New-Honda-CRV-2020

Honda เปิดตัวยนตรกรรมพรีเมียม SUV Icon ของ Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ใหม่ ในไทยเป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ พรีเมียมขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC มาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก ในราคา 1,369,000 – 1,759,000 บาท

พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือเลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี เปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสในงาน Motor Show 2020 และที่โชว์รูมฮอนด้า* ตั้งแต่ 13 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป

New-Honda-CR-V-2020

สรุปเร็วๆ Honda CR-V Minorchange มีอะไรเด่นๆ บ้าง?

  • หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบ Panorama พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
  • กระจังหน้าแบบ Gloss Black และกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่
  • มั่นใจในทุกการเดินทางด้วย “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT)
  • 2 ขุมพลังทางเลือก ดีเซล เทอร์โบ และเบนซิน พร้อมระบบขับเคลื่อน 4WD
  • สีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก
  • โปรโมชั่น! ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือข้อเสนอ Double Smile ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

New-Honda-CR-V-2020

อ่านเพิ่มเติม: ประวัติ Honda CR-V มือสอง ในแต่ละรุ่นที่ผ่านมา

New-Honda-CR-V-2020

ดีไซน์ภายนอก หรูหรา แข็งแกร่งในทุกมุมมอง

  • ตอกย้ำความพรีเมียมเหนือระดับ ด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch
  • เสริมอารมณ์ความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่
  • ฝากระโปรงท้ายตกแต่งด้วย โครเมียมรมดำและไฟท้ายรมดำ
  • ไฟหน้าแบบ FULL LED มาพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Light – DRL) พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential และไฟท้ายแบบ FULL LED
  • โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคมพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตใหม่ขนาด 18 นิ้ว

New-Honda-CR-V-2020

มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ได้แก่

  • ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

New-Honda-CR-V-2020

และยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) (ทุกรุ่น) ตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัยและแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT พร้อมการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist) อีกทั้งนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เป็นต้น

New-Honda-CR-V-2020

ดีไซน์ภายในกว้างขวาง หรูหรา ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมแผงคอนโซลขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยลายไม้และวัสดุสีดำ Piano Black มีทั้งแบบเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม อาทิ

  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • กระจกมองข้างแบบพับเก็บอัตโนมัติ (ควบคุมด้วยรีโมท) (Auto Foldable Side Door Mirror)
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (Auto Dimming Rear View Mirror) (ทุกรุ่น)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา i-Dual Zone และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และแถว 3 (รุ่น 7 ที่นั่ง)

New-Honda-CR-V-2020

เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออันล้ำสมัย อาทิ

  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri
  • ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น 4WD)
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ควบคุมทุกการสั่งงานได้อย่างง่ายดายผ่านพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ เป็นต้น

New-Honda-CR-V-2020

พร้อมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และทุกการใช้งาน ด้วย

  • ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) (ทุกรุ่น)
  • เบาะนั่งที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับผู้โดยสารและการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมด้วยช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางที่ปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับการใช้งานได้ถึง 3 แบบ

New-Honda-CR-V-2020

มาพร้อม 2 ขุมพลังขับเคลื่อน ได้แก่

  • เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 4 สูบ ให้แรงม้าสูงสุดถึง 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire) ให้ทั้งอัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 17.9 กม./ลิตร โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD
  • เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ ให้กำลังสูงถึง 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที
    ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้การตอบสนองที่ทันใจ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85 และ E20 มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อ 2WD และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD

New-Honda-CR-V-2020

รุ่น 5 ที่นั่ง

New-Honda-CR-V-2020

รุ่น 7 ที่นั่ง

Honda CR-V 2020 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่น ดังนี้

  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) และสีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)

New-Honda-CR-V-2020

Honda CR-V ใหม่ มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือ เลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

พบกับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้า* ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป และในงาน Motor Show 2020 ตั้งแต่วันที่ 15 – 26 กรกฎาคม 2563 โดยมาพร้อมข้อเสนอเดียวกันทั้งที่โชว์รูมฮอนด้าและในงานมอเตอร์โชว์

หมายเหตุ:

– *กรุณาโทรนัดหมายก่อนเข้าเยี่ยมชม เพื่อความสะดวกของท่าน
– อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
– สีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น DT-EL 4WD, 2.4 EL 4WD และ 2.4 ES 4WD
– สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

All-New-Toyota-Corolla-Cross-2020

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ใหม่ A New Journey…ให้ชีวิตเดินทาง พร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นตอบโจทย์การใช้ชีวิตเพื่อที่สุดของความสะดวกสบาย

ด้วยภายนอกดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และแข็งแกร่ง ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

All-New-Corolla-Cross-2020

และรุ่นนี้ยังมีการส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย โดย Toyota Corolla Cross จะถูกส่งออกจากโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นรถรุ่นที่สร้างขึ้นโดยฝีมือคนไทย และส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ภายใต้ฝีมือการผลิตของคนไทย

อีกทั้งยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) โดยใช้แพลตฟอร์มของโคโรลล่า ซีดาน ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

All-New-Corolla-Cross-2020

ด้าน มร.ไดโซะ คาเมะยามา หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงแนวคิดของรถคันนี้คือ “การนำ DNA ของรถยนต์โคโรลล่า มาพัฒนาให้เกิดเป็นรถยนต์อเนกประสงค์”

ทั้งนี้ Corolla คือรุ่นรถที่ขายดีที่สุดในโลกของโตโยต้า กล่าวคือ Corolla ก็คือ Toyota นับตั้งแต่การเปิดตัวรถโคโรลล่ารุ่นแรกในประเทศญี่ปุ่นในปี 2509 และเป็นรถที่ขายดีที่สุดของโตโยต้า ปัจจุบันขายมาแล้ว 150 ประเทศทั่วโลก ด้วยยอดขายสะสม 48 ล้านคัน

All-New-Corolla-Cross-2020

แต่คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของ โคโรลล่า ครอส คือ ความหรูหรา พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า “ความแข็งแกร่งสำหรับชีวิตในเมือง” (Urban Toughness) ซึ่งเห็นได้ชัดจากดีไซน์ และการออกแบบฐานล้อที่กว้าง

All-New Toyota Corolla Cross…A NEW JOURNEY มี 5 จุดขายหลักๆ ที่นับได้ว่าเป็นจุดเด่น ได้แก่

All-New-Corolla-Cross-2020

1. ด้านการออกแบบ

  • A New Outstanding Journey – ให้ชีวิตเดินทาง…โดดเด่นด้วยดีไซน์เหนือระดับ

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

มิติตัวรถยาว 4,460 มม. กว้าง 1,825 มม. สูง 1,620 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 161 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

  • A New Satisfying Journey – ให้ชีวิตเดินทาง…พื้นที่ที่ตอบทุกความต้องการ

ภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว

All-New-Corolla-Cross-2020

2. สมรรถนะการขับขี่

  • A New Energetic Journey – ให้ชีวิตเดินทาง…ขีดสุดแห่งพลังขับเคลื่อน

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 150 กรัม/กม.

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 98 กรัม/กม.

All-New-Corolla-Cross-2020

  • A New Confident Journey – ให้ชีวิตเดินทาง…ควบคุมได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง

ด้วยแพลตฟอร์ม TNGA มาใช้ควบคู่กับช่วงล่างแบบคานแข็งที่ได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อปรับช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพการเกาะถนนที่ดี แต่ยังนุ่มนวลสะดวกสบายในทุกระดับ เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งการขับขี่ทางตรงและในขณะเข้าโค้ง ทำให้การขับขี่ปราดเปรียว มั่นใจ ทัศนวิสัยดีขึ้น

All-New-Corolla-Cross-2020

3. ด้านความสะดวกสบาย

  • A New Convenient Journey – ให้ชีวิตเดินทาง…ความสะดวกสบายทุกเส้นทาง

เน้นประโยชน์ใช้สอยที่โดดเด่นด้วยพื้นที่จุสัมภาระได้มากถึง 487 ลิตร นอกจากนี้ ในส่วนของห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยประตูด้านหลังขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบาย และยังมีการออกแบบที่ว่างเหนือศีรษะให้สูงพอดี มีความโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด

มาพร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated เพิ่มความสะดวกสบายในการเก็บสัมภาระ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

All-New-Corolla-Cross-2020

4. ด้านความปลอดภัย

  • A New Protected Journey – ให้ชีวิตเดินทาง…มาตรฐานความปลอดภัย

มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) อาทิ

  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist)
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
    รวมทั้ง …
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic View Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS 7 ตำแหน่ง (Air Bags)

All-New-Corolla-Cross-2020

5. ด้านการเชื่อมต่อ

  • A New Connected Journey – ให้ชีวิตเดินทาง…เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยความเชื่อมั่น ปลอดภัย ไร้กังวล

สะดวกสบายไปกับหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ T-Connect ที่มาพร้อมคุณสมบัติ 3 อย่างหลักๆ ได้แก่

1. Always located and protect : บริการ Find My Car, ระบบติดตามการโจรกรรม TheftTrack, ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS และ ระบบกำหนดขอบเขตปลอดภัย หรือ Geo-fencing

2. Telematics CARE : บริการแจ้งเตือนการบำรุงรักษา Maintenance Reminder รวมถึงการนัดหมายออนไลน์, บริการข้อมูลรถและการขับ Vehicle Information, ประกันภัย “ขับดีลดให้” Toyota Care PHYD (Pay How You Drive) ส่วนลดจากการวิเคราะห์ข้อมูลการขับ… หากขับดี ขับปลอดภัย จะมีส่วนลดค่าเบี้ยประกันต่ออายุ ต่อแรก ส่วนลดประวัติดีในปีที่ 2 : 20% พร้อมลดเพิ่มอีกสูงสุด 25%

3. Happiness Mobility : บริการผู้ช่วยส่วนตัว Concierge Services

เพื่อตอบสนอง A New Journey ของทุกคนที่แตกต่างกัน นอกจากรุ่นมาตรฐานแล้ว เรายังมีรุ่นตกแต่ง ณ จุดขาย ที่จะมาเพิ่มความสุขและความสนุกให้มากขึ้น

  • Urban sport style เพิ่มความสปอร์ต ตกแต่งด้วยชุดสปอยเลอร์รอบคัน และคิ้วตกแต่งประตูหลัง
  • Adventure style เพิ่มดีไซน์ให้ดุดัน พร้อมลุยได้ทุกที่ ตอบโจทย์คนที่ชอบการเดินทาง ท่องเที่ยว ตกแต่งด้วยชุดสปอยเลอร์รอบคัน และคิ้วตกแต่งประตูหลัง

โดยลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบที่ชอบ โดยจ่ายเพิ่มไม่เกิน 500 บาท ต่อเดือนในยอดการผ่อนชำระรายเดือนเท่านั้น (คำนวณจากการเช่าซื้อนาน 60 เดือน) ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ

All-New-Corolla-Cross-2020

ราคาของ Toyota Corolla Cross ใหม่

ราคารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ

  • รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท**

ราคาพิเศษ 959,000 บาท (ณ วันเปิดตัว – 30 กันยายน 2563 มีจำนวนจำกัด)

ราคารุ่น Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

All-New Toyota Corolla Cross มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย

– Metal Stream Metallic – Red  Mica Metallic
– Attitude Black Mica – Celestite Gray Metallic
– Platinum White Pearl* – Nebula Blue
– Graphite Metallic

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

สีภายใน 2 สี

  • Terra Rossa (เฉพาะรุ่น Hybrid Premium Safety, Hybrid Premium ที่มีสีภายนอก Attitude Black Mica / Celestite Gray Metallic / Platinum White Pearl)
  • Black

พิเศษสำหรับลูกค้าซื้อ All-New Corolla Cross วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2563

  • เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.85% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care
  • ขยายระยะเวลารับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม. ฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 100,000 กม. มูลค่ากว่า 34,000 บาท
  • Toyota Privilege More ข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมเฉพาะลูกค้าโตโยต้า

ส่วนใครที่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของรถยนต์ Toyota Corolla Cross 2020 สักคัน ก็ลองขายรถคันเดิมแล้วเอาเงินไปซื้อ Toyota Corolla Cross มาใช้ดู เพียงลงขายรถคันเดิมง่ายๆ ได้ที่ Link นี้เลย https://th.carro.co/sell-car/express ให้ราคาดี รับเงินไว ปิดการขายได้ใน 24 ชั่วโมง หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Suzuki-XL7-2020

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว All-New Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล-7) Multi-Dynamic Crossover อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชูแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต โดยพัฒนามาจากรุ่น Ertiga ซึ่ง Suzuki XL7 เข้าไทยครั้งนี้ นำเข้าจากอินโดนีเซีย เอาใจชาวไทยที่ชอบรถแนวอเนกประสงค์ มีเพียงรุ่นย่อยเดียว GLX ในราคา 779,000 บาท!

All-New-Suzuki-XL7-2020-1

ด้วยสมรรถนะและฟังก์ชันที่ครบครัน มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต ซึ่ง All-New Suzuki XL7 ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานได้หลากหลายตามแบบฉบับของรถ Crossover ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ทุกการขับขี่เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบในเส้นทางที่หลากหลาย มอบอิสระและตัวตนที่ชัดเจน มุ่งขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการ โดดเด่นด้วยความคล่องตัว ทั้งการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง โดยมั่นใจว่า All-New Suzuki XL7 คือรถยนต์ที่จะให้ทั้งความสนุก ความท้าทาย และความคุ้มค่าที่สุดในตลาดครอสโอเวอร์ ณ เวลานี้

All-New-Suzuki-XL7-2020

All-New Suzuki XL7 รถครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตเข้ม ดุดัน ตอบโจทย์และสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว ซูซูกิจึงคาดหวังว่า All-New Suzuki XL7 จะเป็นรถครอสโอเวอร์อีกหนึ่งรุ่น ที่เข้ามาสร้างสีสันในตลาดรถยนต์ประเทศไทยให้คึกคักขึ้นได้อย่างแน่นอน”

All-New-Suzuki-XL7-2020

สำหรับไตรมาสแรกของปี 2563 ซูซูกิได้แนะนำรถยนต์จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย New Suzuki Ciaz “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” สปอร์ตอีโคซีดาน สมบูรณ์แบบทั้งดีไซน์และสมรรถนะ และ New Suzuki Ertiga “จุดประกายอีกขั้นของชีวิต” หรือ “SPARK IT UP” ที่เพิ่มฟีเจอร์ความสะดวกสบายให้รถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง เป็นรถยนต์สำหรับคนรุ่นใหม่ จึงส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายที่สวนทางกับตลาดโดยรวมด้วยจำนวน 6,529 คัน เพิ่มขึ้น 15.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

All-New-Suzuki-XL7-2020

อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้จะเป็นปีแห่งความท้าทาย อันเนื่องมาจากผลกระทบจากวิกฤตไวรัส COVID-19 แต่ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เล็งเห็นว่ารถยนต์ประเภทครอสโอเวอร์ เป็นหนึ่งกลุ่มที่มีลูกค้าให้ความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซูซูกิจึงภูมิใจที่จะนำเสนอรถรุ่นใหม่ล่าสุด All-New Suzuki XL7, Multi-Dynamic Crossover เพื่อมาเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ทุกท่านได้ THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร

All-New-Suzuki-XL7-2020

All-New Suzuki XL7 ผ่านการคิดค้นและออกแบบเพื่อต้องการให้ผู้ใช้งานได้รับความคุ้มค่าและครบครันมากกว่าใคร มิติของตัวรถถูกออกแบบให้มีความสูงขึ้นเพื่อให้สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทางเหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมไปถึงอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย มีมาให้อย่างครบครัน

All-New-Suzuki-XL7-2020

All-New-Suzuki-XL7-2020

โดย All-New Suzuki XL7 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส K15B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เป็นที่คุ้นเคยกันดีจากในรุ่น Ertiga

All-New-Suzuki-XL7-2020

All-New Suzuki XL7, Multi-Dynamic Crossover มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม Rising Orange Pearl Metallic (ZZY), สีเทา Metallic Magma Gray (ZYZ), สีขาว Pearl Snow White (ZQZ) และสีดำ Cool Black Metallic (ZBD)

All-New-Suzuki-XL7-2020

ซูซูกิพร้อมจะมอบสุดยอดความคุ้มค่าให้ผู้ที่สนใจได้เป็นเจ้าของ All-New Suzuki XL7 ได้ง่ายยิ่งขึ้นกับราคาพิเศษในช่วงแนะนำที่ 779,000 บาท (สีขาวเพิ่ม 5,000 บาท) พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุดเริ่มต้นเพียง 1.89%”

All-New-Suzuki-XL7-2020

อีกทั้ง ซูซูกิจัดให้มีกิจกรรมเปิดตัว All-New Suzuki XL7 ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิในวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2563 เชิญร่วมสัมผัสและทดลองขับ All-New Suzuki XL7 พร้อมรับของที่ระลึกบัตรชมภาพยนตร์ 2 ที่นั่ง ทันที! โดยสามารถติดต่อสำรองการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้านทั่วประเทศ

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้จ่าย หรือซื้อ Suzuki XL7 ใหม่ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

New-Car-Promotion-Motorshow-2020
Carro-New-Car-In-Motorshow-2020

Motor Show 2020 หรือ The 41th Bangkok International Motor Show 2020 ภายใต้แนวคิด “แรงบันดาลใจ” หรือ “Inspiration Unlocks The Future” พร้อมนำรถรุ่นใหม่มาโชว์ให้ดูกันอย่างเต็มอิ่ม ในมาตรฐานการจัดงานตามรูปแบบวิถีชีวิตใหม่-New Normal วางมาตรการคัดกรองผู้เข้าชมงานอย่างเคร่งครัดตามข้อกำหนดของรัฐบาล มั่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลจากโควิด-19 แน่นอน

โดยงานมอเตอร์โชว์ 2020 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 26 กรกฏาคม 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Show 2020 โดยนับจากในเดือนเมษายน ถึงกรกฎาคมนี้ บริษัทรถยนต์หลายค่าย ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ กันไปหลากหลายรุ่นแล้ว CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

All-New-Corolla-Cross-2020

Toyota Corolla Cross

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของโลก ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue) และรุ่นนี้ยังมีการส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ทั้งหมดนี้ มีให้เลือกใน 4 รุ่นย่อย ในราคา 989,000 – 1,199,000 บาท

Nissan-Kicks-ePower-2020

Nissan Kicks e-Power

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) แม้ว่าจะโดนกระแสต่อว่าจากลูกค้าอย่างมาก ว่ารถยังไม่พร้อมขายแต่รีบเปิดตัว แถมยังไม่มีให้ทดสอบอีก แต่ก็สร้างความตื่นเต้นกับผู้ที่รอคอยได้มากพอสมควร กับรถ Crossover ไฮบริด ที่ใช้จุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

ทั้งหมดนี้ มาในราคา 889,000 – 1,049,000 บาท! 

New-Honda-CR-V-2020

Honda CR-V

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ใหม่ เปิดตัวในไทยที่งาน Motor Show เป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ พรีเมียมขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบ Panorama และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 160 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 173 แรงม้า และมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก ในราคา 1,369,000 – 1,759,000 บาท

All-New-Mazda-CX-30-2020

Mazda CX-30

Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) ออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion เป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 ยังเป็นรถที่ได้รางวัล 1 ใน 3 รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกปี 2020 มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและการชับขี่ ภายในนั่งกันได้ 4 คนสบายๆ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต

ห้องโดยสารภายใน ครบทุกความสะดวกสบาย เริ่มตั้งแต่มาตรวัดแบบดิจิทัลแบบจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ Head-up Display แบบสีบนกระจกหน้า มีระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect ทำงานผ่านจอกว้างขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการแสดงผลระบบกล้อง 360° View Monitor รวมถึงฟังก์ชั่น Apple CarPlay ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ด้วยปุ่ม Center Commander ที่บริเวณฐานเกียร์ได้ และชุดเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

ที่กล่าวมานี้ ราคาอยู่ที่ 989,000 – 1,199,000 บาท!

All-New-Suzuki-XL7-2020-1

Suzuki XL7

Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) Multi-Dynamic Crossover ที่ชื่อรุ่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับ Suzuki Vitara XL7 ที่ทาง Suzuki เคยขายในไทยมาก่อนเลย ชูแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต บนพื้นฐานของ HEARTECT Platform ร่วมกับรุ่น Ertiga ด้วยสมรรถนะและฟังก์ชันที่ครบครัน

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต ออกแบบให้มีความสูงขึ้น ใช้ไฟหน้า LED ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ พร้อม ไฟ Daytime Running Light และล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว มีราวหลังคา และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรคแนวตั้งแบบ Light guides

ที่มาของ XL7 ซึ่งก็หมายถึงรุ่นนี้มี 7 ที่นั่งนั่นเอง ภายในตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape, มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลข้อมูลการขับขี่ จอแสดงผลระบบอินโฟฯ แบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมแอร์เบาะแถว 2 และแถว 3 ซึ่งเบาะแถว 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ปรับเลื่อนได้ 240 มม. ช่วยให้เข้า-ออกเบาะแถว 3 ง่ายขึ้นและเบาะแถว 3 ปรับพับได้แบบ 50:50

ขุมพลังแบบ K15B เหมือนในรุ่น Ertiga ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า ในราคา 779,000 บาท

New-Toyota-Hilux-Revo-Pre-Runner-2020

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ปรับโฉมยกใหญ่ต้อนรับปี 2020 ทุกรุ่นย่อย! เริ่มด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam + ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ส่วนรุ่น Rocco จะมีปรับกระจังหน้าและกันชนใหม่ เพิ่มสปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters (ตัวหนังสือสีขาว)

ส่วนภายในใช้มาตรวัดใหม่ ปรับจอแสดงผลระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect ในทุกรุ่น และช่วงล่าง Super Flex Suspension ที่ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ด้านเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ในทุกเครื่องยนต์ ทั้งในขนาด 2.4 ลิตร และขนาด 2.8 ลิตร GD Super Power (เจนเนอเรชั่น 2) แรงม้าสูงสุดขึ้นมาเป็น 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง

ทั้งหมดนี้ มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นมาตรฐาน, รุ่น Z-Edition, รุ่น Prerunner, รุ่น 4WD และ Rocco ในราคา 544,000 – 1,239,000 บาท 

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

Toyota Fortuner

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ปรับโฉมยกใหญ่ต้อนรับปี 2020 ทุกรุ่นย่อย! บวกกับเพิ่มรุ่นพิเศษใหม่ “Legender” ด้วยกระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding กับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่

ส่วนภายในใช้มาตรวัดใหม่ ปรับจอแสดงผลระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect ในทุกรุ่น มีกล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ

และช่วงล่าง Super Flex Suspension ที่ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ด้านเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ในรุ่นเครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร GD Super Power (เจนเนอเรชั่น 2) แรงม้าสูงสุดขึเนมาเป็น 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง และยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense อีกด้วย ในราคา 1,564,000 – 1,839,000 บาท

Lexus-LM

Lexus LM

The All-New Lexus LM (เลกซัส แอลเอ็ม) New Space for Luxury ที่สุดแห่งยนตรกรรมหรูระดับผู้นำ (แต่ชื่อชวนนึกถึงบุหรี่ยี่ห้อหนึ่ง) เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ด้วยแนวคิดการออกแบบ 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1) การออกแบบด้านนวัตกรรมล้ำสมัย (Lexus Innovation) 2) ความประณีตของชิ้นงาน (Craftsmanship) และ 3) วัฒนธรรมการต้อนรับและดูแลเอาใจใส่แบบ Omotenashi ของญี่ปุ่น ถูกรังสรรค์ภายใต้แนวคิด “Mobile Private Lounge”

โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ขนาดใหญ่ กับไฟหน้า LED แบบ 3-Eye ไฟท้าย LED ลากยาวตลอดความกว้างของรถเสริมให้ตัวรถดูกว้างและมั่นคง และไฟเลี้ยวแบบ Sequential Turning Lamps

ส่วนภายในนำนำนวัตกรรมเบาะนั่งโฟมยูรีเทน AdaptiPedic โดย Woodbridge มาใช้เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งจะช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ Lexus LM ยังมาพร้อมกับสุดยอดเครื่องเสียงจาก Mark Levinson กับหน้าจอขนาดใหญ่บน Partition พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ครบครัน

อีกทั้งยังใช้ขุมพลังขนาด 2.5 ลิตร Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รหัส 2AR-FXE 152 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Motor ด้านหน้า 105 แรงม้า และด้านหลัง 50 แรงม้า รวมกำลังทั้งระบบ 197 แรงม้า อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 15.6 กม./ลิตร ในราคา 5,500,000 – 6,500,000 บาท!

Porsche-Taycan

Porsche Taycan

Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์) ใหม่ สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตซาลูน 4 ประตู ที่ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงขับเคลื่อนสูง 800 โวลต์ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และคงไว้ซึ่งงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปอร์เช่

Porsche Taycan Turbo S มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุด 761 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 2.8 วินาที

Porsche Taycan Turbo มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 3.2 วินาที ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ได้ถึง 260 กม./ชม.

สำหรับในรุ่น Taycan 4 S ที่ติดตั้ง Performance Battery Plus ให้พละกำลังสูงสุด 571 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 4.0 วินาที พร้อมทะยานทะลุความเร็วสูงสุดกว่า 250 กม./ชม.

ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่ ราคาเริ่มต้น 7.1 ล้านบาท

Maserati-Levante-Trofeo-Launch-Edition

Maserati Levante Trofeo Launch Edition

Maserati Levante Trofeo Launch Edition (มาเซราติ เลอวานเต้) รุ่นพิเศษ คันเดียวในไทยเท่านั้น! จาก 100 คันทั่วโลก เอาใจคนชอบรถ SUV พลังสูง มาพร้อมตัวรถสีพิเศษเฉพาะตัว น้ำเงินด้าน Blu Emozione Matte ติดตั้งชุดแต่ง Nerissimo Package ชุดไฟหน้า Full Matrix LED กระจังหน้าตกแต่งด้วยสีดำ Piano Black ช่องดักลมแบบตาข่ายและออกแบบใหม่ ฝากระโปรงหน้าแบบคาร์บอนไฟเบอร์ เป็นต้น

ส่วนห้องโดยสารตกแต่งด้วยชุดคาร์บอนไฟเบอร์ ผิวด้าน พร้อมเบาะหนังแท้ Pieno Fiore เลือกสีได้ระหว่าง ดำ, แดง หรือน้ำตาลอ่อน เดินตะเข็บด้วยด้ายสีต่าง ปักโลโก้ Trofeo ตรงที่พิงศีรษะ มีแผ่นโลหะระบุลำดับการผลิต 1 Of 100 ที่คอนโซลกลาง และชุดเครื่องเสียงพรีเมียม ระบบเสียงของ Bowers & Wilkins พร้อมลำโพง 17 ตำแหน่ง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ขนาด 3.8 ลิตร Twin Turbo ปรับแต่งฝาสูบ เสื้อสูบ และสมองกลให้รองรับความแรงที่เพิ่มขึ้น ให้แรงม้าสูงสุด 580 แรงม้า 730 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Q4 all-wheel drive ทำความเร็วได้สูงสุด 300 กม./ชม.

Maserati Levante Trofeo Launch Edition ราคา 20,490,000 บาท ถ้าหากรวม PMP (Premium Maintenance Program) จำนวน 500,000 บาท เข้าไปด้วยก็จะอยู่ที่ 20,999,000 บาท

Rolls-Royce-Cullinan-Black-Badge

Rolls-Royce Cullinan Black Badge

Rolls-Royce Cullinan Black Badge (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน แบล็ค เบดจ์) ราชาของรถ SUV คงต้องยกให้กับเจ้านี้ และยังเป็นรุ่นพิเศษ “The King of the Night” ของตระกูล Black Badge เปิดตัวเป็นลำดับที่ 3 ในประเทศไทย ต่อจาก Wraith Black Badge ในปี 2559 และ Ghost Black Badge ในปี 2560

โดยสีของตัวรถพ่นอย่างประณีตหลายชั้น มีการขัดด้วยมือถึง 10 รอบ เสริมด้วยการวาดเส้น หรือ Coachline ด้วยมือจากโรงงานที่อังกฤษ พร้อม สัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy แบบโครเมียมรมดำ ตราสัญลักษณ์ RR สีเงินบนพื้นดำ และส่วนประกอบอื่นๆ พ่นด้วยสีเข้ม

ส่วนภายในก็หรูหราอยู่แล้ว ตกแต่งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญแผนก Colour and Trim พวกเขาเลือกใช้วัสดุใหม่ๆ ผสานเข้ากับงานฝีมือ แนวคิดนี้ถูกปรับใช้อย่างลงตัวบนแผงวีเนียร์เทคนิคัลคาร์บอน ที่ผลิตขึ้นตามปรัชญาของ Sir Frederick Henry Royce ที่ว่า “หากสิ่งใดไม่มีอยู่ จงออกแบบมันขึ้นมา” ชิ้นส่วนเทคนิคัลคาร์บอน 23 ชิ้น เคลือบแลคเกอร์ 6 ชั้น พักเอาไว้ 72 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำมาขัดด้วยมือจนเรียบเนียนเหมือนกระจก ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลา 21 วัน และผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยช่างฝีมือ

และอีกจุดเด่นอย่างหลังคา Starlight Headliner พื้นเป็นหนังแท้สีดำ โดยมีแสงสว่างจากเส้นไยไฟเบอร์ออพติคที่ร้อยด้วยมือถึง 1,344 จุด เสริมด้วยลูกเล่นเป็นดาวตกสีขาว 8 ดวง พุ่งพาดผ่านเพดานหลายทิศทาง รวมถึงบริเวณเพดานเหนือเบาะคู่หน้า

ขุมพลังเป็นแบบเบนซิน V12 ความจุ 6.75 ลิตรที่ Twin Turbo แรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 592 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 29 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 900 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 สปีด ควบคุมการทำงานด้วยดาวเทียม (Satellite Aided Transmission) ช่วงล่างถุงลมที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) และระบบขับเคลื่อนแบบ All-Wheel Drive ในราคา 37,800,000 บาท!!!

Aston-Martin-DBX

Aston Martin DBX

Aston Martin DBX (แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์) คือ Crossover SUV ระดับหรู 5 ที่นั่ง รุ่นแรกของ Aston Martin ที่พัฒนามาจากรถต้นแบบ Aston Martin DBX Concept ตั้งแต่ปี 2015 ยังคงความเป็นสไตล์ Aston Martin เอาไว้อย่างครบครัน โดดเด่นด้วย Logo Aston Martin ที่ผลิตด้วยมือจากผู้ผลิตจิวเวลรี่ที่มีความชำนาญกว่า 200 ปี พร้อมกับประตูแบบ Wrap Around และไร้ขอบกระจก และล้อแม็กขนาด 22 นิ้ว

ห้องโดยสารหรูหราด้วยวัสดุอลูมิเนียมและหนังแท้ Full Natural Grain “Caithness” หลังคาแบบ Panoramic Sunroof คอนโซลกลางแบบยาวพร้อมที่วางแขน มีชุดไฟ Ambient ในห้องโดยสารเลือกได้ 64 เฉดสี ใช้มาตรวัดแบบจอขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนจอทัชสกรีนตรงส่วนกลางขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมแสดงผลกล้องจำลองภาพ 360 องศา พร้อมเบาะปรับได้แบบ 40:20:40 กับพื้นที่บรรทุกสัมภาระ 632 ลิตร และเนื้อพื้นที่เพิ่มเติมอีก 62 ลิตรใต้พื้นห้องบรรทุกสัมภาระ

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร Twin Turbo พร้อมระบบ Cylinder Deactivation หยุดการทำงานของบางสูบในบางจังหวะเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ให้แรงม้าสูงสุด 550 แรงม้า 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด Shift By Wire ทำความเร็วได้สูงสุด 291 กม./ชม. ในราคา 19,900,000 บาท!

Jaguar-F-Type

Jaguar F-Type

Jaguar F-Type (จากัวร์ เอฟไทป์) เปิดตัวรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งยังมีให้เลือกระหว่าง F-Type Coupé หรือ F-Type Convertible เช่นเคย

สำหรับตัวรถภายนอกมาพร้อมชุดไฟหน้า LED แบบ Pixel ชุดไฟท้าย LED ทรง “Chicane” แบบเดียวกับใน Jaguar I-Pace พร้อมระบบเสียงสังเคราะห์ Active Exhaust System เพิ่มความดุดันของเสียงท่อไอเสีย ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ V8 มีเพิ่มระบบ Quiet Start ช่วยลดเสียงรบกวนคนรอบข้างเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์

ห้องโดยสารภายในยังคงความเป็นสปอร์ตหรูหรา มี มาตรวัดแบบดิจิทัลแบบจอขนาด 12.3 นิ่ว พร้อมระบบ Head-Up Display พ่วงชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ InControl เวอร์ชั่น Touch Pro บนจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว และใช้ชุดเครื่องเสียงจาก Meridian

ส่วนเครื่องยนต์มี 2 แบบ เริ่มด้วยแบบเบนซินตระกูล Ingenium ขนาด 2.0 ลิตร Turbo 300 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง และเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 5.0 ลิตร Supercharged 575 แรงม้า ขับเคลื่อนแบบ All-Wheel Drive ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทั้งสองแบบ

ในราคาเริ่มต้น 6,400,000 – 13,000,000 บาท!

Land-Rover-Defender

Land Rover Defender

Land Rover Defender (แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์) ตำนาน SUV จอมลุยชื่อดังของโลก ที่เป็นโฉมใหม่หมดจรดจริงๆ ในรหัสตัวถัง L663 ซึ่งพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มอลูมิเนียมน้ำหนักเบา D-Series ของ Jaguar & Land Rover ยังคงมีให้เลือกทั้งแบบ 3 ประตู ฐานล้อ 90 นิ้ว และ 5 ประตู ฐานล้อ 110 นิ้ว เช่นเคย

ตัวรถภายนอก และห้องโดยสารภายในออกแบบใหม่หมด แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของ Defender รุ่นเก่าในตำนานเอาไว้ มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยให้ขับขี่อย่างปลอดภัยอย่าง ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ที่มีระบบความปลอดภัยมากมาย

ในบ้านเรามีให้เลือกกันทุกแบบ เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นตลาดโลก นับตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส P300 Twin-Scroll Turbo 300 แรงม้า, รหัส P400 Twin-Scroll Turbo พร้อมชุดระบบเสริมกำลังแบบ Mild-Hybrid 400 แรงม้า

และเครื่องยนต์ดีเซล ตระกูล Ingenium แบบเดียวกับของ Jaguar รหัส D200 ขนาด 2.0 ลิตร Twin Turbo 200 แรงม้า และรหัส D240 ขนาด 2.0 ลิตร Twin Turbo 240 แรงม้า ทุกรุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของ ZF พร้อมเกียร์สโลว์

Defender 90 ราคาเริ่มต้น 5,400,000 บาท ส่วน Defender 110 ราคาเริ่มต้น 5,800,000 บาท

จะมีรุ่นไหนถูกตาถูกใจคุณผู้ชมบ้าง ก็ลองไปเดินดูตัวจริงที่งานได้ แต่ถ้าอยากขายรถคันเดิมของคุณ ก็มาใช้บริการที่ CARRO นะครับ

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Thailand-Monthly-Car-Sales-Volume

สถิติการขายรถยนต์เดือนพฤษภาคม สามารถสร้างยอดขาย 40,418 คัน ลดลง 54.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 65.1% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 47.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา

จะเห็นได้ว่า สถานการณ์การขายของเดือนพฤษภาคม มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าเดือนเมษายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากรัฐบาลได้ทยอยประกาศผ่อนปรนมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้บางธุรกิจที่ได้รับการผ่อนปรนเริ่มทยอยกลับมาดำเนินงาน ซึ่งส่งผลในเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ยังคงอยู่ในช่วงของการค่อยๆ ฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคยังระวังเรื่องใช้จ่ายอยู่ รวมถึงภาครัฐฯต้องออกมาตรการดูแลและเยียวยาเพื่อช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ด้วย ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ที่ไทยที่เดียว แต่เป็นเหมือนกันทั้งโลก

ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 5 เดือน มีปริมาณการขาย 270,591 คัน ลดลง 38.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 42.2% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 35.6%

ส่วนในเดือนมิถุนายน 2563 จากการที่ภาครัฐฯ ได้ผ่อนคลายให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้ในระยะที่ 3 และไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ กับได้มีการคลายล็อกระยะที่ 4 มีผลบังคับใช้วันที่ 15 มิถุนายน โดยให้กิจการและกิจกรรมอีกหลายประเภท กลับมาดำเนินธุรกิจได้ภายใต้มาตรการที่ภาครัฐกำหนด เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ แนวโน้มของตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2563

1.     ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 40,418 คัน ลดลง 54.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,611 คัน ลดลง 53.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ
10,130 คัน ลดลง 35.3% ส่วนแบ่งตลาด 25.1%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 4,178 คัน ลดลง 62.8% ส่วนแบ่งตลาด  10.3%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 11,733  คัน ลดลง 65.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 3,557 คัน ลดลง 62.9% ส่วนแบ่งตลาด 30.3%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,514 คัน ลดลง 59.2% ส่วนแบ่งตลาด 29.9%
อันดับที่ 3 ซูซูกิ 1,218 คัน ลดลง 37.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 28,685 คัน ลดลง 47.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 10,130 คัน ลดลง 35.3% ส่วนแบ่งตลาด 35.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 10,054 คัน ลดลง 49.2% ส่วนแบ่งตลาด 35.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,823 คัน ลดลง 50.9% ส่วนแบ่งตลาด  6.4%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 23,137 คัน ลดลง 47.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 9,318 คัน ลดลง 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 9,138 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 39.5%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,823 คัน ลดลง 50.9% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,570 คัน
โตโยต้า 1,308 คัน- มิตซูบิชิ 420 คัน – อีซูซุ 363 – คัน- ฟอร์ด 277 คัน – นิสสัน 181 คัน – เชฟโรเลต 21 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 20,567 คัน ลดลง 46.8%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 8,955 คัน ลดลง 32.5% ส่วนแบ่งตลาด 43.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 7,830 คัน ลดลง 48.4% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,403 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 6.8%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2563

1.  ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 270,591 คัน ลดลง 38.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า
80,856 คัน ลดลง 43.3% ส่วนแบ่งตลาด 29.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 59,393 คัน ลดลง 21.8% ส่วนแบ่งตลาด 21.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
35,504 คัน ลดลง 32.4% ส่วนแบ่งตลาด 13.1%

2.  ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 98,948 คัน ลดลง 42.2%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 29,702 คัน ลดลง 25.3% ส่วนแบ่งตลาด 30.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
25,124 คัน ลดลง 50.4% ส่วนแบ่งตลาด 25.4%
อันดับที่ 3 นิสสัน
10,908 คัน ลดลง 34.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.0%

3.  ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 171,643 คัน ลดลง 35.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
59,393 คัน ลดลง 21.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
55,732 คัน ลดลง 39.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.5%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
12,854 คัน ลดลง 39.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%

4.  ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 136,833 คัน ลดลง 37.2%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
55,205 คัน ลดลง 21.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
48,890 คัน ลดลง 40.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.7%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
12,854 คัน ลดลง 39.5% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 13,985 คัน
โตโยต้า 5,381 คัน – มิตซูบิชิ 3,265 คัน – อีซูซุ 2,448 คัน – ฟอร์ด 1,786 คัน – นิสสัน 495 คัน –เชฟโรเลต 610 คัน

5.  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 122,848 คัน ลดลง 35.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
52,757 คัน ลดลง 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 42.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
43,509 คัน ลดลง 37.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
9,589 คัน ลดลง 38.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในยุคโควิด-19 ระบาด สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาจาก:

New-Toyota-Hilux-Revo-And-Fortuner-2020

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถกระบะคุณภาพระดับโลก Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ใหม่ และรถอเนกประสงค์สุดหรู Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ใหม่ ผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก

New-Toyota-Hilux-Revo-Pre-Runner-2020

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2547 เวลานั้น Toyota เริ่มต้นโครงการ IMV (Innovative International Multi-purpose Vehicle) โดยเป็นการย้ายฐานการผลิตรถกระบะ และรถอเนกประสงค์จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายในประเทศ และส่งออกจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในระยะเวลาอันรวดเร็ว รวมไปถึงรถอเนกประสงค์อย่าง Toyota Fortuner

ส่งผลให้รถทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวเป็นรถยอดนิยมของคนไทย โดยมีลูกค้าเป็นเจ้าของรวมทั้งสิ้นกว่า 2.6 ล้านคัน* (*ข้อมูลยอดขายสะสมของโครงการ IMV ตั้งแต่ปี 2547 – พฤษภาคม 2563)

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

โดยในปี 2562 โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ และ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ยังคงมียอดขายเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะ Pure Pick-up 38.3% และส่วนแบ่งการตลาดรถ PPV 43.4% ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่เชื่อมั่นในด้านคุณภาพการผลิตและศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกแบบและพัฒนาโดยคนไทย อีกทั้งยังประกอบขึ้นด้วยฝีมือคนไทย และส่งออกไปยังทั่วโลกโดยคนไทย

สรุปอย่างเร็ว … มีอะไรเด่นๆ เปลี่ยนใหม่บ้าง ใน Toyota Hilux Revo 2020 ใหม่?

  • ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam + ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding
  • ภายในหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อม T-Connect และมาตรวัดดีไซน์ใหม่
  • สำหรับรุ่นพิเศษ Rocco นอกจากจะมีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters
  • ช่วงล่างที่ถูกปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ
  • ปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบ/นาที
  • สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง
  • ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control)
  • ครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)

การเปิดตัว โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ในครั้งนี้ ภายใต้แนวคิดหลัก “พลังแกร่งเหนือนิยาม” หรือ “The Unbeatable” โดยสื่อถึงสมรรถนะพลังของเครื่อง GD Super Power ใหม่ ที่ดุดัน เร้าใจ ที่มาพร้อมความแกร่งเกินนิยาม คือ ทั้งแข็งแรง หนักแน่น แต่ก็นุ่มนวลได้อย่างเหนือความคาดหมาย พร้อมด้วยช่วงล่าง Super Flex Suspension

ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของคนไทย ที่มีความเป็นนักสู้ที่กล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แม้ต้องเจอปัญหาหนักแค่ไหนก็พร้อมจะฝ่าฟัน

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกกลุ่มอาชีพ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม

New-Toyota-Hilux-Revo-B-Cab-2020

Toyota Hilux Revo รุ่นมาตรฐาน (B-Cab) เหมาะสำหรับใช้งานบรรทุกหนักเป็นหลัก เช่น กลุ่มธุรกิจที่เพื่อการขนส่ง (Logistics) และเกษตรกรขนผลิตผล ที่ผ่านมายืนยันได้จากส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดใน Segment นี้

New-Toyota-Hilux-Revo-B-Cab-2020

ซึ่งในรุ่นมาตรฐานนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการบรรทุกอย่างแท้จริง ด้วยเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูง 204 แรงม้า และประหยัดน้ำมัน รวมถึงระบบช่วงล่างที่แข็งแกร่งรองรับน้ำหนักบรรทุกได้อย่างดีเยี่ยม ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจได้ในทุกมิติ ครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน ทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อ แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และแบบ หัวเดี่ยว (Cab & Chassis) ที่รองรับการติดตั้งเพิ่มเติม เช่น ต่อเติมตู้แห้ง-ตู้เย็น ต่อคอก โดยลูกค้า สามารถจบทุกความต้องการได้ด้วยการบริการทางการเงินที่ครอบคลุมแบบ One Stop Service

New-Toyota-Hilux-Revo-B-Cab-2020

พร้อมกันนี้ ยังติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย T-Connect และ Fleet Telematics Service ระบบบริหารยานพาหนะและการขนส่งครบวงจร ช่วยให้การจัดการและการดำเนินธุรกิจขนส่ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านเวลา ต้นทุน และคุณภาพสินค้า อีกทั้งยังให้บริการทางด้านการเงิน Full Service Lease ในการเช่าซื้อแบบครบวงจร เพื่อช่วยในการบริหารสภาพคล่องทางการเงินในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล

New-Toyota-Hilux-Revo-Z-Edition-2020

Toyota Hilux Revo รุ่น Z-edition สำหรับรถกระบะตัวเตี้ย มีความหลากหลายในการใช้งาน ที่เหมาะสำหรับทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน หรือทำธุรกิจ งานบรรทุก การค้าขายปลีก-ส่ง ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน

โดยที่ผ่านมามีกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ต้องการมีรถยนต์เป็นคันแรก โตโยต้าได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ด้วย “Z-Edition ตัวเตี้ยหน้าหล่อ” ที่มีดีไซน์ที่โดนใจ เสริมทัพด้วยการจัดกิจกรรม “Racing Mania” ที่เป็นการรวมกลุ่มทำกิจกรรมของผู้ที่หลงใหลการแต่งรถ ให้มาแลกเปลี่ยนไอเดียกัน

New-Toyota-Hilux-Revo-Z-Edition-2020

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ จึงได้พัฒนารูปลักษณ์ใหม่ที่เท่ห์สะดุดตา ทันสมัย สวยเร้าใจ สำหรับลูกค้าที่ต้องการความแตกต่างและโดดเด่น สามารถตกแต่งเพิ่มได้ตามความต้องการจากร้านรถแต่งชั้นนำ ด้านสมรรถนะมีขุมพลังจากเครื่องยนต์ GD Super Power 2.4 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ความบันเทิงในรถ แบบหน้าจอสัมผัส Touchscreen ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ

นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) เราได้มีการจัดแต่งรถในโชว์รูม เพื่อเป็นตัวอย่างแนวทางการใช้งานและไอเดียในการแต่งรถ ด้วยแพ็กเกจชุดแต่งหลากหลายทางเลือกแบบ One Stop Service และพร้อมเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ด้วยระบบ Connected Auto Loan หรือ CAL และบริการ Sabuy 😀 ที่ฉีกมิติใหม่ในการเช่าซื้อ ด้วยการผ่อนต่ำลง 18% เมื่อเทียบกับโปรแกรมเช่าซื้อปกติ แต่รวมแพคเกจเช็กระยะ 23,000 กม. พร้อมรับประกันราคาขายต่อในอนาคต และระบบ Theft Track หรือการติดตามการโจรกรรม ที่เสมือนรถอยู่ในสายตาให้ความปลอดภัยจากการโจรกรรมตลอดเวลา

New-Toyota-Hilux-Revo-Pre-Runner-2020

Toyota Hilux Revo รุ่นยกสูง (Pre-Runner) ถือได้ว่าเป็นรถกระบะยอดนิยมของคนไทย ตอบโจทย์การใช้งานที่อเนกประสงค์ และสะดวกสบายเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง ด้วยดีไซน์ ที่สวยงาม ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ง่าย ระบบช่วงล่างและระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล รวมถึงสิ่งอำนวยสะดวกภายในรถที่ครบครัน

ทำให้โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นยกสูง ประสบความสำเร็จทั้งด้านการขาย และได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งชาย-หญิง ในหลากหลายกลุ่มอาชีพ อาทิ ข้าราชการ และบุคคลทั่วไป

New-Toyota-Hilux-Revo-Pre-Runner-2020

โดยรุ่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นในทุกมิติ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูบึกบึน ทันสมัย ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวและส่องสว่างได้ดียิ่งขึ้น ขุมพลังจากเครื่องยนต์ GD Super Power ใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องพละกำลังและความประหยัดสูงสุด ระบบช่วงล่างใหม่ “Super Flex Suspension” ที่นุ่มนวลเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง

พร้อมเพิ่มระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC ที่ช่วยในการควบคุมพวงมาลัย ลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่สำหรับผู้ที่ต้องขับรถในระยะทางไกลๆ และระบบ VSC ที่ติดตั้งในรุ่นกลางเป็นต้นไป

New-Toyota-Hilux-Revo-Pre-Runner-2020

สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถเพิ่มเติม สามารถซื้ออุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโตโยต้า TGA (Toyota Genuine Accessories) ที่ออกแบบใหม่ให้ตรงกับความต้องการใช้งานของลูกค้ามากขึ้น

New-Toyota-Hilux-Revo-Pre-Runner-2020

รวมไปถึงประกันภัยรูปแบบใหม่ ประกันภัยขับดีลดให้ Toyota Care PHYD (Pay How You Drive) ที่จะทำให้ประหยัดได้มากกว่า ด้วยส่วนลดจากการวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่ ขับรถดี ขับปลอดภัย จะมีส่วนลดค่าเบี้ยประกันต่ออายุ สูงสุดถึง 45% สามารถซ่อมได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานโตโยต้า ได้นานสูงสุด 8 ปี

New-Toyota-Hilux-Revo-Rocco-2020

Toyota Hilux Revo รุ่นพิเศษ Rocco และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ใช้งาน ในเมือง เน้นความสง่างาม ชื่นชอบกิจกรรมในยามว่าง และมีงานอดิเรก ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัย ลูกค้าจึงมีความต้องการรถที่มีสมรรถนะการขับขี่ และความสะดวกสบายดีเยี่ยม รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูง

New-Toyota-Hilux-Revo-Rocco-2020

โดยปัจจุบัน Hilux Revo รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และรุ่น Rocco ได้รับความนิยมและครองใจแฟนๆ จากสิงห์รถกระบะอย่างหนักแน่น ตอกย้ำฉายา “King of Off-Road” โดยรุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับเปลี่ยนดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในแบบ Exclusive เฉพาะในรุ่น Rocco เพื่อสื่อถึงความพรีเมียม แข็งแกร่ง ทรงพลัง และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

New-Toyota-Hilux-Revo-Rocco-2020

นอกจากนี้ในด้านสมรรถนะการขับขี่ได้ปรับปรุงขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ GD เจเนเรชั่นที่ 2 “GD Super Power” ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ที่ทำงานร่วมกับช่วงล่างใหม่ Super Flex Suspension ที่เกาะถนนและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

New-Toyota-Hilux-Revo-Rocco-2020

ครั้งแรกกับการนำเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นสูง Toyota Safety Sense มาใช้ในรถกระบะ โตโยต้าในประเทศไทย ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจและปลอดภัยทุกเส้นทาง และเพิ่มความอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลด้วย ระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) หรือ การติดตามการโจรกรรม การแสดงข้อมูลการขับขี่ Trip Report การเช็กตำแหน่งรถ (Find My Car) และยังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าตลอดเวลาในทุกเส้นทาง Toyota Tube ที่จะเป็นสื่อแนะนำการใช้รถยนต์ในรูปแบบวีดีโอบนโทรศัพท์มือถือ

สำหรับโตโยต้า ไฮลักว์ รีโว่ ใหม่ จะเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

New-Toyota-Fortuner-2020

New-Toyota-Fortuner-2020-1

และมีอะไรใหม่ๆ บ้าง ใน Toyota Fortuner 2020 ใหม่?

  • กระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน
  • ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่
  • หน้าจอสัมผัสที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อมระบบ T-Connect
  • กล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ
  • สัญญาณเตือนกะระยะ หรือ Park Sensor
  • ระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ
  • แท่นชาร์จไร้สาย
  •  เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุดได้ถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบ/นาที
  • เพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ในเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร
  • สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง
  • แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อบนหน้าจอ MID และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง
  • ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว
  • Sport Mode ปรับการทำงานของคันเร่งให้ตอบสนองเร็วยิ่งขึ้น และปรับการทำงานของพวงมาลัยให้มีน้ำหนักมากขึ้น เหมาะสำหรับการเร่งแซงและการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูง
  • ครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
    —–
  • พร้อมรุ่นพิเศษ ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “Legender”
  • ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูงและไฟต่ำแบบ LED
  • ปรับดีไซน์กันชนหลังใหม่
  • ล้ออัลลอย 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
  • หลังคาสีทูโทน

New-Toyota-Fortuner-2020

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) รถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อ 15 ปีก่อน และครองอันดับ 1 ในตลาดรถอเนกประสงค์ ประเภท PPV อย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่มีการเปิดตัวในเจเนเรชั่นที่ 2 ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการปรับโฉมอย่างเป็นทางการในรอบ 5 ปี พัฒนารูปลักษณ์ให้มีความ “Prestige & Cool” มากยิ่งขึ้น เพื่อสะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำของผู้ขับขี่อย่างมีระดับ เน้นความหรูหราและทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยกลางคนที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว และใช้งานในชีวิตประจำวัน

และสำคัญที่สุดคือ ความคุ้มค่าของรถที่มีให้กับลูกค้า จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้สโลแกน “Wisdom of a Leader” หรือ “สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ” สะท้อนความเป็นยนตรกรรมที่ผสานทุกความเป็นที่สุดไว้ในหนึ่งเดียว สู่สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของผู้นำ

ในครั้งนี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มาพร้อมกันถึง 2 รุ่น 2 ดีไซน์ โดยมีรุ่นมาตรฐาน และรุ่นพิเศษ Legender

New-Toyota-Fortuner-2020

Toyota Fortuner รุ่นมาตรฐาน เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัว มองหารถที่ใหญ่ขึ้น และให้ความสำคัญด้านความคุ้มค่า โดยรุ่นมาตรฐานนี้ได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ทำให้น้ำหนักพวงมาลัยแปรผันตามความเร็ว ควบคุมรถได้แม่นยำและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Cruise Control และสัญญาณกะระยะ 6 ตำแหน่ง พร้อมกับระบบ Apple Carplay ที่จะเชื่อมต่อคุณและความบันเทิงได้อย่างอิสระ

สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกในการนำเสนอประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) ที่ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลสถานะคงเหลือของรถ (Stock) อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบระยะเวลาการส่งมอบรถได้อย่างแม่นยำกับระบบ Estimate Time of Arrival (ETA) และฟังก์ชันพิเศษที่จะปฏิวัติการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ให้เป็นเจ้าของรถง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Connected Auto Loan (CAL)

ในขณะเดียวกัน ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ (New Usage Experience) เพียงแค่ลงทะเบียนผ่าน Application T-Connect by Toyota ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย อาทิ บริการผู้ช่วยส่วนตัว ตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อมต่อความสุข และสร้างความสบายใจให้ตลอดทุกเส้นทาง

พร้อมกับประกันภัยรูปแบบใหม่ ประกันภัยขับดีลดให้ Toyota Care PHYD (Pay How Your Drive) ซึ่งทำให้ลูกค้าจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยตามพฤติกรรมการขับขี่ ผู้ที่ขับขี่อย่างปลอดภัยจะได้ประโยชน์เป็นส่วนลดและยังเป็นการสร้างความปลอดภัยในสังคมมากยิ่งขึ้น

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

Toyota Fortuner รุ่นพิเศษ สะท้อนสัญลักษณ์ตัวตนของผู้นำ จะใช้ชื่อว่า Toyota Fortuner Legender เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มองหารถที่โดดเด่นด้านรูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

โดยโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มาพร้อมความหรูหรา และยกระดับความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ และเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ใหม่ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่แรงขึ้นกว่าเดิม 15% ด้วยกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และฟังก์ชัน Sport Mode ที่จะทำให้การขับขี่สนุกและเร้าใจมากยิ่งขึ้น

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

นอกจากนี้ยังเพิ่ม Balance shaft ที่จะช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร กล้องมองรอบคัน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ปลอดภัย ตอบรับไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันด้วย แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย และ ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อม Kick Sensor และยังเป็นครั้งแรกในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าทุกท่านด้วยระบบ T-Connect ที่สามารถเช็กตำแหน่งรถตามเวลาจริง (Real Time) ได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) และระบบประสานความช่วยเหลือ SOS ของโตโยต้าได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีบริการแจ้งเตือนล่วงหน้าสำหรับเข้าศูนย์บริการ Telematic Care ช่วยให้การดูแลรถยนต์ของลูกค้าเป็นเรื่องง่าย และแม่นยำมากยิ่งขึ้น

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะเปิดให้จองได้ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ รุ่นมาตรฐานสามารถส่งมอบรถให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และสำหรับรุ่น Legender จะสามารถส่งมอบได้ในเดือนสิงหาคม 2563 เป็นต้นไป

พร้อมเป็นเจ้าของ Toyota Hilux Revo ใหม่…พลังแกร่งเหนือนิยาม 40 รุ่นย่อย

มีสีภายนอกให้เลือก 8 สี (สีใหม่ 3 สี)

  • Dark Blue Mica (ใหม่) (เฉพาะรุ่นยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ / ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Emotional Red (ใหม่) * (เฉพาะรุ่น Rocco)
  • Oxide Bronze Metallic (ใหม่) * (เฉพาะรุ่น Rocco)
  • White Pearl CS* (เฉพาะรุ่น Rocco / ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกรด High / ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ)
  • Silver Metallic (ยกเว้นรุ่น Rocco)
  • Dark Grey Metallic (ยกเว้นรุ่น Rocco / Cab & Chasis)
  • Attitude Black Mica (ยกเว้นรุ่นมาตรฐาน)
  • Super White** (ยกเว้นรุ่น Rocco / ขับเคลื่อน 4 ล้อ / ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner เกรด High)

ราคา

Hilux Revo รุ่นมาตรฐาน

  • มี 7 รุ่น ราคา 544,000 – 704,000 บาท
    (*สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 10,000 บาท / ** สี Super White ลด 7,000 บาท)

Hilux Revo Z-Edition

  • มี 12 รุ่น ราคา 609,000 – 809,000 บาท

Hilux Revo ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner

  • มี 12 รุ่น ราคา 707,000 – 1,009,000 บาท

Hilux Revo แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • มี 5 รุ่น ราคา 862,000 – 1,159,000 บาท

Hilux Revo Rocco

  • มี 4 รุ่น ราคา 949,000 – 1,239,000 บาท

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ทุกคัน จะได้รับแคมเปญช่วงแนะนำ และแพ็คเกจการรับประกันคุณภาพ เพิ่มเติมเป็น 5 ปี 150,000 กม. พร้อมค่าแรงเช็กระยะฟรีไปจนถึง 100,000 กม. รวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท เพิ่มเติมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าโตโยต้ากับ Toyota Privilege More

New-Toyota-Fortuner-Legender-2020

พร้อมเป็นเจ้าของ Toyota Fortuner ใหม่ และ Toyota Fortuner รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย (เริ่มส่งมอบเดือนสิงหาคม 2563)

มีสีภายนอกให้เลือก 3 สี (สีใหม่ 1 สี)

  • Emotional Red Black Top (ใหม่) ***
  • White Pearl CS Black Top ***
  • Attitude Black Mica

ราคา

  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท

(*** สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 6 สี (สีใหม่ 2 สี)

  • Dark Blue Mica (ใหม่)
  • Emotional Red (ใหม่) ****
  • White Pearl CS ****
  • Silver Metallic
  • Dark Grey Metallic
  • Attitude Black Mica

