รายได้เสริม

รวมอาชีพเสริมที่สร้างรายได้
ให้กับคุณในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีจะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ เพราะทุกคนก็ต่างมีภาระที่หนักและแตกต่างกันออกไป ก็คงจะแค่มีตัวเราเองที่จะต้องช่วยเหลือตัวเอง ดังสุภาษิตที่ว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ว่าแต่จะมีทางไหนที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับตัวเราบ้าง หลายคนก็คงมองหาอาชีพเสริมทำเพิ่มจากงานประจำ ซึ่งอาชีพที่เราจะมาแนะนำต่อไปนี้รับรองได้ว่าจะทำให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้นได้แน่ ๆ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นเราลองไปดูกันเลยดีกว่า

รายได้เสริม

1. รับหิ้วสินค้า

ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่า การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้เปลี่ยนไปแล้ว จากเมื่อก่อนอยากได้อะไรก็ต้องออกมาเดินซื้อเอง มีงาน Sale ที่ไหนก็ต้องไปเอง แต่ตอนนี้แทบไม่ต้องออกมาเดินซื้อเองแล้ว แค่สั่งคนรับหิ้วที่อยู่หน้างาน จ่ายเงิน ของก็มาส่งถึงที่บ้าน ไม่ต้องไปต่อแถวเพื่อซื้อ ไม่เสียเวลาถ้าไปแล้วของหมด ถ้าคุณอยากหาอาชีพเสริม หน้าที่ตรงนี้ก็เป็นทางเลือกได้

 

รายได้เสริม

2. ทำของแฮนด์เมดออกขาย

ถ้าคุณมีฝีมือในการประดิษฐ์สิ่งของทำมือ เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ หรือแม้แต่อาหาร (คลีน) ลองใช้ฝีมือและศักยภาพที่คุณมีอยู่ในการทำสิ่งของเหล่านี้ขึ้นมา คุณเชื่อไหมว่าผู้คนให้ความสำคัญกับสิ่งของทำมือมาก เพราะมันใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ใช้ทั้งความอดทน ใช้ทั้งทักษะทางด้านศิลปะ สินค้าเหล่านี้จึงมีราคาสูง นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คุณมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นแล้วล่ะ

 

รายได้เสริม

3. ขายเสื้อผ้ามือสอง

ลองมองดูเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว แต่ยังมีสภาพดีที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าสิว่า สามารถจับมันมาซักทำความสะอาดแล้วเอาไปขายได้หรือไม่ ซึ่งนอกจากจะได้เวลาโละของเก่าเก็บแล้ว ยังเป็นการต่อทุนเพื่อนำเงินไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่หรือนำไปใช้จ่ายอื่น ๆ ได้อีก

 

รายได้เสริม

4. ปลูกผักคอนโดขาย

การปลูกผักคอนโดกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากว่าใช้พื้นที่น้อยและสามารถทำง่าย ๆ ได้ที่บ้านหรือที่คอนโด โดยสามารถยึดเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้หลังจากงานประจำก็ได้ ยิ่งถ้าสามารถปลูกผักที่คนทั่วไปไม่ปลูก และเป็นที่ต้องการของตลาดได้ เราก็จะได้เปรียบในเรื่องของการตั้งราคา แต่เชื่อเถอะว่าอย่างน้อยนอกจากจะเป็นการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์จากการปลูกผักเพื่อขายแล้ว เรายังสามารถเก็บผักของเราเพื่อมาบริโภคเองก็ได้ ซึ่งเป็นการประหยัดค่าครองชีพอีกทาง

 

รายได้เสริม

5. มาเป็นพาทเนอร์ร่วมกับ Carro

ถ้าคุณชื่นชอบในรถยนต์ งานนี้เป็นงานที่อยากจะแนะนำที่สุดเลย เพราะไม่ต้องลงทุนอะไร แค่ใช้เวลาว่างของคุณให้มีประโยชน์ โดยใช้เวลาว่างตรงนั้นมาช่วยเราขายรถ และถ้าคุณขายได้รับเงินค่าแนะนำทันที 5,000 บาทคัน (แต่หากภายใน 1 เดือน คุณสามารถขายได้ถึง 5 คัน ทาง Carro มีโบนัสพิเศษให้*)

และถ้าขยันขายเรื่อยๆ ทำให้สามารถขายรถได้ถึง 10 คัน รับไปเลย 50,000 บาท ซึ่งคุณสามารถทำได้ไม่จำกัดจำนวนต่อเดือน เป็นอีกวีธีหารายได้เสริมที่คุ้มค่าต่อการทำเลยทีเดียว สมัครได้ที่ลิงค์นี้เลย

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 096-463-3298
Email : [email protected]
Facebook : carrothailand
Line : carrothailand

 

 

Source : money.kapook.com

ที่เที่ยว-อีสาน

ที่เที่ยวหน้าหนาวยอดนิยมภาคอีสาน
ที่คุณไม่ควรพลาด !

วันเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวเดียวก็เข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว ทำให้รับรู้ถึงอากาศที่เริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการอยากพักผ่อนกัน ถ้ากำลังมองหาแหล่งที่เที่ยวช่วงหน้าหนาว ที่มีบรรยากาศดี ธรรมชาติๆ อากาศเย็นสดชื่น คงคิดถึงแต่ที่เที่ยวภาคเหนือกันอย่างเชียงใหม่ เชียงราย แต่ใครจะรู้ว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของประเทศไทยเรา ก็มีแหล่งที่เที่ยวช่วงหน้าหนาวทางธรรมชาติหลากหลายแบบเช่นกัน

วันนี้ คาร์โร จึงอยากเชิญชวนลองไปเที่ยวสัมผัสภาคอีสานสักครั้ง คุณอาจติดใจไม่มีวันลืม กับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแถบภาคอีสาน ไปชมภาพกันว่ามีที่ไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ไปดูกันเลย ..

 

รวมที่เที่ยว อีสาน-01ขอบคุณภาพจาก sites.google.com/site/21sirirat/

ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี

ผาชะนะได เป็นหน้าผาที่มีความสูงชันมาก และเป็นจุดที่เที่ยวที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนจุดอื่นๆในประเทศไทย ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำโขงอยู่เบื้องล่าง รวมถึงเทือกเขาแดนลาวที่สลับซับซ้อนในหน้าหนาว ยังมีความงามของทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงให้ชม แต่เมื่อขึ้นไปบนผาชนะ ก็จะพบกับ ป่าดงนาทาม อีกจุดที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการการเดินศึกษาธรรมชาติ นอกจากพืชพรรณและดอกไม้ป่าแล้วยังมีน้ำตก ขนาดเล็กและขนาดกลางอยู่หลายแห่งซึ่งจะมีน้ำมากช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม

 

รวมที่เที่ยว อีสาน-02

ขอบคุณภาพจาก pantip.com/topic/30944077

ภูป่าเปาะ จังหวัดเลย

หากใครที่ชื่นชอบแนวเมฆลอยหมอกลงที่จะมีให้เห็นในหน้าหนาว และหลงใหลการชมวิวจากบนผาสูงแนะนำที่นี้เลย เพราะที่ภูป่าเปาะมีจุดชมวิวทั้งหมดถึง 3 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะห่างกันเพียง 200 เมตร  และลดหลั่นตามความสูง ไฮไลต์ในจุดแรกคือ สามารถมองเห็นภูหอซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสูง เป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบโดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลหมอกปกคลุม คล้าย ภูเขาไฟฟูจิยามาในประเทศญี่ปุ่น ตรงจุดนี้มีระเบียงยื่นออกไป สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้มายืนชมวิวขอภูหอได้อย่างใกล้ชิด ส่วนจุดที่สองก็จะเห็นวิวของภูหอในอีกมุมแบบกว้างไกลที่แตกต่างจากจุดแรก จุดนี้มีระเบียงชมวิวเช่นกัน  ส่วนจุดสุดท้ายต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 200 เมตร เป็นจุดสูงสุดสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา แต่อาจจะมีต้นไม้และตกหญ้าบังสายตาบ้าง จุดสูงสุดสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ได้ที่จุดเดียวกัน 

 

รวมที่เที่ยว อีสาน-03

ขอบคุณภาพจาก thechromashift.com

ทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี

อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่มีความงดงามด้วยดอกบัวแดงบานเต็มท้องน้ำไกลสุดตา ความอลังการของอาณาจักรบัวที่ใครไปต้องขอกลับไปอีกครั้ง ณ ทะเลบัวแดง จ. อุดรธานี อยู่ในบึงน้ำจืด บึงหนองหาน แหล่งน้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้ำจำนวนมาก โดยดอกบัวแดง บานเต็มท้องน้ำหนองหานสุดลูกหูลูกตางดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า ทะเลบัวแดง แนะนำให้ไปในช่วงหน้าหนาวตั้งแต่กลางเดือนธ.ค.- ก.พ. ของทุกปี แต่ช่วงปีหลังดอกบัวจะแน่นสวยสุดในช่วงปลายเดือน ธ.ค. และจะค่อยน้อยลงไปเรื่อยๆ

 

รวมที่เที่ยว อีสาน-04

ขอบคุณภาพจาก sites.google.com/a/knc.ac.th/mic-bell/home/phakh-tawan-xxk-cheiyng-e/buriramy

ปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

3 สถานที่แรกที่ได้แนะนำเป็นที่ท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติทั้งนั้นเลย ลองเปลี่ยนมาเที่ยวสถานที่เชิงประวัติศาสตร์กันบ้าง อย่างอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือปราสาทหินพนมรุ้ง ที่เชื่อว่าหลายคนรู้จักดี ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงมาก สร้างขึ้นโดยมีรูปแบบของศิลปะเขมรโบราณที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ความงดงามและความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ปรากฏให้เห็นได้ในรูปของงานสถาปัตยกรรม การจำหลักลวดลายการเลือกทำเลที่ตั้งบนยอดเขามีแผนผังตามแนวแกนที่มีองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นสถานที่เที่ยวที่ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์เลย ถ้าใครมาถึงบุรีรัมย์แล้วไม่ได้ไปปราสาทหินพนมรุ้ง ถือว่าผิด !

 

รวมที่เที่ยว อีสาน-05

ขอบคุณภาพจาก http://www.chillpainai.com/scoop/6925/

วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

อำเภอวังน้ำเขียว ที่เที่ยวยอดฮิตใกล้กรุงเทพฯ ด้วยบรรยากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี  และไฮไลต์ของการมาเที่ยววังน้ำเขียวนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว คือการได้มานอนเล่นชมวิวในที่พักก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ที่นี่มีที่พักให้เลือกมากมาย  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีโอโซนอันดับ 7 ของโลก เพียงไม่ถึง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพ คุณจะได้พบกับอากาศบริสุทธิ์ วิวทิวเขาและธรรมชาติ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่หาเวลาท่องเที่ยวพักผ่อนก็สามารถกระตุ้นให้ร่างกายมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้

 

ขอบคุณภาพ : travelblog.expedia.co.th
อ้างอิงเนื้อหา : paiduaykan.com/travel

งานแสดงรถแต่งซิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกา “SEMA Show 2017”

SEMA-2017-Event

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นแต่งซิ่ง แต่งลุย จากค่ายรถและสำนักแต่งต่างๆ ในงานมหกรรมรถแต่ง “SEMA 2017” งานแสดงรถยนต์อีกหนึ่งงานในอเมริกา จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1967 ถึงปัจจุบัน โดยสมาคมอุปกรณ์ของแต่งรถยนต์ หรือ Speciality Equipment Market Association เป็นผู้จัดงานนี้ จึงเป็นที่มาของชื่องาน SEMA Show …

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2560 ณ Las Vegas Convention Center เมือง Las Vegas ประเทศสหรัฐอเมริกา … ทาง CARRO ขอรวบรวมภาพบรรยากาศ พร้อมรถแต่งซิ่งสุดโดนมาให้ชมกันครับ

Audi-TT-Clubsport-Turbo-Concept

Audi TT Clubsport Turbo Concept

BMW-M3-30-Years-American-Edition

BMW M3 30 Years American Edition

BMW-M5-M-Performance-Parts

BMW M5 M Performance Parts

Chevrolet-C10-Concept

Chevrolet C10 Concept

Chevrolet-Colorado-ZR2-AEV-Concept

Chevrolet Colorado ZR2 AEV Concept

Chevrolet-Silverado-Performance-Concept

Chevrolet Silverado Performance Concept

Chevrolet-Suburban-Luke-Bryan-Concept

Chevrolet Suburban Luke Bryan Concept

Dodge-Charger-Defector

Dodge Charger Defector

FJ-Company-Signature-Model

FJ Company Signature Model

Hennessey-Velociraptor-6x6

Hennessey Velociraptor 6×6

Honda-Fit-HFP

Honda Fit HFP

Honda-Civic-Si-HFP

Honda Civic Si HFP

Honda-Civic-Type-R-Red-Carbon-Kit

Honda Civic Type R Red Carbon Kit

Jeep-Performance-Parts

Jeep Performance Parts

Ken-Block-Ford-Escort-Cosworth-RS

Ken Block Ford Escort Cosworth RS

KIA-Stinger-GT-Widebody-WCC

KIA Stinger GT Widebody WCC

Nascar-Drivers-Toyota-Camry

Nascar Drivers Toyota Camry

Mitsubishi-Evolution

Mitsubishi Evolution

Wheel-Tire-Hall-Highlights-Skylines

Wheel Tire Hall Highlights Skylines

Datsun-Z

Datsun Z

Gunther-Porsche

Gunther Porsche

Nissan-Skyline-RS-Turbo

Nissan Skyline RS Turbo

ขอบคุณภาพจาก https://www.autoblog.com/ และ http://www.superstreetonline.com/

รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก-2017

สุดยอดรถยนต์หรู จากค่ายชื่อดังระดับโลก

ความก้าวล้ำทางนวัตกรรมยานยนต์ในยุคปัจจุบันไปไกลกว่าที่เราจะคาดคิดได้ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะเครื่องยนต์ทรงพลัง รูปลักษณ์ที่โดดเด่นโฉบเฉี่ยว เทคโนโลยีที่ทันสมัย บวกกับความหรูหราของวัสดุประกอบ รวมทั้งความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทำให้ค่ายรถยนต์ชื่อดังระดับโลกต่างก็ต้องคิดค้น และผลิตรถยนต์ที่ดีที่สุด ออกมาเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า วันนี้ Carro จึงจะพาคุณไปพบกับรถยนต์สุดหรูที่แรงและเร็วสมเป็น 9 อันดับรถยนต์ที่มีราคาที่แพงที่สุดในโลก

 

ferrari-pininfarina-sergio

อันดับ 9 Ferrari Pininfarina Sergio

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,000,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 105 ล้านบาท

Pininfarina Sergio จากประเทศอิตาลี เป็นรถรุ่นพิเศษที่ทางเฟอรร์รารี่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ เซอร์จิโอ พินินฟาริน่า (นักออกแบบของเฟอรร์รารี่ผู้ล่วงลับไปแล้ว) โดยรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,500 ซีซี. ให้พละกำลัง 605 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที เป็นแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง เน้นดีไซต์แนวสปอร์ต โฉบเฉี่ยว และที่สำคัญ รุ่นนี้ผลิตมาแค่ 6 คันเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดได้ถูกจองและจำหน่ายหมดตั้งแต่วันเปิดตัวอีกด้วย

 

bugatti-veyron-by-mansory-vivere

อันดับ 8 Bugatti Veyron by Mansory Vivere

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,400,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 119 ล้านบาท

รถยนต์รุ่นนี้จากประเทศฝรั่งเศษ ตัวรถมีความพิเศษคือ ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานกว่าเหล็กถึง 5 เท่า และมีน้ำหนักเบากว่ามาก มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 16 สูบ 8,000 ซีซี. และมีพละกำลังถึง 1,200 แรงม้า ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 434 กม./ชม. แต่เพื่อความปลอดภัยจึงถูกจำกัดไว้ที่ 415 กม./ชม.

 

lykan-hypersport

อันดับ 7 Lykan HyperSport

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,400,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 119 ล้านบาท

ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท W Motor ประเทศเลบานอน ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกและรุ่นเดียวในบริษัท ที่มีการผลิตเพียงแค่ 7 คันเท่านั้น ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังโดดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์ ทวินเทอร์โบ 6 สูบ ขนาด 3.7 ลิตร สามารถให้กำลังอยู่ที่ 522 กิโลวัตต์ และทำความเร็วสูงสุดที่ 385 กม./ชม. นอกจากนี้เจ้ารถคันนี้ยังเคยอยู่ในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Fast and Furious 7 ในฉากที่รถพุ่งข้ามตึก และอยู่บนสมาร์โฟนในรูปแบบของเกมส์ เช่น Asphalt 8: Airborne , GT Racing 2 อีกด้วย

 

mclaren-p1-lm

อันดับ 6 McLaren P1 LM

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,700,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 130 ล้านบาท   

McLaren P1 LM รถยนต์จากค่าย McLaren Automotive สัญชาติอังกฤษ ได้นำรถรุ่น McLaren P1 GTR มาปรับแต่งใหม่ โดยได้เจ้าแห่งการโมดิฟายรถแข่งชื่อดังอย่าง Lanzante มาดีไซน์ให้พิเศษกว่าเดิม โดยเปลี่ยนหลังคาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์, ท่อไอเสียเป็นไทเทเนียมทั้งเส้น, อัพเกรดแอโรพาร์ท เพื่อสร้างแรงกดเพิ่มเติม ทำให้ P1 LM มีแรงกดมากกว่าเดิมถึง 40% นอกจากนี้ยังใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์ดบ 3.8 ลิตร V8+McLaren electric ECU moto ปลั๊กอินไฮบริคสมรรถนะสูง เครื่องยนตร์กลางลำท้าย ขับเครื่อง 2 ล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียงแค่ 2.8 วินาที

 

ferrari-laferrari-aperta

อันดับ 5 Ferrari Laferrari Aperta

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,800,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 133 ล้านบาท

ซุปเปอร์คาร์ไฮบริคที่แรงที่สุดในโลก และเปิดประทุนได้คันแรกของโลกจากค่าย Ferrari ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบบไฮบริค ขุมพละ V12 พละกำลัง 800 แรงม้า ซึ่งทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 163 แรงม้า ทำให้มีพลังกำลังรวมถึง 963 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 900 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 349 กม./ชม. และในปี 2017 ได้ผลิตรุ่นนี้ 150 คันทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดได้ถูกจองหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

aston-martin-am-rb-001

อันดับ 4 Aston Martin AM-RM 001

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,900,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 137 ล้านบาท

ไฮเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษ ที่เป็นการร่วมมือระหว่าง Aston Martin และทีมแข่ง F1 ของ Red Bull เพื่อสร้างรถที่โดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักเบา และมีประสิทธิภาพสูงทั้งบนถนนและสนามแข่ง ซึ่งข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้นระบุว่า ใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบ V12 สูบ 7.0 ลิตร 820 แรงม้า ปราศจากระบบอีดอากาศวางกลางลำ โดยจะมีพละกำลังเท่ากับน้ำหนักตัวรถเพื่อให้ได้อัตราส่วน แรงม้า/น้ำหนัก เท่า 1:1 และทางผู้ผลิตมีแผนวางจำหน่ายในรุ่นมาตราฐาน 99-150 คัน ส่วนในรุ่นพิเศษนั้นจะผลิตเพียง 25 คันเท่านั้น

 

lamborghini-veneno-roadster

อันดับ 3 Lamborghini Veneno Rosdster

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,500,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 160 ล้านบาท

รถยนต์คันนี้มาจากประเทศอิตาลี ซึ่งความโดดเด่นอยู่ที่ Veneno Rosdster ที่แตกต่างกว่าจากคันอื่น โดยมีห้องคนขับเสมือนห้องนักบินที่เปิดโล่ง ให้ความรู้สึกสนุกและเร้าใจในการขับ อีกทั้งโครงสร้างของรถได้ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความแข็งแรง ออกแบบตามหลักแอร์โรไดนิก เพื่อให้เกิดการต้านลมน้อยที่สุด ซึ่งภายในใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร 750 แรงม้า ระบบเกียร์แบบ ISR gearbox 7 สปีด ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 355 กม./ชม. เลยที่เดียว

 

koenigsegg-ccxr-trevita

อันดับ 2 Koenigsegg CCXR Trevita

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,800,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 170 ล้านบาท

“Trevita” ภาษาสเปนแปลว่า “Three whites” ซึ่งหมายถึงจำนวนที่ผลิต คือ 3 คันเท่านั้น โดยได้ใช้เครื่องยนต์ 4.8 ลิตร Twin supercharged DOHCV8 ซึ่งมีพละกำลังที่ 1,018 แรงม้า อีกทั้งเป็นซุปเปอร์คาร์ที่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สามารถเติมเชื้อเพลิง E85 และ E100 ได้ สำหรับความเร็วสูงสุดที่ทำได้มากกว่า 400 กม./ชม. อัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และ 1ใน3คันได้ครอบครองด้วยนักชกคนดังอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์

 

mercedes-benz-maybach-exelero

อันดับ 1 Mercedes-Benz Maybach Exelero

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 8,000,000 ดาลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 280 ล้านบาท

รถยนต์แบรนด์หรูที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Mercedes-Benz ประเทศเยอรมัน ได้มีโครงการพัฒนาที่ค่ายเอ็มเอ็ม โดยร่วมมือกับ Fulda Reifenwerke เพื่อแสดงถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ที่มาพร้อมกัยเรื่องยนต์ตัวแรงอย่าง V12 มีความจุกระบอกสูบ 5,908 ซีซี และขับเคลื่อนด้วยเทอร์โบคู่ ทำให้มีพละกำลังถึง 700 แรงม้า และจากการทดสอบเอ็กเซอเลโรแล้ว สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 351.45 กม./ชม. แต่ยังไม่มีโครงการจะจำหน่ายในเร็วๆนี้ ที่ผลิตออกมาเพื่อจัดแสดงโชว์สินค้าให้กับฟัลดา ที่เทโปโดรม เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอร์มัน เท่านั้น

 

เครดิต : carvariety.com

 

 

Tokyo-Motor-Show-2017

งานแสดงรถยนต์ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น “Tokyo Motor Show 2017”

Tokyo-Motor-Show-2017

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบ และอื่นๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ “Tokyo Motor Show 2017” งานแสดงรถยนต์อีกหนึ่งงานในญี่ปุ่น จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1954 ถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 45

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2560 ณ Tokyo Big Sight เมือง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น … ทาง CARRO ขอรวบรวมภาพบรรยากาศ พร้อมรถเปิดตัวใหม่มาให้ชมกันครับ

Toyota-Century

Toyota Century

Toyota-Tj-Cruiser

Toyota Tj Cruiser

Toyota-Auto-Body-LCV-D-Cargo-Concept

Toyota Auto Body LCV D Cargo Concept

Toyota-Auto-Body-Wonder-Capsule-Concept

Toyota Auto Body Wonder Capsule Concept

Nissan-1Mx

Nissan 1Mx

Nissan-Leaf-Nismo-Concept

Nissan Leaf Nismo Concept

Honda-Sports-EV-Concept

Honda Sports EV Concept

Honda-Urban-EV-Concept

Honda Urban EV Concept

Mazda-Kai-Concept

Mazda Kai Concept

Subaru-Viziv-Performance-Concept

Subaru Viziv Performance Concept

Subaru-WRX-STi-S208

Subaru WRX STi S208

Lexus-LS500h

Lexus LS500h

Daihatsu-DN-Compagno

Daihatsu DN Compagno

Daihatsu-DN-U-Space

Daihatsu DN U Space

Daihatsu-Thor

Daihatsu Thor

Daihatsu-Hijet-Cargo

Daihatsu Hijet Cargo

Mitsubishi-e-Evolution-Concept

Mitsubishi e-Evolution Concept

Suzuki-Swift-Sport

Suzuki Swift Sport

Suzuki-XBEE

Suzuki XBEE

Suzuki-e-SURVIVOR

Suzuki e-SURVIVOR

Suzuki-Spacia-Custom-Concept

Suzuki Spacia Custom Concept

Isuzu-FD-SI

Isuzu FD-SI

Isuzu-Elf-EV

Isuzu Elf EV

Isuzu-6X6

Isuzu 6X6

Isola-Volta-Zagato-Vision-Gran-Turismo

Isola Volta Zagato Vision Gran Turismo

Renualt-Megane-RS

Renualt Megane RS

Volkswagen-I.D.-BUZZ

Volkswagen I.D. BUZZ

BMW-Concept-Z4

BMW Concept Z4

Mercedes-AMG-Project-ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-Benz-Concept-EQA

Mercedes-Benz Concept EQA

Smart-Vision-EQ-Fortwo

Smart Vision EQ Fortwo

Mitsubishi-E-Fuso-Vision-ONE

Mitsubishi E-Fuso Vision ONE

UD-Trucks-Quon

UD Trucks Quon

ขอบคุณภาพจาก http://car.watch.impress.co.jp/

Toyota-Soluna-King-Rama-9

Toyota-Soluna-King-Rama-9

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร) นอกจากจะทรงมีพระปรีชาสามารถในทุกๆ ด้าน ยังมีสิ่งหนึ่งที่คนในวงการ “อุตสาหกรรมยานยนต์” น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสถิตอยู่ในใจคนโตโยต้าตราบนิจนิรันดร์

หลายๆ คน คงเคยเห็นภาพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงขับรถ Toyota Soluna (โตโยต้า โซลูน่า) สีฟ้า ทะเบียน 1ด-0956 กรุงเทพมหานคร

Toyota-Soluna-ในหลวง-รัชกาลที่9

เรื่องนี้ นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เคยให้สัมภาษณ์สารสภาวิศวกรรม ฉบับเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2550 และนายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้สัมภาษณ์ในวาระครบ 50 ปี ที่โตโยต้าทำธุรกิจในประเทศไทย

หลังจากที่รัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2540 ได้เกิดวิกฤตฟองสบู่แตก บริษัทไฟแนนซ์ล้ม ผู้คนตกงานมากมาย จากนั้นในเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน ก็เกิดข่าวลือว่าทางโตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น จะประกาศปิดโรงงานที่เกตเวย์ เตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 5,500 คน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงเป็นห่วงว่าราษฎรของพระองค์จะตกงาน จึงทรงมีพระราชดำริขอซื้อรถยนต์โตโยต้าโซลูน่าเพื่อให้คนไทยได้มีงานทำ จนกลายมาเป็นรถยนต์ฝีมือของคนไทยซึ่งเป็นราษฎรของพระองค์ท่าน

จึงรับสั่งให้เลขานุการส่วนพระองค์แจ้งว่า พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์สั่งซื้อ รถ Toyota Soluna 1 คัน โดยให้พนักงานที่ทำนั้นไม่ต้องเร่งรีบ ใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร เพื่อที่พนักงานโตโยต้าคนไทยจะได้มีงานทำนานๆ โดยหลังจากที่โตโยต้าทราบ จึงตั้งใจทำให้รถมีอะไรพิเศษ โดยติดชื่อรุ่นและเลขเป็นแบบไทย ไม่เคยทำมาก่อนในรถยนต์รุ่นไหน

ซึ่งเมื่อรถยนต์คันดังกล่าวนั้นแล้วเสร็จ ก็ได้มีการนำไปถวายพระองค์ ในช่วงเดือนธันวาคม 2540 พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 600,000 บาท ให้กับทางโตโยต้า แต่ทางโตโยต้านั้นไม่ขอไม่รับเงินนั้นไว้

Toyota-Expo-2017-Soluna

Model รถยนต์ Toyota Soluna ที่ทาง Toyota จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริใหม่ว่า ให้นำเงินนั้นไปตั้ง “โรงสีข้าว” เพื่อช่วยเหลือชาวนาละแวกใกล้เคียงโรงงานผลิตรถ เพราะโตโยต้ามีการบริหารจัดการที่ดี จึงควรตั้งโรงสีข้าวตัวอย่างขึ้นเอง แล้วขายข้าวที่ได้จากโรงสีในราคาสวัสดิการให้แก่พนักงานหรือชาวบ้าน และขายผลพลอยได้ เช่น แกลบและรำ ให้แก่เกษตรกรชุมชนที่เลี้ยงหมู ดังนั้นทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของ “โรงสีข้าวรัชมงคล” ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

Toyota-Soluna-Catalogue-1

Toyota Soluna จากโครงการรถ AFC (Affordable Family Car) ซึ่งเป็นรถยนต์ที่วิจัยและพัฒนา และเริ่มต้นผลิตในไทยเป็นแห่งแรก คันแรกออกจากสายการผลิตเป็นทางการ ในวันที่ 7 ธันวาคม 2539 และโตโยต้า ได้แถลงข่าวความคืบหน้าของรถยนต์รุ่นนี้ ที่ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2539

คำว่า “Soluna” นั้น มาจากการนำคำว่า “Sol” ซึ่งมาจากคำว่า “Solar” แปลว่า ดวงอาทิตย์ กับคำว่า “Lunar” แปลว่า พระจันทร์ มารวมกัน

Toyota Soluna เปิดตัวสู่สื่อมวลชนในวันที่ 28 มกราคม 2540 และเปิดตัวสู่สาธารณชนในวันที่ 31 มกราคม 2540 มาพร้อม Slogan “Great Journey การเดินทางที่ยิ่งใหญ่” และมี โด๋ว-มรกต โกมลบุตร เป็นพรีเซ็นเตอร์ในช่วงแรก เพียง 3 วันของงานเปิดตัว ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้ใบสั่งจองที่มากเป็นประวัติการณ์ถึง 28,765 ใบ (15,335 ใบ ในงานเปิดตัว และ 13,430 ใบ จากดีลเลอร์)

Toyota-Soluna-Thai

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 5A-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 126 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด

Toyota-Soluna-Thai

Toyota-Soluna-Thai

ในเดือนพฤษภาคม 2541 Soluna ยังมีรุ่นพิเศษที่สร้างความฮืฮฮาด้วย “Soluna Special Version” (โซลูน่า สเปเชี่ยล เวอร์ชั่น) มีชื่อเป็นภาษาไทยและเลขไทย ติดที่ฝากระโปรงหลัง เป็นรุ่นแรกในโลกของรถโตโยต้า ที่ติดชื่อรุ่นรถและตัวเลขเครื่องยนต์เป็นภาษาท้องถิ่น

ที่มาจากจากการที่รถยนต์โตโยต้า โซลูน่า ได้รับรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 1998 ในประเภทเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร ในการประกวดรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 1998 โดยการตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสมาคมและสถาบันการศึกษาทางวิศวกรรมศาสตร์ และสื่อมวลชน

Toyota-Soluna-Thai

โตโยต้าจึงฉลองโอกาสแห่งความภาคภูมิใจนี้ด้วยการออกรุ่น “โซลูน่า สเปเชี่ยล เวอร์ชั่น” ที่ผลิตขึ้นเจำนวนจำกัด 600 คัน โดยเน้นความสปอร์ต และเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งมากกว่ารุ่นพื้นฐาน

Toyota-Soluna-Thai

เริ่มจากชุดอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตตลอดคัน จำนวน 12 รายการ และมีสัญลักษณ์รุ่นเป็นภาษาไทย ที่เปิดประตูด้านข้าง กระจกมองข้างและคิ้วกันกระแทกสีเดียวกับตัวรถ ล้อแม็กพร้อมยางขนาด 175/65 R14 สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก นอกจากนี้ยังเพิ่มคิ้วบังลมด้านหลังเพื่อป้องกันแสงแดดและคิ้วบังลมด้านข้างป้องกันละอองฝน

Toyota-Soluna-Thai

หลังจากปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2542 ปรับหน้าตาใหม่ กันชนใหม่ ไฟท้ายใหม่ หรือที่บรรดาเต็นท์รถมือสองเรียกกันว่า “ไฟท้ายหยดน้ำ” ก่อนจะเลิกจำหน่ายไปในเดือนพฤศจิกายน 2545

ต่อมา โตโยต้า โซลูน่า ในรุ่นถัดไปจึงพัฒนาเป็น โซลูน่า วีออส (Soluna Vios) และชื่อของ “Soluna” ก็หายไปจากตลาดจริงๆ ในเดือนตุลาคม 2548 โดยเป็น Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) จวบจนปัจจุบัน

แหล่งที่มา:

AMG-50th-Anniversary

เอเอ็มจี (AMG) ฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งความสำเร็จ ในปี 2017

Mercedes-AMG-GT-Roadster

ถ้าพูดถึงสำนักแต่ง และชุดแต่งที่คนใช้รถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รู้จักกันดีที่สุด คงต้องยกให้ “AMG” ที่ออกเสียงในภาษาเยอรมันว่า “อามาเก้” หรือในภาษาอังกฤษ “เอเอ็มจี”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Mercedes-AMG (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี) ได้สร้างและรักษาชื่อเสียงของการเป็นผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตและรถยนต์สมรรถนะสูง ที่สะท้อนจากความสำเร็จ ทั้งด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ตและด้านการพัฒนารถยนต์

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Affalterbach (อัฟฟาวเตอร์บาค) ประเทศเยอรมนี ถือเป็นบริษัทลูกของกลุ่ม Daimler AG (เดมเลอร์ เอจี) โดยพนักงานของบริษัทฯ ต่างยึดมั่นในหลักการเดียวกัน คือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ “ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance” ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์

https://www.youtube.com/watch?v=nJJWv7QVpDM

AMG ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Burgstall (เบิร์กชตาร์ล) โดยมร.ฮานส์ แวเนอร์ อาวฟเรชท์ (Hans-Werner Aufrecht) และ มร.แอร์ฮาร์ด เมลเชอร์ (Erhard Melcher) ในปี 1967 ด้วยการใช้โรงโม่แป้งเก่าๆ เป็นที่ตั้งของโรงปรับแต่งรถแห่งแรก พร้อมใช้ชื่อว่า “ศูนย์วิศวกรรม ออกแบบ และทดสอบเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการแข่งขัน – Engineering office and design and testing centre for the development of racing engines” โดยตัวอักษร AMG นั้นมาจากคำว่า “Aufrecht and Melcher, Großaspach” (อาวฟเรชท์ และเมลเชอร์ จากหมู่บ้านโกรซาชปาค) ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวนี้ เป็นสถานที่เกิดของ มร.อาวฟเรชท์

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

ในปี 1971 เอเอ็มจีมีชื่อเสียงในชั่วข้ามคืน หลังจากที่รถยนต์ AMG 300 SEL 6.8 สีแดง ชนะการแข่งขันกับรถยนต์กลุ่มเดียวกันอย่างขาดลอยในรายการรถแข่งประเภท 24 ชั่วโมง ที่สนามสปา-ฟรังโกชอมป์ อีกทั้งยังสามารถทำคะแนนรวมได้เป็นอันดับ 2 ด้วย

เอเอ็มจี พัฒนาจากผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตซาลูน และสปอร์ตคูเป้ หลังจากตั้งโรงงานที่เมืองอัฟฟาวเตอร์บาค ในปี 1976

AMG-500-SEC

มร.เมลเชอร์ พัฒนานวัตกรรมฝาครอบกระบอกสูบใหม่ ที่ทำงานสอดคล้องกับระบบวาล์วแบบ 4 วาล์ว/ลูกสูบ 1 ลูก (Four-Valve Technology) ด้วยตนเองในปี 1984 ซึ่ง AMG ประยุกต์ใช้นวัตกรรมนี้อย่างเป็นทางการครั้งแรกในเครื่องยนต์ V8 ความจุกระบอกสูบ 5 ลิตรของรถยนต์ Mercedes-Benz 500 SEC ความเก่งกาจของ มร.เมลเชอร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของปรัชญา “1 ช่างฝีมือต่อเครื่องยนต์ 1 เครื่อง – One Man, One Engine” ที่ Mercedes-AMG ยึดถือจนปัจจุบัน

Mercedes-AMG-W124

นวัตกรรมฝาครอบกระบอกสูบใหม่ที่ มร.เมลเชอร์ คิดค้นนั้น ใช้ในรถยนต์ Mercedes-Benz S-Class รุ่น AMG และรุ่นซาลูน ตั้งแต่ปี 1986 ก่อนจะเริ่มใช้กับ E-Class Coupé รหัสตัวถัง W124 ในปีต่อมา ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ มีกำลังถึง 360 แรงม้า จึงได้รับสมญาว่า “The Hammer” จากสื่อมวลชนด้านรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา

Mercedes-Benz-190-E-2.5-16-Evolution-II-DTM

ในปี 1988 AMG เป็นผู้ผลิตรถยนต์ Mercedes-Benz 190 E สำหรับการแข่งขัน และยังเป็นทีมงานผู้ดูแลทีมที่ใช้รถยนต์รุ่นดังกล่าวในการแข่งขันรายการเยอรมัน ทัวริ่ง คาร์ แชมเปียนชิฟ (DTM) ด้วย

Mitsubishi-Galant-AMG

Mitsubishi-Galant-AMG

Mitsubishi Galant AMG มาพร้อมชุดแต่ง และเครื่องยนต์ที่โมดิฟายโดย AMG

Mitsubishi-Debonair-AMG

Mitsubishi Debonair AMG รถธงจากค่าย Mitsubishi ที่โมดิฟายโดย AMG

นอกจากนั้น ทาง AMG (ก่อนที่จะเป็นบริษัท In-House ในเครือ Mercedes-Benz) ยังได้เคยโมดิฟายรถยนต์ให้กับทาง Mitsubishi ด้วย ดังที่ปรากฏใน Galant AMG และ Debonair AMG จัดเต็มทั้งเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน

AMG ตกลงร่วมมือกับ Mercedes-Benz ในปี 1990 โดย AMG เริ่มต้นเป็นผู้พัฒนาและผลิตรถแบบสปอร์ตของ Mercedes-Benz ตั้งแต่ปี 1991

Mercedes-C36-AMG

รถยนต์รุ่นแรกที่เอเอ็มจีผลิตร่วมกับกลุ่มบริษัทเดมเลอร์-เบนซ์ (ชื่อในขณะนั้น) คือรุ่น C 36 AMG ซึ่งวางจำหน่ายในปี 1993 ด้วยยอดขายสูงถึง 5,000 คันเมื่อนับถึงปี 1997 ถือเป็นรถยนต์ของ AMG ที่ขายดีที่สุดในขณะนั้น นอกจากนี้รถยนต์รุ่นนี้ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นรถ Safety Car อย่างเป็นทางการรุ่นแรกของการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน ในปี 1996 อีกด้วย

Mercedes-C32-AMG

รถยนต์รุ่น C 32 AMG ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2001 นั้นใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่พัฒนาขึ้นใหม่ร่วมกับเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร V6 พร้อม Super charger นอกจากนี้ยังมีระบบสัมผัสอันเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้ตามใจปรารถนา

Mercedes-Benz-SLS-AMG

รถสปอร์ต Mercedes-Benz SLS AMG ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2009 ถือเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกที่ Mercedes-AMG พัฒนาขึ้นโดยไม่อาศัยทีมงานภายนอกบริษัทเลย ซึ่งรถรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์พิเศษมากมาย ทั้งเสียงเครื่องยนต์อันโดดเด่น สมรรถนะที่เหนือใคร และประตูที่ทรงปีกนกนางนวล

Mercedes-Benz-SLS-AMG-GT3

ในปี 2011 เอเอ็มจีผลิตรถแข่งรุ่นแรกของบริษัทฯ คือรถยนต์รุ่น SLS AMG GT 3 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ตลาดรถสปอร์ตที่มีสมรรถนะสูงเทียบเท่ารถแข่งของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์

Mercedes-AMG-GT-S

ในปี 2014 Mercedes-AMG ยังตอกย้ำภาพความเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลก ด้วยการนำเสนอรถสปอร์ตระดับเรือธงตระกูล Mercedes-AMG GT ที่พัฒนามาจากรากฐานของรถสปอร์ตตระกูล SLS ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถสปอร์ตตระกูลที่ 2 ที่พัฒนาโดย Mercedes-AMG ทั้งหมด แนวคิดต่างๆ ทั้งการวางเครื่องยนต์ให้อยู่บริเวณตอนกลางของตัวรถ (Mid-Engine Concept) เพลาส่งกำลังแบบใหม่ รวมทั้งโครงสร้างตัวถังที่ใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุหลักนั้นเป็นผลจากความตั้งใจของทีมวิศวกรที่ต้องการขับ เน้นประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจที่สุด

Mercedes-AMG-A45

Mercedes-AMG จัดจำหน่ายรถยนต์ได้กว่า 70,000 คันในปี 2015 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ซึ่งตัวเลขนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ให้กว้างขึ้น ด้วยการนำเสนอ Compact สมรรถนะสูงตระกูล 43 รวมถึงรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น AMG ทั้งในตระกูล C-Class, SUV และ Compact

Mercedes-AMG ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ในปี 2017 ด้วยสถิติยอดขายเกือบ 100,000 คัน ในปีก่อนหน้า

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

ปัจจุบัน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2017 ลูกค้าของ Mercedes-AMG จะมีรุ่นรถยนต์ให้เลือกสรรสูงถึง 50 รุ่นที่ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์คอมแพค ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ที่ทรงพลังที่สุด รถสปอร์ตรุ่น S 65 ที่ใช้เครื่องยนต์ 12 สูบ รถซาลูนและรถเอสเตทที่ใช้เครื่องยนต์หลากหลายแบบ หรือแม้แต่รถ SUV รถยนต์สไตล์ Coupe รถเปิดประทุน Cabriolet และ Roadster

MBTh_50th-Anniversary-of-Mercedes-AMG_Photos

และ Mercedes-AMG ยังเป็นผู้พัฒนาเครื่องยนต์แบบ 8 สูบ ทั้งสำหรับรถยนต์ Mercedes-AMG และรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ V8 โดยรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกด้วย

ท่าออกำลังกาย ขณะรถติด

มาออกกำลังกายกันเถอะ ด้วย 7 ท่าที่ทำได้แม้รถติด

ขณะที่คุณกำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ในรถที่ติดนานๆ ทำได้แค่มองโน้นนี้นั้นไปเรื่อยๆ และหาอะไรทำเรื่อยเปื่อย รถก็ยังติดอยู่ที่เดิม ลองหันมาออกกำลังกายเบาๆ ภายในรถยนต์ของคุณดูสิ ด้วยท่าง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ อีกทั้งยังทำให้คุณเกิดความเพลิดเพลิน และช่วยให้กล้ามเนื้อ Fit & Firm ขึ้นอีกด้วย คุณจะได้ไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

 

1.ท่าออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อขา

ยกขาซ้ายขึ้นจากพื้นและจากเก้าอี้ ในลักษณะที่เข่างอเล็กน้อย ยกค้างไว้ นับ 1-8 แล้ววางขาลงช้าๆ ถ้ารถยังไม่เขยื้อน ทำขาขวาต่อเลย ทำแบบนี้สลับไปมาสัก 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

2.ท่าออกกำลังกายบริหารหน้าท้อง

ผ่อน หรือ คลายลมหายใจออก ช้าๆเต็มที่ ท้องแฟบเกร็งหน้าท้อง นับในใจ 1-8 แล้วสูดลมหายใจเข้าสึกๆ ช้าๆ นะ อย่ารีบ ท้องป่อง เกร็งหน้าท้องนับในใจ 1-8 แล้วคลายลมหายใจออกอีก ทำสลับกัน 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

3.ท่าออกกำลังกายบริหารแขนและหน้าอก

วางมือทั้งสองข้างบนพวงมาลัยรถ วางมือซ้ายที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมือขวาที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เหยียดแขนทั้งสองข้างให้ตึง แล้วออกแรงผลักพวงมาลัยไปข้างหน้าช้าๆ ( ถ้ารถเคลื่อนให้ดึงเบรกมือไว้ชั่วคราว ) แล้หยุดนับ 1-8 แล้วเปลี่ยนทิศทางการออกแรง เป็นดึงพวงมาลัยเข้ามาหาตัวทำคล้ายๆกับเบรกรถจนตัวโก่งนั้นล่ะ แล้วหยุด นับ 1-8 ทำแบบนี้กลับไปกลับมา 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

4.ท่าออกกำลังกายบริหารข้อศอก

ตั้งข้อศอกซ้ายทำมุม 90 องศากับลำตัว กำหมัดให้หมัดของคุณอยู่บริเวณแถวสะดือ ดันข้อศอกซ้ายเข้ากับพนักเก้าอี้ข้างๆนับ 1-8 แล้วสลับทำแบบเดียวกันกับข้อศอกขวา แต่ให้ดันข้อศอกขวาเข้ากับประตู ( อย่าลืมล็อคประตูรถก่อนนะ ) ทำแบบนี้กลับไปกลับมา 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

5.ท่าออกกำลังกายบริหารสะโพก

ใช้มือทั้งสองข้างจับเนื้อสะโพก ( ถ้าทำมากๆได้ก็ให้ทำลงไปถึงแก้มก้นได้เลย ) บีบให้แน่น แน่นอนก้นของท่านจะทับมือ นับ 1-8 แล้วคลาย ( ทำเหมือนกับนวดกล้ามเนื้ออื่นๆ ) ทำซ้ำ 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

6.ท่าออกกำลังกายบริหารหัวไหล่

ยกไหล่ขึ้นให้สูงที่สุด สูงจนรู้สึกคอหดเลยแล้วยกค้างไว้ 1-8 แล้วหมุนหัวไหล่ โดยหมุนไปด้านหลังก่อน แล้วหมุนควงหัวไหล่กลับมาด้านหน้า หมุนควงหัวไหล่ไปด้านหลัง แล้วหมุนควงหัวไหล่ไปด้านหน้า ถ้าทำผิดทางก็ไม่เป็นไร ทำอันไหนก่อนหลังก็มีค่าเท่ากันลดไหล่ลงตามปกติ แล้วก็ยกไหล่ขึ้นทำแบบเดิมซ้ำอีก ทำ 4-5 รอบ ( มากกว่านี้ก็ได้ )

 

7.ท่าออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อหน้า

ท่านี้ต้องอาศัยความสามารถทางการแสดงเล็กน้อย โดยให้คุณทำหน้าทำตาแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น ตกใจ,เสียใจ,ดีใจ,และโกรธ ทำแต่ละท่าแล้วค้างไว้นับ 1-8 แล้วเริ่มแสดงหน้าตาท่าใหม่หมุนเวียนกันไป เพื่อบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วนบนใบหน้า ( แต่ระวังอย่าไปทำใกล้ๆกระจก เดี๋ยวรถข้างๆเขาจะเข้าใจผิด )

 

หมายเหตุ : การออกกำลังกายในรถ จะเลือกทำท่าไหนก่อนก็ได้ แต่ควรพยายามทำสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ครบทุกท่านะจ๊ะ !

 

Source :
วารสารโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
siamca.com

ขับรถอย่าเล่นมือถือ

ขับรถอย่าเล่นมือถือ !!

เชื่อเถอะว่า หลายๆโครงการในประเทศไทยพยายามรณรงค์เรื่องนี้ และพูดอะไรทำนองมานานแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่เล่นมือถือไปขับรถไป เพราะประมาท และย่ามใจว่าคงไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเองแน่ๆ CARRO ไม่ขอพูดอะไรซ้ำซาก แต่จะขอหยิบยก 5 กรณีตัวอย่างนี้ เพื่อให้เหตุผล 5 ข้อกับคุณ มาเริ่มกันเลย

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

1. Selfie อาจเปลี่ยนชีวิต!

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่รัฐเท็กซัส ขณะที่สาวน้อยวัย 19 ปีกำลัง Selfie เพื่อส่งรูปถ่าย Sexy ของตัวเองให้แฟนหนุ่ม รถของเธอก็ชนท้ายรถตำรวจเข้าอย่างจัง!

ความพีคของเรื่องนี้คือขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เธอกำลัง Selfie แบบ Topless (เปลือยท่อนบน) อยู่!

หลังจากตำรวจ (ซึ่งเป็นคู่กรณี) ลงจากรถมาสอบถามก็ต้องตะลึงกับสภาพเปลือยครึ่งท่อนของสาวคนขับ แถมยังพบว่าเบาะข้างคนขับมีไวน์ที่เปิดขวดแล้ววางอยู่ โดยสาวคนขับได้ให้การว่า เธอกำลัง Selfie และส่งรูปถ่ายลับๆ ให้กับหนุ่มคนรักขณะที่ีรถติดไฟแดง แต่พลาดอย่างไรก็ไม่ทราบ รถได้เลื่อนไปชนท้ายรถตำรวจซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ข้างหน้าอย่างเต็มเปา!

สุดท้ายสาวน้อยนางนี้ก็ถูกปรับด้วยข้อหาเมาแล้วขับ เป็นเงินจำนวน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 70,000 บาท) แถมยังเป็นที่กล่าวขานในสังคมออนไลน์ไปอีกนาน

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

2. เปลี่ยนเพลง 1 ที ฆ่า 4 ศพ!

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคนขับรถบรรทุกก้มมองสมาร์ทโฟนของตัวเองเป็นเวลา 45 วินาทีเพื่อเลื่อนเปลี่ยนเพลง จากนั้นรถของเขาก็ชนเข้ากับรถ SUV ของคุณแม่ลูกสามอย่างรุนแรง!

อุบัติเหตุนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เทรซี่ คุณแม่ซึ่งกำลังขับรถเสียชีวิตทันทีเท่านั้น แต่ยังทำให้อีธาน จอช และเอมี่ ลูกทั้ง 3 ของเทรซี่เสียชีวิตหมดทุกคน!

ภาพจากกล้องวงจรปิดและกล้องที่ติดตั้งอยู่หน้ารถได้แสดงให้เห็นว่า ชายขับรถบรรทุกทำความผิดจริงด้วยการก้มหน้าก้มตาเลือกเพลงจากสมาร์ทโฟน จนต้องละสายตาจากถนนนานเกือบหนึ่งนาที และ 0.75 วินาทีหลังจากการชนเกิดขึ้น กล้องได้จับสีหน้าตื่นตกใจสุดชีวิตของเขาเอาไว้ได้ แต่ขณะนั้นมันสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

ล่าสุดคนขับรถบรรทุกถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ส่วนสามีของคุณแม่ที่เสียชีวิต (คุณพ่อของเด็กๆ) ต้องจัดงานศพให้กับสมาชิกครอบครัวที่จากไปพร้อมกันถึง 4 คน

เล่นมือถือ-ขับรถ-ผิดกฎหมาย

3. รถพังยับเพราะรีบกดรับอั่งเปา

ถือเป็นเรื่องซวยรับวันตรุษจีนเลยทีเดียว เมื่อหนุ่มชาวจีนมัวแต่รีบกดชิงอั่งเปาจากแอพฯ Wechat รู้ตัวอีกทีรถก็วิ่งเลยไปถึงสี่แยกและประสานงาเข้ากับรถอีกคันอย่างจัง!

อั่งเปาที่ว่านี้เป็นอั่งเปาออนไลน์ที่แจกกันในห้องสนทนากลุ่มของ Wechat ซึ่งอำนวยความสะดวกให้บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ต้องแจกอั่งเปาเป็นกระดาษในวันตรุษจีนอีกต่อไป แถมยังมีกติกา “มาก่อนได้ก่อน” ให้ลูกหลานได้สนุกสนานจากการแย่งชิงอั่งเปากันอีกด้วย

แต่การรีบกดรับอั่งเปาขณะขับรถก็ส่งผลน่ากลัวแบบนี้เอง แม้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่รถของหนุ่มชาวจีนผู้โชคร้ายก็ได้รับการประเมินค่าเสียหายราว 10,000 หยวน (ราวๆ 50,000 บาท) ซึ่งไม่รู้ว่าจะคุ้มกับเงินอั่งเปาที่ได้มาหรือไม่

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

4. แค่คุยโทรศัพท์ทำรถชนยับ 10 คันรวด!

สาว 17 คุยโทรศัพท์ขณะขับรถแล้วเสียสมาธิจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดง ส่งผลให้รถชนกัน 10 คันรวดบริเวณ 4 แยก!โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้ใครต้องบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเรื่องราวจะแสนอลหม่านและเลอะเทอะเปรอะเปื้อน เพราะรถของเด็กสาวไปตัดหน้ารถขนดิน ทำให้รถขนดินพลิกคว่ำจนดินกองท่วมถนน อีกทั้งยังทำให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด!

ผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้เด็กสาวที่คุยโทรศัพท์ขณะขับรถถูกปรับเป็นเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 17,500 บาท) ด้วยข้อหาฝ่าสัญญาณไฟจราจร และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

5. เล่นมือถือมือซ้าย ขี่มอเตอร์ไซค์มือขวา ชนท้ายรถข้างหน้าเต็มๆ!

เหตุการณ์ท้ายสุดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยของเรานี่เอง เมื่อหนุ่มเมืองนครศรีธรรมราชเล่นมือถือไปขับมอเตอร์ไซค์ไปจนลืมดูทาง แล้วชนเข้ากับรถปิคอัพซึ่งจอดอยู่ข้างทางอย่างจัง!

แม้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนัก และไม่มีความเสียหายมากนัก แต่มันก็ทำให้ทั้งคนขับมอเตอร์ไซค์และเจ้าของรถปิคอัพเสียอารมณ์ไปตามๆ กัน!

นี่คือ 5 ตัวอย่างที่คุณไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง! และเป็น 5 เหตุผลที่ชัดเจนมากที่ควรจะเลิกเล่นมือถือขณะขับรถ จะเห็นได้ว่าไม่มีข้อไหนที่มีจุดจบอย่างสวยงามเลย แถมยังนำมาซึ่งการสูญเสีย ตั้งแต่ความรู้สึก ทรัพย์สินเงินทอง ไปจนถึงชีวิต

และอย่าลืมว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ยานพาหนะใดๆ โดยไม่มีอุปกรณ์เสริมช่วยในการสนทนา ตามกฎหมายถือว่ามีโทษปรับถึง 400 – 1,000 บาท ต่อให้ไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ มันก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี !

เอาเป็นว่าควรขับขี่อย่างไม่ประมาท ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ขณะขับรถ เชื่อ CARRO เถอะ! เราจะได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ

ดูดวง

ดูดวงก่อนถอยรถ ด้วยศาสตร์เลขทะเบียน

เชื่อว่า .. คนไทยหลายบ้านมีความเชื่อเรื่องดูดวงในศาสตร์ต่างๆ ก่อนที่จะลงมือทำการใหญ่อะไรสักอย่าง เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะดูดวงของฤกษ์งามยามดีแล้ว ยังต้องดูศาสตร์ของตัวเลขอีกด้วย ส่วนในวันนี้ที่ Carro จะมาพูดถึงคือ การดูดวงด้วยศาสตร์ของเลขทะเบียนรถ เพราะ รถ เป็นยานพาหนะที่ในทางโหราศาสตร์ก็คือ บริวารในรูปแบบหนึ่ง นั้นเอง ! 

เอาล่ะ !
ได้เวลามาคำนวณตัวเลขกันแล้ว

 

ตามตำราเลขศาสตร์

ดูดวง

ตัวเลขต่างๆเป็นตัวแทนดาวพระเคราะห์ และดาวพระเคราะห์แต่ละดวงก็จะส่งผลดี-ผลร้าย แก่เจ้าของชะตาแตกต่างกัน สำหรับดาวพระเคราะห์แทนตัวเลขต่างๆ มีดังนี้ 1 – อาทิตย์ , 2 – จันทร์ , 3 – อังคาร , 4 – พุธ , 5 – พฤหัส ,6 – ศุกร์ , 7 – เสาร์ , 8 – ราหู , 9 – พระเกตุ และ 0 – มฤตยู

ตำราดูดวงส่วนใหญ่ทั้งเลขศาสตร์และโหราศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่า เลข 3 – 7 – 0 เป็นเลขที่ร้าย เลข 3 จะหมายถึง การทะเลาะเบาะแว้ง เลข 7 คือ ความทุกข์ยาก และเลข 0 คือ อุบัติเหตุ และความสูญเสียต่างๆ ในบางตำรามองว่า เลข 8 เป็นเลขที่ร้ายเช่นเดียวกัน เพราะหมายถึง ราหู แต่ก็นับว่าความร้ายแรง ยังเป็นรอง เลข 3 – 7 – 0 อยู่มากทีเดียว

บางตำรากลับเชื่อว่า เลข 8 เป็นเลขแห่งความร่ำรวย เป็นเลขที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ โดยให้นิยามว่า ดาวราหู หมายถึง พระเจ้าแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ ผู้มั่งคั่งร่ำรวยไปด้วยอำนาจ และทรัพย์สิน

 

ตัวเลขที่คนไทยนิยม

ดูดวง

 

เลขทะเบียนรถที่ดีควรจะ อยู่ในกฎเหล่านี้ คือ

ดูดวง

 

  1. เลขทุกตัวบวกรวมกันแล้วได้ตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ยิ่งได้เลข 9 ถือว่าดีมาก เช่น 2223 รวมกัน = 9 เลขคู่หน้าและคู่หลัง บวกรวมกันได้ตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ถ้าได้ 9 ถือว่าดีมาก เช่น 8127 คู่แรก 8 + 1 = 9 คู่หลัง 2+7 = 9 ถือว่าก้าวหน้าก้าวหลัง เจริญดี
  2. ตัวเลขตัวแรกบวกตัวสุดท้ายได้ 5 ขึ้นไป ถ้าได้ 9 ถือว่าดีมาก เช่น 8181 ถือว่าเป็นเลข ที่ดีมากๆ เพราะเข้าข่าย 2 ประเด็น คือได้ 9 ทุกทิศทาง ถือว่าก้าวหน้า ก้าวหลัง เจริญดี
  3. เลขทุกตัวต้องรวมกันแล้วไม่ได้ 13 เพราะถือเป็นเลขมรณะ เช่น 9400 เลขคู่หน้าและคู่หลังรวมกัน ไม่ควรเป็นเลข 13 เพราะถือว่ามรณะ เช่น 9476 คือ 9+4 = 13 และ 7+6 = 13 ถือว่ามรณะทั้งไปหน้าและกลับหลัง
  4. เลขตัวแรกและตัวสุดท้ายรวมกันไม่ควรเป็น 13 เพราะถือว่ามรณะ เช่น 4419 คือ 4+9=13 มรณะ ตัวเลขทั้งหมดไม่ควรถูกคร่อมด้วยเลข 1 เพราะเปรียบเหมือนเป็นโลงศพ เช่น 1771 หรือ 1001 หรือ 1641 เป็นต้น
  5. ตัวเลขคู่กันไม่ควรเป็นเลข 1 ทั้งคู่ เพราะเปรียบเป็นโลงศพ เช่น 1178 หรือ 4311

 

ทำไมเลขทะเบียนรถถึงมีความสำคัญ ?

เพราะป้ายทะเบียนเป็นเลขประจำตัว ที่บ่งบอกภาพรวมของชะตารถว่าเป็นอย่างไร มีความคล่องตัวหรือเกิดปัญหาเรื่องใดบ้าง ซึ่งมันจะส่งผลกับผู้ครอบครองหรือผู้ดูแลโดยตรง และการดูดวงด้วยศาสตร์ของเลขทะเบียนรถผลรวมทุกเลขเป็นเลขดี แต่บางเลขอาจเหมาะสำหรับการใช้งานบางอย่าง ซึ่งอาจพิจารณาประกอบกับอาชีพของผู้ครอบครองเพิ่ม บวกกับลักษณะใช้งานเป็นหลัก เพื่อเกื้อหนุนกันให้ดีๆยิ่งขึ้นไปอีก

 

!! จบแล้วจ้า !!


ส่งท้าย : เร็วๆ นี้จะมีการประมูลป้ายทะเบียนรถหมวดอักษรพิเศษ 5 กก กรุงเทพมหานคร “5 กก 5 มหาสุข” จำนวน 301 หมายเลข เปิดประมูลวันที่ 9-10 กันยายน 2560 ณ อาคาร 6 ชั้น 7   กรมการขนส่งทางบก 

กรมการขนส่งทางบก

 

การดูดวงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล อาจจะมีที่ไม่ตรงกันบ้าง
ซึ่งการดูดวงในศาสตร์ต่างๆ มันไม่มีผิดถูก
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งของความสบายใจ
ว่าเราได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองแล้ว

 

Source :
meemodel.com
กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News