IphoneXs-Xr-VS-UsedCar

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ 10 รถมือสอง ที่ราคาเท่า “iPhone Xr, Xs และ Xs Max

เป็นที่ทราบกันแล้วนะครับว่า สำหรับ iPhone Xr / iPhone Xs และ iPhone Xs Max ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ไปใน USA ตั้งแต่เมื่อคืนของวันที่ 13 กันยายน 2561 (ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งมีคุณสมบัติและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น จอใหญ่ขึ้น ขยายความจุเป็น 512GB! (ถูกใจสาวก Apple กับ iPhone หรือเปล่า ไม่แน่ใจนะ?)

iPhone-XR-Thai-Price

iPhone-XS-Thai-Price

iPhone-XS-Max-Thai-Price

ภาพจาก IPhoneMod.net

และแน่นอนอยู่แล้วว่าราคาของ iPhone Xr / iPhone Xs และ iPhone Xs Max ต้องปรับสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมแน่นอน ทำให้สาวก iPhone ต้องคิดแล้วล่ะว่า ตีราคาออกมาเป็นเงินไทย สูงมากเลยทีเดียว (รุ่น Top สุด ราคาเหยียบครึ่งแสนเข้าไปแล้ว! เราจะย้อนกลับไปใช้โทรศัพท์มือถือ ราคาครึ่งแสน เหมือนเมื่อ 10 กว่าปีแล้วหรือเนี่ย!)

เอาเงินนี้ ไปซื้ออย่างอื่นดีกว่าหรือเปล่า? ซื้อรถมือสองดีมั้ย?

Carro ขอแนะนำ 10 รถมือสอง ที่คุณสามารถซื้อได้ในราคาของ iPhone Xr / iPhone Xs และ iPhone Xs Max ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ว่ามือถือรุ่น Top ราคาจะสามารถซื้อรถมือสองได้ 1 คัน!

Carro จึงขอนำเสนอรถยนต์มือสอง ในช่วงประมาณยุค 90 ที่มีราคาตั้งแต่ 3 – 5 หมื่นบาท ที่มีความทนทาน ดูแลง่าย อะไหล่พอหาได้เยอะหน่อย จะมีรุ่นใดบ้าง … เชิญอ่านได้เลยครับ

Toyota Corolla 1.3 / 1.6 (EE100/AE101)

Toyota-Corolla-AE101

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) เป็น Corolla “สามห่วง” รุ่นที่ถือว่าสร้างตำนานในบ้านเราอีกรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ ถือเป็นรุ่นแรกที่ใช้ Logo “Toyota” แบบใหม่ที่เป็นสามห่วง เปิดตัวในไทยเมื่อ 13 มีนาคม 2535 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 2E (และ 4E-FE ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์) และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ (แค่พอวิ่งได้) ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ก็มีคนลงขายแล้วครับ แต่ถ้าจะเอาแบบสภาพดีๆ หน่อย ก็ต้องเพิ่มงบไปอยู่ที่ประมาณ 5 – 6 หมื่นบาทครับ …

Toyota Corona 1.6 (AT191/ST191)

Toyota-Corona-ST191

Toyota Corona (โตโยต้า โคโรน่า) รุ่น “ท้ายโด่ง” “ท้ายแยก” ยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น และถือเป็นโคโรน่ารุ่นสุดท้ายที่ขายในไทย โฉมนี้เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2536 มาพร้อมรูปทรงอ้วนกลมน่ารัก ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE, เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-FE ก่อนจะปรับโฉมกันอีกครั้ง ในภายหลังเพิ่มรุ่น Exsior ชูจุดเด่นด้านความปลอดภัย พร้อมกับเปลี่ยนชุดแผงคอนโซลภายในใหม่

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงินประมาณ 4 หมื่นบาท ก็สามารถหารุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร (หรือรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สภาพโทรมๆ บางคัน) มาขับได้แล้ว แต่ถ้าอยากได้ดีกว่านี้ ก็ต้องจ่ายแพงเพิ่มขึ้นกว่านั้น

Honda Civic 1.5 / 1.6 (EG)

Honda-Civic-EG

Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 2535 โดยเป็นรุ่น 4 ประตูมาก่อน พอในปี 2536 ถึงจะเป็นตัวแฮทช์แบค 3 ประตู เปิดตัวตามมาทีหลัง สร้างยอดจองถล่มทลาย 10,000 คัน หลังจากเปิดตัวไปใน 7 วัน

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร คาร์บูเรเตอร์ 91 แรงม้า, 1.6 ลิตร หัวฉีด 120 แรงม้า และ 1.6 ลิตร VTEC 130 แรงม้า ที่ตามมาในภายหลัง และยังมีรุ่น 4 ประตู VTi นำเข้าจากญี่ปุ่นอีกด้วย มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด มีเงินแค่ 3 หมื่นบาทกลางๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้ 4 ประตู (ถ้าตัว 3 ประตู อาจต้องเพิ่มเงินอีกนิดนึง) มาขับได้แล้ว แต่ก็ตามสภาพนะครับ

Honda Accord 2.0 (CB)

Honda-Accord-CB

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) รุ่นนี้มีฉายาว่า “ตาเพชร” ซึ่งก็ถือเป็นรถรุ่นแรกๆ ในไทย ที่ใช้ไฟหน้าแบบ “มัลติรีเฟล็กเตอร์” (Multi-Reflector) ที่ให้ความสว่างกว่าไฟหน้าโคมแก้วทั่วไป จนกลายมาเป็นฉายาของรุ่นนี้ โดยเปิดตัวเมื่อปี 2533 ในยุคนั้นถือว่าขายดีมาก ตั้งแต่เป็นรถครอบครัว ไปยันเป็นรถระดับผู้บริหารใช้ …

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร คาร์บูเรเตอร์ 112 แรงม้า และ 2.0 ลิตร หัวฉีด 135 แรงม้า มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงินประมาณ 3 หมื่นบาทปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับเท่ๆ (กับซ่อมไปด้วย) ได้แล้ว!

Nissan Sunny 1.5 / 1.6 (B14)

Nissan-Sunny-B14

Nissan Sunny (นิสสัน ซันนี่) อีก 1 รถยอดนิยมจากค่ายสยามกลการในอดีต สำหรับ นิสสัน ซันนี่ B14 เปิดตัวในปี 2537 ออกมาในหลายโฉมมาก ขายมาจนถึงช่วงปี 2543

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส GA15DE 105 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DE 120 แรงม้า ต่อมาปรับปรุงใหม่เป็นรหัส GA16DNE 110 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีให้เลือกเยอะแยะ ตั้งแต่ราคาประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ไปจนถึง 5 หมื่นบาท

Nissan Bluebird 2.0 SSS (U13)

Nissan-Bluebird-SSS-U13

Nissan Bluebird (นิสสัน บลูเบิร์ด) “SSS” เป็น Bluebird รุ่นสุดท้ายที่ขายในบ้านเรา โดยการนำเข้าจากญี่ปุ่นของ สยามกลการ สมัยนั้น ถ้าใครที่ชอบรถนำเข้ารูปทรงสวย ดูไม่ล้าสมัย ออพชั่นเพียบ เครื่องแรง ก็ลองหาตัวนี้มาเล่นกันดูครับ (แต่ก็หาสภาพดีๆ ยากหน่อยนึง)

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส SR20DE 145 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด เอาแบบรถเน่าๆ เลยนะ 2 หมื่นกว่าบาท ก็มีคนขายให้เห็นมาแล้ว ส่วนตามสภาพ มีเงิน 3 – 4 หมื่นบาท ก็สามารถหาซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว

Mitsubishi Galant Ultima

Mitsubishi-Galant-Ultima

Mitsubishi Galant Ultima (มิตซูบิชิ กาแลนท์ อัลติม่า) ถือเป็น Galant รุ่นสุดท้าย ที่ประกอบขายในบ้านเรา ในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมจากคนชอบแต่งรถบ้าง เปิดตัวในปี 2537 ขายลากยาวกันมาจนถึงช่วงปี 2541 ได้ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 4G63 140 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร V6 รหัส 6A12 155 แรงม้า

ราคาในตลาด แบบตามสภาพนะ มีเงิน 3 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว ถือเป็นรถรุ่นใหญ่น่าใช้ ในราคามือสองที่ขายกันถูกมากๆ

Mazda 323 (BH) / 323 Astina 1.8 (BH)

Mazda-323

Mazda-323-Astina

Mazda 323 (มาสด้า 323) และ Mazda 323 Astina (มาสด้า 323 แอสติน่า) ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่มี Astina ขายพ่วงด้วย และอยู่ภายใต้การจำหน่ายของกมลสุโกศล เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2537 และขายมาเรื่อยๆ จนถึงประมาณปี 2541 ก่อนที่ มาสด้า กมลสุโกศล จะโดนบริษัทแม่เข้ามาควบรวมกิจการไปในปี 2542

มาสด้า 323 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส B6 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ส่วนในรุ่น Astina ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส BPD 125 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด มีเงิน 3 หมื่นปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้แบบตามสภาพมาขับได้แล้ว ส่วน Astina อาจจะต้องเพิ่มเงินนิดๆ แต่จริงๆ แล้ว แค่ 4 หมื่น ก็พอหารถแบบตามสภาพได้แล้วครับ

อันสุดท้าย เผื่อคนอยากได้รถยุโรป … BMW 520i / 525i (E34)

BMW-Series-5-E34

BMW ซีรี่ส์ 5 โฉม E34 ในยุคที่บริษัท ยนตรกิจ จำกัด เป็นผู้จำหน่าย เริ่มเผยโฉมในไทยเมื่อปี 2532 มีให้เลือกทั้งรุ่น 520i, 525i, 520iS และยังมีรุ่นแวกอน นำเข้ามาตามสั่งอีกด้วย ตัวรถภายนอกดูสปอร์ต เท่ ภายในหรูหรา ถูกใจวัยรุ่นวัยเฒ่าทั้งหลาย ที่ชอบรถหรูๆ แนวผู้บริหารใช้ ในราคาที่สมัยก่อนตอนออกใหม่ซื้อไม่ไหว …

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า, เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร 192 แรงม้า … รุ่นนี้ได้ขายเรื่อยๆ ในบ้านเรา จนถึงปลายปี 2539 แล้วลากขายรถในสต๊อกจนถึงปี 2540

ราคาในตลาดยุคนี้ มีรถมือสองรุ่นนี้ โผล่มาแบบถูกอย่างเหลือเชื่อ ถ้าแบบเน่าๆ เลยนะ มีเงิน 3 หมื่นปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว! สุดยอดจริงๆ! (แต่ค่าซ่อม ไม่รู้ต้องเตรียมไว้เท่าไหร่นะ …) ถ้าจะให้ดี หารุ่นนี้ราคาประมาณ 6 – 7 หมื่นบาท หรือหลักแสนดีกว่า ได้สภาพรถที่ดีกว่าด้วยครับ …

(สงวนลิขสิทธิ์)

Cover-เก็บเงินวันละ 100 บาท ซื้อรถมือสองรุ่นไหนได้บ้าง

มีสลึง พึงบรรจบ ให้ครบบาท … เก็บเงินวันละร้อยบาท ก็ซื้อรถมือสองได้ …

แม้ว่าช่วงนี้ เศรษฐกิจจะไม่ดีนัก การเงินฝืดเคือง จะเก็บเงินซื้ออะไรสักอย่าง ก็อาจจะต้องใช้เวลา โดยต้องวางเป้าหมายไว้ เริ่มจากเก็บเงินน้อยๆ ไปก่อน รวบรวมให้ได้มากๆ ก็จะเป็นเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาเอง …

CARRO จะมาแนะนำครับ ว่า หากคุณเก็บเงินเพียงวันละ 100 บาท จะซื้อรถอะไรได้บ้าง …

Keep-100-Baht-Toyota-Corolla-EE101-AE101-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 1 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 1 ปี เป็นจำนวนเงิน 36,500 บาท คุณก็สามารถซื้อ Toyota Corolla (EE100/AE101) แบบตามสภาพได้ 1 คัน เหมาะสำหรับคนที่กำลังตั้งเนื้อตั้งตัว ได้รถที่อึด ถึก ทน ไว้ใช้หาเงิน หรือให้เมียไว้ใช้ขับไปส่งลูกที่โรงเรียน

Keep-100-Baht-BMW-Series-5-E34-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 2 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 2 ปี เป็นจำนวนเงิน 75,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ BMW Series 5 (E34) สภาพต้องไปลุ้นเอา (ว่าซ่อมมากน้อยแค่ไหน) ได้ 1 คัน เหมาะสำหรับคนชอบรถหรูคันใหญ่ๆ หน่อย จากแดนเยอรมนี และยังมีเงินส่วนต่างเหลือไว้ซ่อม อีกนิดหน่อยครับ

Keep-100-Baht-Mercedes-Benz-C-Class-W202-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 5 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 5 ปี เป็นจำนวนเงิน 179,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ Mercedes-Benz C-Class (W202) สภาพงามๆ ได้ 1 คัน เหมาะสำหรับคนชอบรถหรูรุ่นเริ่มต้น กับรถตราดาวสามแฉกครับ

Keep-100-Baht-Toyota-Vios-Honda-City-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 10 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 10 ปี เป็นจำนวนเงิน 365,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) หรือ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ได้แล้วครับ แถมยังเหลือเงินส่วนต่าง เอาไว้ซ่อมได้อีกด้วยครับ

Keep-100-Baht-Toyota-Vios-Honda-CR-V-Blog

เก็บเงินวันละ 100 บาท 15 ปี …

เพียงคุณเก็บเงินวันละ 100 บาท แค่ 15 ปี เป็นจำนวนเงิน 523,000 บาท คุณก็สามารถซื้อ Honda CR-V (เจเนอเรชั่นที่ 3) ได้ 1 คันครับ แถมยังเหลือเงินส่วนต่าง เอาไว้ซ่อมได้อีกด้วยครับ

ซื้อรถมือสอง ต้องเก็บเงินวันละ 100 บาท แต่ถ้าจะขายรถมือสอง ต้องมาขายที่ CARRO (คาร์โร) ครับ …

แต่ถ้าใครอยากขายรถ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

5 List เตรียมพร้อมก่อนขายรถ คนจะขายรถคันเดิมต้องอ่าน!

ก่อนลงขายรถ เตรียมตัวง่ายๆ ด้วยวิธีการเหล่านี้

Washing-Car-And-Hot-Brakes

1. ล้างรถ

คุณควรทำให้สภาพรถดูดี และสมบูรณ์ เพราะผู้ซื้อรถมือสองทุกคนก็อยากได้รถที่มีสภาพใหม่ เป็นรถที่สภาพพร้อมใช้งาน ดังนั้นคุณก็ควรที่จะนำไปตรวจสภาพตัวรถทั้งภายนอกภายใน ส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่องยนต์ รวมไปถึงเปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆ อีกทั้งทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในรถ ให้ดูสะอาด แค่นี้รถคุณก็จะเป็นที่น่าสนใจมากแล้วค่ะ

2. เช็คราคา

ก่อนที่คุณจะลงขายรถ ควรเช็คราคากลางของรถเสียก่อน โดยเช็กจากเว็บไซต์ขายรถยนต์มือสองเช่น เว็บ CARRO เพื่อเปรียบเทียบกับรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ของคันอื่นๆ ว่าตั้งราคาไว้กันประมาณเท่าไหร่ หรืออาจใช้วิธีเอารถเข้าไปเต็นท์รถเพื่อตีราคา (ถ้าคุณไม่อยากเสียเงินกับค่าประเมินราคารถ สามารถส่งรูปรถมาให้ CARRO ตีราคาก่อนได้ Free!) ซึ่งถ้าเป็นรถตลาด สภาพดี และเป็นสีที่ได้รับความนิยม เช่น สีชาว สีบรอนซ์ สีทอง ใช้เวลาไม่นาน ก็ขายได้แน่นอน

การตั้งราคาโดยประมาณ ซึ่งตามหลักแล้ว ราคาที่ตั้งไว้อาจจะมีต่ำกว่านี้ หรือสูงกว่านี้ก็ได้ ราคามือสองจะแตกต่างไปตามคุณลักษณะของสภาพรถ ปีที่ออกรถ ปีที่จดทะเบียน หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มี รวมไปถึงพื้นที่ในการขายรถของแต่ละภาค และรุ่นย่อยในแต่ละรุ่น ซึ่งมีผลต่อค่าเฉลี่ยของราคารถมือสอง

และจะมีค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ ที่ลดลงทุกปีตามอายุของรถ โดยราคาตกลงมาสุดเลยจริงๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 หมื่นบาท/คัน (ยกเว้นประเภทรถรุ่นหายากๆ หรือรถที่นิยมเล่นกันเฉพาะกลุ่ม ราคาอาจจะคงที่ต่อเนื่องหลายปี ถึงราคาตกแต่ไม่ตกมากนัก เป็นต้น)

3. ข้อมูลรถ

คุณควรจะบอกตามสภาพรถจริง ว่าตรงไหนดี ตรงไหนชำรุด มีชนมาบ้างหรือไม่ วิ่งมามากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ผู้ซื้อจะได้สบายใจในระดับนึง และที่สำคัญเลยข้อมูลของรถ เช่น ยี่ห้อ รุ่นย่อย ปี และรถยังติดไฟแนนซ์อยู่ไหม? ติดอยู่เท่าไร พอผู้ซื้อถามจะได้ตอบได้ถูกต้องอย่างครบถ้วนค่ะ ทำให้การดำเนินการซื้อขายรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว (ถ้าคุณไม่ทราบว่ารถของคุณเป็นรุ่นย่อย หรือปีอะไร สามารถดูในเล่มทะเบียนค่ะ)

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

4. เอกสาร

คุณควรเตรียมเอกสารสำคัญเพื่อให้กับผู้ซื้อได้มั่นใจว่าเป็นรถถูกกฎหมาย เช่น มีเล่มทะเบียนที่ถูกต้อง (ถ้ากรณียังผ่อนไม่หมดสามารถใช้สำเนาเล่มทะเบียนแทนได้ค่ะ) พรบ., เอกสารประกันภัยรถยนต์,ภาษีรถยนต์ประจำปี แต่ถ้าภาษีรถขาด ก็ควรบอกให้ผู้ซื้อได้รับรู้  (ถ้าขาดต่อเกิน 3 ปี คาร์โร มีวิธีมาแนะนำ คลิก)

ซึ่งเอกสารของคุณที่ต้องเตรียมไป ได้แก่

  • สำเนาบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ (เพื่อจะได้โอนรถไปยังเจ้าของใหม่ได้)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน และสุดท้าย ต้องมีเอกสารการโอนรถให้ผู้ซื้ออย่างถูกต้อง (ซึ่งถ้าเป็นส่วนนี้ CARRO จะเตรียมพร้อมให้กับผู้ลงขายรถทุกท่านค่ะ)

New-MG-ZS-2020

5. ถ่ายรูป

เมื่อคุณทำความสะอาดรถเรียบร้อย และเคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออกนอกรถ ก็เตรียมหามุมสวยๆ ถ่ายรูปรถ เพราะรูปภาพที่ได้องค์ประกอบดี มุมต่างๆ ดูสมส่วนและสวยงาม ย่อมทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ใครถ่ายรูปไม่สวยอาจกังวล ไปดูวิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย คลิก > https://goo.gl/rQkFYJ

สำหรับใครที่อยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai ค่ะ

ร้อนเงิน!-อยากขายรถด่วน-ขายรถไว-ต้องที่-Carro!

การซื้อ-ขาย รถมือสอง ในปัจจุบัน ถือว่าง่ายกว่าในอดีตมากๆ อีกทั้งช่องทางการขาย ก็มีมากมายกว่าแต่ก่อน

แต่การขายรถมือสองแต่ละครั้งนั้น คุณอาจจะต้องเสียเวลาในการประกาศขาย และรอคนติดต่อมา หรือขับรถไปให้ตามเต็นท์รถต่างๆ ตีราคา ซึ่งโอกาสที่คุณจะได้ราคาที่พึงพอใจนั้น ก็อาจจะไม่มากก็น้อย

แต่ถ้าคุณเกิดร้อนเงิน! จะมีวิธีไหนบ้าง ที่จะขายรถมือสอง ได้แบบขายด่วนๆ ขายได้เร็ว ไว … CARRO Thailand ขอแนะนำ “CARRO Express” วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

ปัจจุบันเว็บไซต์ที่มีให้ลงประกาศขายรถบ้านมือสองด้วยตัวเองนั้น มีจำนวนมาก มีทั้งแบบให้ลงฟรีๆ หรือแบบต้องจ่ายเงินรายเดือน ทำให้ผู้ที่ต้องการขายรถบ้าน มีทางเลือกใหม่ๆ มากมาย

หนึ่งในเว็บไซต์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ขายรถบ้านอย่างสูง ก็คือเว็บไซต์ CARRO (คาร์โร) ที่โดดเด่นในธุรกิจรถมือสองออนไลน์มายาวนาน เป็นบริษัท Startup ระดับยูนิคอร์นของสิงคโปร์ มีสาขาอยู่ทั้งในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และยังมีจำนวนรถบ้านมือสอง ลงประกาศขายอยู่บนเว็บไซต์จำนวนนับหลายพันคัน พร้อมนำเสนอรถมือสองคุณภาพเยี่ยมโดย CARRO Automall ที่มีให้คุณเลือกซื้อมากมาย

ทำให้ “คาร์โร” เป็นเว็บไซต์อันดับแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะสามารถขายรถบ้าน ได้อย่างรวดเร็ว ขายได้ราคาดีที่สุด ไม่มีค่าธรรมเนียมการขาย และรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง! ทำให้ความกังวลหลายๆ ข้อ ของผู้ที่ต้องการประกาศขายรถบ้านมือสองหมดไป

CARRO ทำให้การประกาศขายรถมือสองของคุณด่วนๆ ได้อย่างไร?

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

คุณสามารถ “ขายรถด่วน” เพียงกรอกแบบฟอร์มลงประกาศขายรถ ซึ่งเราออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และสะดวก (คลิกที่นี่) https://th.carro.co/sell-car/express

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

กรอกเบอร์โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้ และรายละเอียดรถ (เลือกยี่ห้อ/รุ่นรถ) และเลือกจุดนัดดูรถเสร็จ ให้กด “ดำเนินการต่อ”

ขั้นตอนต่อไป คือ อัพโหลดรูปภาพรถ ที่คุณต้องการลงประกาศขาย (รูปภาพที่แนะนำ คือ ด้านหน้าตรงของรถ, ด้านข้างตัวรถ, ด้านหลังตัวรถ, มุมเฉียงของตัวรถ, ห้องเครื่องยนต์, แผงคอนโซลด้านหน้า แผงหน้าปัด เบาะที่นั่ง และด้านในฝากระโปรงท้าย) เสร็จแล้วจากนั้นจึงกด “ยืนยันการขาย”

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

เมื่อคุณกด “ยืนยันการขาย” เรียบร้อยแล้ว ให้ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ของคุณด้วยรหัส OTP 6 หลัก อีกครั้ง เพื่อดำเนินการต่อ เมื่อเสร็จขั้นตอนจะปรากฎข้อความ “ขอบคุณที่ขายรถกับเรา”

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

โดยคุณสามารถนำเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ ไป Tracking เพื่อติดตามสถานะการขาย ได้ตาม Link นี้ https://th.carro.co/tracking

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

เมื่อเสร็จขั้นตอนเหล่านี้แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จากคาร์โร ก็จะติดต่อกลับมาหาคุณภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หากรายละเอียดที่คุณส่งมายังมีไม่เพียงพอ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อคุณกลับไปอีกครั้ง

หรือขอรูปภาพรถยนต์ในมุมต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ภาพน็อตยึดกระโปรงหน้า – ฝากระโปรงหลัง ชุดคานหน้า เบ้าโช๊คหน้า รอยปั้ม รอยอาร์ค หรือขอดูสภาพรถโดยรวม ฯลฯ เป็นต้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ต่อมาเราจะนัดคุณเพื่อทำการเช็กรถของคุณ ว่าสภาพเป็นอย่างไรบ้าง แต่ในกรณีที่คุณอยู่ต่างจังหวัด ทางเราจะส่งทีมงานไปดูรถของคุณถึงที่ เพราะเรายังคง Concept ที่ว่า ต้องการเปลี่ยนให้การซื้อขายรถ เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคน

เมื่อทางดีลเลอร์ที่เข้าร่วมประมูลรถ สนใจรถของคุณ และเสนอราคารถของคุณได้สูงสุด ทาง CARRO ก็จะนัดคุณมาทำการตกลงระหว่างกันอีกที

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

เมื่อคุณขายรถกับทาง CARRO เมื่อตกลงราคากันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเซ็นสัญญาซื้อขาย มอบเอกสารต่างๆ พร้อมปิดการขาย แล้วคุณก็รับเงินสดกลับบ้านไปได้เลย!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากคุณสนใจอยากขายรถกับ CARRO นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับทาง CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-508-8425 หรือจะ Inbox ขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

รถมือสอง, รถมือสองราคาถูก, Prius, Subaru XV, Ford Focus, Mazda3, Chevrolet Cruze, MG6

รวมรถมือสอง 6 รุ่น ราคาถูกน่าซื้อ

หากคุณมีงบประมาณก้อนหนึ่งแล้วอยากได้รถสักคันที่ราคาคุ้มค่า โดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องเป็นรถใหม่ “รถมือสอง” จะเป็นคำตอบสำหรับคุณ เพราะมีรถที่น่าใช้ให้คุณเลือกมากมายโดยที่ราคาก็ไม่เกินงบที่คุณตั้งไว้ แต่จะมีรถมือสองรุ่นไหนบ้างที่น่าซื้อ?

Carro จึงรวบรวมรถมือสองนอกกระแส 6 รุ่น ที่ราคาถูก รุ่นไม่เก่าจนเกินไป มาเป็นตัวเลือกให้คุณได้ชมกันค่ะ

1. Toyota Prius รุ่นปี 2013-2014

รวม 6 รุ่นรถมือสองนอกกระแส ราคาคุ้มค่า น่าซื้อ-01

ราคาโดยประมาณ 450,000 – 650,000 บาท

Toyota Prius รถไฮบริดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ออพชั่นแน่น เหนือกว่า C-Segment ทั่วไป มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งทางด้านเครื่องยนต์และระบบความปลอดภัย เช่น มีระบบ Solar Ventilation System หรือระบบระบายอากาศอัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีการทำงานโดยใช้แผงโซลาร์รับพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วจึงทำการเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้ในการทำงานของพัดลม ซึ่งจะทำให้การจอดรถกลางแดดจะไม่ร้อนจนเกินไปสำหรับตัวรถ และมีการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ ที่ช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมัน รวมถึงภายในห้องโดยสารที่มีขนาดกว้างขวาง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ แถมปัจจุบันรถส่วนใหญ่ยังอยู่ในระยะเวลารับประกันแบตเตอรี่อีกด้วย

 

2. Subaru XV รุ่นปี 2013-2015

รถมือสอง, รถมือสองราคาถูก, Prius, Subaru XV, Ford Focus, Mazda3, Chevrolet Cruze, MG6

ราคาโดยประมาณ 550,000 – 750,000 บาท

Subaru XV เป็นทางเลือกที่น่าสนสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของรถ SUV เพราะ Subaru รุ่นนี้ ถือเป็นรถ Crossover  SUV ที่มีขนาดคล่องตัว ไม่เทอะทะเกินไป โดดเด่นในด้านสมรรถนะการขับขี่เพราะเครื่องยนต์มีความเสถียรมาก และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร (หรือ Symmetrical All-Wheel Drive) กระจายกำลังทุกล้อเท่าๆ กัน เป็นรถที่สมรรถนะดี เหมาะกับผู้ที่รักในการขับขี่มากกว่าความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ซึ่งเมื่อเทียบราคากับสมรรถนะของตัวรถก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอน บวกกับชื่อเสียงในระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันเลื่องชื่อของซูบารุ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

 

3. Ford Focus รุ่นปี 2013-2015

รถมือสอง, รถมือสองราคาถูก, Prius, Subaru XV, Ford Focus, Mazda3, Chevrolet Cruze, MG6

ราคาโดยประมาณ 320,000 – 430,000 บาท

Ford Focus รุ่นนี้ถูกดีไซน์ให้มีรูปทรงสปอร์ตด้วยโครงสร้าง Z shape เพื่อให้การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งกว่า ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist เพียงแค่กดปุ่มเดียว แถมตัวรถยังสร้างด้วยเหล็กกล้าโบรอน จึงมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งมากกว่าเหล็กกล้ามาตรฐานถึง 4 เท่า สามารถปกป้องผู้โดยสารและผู้ขับขี่ได้อย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักที่เบา จึงช่วยประหยัดน้ำมัน มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียงเพิ่มความปลอดภัย หากคุณสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ซื้อรุ่นเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดตรง 2.0 GDi เพราะมีปัญหาจุกจิกน้อยกว่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร

 

4. Mazda3 รุ่นปี 2011-2013

รถมือสอง, รถมือสองราคาถูก, Prius, Subaru XV, Ford Focus, Mazda3, Chevrolet Cruze, MG6

ราคาโดยประมาณ 380,000 – 430,000 บาท

Mazda3 ได้รับการออกแบบภายใต้ DNA ของมาสด้าอย่างแท้จริง มีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวให้ความเป็นสปอร์ตแต่ขับสนุก รวมถึงเครื่องยนต์ 2000 ซีซี. และเครื่องยนต์ 1600 ซีซี. ที่ได้ปรับแต่งให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 147 แรงม้า มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด, ระบบ Sports Paddle Shift และระบบควบคุมเกียร์ AAS (Active Adaptive Shift) ที่สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะโดยอัตโนมัติตามสไตล์ของผู้ขับขี่ (สำหรับเครื่องยนต์ 2.0L) Mazda3 รุ่นนี้มีดีในด้านรูปลักษณ์, ช่วงล่าง และสมรรถนะที่ไม่แพ้รถเจ้าตลาด รูปทรงสวยร่วมสมัย มีให้เลือกทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ค 5 ประตู

 

5. Chevrolet Cruze รุ่นปี 2011-2013

รถมือสอง, รถมือสองราคาถูก, Prius, Subaru XV, Ford Focus, Mazda3, Chevrolet Cruze, MG6

ราคาโดยประมาณ 270,000 – 420,000 บาท

สำหรับ Chevrolet Cruze 2013 รูปลักษณ์ภายนอกมีความสปอร์ตนิดๆ เสริมความเด่นด้วยล้ออัลลอย 5 ก้านที่ดูสปอร์ตกว่าเดิม ปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ถูกเปลี่ยนเป็นทรงกลม อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับด้วยระบบ Passive Entry Passive Start เข้าและออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามารถควบคุมระบบ Cruise Control ในส่วนของระบบความปลอดภัย รุ่นนี้ได้เพิ่มระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกอิเลคทรอนิก EDB ระบบ ESP รักษาเสภียรภาพการทรงตัว ระบบ Traction Control ป้องกันการลื่นไถล และระบบกุญแจนิรภัย Key Immobilizer หากสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ซื้อรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังดีกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ในขณะที่ราคาป้ายแดงเกือบ 1.25 ล้านบาท แต่ราคามือสองอยู่แค่ 4 แสนกว่าๆ ถูกกว่าตั้งเกือบ 3 เท่า!

 

6. MG6 รุ่นปี 2015-2016

รถมือสอง, รถมือสองราคาถูก, Prius, Subaru XV, Ford Focus, Mazda3, Chevrolet Cruze, MG6

ราคาโดยประมาณ 390,000 – 510,000 บาท

รถรุ่นสุดท้ายที่เราจะแนะนำ ก็คือ MG6 รถจากค่ายสัญชาติอังกฤษที่มาเปิดตลาดในไทย MG6 รุ่นนี้ ประกอบเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร ให้พละกำลัง 161 แรงม้ารองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ทรงตัวดีเยี่ยมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันและด้านหลังแบบ Z-type มัลติลิ้งค์ ข้อดีของรถรุ่นนี้เน้นไปที่สมรรถนะช่วงล่าง ที่หนึบไม่แพ้รถยุโรปเลยทีเดียว และรุ่นนี้เกือบจะกลายเป็นแรร์ไอเท่ม! ด้วยราคาเปิดตัวที่สูงมาก ส่งผลให้ยอดจำหน่ายน้อยมากเพราะราคาแรง แต่สมรรถนะของรถก็ถือว่าค่อนข้างดี ไม่ได้ตกเหมือนราคาแน่นอน

การตัดสินใจซื้อรถยนต์คือเรื่องใหญ่ มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคิด อย่างแรกก็คือเรื่องการเงิน หากคุณมีงบจำกัด คุณก็ไม่ควรซื้ออะไรที่แพงเกินไป หรือรถที่มีค่าใช้จ่ายตามมาเยอะๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งหากซื้อรถราคาถูกมากๆ เก่ามากๆ แต่ไม่ปลอดภัยเลยก็ไม่ดี อันตรายแน่นอน

และสิ่งสำคัญที่หลายๆ คนควรทำแต่มองข้ามไป ก็คือ ศึกษารถยนต์แต่ละรุ่นให้ดีก่อนซื้อ อย่างเช่น ศึกษาเกี่ยวกับปัญหาเฉพาะตัวของรถรุ่นนั้นๆ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหรือการซ่อมอย่างไม่รู้จบในภายหลัง ถ้ารู้ไว้ก่อนและเลี่ยงได้จะดีกว่า เพื่อความสบายใจและสบายกระเป๋าเงินของคุณเองค่ะ สามารถเลือกดูรถมือสองได้ที่ลิงค์นี้ > https://th.carro.co/taladrod

รถมือสอง, รถมือสองราคาถูก, Prius, Subaru XV, Ford Focus, Mazda3, Chevrolet Cruze, MG6

สุดท้าย ถ้าคุณต้องการซื้อรถใหม่ อย่าลืม! นำรถคันเดิมของคุณมาลงขายที่คาร์โร ได้ที่ลิงค์นี้เลย > https://th.carro.co/sell-car/express หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage : Carro Thailand ให้ Carro เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ

10-Secondhand-Cars-For-Salary-15K

“รถยนต์” ปัจจุบันถือเป็นปัจจัยที่ 5 แล้ว ซึ่งถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ การไม่มีรถขับนั้น ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ลำบากนัก เพราะยังมีระบบขนส่งมวลชนรองรับอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ ตามที่ทราบกันดี รวมไปถึงการเดินทางที่เสียเวลาหลายต่อ ต้องมารอรถเมล์ที่กะเวลาไม่ได้ บางทีจำเป็นต้องเข้าตรอกซอยไกลๆ จะพึ่งแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์ตลอดไปนั้น คงเหนื่อยหน่อย …

ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานมาหลายปีแล้ว หรือจะเป็นเด็กจบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน แน่นอนล่ะ เห็นรถที่ออกใหม่ สวยๆ ต่างก็อยากได้ทั้งนั้น ซึ่งรถยนต์หนึ่งคัน ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าทางด่วน ค่าพรบ.รถยนต์ ค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ อีกมากมาย

ฐานเงินเดือนที่เด็กจบใหม่ ส่วนใหญ่ก็อาจจะเริ่มต้นกันที่ 15,000 บาท หรือบางอาชีพที่ฐานเงินเดือนไม่สูงนัก ได้เงินเดือนประมาณนี้ก็มี ถ้าหากจะไปซื้อรถป้ายแดงเลย ก็ไหวอยู่ แต่ต้องคุมค่าใช้จ่ายดีๆ เลยล่ะ แต่ถ้าจะมองรถมือสอง ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า และเหมาะสมกับสภาวะทางการเงินของคุณ ที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายไม่รัดตัวจนเกินไปนัก

เงินเดือน 15,000 บาท เป็นเจ้าของรถคันไหนได้บ้าง … ไม่ต้องแปลกใจที่มีแต่รถมือสอง อายุ 10-20 ปี ที่เป็นแบรนด์รถตลาด เพราะรุ่นไหนที่มีคนนิยมใช้มากๆ มันจะช่วยให้คุณไม่ลำบากเวลาต้องซ่อม หรือหาอะไหล่

Carro คัดเลือกรถมือสองยอดนิยม ในปีรถที่ไม่เก่ามากนัก มาให้พิจารณากันครับ.

1.Toyota Corolla (EE100/EE101/AE101) “สามห่วง” รุ่นปี 1992-1996

Toyota-Corolla-สามห่วง

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) รุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นแรกที่มีการใช้ Logo “Toyota” โดย Toyota สามห่วง เปิดตัวในไทยเมื่อ 13 มีนาคม 2535 มีเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 2E (และ 4E-FE ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปี 2537) และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE ให้เลือก

เป็นรถที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือน 15,000 บาท มาก (หรือคนเงินเดือนมากกว่าจะซื้อใช้ก็ได้เช่นกัน!) เพราะอะไหล่หาง่าย ของแท้ ของเทียบ ของมือสอง มีให้เลือกเพียบ เครื่องยนต์ทนทาน ติดแก๊ส LPG ก็ทน ระบบต่างๆ ไม่ซับซ้อน วิ่งได้นับล้านกิโลเมตร ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้หมด นี่คือข้อดีของรุ่นนี้

2.Toyota Corolla (AE110/AE111/AE112) “ตองหนึ่ง”, “ตูดเป็ด” และ “HI-TORQ”

Toyota-Corolla-AE111

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) โฉมนี้ เปิดตัวในประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2539 โดย Toyota ตองหนึ่ง ยกเลิกเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร แล้วหันมาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 5A-FE และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-FE ยอดฮิตเหมือนเดิม ต่อมาในช่วงปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2541 จึงเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมคำต่อท้ายว่า “Altis” (อัลติส) และชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ใหม่ “Hi-Torq” (ไฮทอร์ค) ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 7A-FE

เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงมากในขณะนั้น ซึ่งการที่รถรุ่นนี้เคยถูกนำไปเป็นแท็กซี่ อะไหล่หาง่าย ของแท้ ของเทียบ ของมือสอง มีให้เลือกเพียบ เครื่องยนต์ทนทาน ระบบต่างๆ ไม่ซับซ้อน วิ่งได้นับล้านกิโลเมตร ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้หมด อาจจะเลือกรุ่นที่เกรดสูงหน่อย เช่น 1.6 GXi, 1.6 SE.G หรือ 1.8 SE.G เป็นต้น เพราะจะได้ออพชั่นมากกว่า

3.Toyota Corolla Altis (ZZE121/ZZE122) “หน้าหมู”

Toyota-Corolla-Altis

Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) โฉม “Altis หน้าหมู” นี้ เป็นรถที่ได้รับความนิยมมากมายจากแท็กซี่ หรือมวลชน เพราะขึ้นชื่อถึงเรื่องความทนทาน อะไหล่หาง่าย ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้

เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2544 ภายใต้แนวคิด “Break Into Style” ที่พัฒนาใหม่หมดทั้งแนวคิด การออกแบบ และเทคโนโลยี พร้อมใช้พรีเซนเตอร์คนดังอย่าง “แบรด์ พิตต์” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 3ZZ-FE 110 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 1ZZ-FE 136 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

อีกทั้งยังมีรุ่นพิเศษต่างๆ ออกมาสร้างสีสันในตลาดตามมาตลอดของอายุรถรุ่นนี้ ที่ขายมาจนถึงต้นปี 2551 สามารถสร้างยอดขายรวมได้มากถึง 143,301 คัน ขอแนะนำสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเก็บไว้อยู่มากหน่อย เนื่องจากราคาตัวรถมือสอง อยู่ที่ตั้งแต่ไม่กี่หมื่นบาท (กรณีเป็นรถแท็กซี่เก่า) ไปจนถึงหนึ่งแสนปลายๆ ถึงเกือบๆ สองแสนบาท (สำหรับรถบ้าน) แต่แลกกับตัวรถที่สดกว่า ปีใหม่กว่า

4.Toyota Soluna (AL50)

Toyota-Soluna-AL50

Toyota Soluna (โตโยต้า โซลูน่า) เป็นรถยนต์รุ่นเล็กสุดของค่ายโตโยต้าในสมัยนั้น ที่ก็ยังถือว่า เปิดตัวในเดือนมกราคม 2540 และสร้างยอดขายที่ถล่มทลายได้ในเพียงเวลาสั้นๆ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 5A-FE ที่ยกมาจากใน Corolla

ในเดือนพฤษภาคม 2541 Soluna ออกรุ่นพิเศษ “Soluna Special Version” (โซลูน่า สเปเชี่ยล เวอร์ชั่น) มีชื่อเป็นภาษาไทยและเลขไทย ติดที่ฝากระโปรงหลัง เป็นรุ่นแรกในโลกของรถโตโยต้า ที่ติดชื่อรุ่นรถและตัวเลขเครื่องยนต์เป็นภาษาท้องถิ่น หลายคนน่าจะยังจำกันได้

หลังจากปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2542 ปรับหน้าตาใหม่ กันชนใหม่ ไฟท้ายใหม่ หรือที่บรรดาเต็นท์รถมือสองเรียกกันว่า “ไฟท้ายหยดน้ำ” เป็นรถที่ได้เหมาะมากสำหรับมนุษย์เงินเดือน ด้วยราคามือสองเริ่มต้นที่ไม่กี่หมื่นบาทก็ซื้อได้แล้ว อะไหล่หาง่าย ของแท้ ของเทียบ ของมือสอง มีให้เลือกเพียบ เครื่องยนต์ทนทาน ระบบต่างๆ ไม่ซับซ้อน ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้หมด แต่ควรเลือกรุ่นที่เกรดสูงหน่อย เช่น 1.5 GLi หรือ 1.5E และ 1,5G ในโฉมไฟท้ายหยดน้ำ เพราะจะได้ออพชั่นเยอะกว่ารุ่นล่างๆ

5.Toyota Soluna Vios (NCP42)

Toyota-Soluna-Vios

“Toyota Soluna Vios” (โตโยต้า โซลูน่า วีออส) รถรุ่นยอดนิยมที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของโตโยต้า ถ้าเป็นรถในขนาด Sub-Compact โดยชื่อรุ่น “VIOS” (วีออส) มาจากภาษาลาติน “VIO” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Moving Forward” หรือ เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ในภาษาไทย

เปิดตัวครั้งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2545 ใช้ขุมพลังใหม่ ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. (142 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,200 รอบ/นาที

อีกทั้งยังมีรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Turbo 143 แรงม้า ให้เลือกอีกด้วย … เป็นรถมือสองอีกหนึ่งตัวเลือก ของคนเงินเดือนน้อย ไม่ควรพลาด! เนื่องด้วยเครื่องยนต์ที่แรงอย่างทันใจ ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม อะไหล่มือหนึ่งมือสอง ของแท้ของเทียม หาง่าย ตามสไตล์ Toyota

6.Toyota Avanza (F600)

Toyota-Avanza

 

Toyota Avanza (โตโยต้า อแวนซ่า) เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง นำเข้าจากอินโดนีเซีย ชื่อรุ่นมาจากคำว่า “Avanzato” ในภาษาอิตาลี หรือ “Advance” ในภาษาอังกฤษ … เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2547 ในรูปแบบรถยนต์นั่งแนวใหม่ “Compact Multi – Purpose Vehicle” ขนาดห้องโดยสารใช้แนวคิดการออกแบบ “Tall Boy” หลังคาทรงสูง นั่งได้ 7 คน วางตำแหน่งเบาะนั่งแบบ Flex And Fold ปรับได้อิสระ คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน ทนทาน ค่าดูแลรักษาต่ำ

Toyota Avanza เจเนอเรชั่นแรก มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส K3-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 88 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.3 กก.-ม. (120 นิวตัน-เมตร) ที่ 3,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2551 เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นขนาด 1.5 ลิตร รหัส 3SZ-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.4 กก.-ม. (141 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด …

โดย Avanza (F600) ถือเป็นรถมือสองที่คนมีฐานเงินเดือนไม่สูงนัก หรือทำงานอาชีพอิสระ แต่มีครอบครัวแล้ว ไว้ใช้ขนของในวันทำงาน หรือใช้เป็นรถพาลูกๆ ไปเที่ยวในวันหยุด ก็ลงตัวครับ …

7.Nissan Sunny NEO (N16)

Nissan-Sunny-NEO

Nissan Sunny NEO (นิสสัน ซันนี่ นีโอ) จัดว่าเป็นรถยอดนิยมจากค่ายนิสสันอีกหนึ่งรุ่น ในประเภทรถ Compact ที่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2543 และขายกันต่อเนื่อยาวนานหลายปี มีอยู่ 3 โฉมหลักๆ ให้เลือกในบ้านเรา (โดยปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้าย ในเดือนมีนาคม 2548) เป็นรถที่ได้รับความนิยมอยู่พอสมควร อะไหล่หาง่าย ช่างทั่วไปซ่อมได้ ถือเป็นรถที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือน 15K อีกหนึ่งรุ่น เพราะถ้าคุณมีเงินเก็บแค่ 7 หมื่นบาท ก็พอหารุ่นนี้ได้แล้ว (แต่สภาพของตัวรถ ก็อีกเรื่องนึง) …

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส QG16DE ให้แรงม้าสูงสุด 118 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

และในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร (ที่เริ่มแรกใช้ในชื่อ Sunny Almera – ซันนี่ อัลเมร่า) รหัส QG18DE ให้แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

8.Honda Civic (EK)

Honda-Civic-EK

อันนี้เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนชอบแต่งรถหน่อย สำหรับ Honda Civic (EK) (ฮอนด้า ซีวิค) ที่เปิดตัวในบ้านเราเมื่อเดือนตุลาคม 2538 ตามมาติดด้วยรุ่น 1.8 Si อีกทั้งยังมีรุ่น 2 ประตู คูเป้ ให้เลือกอีกด้วย เรียกได้ว่าถูกใจวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานสุดๆ แต่งบประมาณก็อาจจะต้องมีมากหน่อย (ส่วนรุ่น 4 ประตู มีเงินเก็บเพียง 5 หมื่นบาท ก็หาซื้อได้แล้ว) และในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ยังมีเพิ่มเทคโนโลยีลดมลพิษอย่าง “LEV” อีกด้วยครับ

มีเครื่องยนต์ให้เลือกกันถึง 3 แบบ … เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.7 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

ถ้าอยากได้แบบแรงสั่งได้ และออพชั่นที่มากกว่า ต้องเลือกเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 127 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.7 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

และในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส B18B แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.7 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ข้างในเป็นเบาะหนังแท้โทนสีเทาดำ รุ่นนี้จะหายากหน่อยครับ

9.Honda Civic (ES)

Honda-Civic-ES

ส่วนอันนี้ เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนชอบรถเรียบๆ สไตล์คนมีครอบครัวแล้ว หรือจะแต่งซิ่งก็ได้เช่นกัน กับ Honda Civic (ES) (ฮอนด้า ซีวิค) โฉม “Dimension” ชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.7 ลิตร เป็นรถที่ดูดี สวยหรู อะไหล่หาได้ง่าย ทนทาน และ Civic โฉมนี้ เป็นโฉมแรก ที่ฮอนด้าได้ทำรุ่น Hybrid นำเข้ามาขายในไทยด้วย เปิดตัวในไทยเมื่อ 27 ตุลาคม 2543 ซึ่งตามหลังประเทศญี่ปุ่นเพียง 7 สัปดาห์เท่านั้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ 1.7 ลิตร ที่ให้พลังแรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันเหมือนกับเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร โดยเครื่องยนต์ขนาด 1.7 ลิตร ยังแบ่งได้อีก 2 แบบ นั่นคือแบบ SOHC 120 แรงม้า และแบบ VTEC 130 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

และในเดือนมกราคม 2547 ได้ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร i-VTEC รหัส K20A 155 แรงม้า มาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งในโฉมไมเนอร์เชนจ์นี้จะแต่งสวยหน่อย

10.Mitsubishi Lancer Cedia

Mitsubishi-Lancer-Cedia

Mitsubishi Lancer Cedia (มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ซีเดีย) เปิดตัวในบ้านเราเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2544 พร้อมชื่อต่อท้ายคำว่า “Cedia” ที่เป็นการนำคำว่า Century + Diamond มารวมกัน นับเป็น Lancer อีกหนึ่งรุ่น ที่ขายยาวนานในตลาดบ้านเรา และมีชุดแต่งให้เล่นเยอะ (เพราะเหมือน Lancer Evolution)

มาพร้อมเครื่องยนต์รหัส 4G18 ขนาด 1.6 ลิตร 108 แรงม้า และรหัส 4G93 ขนาด 1.8 ลิตร 124 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 6 สปีด Invecs III

หลังจากนั้นในต้นปี 2547 Mitsubishi ทำการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ด้วยกระจังหน้าทรงปิระมิด พร้อมยกเลิกเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และนำเครื่องยนต์รหัส 4G63 ขนาด 2.0 ลิตร 135 แรงม้า มาแทน …

และในเดือนมีนาคม 2551 เพิ่มอีกทางเลือกคือ New Lancer E20 รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และ Lancer CNG ติดตั้งระบบจ่ายเชื้อเพลิงสำหรับการใช้ก๊าซธรรมชาติอัด CNG (Compressed Natural Gas) สำหรับลูกค้าที่ต้องการรถยนต์นั่งที่คุ้มค่าคุ้มราคาและประหยัดรายจ่ายค่าเชื้อเพลิง ก่อนจะขายไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะมี Lancer EX ออกมาจำหน่ายแล้วก็ตาม รถรุ่นนี้ ถือว่ายังเหมาะสมกับมนุษย์เงินเดือน ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานครับ

Mr.Carro หวังว่า 10 รถมือสอง ที่คนเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท น่าซื้อ! ที่นำมาเสนอนั้น หากใครสนใจ ก็ลอง Inbox สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage Carro Thailand ได้นะครับ

ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

รถยนต์ทุกคันที่ใช้งาน จะต้องต่อภาษีรถยนต์ประจำปีทุกปีเป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้าหากเสียภาษีล่าช้า จะต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มอีกร้อยละหนึ่งทุกเดือน แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้เจ้าของรถ ไม่ได้ไปชำระภาษีรถยนต์ประจำปีจนขาดเกิน 3 ปี ซึ่งส่งผลให้ทางกรมการขนส่งทางบก ระงับทะเบียนรถยนต์ทันที พร้อมทั้งส่งจดหมายแจ้งไปยังเจ้าของรถด้วย

ซึ่งเจ้าของรถต้องคืนแผ่นป้าย และนำสมุดคู่มือมาให้ทางราชการบันทึกการระงับทะเบียน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนระงับการดำเนินการทางทะเบียน หากไม่ไปดำเนินการ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

นั่นหมายความว่า รถยนต์คันนั้นได้ถูกระงับทะเบียนไปแล้ว หากคุณต้องการจะขายรถ ไม่สามารถทำการซื้อขายรถ ใช้รถวิ่งรับจ้าง โอนรถหรือย้ายทะเบียนรถได้ และยังเป็นภาระของคนซื้อรถ ซึ่งต้องชำระภาษีรถยนต์ที่ค้างอยู่ 3 ปีก่อน ถึงสามารถจดทะเบียนรถใหม่ ให้สามารถนำรถมาใช้งานบนท้องถนนได้อีกครั้ง ขั้นตอนวิธีการมีอะไรบ้าง อ่านด้านล่างเลยครับ …

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ขั้นตอนที่ 1

นำเล่มทะเบียน มาให้ทางราชการบันทึกการระงับทะเบียน และชำระภาษีค้างชำระ ตามอัตราภาษีรถประจำปีของรถแต่ละประเภทและเสียภาษีเพิ่มร้อยละ 1 ต่อเดือนจนถึงวันชำระ ณ สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ที่รถจดทะเบียน

หมายเหตุ: รถที่ค้างชำระภาษีรถประจำปี หลังจากวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2547 โดยค้างเกิน 3 ปี จะเสียภาษีเพิ่มร้อยละ 1 ต่อเดือนจนถึงวันชำระ (หากเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้เสียภาษีก่อนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2547 จะต้องค่าปรับร้อยละ 20 ต่อปี ย้อนหลังไป 3 ปี เช่นกัน)

ขั้นตอนที่ 2

พร้อมทั้งแจ้งการขอใช้รถอีกครั้ง (คือ การจดทะเบียนรถยนต์ใหม่) พร้อมชำระอัตราค่าธรรมเนียมภาษีประจำปีของทะเบียนรถใหม่ (ซึ่งต้องมี พรบ. เตรียมมาด้วย)

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

เอกสารและหลักฐานที่ต้องใช้

  • สมุดคู่มือจดทะเบียน ที่บันทึกการระงับทะเบียนแล้ว (ตัวจริงเท่านั้น พร้อมสำเนา)
  • บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
  • หลักฐานการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
  • หลักฐานการได้มาของรถ เช่น หนังสือสัญญาซื้อขาย หรือหลักฐานการขายทอดตลาด (กรณีมิได้จดทะเบียนในชื่อเจ้าของเดิม)
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล อายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม กรณีเป็นนิติบุคคล
  • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่เจ้าของรถไม่สะดวกไปดำเนินการ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ค่าธรรมเนียม

  • ค่าจดทะเบียนรถใหม่ 315 บาท
  • ค่าสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 100 บาท
  • ค่าแผ่นป้ายทะเบียนรถ ป้ายละ 100 บาท
  • หลักฐานการประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
  • อัตราภาษีของรถแต่ละประเภท
  • ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพ รถจักรยานยนต์ 10 บาท รถยนต์ 50 บาท

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ขอขอบคุณภาพขวามือจาก Login ชลน่าน @ Pantip

ขั้นตอนที่ 3

สำหรับช่องทางชำระภาษีรถประจำปี มีช่องทางการชำระหลากหลาย อาทิเช่น

  • กรมการขนส่งทางบก มีบริการ Drive-Thru เตรียมเอกสารและเงินไว้ ขับรถเข้าไปจ่ายได้เลย ซึ่งจะช่วยลดเวลาดำเนินการลงได้อีก มีเวลาเปิดทำการตั้งแต่ 7.30-15.30 น.
  • ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งทุกสาขาในกรุงเทพมหานคร แต่มีข้อยกเว้น คือต้องเป็นรถยนต์ที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ เท่านั้น และต้องไม่เป็นการจ่ายภาษีแบบที่ค้างชำระ สามารถจ่ายล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน
  • สำนักงานเขตทุกเขตในกรุงเทพมหานคร แต่ต้องเป็นแบบไม่ค้างชำระและจ่ายล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน
  • ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง มีบริการรับชำระภาษีรถยนต์เช่นกัน และมีเงื่อนไขเช่นเดียวกับเบื้องต้น
  • ตามห้างสรรพสินค้า เช่น ห้างบิ๊กซี 13 สาขา ห้างในเครือเซนทรัล หรือพาราไดซ์พาร์ค (ศรีนครินทร์) เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.
  • ต่อทางอินเตอร์เน็ต ที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่กรมการขนส่งทางบกอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ประสงค์จะต่อภาษีรถยนต์ เตรียมเอกสารเหมือนกับการไปต่อที่กรมการขนส่งทางบก กรอกข้อมูล และเลือกวิธีการชำระเงินได้ 3 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นหักจากบัญชีธนาคาร ผ่านบัตรเครดิต หรือพิมพ์เอกสารออกมา แล้วไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส แต่การต่อภาษีทางอินเตอร์เน็ตไม่สามารถต่อได้ กรณีที่ภาษีค้างชำระเกิน 1 ปี และล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน สำหรับรถที่ต้องใช้เอกสารการตรวจรถ ก็ไม่สามารถต่อทางอินเตอร์เน็ตได้เช่นกัน
  • ชำระภาษีรถผ่าน ตรอ., ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เซเว่น-อีเลฟเว่น กว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ และล่าสุด ชำระภาษีบนมือถือทุกเครือข่าย AIS, True Move และ DTAC

ซึ่งเจ้าของรถ สามารถชำระภาษีรถได้ล่วงหน้า 3 เดือน ก่อนอายุภาษีสิ้นสุดครับ

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

ถ้าคุณเบื่อต่อภาษีรถยนต์คันเดิมแล้ว หรือจ่ายไม่ไหว อยากตัดสินใจขายรถด่วนๆ เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ มาขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ได้ เราเสนอให้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

รถมือสอง, วิธี, เช็กรถ, คุณภาพดี

ดูอย่างไรให้ได้ “รถมือสอง” คุณภาพดี!

อันดับแรกของคนส่วนใหญ่จะเลือกซื้อรถมือสอง ก็เริ่มหาจากแหล่งที่ลงประกาศขายรถมือสองก่อน ซึ่งจะจำแนกได้เป็น 2 แบบสำหรับผู้ประกาศขาย คือ รถเต็นท์ และ รถบ้าน ซึ่งถ้าหลายคนคุ้นเคยกับการเลือกซื้อรถยนต์ผ่านอินเตอร์เน็ตคงรู้จัก ‘ตลาดรถ’ อีกทั้งในปัจจุบันก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสะดวก รวดเร็ว

แต่ถ้าหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบซื้อรถบ้าน Carro ก็ได้ทำการรวบรวมรถบ้านมือสองเอาไว้หลากหลายรุ่น ตั้งแต่ Toyota, Nissan, BMW ไปจนถึง Mercedes-benz เลยก็มี

เลือกซื้อรถมือสอง

และในวันนี้ Carro ก็มีบทความเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถมาฝากสำหรับมือใหม่ หรือใครที่กำลังจะซื้อรถบ้าน ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจของคุณได้อีกระดับหนึ่ง งั้นไปดูกันเลยดีกว่า ว่าคุณจะต้องเลือกซื้ออย่างไรบ้าง

    1. ตรวจสอบสีรถคันที่คุณต้องการซื้อว่าได้ถูกทำสีมาหรือไม่ โดยสังเกตุด้วยลองใช้มือเคาะดู เพราะถ้าหากรถได้ผ่านการทำสีมาทั้งคัน อาจเป็นเพราะรถเคยถูกชนหนักมาก่อน ซึ่งถ้าหากคุณไม่แน่ใจ ก็สามารถเลือกซื้อรถที่ผ่านการตรวจสภาพ จาก Carro เพื่อความสบายใจ
    2. อีกอย่างที่ต้องให้ความสำคัญ คือ เลขไมล์ จริงอยู่ว่าเลขไมล์สามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่ถ้ายึดตามหลักความเป็นจริงแล้ว รถคันหนึ่งจะมีเลขไมล์ที่เพิ่มขึ้นโดยประมาณ 25,000 – 35,000 ต่อหนึ่งปี ซึ่งคุณต้องคำนวนอายุของรถควบคู่กับเลขไมล์ดูว่ามันสมเหตุสมผลกันหรือไม่
    3. ตรวจสอบเครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ของรถ เริ่มจากยกฝากระโปรงขึ้นมาดู ว่าเครื่องยนต์นั้นมีความเสียหายหรือไหม หรือว่ามีสนิมจับหรือเปล่า นอกจากนั้น อย่าลืม ตรวจสอบตัวถัง และเลขเครื่อง เพราะถ้าหากเครื่องยนต์เสียหาย นั้นอาจแปลได้ว่ารถเคยเกิดอุบัติเหตุการชนหนักมา
    4. ควรตรวจสอบเครื่องยนต์ภายใต้ท้องรถด้วย เพราะจะได้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ไม่ผิดปกติ หรือว่ามีส่วนใดที่เสียหาย เพราะถ้าหากมีส่วนใดที่เสียหาย ก็จะได้ซ่อมได้อย่างทันทวงที หรืออาจหมายถึงว่ารถยนต์คันนั้นเคยถูกน้ำท่วมมา
    5. สุดท้ายที่ห้ามลืมเด็ดขาดสำหรับคนที่ซื้อรถบ้าน ก็คือ การตรวจเอกสารนั่นเอง เพราะว่าคุณจะต้องขอเอกสารทุกอย่างให้ครบถ้วนสำหรับการไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งควรที่จะขอดูสมุดเล่มทะเบียนรถว่าชื่อของผู้ขาย นั้นได้ตรงกับชื่อผู้มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นเป็นคนสุดท้ายหรือเปล่า

 

Toyota-Vios-เอามาทำแท็กซี่ได้ยังไง

นับตั้งแต่ Toyota Soluna มาจนถึง Toyota Vios ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว ก็ยังมีคนสงสัยว่า “เอา Vios มาทำแท็กซี่ได้ไง?”

Toyota-Soluna-Vios-Taxi

“Toyota Vios เป็นแท็กซี่ได้ยังไง? รถไม่ใช่เครื่อง 1600 นะ ทำไมถึงเอามาทำแท็กซี่ได้” …

เป็นคำพูดที่ผมได้ยินมาตลอด หรือเห็นเป็นกระทู้อยู่ใน Pantip (พันทิป) เป็นระยะๆ ในช่วงเกือบๆ 20 ปีที่ผ่านมา

Toyota-Vios-Taxi-1

ผมจำได้ตั้งแต่ตอนที่ Toyota Soluna (โตโยต้า โซลูน่า) ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นท้ายหยดน้ำ ก็มีรถรุ่นนี้ทำออกมาเป็นแท็กซี่แบบป้ายดำ ของสหกรณ์แท็กซี่แห่งหนึ่ง นำรถแท็กซี่รุ่น 1ท-2ท ย้ายทะเบียนเดิม มาใส่ในรถคันใหม่ (ป้ายทะเบียน ทก ทข ห้ามติดมิเตอร์ แต่ก็มีมิเตอร์หลายคันทีเดียว) จนถึงปัจจุบัน ก็มีคนพูดถึง “Toyota Vios Taxi” มาตลอด

Datsun-Sunny-Taxi

Datsun Sunny Taxi ในอดีต

เรื่องมันยาว … ต้องย้อนกลับไปสมัยที่รถแท็กซี่ ยังไม่มีมิเตอร์ ในยุคทะเบียน 1ท-2ท …

ประมาณปี 2513 ทางกระทรวงมหาดไทย สมัยที่จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นรัฐมนตรีว่าการ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้รถแท็กซี่ ต้องประกอบการเป็นรูปบริษัทจำกัด หรือสหกรณ์จำกัด โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าเป็นบริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และต้องมีรถแท็กซี่ไม่น้อยกว่า 500 คัน

ส่วนสหกรณ์จะต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 1,000 คน มีรถแท็กซี่ไม่น้อยกว่า 500 คันเช่นเดียวกัน

กฎกระทรวงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในปี 2517 ในกรณีที่ยังปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ ไม่ได้ รมต. มหาดไทยมีอำนาจผ่อนผันได้ไม่เกิน 2 ครั้งๆ ละไม่เกิน 2 ปี

ในปีเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศกฎกระทรวงมหาดไทย ก็ได้งดไม่ให้มีการจดทะเบียนเพิ่ม และทำการสำรวจจำนวนแท็กซี่ เพื่อนำมาเป็นข้อมูล พบว่ามีรถอยู่ทั้งหมด 9,000 คัน

Toyota-Corona-Taxi

Toyota Corona แท็กซี่ในอดีต (ภาพจาก Paul Thallon)

ปี 2517 – 2518 ราคาป้ายทะเบียนแท็กซี่ 1ท เริ่มมีราคาขึ้นมาบ้าง มาสูงสุดที่ 70,000 บาท ก่อนสิ้นปี 2518

ต่อมาในปี 2519 พ.ต.ท. บุญเลิศ เลิศปรีชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฉบับเก่าให้สหกรณ์มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คน ซึ่งลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 1,000 คน และลดจำนวนแท็กซี่เหลือ 100 คัน การผ่อนผันกฎเกณฑ์ลงนี้เพื่อให้ผู้ขับรถแท็กซี่ มีการรวมตัวกันได้ง่ายขึ้น และสะดวกสำหรับการเข้ามาควบคุมดูแลของทางราชการ

พร้อมกับได้เพิ่มโควต้าทะเบียนแท็กซี่อีก 4,500 ป้าย โดยกำหนดเวลาให้มาจดทะเบียนเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 เมษายน 2519 ในช่วงนั้นจึงมีผู้ประกอบการอาชีพขับรถแท็กซี่รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมา 15 สหกรณ์ และรวมสหกรณ์เดิมอีก 1 เป็น 16 สหกรณ์

ป้ายทะเบียนแท็กซี่ที่เพิ่มขึ้นอีก 4,500 ป้าย ซึ่งใช้อักษรนำหน้าเป็น “2ท” ได้แบ่งโควต้าให้แก่สหกรณ์ต่างๆ 6 สหกรณ์ และกับอีก 4 บริษัทแท็กซี่ ทะเบียนที่จัดสรรให้สหกรณ์นั้น ให้แต่ละสหกรณ์นำไปแบ่งกันในหมู่สมาชิก จุดมุ่งหมายหลักก็เพื่อต้องการให้ผู้มีอาชีพขับรถแท็กซี่มีเครื่องมือหากินเป็นของตนเอง

และหลังจากที่ป้ายทะเบียนรุ่น “2ท” ออกสู่ท้องตลาด ราคาป้ายทะเบียน “1ท” ที่เคยมีการซื้อขายกันสูงถึง 70,000 บาท ก็ได้ลดลงมา กล่าวกันว่าในช่วงนั้นป้ายทะเบียนแทบไม่มีการซื้อขายกันเลย อย่างรถ นิสสัน บูลเบิร์ด มีการเสนอขายกันในช่วงนั้น 3 คัน 1 แสนบาท ยังหาคนซื้อยาก ป้าย “2ท” ที่ออกมาใหม่ไม่มีราคา

Toyota-Corolla-KE70-Taxi

Toyota Corolla (KE70) แท็กซี่ในอดีต (ภาพจาก Frog59)

หลังจากนั้นประมาณปี 2523 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ยังไม่ค่อยจะดีนัก เถ้าแก่แท็กซี่พบทางออกที่จะแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่แพง โดยหันมาใช้แก๊ส LPG แทน แต่กว่าที่ทางราชการจะยอมให้ติดตั้ง ก็ใช้เวลานานพอดูเพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ

ทางราชการมองถึงความไม่ปลอดภัย เพราะระบบการใช้เชื้อเพลิงแก๊สไม่เคยมีมาก่อน จนเกิดเป็นคดีขึ้นที่ สน.นางเลิ้ง ถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาล แต่ในที่สุดยอมให้ใช้กันได้

เจ้าของอู่จึงคิดค่าเช่าเพิ่มอีก 20 บาท มาเป็น 80 บาท เนื่องจากต้องการลงทุนในถังแก๊ส ป้าย “1ท” เริ่มมีราคาขึ้นมาอีกครั้ง มีการซื้อขายกัน 20,000 บาท และป้าย 2ท ขายกันประมาณ 10,000 บาท

การที่ป้ายทะเบียน “1ท” มีราคาแพงกว่าป้าย “2ท” เพราะว่าป้าย “1ท” สามารถมีการซื้อขายและโอนย้ายข้ามบริษัทแท็กซี่หรือสหกรณ์ได้ ในขณะที่ป้าย “2ท” จำกัดการโอนย้ายอยู่ภายในบริษัทหรือสหกรณ์เดียวกันเท่านั้น

ช่วงนี้นายทุนเจ้าของอู่เดิมเริ่มพากันซื้อป้ายสะสมไว้เพื่อเก็งราคา ช่วงไล่เรี่ยกันนั้น รถแท็กซี่ก็หันมาติดแอร์ ทำให้เป็นที่นิยมของผู้โดยสาร ค่าเช่าจึงขยับตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงหลักแสน คนขับที่มีป้ายเป็นของตนเองเริ่มขายป้ายให้กับนายทุน แล้วหวนกลับมาเช่ารถขับแทน

Toyota-Vios-Taxi

ภาพจาก Login reaming @ Pantip

ในราวปี 2530 ที่เศรษฐกิจเริ่มบูมราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นคนเล่นหุ้นมีกำไรงาม กอปรกับผู้ที่ไปขายแรงงานในตะวันออกกลาง เริ่มกลับมาปักหลักที่บ้านเกิดเมืองนอน มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมามากมาย

เริ่มมีผู้คนหน้าใหม่เดินเข้าสู่ธุรกิจแท็กซี่ มาแย่งกันลงทุนในแท็กซี่ ป้ายแท็กซี่เริ่มขาดตลาด ทำให้ราคาดีดตัวขึ้นไป 300,000 บาท สำหรับป้าย “2ท” และ 400,000 บาท สำหรับป้าย “1ท”

Toyota-Vios-Taxi

จนกระทั่งมาในปี 2534 ป้าย 1ท ได้ขยับตัวขึ้นไปถึง 600,000 บาท และป้าย “2ท” ขึ้นไปถึง 500,000 บาท และค่าเช่าต่อหนึ่งกะสูงถึง 450 บาท เพราะการลงทุนในแท็กซี่ 1 คันรวมราคารถและราคาป้าย จนถึงเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย เป็นต้นทุนรวมจะตกประมาณคันละเกือบล้านบาท

Toyota-Corolla-EE80-Taxi

Toyota Corolla 1.3 DX (EE80) Taxi ยอดฮิตในยุค 80 (ภาพจาก Aekkarat Aittharit‎)

จนล่วงเลยมาในปี 2535 เป็นช่วงเดียวกับที่ นุกูล ประจวบเหมาะ นั่งอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาลนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ยุคเปิดเสรี ทางกรมการขนส่งทางบก จึงรับหน้าที่ไปทำการศึกษาถึงการแก้ไขปัญหาของแท็กซี่ว่า “ทำไมค่าเช่าและค่าโดยสาร แพงเกินกว่าเหตุ”

หลังจากศึกษา ผลปรากฏว่าจำนวนรถที่มีอยู่เพียง 13,500 คัน คือทะเบียน 1ท 9,000 คัน และทะเบียน 2ท 4,500 คัน (ที่เปิดเพิ่มใหม่ให้เมื่อปี 2519) เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขเพราะจำนวนรถไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสาร

“นั่นเป็นเพราะว่า การจำกัดโควต้าไม่ให้แท็กซี่มีเพิ่มขึ้น สภาพการณ์ดังกล่าว เป็นเช่นนี้มานานเกือบจะ 20 ปี” ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยามในยุคนั้น เล่าให้ฟัง

นุกูล จึงผลักดันนโยบายเปิดเสรีออกไป ในที่สุดรัฐประกาศให้มีการเพิ่มป้ายรถแท็กซี่ ได้อย่างไม่จำกัดจำนวนโดยออกเป็นกฎกระทรวงมาเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2535 ที่ผ่านมา

Toyota-Avanza-Taxi

แม้แต่ Toyota Avanza ก็เอามาทำแท็กซี่เหลือง-ดำ ได้

จึงเป็นที่สิ้นยุคของรถแท็กซี่ยุคเก่า ที่เคยซื้อขายทะเบียนรถกันแพงลิบลิ่ว ค่อยๆ ทยอยหายไปจนเกือบหมด เหลือวิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ เพียง 297 คันในปัจจุบัน ซึ่งป้ายทะเบียนแบบเก่า สามารถนำรถที่มีจำนวนซีซีต่ำกว่า 1500 ซีซี มาทำแท็กซี่ได้ แต่ห้ามติดมิเตอร์ (แต่โป๊ะไฟ “Taxi-Meter” กันทั้งนั้น …)

Toyota-Vios-Taxi

Toyota-Vios-Taxi

Toyota-Vios-Taxi

Toyota Vios Taxi ป้ายแดงจากศูนย์ ใส่ทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานได้เลย (ภาพจาก ง้วน ออโต้ เซอร์วิส)

โดยรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนก่อนปี พ.ศ.2535 คือหมวดทะเบียน 1ท และ 2ท เดิม โดยปัจจุบันเป็น แท็กซี่หมวด ทก และ ทข เป็นสัญลักษณ์ สีเหลือง-ดำ ซึ่งเป็นรถยนต์รับจ้างที่ใช้รับส่งผู้โดยสารในลักษณะเหมาคัน ได้มีประกาศเพิ่มเติมในกฎกระทรวงฉบับที่ 9 พ.ศ.2535 ให้งดรับจดทะเบียนเพิ่มเติม

ซึ่งเจ้าของรถที่จดทะเบียนรถประเภทนี้ หากไม่ประสงค์ใช้รถคันเดิม หรือคันเดิมมีสภาพเสื่อมโทรม สามารถนำรถคันใหม่มาจดทดแทนได้

แต่เพื่อเป็นการพัฒนารถแท็กซี่ให้มีมาตรฐานการให้บริการ มีการติดตั้งมิเตอร์ทุกคัน กรมการขนส่งทางบกจึงได้ยกเลิกการให้จดทดแทนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 โดยให้สิ้นสภาพไปตามระยะเวลา ทำให้ปัจจุบันมีรถแท็กซี่รุ่นเก่าหมวดดังกล่าวที่ไม่ติดมิเตอร์ รวมทั้งสิ้น 297 คัน

ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถแท็กซี่จะต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปีตามเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดตรวจการขนส่งทางบกลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากตรวจสอบพบรถมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงหรือไม่พร้อมให้บริการ ก็จะทำการแจ้งยกเลิกใช้รถดังกล่าวทันที ซึ่งรถจำนวนดังกล่าวจะสิ้นสภาพไปในที่สุด

Toyota-Vios-Taxi

Toyota-Vios-Taxi

Toyota Vios Taxi สี เชียว-เหลือง หลงมาได้ไง! (ภาพจาก มิเตอร์ แท็กซี่)

แต่ก็มีคนหลายคน เมื่อเห็น Toyota Vios เป็นแท็กซี่ ก็ยังมีคำถามที่ว่า “เฮ้ย! Vios ทำแท็กซี่ได้ด้วยหรอ” อยู่อีก!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall Toyota Vios / โตโยต้า วีออส

สำหรับใครที่รักรถ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) และอยากเป็นเจ้าของ Toyota Vios สภาพเยี่ยมสักคัน Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เรามี โตโยต้า วีออส ให้คุณเลือกมากมาย คุณสามารถจองรถ Toyota Vios ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง โตโยต้า วีออส ทุกคัน ผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

ลงขายรถ รถมือสอง

โพสต์ขายรถบ้าน รถมือสองออนไลน์ ฟรี !!

การใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคปัจจุบัน คงเรียกได้ว่าเป็นยุคที่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตค่อยข้างมีอิทธิพลอย่างมาก โดยหลาย ๆ อย่างมักทำผ่านระบบออนไลน์เพื่อความสะดวก สบาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน การชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือการสร้างรายได้ แม้กระทั่งการขายรถมือสองผ่านเว็ปไซต์ออนไลน์

ถ้าพูดถึงการขายรถมือสองผ่านระบบออนไลน์ หลายคนคงเลือกขายรถผ่านเว็บไซต์รถมือสองออนไลน์เจ้าดัง ๆ เพราะมีผู้คนมาเยี่ยมชมรถจำนวนมาก ทำให้โอกาสในการขายรถออกเร็ว ๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องไปฝากขายกับเต็นท์ให้เสียเวลา

ซึ่ง เว็บไซต์คาร์โร คือหนึ่งในเว็บไซต์รถมือสองคุณภาพในเมืองไทย โดยก่อนหน้านี้ระบบของเราประสบความสำเร็จอย่างมากมาแล้วจากประเทศสิงคโปร์ คุณจึงมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ขายรถมือสองของคาร์โร มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ระบบความปลอดภัยสูง จนเปรียบเสมือนเป็น Hero สำหรับเรื่องรถยนต์ของคุณ

ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ทำให้คุณสามารถโพสต์ลงขายรถได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 วินาที หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ต่อจากนั้นรถของคุณจะขึ้นระบบในทันที อีกทั้งคุณสามารถมาแก้ไขข้อมูลรถได้ตลอดเวลา ที่สำคัญเว็บไซต์คาร์โรของเราให้ใช้บริการฟรี ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่น ๆ อย่างแน่นอน และข้อดีของการโพสต์ขายรถมือสองออนไลน์ คือ คุณสามารถตั้งราคาขายตามที่ต้องการอีกด้วย

 

โดยขั้นตอนการโพสต์ขายรถออนไลน์ ง่าย ๆ ดังนี้

1 คลิก ลงขายออนไลน์

รถมือสอง

2 ลงทะเบียนครั้งแรกด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ หลังจากนั้นจะมี sms ส่งรหัสเพื่อความปลอดภัย เมื่อคุณได้รหัสแล้วให้กรอกลงไป เป็นการลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้คุณสามารถเข้าระบบได้ด้วยหมายเลขโทรศัพท์

รถมือสอง

3 กรอกข้อมูลการติดต่อที่สะดวกที่สุด

รถมือสอง

4 คลิกปุ่ม ลงขายรถ และกรอกข้อมูลรถทั้งหมด

รถมือสอง

5 อัพโหลดรูปภาพรถ ( ตัวอย่าง รูปที่ดีเพิ่มโอกาสในการขาย คือ รูปรถเฉียงหน้าซ้าย-ขวา, เฉียงหลังซ้าย-ขวา,แผงหน้าปัทม์ (dashboard+console), เบาะนั่งคู่หน้า-หลัง, เล่มทะเบียนหรือสำเนาเล่มทะเบียน , กุญแจ ฯลฯ )

รถมือสอง

6 เสร็จเรียบร้อย เหลือแค่รออนุมัติจากทาง คาร์โร  รถของคุณก็จะขึ้นระบบทันที ! ( ไม่ต้องกังวลว่าจะรออนุมัตินาน ทางเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลระบบตลอดเวลาทำการ )

รถมือสอง

7 หากคุณมีรถมือสองที่อยากจะขายอีก สามารถคลิก ลงขายรถเพิ่ม

รถมือสอง

ส่วนถ้าไม่แน่ใจว่าคุณต้องการจะขายราคาเท่าไหร่ หรืออยากทราบราคาตลาดรถขณะนั้น สามารถโทรมาสอบถามราคาได้ที่ 096-463-3298  ตลอดเวลาทำการ ชอบตรงนี้นะ อ่านแล้วน่าสนใจดี

สุดท้าย อีกหนึ่งเทคนิคที่ คาร์โร อยากจะฝากให้คุณลองทำตาม เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายรถให้ออกได้อย่างรวดเร็ว คุณต้องกรอกข้อมูลตามจริง ที่สำคัญกรอกให้ครบถ้วน และเพิ่มรายละเอียดเพื่อดึงดูดความสนใจให้คนที่เยี่ยมชมรถของคุณมีโอกาสตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น แต่ถ้าคุณรีบขายรถ อยากรู้ผลเร็ว ๆ คลิกที่นี้ > th.carro.co/sell-car/express