ราคา (เปิดตัววันนี้ – 30 กันยายน 2563)

  • 2.4G เกียร์อัตโนมัติ 1,319,000 บาท จาก 1,349,000 บาท
    (**** สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท)
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ 1,424,000 บาท จาก 1,454,000 บาท
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,494,000 บาท จาก 1,524,000 บาท

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะได้รับแพ็คเกจรับประกันคุณภาพ 5 ปี 150,000 กม. และขยายค่าแรงเช็กระยะฟรี จนถึง 100,000 กม. มูลค่ากว่า 45,000 บาท พิเศษวันนี้ ถึง 30 กันยายนเท่านั้น

ส่วนใครที่อยากได้ Toyota Hilux Revo และ Fortuner ใหม่ แต่กำลังสู้กับวิกฤตโควิด-19 อยู่ และเงินสดมีไม่เพียง ถ้าใช้รถคันเดิม สามารถนำมาขายกับทาง CARRO ได้ แม้ว่ารถจะติดไฟแนนซ์ เราก็พร้อมปิดไฟแนนซ์ให้ และยินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Promotion-New-Car-Jun-2020

สวัสดีในเดือนมิถุนายน 2563 แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะเริ่มมีผู้ติดเชื้อลดลงแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งในไทยตอนนี้ก็แทบจะไม่มีผู้ติดเชื้อแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังต้องย้ำเตือนกันว่า “การ์ดอย่าตก” แม้ว่าจะยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีเคอร์ฟิว มีอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งในภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ ฯลฯ ที่ตอนนี้หมดแรงกันตามวิถีชีวิตแบบใหม่ “New Normal” ไปแล้วก็ตาม

ส่วนสถานะในตลาดรถตอนนี้ ยอดขายรถใหม่ดิ่งเหวในรอบหลายสิบปี ซึ่งผู้ซื้อรถส่วนใหญ่ก็ขาดกำลังทรัพย์ ต่างชลอการซื้อรถใหม่อย่างมาก กระทบไปถึงบรรดาซัพพลายเออร์ ที่ผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับทางบริษัทรถ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จนต้องร้องขอให้กรมสรรพสามิต ช่วยลดภาษีสรรพสามิต เพื่อกระตุ้นยอดขายรถให้มากขึ้น ไปจนถึงพ่อค้ารถมือสอง หรือบริษัทไฟแนนซ์ สินเชื่อ สถาบันการเงิน ต่างก็เหนื่อยกันถ้วนหน้า

ส่วนในเดือนนี้ ก็ยังคงมีการเปิดตัวรถไปตามแผนเดิม แม้ว่ากระแสจะไม่ปังก็ตาม โดยในวันที่ 4 มิถุนายน เตรียมเปิดตัว Toyota Hilux Revo และ Fortuner โฉมไมเนอร์เชนจ์ เป็นต้น

ในช่วงโควิด-19 นี้ หากคุณต้องใช้เงินประคองชีวิต อยากขายรถด่วน รับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิม หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

สำหรับโปรโมชั่นรถใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2563 เชิญชมได้ด้านล่างครับ.

Toyota

CAMRY Ultimate Promotion

เงื่อนไขสิทธิ์ซื้อ Modellista Special Edition Set

  • Modellista Special Edition Set มีจำนวนจำกัด 50 ชุด และประกอบไปด้วย 1.) ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CAMRY Modellista (สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง ซ้าย-ขวา, สเกิร์ตหลัง, สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง) 2.) หลังคาเคลือบฟิล์มดำ 3.) ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สี Gun Metallic พร้อมยาง
  • ราคาดังกล่าว รวมราคารับซื้อล้อและยางที่ติดตั้งมาจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และรวมค่าทำสีและติดตั้งชุดอุปกรณ์ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CAMRY Modellista (สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง ซ้าย-ขวา, สเกิร์ตหลัง, สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง) และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สี Gun Metallic รับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงกำหนดก่อน ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด
  • หลังคาเคลือบฟิล์มดำรับประกัน 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด
  • ยางดัลลอป แอลเอ็ม 705 (Dunlop LM705) รับประกัน 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงกำหนดก่อน ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด
  • สอบถามรายละเอียดและส่วนประกอบอุปกรณ์ต่างๆ ได้จากผู้แทนจำหน่าย
  • สีของรถและอุปกรณ์ต่างๆที่ปรากฎในภาพ อาจแตกต่างจากสีจริง เนื่องจากระบบการพิมพ์
  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ส่วนประกอบอุปกรณ์ต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ติดตั้งและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด
  • สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ผ่านระบบ Toyota Privilege More และรับรถยนต์ CAMRY ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2563 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

เงื่อนไขอื่นๆ

  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่ทางบริษัทฯ กำหนด
  • อัตราดอกเบี้ย 1.89% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 20% ขึ้นไป (กรณีชำระค่างวดแบบต้นงวด) และสำหรับผู้ซื้อ ที่ผ่านการอนุมัติตามมาตรฐานเงื่อนไขของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง ประเทศไทย จำกัด เท่านั้น
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 มูลค่าสูงสุด 39,142 บาท โดยทุนประกันภัยไม่เกิน 80% ของมูลค่ารถ (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถภายใต้เงื่อนไขของแคมเปญ) รวมบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชม. ไม่รวม พ.ร.บ. บุคคลที่ 3
  • ขยายรับประกันคุณภาพรถใหม่จาก 3 ปี เป็น 5 ปี : มูลค่า 47,000 บาท โดยรับประกันต่อเนื่องจากระยะเวลารับประกันของผู้ผลิตรถยนต์ (ระยะเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) หรือนับจากวันส่งมอบรถยนต์ เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือไม่เกิน 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือรับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี : มูลค่า 7,000 บาท สำหรับการเช็คระยะตั้งแต่  10,000 – 100,000 กิโลเมตร หรือภายในระยะเวลา 5  ปี แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ที่ศูนย์บริการมาตรฐานโตโยต้าเท่านั้น (เฉพาะค่าแรง ไม่รวมค่าอะไหล่และค่าใช้จ่ายอื่นๆ) ไม่สามารถใช้ร่วมกับแคมเปญอื่นๆของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้
  • รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี และ แบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี : รับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดครอบคลุมปีที่ 6 – 10 แบบไม่จำกัดระยะทาง (ต่อเนื่องจากการรับประกันในปีที่ 5) และรับรองการใช้งานระบบไฮบริดครอบคลุมปีที่ 4 – 5 แบบไม่จำกัดระยะทาง (ต่อเนื่องจากการรับประกันในปีที่ 3) เมื่อซื้อ CAMRY รุ่น HYBRID
  • รับประกันมูลค่ารถไฮบริดในอนาคต (GFV) : รับประกันมูลค่ารถรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดไม่น้อยกว่ามูลค่ารถรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน (คำนวณจากอัตราส่วนร้อยละของราคารถยนต์ใหม่ในแต่ละรุ่น) ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่วันส่งมอบรถยนต์ตามใบส่งมอบรถยนต์ใหม่ การใช้งานต้องไม่เกิน 30,000 กิโลเมตรต่อปีหรือไม่เกิน 150,000 กิโลเมตรภายในระยะเวลา 5 ปี สภาพรถอยู่ในเงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนดและไม่เคยมีประวัติอุบัติเหตุรุนแรง รายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ www.toyotasure.com
  • สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2563
  • เงื่อนไขนี้เฉพาะผู้แทนจำหน่ายฯ ที่เข้าร่วมโครงการ ยกเว้นรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถขาย Fleet

Nissan

All-New Nissan Kicks e-POWER

Kicks

All-New Nissan Kicks รุ่น V

  • ราคาช่วงเปิดตัว 999,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

All-New Nissan Kicks รุ่น VL

  • ราคาช่วงเปิดตัว 1,049,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี รับประกันระบบ e-POWER 5 ปี รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี**
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

** รับประกันระบบรถยนต์ e-POWER เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ระยะทาง 100,000 โลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และ รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นระยะเวลา 10 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบ) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยเป็นขยายการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มเติม ภายในปีที่ 6-10 จาก ปีที่ 5 โดยเพิ่มระยะทางจาก 100,000 กิโลเมตรเป็น 200,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เนื่องจากความเสียหาย ได้ 1 ครั้ง

NISSAN ALMERA

Almera

  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 6 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 4.69%, รุ่น EL ราคา 559,000 บาท, ค่างวด 8,954 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 4,477 บาท จำนวน 6 เดือน รวมมูลค่า 26,862 บาท) พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,300 บาท [(สำหรับงวดที่ 1-60), คำนวณจากเงินดาวน์ 28.5%, ดอกเบี้ย 4.23% และงวดที่ 61 (167,700), คำนวณจากรุ่น EL CVT ราคา 559,000 บาท]*
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และ สำหรับรุ่น EL เท่านั้น

nissan note

Note

  • ราคาเริ่มต้น 529,000 บาท
  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 9 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 5.19%, รุ่น E 19MY ราคา 529,000 บาท, ค่างวด 8,672 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 4,336 บาท จำนวน 9 เดือน รวมมูลค่า 39,024 บาท) พร้อม ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ราคาเริ่มต้น 529,000 บาท
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท* [(สำหรับงวดที่ 1-60), คำนวณจากเงินดาวน์ 25%, ดอกเบี้ย 4.38% และงวดที่ 61 (185,150 บาท), คำนวณจากรุ่น E 19MY ราคา 529,000 บาท
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

*ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่ผ่านการพิจารณาภายใต้เงื่อนไขและทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และเฉพาะรุ่น E 19MY เท่านั้น

NISSAN MARCH

March

  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 9 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 5.19%, รุ่น S MT ราคา 420,000 บาท, ค่างวด 6,885 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 3,443 บาท จำนวน 9 เดือน รวมมูลค่า 30,987 บาท) ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • เริ่มต้นเพียง 3,800 บาท*, คำนวณจาก เงินดาวน์ 25%, ดอกเบี้ย 0.18%, ระยะเวลาผ่อน 84 เดือน, คำนวณจากรุ่น S MT ราคา 420,000 บาท
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และ สำหรับรุ่น 1.2S MT เท่านั้น

NISSAN TEANA

Leaf

  • อัตราดอกเบี้ย 0%* (เงินดาวน์ 20%, ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 60 เดือน)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี**
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)

ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

New Nissan X-Trail

X-Trail

  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 6 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 3.59%, รุ่น 2.5 V 2WD ราคา 1,460,000 บาท, ค่างวด 22,182 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 11,091 บาท จำนวน 6 เดือน รวมมูลค่า 66,546 บาท) ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • อัตราดอกเบี้ย 0%* (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

NISSAN SYLPHY

Sylphy

MY2018

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 6 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 3.59%, รุ่น 1.6V ราคา 869,000 บาท, ค่างวด 13,203 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 6,602 บาท จำนวน 6 เดือน รวมมูลค่า 39,612 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • อัตราดอกเบี้ย 0%* (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 60 เดือน)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* เงื่อนไขนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และ สำหรับรุ่น 1.6V CVT เท่านั้น

NISSAN TEANA

Teana

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 6 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 3.59%, รุ่น 2.0 XL ราคา 1,426,000 บาท, ค่างวด 21,665 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 10,833 บาท จำนวน 6 เดือน รวมมูลค่า 64,998 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • อัตราดอกเบี้ย 0%* (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

NISSAN TEANA

GT-R

  • อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.89%* (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน)

*เงื่อนไขนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

New NISSAN NAVARA Black Edition

Navara

Nissan Navara Double Cab รุ่น Black Edition ใหม่ รุ่นปี 2019 และ 2020

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 9 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 5.19%, รุ่น DC Black Edition 19MY&20MY ราคา 877,000 บาท, ค่างวด 14,377 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 7,189 บาท จำนวน 9 เดือน รวมมูลค่า 64,701 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • อัตราดอกเบี้ย 0%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 72 เดือน)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

Nissan Navara King Cab รุ่น Black Edition ใหม่ รุ่นปี 2019 และ 2020

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 9 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 5.80%, รุ่น KC Black Edition 19MY&20MY ราคา 790,000 บาท, ค่างวด 13,312 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 6,656 บาท จำนวน 9 เดือน รวมมูลค่า 59,904 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • อัตราดอกเบี้ย 0%* (เงินดาวน์ 15%, ผ่อนนาน 72 เดือน
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

Nissan Navara King Cab Calibre EL 6MT รุ่นปี 2019 และ 2020

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 9 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 5.80% รุ่น KC Calibre EL ราคา 799,500 บาท, ค่างวด 13,472 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 6,736 บาท จำนวน 9 เดือน รวมมูลค่า 60,624 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,400 บาท* [(สำหรับงวดที่ 1-60), คำนวณจากเงินดาวน์ 16%, ดอกเบี้ย 1.53% และงวดที่ 61 (279,825), คำนวณจากรุ่น KC Calibre EL ราคา 799,500 บาท]
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และสำหรับ K/Cab Calibre EL 6MT เท่านั้น

Nissan Navara King Cab S 6MT รุ่นปี 2018, 2019 และ 2020

  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 9 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 5.80% รุ่น KC S ราคา 637,000 บาท, ค่างวด 10,734 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 5,367 บาท จำนวน 9 เดือน รวมมูลค่า 48,303 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,900 บาท* [(สำหรับงวดที่ 1-60), คำนวณจากเงินดาวน์ 16.4%, ดอกเบี้ย 3.86% และงวดที่ 61 (222,950), คำนวณจากรุ่น KC S ราคา 637,000 บาท]
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และสำหรับ K/Cab S 6MT เท่านั้น

terra

Terra

New Nissan Terra V

  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 6 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 3.59%, รุ่น 2.3V 2WD ราคา 1,316,000 บาท, ค่างวด 19,994 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 9,997 บาท จำนวน 6 เดือน รวมมูลค่า 59,982 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี สปอยเลอร์หลังคาและกระจังหน้าสีดำ
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • ราคาพิเศษ 1,199,000 บาท*
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี สปอยเลอร์หลังคาและกระจังหน้าสีดำ
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และสำหรับรุ่น V เท่านั้น

New Nissan Terra VL

  • นิสสันช่วยผ่อนครึ่งหนึ่งนาน 3 เดือน* (คำนวณจาก ดาวน์ 10%, ผ่อนนาน 72 เดือน, ดอกเบี้ย 3.59%, รุ่น 2.3VL 2WD ราคา 1,349,000 บาท, ค่างวด 20,495 บาท, นิสสันช่วยผ่อน 10,248 บาท จำนวน 3 เดือน รวมมูลค่า 30,744 บาท)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง* (เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี สปอยเลอร์หลังคาและกระจังหน้าสีดำ
  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่งเอเนอร์เจติกแพ็กเกจ
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

หรือ

  • อัตราดอกเบี้ย 0.99%* (เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน)
  • ขับก่อนผ่อนทีหลัง(เริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น)
  • ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
  • ฟรี สปอยเลอร์หลังคาและกระจังหน้าสีดำ
  • ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่งเอเนอร์เจติกแพ็กเกจ
  • ฟรีไส้กรองแอร์แบบพรีเมียม “Nissan Premium Air-Con filter”

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และสำหรับรุ่น VL เท่านั้น

NISSAN URVAN

Urvan

สอบถามรายละเอียดที่ผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสัน

Honda

ออกรถรับฟรี! เครื่องฟอกอากาศ ยับยั้งเชื้อโรคในรถยนต์* เมื่อจองและรับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้

  • สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ผ่านทางผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
  • สิทธิพิเศษ รับเครื่องฟอกอากาศยับยั้งเชื้อโรคในรถยนต์ Sharp Plasmacluster Ion Generator รุ่น IG-GC2B-BH  มูลค่า 4,990 บาท
  • บริษัทฯ จะจัดส่งเครื่องฟอกอากาศภายใน 30 วันหลังเดือนที่ลูกค้ารับรถยนต์ ผ่านทางผู้จำหน่ายที่ลูกค้ารับรถยนต์
  • สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้
  • ไม่ครอบคลุมลูกค้าที่ซื้อในลักษณะเชิงพาณิชย์ เช่น ขายกลุ่ม (Fleet) หรือเช่า (Leasing) หรือรถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ

โปรโมชั่น Honda

Honda Brio/Brio Amaze
– ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 2,500 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 30,000 บาท
พร้อมรับดอกเบี้ยพิเศษ 2.29%* หรือ ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ผ่อนเริ่มต้น 4,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

Honda Mobilio
– ดอกเบี้ยพิเศษ 0%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี พิเศษสุด! ฟรีโต๊ะปิกนิกแบบพับได้ 4 ที่นั่ง มูลค่า 1,590 บาท และรับเพิ่ม ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร หรือ

ดอกเบี้ยพิเศษ 2.29 %* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมรับฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 4,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 48,000 บาท พิเศษสุด! ฟรีโต๊ะปิกนิกแบบพับได้ 4 ที่นั่ง มูลค่า 1,590 บาท และรับเพิ่ม ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

Honda City
– ผ่อนสบายเริ่มต้น 5,500 บาท กับ DOUBLE SMILE* หรือ

รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.89% พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 24,000 บาท หรือ รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29%

Honda Jazz
– ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
หรือข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
หรือรับฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,500 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 18,000 บาท
ฟรี ! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กม.

Honda Civic
– ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%* หรือ ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE**
ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 9,900 บาท
ฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท
พร้อมรับเพิ่ม ฮอนด้า อัลติเมท แคร์

Honda Civic Hatchback
– ดอกเบี้ย 2.29%
หรือ รับข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท

All-New Honda Accord
– รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%* หรือรับข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท
พิเศษ! ฟรีค่าแรงตามตารางการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กม.  พร้อมรับ “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์”

All-New Honda Accord Hybrid
– รับดอกเบี้ย 0.99%* สิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าปัจจุบัน ( Honda Loyalty ) รับเพิ่ม ส่วนลดดอกเบี้ย 0.30 % พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี รับสิทธิพิเศษฟรี ! “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” พร้อมฟรี ! ค่าแรงตามตารางการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับฟรี ! GARMIN SMARTWATCH Limited Edition รุ่น FORERUNNER 645 MUSIC สี Slate มูลค่า 16,990 บาท

Honda BR-V
– ดอกเบี้ยพิเศษ 0.59%* พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พิเศษสุด! ฟรี จักรยานพับ Modulo มูลค่า 7,990 บาท หรือ

ดอกเบี้ย 1.99 %* พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 12 เดือน พิเศษสุด! ฟรี จักรยานพับ Modulo มูลค่า 7,990 บาท หรือ
ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE **  ผ่อนเริ่มต้น 6,000 บาท พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท นาน 12 เดือน พิเศษสุด! ฟรี จักรยานพับ Modulo มูลค่า 7,990 บาท

Honda HR-V
– ดอกเบี้ยพิเศษ 0%* พร้อมฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรงค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และรับฟรีประกันภัย 1 ปี และรับเพิ่ม ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร พิเศษสุด! ฟรี จักรยานพับ Modulo  มูลค่า 7,990 บาท  หรือ

ดอกเบี้ย 2.29 %* พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 2,500 บาท นาน12 เดือน รวมมูลค่า 30,000 บาท พร้อมฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรงค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และรับฟรีประกันภัย 1 ปี และรับเพิ่ม ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร พิเศษสุด! ฟรี จักรยานพับ Modulo  มูลค่า 7,990 บาท หรือ
ข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ดาวน์ 0 บาท หรือผ่อนเริ่มต้น เพียง 10,000 บาท พร้อมฟรีแพ็กเกจเช็กระยะค่าแรงค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และรับฟรีประกันภัย 1 ปี และรับเพิ่ม ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร พิเศษสุด! ฟรี จักรยานพับ Modulo  มูลค่า 7,990 บาท

Honda CR-V
– รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%* พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี! แพ็กเกจเช็กระยะค่าแรงและค่าอะไหล่สูงสุด 3 ปี หรือ 50,000 กม.
หรือข้อเสนอสุดพิเศษ DOUBLE SMILE** ผ่อนเริ่มต้น 14,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรี! ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กม.

Mazda

Mazda2-2020

Mazda จัดกิจกรรม “มาสด้า…ปันสุข” ช่วงเวลาเติมฝัน ปันความสุข ในระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2563 ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าและบุคลากรทางการแพทย์ อาทิ

  • ขับฟรี 90 วัน1 ดอกเบี้ย 0%1
  • ส่วนลด 100,000 บาท1
  • ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง2
  • รับฟรีกระเป๋าเดินทาง5
  • ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร4
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3
  • พร้อมมาตรการเพิ่มความปลอดภัยด้านสาธารณสุขด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทุกโชว์รูม รถยนต์ที่นำมาจัดแสดง และรถทดลองขับทุกคัน เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ กับมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโคโรน่าไวรัส

นอกจากนี้ มาสด้ายังแบ่งปันความสุขให้กับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มอาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ รังสีวิทยา และเภสัชกร ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับท่านที่จองซื้อรถมาสด้าภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยรุ่น Mazda2 และ Mazda BT-50 Pro มอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 0.20%1 ส่วนรุ่นอื่นๆ6 ขับฟรี 60 วัน1 และมอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 0.10%1

หมายเหตุ

1. เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อ และส่วนลดดอกเบี้ยเป็นไปตามข้อกำหนดของ บมจ. ธนาคารทิสโก้ และ บมจ. ธนาคารธนชาต เท่านั้น

2. บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (4) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์

3. ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ตามเงื่อนไขโปรแกรม Mazda Added Protection

4. ฟรีค่าแรงการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 10 ครั้ง ทุก 6 เดือน หรือ ทุก 10,000 กม. ตั้งแต่ 10,000-100,000 กม.

5. ข้อเสนอดังกล่าวสำหรับผู้เช่าซื้อที่ผ่านการอนุมัติตามเงื่อนไขของ บมจ.ธนาคารทิสโก้ และ บมจ.ธนาคารธนชาต ที่จองและออกรถ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น

6. รุ่นอื่นๆ ได้แก่ All-New Mazda 3, All-New Mazda CX-30, New Mazda CX-5 รุ่นปี 2019, New Mazda CX-8 และ New Mazda MX-5 (ยกเว้น New Mazda CX-3 และ Mazda CX-5 รุ่นปี 2018)

Mazda Promotion ช่วงเวลาดีๆ ที่รวมทุกความพิเศษ

Mazda2

ขับฟรี 90 วัน
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda3

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ขยาย การรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

Mazda CX-3

ส่วนลด 100,000 บาท
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda CX-30

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ขยาย การรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

Mazda CX-5

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี ค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
ขยาย การรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

Mazda CX-8

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ขยาย การรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

Mazda MX-5

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ขยาย การรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

Mazda BT-50 PRO

ขับฟรี 90 วัน
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mitsubishi

luckydraw-register

โปรโมชั่น Mitsubishi กิจกรรม “มิตซูบิชิ ลุ้นโชค x2” ลงทะเบียนลุ้นโชค ถอยรถใหม่ลุ้นทอง วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2563

  • โชคชั้นที่ 1 ลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท จำนวน 100 รางวัล (เมื่อลงทะเบียนภายใน 30 มิ.ย. 63)
  • โชคชั้นที่ 2 ลุ้นรับทองคำแท่งมูลค่า 100,000 บาท จำนวน 1 รางวัล และทองคำรูปพรรณมูลค่า 20,000 บาท 20 รางวัล (เมื่อลงทะเบียน และซื้อรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นใดก็ได้ และรับรถภายใน 30 มิ.ย. 63)

New Attrage and New Mirage

  • เลือกรับดาวน์ 0% และ มิตซูบิชิช่วยผ่อน เดือนละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 เดือน
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี (3) พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี

Xpander and Xpander Cross

  • ราคาแนะนำ 899,000 บาท
  • เลือกรับดาวน์ 0% และ มิตซูบิชิช่วยผ่อน เดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 เดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% และ แพคเกจ 5 ปี ดูแลดีถึงใจ (3) ประกอบไปด้วย ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี

New Pajero Sport

  • เลือกรับดาวน์ 0% และ มิตซูบิชิช่วยผ่อน เดือนละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 เดือน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 2 ปี
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี
  • รับฟรี แพคเกจ 5 ปี ดูแลดีถึงใจ ประกอบไปด้วย ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี  และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • รับฟรีอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาภาพและเสียงระบบดิจิตอล (HDMI WiFi Dongle)

Triton

  • เลือกรับผ่อนชำระเริ่มต้น 4,xxx บาท 5,xxx บาท หรือ 6,xxx บาท
  • เลือกรับดาวน์ 0% และ มิตซูบิชิช่วยผ่อน หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0%
  • เลือกรับราคาพิเศษ 999,000 บาท
  • รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี
  • รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี

Suzuki

All-New-Suzuki-Carry

โปรโมชั่น Suzuki ร้อนแรง แซงทุกดีล

Suzuki Swift ใหม่ ทุกรุ่น
ทุกรุ่นรับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน*(7) พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 30,000 บาท*(1)
หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,222 บาท*(2) หรือเลือกรับ ดอกเบี้ย 1.09%* (4)
พร้อมส่วนลดพิเศษข้าราชการประจำและพนักงานรัฐวิสาหกิจ *(5)
ทุกรุ่นฟรีบัตรกิ๊ฟท์การ์ดเทสโก้โลตัส มูลค่า 1,000 บาท*(6)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง*** และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน**

Suzuki Ciaz ทุกรุ่น
รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน*(7) พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 40,000 บาท*(1)
ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท*(3) หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,777 บาท*(2)
พร้อมส่วนลดพิเศษข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ *(5)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง*** และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน **

Suzuki Celerio ทุกรุ่น
รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน*(7) พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท*(1)
หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท*(2)
พร้อมส่วนลดพิเศษข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ *(5)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง*** และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน**

All New Suzuki Ertiga ทุกรุ่น
รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน*(7) พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท*(1)
ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท*(3) หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท*(2)
พร้อมส่วนลดพิเศษข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ *(5)
ทุกรุ่นฟรีบัตรกิ๊ฟท์การ์ดเทสโก้โลตัส มูลค่า 1,000 บาท*(6)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง*** และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน **

Suzuki Carry ทุกรุ่น
รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน*(7) พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท*(1)
พร้อมส่วนลดพิเศษข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ *(5)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง***

*(1) เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ซื้อเงินสดหรือเช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการเท่านั้น ได้แก่
1. บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด
2. ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
3. ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
4. ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
*(2) เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อ กับ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เท่านั้น คำนวณจากโปรแกรม MY WAY รุ่น Celerio GA M/T ราคา 318,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ1,999 บาท ดาวน์ 20.13% (เงินดาวน์ 64,027 บาท) ผ่อน 84 งวด รุ่น NEW CIAZ GL CVT ราคา 559,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,777 บาท ดาวน์ 15.90% (เงินดาวน์ 88,888 บาท) ผ่อน 84 งวด รุ่น Swift GL Sports Edition ราคา 541,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,222 บาท ดาวน์ 24.33% (เงินดาวน์ 131,645 บาท) ผ่อน 84 งวด รุ่น NEW Ertiga GL AT ราคา 659,000บาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท ดาวน์ 16.07% (เงินดาวน์ 105,869บาท) ผ่อน 84 งวด
*(3) บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท สามารถใช้ได้เฉพาะกับสถานีบริการน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เท่านั้น จัดส่งโดยผู้จำหน่ายภายใน 60 วัน หลังการส่งมอบรถยนต์
*(4) เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ซูซูกิ รุ่น Swift ดอกเบี้ย 1.09% ที่ดาวน์เริ่มต้น 25% ผ่อนสูงสุด 48 งวด ตัวอย่าง ผ่อนเดือนละ 8,822 บาท คำนวณจากรุ่น Swift GL Sports Edition ราคา 541,000 บาท ดาวน์ 25% (เงินดาวน์ 135,250 บาท) ผ่อน 48 งวด เฉพาะสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการเท่านั้น ได้แก่ 1. บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด
2. ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
3. ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
4. ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
*(5) บริษัทขอสงวนสิทธิ์สำหรับกลุ่มลูกค้าข้าราชการประจำ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ (รวมถึง พนักงานราชการ (ลูกจ้างสัญญาจ้าง) ลูกจ้างประจำและชั่วคราว) ที่ผ่านการอนุมัติสินเชื่อตามเงื่อนไขสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ หรือซื้อรถยนต์เป็นเงินสด รับส่วนลดพิเศษเพิ่ม 10,000 บาท เมื่อจองและรับรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น ได้แก่ Swift Ciaz Celerio Ertiga และ Carry ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 มิถุนายน 2563 โดยผู้รับสิทธิ์จะต้องมีชื่อตรงกันกับชื่อผู้ซื้อ รถซูซูกิคันใหม่เท่านั้น
*(6) ร่วมฉลองรางวัลแห่งปี Car of The Year 2020 มอบบัตรกิ๊ฟท์การ์ดเทสโก้โลตัส มูลค่า 1,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองรถ Suzuki SWIFT หรือ Suzuki ERTIGA รุ่นใดก็ได้ สำหรับลูกค้าที่จองรถระหว่างวันที่ 6 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 และรับรถระหว่างวันที่ 6 มีนาคม – 15 มิถุนายน 2563
*(7) โปรแกรมขับฟรี 90 วัน (เริ่มชำระค่างวดหลังจากรับรถ 90 วัน) สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
แคมเปญพิเศษ สำหรับลูกค้านำรถยนต์ทุกยี่ห้อมาเทิร์นและซื้อรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่นได้แก่ Ciaz Swift Celerio Eriga และ Carry ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 มิถุนายน 2563 รับส่วนลดเพิ่มเติม 10,000 บาท สงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้าผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ หรือ ผู้มีสิทธิ์ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวเท่านั้น โดยเงื่อนไขและการพิจารณาเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
** บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง จากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี
*** ประกันภัยชั้นหนึ่ง ปีแรกไม่รวม พรบ. บุคคลที่ 3 เฉพาะบริษัทประกันที่ร่วมโครงการ คือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) หรือ บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เท่านั้น
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้านท่านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Isuzu

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค 1.9 โปรจัดหนัก... อีซูซุจัดเต็ม

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค 1.9 โปรจัดหนัก… อีซูซุจัดเต็ม

เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ

(1) ดาวน์เริ่มต้น 27,350 บาท คำนวณจากรุ่นสปาร์ค บี 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 5% ผ่อน 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.69%

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยเลือกเงื่อนไขผ่อนชำระไม่เกิน 84 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค 4x4 โปรจัดหนัก... อีซูซุจัดเต็ม

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค 4×4 โปรจัดหนัก… อีซูซุจัดเต็ม

เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ

(1) ดาวน์เริ่มต้น 33,750 บาท คำนวณจากรุ่นสปาร์ค เอส 4×4 3,000 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 5% ผ่อน 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.69%

(2) ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยเลือกเงื่อนไขผ่อนชำระไม่เกิน 84 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ เอส โปรจัดหนัก... อีซูซุจัดเต็ม

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ โปรจัดหนัก… อีซูซุจัดเต็ม

เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 5,496 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 6,296 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นสเปซแค็บ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกในเดือน กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไปเท่านั้น โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 ดอกเบี้ย 1.99% กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

(3) ดาวน์เริ่มต้น 30,250 บาท คำนวณจากรุ่นสเปซแค็บ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 5% ผ่อน 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.69%

(4) เมื่อเลือกรับเงื่อนไข 2 หรือ 3 รับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระไม่เกิน 84 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(5) ขยายการรับประกันเป็น 5 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน / รถที่มีสิทธิ์รับข้อเสนอพิเศษ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น” / กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น”

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ L โปรจัดหนัก... อีซูซุจัดเต็ม

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ L โปรจัดหนัก… อีซูซุจัดเต็ม

เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,568 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,368 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นไฮแลนเดอร์ L 2 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกในเดือน กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไปเท่านั้น โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 ดอกเบี้ย 1.99% กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

(3) ดาวน์เริ่มต้น 35,400 บาท คำนวณจากรุ่นไฮแลนเดอร์ L 2 ประตู 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 5% ผ่อน 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.69% (4) เมื่อเลือกรับเงื่อนไข 2 หรือ 3 รับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระไม่เกิน 84 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ แค็บโฟร์ โปรจัดหนัก... อีซูซุจัดเต็ม

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ แค็บโฟร์ โปรจัดหนัก… อีซูซุจัดเต็ม

เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ

(1) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 6,253 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 7,053 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากรุ่นแค็บโฟร์ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.95% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกในเดือน กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไปเท่านั้น โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

(2) อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 ดอกเบี้ย 1.99% กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

(3) ดาวน์เริ่มต้น 34,300 บาท คำนวณจากรุ่นแค็บโฟร์ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 5% ผ่อน 84 เดือน ดอกเบี้ย 3.69%

(4) เมื่อเลือกรับเงื่อนไข 2 หรือ 3 รับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระไม่เกิน 84 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

อีซูซุวี-ครอส 4x4 ใหม่หมด โปรจัดหนัก... อีซูซุจัดเต็ม

อีซูซุวี-ครอส 4×4 ใหม่หมด โปรจัดหนัก… อีซูซุจัดเต็ม

เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ

(1) อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 ดอกเบี้ย 1.99% กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน

(2) เมื่อเลือกรับเงื่อนไขดอกเบี้ยพิเศษ รับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยเลือกรับเงื่อนไขการผ่อนชำระไม่เกิน 84 เดือน / เงื่อนไขไฟแนนซ์พิเศษสำหรับรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด

(3) ผ่อนเริ่มต้นปีแรก 9,214 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 1-12 และผ่อน 10,014 บาทต่อเดือน สำหรับเดือนที่ 13-96 คำนวณจากออลนิว อีซูซุวี-ครอส รุ่น Z 4 ประตู 3,000 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา กรณีดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน ดอกเบี้ย 3.95% อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนมิถุนายน 2563 โดยจะต้องเริ่มชำระงวดแรกในเดือน กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไปเท่านั้น โดยเงื่อนไขในการผ่อนชำระให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ

หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ

ดาวน์เริ่มต้น 54,xxx บาท หรือเลือกดอกเบี้ยสุดพิเศษ 0%

ดาวน์เริ่มต้น 54,xxx บาท หรือเลือกดอกเบี้ยสุดพิเศษ 0%

  1. ดาวน์เริ่มต้น 54,950 บาท คำนวณจากอีซูซุมิว-เอ็กซ์ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 1,900 ซีซี (CD) เกียร์อัตโนมัติ สีบรอนซ์เงิน กรณีดาวน์ 5% ดอกเบี้ย 1.8% ผ่อน 48 เดือน
  2. อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อรถ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ทุกรุ่น / เงื่อนไขเป็นไปตามสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเดือนมิถุนายน 2563
  3. โปรแกรมบำรุงรักษารถตามระยะ ครอบคลุมค่าอะไหล่ เคมีภัณฑ์ รวมถึงค่าแรง สำหรับเช็กระยะตามมาตรฐานของ อีซูซุ จำนวน 6 ครั้งแรก ทุกๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กม. ภายใน 3 ปี หรือ 60,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน) มูลค่าสูงสุด 20,040 บาท คำนวณจากค่าบำรุงรักษารถตามระยะ 6 ครั้งแรก ของอีซูซุมิว-เอ็กซ์ 3.0 ดีดีไอ 4×2 เกียร์อัตโนมัติ
  4. เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อกับอีซูซุลิสซิ่ง ขยายการรับประกันเป็น 5 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน / รถที่มีสิทธิรับข้อเสนอพิเศษ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น” / กรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเงื่อนไขและข้อตกลงของโปรแกรมบริการพิเศษ “อีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น” / สอบถามรายละเอียดหรือรับข้อเสนอพิเศษอื่นๆที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

Chevrolet

ข้อเสนอพิเศษ

โอกาสสุดท้าย! เชฟโรเลต ลดล้างสต๊อก

นอกจากราคาสุดเร้าใจแล้ว รถยนต์เชฟโรเลตยังคงมีบริการหลังการขายและศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์เพื่อคอยดูแลและให้บริการลูกค้าอยู่เช่นเดิม อาทิ

  • การรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)  ครอบคลุมค่าแรงช่างซ่อม อะไหล่แท้มาตรฐานเชฟโรเลต และการรับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ศูนย์บริการและอะไหล่แท้มาตรฐานเชฟโรเลต
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
  • ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1734 ตั้งแต่ 7:00 – 20:00 น.

Ford

Retail Campaign Q4 on Latest Offer

โปรโมชั่น Ford ข้อเสนอคุ้มแล้วคุ้มอีก จาก ฟอร์ด – 30 มิถุนายน 2563

ฟอร์ด เอเวอเรสต์

อัตราดอกเบี้ย 0 % ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure สำหรับรุ่น Trend, Titanium, Titanium + 4×2 และ 4×4

หรือ Defer Payment 3 Months
หมายเหตุ: เริ่มชำระค่างวดงวดแรกหลังจากได้ทำการส่งมอบรถ 90 วัน สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกรุ่น

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่

อัตราดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure

หรือ Defer Payment 3 Months
หมายเหตุ: เริ่มชำระค่างวดงวดแรกหลังจากได้ทำการส่งมอบรถ 90 วัน สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกรุ่น

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure พร้อมฟรี “โปรแกรม Ford Beyond พร้อมดูแลคุณ นาน 5 ปี”

Ford Beyond: คลิกเพื่อดูรายละเอียด

หรือ Defer Payment 3 Months
หมายเหตุ: เริ่มชำระค่างวดงวดแรกหลังจากได้ทำการส่งมอบรถ 90 วัน สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกรุ่น

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค

อัตราดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure พร้อมฟรี “โปรแกรม Ford Beyond พร้อมดูแลคุณ นาน 5 ปี

Ford Beyond: คลิกเพื่อดูรายละเอียด

หรือ Defer Payment 3 Months
หมายเหตุ: เริ่มชำระค่างวดงวดแรกหลังจากได้ทำการส่งมอบรถ 90 วัน สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกรุ่น

MG

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า MG ทุกรุ่น

  • ผ่อนชำระค่าใช้จ่าย 0% นานสูงสุด 10 เดือน 1
  • ลดค่าอะไหล่ 20% รวม 74 รายการ 2
  • ลดค่าแรง 10% 3
  • ฟรี ตรวจเช็กสภาพรถ 37 รายการ 4
  • ฟรี บริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถยนต์ 5

หมายเหตุ

  1. ผ่อนชำระค่าใช้จ่าย 0% นานสูงสุด 10 เดือน สำหรับลูกค้า ที่จ่ายด้วยบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย หรือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ สงวนสิทธิ์ สำหรับค่าบริการ ค่าอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่งแท้ MG เท่านั้น โดยมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 2,000 บาทขึ้นไป รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
  2. รับส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับค่าอะไหล่ โปรดสอบถามรายการสินค้าที่ร่วมรายการกับศูนย์บริการรถยนต์ MG
  3. ส่วนลดค่าแรง 10% ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
  4. บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้กับลูกค้า ฟรี 37 รายการ โปรดสอบถามรายการสินค้าที่ร่วมรายการกับศูนย์บริการรถยนต์ MG
  5. ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคฟรี สงวนสิทธิ์ สำหรับลูกค้าที่นัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าก่อนโดยไม่จำกัดค่าใช้จ่าย และลูกค้าที่ใช้บริการจากรถบริการเคลื่อนที่ ที่มียอดค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (ลูกค้า 1 คัน ต่อ 1 ครั้ง)
  • สิทธิพิเศษนี้ครอบคลุมทั้งการให้บริการที่ศูนย์บริการมาตรฐาน MG และการนัดหมายรับบริการกับรถบริการเคลื่อนที่ (Mobile Service)
  • สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้ารับบริการตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ถึง 15 กรกฎาคม 2563
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด
  • เงื่อนไขทั้งหมดไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

Hyundai

ระยะเวลา: 1 พฤษภาคม 2563 – 30 มิถุนายน 2563

ข้อกำหนดและเงื่อนไข
– ประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 25,764.60 บาท สำหรับ H-1 และ มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 32,097.65 บาท สำหรับ Grand Starex จากบริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ซึ่งออกโดยบริษัทประกันภัย

– เงื่อนไขนี้ไม่สามารถใช้ร่วมในกรณีการขายกลุ่ม (Fleet) หรือรถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ

– บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

– เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Mercedes-Benz

Mercedes-Benz-GLB-Class-2020

พร้อมรับข้อเสนอดีๆ จาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ A 200 AMG Dynamic

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 2,490,000 บาท
  • หรือ ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 20,799 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • หรือ รับดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 48 เดือน เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ ด้วยเงินดาวน์ขั้นต่ำ 25% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**

รับมอบรถยนต์และเริ่มทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยข้อเสนอสำหรับมายสตาร์และเช่าซื้อ จะต้องทำสัญญากับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ C 300 e / C 220 d

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz C 300 e Avantgarde / C 300 e AMG Dynamic / C 220 d Avantgarde ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • C 300 e Avantgarde ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 19,799 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • C 300 e AMG Dynamic ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 26,199 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • C 220 d Avantgarde ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 20,699 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**

รับมอบรถยนต์และเริ่มทำสัญญากับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ C 200 Coupé AMG Dynamic

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 3,450,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • หรือ ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 26,699 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**

รับมอบรถยนต์และเริ่มทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยข้อเสนอสำหรับมายสตาร์ จะต้องทำสัญญากับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ E-Class

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz E 220 d Sport / E 300 e Avantgarde / E 300 e Exclusive / E 300 e AMG Dynamic ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 3,190,000 บาท
  • E 220 d Sport ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 28,399 บาท/เดือน* (อ้างอิงจากรถยนต์ราคา 3,399,000 บาท) เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • E 300 e Avantgarde ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 26,799 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • E 300 e Exclusive ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 29,399 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • E 300 e AMG Dynamic ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 32,299 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**
  • หรือ รับดอกเบี้ย 0.99% ระยะเวลา 48 เดือน เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ ด้วยเงินดาวน์ขั้นต่ำ 25%

รับมอบรถยนต์และเริ่มทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยข้อเสนอสำหรับมายสตาร์และเช่าซื้อ จะต้องทำสัญญากับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ CLS

ให้คุณเป็นเจ้าของ CLS 300 d AMG Dynamic (รุ่นที่ไม่มี Mercedes me connect) ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 4,390,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี*

โดยรับมอบรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ GLC 220 d

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz GLC 220 d ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • เริ่มต้นเพียง 26,599 บาท/เดือน* เมื่อทำสัญญามายสตาร์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี**

รับมอบรถยนต์และเริ่มทำสัญญากับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ GLC 250 d / GLC 250 Coupé

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz GLC 250 d / GLC 250 Coupé ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • รับดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 48 เดือน เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ ด้วยเงินดาวน์ขั้นต่ำ 25% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 2 ปี*

รับมอบรถยนต์และเริ่มทำสัญญากับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข้อเสนอเดียวกันกับ Motor Show สำหรับ S 560 e AMG Premium

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz S 560 e AMG Premium (รุ่นที่ไม่มี Mercedes me connect) ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 6,999,000 บาท
  • พร้อมฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี*

ให้คุณเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz S 560 e AMG Premium (รุ่นที่มี Mercedes me connect) ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ

  • เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB Protection นาน 1 ปี และฟรีแพ็กเกจ MBSP Extra นาน 5 ปี**

รับมอบรถยนต์และเริ่มทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยข้อเสนอสำหรับเช่าซื้อ จะต้องทำสัญญากับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

BMW

MID YEAR JOY

ส่งมอบความสุขช่วงกลางปีกับข้อเสนอสุดพิเศษ วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน นี้

รับประกันชั้น 1 นาน 3 ปี สำหรับ BMW Plug-in Hybrid ทุกรุ่น.

รับดอกเบี้ยพิเศษสำหรับ BMW X1

รับสิทธิ์ดอกเบี้ยพิเศษ ในราคาผ่อนเริ่มต้น 16,999 บาทต่อเดือน

รับประกันชั้น 1 นาน 3 ปี สำหรับ BMW Plug-in Hybrid ทุกรุ่น.

BMW 330e M Sport ผ่อนต่อเดือน เริ่มต้นที่ 23,999 บาท
BMW 530e Elite ผ่อนต่อเดือน เริ่มต้นที่ 25,999 บาท
BMW 530e Highline ผ่อนต่อเดือน เริ่มต้นที่ 29,999 บาท
BMW 530e M Sport ผ่อนต่อเดือน เริ่มต้นที่ 33,999 บาท
BMW 745Le xDrive M Sport ผ่อนต่อเดือน เริ่มต้นที่ 53,999 บาท
BMW X5 xDrive45e M Sport ผ่อนต่อเดือน เริ่มต้นที่ 41,999 บาท

รับประกันชั้น 1 นาน 2 ปี

BMW 320d M Sport ผ่อนต่อเดือน เริ่มต้นที่ 21,999 บาท

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า BMW ปัจจุบัน

BMW X3 รับสิทธิ์ดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี พร้อมผ่อนต่อเดือนเพียง 999 บาท

BMW 520d M Sport รับสิทธิ์ดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี พร้อมผ่อนต่อเดือนเพียง 16,999 บาท

BMW 530e M Sport รับสิทธิ์ดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี รับประกันชั้น 1 นาน 3 ปี พร้อมผ่อนต่อเดือนเพียง 21,999 บาท

Audi

อาวดี้ ประเทศไทย มอบสิทธิพิเศษให้แพทย์ด้วยข้อเสนอพิเศษดาวน์0%ผ่อนดอกเบี้ย0%นาน4ปี

อาวดี้ ประเทศไทย มอบสิทธิพิเศษให้แพทย์ ด้วยข้อเสนอพิเศษ ดาวน์ 0% ผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี

อาวดี้ ประเทศไทย ได้จัดทำข้อเสนอพิเศษให้กับแพทย์และทันตแพทย์ ที่จองรถอาวดี้ทุกรุ่น ดาวน์ 0% ผ่อนดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 4 ปี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2563

สำหรับลูกค้าทั่วไป

  • โปรโมชั่น ผ่อนสบายๆ 7 ปี ดอกเบี้ย 1.99%
  • Audi No Worry ซื้อปีนี้ผ่อนปีหน้า ลูกค้าเริ่มชำระค่างวดเดือนมกราคม 2564 จาก 84 งวด เหลือเพียง 77 งวด
  • ผ่อนเงินดาวน์กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการนานสูงสุด 6 เดือน ดอกเบี้ย 0%
  • ลูกค้าของการบินไทย ยังสามารถนำไมล์สะสมของการบินไทย 50,000 ไมล์ มาแลกเป็นส่วนลด 50,000 บาท

และสบายใจยิ่งขึ้นกับบริการหลังการขาย ที่ลูกค้าสามารถผ่อนชำระได้ถึง 3 เดือน ดอกเบี้ย 0% สำหรับลูกค้าที่มีค่าบริการ 10,000 บาท ขึ้นไป และเปิดรับบริการสำหรับรถนำเข้าอิสระที่นำเข้าก่อนปี 2018 ตั้งแต่ 2 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

Thailand-Monthly-Car-Sales-Volume

สถิติการขายรถยนต์เดือนเมษายนมีปริมาณการขาย 30,109 คัน ลดลง 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 74.7% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 58.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ภาครัฐฯ ออกมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ตั้งแต่การทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) และผู้บริโภคหยุดพิจารณาซื้อรถใหม่ เศรษฐกิจของประเทศที่แย่อยู่แล้ว ทำให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์เป็นวงกว้าง ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และในทั่วโลก

ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 4 เดือน มีปริมาณการขาย 230,173 คัน ลดลง 34.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 36.6% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 32.6%

ในเดือนพฤษภาคม ภาครัฐฯ ได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง ปรับเวลาเคอร์ฟิว แต่ก็เริ่มให้เกิดกิจการหลายอย่าง เพื่อช่วยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และหลายค่ายรถยนต์ได้กลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้ง ทำให้แนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมมีทิศทางดีขึ้น

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2563

1.     ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 30,109 คัน ลดลง 65%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,084 คัน ลดลง 58.9% ส่วนแบ่งตลาด 36.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ
6,865 คัน ลดลง 55.4% ส่วนแบ่งตลาด 22.8%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,648 คัน ลดลง 76.6% ส่วนแบ่งตลาด  8.8%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 8,830 คัน ลดลง 74.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 2,906 คัน ลดลง 71.2% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 2,229 คัน ลดลง 74.1% ส่วนแบ่งตลาด 25.2%
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,072 คัน ลดลง 56.9% ส่วนแบ่งตลาด 12.1%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 21,279 คัน ลดลง 58.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,178 คัน ลดลง 51.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,865 คัน ลดลง 55.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,205 คัน ลดลง 73.1% ส่วนแบ่งตลาด  5.7%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 16,733 คัน ลดลง 59.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,019 คัน ลดลง 53.1% ส่วนแบ่งตลาด 41.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,267 คัน ลดลง 56.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,205 คัน ลดลง 73.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 1,575 คัน
โตโยต้า 753 คัน –  อีซูซุ 322 คัน – มิตซูบิชิ 219 คัน – ฟอร์ด 211 คัน – เชฟโรเลต 45 คัน – นิสสัน 25 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 15,158 คัน ลดลง 58.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,266 คัน ลดลง 52.2% ส่วนแบ่งตลาด 41.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,945 คัน ลดลง 55.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 994 คัน ลดลง 73.7% ส่วนแบ่งตลาด  6.6%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2563

1.  ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 230,173 คัน ลดลง 34.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า
67,245 คัน ลดลง 40.6% ส่วนแบ่งตลาด 29.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 49,263 คัน ลดลง 18.3% ส่วนแบ่งตลาด 21.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
31,326 คัน ลดลง 24.2% ส่วนแบ่งตลาด 13.6%

2.  ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 87,215 คัน ลดลง 36.6%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 26,188 คัน ลดลง 15.9% ส่วนแบ่งตลาด 30.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
21,567 คัน ลดลง 47.4% ส่วนแบ่งตลาด 24.7%
อันดับที่ 3 นิสสัน
9,763 คัน ลดลง 27.3% ส่วนแบ่งตลาด 11.2%

3.  ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 142,958 คัน ลดลง 32.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
49,263 คัน ลดลง 18.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
45,678 คัน ลดลง 36.7% ส่วนแบ่งตลาด 32.0%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
11,031 คัน ลดลง 37.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%

4.  ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 113,696 คัน ลดลง 34.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
45,887 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
39,752 คัน ลดลง 38.2% ส่วนแบ่งตลาด 35.0%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
11,031 คัน ลดลง 37.0% ส่วนแบ่งตลาด 9.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 11,415 คัน
โตโยต้า 4,073 คัน – มิตซูบิชิ 2,845 คัน – อีซูซุ 2,085 คัน – ฟอร์ด 1,509 คัน – เชฟโรเลต 589 คัน –นิสสัน 314 คัน

5.  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 102,281 คัน ลดลง 32.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
43,802 คัน ลดลง 15.9% ส่วนแบ่งตลาด 42.8%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
35,679 คัน ลดลง 34.9% ส่วนแบ่งตลาด 34.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ
8,186 คัน ลดลง 35.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในยุคโควิด-19 ระบาด สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาจาก:

All-New-Nissan-Kicks-2020

Nissan Kicks e-POWER 2020 (นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์) ครอสโอเวอร์ไฮบริด โฉมไมเนอร์เชนจ์ เป็นรถใหม่ 2020 ที่น่าสนใจอีกรุ่น เตรียมเปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของโลก 15 พ.ค. นี้! ผ่านทางช่องทางออนไลน์ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป หลังจากที่เจอฤทธิ์ของโควิด-19 ถล่มจนต้องเลื่อนการจัดงานในเดือนมีนาคม 2563 มาเป็นเดือนพฤษภาคม 2563

สำหรับ Nissan Kicks e-POWER รุ่นไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ เช่นกันกับในตัว Nissan Serena e-Power รุ่นล่าสุดที่ขายในญี่ปุ่น อีกทั้งยังพร้อมส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 3 มิถุนายน 2020 ด้วย

Nissan-Kicks-ePower-2020

เดิมที Nissan Kicks เป็นรถแบบ SUV ที่นิสสันพัฒนามาจากรถต้นแบบอย่าง Nissan Kicks Concept โดยเปิดตัวตัวรถผลิตขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปี 2016 เพื่อทำตลาดในอเมริกาใต้เป็นหลัก ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม V แบบเดียวกับรถตระกูล Nissan Micra, Note, Pulsar หรือ Sylphy

Nissan-Kicks-ePower-2020

การออกแบบมาเพื่อเป็นรถแบบเดียวกับ Nissan Juke แต่เน่นความเป็นพรีเมียมดีไซน์มากกว่า เริ่มต้นที่กระจังหน้าแบบ V-Motion ใหม่ เอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน ไฟหน้า LED เสริมด้วยระบบ Follow-Me-Home ไฟท้าย LED Signature Light ไปจนถึงไฟเบรก LED ใหม่ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

มีมิติตัวรถยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,615 มม.

Nissan-Kicks-ePower-2020

ส่วนห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม (เฉพาะรุ่น VL) ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา สะดวกสบายและเติมเต็มความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางอย่างเร้าใจ กับ เทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay อัปเดตโลกออนไลน์และสร้างความบันเทิงได้ตลอดการเดินทาง ไม่พลาดทุกการสื่อสาร โดดเด่นด้วยฟังก์ชันระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map และระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย

พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Nissan-Kicks-ePower-2020

เวลาขับก็ไม่ใช่เรื่องลำบากยากเย็น กับ ระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้คนขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทาง ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน จับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล จากนั้นแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และยังทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งตรวจจับและส่งสัญญาณเตือน เมื่อตรวจพบบุคคล หรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และให้ความมั่นใจในการขับขี่

Nissan-Kicks-ePower-2020

ตัวเทคโนโลยี e-POWER ที่นิสสันมานำเสนอใน Kicks เป็นรุ่นแรกของบ้านเรา ประกอบด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบ 3 สูบ 1.2 ลิตร, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator), อินเวอร์เตอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์สันดาปภายในกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่แบบลิเธียม ไอออน (Lithium-Ion) มีขนาดกะทัดรัด และส่งผ่านไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนโดยไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก ให้ผู้ขับสัมผัสถึงการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในแบบรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) 100%

Nissan-Kicks-ePower-2020

จุดเด่นคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE (แบบเดียวกับใน Note e-Power) แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด  79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) ที่ 4,000-8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 500-3,008 รอบ/นาที

หากรวมพลังทั้งหมด ให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า ที่ 4,000 – 8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 500 – 3,008 รอบ/นาที และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker) หรือ 4.2 ลิตร/100 กม.

Nissan-Kicks-e-POWER-ECO-Sticker

ECO Sticker ของ Nissan Kicks e-POWER 2020

สำหรับโหมดการขับขี่ของ Nissan Kicks e-Power 2020 มีให้เลือกด้วยกัน 3 โหมด

  • EV MODE ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว โดยเครื่องยนต์จะไม่ผลิตไฟฟ้า ให้คุณสัมผัสถึงความเงียบสนิทและอีกขั้นของความประหยัด
  • S MODE เพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนและตอบสนองอัตราเร่งให้ดียิ่งขึ้น
  • ECO MODE ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง

Nissan-Kicks-ePower-Line-Up-2020

ออพชั่นเด่นๆ ของ Nissan Kicks e-POWER 2020 มีอะไรบ้าง ดูได้ตรงนี้เลย

  • หน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว บนมาตรวัด
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key
  • ปุ่ม Push Start
  • กุญแจระบบ Immobilizer
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Anti-jam Protection ด้านผู้ขับ
  • ที่วางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง
  • ช่องวางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้า-หลัง 4 ตำแหน่ง
  • กล่องเก็บของด้านหน้า
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ไฟห้องสัมภาระด้านท้าย
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
  • ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ Nissan Connect จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 6 ตำแหน่ง Bluetooth, USB, AUX-in, ฟังก์ชั่น Apple CarPlay สำหรับ iOS (เฉพาะรุ่น V และ VL)
  • ชุดเครื่องเสียงมาตรฐาน วิทยุ AM/FM, Bluetooth, USB, AUX-in และลำโพง 4 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น S และ E)
  • เทคโนโลยร One-Pedal คันเร่งอัจฉริยะ
  • ระบบ Intelligent Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นชลอความเร็วและรักษาระยะห่างตามรถคันหน้า
  • ระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ ลดความเสียหายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ
  • ระบบ Blind Spot Warning เตือนจุดอับสายตา
  • ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนในขณะถอยออก
  • ระบบ Intelligent Around View Monitor กล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง พร้อมเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control
  • ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Intelligent Ride Control
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control
  • ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด ประกอบด้วยคู่หน้า, ข้าง และม่านข้างซ้าย-ขวา (รุ่น VL) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ Pretensioner and Load Limiter Seatbelts
  • จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
  • กระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror แสดงผลด้วยจอ LCD ที่แสดงภาพจากกล้องด้านหลังตัวรถ สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลระหว่างจอแสดงภาพ หรือภาพสะท้อนแบบปกติจากกระจกได้
  • ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

Nissan-Kicks-ePower-Price-2020

ราคาของ Nissan Kicks e-Power ใหม่

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,049,000 บาท ปรับขึ้น 50,000 บาท)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,103,900 บาท ปรับขึ้น 54,900 บาท)

Nissan-Kicks-ePower-Color-2020

All-New Nissan Kicks e-POWER มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ประกอบด้วย

  • สีดำ Black Star
  • สีขาว Storm White (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
  • สีแดง Radiant Red
  • สีเทา Gun Metallic
  • สีเงิน Brilliant Silver
  • สีส้ม Monarch Orange (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

นอกจากนี้ยังมีสีทูโทน ใช้หลังคาสีดำ (เฉพาะรุ่น VL) อีก 4 สี คือ

  • สีขาว Storm White – ดำ (เพิ่มเงิน 15,000 บาท)
  • สีส้ม Monarch Orange – ดำ (เพิ่มเงิน 15,000 บาท)
  • สีแดง Radiant Red – ดำ (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
  • สีเทา Gun Metallic – ดำ (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

ทุกรุ่นรับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี, รับประกันระบบไฟฟ้า 5 ปี และรับประกันคุณภาพรถใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน สนใจจองได้ตั้งแต่วันนี้ การส่งมอบจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

Nissan-Kicks-ePower-2020

ส่วนใครที่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริดสักคัน ก็ลองขายรถคันเดิมแล้วเอาเงินไปซื้อ Nissan Kicks e-POWER มาใช้ดู เพียงลงขายรถคันเดิมง่ายๆ ได้ที่ Link นี้เลย https://th.carro.co/sell-car/express ให้ราคาดี รับเงินไว ปิดการขายได้ใน 24 ชั่วโมง หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน