ซีเอชอาร์ ในโฉมแรกมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย นั่นคือ 1.8 Entry, 1.8 Mid และโฉมไฮบริด HV Mid กับรุ่น Top สุด HV Hi

มี 6 สีให้เลือก สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด อาทิ Premium Red/Black Roof, Blue Metallic/Black Roof, Radiant Green Metallic/Black Roof, White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic และ Attitude Black Mica

กับ 3 สี สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน อาทิ White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic และ Attitude Black Mica

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR ADIDAS

ล่วงมาจนถึงในเดือนตุลาคม 2561 Toyota ร่วมกับ ADIDAS (อาดิอาส) ประเทศญี่ปุ่น ออกรุ่นพิเศษ Toyota C-HR l ADIDAS ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษ (ADIDAS Inspired Design) นำชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้ของโตโยต้า มาแต่งเเละออกแบบลวดลายลงบนรถ

พร้อมของที่ระลึกสุดพิเศษ C-HR I ADIDAS Set Japan Limited Edition จัดทำพิเศษเพื่อ C-HR โดยเฉพาะ จำนวนจำกัด 1,200 ชุด ประกอบไปด้วยรองเท้ารุ่น ADIZERO JAPAN 1 คู่, เสื้อแจ็คเกต Climalite 1 ตัว และกระเป๋าเป้ ขนาด 30 ลิตร 1 ใบ

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR 2019

4 กุมภาพันธ์ 2562 Toyota เปิดตัว Toyota C-HR เพิ่มสีขาวมุกหลังคาดำ (White Pearl Crystal/ Black Roof) และดีไซน์ล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 17 นิ้ว และปรับวัสดุ หุ้มเบาะมาตรฐานเป็นเบาะหนังในทุกรุ่น

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR By Karl Lagerfeld 2020

2 เมษายน 2563 Toyota เปิดตัวรุ่นพิเศษ Toyota C-HR By Karl Lagerfeld (เฉพาะรุ่น HV Hi) ผสมผสานอย่างลงตัวของสีขาวและสีดำ กับการออกแบบสไตล์ปารีส (Parisian Rock Chic) ด้วยวัสดุเกรดพรีเมี่ยม

กับการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน ได้แก่ หลังคาสีขาวมุกพร้อมชุดตกแต่งหลังคาสีดำ, กระจกมองข้างสีขาวมุก, ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED, ชุดสเกิร์ตข้างสีขาวมุก, ชุดสปอยเลอร์กันชนหน้า-หลัง สีขาวมุกพร้อมชุดตกแต่งกันชนหน้าสีดำ, ล้ออัลลอย 17 นิ้วสีดำเงา ภายในตกแต่งสีทูโทน พร้อมสัญลักษณ์ Karl Lagerfeld, เบาะหนังสีทูโทนเกรดพรีเมียมพร้อมสัญลักษณ์ Karl Lagerfeld และสคัฟเพลท C-HR by Karl Lagerfeld

CARRO Automall แนะนำ Toyota C-HR 2021

ล่าสุดมาจนถึงในวันที่ 23 มิถุนายน 2564 Toyota ปรับโฉม Minorchange เจ้า Toyota C-HR อีกรอบ ตัดรุ่นเบนซินออกไป เหลือเฉพาะไฮบริดเท่านั้น เพิ่มสีภายนอกใหม่ สี Platinum White Pearl และ สี Nebula Blue โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นกับ 2 ทางเลือกสีหลังคาใหม่ Black Roof หรือ Silver Roof

เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย Toyota Safety Sense ด้วยระบบ All-speed Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมและปรับลดระดับความเร็วได้ถึง 0 กม./ชม. และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า พร้อมระบบ Lane Tracing Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน รองรับเทคโนโลยีสุดล้ำ Apple Play และ T-Connect by TOYOTA สำหรับรถทุกคัน

และสำหรับ CARRO Automall ในเดือนธันวาคม 2564 เรามี Toyota C-HR รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 2 คันครับ ได้แก่ …..

TOYOTA CHR 1.8 HV MID 2018 เทา

TOYOTA CHR 1.8 HV MID 2018 เทา

1. Toyota C-HR 1.8 HV Mid ปี 2018 เลขไมล์ 101,279 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 679,000 บาท!

(สามารถดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-chr-2018-E7M81N.html

TOYOTA CHR 1.8 HV Hi 2018 น้ำเงิน-ดำ

TOYOTA CHR 1.8 HV Hi 2018 น้ำเงิน-ดำ

2. Toyota C-HR 1.8 HV Hi ปี 2018 เลขไมล์ 24,766 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 689,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-chr-2018-D2X1L0.html

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครที่กำลังมองหา Toyota C-HR มือสอง (โตโยต้า ซีเอชอาร์ มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริง เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถ Suzuki Swift ทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก CARRO Automall เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนธันวาคม 2564 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ

สถิติการขายรถยนต์ ยอดขายรถ ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2564

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2564 ยังชะลอตัวต่อเนื่องในทุกเซ็กเมนท์ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 64,122 คัน ลดลง 17.7%ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 25,255 คัน ลดลง 13.5% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 38,867 คัน ลดลง 20.2% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 30,164 คัน ลดลง 21%

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายน 2564 มีปริมาณการขาย 64,122 คัน ลดลง 17.7% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 13.5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ การเติบโตลดลง 20.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากการระบาดของไวรัส Covid-19 ทั่วประเทศ ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว และบริการต่างๆ ที่สำคัญสถานการณ์น้ำท่วมได้ลุกลามหลายจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานราก และความสามารถในการซื้อของลูกค้าเป็นจำนวนมาก

ORA Good Cat 2022

 ตลาดรถยนต์ในเดือนตุลาคมมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อให้ธุรกิจและประชาชนสามารถดำเนินชีวิต และประกอบธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ อนุญาตให้สถานประกอบการบางแห่งเปิดบริการ หรือสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ตลอดจนการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยเริ่มทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดียังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามอย่างเต็มที่ของภาครัฐ ในการส่งเสริมมาตรการทางเศรษฐกิจ และการสนับสนุนกำลังซื้อของผู้บริโภค ตลอดจนการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการนำร่องอย่าง Phuket sandbox Samui plus และ Pattaya move on จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ฟื้นคืนกลับมา รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วมที่คลี่คลายในหลายพื้นที่ และช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่เป็น Hi-Season จะช่วยให้สถานการณ์ตลาดรถยนต์ดีขึ้นไปจนถึงสิ้นปี

New Toyota Camry 2022

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2564

  1.   ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,122 คัน ลดลง 17.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,971 คัน ลดลง 15.9%  ส่วนแบ่งตลาด 31.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 13,649 คัน ลดลง 11.6% ส่วนแบ่งตลาด 21.3%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 6,311 คัน ลดลง 30.5% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,255 คัน ลดลง 13.5%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 5,849 คัน ลดลง 23.0% ส่วนแบ่งตลาด 23.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 5,237 คัน ลดลง 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 20.7%
อันดับที่ 3 มาสด้า 1,921 คัน ลดลง 6.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.6%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 38,867 คัน ลดลง 20.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,734 คัน ลดลง 19.6% ส่วนแบ่งตลาด 37.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 13,649 คัน ลดลง 11.6% ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,101 คัน ลดลง 26.2% ส่วนแบ่งตลาด 5.4%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 30,164 คัน ลดลง 21%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,504 คัน ลดลง 18.4% ส่วนแบ่งตลาด 41.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 12,254 คัน ลดลง 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 40.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,101 คัน ลดลง 26.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.0%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,037 คัน
โตโยต้า 1,461 คัน – อีซูซุ 804 คัน – ฟอร์ด 329 คัน – มิตซูบิชิ 328 คัน – นิสสัน 115 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,127 คัน ลดลง 20.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,450 คัน ลดลง 17.5% ส่วนแบ่งตลาด 42.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,043 คัน ลดลง 16.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,772 คัน ลดลง 24.0% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กันยายน 2564

  1.  ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 531,931 คัน ลดลง 0.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า
166,560 คัน เพิ่มขึ้น 6.0% ส่วนแบ่งตลาด 31.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 131,529 คัน เพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนแบ่งตลาด 24.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
61,329 คัน ลดลง 5.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 176,140 คัน ลดลง 6.7%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 53,406 คัน ลดลง 1.9% ส่วนแบ่งตลาด 30.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
43,101 คัน ลดลง 5.6% ส่วนแบ่งตลาด 24.5%
อันดับที่ 3 นิสสัน 15,156 คัน ลดลง 9.1% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 355,791 คัน เพิ่มขึ้น 2.8%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 131,529 คัน เพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
123,459 คัน เพิ่มขึ้น 10.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 22,530 คัน เพิ่มขึ้น 16.7% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 276,789 คัน เพิ่มขึ้น 0.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ
119,314 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 43.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
104,962 คัน เพิ่มขึ้น 9.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 22,530 คัน เพิ่มขึ้น 16.7% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 36,160 คัน
โตโยต้า 15,986 คัน – อีซูซุ 11,826 คัน – มิตซูบิชิ 4,532 คัน – ฟอร์ด 3,344 คัน – นิสสัน 472 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 240,629 คัน ลดลง 2.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ
107,488 คัน ลดลง 2.4% ส่วนแบ่งตลาด 44.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
88,976 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 19,186 คัน เพิ่มขึ้น 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาจาก: