CarroRewards-And-CarroWholesale-Application

สวัสดีครับ หากท่านตอนนี้กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้ประกอบการรถมือสอง (หรือจะเรียกว่าเต็นท์รถมือสอง ตลาดรถมือสอง หรือรถใช้แล้ว ก็ได้เหมือนกัน) หากมีความคุ้นเคยกับระบบ CARRO Wholesale ซึ่งเป็นระบบการซื้อรถกับทาง CARRO อยู่แล้ว หากท่านใดยังไม่มี App นี้ สามารถดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS และ Android สามารถคลิก Download ที่ Link นี้ได้เลย Link นี้เลย —> icon_ios icon_android

Carro-Agent-Rewards

ส่วนวิธีใช้งาน CARRO Wholesale Application สามารถดูได้ใน Link ด้านล่าง

และในโอกาสนี้ เราขอยินดีที่จะนำเสนอแคมเปญใหม่ๆ กับ “CARRORewards” เพื่อต้อนรับปีใหม่ที่จะมาในไม่ช้านี้ ยิ่งคุณซื้อรถ หรือ BID รถ ผ่าน Application เรามากเท่าไหร่ โอกาสยิ่งได้คะแนนสะสมยิ่งมาก ซึ่งคะแนนเหล่านี้ สามารถนำมารับแลกของรางวัล พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย!

CarroRewards-CarroWholesale

รายละเอียดระดับคะแนนสะสม เพื่อแลก CARRORewards

CarroRewards-CarroWholesale

ระดับ คะแนน จบรถ (คัน)
1 5,000 1
2 7,500 2
3 10,000 3
4 12,500 4
5 15,000 5 ขึ้นไป
VIP 50,000 10 ขึ้นไป

วิธีการได้คะแนนสะสมเพื่อแลก CARRORewards

CarroRewards-CarroWholesale

เสนอราคาซื้อรถ (ต่อคัน) จบรถ (ต่อคัน)
เสนอราคาคนแรกได้ 100 Point
เสนอราคาคนที่สอง ได้ 50 Point
2,500 Point
เสนอราคาคนที่สามได้ 20 Point

เงื่อนไข:

  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
  • คะแนนสะสมไม่มีวันหมดอายุ
  • กรณีการจบรถผ่าน CARRO Wholesale Application และชำระรถในราคาเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 31 ธ.ค. 2562
  • กรณีที่เป็นระดับ VIP ต้องมีคะแนนสะสม 50,000 คะแนนขึ้นไป และจำกัดสิทธิเฉพาะดีลเลอร์คนแรกเท่านั้น จำกัดเพียงแค่ 1 รางวัลต่อเดือน
  • กรณีการรับ CARRORewards ผู้แลกสิทธิและของรางวัล CARRORewards จำเป็นต้องรับที่สำนักงาน CARRO
    ในกรุงเทพฯ และสาขาในเขตพื้นที่นั้นๆ เท่านั้น
  • กรณีต้องการเช็คคะแนน หรือติดต่อรับ CARRORewards กรุณาติดต่อเบอร์โทร. 063-535-7504
    หรือโทร. 065-998-2098
  • หากต้องการติดต่อรับสิทธิพิเศษ หรือสินค้า CARRORewards ติดต่อแผนกกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ
    เบอร์โทร. 02-508-8425
  • การรับสิทธิพิเศษหรือสินค้า สามารถรับได้เฉพาะวันที่ 30 หรือ 31 ของทุกเดือน (เฉพาะวันและเวลาทำการเท่านั้น)
  • หากมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทฯ​ ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ในการแลกรางวัลในแต่ละลำดับ จะมีจำนวนจำกัด
  • คะแนนสะสมไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
  • หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน
Carro-Pantip-Workshop-Event

จบลงไปแล้ว กับกิจกรรมดีๆ จาก CARRO ร่วมกับ Pantip กับงาน “เวิร์คช็อป ขายรถเรื่องง่าย รู้ก่อนใครไม่มี OUT” ณ Mestyle Garage Hotel Bangkok บอกเลยว่างานนี้ใครที่สนใจอยากซื้อ-ขายรถมือสอง ได้ตาลุกวาวแน่นอน ที่จัดกันไปเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา

เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถมือสอง ได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด ดูรถจริง! ตีราคาจริง! พร้อมแลกเปลี่ยนเทคนิคการขายรถมือสอง จาก 2 กูรูเรื่องรถ Doctor Car และ Goody K

สำหรับบรรยากาศในงาน จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น Mr.Carro รวบรวมภาพบรรยากาศ มาให้ชมกันครับ

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

ทีมงานจากทาง CARRO และ Pantip.com

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

พี่หมอ Doctor Car วิทยากรในงาน

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

ผู้มาร่วมงาน

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

ลงทะเบียนร่วมงาน รับของที่ระลึก

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

ตัวอย่างรถที่โชว์ในงาน

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

บรรยากาศภายในงาน

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

คุณ Goody K อีกหนึ่งในวิทยากรของงาน

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

แลกเปลี่ยนความเห็น

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

สาธิตวิธีการดูรถก่อนซื้อ

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

สาธิตวิธีการดูรถก่อนซื้อ

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

สาวสวยก็มีนะครับ

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

วิธีการดูรถก่อนซื้อ

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

ปิดงาน พร้อมกับความประทับใจ

ถ้าคุณอยากขายรถด่วนกับทาง CARRO สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Top-5-Best-Car-Sales-In-Carro-Express

หลายท่านที่ในเวลานี้ ประสบกับภาวะงานหายาก เงินหายาก จนรู้สึกว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่มีความจำเป็นต้องการใช้เงินด่วน เช่น ลูกเข้าโรงเรียน แต่งงาน หรือต้องการจะซื้อรถคันใหม่ “การขายรถ” ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ซึ่งทาง CARRO ที่เป็นสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ ได้คิดค้นระบบขายรถด่วนอย่าง “CARRO Express” ออกมาเพื่อให้คุณ ขายรถได้อย่างสะดวกสบาย และง่ายดาย

ไม่ว่าคุณจะอยู่จังหวัดไหนในประเทศไทย คุณก็สามารถฝากขายรถยนต์มือสองได้ที่ CARRO Express ด้วยวิธีง่ายนิดเดียว เพียงโทร. 02-5088425 แค่เข้าไปกรอกรายละเอียดที่ Link – https://th.carro.co/sell-car/express กรอกข้อมูลและรายละเอียดรถของคุณให้ครบ พร้อมทั้งอัพโหลดรูปภาพเข้าไป เมื่อเสร็จแล้ว ก็รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปเพื่อนัดวันตรวจสภาพรถยนต์และประเมินราคา ซึ่งถ้ารถของคุณสามารถตกลงราคากันได้ ก็พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินกลับบ้านได้เลย!

โดยรถยนต์ส่วนใหญ่ของ CARRO นั้น รถที่ทางลูกค้านำมาขายจะเป็นรถในแบบ Eco-Car และรถกระบะ และรถประเภทอื่นๆ อาทิเช่น รถ Compact Car, รถ SUV หรือรถแบบ MPV เป็นต้น

Mr.Carro จะมาเล่าให้ฟังว่า เดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีรถรุ่นไหนบ้าง ที่นิยมนำมาขายกับทาง CARRO ของเรา

1. Toyota Vios

Toyota-Vios-Carro-Express

สำหรับ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) ยังจัดได้ว่าเป็นรถ Sub-Compact ยอดนิยมตลอดมาจากการวัดของ CARRO Express ซึ่งเป็นรถยอดนิยมของเด็กมหาวิทยาลัย กลุ่มคนทำงานใหม่ๆ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงผู้สูงอายุก็มีใช้บ้าง โดย Vios รุ่นที่มาขายส่วนใหญ่จะเป็นรถช่วงประมาณปี 2014 – 2017 โดยมียอดรับซื้อเป็นอันดับหนึ่ง

2. Isuzu D-Max

Isuzu-D-Max-Carro-Express

รถกระบะยอดนิยมอันดับ 1 อย่าง Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) ที่ประหยัดน้ำมัน ทนทาน ให้การใช้งานที่คุ้มค่า สำหรับคนทำมาหากิน ยังคงเป็นรถกระบะที่ซื้อง่ายขายคล่อง ซึ่งทาง CARRO Express มียอดรับซื้อมากเป็นอันดับสอง โดยส่วนมากแล้วต่างจังหวัด จะนิยมใช้กันอย่างมาก โดยรุ่นที่รับซื้อจะมีกันตั้งแต่ปี 2011 ไปจนถึงประมาณปี 2017

3. Toyota Hilux Vigo

Toyota-Hilux-Vigo-Carro-Express

นี่ก็จัดเป็นรถกระบะยอดนิยมมากๆ อีกหนึ่งรุ่นเช่นกัน นั่นคือ Toyota Hilux Vigo (โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างจังหวัด บรรดาเกษตรกร ผู้ประกอบการต่างๆ นิยมใช้เพราะซื้อง่ายขายคล่อง ทนทาน อะไหล่หาง่าย และราคามือสองที่ตกลงมาพอประมาณแล้ว ทำให้ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด สามารถหาซื้อมาใช้งานได้ และรุ่นนี้ยังมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เบนซิน

4. Honda City

Honda-City-Carro-Express

รถเก๋งยอดนิยมอันดับที่สี่ ของการรับซื้อใน CARRO Express นั่นคือ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) จัดเป็นรถที่นิยมอย่างมากสำหรับเด็กมหาวิทยาลัย เด็กจบใหม่ หรือผู้คนในวัยทำงาน เป็นรถที่ทนทาน อะไหล่มีพร้อม ศูนย์บริการหาง่าย และซื้อง่ายขายคล่อง ซึ่งผู้ขายรุ่นนี้กับทาง CARRO ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

5. Honda Jazz

Honda-Jazz-Carro-Express

รถแฮทช์แบค 5 ประตู ยอดนิยมของการรับซื้อที่ CARRO Express เป็นอันดับห้า สำหรับ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) ก็นับว่าเป็นรถที่ซื้อง่ายขายคล่อง และเป็นที่นิยมของเหล่าวัยรุ่น นักศึกษา รวมไปถึงคนทำงานออฟฟิศ ซึ่งผู้ขายรุ่นนี้กับทาง CARRO ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ใช้รถ 5 รุ่นดังกล่าวนี้ โอกาสที่จะขายง่าย ขายคล่อง ได้ราคาดี และขายออกได้ไว มีแน่นอนครับ ที่ CARRO Express!

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

สวัสดีครับ หากท่านตอนนี้กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้ประกอบการรถมือสอง (หรือจะเรียกว่าเต็นท์รถมือสอง หรือรถใช้แล้ว ก็ได้เหมือนกัน) แล้วมีความประสงค์ที่จะมาเป็นดีลเลอร์ใหม่ กับทาง คาร์โร (ประเทศไทย) ซึ่งทาง CARRO ก็พร้อมให้การต้อนรับท่านด้วยความยินดียิ่งครับ ไม่ว่าท่านจะมีสาขาอยู่ในกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัดก็ตาม

แต่คุณอาจจะสงสัยว่า ระบบการซื้อรถกับทาง CARRO นั้น มีขั้นตอนที่ยุ่งยากหรือไม่? วิธีการใช้งานนั้น จะต้องทำอย่างไร? ง่ายๆ เลย เพียงแค่คุณ “ดาวน์โหลด” คู่มือวิธีการใช้ App CARRO Wholesale สำหรับดีลเลอร์ใหม่ที่สนใจซื้อรถบ้านมือสอง

แต่ถ้าดาวน์โหลดมาแล้ว ยังไม่สะดวกอ่าน หรืออ่านแล้วยังไม่เข้าใจ Mr.Carro จะอธิบายให้ฟัง …

วิธีการสมัคร และประมูลรถกับ CARRO Wholesale

เริ่มแรก ในดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS หรือใน Google Play ก่อน

เมื่อเปิดตัว Application ขึ้นมาแล้ว ให้เข้าสู่ระบบ ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ จากนั้นระบบจะส่งหมายเลข OTP ไปให้ทาง SMS (กรณีไม่ได้รับรหัส สามารถกด “ฉันยังไม่ได้รับรหัส”)

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

เมื่อเข้าสู่หน้าหลักได้แล้ว ให้กด “สมัครเป็นดีลเลอร์” พร้อมกรอกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

เมื่อคุณทำขั้นตอนด้านบนเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้สถานะเป็นดีลเลอร์ ซึ่งมีสิทธิ์ในการเสนอราคารถได้ โดยสามารถเข้าไปเลือกรถคันที่คุณสนใจได้

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

โดยคุณอาจจะตรวจสอบความต้องการต่างๆ เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี ปีรถ เลขไมล์ ออพชั่นต่างๆ เบื้องต้นดูก่อนได้ และถ้าคุณเกิดอยากได้รถคันนี้ ก็สามารถกดปุ่ม “เสนอราคา” ได้เลย

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

สำหรับค่าดำเนินการตามราคาของรถต่อคัน สามารถดูได้ในตารางด้านล่างนี้ครับ

กรณีคุณสามารถประมูลรถได้ในราคาสูงสุด คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่าภาษีต่างๆ, ค่าจดทะเบียนรถใหม่ (กรณีรถคันนั้นแจ้งจอด หรือทะเบียนถูกระงับไว้) และเงินเพิ่มภาษีนิติบุคคล และค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนรถ หรือโอนรถให้ผู้อื่น

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

กด “ยืนยัน” เมื่อต้องการเสนอราคา และเมื่อหมดเวลา ระบบจะประกาศ ผู้เสนอราคาได้-ผู้เสนอราคาไม่ได้ กับคุณในรถคันที่คุณได้ประมูลไป

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

วิธีการใช้งาน CARRO Wholesale

ในหน้าหลัก จะมีการแนะนำรายละเอียดต่างๆ ว่ามีรถคันไหนเข้ามาใหม่บ้าง ซึ่งคุณสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดรถรุ่นต่างๆ ที่มีในคลังรถเวลานั้นได้

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

ระบบการเสนอราคา ถ้าเป็นระบบเปิด รถจะโชว์ราคาที่มีผู้เสนอสูงสุด แต่ถ้าเป็นระบบปิด จะได้แสดงราคาที่เสนอ

How-To-Use-Carro-Wholesale-Application

สำหรับระบบแจ้งเตือนนั้น จะขึ้นในกรณีของการยืนยันตัวตน, แสดงผลการประมูลแพ้-ชนะ หรือจะเป็นการติดตามการเสนอราคาแบบ Real-Time และประวัติรถที่คุณเคยเสนอราคาไปแล้ว เป็นต้น

หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carropartner —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Masii-Old-Car-Can-Do-First-Class-Insurance

ในปัจจุบัน การเลือกซื้อหรือใช้งานรถยนต์มือสอง ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุผลที่ว่ารถมือสองมักจะเสนอขายในราคาที่ถูกกว่า รวมไปถึงถ้าหากเราเลือกรถมือสองที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นสภาพรถทั้งในและนอก เราเองก็จะได้รถมือสองที่คุณภาพดีไม่แพ้รถมือหนึ่งเลย

หากมีรถยนต์เป็นของตัวเอง การเลือกทำประกันรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่เพื่อนๆ หลายคนควรทำ แต่สำหรับรถมือสอง เราควรจะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เลยดีมั้ยนะ หรือว่าควรเลือกตามความเหมาะสมกับตัวเองดี วันนี้ masii มาคำตอบมาฝากชาว Carro กันจ้า

Carro-Masii-Old-Car-Can-Do-First-Class-Insurance

เพื่อนๆ หลายคนมักจะมองว่าการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้กับรถมือสองเป็นสิ่งที่สิ้นเปลือง เพราะเนื่องจากมีการใช้งานมาสักระยะแล้ว หากเป็นรถมือหนึ่ง หรือรถป้ายแดง แบบนี้สิที่ควรจะทำ

แต่การทำประกันรถยนต์นั้นเรามีไว้เพื่อความอุ่นใจ ในกรณีที่เกิดความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุกับเพื่อนๆ แม้จะมีความมั่นใจว่าขับรถปลอดภัยอยู่แล้ว แต่อุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

ดังนั้น การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะช่วยให้เพื่อนๆ อุ่นใจได้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่าประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ อย่างแน่นอน

Carro-Masii-Old-Car-Can-Do-First-Class-Insurance

แต่เพื่อนๆ คนไหนที่ขับรถมือสอง เกิดอยากจะทำประกันชั้น 1 ควรจะเป็นรถยนต์ที่อายุไม่เกิน 10 ปีนะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน เพราะบางแห่งก็สามารถรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ได้อีกด้วยนะ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มองหาประกันรถยนต์ที่เบี้ยไม่แพงนัก ประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นเหมาะมากๆ สำหรับรถมือสอง เพราะให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 เลย หลักๆ คือ คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยอุบัติเหตุ

หากสนใจอยากทำประกันรถยนต์ เพื่อนๆ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์​ รวมไปถึงเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ได้อีกด้วยนะ หากมีคำถามสงสัย สามารถโทรเข้ามาได้ที่ 02-7103100 เรามีทีมงานคอยให้คำตอบอยู่จ้า

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Carro-Pantip-Workshop

Carro ร่วมกับ Pantip ได้จัดกิจกรรมดีๆ “เวิร์คช็อป ขายรถเรื่องง่าย รู้ก่อนใครไม่มี OUT” ณ Mestyle Garage Hotel Bangkok บอกเลยว่างานนี้ใครที่สนใจอยากซื้อ-ขายรถมือสอง ได้ตาลุกวาวแน่นอน ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00 – 16.00 น. นี้!

เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถมือสอง ได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด ดูรถจริง! ตีราคาจริง! พร้อมแลกเปลี่ยนเทคนิคการขายรถมือสอง จาก 2 กูรูเรื่องรถ Doctor Car และ Goody K

หากท่านสนใจ สามารถ “ลงทะเบียน” เข้าร่วมงานได้ที่นี่ครับ (สำหรับท่านใดที่ร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รับไปเลย บัตรเข้างาน “Motor Expo 2019” ฟรี! ท่านละ 1 ใบ!)

Carro-Pantip-Workshop

ที่สำคัญ! หากใครสนใจอยากขายรถในงาน สามารถถ่ายรูปรถมาปรึกษาเจ้าหน้าที่ ภายในเวิร์คช็อปได้อีกด้วย

งานนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. นะจ๊ะ สำหรับกำหนดการของงาน ก็มีประมาณนี้จ้า

เวลา กำหนดการ
13.00 – 13.30 น. ลงทะเบียน
13.30 – 13.40 น. เริ่มกิจกรรมบนเวที เชิญแขก (Doctor Car) พูดคุยในหัวข้อ
– อัพเดตข้อมูลธุรกิจ และเทรนด์ของรถมือสอง
– เหตุผลหลักๆ ของการอยากขายรถมือสอง
– How to การขายรถมือสองสำหรับมือใหม่
– จุดเด่น หรือจุดสำคัญของรถ ที่ต้องดูแลก่อนขายรถ
14.00 – 14.15 น. เชิญแขก (goody K) พูดคุยในหัวข้อ
– เทรนด์ขายรถวินเทจ หรือ รถสปอร์ต
– วัยรุ่นอยากเปลี่ยนรถบ่อย ต้องทำยังไงบ้าง
– รถติดไฟแนนซ์ขายได้ไหม และวิธีการแก้ไข
– คำถามที่คนขายรถ มักจะเจอก่อนขายรถ
14.30 น. ทำกิจกรรม Outdoor Activity ร่วมกันด้านล่างโรงแรม
15.15 – 15.30 น. ฝากให้สมาชิก Pantip ฝากขายรถผ่านเว็บไซต์ Carro พร้อมแจกรางวัล Lucky Draw กับถ่ายรูปร่วมกัน พร้อมปิดงาน

อย่าพลาดกันล่ะ! ที่ MeStyle Garage Hotel อยู่ในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 7 (ซอยไพศาล) ไม่ไกลจาก MRT ห้วยขวาง ถ้าใครมาไม่ถูก ดูแผนที่ด้านล่างได้เลย …

MeStyle-Garage-Hotel-Map

หากท่านใดสนใจอยากจะร่วมงาน “เวิร์คช็อป ขายรถเรื่องง่าย รู้ก่อนใครไม่มี OUT” กับเรา สามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่จ้า—> เพิ่มเพื่อน

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

อีกหนึ่งในปัญหาโลกแตก ของคนที่ “อยาก” ขายรถคันเดิม แล้วเปลี่ยนรถเป็นคันใหม่ …

“ผมมีงบอยู่ประมาณ 3 แสน จะซื้อรถรุ่น XXX ขนาด Compact Car หรือรถยี่ห้อ XXX รุ่น OOOOO ที่มีขนาด Mid-Size ดีครับ? กำลังลังเลอยู่เลย”

“พอดีดิฉันอยากจะเปลี่ยนรถใหม่ ก็เลยเล็งๆ รถรุ่น XXXX ที่เป็นแบบ Eco-Car อยู่ค่ะ แต่มาเห็นรถมือสอง XXX OOOOOO ขนาด Compact Car ดี?”

คำถามแนวๆ นี้ ผมเองตั้งแต่เล่นรถมา ก็ได้ยินมานานมากแล้วครับ ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน

ก่อนอื่น ต้องถามตัวคุณเองก่อนว่า มีความรู้ในเรื่องรถยนต์มากน้อยแค่ไหน?

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

ถ้าคุณอยากได้รถมือสองปีเก่าหน่อย แต่เป็นรถใหญ่ ถ้าเป็นรถญี่ปุ่น แนว Mid-Size Car (หรือ D-Segment) ก็มีให้เลือกอยู่หลายรุ่น เช่น Toyota Camry (ACV40) (โตโยต้า แคมรี่), Nissan Teana (J32) (นิสสัน เทียน่า) หรือจะเป็น Honda Accord (CU หรือ G8) (ฮอนด้า แอคคอร์ด) สมมติว่าเป็นรุ่นประมาณปี 2007 – 2012

ซึ่งในตอนนี้มีราคาขายอยู่ในตลาดรถมือสอง ประมาณ 2 แสนบาทกลางๆ จนไปถึงประมาณเกือบ 6 แสนบาท ในเวลานี้ (ปี 2564)

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

ข้อดี! ของการซื้อรถมือสองปีเก่า ได้รถใหญ่ คืออะไร?

– ออพชั่น แน่นอน! คุณได้ออพชั่นที่มากกว่ารถในรูปแบบ Eco-Car, Sub-Compact Car หรือ Compact Car อยู่แล้ว รวมไปถึงระบบความปลอดภัยด้วย ซึ่งถ้าใครจำเป็นต้องขับรถทางไกลไปต่างจังหวัดบ่อย การเลือกรถใหญ่ ค่อนข้างขับได้ดีและมั่นคงเลยทีเดียว แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันที่มากขึ้นไปด้วยเช่นกัน

แต่ความเสียเปรียบของรถเก่า หลักๆ ก็จะเป็น การบำรุงรักษาของรถเก่า (ที่อายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป) ก็ต้องเริ่มเอาใจใส่เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ของเหลวต่างๆ ระบบน้ำหล่อเย็น เป็นต้น

คือไม่ต้องมีความรู้มากมาย ชนิดพวกชอบอวดตัวเองเป็น กูรู กูรู้ ก็ได้ ขอแค่มีความรู้ในเบื้องต้น หมั่นรู้จักสังเกตดูว่า ตามซีล ข้อต่อต่างๆ มีหยดรั่วซึม หรือไม่? เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง หรือแอร์ มีเสียงแปลกๆ ไปจากที่เคยหรือเปล่า? เพราะการจะเล่นรถเก่า อุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ย่อมมีการเสื่อมสภาพไปตามการใช้งานอยู่แล้ว โดยบางยี่ห้อ อะไหล่ก็มีราคาไม่แพง แต่บางยี่ห้อ อะไหล่ก็อาจจะแพงหน่อย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ ก็ลองเข้าไปเป็นสมาชิกตามกลุ่มต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลจากผู้ใช้จริง ก่อนจะซื้อรถรุ่นนั้นๆ ก็ได้

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

แล้ว ข้อดี! ของการซื้อรถมือสองปีใหม่ ได้รถเล็ก คืออะไร?

สมมติว่า คุณอาจจะเลือกรถมือสอง ที่มีอายุการใช้งานเพียงแค่ 3-4 ปี แต่เป็นแบบรถเล็ก ซึ่งในตลาดตอนนี้ ก็มีให้เลือกอยู่มากมายหลายรุ่น

นับตั้งแต่ในแบบของ Eco-Car ที่เป็นรถมือสองอายุปีไม่มาก (ประมาณ 3-6 ปี)

โดยเลือกรถประมาณปี 2013 – 2017 ราคากลางอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทปลายๆ ไปจนถึง 4 แสนบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ ปี สภาพของตัวรถ ระยะทางวิ่ง

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

ไปจนถึงในแบบ Sub-Compact Car (หรือ B-Segment) เช่น

หรือจะเป็น …

โดยเลือกรถประมาณปี 2011 – 2016 ราคากลางอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทปลายๆ ไปจนถึง 4 แสนกว่าบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ ปี สภาพของตัวรถ ระยะทางวิ่ง เช่นกัน!

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

สำหรับข้อดีของรถมือสองปีใหม่ นั่นคือ บางรุ่น ตอนนี้ก็ยังมีผลิตในรูปแบบของรถป้ายแดงอยู่! อีกทั้งยังเป็นตัวรถขนาดเล็ก ซึ่งประหยัดน้ำมันตามสไตล์ Eco-Car และ Sub-Compact Car เป็นอย่างดี รวมไปถึงออพชั่น (โดยเฉพาะรุ่น Top) ของรถเล็กเดี๋ยวนี้ ก็ดูไม่ต่างจากรถใหญ่เมื่อ 10 กว่าปีก่อนแล้ว

และยังได้เรื่องประหยัดน้ำมันอีกด้วย ถ้าจำเป็นต้องใช้รถในเมืองใหญ่ๆ มากกว่าวิ่งออกต่างจังหวัด ถ้าจะเอาไปติดแก๊ส LPG ก็ยิ่งคุ้มเข้าไปอีก แต่ก็ต้องหมั่นดูแลรักษารถยนต์มากกว่าปกติเช่นกัน

เรียกได้ว่า อาจจะจ่ายเงินซื้อรถมือสองแพงหน่อย แต่ได้ในเรื่องของปีใหม่กว่า สภาพตัวรถดีกว่า ตัดปัญหาเรื่องซ่อมใหญ่ซ่อมเยอะไปได้ … แต่บางยี่ห้อ ก็ต้องไปลุ้นกันเอาเอง เพราะเรื่องแบบนี้ไม่เสมอไปทุกยี่ห้อครับ

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

ยิ่งรถมือหนึ่ง ในยุคนี้ หลายคนอาจคิดว่าซื้อรถป้ายแเดงละ สบายเลย อย่างน้อยก็ไม่ต้องซ่อมอะไรกับรถไปได้หลายปี ผ่อนกับเติมน้ำมันอย่างเดียวพอ … ที่ไหนได้! รถดันมีปัญหาขึ้นมา จอดกินข้าวลิงข้างทาง เสียขึ้นรถยกกันเป็นว่าเล่น

ถ้าโชคดี ยังอยู่ในประกันก็ได้เคลมฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี ขึ้นรถยกฟรี แต่ถ้าหมดระยะประกันแล้ว ก็หาเงินจ่ายเอง

ผมจะบอกให้ว่า “รถ” ก็คือ “ลด” ยิ่งรถเก่าเท่าไหร่ มูลค่าความเสื่อมสภาพก็จะยิ่งมาก และเมื่อจุดที่ราคารถรุ่นนั้นๆ ตกลงมาจนถึงขีดสุดแล้ว มันก็อยู่คงตัว ไม่ขึ้นไม่ลง ไปมากกว่านี้แล้วล่ะครับ

ซึ่งถ้าหากคุณซื้อรถมือสองมาใช้สัก 1-2 ปี แล้วเกิดอยากเปลี่ยนคันใหม่ มูลค่าอาจลดลงเพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าที่คุณซื้อมาด้วย นี่ก็ถือว่าเป็นข้อดีของรถมือสองด้วยครับล่ะ เพราะถ้าคุณไปเล่นป้ายแดง ก็อาจจะขาดทุนหลักแสน!

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

สุดท้ายนี้ การเลือกรถมือสอง “ความละเอียด” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการเลือกรถมือสอง ต้องเลือกที่สภาพดีพร้อมใช้งาน ไม่เคยชนหนัก หรือจมน้ำมา เป็นต้น ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งต้องไม่ถูกจนเกินไป (ถูกมากๆ ต้องเอาไปเก็บงานเยอะแน่ๆ หรือมีอะไรเสียหนักอยู่) หรือแพงจนเกินไป (สงสัยหมดเงินแต่ง ปั้น ไปเยอะ คงบวกค่าของแต่งเข้าไปด้วย)

และซื้อขายกันอย่างถูกต้อง มีสัญญาซื้อขาย ทะเบียนรถโอนได้อย่างถูกกฏหมาย แค่นี้ก็สบายใจแล้วล่ะครับ

Buy-Secondhand-Car-Oldyear-Or-Newyear

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

Carro-Rebrand-To-2020

Carro (คาร์โร) สตาร์ทอัพรายใหญ่จากสิงคโปร์ หนึ่งในเว็บไซต์เจ้าตลาดรถมือสองออนไลน์ในปัจจุบัน ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ซื้อ-ขายรถบ้านอย่างสูง ได้เริ่มต้นปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ ในสไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อต้อนรับปีใหม่ในปี 2020 และผลักดันให้บริษัทเป็นองค์กรยุคใหม่ เพื่อคนอยากขายรถยนต์โดยเฉพาะ

Carro-Rebrand-To-2020

“ทางบริษัทฯ ต้องการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ต้อนรับปี 2020 เพื่อเพิ่มความรู้สึกถึงความเอาใจใส่ ความเป็นมิตร ที่เรามีให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ตลอดจนถึงการบริการรับซื้อรถยนต์ในสาขาต่างๆ ของทาง Carro ที่มีอยู่ด้วยกันทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของเราได้สะดวกมากยิ่งขึ้น” มานิต โกการ์ Country Manager บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

Carro-Rebrand-To-2020

สำหรับ Carro ยังคงมาพร้อม Concept คิดขายรถ จบไว ได้เงินชัวร์ “คาร์โร” ด้วยการเป็นสื่อกลางให้กับผู้ซื้อ-ขายรถ ซึ่งจะช่วยให้การขายรถของคุณนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป “Carro Express” กับการดำเนินงานที่คุณมั่นใจได้กับการซื้อ-ขาย อีกทั้งยังเปิดให้บริการฟรี โดยคนที่นำรถมาขาย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ! ทั้งสิ้น

Carro-Rebrand-To-2020

โดยคาร์โร จะเป็นตัวแทนนำรถมือสองที่ลูกค้าอยากขาย เข้าระบบให้ดีลเลอร์แต่ละเจ้า เสนอราคาประมูลรถคันนั้นผ่านแอพพลิเคชั่น หากดีลเลอร์ใดเสนอราคาให้สูงที่สุด ก็จะได้รับรถคันนั้นไป และลูกค้าก็จะได้รับเงินสดทันทีหลังปิดการขาย ภายใน 24 ชั่วโมง (เมื่อดำเนินการเรื่องเอกสาร และตกลงการขายเรียบร้อย) ซึ่งในปัจจุบัน เรามีดีลเลอร์ผู้ประกอบการรถมือสอง ที่รองรับการซื้อรถยนต์มากกว่า 1,000 แห่ง

Carro-Rebrand-To-2020

“และในตอนนี้ ทาง Carro ประเทศไทย เรายังพร้อมที่จะขยายสาขาไปในแต่ละจังหวัดตามภูมิภาคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ต้องการขายรถยนต์มือสองมากขึ้น โดยทีมงานคนรุ่นใหม่ ที่มีความสนใจในธุรกิจขายรถยนต์มือสองมากขึ้น” มานิต โกการ์ Country Manager บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริม

จึงทำให้ลูกค้าที่ต้องการขายรถ มั่นใจได้ว่า รถของคุณ จะสามารถขายได้ในราคาที่ดีที่สุด และเร็วที่สุด

Carro-Rebrand-To-2020

คาร์โร (https://th.carro.co) เริ่มต้นจากธุรกิจสตาร์ทอัพในสิงคโปร์ เมื่อปี 2559 และมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีสาขาทั้งใน สิงคโปร์ ประเทศไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ขายรถบ้านเป็นอย่างสูง และในปี 2561 ที่ผ่านมา Carro สามารถทำธุรกรรมรถยนต์ ได้ทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ล่าสุด คาร์โร ยังเพิ่มขีดความสามารถในการขยายการให้บริการธุรกิจรถมือสอง ให้ครอบคลุมทั้งใน ASEAN ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Jualo.com ในประเทศอินโดนีเซีย รวมไปถึงใน MyTukar บริษัท Startup ด้านรถมือสองจากประเทศมาเลเซีย ด้วยเงินลงทุนมากถึง 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (หรือประมาณ 125.4 ล้านริงกิตมาเลเซีย)

อีกทั้งยังได้ระดมทุนระดมทุนเพิ่มอีก 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก SoftBank Ventures Asia และ EDB Investments (EDBI) โดยความร่วมมือของ Dietrich Foundation และ NCORE Ventures รวมไปจนถึงนักลงทุนที่มีอยู่ก่อนแล้ว ประกอบไปด้วย In- signia Ventures, B Capital Group, Singtel Innov8 และ Alpha JWC ในปี 2562

Honda-Jazz-2020-Debut-In-Japan

สำหรับ Honda Fit (ฮอนด้า ฟิต) รถ Sub-Compact ท้ายตัดยอดนิยมมากที่สุดของ Honda นับตั้งแต่เปิดตัวไปในปี 2001 จนเป็นที่รู้จักกันไปในทั่วในโลก ทั้งในชื่อ Honda Fit และ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) ซึ่งทำให้หลายๆ คน อยากตัดสินใจขายรถ Honda Jazz คันเดิม เพื่อจะไปซื้อรถ Honda Jazz รุ่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในไทยปีหน้านี้

(ซึ่งในตอนนี้ก็ยังมีข่าวคราวว่า Honda Jazz โฉมนี้ อาจจะไม่มาขายในบ้านเรา เพราะทาง Honda จะผลิต Honda City ในรูปแบบของรถ Hatchback 5 ประตู ออกมาขายแทนซะงั้น ซึ่งก็ต้องรอคอยติดตามดูต่อไปว่า จะเป็นจริงหรือไม่อย่างไร)

สำหรับประวัติและรายละเอียดของ Honda Jazz โฉมที่ผ่านๆ มา นั้น มีอะไรบ้าง สามารถดูได้ใน Link นี้ :

สำหรับ Honda Fit ใหม่ มีรูปแบบที่ให้เลือกด้วยกันถึง 5 สไตล์ ได้แก่ …

Honda-Jazz-Fit-Basic

Fit Basic เป็นรุ่นเริ่มต้น ที่มีอุปกรณ์มาตรฐานทั่วไปให้เป็นพื้นฐาน

Honda-Jazz-Fit-Home

Fit Home เน้นการตกแต่งภายในให้ดูอบอุ่น ด้วยเบาะผ้า พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ และแผงประตูตกแต่งด้วยวัสดุ Prime Smooth แบบรถครอบครัว พร้อมล้อแม็กสุดเท่

Honda-Jazz-Fit-Ness

Fit Ness เน้นสีสันของตัวรถทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมห้องโดยสาร เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุกันน้ำ และแผงประตูที่ให้ความอ่อนนุ่ม เจาะกลุ่มวัยรุ่น หรือคนชอบออกกำลังกาย

Honda-Jazz-Fit-Crosstar

Fit Crosstar ตกแต่งตัวรถในสไตล์ลุยๆ หน่อย มีแร็คหลังคา พร้อมชุดซุ้มล้อสีดำรอบคัน เบาะนั่งภายในรถแบบกันน้ำได้

Honda-Jazz-Fit-Luxe

Fit Luxe ภายนอกตกแต่งด้วยโครเมียม ดูคล้ายแพลทินัม และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ส่วนภายในเน้นความหรูหรา มาพร้อมกับเบาะหนังแท้

ด้วยรูปโฉมภายนอกที่ดูน่ารักสะดุดตา มากกว่าโฉมที่ผ่านมาที่หนักไปในทางสปอร์ต ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ถูกใจนัก เพราะตัวรถดูกลมๆ ป่องๆ แต่ขอบอกว่า คนญี่ปุ่น นิยมรถในแนวๆ นี้มากพอสมควรครับ โดยตัวรถยังคงติดตั้งถังน้ำมันบริเวณใต้เบาะคู่หน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถ Honda รุ่นนี้ไปแล้ว

Honda-Jazz-Fit-Interior

ห้องโดยสารภายใน ออกแบบให้แลดูเรียบง่ายขึ้น เน้นการใช้งานที่ง่่ยขึ้น และติดตั้งระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT เป็นครั้งแรก ซึ่งมีฟังก์ชั่นช่วยโทรศัพท์ฉุกเฉินในกรณีประสบอุบัติเหตุ อีกด้วย

Honda-Jazz-Fit-Interior

แม้ว่าในส่วนของการเปิดตัว Honda Fit ในครั้งนี้ Honda แนะนำแค่เครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV ที่มาพร้อมระบบมอเตอร์ไฮบริด 2 ตัว แต่ในส่วนของเครื่องยนต์แบบธรรมดานั้น มีแน่นอนครับ เพราะนอกจากในตลาดญี่ปุ่นและตลาดยุโรปแล้ว เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน ยังคงจำเป็นต้องมีไว้เพื่อจำหน่ายอยู่

สำหรับ Honda Fit ใหม่นี้ เตรียมวางจำหน่ายในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 นี้

Honda-Jazz-Fit-Interior

แต่ในตอนนี้ ก็ยังมีกระแสข่าวคราวว่า Honda Fit (หรือ Jazz โฉมนี้) อาจจะไม่มาขายในบ้านเรา! เพราะทาง Honda จะผลิต Honda City ในรูปแบบของรถ Hatchback 5 ประตู ออกมาขายแทน ซึ่งก็ต้องรอคอยติดตามดูต่อไปว่า จะเป็นจริงหรือไม่อย่างไรครับ ในปีหน้านี้

Honda-Jazz-Fit-Interior

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

หลายปีมาแล้ว กับกระแสในโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีทั้งตามกลุ่ม Facebook ต่างๆ หรือบรรดาเพจอวย เพจแซะ หรือเพจรวมปัญหาของรถต่างๆ ที่ออกมาพูดถึงรถยนต์หลายยี่ห้อ ที่มีปัญหากันไม่รู้จักจบสิ้น จนไปถึงการรวมตัวของผู้ใช้รถ ไปประท้วงกันถึงหน้าสำนักงานของผู้ผลิตกันเลยทีเดียว

ซึ่งหลายต่อหลายคน อุตส่าห์ขายรถคันเดิม หรือเก็บเงินซื้อรถป้ายแดง เพื่อหวังจะได้ขับรถใหม่ ไม่ต้องซ่อมอะไรมากมาย เป็นความภาคภูมิใจที่กว่าจะเก็บเงินซื้อมาได้ แต่กลับกลายเป็นว่า รถมือหนึ่งแท้ๆ กลับมีปัญหาความบกพร่องของตัวรถมาก จนแทบอยากจะขายรถกันอีกรอบ

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “MG” (เอ็มจี) รถน้องใหม่มาแรงเชื้อชาติอังกฤษ สัญชาติจีน (ภายใต้การกุมบังเหียนของ SAIC-CP ในขณะนี้) ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ขวัญใจรถยก” ซึ่งแลดูขัดกับความขายดีของ MG ZS ในขณะนี้ ที่ราคาตัวรถ ความสวยงามของตัวรถ กับออพชั่นของรถ ที่คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ

แต่ทำไมผู้บริโภคถึงว่างั้น? เราไปดูกัน …

โดยปกติแล้ว ปัญหาใหญ่ๆ ของรถป้ายแดง ส่วนมากจะมากับเหตุผลของคุณภาพ หรือหลุด QC ซึ่งมีเป็นกันแทบทุกค่าย เป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับว่าการรับมือของแต่ละค่าย จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะขอแบ่งออกเป็น 3 ข้อหลักๆ ครับ

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ขอขอบคุณภาพจากคุณ Hanny Man

ปัญหาตัวรถ และการขับขี่

เนื่องจากเป็นแบรนด์น้องใหม่ เพิ่งทำตลาดจริงๆ จังๆ ในบ้านเราได้ไม่กี่ปี การรับมือในด้านคุณภาพการผลิต อะไหล่ บริการหลังการขาย แม้ว่าจะทำอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม แต่ก็ยังพบกับความบกพร่องของตัวรถ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความไม่สบายใจ

หลายปัญหาที่ “ผู้บริโภค” หลายคนมักพูดถึง รู้สึกกังวล หรือกลัว ในหลากหลายอาการ เช่นในตัว MG ZS อาทิ

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ขอขอบคุณภาพจากคุณ Yui Kio

  • มีฝ้า หรือหยดน้ำในไฟหน้า หลังจากขับรถฝ่าฝนตก

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ เพื่อใส่ซองกันชื้นในโคมไฟ แต่ถ้าแก้ไขด้วยวิธีการใส่ซองกันชื้นแล้วยังไม่ได้ผล ทางศูนย์บริการ จะทำการเคลมไฟหน้าใหม่ให้ และใส่ซองกันชื้นเพิ่มเติมให้เช่นกัน

วิธีการเคลม : ถ่าย Clip VDO ตอนขึ้นฝ้า และถ่ายให้เห็นป้ายทะเบียน พร้อมภาพถ่ายนิ่งไฟหน้าที่ขึ้นฝ้า แล้วนำเข้าศูนย์ เพื่อให้ศูนย์แก้ไข

  • เหยียบเบรกแล้วรอบเครื่องยนต์พุ่งเอง ขณะเข้าเกียร์ D และจังหวะชลอรถ

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการเพื่อปิด ระบบ Idle Boost หรือการทำงานของระบบชดเชยรอบเครื่องยนต์ เมื่อรอบเครื่องเดินเบา

  • อาการอืด ในช่วงความเร็ว 50-70 กม./ชม.

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ เพื่อทำการ Update แก้ไข ECM (Engine Control Module) หรือ กล่อง ECU นั่นเอง ทั้งนี้หลังจากการแก้ไขเสร็จสิ้น ปัญหาในการออกตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  • ไฟเตือนเบรคมือ, รถลื่นไถล, พวงมาลัยมีน้ำหนักมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

การแก้ไขปัญหา : ปัญหานี้เกิดจาก Ground (กราวด์) หลวม (Ground คือ สายไฟที่เชื่อมต่อระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ทั้งหมด)

เข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ไขให้ Ground ขันให้แน่น ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า มีผู้ใช้บางรายเกิดปัญหาขึ้นอีก หลังจากการแก้ไขปัญหาในครั้งแรกได้เช่นกัน

  • ขึ้นสัญลักษณ์เบรคมือ, และรถลื่นไถล และมีอาการขณะเข้าเกียร์แล้ว รถเดินสะดุดร่วมด้วย

การแก้ไขปัญหา : ปัญหานี้เกิดระบบไฟฟ้าในรถลัดวงจร (ถอดปลั๊กอุปกรณ์ภายในรถที่มีไฟเลี้ยงอยู่อย่างกระทันหัน) แล้วกระทบกระเทือนไปถึงกล่อง ECU จึงเกิดการอ่านค่าบางอย่างผิดเพื้ยนไป ทำให้กล่อง ECU เกิด Code Error ต้องเข้าศูนย์บริการเพื่อลบ Code ที่มีปัญหาดังกล่าว (ข้อมูลจากผู้ใช้บางรายแจ้งว่า ECU หาระบบ ABS ไม่เจอ)

  • พวงมาลัยมีเสียงเกิดขึ้นขณะเลี้ยว

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ แจ้งเครมแกนพวงมาลัย จากข้อมูลผู้ใช้ล่าสุด หลังจากผู้ใช้บางรายเข้าไปเปลี่ยนแกนพวงมาลัยมาแล้วนั้นพบว่าปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นอีก ปัญหาจึงไปตกอยู่ที่ Supplier อะไหล่ของชิ้นนี้อาจมีปัญหา

ดังนั้น อาจจะต้องทำเดินเรื่องเครมอะไหล่ชิ้นนี้หลายครั้ง จนกว่าทางบริษัท MG Thailand จะดำเนินการแก้ปัญหาการผลิตอะไหล่ชิ้นนี้ ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ขอขอบคุณภาพจากคุณ Boonyaratdit Boonyarat

  • เมื่อหักพวงมาลัยโดยรถไม่เคลื่อนที่ มีเสียงดัง

สาเหตุปัญหาจากผู้ใช้งานจริง

ตอนออกจากปากซอย จะมีเนินเล็กๆ ระบบจะทำการล็อคล้อให้เพื่อให้รถไหล แต่ก็มีหักพวงมาลัยรอไว้แล้ว พอได้จังหวะก็เร่งเครื่องยนต์เพื่อออกรถ ระบบมันก็จะคลายล็อค หลังจากนั้นมาก็เจอปัญหาว่า พอหักพวงมาลัยโดยไม่เคลื่อนรถ จะมีเสียงดังกึก ดังมาก

การแก้ไขปัญหา : นำรถเข้าศูนย์บริการ ช่างทำการอัดจารบีให้ในจุดที่มีปัญหา (เครดิต @ลูกเจี๊ยบน้อย)

  • ปิดประตูรถยาก หรือใช้แรงมากกว่าปรกติ

สาเหตุ และการแก้ไขปัญหา : จากข้อมูลพบว่ารถที่ผลิตในบางล็อต อาจมีการเสื่อมสภาพของลูกยางตามขอบประตู ก่อนระยะเวลาที่ควรจะเป็น หรือเป็นปัญหาของคุณภาพยางที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือผิดสเป็คไป แก้ไขได้ด้วยการนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนใหม่

  • คอมเพรสเซอร์แอร์เสีย, ตัดการทำงาน, แอร์ไม่เย็น

การแก้ไขปัญหา : เข้าศูนย์บริการ เพื่อใส่ชิ้นส่วนที่เรียกว่า ไดโอด เพื่อทำหน้าที่เรียงกระแสไฟ และกันไฟย้อน กระชาก ทำให้ยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์แอร์

สำหรับปัญหาของรถ MG ดังกล่าวนี้ หากรถคุณมีปัญหา สามารถนำรถเข้าแก้ไขที่ศูนย์บริการได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ (แต่อาจจะเสียเวลาหน่อย) เพราะเป็นปัญหาที่เกิดจากการผลิตรถยนต์ หรือชิ้นส่วนของ Supplier ที่ส่งให้กับทาง MG อีกที

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ปัญหาอะไหล่

หลายต่อหลายเคส ที่ผู้ใช้ MG ขับไปประสบอุบัติเหตุมา จะชนอะไรก็แล้วแต่ หรือการรอเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นส่วนที่บกพร่อง เมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการแล้ว กลับต้องใช้เวลารอนานกว่ารถตลาดทั่วไป นานกันไปจนถึงตั้งแต่ 1-3 เดือนเลยก็มี จนลูกค้าบางท่าน โทรไปจี้ทุกฝ่าย สอบถามตั้งแต่เซลล์ บริษัทประกัน และอู่ซ่อมรถ ก็ยังต้องรอ …

ซึ่งอะไหล่หลายอย่างที่ไม่มีผลิตในไทย อาจจะต้องรอนำเข้าจากต่างประเทศ การรออะไหล่นานหลายสัปดาห์ในปัจจุบันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ “ผู้บริโภค” ไม่ประทับใจนัก หรืออาจจะเป็นความผิดพลาดทางการประสานงาน เช่น บริษัทประกันภัยอนุมัติช้า กว่าอู่จะทำเรื่องมาที่ศูนย์ ศูนย์เบิกของล่าช้า ช้าไปช้ามา เลยต้องรอหลายเดือน

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ปัญหาศูนย์บริการ

ปัญหาการซ่อมของศูนย์บริการ ซ่อมไม่จบ มีบ้างครับ เหมือนช่างไม่เก่ง หาสาเหตุไม่เจอ

ก่อนหน้านั้น MG จะมีปัญหาเรื่องศูนย์บริการที่น้อย แต่รถมีปัญหาหลายคันมาก ทำให้รถรับบริการเป็นจำนวนมากและต้องรอคิดยาว แต่ปัจจุบัน ศูนย์บริการ MG มีมากขึ้นในหลายๆ พื้นที่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาจจะแก้ปัญหาเรื่องศูนย์บริการน้อยลงไปได้บ้าง

ซึ่งศูนย์บริการที่ลูกค้าชม มีอยู่หลายที่ที่ให้บริการดี แต่ศูนย์บริการหลายที่ก็มีปัญหา มีลูกค้าด่ากันอยู่บ่อยๆ ถ้าอยากรู้ว่าศูนย์ไหน ก็คงต้องเข้ากลุ่ม Facebook ไปติดตามกันดู

สำหรับปัญหาต่างๆ ที่รวบรวมมาในครั้งนี้ มิได้เป็นการโจมตีรถแต่อย่างใด แต่เป็นเสียงของ “ผู้บริโภค” ที่ให้ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในการใช้รถ MG ทั้งนี้ ก็เป็นการรวบรวมปัญหา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถแก้ปัญหาได้เองไปก่อนเฉพาะหน้า ไม่ต้องเป็น “ขวัญใจรถยก” กันเสมอไป

ก็ได้แต่หวังว่า ทาง MG Thailand ก็คงจะมีมาตรการในการรับมือ และแก้ปัญหา กันต่อไป ให้สมกับการรับประกันคุณภาพ 4 ปี/120,000 กม. ครับผม!

MG-With-Consumer-And-Towed-Car

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มา: